ต่อไปนี้เป็นอุทาหรณ์ในการคำนวณจันทรุปราคาและสุริยุปราคาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ผู้เรียนควรใช้ตำราเป็นสองเล่มเป็นที่ศึกษา คือให้อ่านตำราไปเล่ม ๑ ดูวิธีทำคำนวณไปเล่ม ๑ ดูไปตามลำดับหัวข้อจะสะดวกมาก เมื่อเข้าใจแล้วก็ลองทำคำนวณสอบดูกับตำรานี้ก่อน เมื่อเห็นว่าถูกต้องดีแล้ว จึงเอาวันที่มีจันทรุปราคาและสุริยุปราคา ตามที่โหรบันทึกไว้ หรือในปฏิทินที่มีกำหนดวัน มีจันทรุปราคาสุริยุปราคาที่ล่วงแล้ว มาทำการสอบดูก็ได้ เมื่อได้ผลใกล้เคียงถูกต้องกันแล้ว ก็ให้ทำคำนวณดูในกาลเบื้องหน้าต่อไป คือให้ตรวจดู ราศี องศา ลิบดา ของพระเคราะห์ทั้งสามนั้น อันมีแจ้งอยู่ในปฏิทินโหร ตามวิธีการที่กล่าวมาแล้วในเบื้องต้นนั้นเทอญ
--------------------
ตัวอย่างคำนวณจันทรุปราคา
วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๘
ตรงกับวันศุกร์ เดือนสี่ แรมหนึ่งค่ำ ปีมะแมสัปตศก จุลศักราช ๑๒๕๗ สุทินนับแต่วันที่ ๑๕ เมษายน จนถึงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ได้ ๓๒๐
สมผุสอาทิตย์ดังนี้ :-
วันที่ ๒๖ (ขึ้น ๑๔ ค่ำ) ราศี ๑๐ องศา ๑๕ ลิบดา ๒๔
วันที่ ๒๗ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ) ราศี ๑๐ องศา ๑๖ ลิบดา ๒๗
วันที่ ๒๘ (แรม ๑ ค่ำ) ราศี ๑๐ องศา ๑๗ ลิบดา ๒๖
สมผุสจันทร์ดังนี้ :-
วันที่ ๒๖ (วันพุธ) ราศี ๓ องศา ๑๘ ลิบดา ๔๙
วันที่ ๒๗ (วันพฤหัส) ราศี ๔ องศา ๒ ลิบดา ๔๖
วันที่ ๒๘ (วันศุกร์) ราศี ๔ องศา ๑๖ ลิบดา ๕๐
สมผุสราหู ดังนี้ :-
วันที่ ๒๘ ราศี ๑๐ องศา ๑๐ ลิบดา ๓๘
วันที่ ๒๖ ฤกษ์จันทร์ ๘ นาฑีฤกษ์ ๙ ดิถี ๑๒ นาฑีดิถี ๔๗
วันที่ ๒๗ ฤกษ์จันทร์ ๙ นาฑีฤกษ์ ๑๒ ดิถี ๑๓ นาฑีดิถี ๕๑
