ฤกษ์บน-ฤกษ์ล่าง ในดวงชะตากรุงเทพมหานคร
ในการวางฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์ภารตะ จำเป็นจะต้องคำนึงถึงฤกษ์บน (นพดลฤกษ์) ฤกษ์ล่าง (ภูมิดลฤกษ์)ซึ่งจำเป็นต้องใช้ดวงพระชะตาของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 1 ประกอบแล้ว อีกทั้งได้พิจารณาการวางตำแหน่งดาวนพเคราะห์ข้างต้นพอสมควรแล้ว จึงมาพิจารณาฤกษ์จากคัมภีร์มุหูรตะ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3x6DI55 และปฏิทินฤกษ์ยามของโหรฮินดูโบราณ ที่เรียกว่า “ปฏิทินปัญจางคัม पञ्चाङ्गम्” ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4k6o8NB อีกทั้งมีโยคมงคลพิเศษที่สัมพันธ์กับ ดิถี+วาร+นักษัตร ทั้งหมดเรียกว่า “มุหูรตะโยค” หรือฤกษ์ยามมงคล ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4lebJYC
โดยพิจารณาดังนี้ ณ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ 2325 เวลารุ่งแล้ว 9 บาท
1.วาร-อาทิจวาร วันอาทิตย์ ดาวอาทิตย์เป็นเจ้าการในวันนี้ ส่งผลให้ดาวอาทิตย์ในดวงฤกษ์เข้มแข็งมากขึ้นอีก
2.ปักษ์-ศุกลปักษ์ เป็นมงคล จันทร์ข้างขึ้นมีแสงสว่าง และมีกำลัง เหมาะแก่งานมงคล
3.ดิถี-ศุกลอัฐมี(ขึ้น ๘ ค่ำ) พระวสุเป็นเจ้าดิถี เหมาะสำหรับการสร้างป้อมค่าย ป้อมปราการ และการต่อสู้ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4emCLes
4.ศักราช- ศุภะกฤตะศก ใช้ทำนายดวงเมืองโดยเฉพาะมีรอบละ 60 ปีหรือพฤหัสจักร ความหมายของปีนี้ คือ จะมีเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆในแผ่นดิน ประชนอยู่เย็นเป็สุข และไม่มีใครต้องเผชิญกับความหวาดกลัวใดๆ และปลอดจากการรังควานจากโจรผู้ร้าย แต่กษัตริย์จะกระหายสงคราม ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3W5Hpnq
5.อายัน-อุตตรายัน พระอาทิตย์ปัดเหนือเป็นมหามงคล ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2MFoPC4
6.ฤดู-คิมหันตฤดู คือฤดูร้อนมีดาวอาทิตย์เป็นเจ้าการ ทำให้ฤดูนี้เสริมกำลังดาวอาทิตย์ขึ้นไปอีก
7.มาส-วิสาขะมาส /ไจตระมาส เดือนทางจันทรคติฮินดูมีอยู่ 2 ระบบทำให้การนับเดือนของอินเดียภาคเหนือกับภาคใต้ลักหลั่นกัน ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3FMioKU
8.นักษัตรโยค-ศูละโยค (ตรีศูลของพระศิวะ) ซึ่ง 5 ฆฏิแรกของศูละโยค (120 นาที)ถือเป็นลางร้าย แต่ในฤกษ์นี้พ้นนาทีฤกษ์ร้ายไป 80 %แล้ว กลายเป็นโยคดีเป็นมงคลในการปราบศัตรู ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/44qOsNC
9.กรณะ-ปะวะกรณะ หรือ พวะ กรณะเป็นกรณะจร เป็นศุภะกรณะ หรือห้วงเวลามงคล สำหรับเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เทวะประจำกรณะนี้คือ พระวิษณุ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/464XGQ
มุหูรตะโยคในวันตั้งเสาหลักเมือง
1.ระวิ ปุษยะ โยค रवि पुष्य योग เวลา 05:43 น.ถึง 16:00 น. เป็นการผสมผสานทางโหราศาสตร์อันเป็นมงคลอย่างยิ่งในโหราศาสตร์พระเวท จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ในวันอาทิตย์ (ระวิ) มีดาวจันทร์กำลังเสวย”ปุษยะนักษัตร” ถือเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังและเป็นมงคลมากสำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และมีอิทธิพลัง ช่วยขจัดอิทธิพลด้านลบ และนำความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองมาให้
