เรื่องประกรุติจักร-วิกรุติจักรนี้ ปรากฏเฉพาะในคัมภีร์ “โหรารัตนมาลา” เท่านั้นและไม่มีปรากฏในคัมภีร์โหราศาสตร์อื่นๆ นอกจากคัมภีร์อายุรเวท แต่แสดงความหมายต่างกันออกไป เรื่องนี้นับเป็นประโยชน์ให้กับนักโหราศาสตร์ทั้งหลาย ในการพิจารณาผลของเจ้าเรือน ที่มีดาวเคราะห์ดวงเดียวกันเป็นเกษตรครองทั้งสองเรือน(ราศี) เช่น ดาวพุธ ดาวศุกร์ อังคาร พฤหัสและเสาร์ล้วนเป็นเกษตร 2 ราศี (ยกเว้นอาทิตย์และจันทร์) เช่น ลัคนาเมษ มีดาวอังคารเป็นเกษตรทั้งสองราศีหรือ สองเรือน คือเรือนที่ 1 ตนุกับ เรือนที่ 8 มรณะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรือนไหนให้ผลมากและเรือนไหนให้ผลน้อยกว่ากัน และคำตอบก็มีอยู่ที่นี่แล้ว
(ก) ประกรุติจักร – มี 6 ราศีดังนี้ 1.ราศีเมษ 2.ราศีพฤษภ 3.ราศีมิถุน 4.ราศีกรกฏ 5.ราศีสิงห์ และ 6.ราศีกันย์ และมีวิธีพิจารณาดังนี้
1.พิจารณาเรื่องดาวเกษตร-เสวยอายุ หากดาวเคราะห์ใดได้ตำแหน่งเป็นเกษตรหรือเจ้าเรือนในราศีดังกล่าวข้างต้น ผลของดาวเคราะห์จะแสดงผลสูงสุดในครึ่งแรกของการเสวยอายุในระบบวิมโษตรีทักษา เช่น ดาวศุกร์ในดวงชาตาได้ตำแหน่งเป็นเกษตรในราศีพฤษภ ผลของดาวศุกร์เมื่อเสวยอายุจะแสดงผลเต็มที่ในครึ่งแรกของการเสวยอายุ โดยทศาศุกร์มีช่วงเวลา 20 ปี ดังนั้นผลของดาวศุกร์จะแสดงผลสูงสุดใน 10 ปีแรก
2.พิจารณาเรือนชาตา-ผลของเจ้าเรือนเกษตร นอกจากนี้ยังใช้ในการพิจารณาผลของดาวเคราะห์จากเรือนชาตา สมมุติว่าเจ้าชาตาลัคนาอยู่ในราศีมีน และมีดาวอังคารสถิตในราศีใดราศีหนึ่งใน”ราศีประกรุติจักร”ข้างต้น อังคารก็จะให้ผลตามความหมายของเจ้าเรือน คือเรือนที่ 2 (กดุมภะ-เมษ) มากที่สุดและให้ผลตามความหมายของเรือนที่ 8 (ศุภะ-ราศีพิจิก) น้อยที่สุด
อีกตัวอย่างหนึ่งสำหรับลัคน์มีน เช่นเดียวกัน หากดาวพุธ สถิตในราศีใดราศีหนึ่งใน”ราศีวิกรุติจักร”ข้างต้น พุธก็จะให้ผลตามความหมายของเรือนที่ 4 (พันธุ-มิถุน)มากที่สุดและให้ผลตามความหมายของเรือนที่ 7 (ปัตนิ-ราศีกันย์)น้อยที่สุด
(ข) วิกรุติจักร – มี 6 ราศีดังนี้ - 1.ราศีตุลย์ 2.ราศีพิจิก 3.ราศีธนู 4.ราศีมังกร 5.ราศีกุมภ์ 6.ราศีมีน และมีวิธีพิจารณาดังนี้
1.พิจารณาเรื่องดาวเกษตร-เสวยอายุ หากดาวเคราะห์ได้ตำแหน่งเป็นเกษตรในราศีข้างต้น ผลของดาวเคราะห์จะแสดงผลสูงสุดในครึ่งหลังของการเสวยอายุในระบบวิมโษตรีทักษา
2.พิจารณาเรือนชาตา-ผลของเจ้าเรือนเกษตร พิจารณาดังนี้สมมุติว่าเจ้าชาตาลัคนาอยู่ในราศีมีน และมีดาวอังคารสถิตในราศีใดราศีหนึ่งใน”ราศีวิกรุติจักร”ข้างต้น อังคารก็จะให้ผลตามความหมายของเจ้าเรือน คือเรือนที่ 2 (กดุมภะ-เมษ) น้อยที่สุดและให้ผลตามความหมายของเรือนที่ 8 (ศุภะ-ราศีพิจิก) มากที่สุด
อีกตัวอย่างหนึ่งสำหรับลัคน์มีนเช่นเดียวกัน หากดาวพุธ สถิตในราศีใดราศีหนึ่งใน”ราศีวิกรุติจักร”ข้างต้น พุธก็จะให้ผลตามความหมายของเรือนที่ 4 (พันธุ-มิถุน) น้อยที่สุดและให้ผลตามความหมายของเรือนที่ 7 (ปัตนิ-ราศีกันย์) มากที่สุด