วันที่ ๒๘ ฤกษ์จันทร์ ๑๐ นาฑีฤกษ์ ๑๖ ดิถี ๑๔ นาฑีดิถี ๕๗
มีดวงพระเคราะห์ดังนี้
รูปภาพ
พรคุณอัตตา ๔๕๙๑๓๑
สุทิน ๓๒๐
วันที่ ๒๖ เพียร ราศี ๕ องศา ๓ ลิบดา ๒๕
วันที่ ๒๗ เพียร ราศี ๕ องศา ๑๖ ลิบดา ๒๐
วันที่ ๒๘ เพียร ราศี ๕ องศา ๒๙ ลิบดา ๒๔
+ เพียร วันที่ ๒๘ บอกว่าจะมีจันทรุปราคา
+ ดิถี วันที่ ๒๘ บอกว่าจะมีจันทรุปราคา
ตรวจดูนวางศ์ วันที่ ๒๘ มีดังนี้ :-
(วิธีคำนวณเพื่อสะดวกแก่สมัยปัจจุบันจะใช้ตัวเลขโรมัน)
อาทิตยฺ ๑๗ คูณ ๖๐ = ๑๐๒๐ + ๒๖ = ๑๐๔๖
๑๐๔๖ หาร ๒๐๐ = ๕ เศษ ๔๖ เพิ่มผลลัพธ์เป็น ๖
จันทร์ ๑๖ คูณ ๖๐ = ๙๖๐ + ๕๐ = ๑๐๑๐
๑๐๑๐ หาร ๒๐๐ = ๕ เศษ ๑๑ เพิ่มผลลัพธ์เป็น ๖
ราหู ๑๐ คูณ ๖๐ = ๖๐๐ + ๓๘ = ๖๓๘
๖๓๘ หาร ๒๐๐ = ๓ เศษ ๓๘ เพิ่มผลลัพธ์เป็น ๔
จันทร์เล็งอาทิตย์อยู่นวางค์ ๖ ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ราหูร่วมอาทิตย์นวางศ์ ๔ ใกล้กัน
เมื่อตรวจดูเห็นว่าจะมีจันทรุปราคาแน่แล้ว ให้ทำคำนวณจันทรุปราคา ตามตำราสารัมภ์ดังตัวอย่างต่อไปนี้
------------------
คำนวณอุณทินตามมหาศักราช
(ก) จุลศักราช ๑๒๕๗ + ๕๖๐ = ๑๘๑๗ เป็นมหาศักราช
๑๘๑๗ – ๑๐๖๕ = ๗๕๒ เป็นทรุพ
๗๕๒ คูณ ๓๖๕ = ๒๗๔๔๘๐ เป็นวัน
๗๕๒ คูณ ๑๕ = ๑๑๒๘๐ เป็นมหานาฑี
๗๕๒ คูณ ๓๑ = ๒๓๓๑๒ เป็นเพ็ชนาฑี
๗๕๒ คูณ ๓๐ = ๒๒๕๖๐ เป็นพลอักษร
๒๗๔๔๘๐ + ๑๙๔ = ๒๗๔๖๗๔
๑๑๒๘๐ + ๓๗๑ = ๑๑๖๕๑ หาร ๖๐ = ๑๙๔ เศษ ๑๑
๒๓๓๑๒ + ๓๗๖ = ๒๓๖๘๘ หาร ๖๐ = ๓๗๑ เศษ ๒๘
๒๒๕๖๐ หาร ๖๐ = ๓๗๖
๒๗๔๖๗๔ + ๑๕๗ = ๒๗๔๘๓๑
๒๗๔๘๓๑ + ๓๐๕ คตมาส = ๒๗๕๑๓๖
๒๗๕๑๓๖ + ๑๗ องศา = ๒๗๕๑๕๓
เพราะฉะนั้น ๒๗๕๑๕๓ เป็นอุณทิน
-------------------------------
(๑) หรคุณอัตตา สุทิน เป็นอุณทิน
๔๕๙๑๓๑ + ๓๒๐ – ๑๘๔๒๙๘ = ๒๗๕๑๕๓
(๒) อุณทิน
๒๗๕๑๕๓ – ๑ คูณ ๕๙๑๓๖๑๗๑๖ = ๑๖๒๗๑๔๓๕๘+๘๘๐๘๓๒