ส่วนมากชาวฮินดูจะใช้โยคหรือฤกษ์นี้เชิญพระแม่ลักษมีมาประดิษฐานในบ้าน โยคนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก โดยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งต่อปี และเชื่อกันว่าโยคนี้จะนำโชคลาภและความสำเร็จมาให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำควบคู่กับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความมั่งคั่งและการเริ่มต้นใหม่ ตามโหราศาสตร์ฮินดู
2.สรรวารถะ สิทธิ โยค सर्वार्थ सिद्धि योग เวลา 05:43 น.ถึง 16:00 น. แปลว่า "การบรรลุเป้าหมายทั้งหมด" หรือ "ความสำเร็จในความพยายามทั้งหมด" ถือเป็นช่วงเวลาอันเป็นมงคลอย่างยิ่งสำหรับการเริ่มต้นกิจการใหม่ การดำเนินการที่สำคัญ หรือดำเนินกิจกรรมที่ปรารถนาให้ประสบความสำเร็จ ต่อไปนี้ คำนี้มาจากภาษาสันสกฤต โดย "สรรวารถะ " หมายถึง "ทุกสิ่ง" หรือ "เป้าหมายทั้งหมด" และ "สิทธิ" หมายถึง "ความสำเร็จ
เงื่อนไขของโยค จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ดวงจันทร์เสวยนักษัตร ดังต่อไปนี้ คือ อัศวินี,ปุษยะ,หัสตะ,อุตรผลคุณี,มูละ,อุตราษาฒ,อุตรภัทรปทนักษัตร ในวันอาทิตย์
เทศกาลฮินดูในวันตั้งเสาหลักเมือง
(1.)เทศกาล พะคะลามุขี ชะยันตี बगलामुखी जयन्ती
ตรงกับวันประสูติของพระศรีมหาศักติ พะคะลา เป็นเทวีในศาสนาฮินดู เป็นหนึ่งในสิบ มหาศักติ (มหาวิทยาทั้ง 10) หรือเทวีแห่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ พระองค์เป็นที่รู้จักในด้านพลังอำนาจ การปกป้อง และชัยชนะเหนืออุปสรรค คำว่า "พะคะลา " หมายถึง "บังเหียน" หรือ "เชือกบังคับ" และ "มุขี" หมายถึง "หน้า" หรือ "ใบหน้า" ดังนั้น “พะคะลามุขี” จึงมีความหมายถึงผู้ที่สามารถควบคุมหรือขัดขวางพลังด้านลบและศัตรูได้
(2.)วันมาสิกะ ทุรคาษฏะมี मासिक दुर्गाष्टमी
ถือเป็นวันที่เป็นสิริมงคลอย่างยิ่งและมีการฉลองทุกเดือนเพื่ออุทิศให้กับพระแม่ทุรคาเทวี ซึ่งเป็นเทวีที่ทรงอำนาจมากในศาสนาฮินดู เชื่อกันว่าพระแม่องค์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ ทั้งสามพระองค์รวมกัน “วันมาสิกะ ทุรคาษฏะมี” จะมีการบูชาและเฉลิมฉลองในวันศุกลปักษ์หรืออัษฏมีดิถี(ขึ้น ๘ ค่ำ) ของทุกเดือน จุดประสงค์หลักในการบูชาพระแม่ทุรคา คือเพื่อทำลายล้างอสูรร้ายที่แผ่พลังแห่งความชั่วร้ายที่อยู่บนโลก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งว่าทำไมว่าลัทธิศักติที่บูชาพระแม่ทุรคาเทวี หรืออวตารของพระแม่อุมาเทวี จึงเป็นที่เคารพสักการะของชาวกรุงเทพเป็นอย่างสูง
สรุปซ้ำอีกครั้ง ในการปรุงดวงฤกษ์หรือการวางฤกษ์ของดวงเมืองประเทศไทย จากมุมมองของโหราศาสตร์ภารตะ น่าจะพอไขข้องข้องใจของหลายๆท่านได้ เพราะวิธีการวางฤกษ์ท่านได้วางได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด สอดแทรกกลเม็ดเด็ดพรายเอาไว้ในทุกๆแง่มุม ทั้งตำแหน่งดาวนพเคราะห์ ทั้งเรือน ราศี ตรียางค์ นวางศ์ นักษัตร อีกทั้งโยคเกณฑ์ ทรรศนะสัมพันธ์ อันเป็นศุภผล
ถึงแม้มีจุดเสีย จุดอ่อนบ้างท่านก็ใช้หลักในการปรุงดวงฤกษ์พลิกจากร้ายให้กลายเป็นดี จนแทบไม่มีจุดด้อย หรือจุดเสียใดใดในดวงชะตาเลย
กอปรกับโยคมงคลต่างๆและตรงวันสำคัญจากปฏิทินจันทรติฮินดู (ฤกษ์มุหูรตะ) จนทำให้ผู้เขียนมั่นใจอย่างยิ่งว่า “ดวงเมือง”ของไทยนั้น วางฤกษ์โดยใช้โหราศาสตร์ภารตะ หรือโหราศาสตร์พระเวท ของฮินดูเป็นหลัก อย่างเดียวเท่านั้นซึ่งจะส่งผลดีมากที่สุด ต่อประเทศชาติและความผาสุขของประชาชนคนไทย ไม่แน่ว่าต่อไป ประเทศไทย อาจจะเป็นมหาอำนาจของโลกในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์ https://bit.ly/3ThfWig
*******************************