Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวท ของพราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 16 แล้ว WebSite และ Link ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

Vedic Astrology Lessons Preface Philosophy of Jyotish 9

ความแตกต่างระหว่าง โหราศาสตร์พระเวท กับ โหราศาสตร์ตะวันตก

“โหราศาสตร์ตะวันตก” หรือ “โหราศาสตร์สากล” เป็นระบบโหราศาสตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศตะวันตก ในประวัติศาสตร์มีพื้นฐานมาจาก หนังสือ "เทตราบิบลอส"  ของปโตเลมี (Ptolemy's Tetrabiblos)  ซึ่งเขียนไว้ในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริตกาล ซึ่งเป็นการสานต่อองค์ความรู้จากวัฒนธรรมของกรีกและบาบิโลน งานประพันธ์ตำรา"เตตราบิบลอส-Tetrabiblos"ของปโตเลมี ถือเป็นตำราพื้นฐานทางโหราศาสตร์ ซึ่งถือเป็นงานเขียนสำคัญทางด้านโหราศาสตร์ของปโตเลมีในยุคแรก

ตำราเล่มนี้ได้อธิบายแนวคิดที่เป็นระบบและเหตุผลเพื่อทำการทำความเข้าใจพลังงานของกลุ่มดวงดาวและดาวเคราะห์ที่มีอิทธิพลต่อเหตุการณ์ต่างๆ บนโลก ตำราเล่มนี้ได้อธิบายหลักการของโหราศาสตร์ รวมถึงลักษณะของดาวเคราะห์ ดวงดาว และราศีต่างๆ รวมถึงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างดาวเคราะห์ต่างๆที่ส่งผลต่อเหตุการณ์ต่างๆ บนโลก

หนังสือเล่มนี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้ประกอบกับตำราดาราศาสตร์ของปโตเลมีที่ชื่อว่า "อัลมาเจสต์-Almagest" ซึ่งเน้นที่การเคลื่อนที่ของเทห์ฟากฟ้า

โดยพื้นฐานแล้ว "เตตราบิบลอส"ให้คำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับหลักทฤษฎีและวิธีปฏิบัติการทางด้านโหราศาสตร์ที่แพร่หลายในสมัยของปโตเลมี และมีอิทธิพลอย่างมากต่อพัฒนาการของโหราศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลางโดยตลอดสืบเนื่องมานานหลายศตวรรษ

โหราศาสตร์ตะวันตกส่วนใหญ่เน้นเรื่องการพยากรณ์ดวงชะตาเป็นหลัก กล่าวคือ เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำนายดวงชะตา ที่ต้องอาศัยข้อมูลดวงชะตา จากช่วงเวลาที่แน่นอน เช่น วัน เดือน ปีเกิดและ"สถานที่เกิด"ด้วย”  โดยต้องคำนวนจากเขตเวลา  Time Zone , Latitude และ Longitude หรือเวลาท้องถิ่น ณ สถานที่เกิด ซึ่งอาจส่งผลต่อเวลาเกิดและดวงชะตาของเจ้าชะตา

โหราศาสตร์ตะวันตก ในวัฒนธรรมของชาวตะวันตกที่นิยมใช้โดยทั่วไป มักถูกจำกัดให้เป็นเพียง"โหราศาสตร์ราศีเกิด" ซึ่งพิจารณาเฉพาะวันและเดือนเกิดของบุคคล หรือที่เราเรียกว่า "ราศีเกิด"  ซึ่งก็คือ "ตำแหน่งของดวงอาทิตย์" ณ วันนั้น

ตัวอย่างเช่น คนที่เกิดระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 20 เมษายน เป็นคนราศีเมษ ,คนที่เกิดระหว่างวันที่ 21 เมษายน - 20 พฤษภาคมเป็นคนราศีพฤษภ, คนที่เกิดระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม - 21 มิถุนายนเป็นคนราศีเมถุน แบบนี้เราเรียกว่า”ราศีเกิด” 

"ราศีเกิด"ข้างต้นเป็นตั้งดวงแบบหยาบๆ ซึ่งค่อนข้างใช้ได้ง่าย และใช้ได้กับทุกคน โดยใช้ "ดาวอาทิตย์"ที่กำลังโคจรอยู่ในราศีนั้นๆ นำมาพยากรณ์ ซึ่ง”ราศีเกิด”ไม่ใช่"ลัคนา"อย่างที่เรามักเข้าใจผิดกัน