เพราะฉะนั้น ๑๖๒๗๑๔๓๖ เป็นพลอาทิตย์ (อัฑฒาธิกรรม)
(๓) อุณทิน
๒๗๕๑๕๓ – ๑ คูณ ๗๙๐๕๘๑๐๐๓๒ = ๒๑๗๕๒๙๙๔๔๑+๙๒๔๘๖๔
เพราะฉะนั้น ๒๑๗๕๒๙๙๔๔ เป็นพลจันทร์
(๔) อุณทิน
๒๗๕๑๕๓ – ๑ คูณ ๖๖๘๑๘๖๗๐ = ๑๘๓๘๕๒๙๐+๖๘๗๘๔๐
เพราะฉะนั้น ๑๘๓๘๕๒๙ เป็นพลอุจจ์
(๕) อุณทิน
๒๗๕๑๕๓ – ๑ คูณ ๓๑๘๐๐๓๗๓ = ๘๗๔๙๙๓๖+๒๓๑๖๙๖
เพราะฉะนั้น ๘๗๔๙๙๔ เป็นพลราหู (อัฑฒาธิกรรม)
ทำมัธยม
(๖) พลอาทิตย์
๑๖๒๗๑๔๓๖ + ๑๒๒๖๘ หาร ๒๑๖๐๐ = ๗๕๓ เศษ ๑๘๙๐๔
เพราะฉะนั้น ๑๘๙๐๔ เป็นมัธยมอาทิตย์ปฐม
(๗) มัธยมอาทิตย์ปฐม
๑๘๙๐๔ + ๕๙ = ๑๘๙๖๓ เป็นมัธยมอาทิตย์ทุติย
(๘) พลจันทร์
๒๑๗๕๒๙๙๔๔ + ๑๑๓๓๙ หาร ๒๑๖๐๐ = ๑๐๐๗๑ เศษ ๗๖๘๓
เพราะฉะนั้น เศษ ๗๖๘๓ เป็นมัธยมจันทร์ปฐม
(๙) มัธยมจันทร์ปฐม
๗๖๘๓ + ๗๙๐ = ๘๔๗๓ เป็นมัธยมจันทร์ทุติย
(๑๐) พลอุจจ์
๑๘๓๘๕๒๙ + ๑๗๖๔๑ หาร ๒๑๖๐๐ = ๘๕ เศษ ๒๐๑๗๐
เพราะฉะนั้น เศษ ๒๐๑๗๐ + ๗ = ๒๐๑๗๗ เป็นมัธยมอุจจ์ทุติย
(๑๑) มัธยมอุจจ์ปฐม
๒๐๑๗๐ + ๗ = ๒๐๑๗๗
(๑๒) พลราหู
๘๗๔๙๙๔ – ๘๐๑๔ หาร ๒๑๖๐๐ = ๓๐ เศษ ๒๙๘๐
เพราะฉะนั้น ๒๙๘๐ เป็นมัธยมราหูปฐม
(๑๓) มัธยมราหูปฐม
๒๙๘๐ + ๓ = ๒๙๘๓
ทำสมผุส
(๑๔) มัธยมอาทิตย์ปฐม
๑๘๙๐๔ – ๔๖๘๐ หาร ๕๔๐๐ = ๒ โกลัง เศษ ๓๔๒๔
เพราะฉะนั้น เศษ ๓๔๒๔ เป็นปฐมภุช
(๑๕) ปฐมภุช
๓๔๒๔ หาร ๑๐๐๐ = ๓ เป็นขันธ์ เศษ ๔๒๔ เป็นทุติยภุช
ฉายาเท่าขันธ์ฐานบนลบฐานต่ำ ๑๑๘ – ๙๘ = ๒๐
ทุติยภุช ๔๒๔ คูณ ๒๐ หาร ๑๐๐๐ = ๘ เศษ ๔๘๐
ฉายาเท่าขันธ์ ๙๘ + ๘ = ๑๐๖ เป็นรวิภุชผล โกลัง ๒ ต้องบวกมัธยมอาทิตย์ปฐม ๑๘๙๐๔ + ๑๐๖ = ๑๙๐๑๐ เป็นสมผุสอาทิตย์ปฐม
(๑๖) มัธยมอาทิตย์ทุติย
๑๘๙๖๓ – ๔๖๘๐ หาร ๕๔๐๐ = ๒ เศษ ๓๔๘๓ (โกลัง ๒)
เพราะฉะนั้น เศษ ๓๔๘๓ เป็นปฐมภุช
๓๔๘๓ หาร ๑๐๐๐ = ๓ เป็นขันธ์ เศษ ๔๘๓ เป็นทุติยภุช
