บทที่ 1 จักรวาลสองระบบ ที่อยู่บนฟ้าเดียวกัน (3)
หัวข้อนี้เป็นตอนที่ “เชื่อมต่อกันโดยตรง” ระหว่าง ดาราศาสตร์ยุคโบราณ และ โหราศาสตร์พระเวทเพราะว่าจุดเริ่มของ “ระบบพิกัดจักรราศี” (Zodiac Coordinates – राशिचक्र निर्देशांक ราศิจกร นิรฺเทศางฺกะ) คือรากฐานของทุกแผนภูมิดวงชะตาที่เราใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้
ระบบพิกัดจักรราศี
(“Zodiac” राशिचक्र निर्देशांक – ราศิจกร นิรฺเทศางฺกะ) จุดเริ่มต้นของระบบพิกัดฟ้า ในยุคแรกสุดของมนุษย์ — ก่อนที่จะมีแผนที่ดาวอย่างที่เรารู้จัก นักดาราศาสตร์โบราณได้สังเกตว่า “ดวงอาทิตย์เดินทางบนเส้นเดียวกันบนฟ้าในแต่ละปี” เส้นนั้นเรียกว่า “สุริยวิถี” (Ecliptic – क्रान्तिवृत्त – กฺรานฺติวฤตฺต). พวกเขาแบ่งเส้นนี้ออกเป็น 12 ส่วนเท่า ๆ กัน เพื่อแทน “ช่วงเวลา 12 เดือน” ของปี
และเรียกแต่ละส่วนว่า “ราศี” (राशि – ราศิ) ซึ่งรวมกันเป็น “ราศีจักร” ( राशिचक्र – ราศิจกร) หรือในภาษาอังกฤษว่า “The Zodiac” ต่อมา ระบบนี้ถูกทำให้เป็นระบบ “พิกัด” โดยแบ่งออกเป็น 360 องศา — เพราะโบราณาจารย์คำนวณว่า หนึ่งปีมีประมาณ 360 วัน และการหมุนของดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบฟ้า เท่ากับหนึ่งปีพอดี
จุดเริ่มต้นของวงกลมฟ้า
นักดาราศาสตร์ยุคโบราณกำหนด “จุดเริ่มต้นของจักรราศี” ไว้ที่ จุดเหมายัน (Winter Solstice – दक्षिणायन प्रारम्भ – ทักษิณายน ปฺรารมฺภะ) เพราะเป็นจุดที่ดวงอาทิตย์อยู่ต่ำที่สุดในฟ้า และเริ่ม “เคลื่อนกลับขึ้นทางเหนือ” จึงเปรียบเสมือน “จุดเริ่มของการฟื้นคืนพลังแห่งแสง”
แต่ในยุคนั้นยังไม่สามารถระบุ “ขณะเริ่มต้นจริง” ได้ชัดเจน เนื่องจากค่าการเบนของดวงอาทิตย์ (Solar Declination – सौर अपसरण – เสาร อปสรณะ) เปลี่ยนช้ามากในช่วงเหมายัน
ต่อมาเมื่อเข้าใจการเคลื่อนไหวของดวงอาทิตย์มากขึ้น นักดาราศาสตร์จึงกำหนดว่า “มุมเบนของดวงอาทิตย์ (Declination)” คือหนึ่งใน “พิกัด” (Coordinate – निर्देशाङ्क – นิรฺเทศางฺกะ)ที่ใช้ในการบอกตำแหน่งวัตถุท้องฟ้า
การค้นพบทรงกลมฟ้าและดาวคงที่(ดาวนักษัตร)
ผู้คนสังเกตว่า ทุก ๆ คืน ดาวส่วนใหญ่ (Fixed Stars – नक्षत्र – นกฺษตฺร)กลุ่มดาวฤกษ์ หรือกลุ่มดาวนักษัตร จะขึ้นและตกในรูปแบบเดิม ไม่เปลี่ยนระยะห่างกันเลย ราวกับ “ถูกตรึงไว้บนทรงกลมขนาดมหึมา” (Celestial Sphere – आकाश गोळ – อากาศ โกละ) พวกเขาจึงเรียกมันว่า “ทรงกลมแห่งดาวคงที่” (Sphere of Fixed Stars – नक्षत्रमण्डल – นกฺษตรมณฑละ) หรือนักษตรมณฑล ซึ่งทรงกลมนี้ดูเหมือนหมุนรอบจุดคงที่บนฟ้า เรียกว่า “ขั้วฟ้า” (Celestial Pole – ध्रुव बिन्दु – ธฺรุวะ บินฺทุ).