การเปรียบเทียบระหว่าง โหราศาสตร์พระเวท กับ โหราศาสตร์ตะวันตก

1.ต้นกำเนิด โหราศาสตร์พระเวท ได้ถูกหยั่งรากลึกในคัมภีร์พระเวทโบราณของอินเดีย  ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก วิวัฒนาการมาจากประเพณีกรีก-โรมัน

2.ระบบจักราศี โหราศาสตร์พระเวท ใช้ระบบจักรราศีคงที่ Sidereal zodiac หรือที่เรียกว่า “ระบบนิรายนะ” โดยอ้างอิงตำแหน่งของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า

ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก ใช้ระบบจักราศีเคลื่อนที่ Tropical Zodiac หรือ “ระบบสายนะ”  โดยยึดตำแหน่งของดวงอาทิตย์สัมพันธ์กับจุด”วสันตวิษุวัต” Vernal Equinox (จุดที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ) ในแต่ละปี ระบบนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของราศีตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป

ค่าอายนางศะ (Ayanangsa) ในทางโหราศาสตร์ คือ ค่าที่ใช้ในการปรับแก้ตำแหน่งของราศี หรือ จุดเริ่มต้นของราศีต่างๆ ในจักรราศี ให้มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งของดวงอาทิตย์ที่แท้จริงในท้องฟ้า ณ เวลาและสถานที่นั้นๆ โดยค่าอายนางศ์จะแตกต่างกันไปตามระบบโหราศาสตร์ที่ใช้ เช่น โหราศาสตร์ตะวันตกแบบดั้งเดิม หรือ โหราศาสตร์ยูเรเนียน

ส่วนโหราศาสตร์พระเวทมีการใช้ "อายนางศะ" ใช้คำนวณความแตกต่างระหว่างระบบนิรายนะและสายนะวิธี (ปัจจุบันต่างกันประมาณ 23-24 องศา) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งดวงดาว สรุปว่า “ระบบนิรายนะ”จะยึดตำแหน่งดาวฤกษ์บนท้องฟ้าเป็นหลัก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเหมือน”ระบบสายนะ”

3.ดาวเคราะห์ โหราศาสตร์พระเวท มีดาวเคราะห์หลักเพียง 9 ดวง (ดาวนพเคราะห์)

ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก ก็มีดาวเคราะห์หลัก 9 ดวง และรวมถึงดาวเคราะห์อื่นๆที่ค้นพบใหม่ เช่น ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และดาวพลูโต

4.จุดมุ่งหมาย โหราศาสตร์พระเวท เน้นเรื่องกรรม การเวียนว่ายตายเกิด และการเติบโตทางจิตวิญญาณ

ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก จะเน้นที่ลักษณะทางจิตวิทยา บุคลิกภาพ และความสัมพันธ์

5.วัฏจักรของเวลา โหราศาสตร์พระเวท ใช้ระบบ “ทศา” สำหรับบ่งบอกช่วงเวลาของดาวเคราะห์ที่กำลังแสดงอิทธิพล

ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก โดยส่วนใหญ่ใช้การโคจรของดาวเคราะห์ของพระเคราเดิมและพระเคราะห์จร และดวงทินวรรษ progressions คือการเปลี่ยนแปลงดวงชะตากำเนิดให้เลื่อนออกไปทุกๆปี ตัวอย่างเช่น หลังวันเกิด 1วันเท่ากับ 1 ปี

6.ระบบเรือนชะตา โหราศาสตร์พระเวทดั้งเดิมใช้ระบบ”เรือนเท่ากับราศี” เป็นหลัก แต่นอกจากนี้โหราศาสตร์พระเวทก็ยังมีการใช้ระบบ”เรือนไม่เท่ากับราศี” ด้วยเช่นกันเรียกว่า “จลิต จักร” ก็คือจักระที่มีการเคลื่อนย้าย

ในที่นี้หมายถึงภพหรือเรือนชะตาที่เคลื่อนย้ายออกนอกอาณาเขตของราศี ซึ่งเราเรียกว่า “ภวจักร” https://bit.ly/4oUuxPA

ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก ระบบเรือนชะตามีหลากหลายระบบ โดยใช้ระบบเรือนต่างๆ เช่น ระบบPlacidus, Equal ฯลฯ

7.เทคนิคการพยากรณ์ โหราศาสตร์พระเวทใช้ระบบดาวเสวยอายุทศา-ภุกติ และโยคต่างๆในการพยากรณ์ ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก อาศัยการโคจรและระยะเชิงมุมต่างๆของดาวเคราะห์

8.การแก้ไขผลร้ายจากอิทธิพลของดาวเคราะห์ โหราศาสตร์พระเวท แนะนำวิธีการแก้เคล็ด เสริมดวง เช่น ใช้อัญมณี มันตรา พิธีกรรมต่างๆ ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก ไม่มีหลักการในส่วนนี้

9.รากฐานทางปรัชญา โหราศาสตร์พระเวท มีรากฐานมาจากปรัชญาพระเวท ความเชื่อวิบากกรรม และเน้นในเรื่องธรรมะ ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก ขาดรากฐานทางปรัชญาที่แข็งแกร่ง

10.ด้านจิตวิญญาณ โหราศาสตร์พระเวทเน้นหนักทางด้านจิตวิญญาณ และการพัฒนายกระดับจิตวิญญาณและการตระหนักรู้ในตนเองภายใน ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก เน้นไปทางด้านจิตวิทยา อารมณ์ ความรู้สึกและทรรศนวิสัยทางโลกมากกว่า

11.อิทธิพลด้านวัฒนธรรม โหราศาสตร์พระเวทเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของชาวฮินดูในประเทศอินเดีย และรวมถึงภูมิภาคอื่นๆในเอเชียที่ได้รับวัฒนธรรมจากอินเดีย ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตก แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริบททางวัฒนธรรมใดใดเลย  

บทสรุปข้างต้นนี้ เป็นการเปรียบเทียบโดยย่อ ระหว่างโหราศาสตร์เวทและโหราศาสตร์ตะวันตกในแง่มุมต่างๆ โดยเน้นถึงความแตกต่างที่สำคัญและลักษณะเฉพาะของทั้งสองระบบ

 

 

 *******************************

***ประกาศ สอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือโหราศาสตร์พระเวทฟรี*** 
ตอนนี้อาจารย์เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือโหราศาสตร์พระเวทฟรี ทางออนไลน์ ในเฟสบุคนี้ และทางเว็บไซด์ https://www.astroneemo.net/.../219-astrology-lesson.html
ปัจจุบันการเรียน"โหราศาสตร์ภารตะ"ในประเทศไทย กำลังจะสูญหายไป ทั้งอาจารย์ผู้รู้และตำราเรียน ซึ่งตอนนี้อาจารย์กำลังเรียบเรียงบทเรียน "การศึกษาโหราศาสตร์ภารตะด้วยตัวเอง"ทางออนไลน์ ซึ่งมีบทเรียนอยู่ประมาณ 300 บท เริ่มต้นด้วยการปูพื้นฐาน รากฐานปรัชญา และประวัติความของโหราศาสตร์พระเวทให้เข้าใจก่อน ท่านสามารถช่วยแชร์ หรือช่วยประกาศให้เพื่อนๆ ที่สนใจโหราศาสตร์ได้ทราบด้วย จักเป็นพระคุณอย่างสูงต่อการศึกษาโหราศาสตร์ภารตะในประเทศไทย

*เรียนโหราศาสตร์ภารตะ(โหรพระเวท)ฟรี ได้ที่นี่  ศึกษาจากบทเรียน อ่านได้ที่นี่ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-29-18/219-astrology-lesson.html

*แหล่งรวมความรู้โหราศาสตร์ภารตะ อ่านได้ที่นี่  https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-29-18.html

*กดติดตาม เพื่ออ่านบทเรียนใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์  Napat Patrapongphaiboon (Astro Neemo)

*******************************

บริการของเรา 

ดูฤกษ์ออกรถ  ดูฤกษ์ยกเสาเอก   ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่   ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่  ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท   ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส   ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ  ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ  ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่   ดูฤกษ์ลาสิกขาบท   ดูฤกษ์โกนผมไฟ   ดูฤกษ์ผ่าคลอด   ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย  คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง   ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ) 

กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์

*******************************