ฉายาเท่าขันธ์ฐานบนลบฐานต่ำ ๑๑๘ – ๙๘ = ๒๐
๔๘๓ คูณ ๒๐ หาร ๑๐๐๐ = ๙ เศษ ๖๖๐
๙๘ + ๙ = ๑๐๗ รวิภุชผล โกลัง ๒ ต้องบวก
๑๘๙๖๓ + ๑๐๗ = ๑๙๐๗๐ เป็นสมผุสอาทิตย์ทุติย
(๑๗) มัธยมจันทร์ปฐม
๗๖๘๓ + ๒๑๖๐๐ – ๒๐๑๗๐ = ๙๑๑๓
๙๑๑๓ หาร ๕๔๐๐ = ๑ โกลัง เศษ ๓๗๑๓ ไม่เป็นภุช
๕๔๐๐ – ๓๗๑๓ = ๑๖๘๗ เป็นปฐมภุช
(๑๘) ปฐมภุช
๑๖๘๗ หาร ๑๐๐๐ = ๑ เป็นขันธ์ เศษ ๖๘๗ เป็นทุติยภุช
ฉายาเท่าขันธ์ฐานบนลบฉายาฐานต่ำ ๑๖๕ – ๘๗ = ๗๘
๖๘๗ คูณ ๗๘ หาร ๑๐๐๐ = ๕๓ เศษ ๕๘๖
๘๗ + ๕๓ = ๑๔๐ เป็นจันทร์ภุชผล (โกลัง ๑ ต้องลบ)
๗๖๘๓ – ๑๔๐ = ๗๕๔๓ เป็นสมผุสจันทร์ปฐม
(๑๙) มัธยมจันทร์ทุติย
๘๔๗๓ + ๒๑๖๐๐ – ๒๐๑๗๗ = ๙๘๙๖
๙๘๙๖ หาร ๕๔๐๐ = ๑ โกลัง เศษ ๔๔๙๖ ไม่เป็นภุช
๕๔๐๐ – ๔๔๙๖ = ๙๐๔ เป็นปฐมภุช
๙๐๔ หาร ๑๐๐๐ = ๐ เป็นขันธ์ เศษ ๙๐๔ เป็นทุติยภุช
ขันธ์ ๐ เอาฉายาฐานแรก ๘๗ คูณทุติยภุช
๙๐๔ คูณ ๘๗ ฉายา หาร ๑๐๐๐ = ๗๘ เศษ ๖๔๘
ผลลัพธ์ไม่ต้องบวกด้วยฉายา เป็นจันทร์ภุชผลทีเดียว
เพราะฉะนั้น ๗๘ เป็นจันทร์ภุชผล (โกลัง ๑ ชื่อ ระณังต้องลบ)
๘๔๗๓ – ๗๘ = ๘๓๙๕ เป็นสมผุสจันทร์ทุติย
(๒๐) ตั้งมัธยมราหูปฐม
๒๑๖๐๐ – ๒๙๘๐ = ๑๘๖๒๐ เป็นสมผุสราหูปฐม
(๒๑) ตั้งมัธยมราหูทุติย
๒๑๖๐๐ – ๒๙๘๓ = ๑๘๖๑๗ เป็นสมผุสราหูทุติย
จบสุริยยาตร์สารัมภ์
---------------
ทำคำนวณจันทรุปราคาต่อไป
(๒๒) มัธยมอาทิตย์ทุติย มัธยมอาทิตย์ปฐม
๑๘๙๖๓ – ๑๘๙๐๔ = ๕๙ รวิภุกดิ
(๒๓) สมผุสอาทิตย์ทุติย สมผุสอาทิตย์ปฐม
๑๙๐๗๐ – ๑๙๐๑๐ = ๖๐ รวิภุกดภุกดิ
(๒๔) มัธยมจันทร์ทุติย มัธยมจันทร์ปฐม
๘๔๗๐ – ๗๖๘๓ = ๗๙๐ จันทร์ภุกดิ
(๒๕) สมผุสจันทร์ทุติย สมผุสจันทร์ปฐม
๘๓๙๕ – ๗๕๔๓ = ๘๕๒ จันทร์ภุกดภุกดิ
(๒๖) จันทร์ภุกดภุกดิ รวิภุกดภุกดิ
๘๕๒ – ๖๐ = ๗๙๒ ภูจันทร์
(๒๗) สมผุสอาทิตย์ปฐม