เมื่อมีผู้เดินทางลงไปยังซีกโลกใต้ พวกเขาพบว่า “ซีกโลกใต้ก็มีขั้วฟ้าเป็นของตนเอง” แสดงให้เห็นว่า “ขั้วฟ้าเหนือ” และ “ขั้วฟ้าใต้” เป็นจุดอ้างอิงสำคัญในการกำหนดระบบพิกัดฟ้า
ระบบพิกัดศูนย์สูตรฟ้า (Equatorial Coordinate System)
เพื่อตั้งค่าการวัดอย่างเป็นระบบ นักดาราศาสตร์สร้างพิกัดใหม่ โดยลาก “เส้นวงกลมที่อยู่ห่างจากขั้วฟ้าเท่ากัน” เรียกว่า เส้นศูนย์สูตรฟ้า – विषुववृत्त – วิษุววฤตฺต ระบบนี้จึงได้ชื่อว่า “ระบบพิกัดศูนย์สูตรฟ้า” (Equatorial Coordinate System – विषुववृत्त निर्देशाङ्क प्रणाली – วิษุววฤตฺต นิรฺเทศางฺก ปฺรนาลี)
โดยใช้สัญลักษณ์ดังนี้:
P → ขั้วฟ้า (Celestial Pole – ध्रुव बिन्दु – ธฺรุวะ บินฺทุ)
Q → จุดเหมายันและอายันตรงบนศูนย์สูตรฟ้า
O → ผู้สังเกตการณ์ (Observer – दृष्टा – ทฤษฏา)
M → วัตถุที่ถูกสังเกต (Observed Object – दृष्ट वस्तु – ทฤษฏ วสฺตุ)
📏 การวัดมุมเบน (Declination – अपसरण – อปสรณะ)
ระยะมุมจากเส้นศูนย์สูตรฟ้าขึ้นไปยังวัตถุที่สังเกต เรียกว่า “เดคลิเนชัน” (Declination – अपसरण –อะปะสะระณะ ).สัญลักษณ์คือ δ (เดลตา) หากอยู่เหนือศูนย์สูตร → ค่าบวก (+0° ถึง +90°) หากอยู่ใต้ศูนย์สูตร → ค่าลบ (0° ถึง -90°) และในจุดบนพื้นโลกที่ใด ๆ“ดาวที่ขึ้นเหนือศีรษะ” (Zenith – शीर्ष बिन्दु –ศีรษะ บินฺทุ) จะมีค่าเดคลิเนชันเท่ากับ “ละติจูดภูมิศาสตร์ของผู้สังเกต”
นักดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์
ฟลามสตีด (Flamsteed) นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษ เป็นผู้กำหนด “จุดเริ่มต้นของจักรราศีตะวันตก” ที่ 0° Aries แต่ในความเป็นจริง “ก่อนหน้านั้นหลายศตวรรษ” นักดาราศาสตร์อินเดียชื่อ พรหมคุปต์ (Brahmagupta – ब्रह्मगुप्त – พฺรหมคุปฺต) ได้กำหนดจุดเริ่มของจักรราศีไว้ที่ 0° อัศวินี (Asvini / β Arietis) ซึ่งตรงกับระบบ นิรายนะจักรราศี
ต่อมา อารยะภตะ (आर्यभट – อารยะภฏ) ได้เขียนคัมภีร์ดาราศาตร์อันยิ่งใหญ่ชื่อ “อารยะภะฏียัม” (आर्यभटीयम्) ซึ่งว่าด้วย “ดาราศาสตร์ทรงกลมและตรีโกณมิติ” (Spherical Astronomy and Trigonometry – गोल खगोल एवं त्रिकोणमिति ).
การเผยแพร่ความรู้สู่โลก
คัมภีร์ของพรหมคุปต์ชื่อ พรหมัสผุฏะสิทธานตะ (ब्रह्मस्फुटसिद्धान्त – พฺรหมสฺผุฏสิทธานฺต) ถูกแปลเป็นภาษาอาหรับในชื่อ As Sind Hind และกลายเป็นรากฐานของคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์อาหรับยุคกลางอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) ยังเคยกล่าวว่า: “เราติดหนี้ชาวอินเดียอย่างใหญ่หลวง ที่สอนให้เรานับเลข หากไม่มีระบบตัวเลขของอินเดีย มนุษยชาติคงไม่อาจค้นพบสิ่งใดได้เลย”
สรุปเปรียบเทียบ โหราศาสตร์ตะวันตก (Tropical) กับ โหราศาสตร์ภารตะ (Sidereal)
(1)จุดเริ่มต้นของจักรราศี โหราศาสตร์ตะวันตกใช้ 0° ราศีเมษ โหราศาสตร์ภารตะใช้ อัศวินีนักษัตร 0° (β Arietis) เป็นจุดเริ่มต้นของจักราศี(ราศีเมษ)
(2)ค่าความต่าง “อายนางศะ” โหราศาสตร์ตะวันตกมีค่า ประมาณ 23° โหราศาสตร์ภารตะ ค่าอายนางศะจะเพิ่มอย่างช้า ๆ ตามกาลเวลา
(3) หลักการอ้างอิง โหราศาสตร์ตะวันตกใช้ ฤดูกาลของโลก ส่วนโหราศาสตร์ภารตะใช้ ตำแหน่งดาวจริง
(4)นักดาราศาสตร์ผู้ที่กำหนดจุดเริ่มต้นของจักรราศี โหราศาสตร์ตะวันตกคือ ฟลามสตีด (Flamsteed) นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษ ส่วนโหราศาสตร์ภารตะ คือท่านอารยะภตะ และท่านพรหมคุปต์
(5)ลักษณะของระบบ โหราศาสตร์ตะวันตกใช้ระบบจักรราศีเคลื่อนที่ (Movable) โหราศาสตร์ภารตะใช้ระบบจักรราศีคงที่ (Immovable)
*******************************
*เรียนโหราศาสตร์ภารตะ(โหรพระเวท)ฟรี ได้ที่นี่ ศึกษาจากบทเรียน อ่านได้ที่นี่ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-29-18/219-astrology-lesson.html
*แหล่งรวมความรู้โหราศาสตร์ภารตะ อ่านได้ที่นี่ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-29-18.html
*กดติดตาม เพื่ออ่านบทเรียนใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์ Napat Patrapongphaiboon (Astro Neemo)
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************