๑๙๐๑๐ + ๑๐๘๐๐ หาร ๒๑๖๐๐ = ๑ เศษ ๘๒๑๐
เศษ ๘๒๑๐ เป็นฉายาเคราะห์
(๒๘) ฉายาเคราะห์ สมผุสจันทร์ปฐม
๘๒๑๐ – ๗๕๔๓ = ๖๖๗ เคราะห์หันตกุลา
(๒๙) เคราะห์หันตกุลา
๖๖๗ คูณ ๖๐ หาร ๗๙๒ = ๕๐ มหานาฑี เศษ ๔๒๐
๔๒๐ คูณ ๖๐ หาร ๗๙๒ = ๓๑ มหาวินาฑี เศษ ๖๘๔ (อัฑฒาธิกรรม)
เพราะฉะนั้น ๕๐ มหานาฑี และ ๓๒ มหาวินาฑี เป็นปุณมี จันทร์เต็มดวง
(๓๐) ปุณมี
๕๐ คูณ ๖๐ = ๓๐๐๐ + ๓๒ = ๓๐๓๒
๓๒ คูณ ๖๐ = ๑๙๒๐ หาร ๖๐ = ๓๒
๓๐๓๒ หาร ๖๐ = ๕๐ เศษ ๓๒ (อัฒา) เศษ
เพราะฉะนั้น ๕๑ เป็นสมรวิกุลา
(๓๑) ปุณมี
๕๐ คูณ ๘๕๒ = ๔๒๖๐๐ + ๔๕๔ = ๔๓๐๕๔
๓๒ คูณ ๘๕๒ = ๒๗๒๖๔ หาร ๖๐ = ๔๕๔ เศษ ๔๔
๔๓๐๕๔ หาร ๖๐ = ๗๑๗ เศษ ๓๔ (อัฒา) เศษ
เพราะฉะนั้น ๗๑๘ เป็นสมจันทร์กุลา
(๓๒) ปุณมี
๕๐ คูณ ๒ = ๑๕๐ + ๒ = ๑๕๒ หาร ๖๐ = เศษ ๓๒
๓๒ คูณ ๓ = ๙๖ หาร ๖๐ = ๑ เศษ ๓๖ (อัฒา) เศษ
เพราะฉะนั้น ๒ เศษ ๓๒ (อัฒา) = ๓ เป็นสมราหูกุลา
ทำพิรางค์ต่อไป
(๓๓) ฉายาเคราะห์ สมรวิกุลา
๘๒๑๐ + ๕๑ = ๘๒๖๑ ตักกลารวิ
(๓๔) สมผุสจันทร์ปฐม สมจันทร์กุลา
๗๕๔๓ + ๗๑๘ = ๘๒๖๑ ตักกลาจันทร์
ตักกลารวิกับตักกลาจันทร์เท่ากัน, ว่าคำนวณมาถูกแล้ว
(๓๕) สมผุสราหูปฐม สมกุลา
๑๘๖๒๐ – ๓ = ๑๘๖๑๗ ตักกลาราหู
(๓๖) ตักกลาราหู ตักกลาจันทร์
๑๘๖๑๗ – ๘๒๖๑ = ๑๐๒๕๖
๑๐๓๕๖ หาร ๕๔๐๐ = ๑ เป็นโกลัง เศษ ๔๙๕๖
โกลัง ๑ เศษ ยังไม่เป็นราหูภุช ต้องเอาเศษลบเชิงหารก่อน
๔๕๐๐ – ๔๙๕๖ = ๔๔๔ เป็นราหูภุช
๔๔๔ เอา ๗๒๐ หารไม่ได้ มีคราส
จันทร์ภุกดภุกดิเป็น ๘๕๒ มากกว่าราหูภุช มีคราส
โกลัง ๑ จับข้างอุดร ตักกลาจันทร์ลบตักกลาราหูได้เป็นสุภาพ
(๓๗) ราหูภุช
๔๔๔ คูณ ๙ หาร ๒ = ๑๙๙๘ หาร ๖๐ = ๓๓ เศษ ๑๘
เพราะฉะนั้น ๓๓ มหานาฑีกับ ๑๘ มหาวินาฑี เป็นราหูวิกขิป
(๓๘) ตั้งจันทร์ภุกดภุกดิ
๓๑ คูณ ๘๕๒ = ๒๖๔๑๒ หาร ๗๙๐ = ๓๓ เศษ ๓๔๒
๓๔๒ คูณ ๖๐ = ๒๐๕๒๐ หาร ๗๙๐ = ๒๕ เศษ ๗๗๐ (อัฒา)
เพราะฉะนั้น ๓๓ มหานาฑีกับ ๒๖ มหาวินาฑี เป็นจันทร์พิมพ์
(๓๙) จันทร์พิมพ์
๓๓ คูณ ๔ = ๑๖๕ + ๒ = ๑๖๗ หาร ๒ = ๘๓ มหานาฑี เศษ ๑
๒๖ คูณ ๕ = ๑๓๐ หาร ๖๐ = ๒ เศษ ๑๐
๑ คูณ ๖๐ = ๖๐ + ๑๐ = ๗๐ หาร ๒ = ๓๕
เพราะฉะนั้น ๘๓ มหานาฑี ๓๕ มหาวินาฑี เป็นราหูพิมพ์
(๔๐) จันทร์พิมพ์
๓๓ หาร ๒ = ๑๖ เศษ ๑ คูณ ๖๐ = ๖๐
๒๖ + ๖๐ = ๘๖ หาร ๒ = ๔๓
เพราะฉะนั้น ๑๖ มหานาฑี ๔๓ มหาวินาฑี เป็นปานีจันทร์
(๔๑) ราหูพิมพ์
๘๓ หาร ๒ = ๔๑ เศษ ๑ คูณ ๖๐ = ๖๐
๓๕ + ๖๐ = ๙๕ หาร ๑ = ๔๗ เศษ ๑ (อัฒา)
เพราะฉะนั้น ๔๑ มหานาฑี ๔๘ มหาวินาฑี เป็นปานีราหู
(๔๒) เกณฑ์มหานาฑี ราหูวิกขิป
๕๔ – ๓๓ = ๒๐ (เอาฉายาราหูลบ)
๐ – ๑๘ = ๔๒
๒๐ – ๑ = ๑๙ – ๑ = ๑๘ – ๒ = ๑๖ – ๓ = ๑๓ – ๓ = ๙ – ๔ = ๕ – ๖*
ตัว ๖ ที่กาไว้ลบไม่ได้เป็นหัวหาร นับฉายาได้ ๖ ห้อง
๕ คูณ ๖๐ = ๓๐๐ + ๔๒ = ๓๔๒ หาร ๖๐ = ๕๗ มหาวินาฑี
เพราะฉะนั้น ๖ / ๕๗ คือ ๖ มหานาฑี กับ ๕๗ มหาวินาฑี เป็นมูลมหานาฑี
(๔๓) มูลมหานาฑี
๖ หาร ๒ = ๓
๕๗ หาร ๒ = ๒๘ เศษ ๑
เพราะฉะนั้น ๓ / ๒๘ เป็นติตถมหานาฑี
(๔๔) ปุณมี ติตถ
๕๐ – ๓ = ๔๗
๓๒ – ๒๘ = ๔
๔๗ / ๔ เป็นปรัสถกลหมหานาฑี
(๔๕) ปุณมี ติตถ
๕๐ + ๓ = ๕๓
๓๒ + ๒๘ = ๐
๕๓ / ๐ เป็นมุขกลหมหานาฑี
(๔๖) ตักกลารวิ
๘๒๑๖ หาร ๑๘๐๐ = ๓ เศษ ๑๐๖๑ เศษเป็นภาคกุลา
อาทิตย์อยู่ราศี ๑๐ องศา ๑๗ ลิบดา ๒๖
อันโตฌานราศีอาทิตย์อยู่ ๒๗๒ อันโตสมาสัปต์ ๓๒๖
เพราะฉะนั้น ๓๒๖ – ๒๗๒ = ๕๔
ภาคกุลา ๑๐๖๑ คูณ ๕๔ = ๕๗๒๙๔ หาร ๑๘๐๐ = ๓๑ เศษ ๑๔๙๔
๒๗๒ + ๒๔๔ + ๒๔๔ + ๒๗๒ + ๓๑๒ + ๓๓๔ = ๑๖๗๘ มิสสกะ
๑๖๗๘ + ๓๑ = ๑๗๐๙ หาร ๖๐ = ๒๘ เศษ ๒๙
เพราะฉะนั้น ๒๘ มหานาฑี กับ ๒๙ มหาวินาฑี เป็นทินประมาณ
(๔๗) ๒๘ หาร ๒ = ๑๔
๒๙ หาร ๒ = ๑๔ เศษ ๑ (อัฒา)
๑๔ / ๑๕ ชื่อทินาฒ
(๔๘) มหานาฑีวันหนึ่ง
๖๐ – ๒๘ = ๓๑
๐ – ๒๙ = ๓๑
๓๑ / ๓๑ ชื่อรัตติประมาณ
(๔๙) รัตติประมาณ
๓๑ หาร ๒ = ๑๕ เศษ ๑ เศษ ๑ คูณ ๖๐ = ๖๐
๓๑ + ๖๐ = ๙๑ หาร ๒ = ๔๕ เศษ ๑
เพราะฉะนั้น ๑๕ มหานาฑี ๔๕ มหาวินาฑี เป็นนิสาฒ
ปรัสถ ทินประมาณ นิสาฒ แรกจับ
๔๗ – ๒๘ = ๑๘ – ๑๕ = ๒
๔ – ๒๙ = ๓๕ – ๔๕ = ๕๐
มุกขกลห ทินประมาณ นิสาฒ ปล่อย
๕๔ – ๒๘ = ๒๕ – ๑๕ = ๙
๐ – ๒๙ = ๓๑ – ๔๕ = ๔๖
ถ้าจะรู้เวลากึ่งคราส ให้เอาเวลาแรกจับ ลบเวลาปล่อย แล้วเอา ๒ หาร ได้ผลเท่าใด เอาไปบวกกับเวลาแรกจับ ผลลัพธ์เป็นเวลากึ่งคราส เรียก อัฒคราส (แบบเดิมไม่มีเขียนเพิ่มเติมลงไว้)
----------------------------
เมื่อจะทำมหานาฑีและมหาวินาฑีเป็นเวลานาฬิกาธรรมดาให้เทียบเวลากันดังนี้
๖๐ มหานาฑี = ๒๔ ชั่วโมง
๖๐ มหานาฑี = ๒๔ คูณ ๖๐ = ๑๔๔๐ นาฑี
เพราะฉะนั้น ๑ มหานาฑี = ๒๔ คูณ ๖๐ หาร ๖๐ = ๒๔ นาฑี
๖๐ มหานาฑี = ๒๔ นาฑี
๖๐ มหานาฑี = ๒๔ คูณ ๖๐ = ๑๔๔๐ วินาฑี
เพราะฉะนั้น ๑ มหานาฑี = ๒๔ คุณ ๖๐ หาร ๖๐ = ๒๔ วินาฑี
เพราะฉะนั้น ๑ มหานาฑี = ๒๔ นาฑี ๑ มหาวินาฑี = ๒๔ วินาฑี
ถ้าจะทำเวลาแรกจับ เป็นเวลานาฬิกาตามธรรมดา ให้เอา ๒๔ คูณมหานาฑีและมหาวินาฑี เวลาแรกจับเข้าทั้งสองฐาน แล้วเอา ๖๐ หาร ฐานวินาฑี ผลลัพธ์บวดฐานมหานาฑี เศษเป็นวินาฑี ฐานมหานาฑี เอา ๖๐ หาร ผลลัพธ์เป็นโมง เศษเป็นนาฑี
ถ้าจะทำเวลาปล่อยให้ตั้งมหานาฑีและมหาวินาฑีเวลาปล่อย แล้วเอา ๒๔ คูณทั้งสองฐาน ทำอย่างเดียวกับที่ทำมาแล้วเมื่อแรกจับนั้น ถ้าที่ทำมาแล้วเอานิสาฒลบต่อจากทินประมาณได้ ให้นับแต่เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไป ถ้าเอานิสาฒลบได้ ให้นับแต่เวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไป
ตัวอย่างทำเวลาแรกจับตามที่คำนวณมาแล้วดังนี้
๒ คูณ ๒๔= ๔๘ +๒๐ หาร ๖๐ = ๑ เศษ ๘
๕๐ คูณ ๒๔ หาร ๖๐ = ๒๐
เพราะฉะนั้น เวลาแรกจับ ๑ นาฬิกา ๘ นาฑี
-----------------------
ตัวอย่างทำเวลาปล่อยตามที่คำนวณมา
๙ คูณ ๒๔ = ๒๑๖ + ๑๘ หาร ๖๐ = ๓ เศษ ๕๔
๔๖ คูณ ๒๔ หาร ๖๐ = ๑๘ เศษ ๒๔
เพราะฉะนั้น เวลาปล่อย ๓ นาฬิกา ๕๔ นาฑี ๒๔ วินาฑี
-----------------------
รูปจันทร์พิมพ์เข้าในวงราหูข้อ ๔๐ ดังนี้
รูปภาพ
(๑) ก ข เป็นศูนย์กลางจันทร์พิมพ์ = ๓๓ ม.น ๒๖ ม.ว
(๒) ก ข เป็นปานีจันทร์ = ๑๖ ม.น ๔๓ ม.ว
(๓) ก ง เป็นราหูวิกขิป = ๓๓ ม.น ๑๘ ม.ว
(๔) ง เป็นที่กาไว้
(๕) จ ง เป็นปานีราหู = ๔๑ ม.น ๔๘ ม.ว
(๖) ค จ เป็นราหูกินไม่สิ้น = ๘ ม.น ๑๓ ม.ว
(๗) ข จ เป็นราหูกินสิ้นไป = ๒๕ ม.น ๑๓ ม.ว
------------------------
ตัวอย่างทำชั้นฉายเมื่อแรกจับและปล่อยดังนี้
นิสาฒ แรกจับ
๑๕ – ๒ = ๑๒ ๑๒ คูณ ๖๐ = ๗๒๐
๔๖ – ๔๘ = ๕๘ ๕๘ + ๗๒๐ = ๗๗๘ เป็นพลหารแรกจับ
นิสาฒ ปล่อย
๑๕ – ๙ = ๖ ๖ คูณ ๖๐ = ๓๖๐
๔๖ – ๔๖ = ๐ ๐ + ๓๖๐ = ๓๖๐
นิสาฒ
๑๕ คูณ ๖๐ = ๙๐๐
๔๖ + ๙๐๐ = ๙๔๖ ๙๔๖ คูณ ๗ = ๖๖๒๒ พลอักษร
๖๖๒๖ หาร ๗๗๘ = ๘ ฉายา เศษ ๓๙๘
๓๙๘ คูณ ๑๕ หาร ๗๗๘ = ๗ องคุลี เศษ ๕๒๖
๕๒๖ คูณ ๔ หาร ๗๗๘ = ๒ เศษ ๕๔๘
ฉายา ๘ + ๑ = ๙ / ๙ – ๗ = ๒ ]
องคุลี ๗ ๗ / ๗ ๗ } เป็นชั้นฉายแรกจับ
เมล็ดข้าว ๒ ๒ / ๒ ๒ ]
-----------------------
๖๖๒๒ หาร ๓๖๐ = ๑๘ เศษ ๑๔๒
๑๔๒ คูณ ๑๕ หาร ๓๖๐ = เศษ ๒๒๐
๓๓๐ คูณ ๔ หาร ๓๖๐ = ๓ เศษ ๒๔๐
ฉายา ๑๘ + ๑ = ๑๙ ๑๙ – ๗ = ๑๒
องคุลี ๕ ๕ ๕ ๕ } เป็นชั้นฉายเมื่อปล่อย
เมล็ดข้าว ๓ ๓ ๓ ๓
จบจันทร์คราสตามตำราเดิมแต่เพียงนี้
----------------------------