ในการคำนวนฤกษ์ยามและการคำนวนดวงชาตาของสรรพสิ่ง ฤกษ์จะเป็นสิ่งกำหนดคุณภาพและคุณลักษณะของสิ่งเหล่านั้น ปกติทางโหราศาสตร์ จะมีการแบ่งประเภทฤกษ์ออกเป็น 2 ส่วนคือ
(1) ฤกษ์บน หรือ นภดล อธิบายปรากฏการณ์บนฟากฟ้าที่มนุษย์มองเห็นได้ไม่ชัดเจน แต่อาศัยการคำนวนทางโหราดาราศาสตร์ เช่น พระจันทร์เสวยฤกษ์ต่างๆ แล้วนำมากำหนดฤกษ์ว่าดีหรือร้าย ฤกษ์บน คือฤกษ์ที่ดาวจันทร์เสวยกลุ่มดาวนักษัตร (Fixed Stars) ทั้ง 27 นักษัตรในรอบ 1 เดือนทางจันทรคติโดยเสวยฤกษ์ละประมาณ 24 ชั่วโมง ใช้สำหรับคำนวนเดือนทางจันทรคติและคำนวณฤกษ์ยามมงคลต่างๆ นักษัตรทั้ง 27 ตามคติอินเดียและจีนโบราณมีถึง 28 นักษัตร (เพิ่มนักษัตรอภิชิต)
| นักษัตร | ชื่อฤกษ์ |
| อัศวินี | ทลิทโท |
| ภรณี | มหัธโณ |
| กฤตติกา | โจโร |
| โรหิณี | ภูมิปาโล |
| มฤคศิระ | เทศาตรี |
| อารทรา | เทวี |
| ปุนรวสุ | เพชฌฆาต |
| ปุษยะ | ราชา |
| อาศเลศะ | สมโณ |
| มาฆะ | ทลิทโท |
| ปุรพผลคุณี | มหัธโณ |
| อุตรผลคุณี | โจโร |
| หัสตะ | ภูมิปาโล |
| จิตรา | เทศาตรี |
| สวาติ | เทวี |
| วิสาขะ | เพชฌฆาต |
| อนุราธะ | ราชา |
| เชษฐะ | สมโณ |
| มูลละ | ทลิทโท |
| ปุรพาษาฒ | มหัธโณ |
| อุตราษาฒ | โจโร |
| สราวณะ | ภูมิปาโล |
| ธนิษฐะ | เทศาตรี |
| สตภิษัท | เทวี |
| ปูราภัทรปท | เพชฌฆาต |
| อุตราภัทรปท | ราชา |
| เรวดี | สมโณ |
| อัศวินี | ทลิทโท |
| ภรณี | มหัธโณ |
| กฤตติกา | โจโร |
| โรหิณี | ภูมิปาโล |
| มฤคศิระ | เทศาตรี |
| อารทรา | เทวี |
| ปุนรวสุ | เพชฌฆาต |
| ปุษยะ | ราชา |
| อาศเลศะ | สมโณ |
| มาฆะ | ทลิทโท |
| ปุรพผลคุณี | มหัธโณ |
| อุตรผลคุณี | โจโร |
| หัสตะ | ภูมิปาโล |
| จิตรา | เทศาตรี |
| สวาติ | เทวี |
| วิสาขะ | เพชฌฆาต |
| อนุราธะ | ราชา |
| เชษฐะ | สมโณ |
| มูลละ | ทลิทโท |
| ปุรพาษาฒ | มหัธโณ |
| อุตราษาฒ | โจโร |
| ศราวณะ | ภูมิปาโล |
| ธนิษฐะ | เทศาตรี |
| สตภิษัท | เทวี |
| ปูราภัทรปท | เพชฌฆาต |
| อุตราภัทรปท | ราชา |
| เรวดี | สมโณ |
(2)ฤกษ์ล่าง คือ ภูมิดล อธิบายปรากฏการณ์ต่างๆบนโลกที่มนุษย์มองเห็นได้ชัดเจน คือ วันขึ้น/แรม เดือนต่างๆ หรือคำนวนจากดิถี โดยทั่วไปฤกษ์ล่างมักจะคำนวนจากปรากฏการณ์จากวันขึ้นแรมเป็นส่วนมาก (ฤกษ์ล่างตรงนี้แตกต่างจากฤกษ์ล่างที่คำนวนจากดาวนักษัตรในดวงชาตา)ฤกษ์ล่าง ตัวอย่างเช่น วันอำมฤคโชค วันสิทธิโชค วันมหาสิทธิโชค วันทรทึก วันยมขันธ์ วันทักทิน ฯลฯ
ซึ่งในการคำนวนฤกษ์จะต้องอาศัยฤกษ์บนและฤกษ์ล่างประกอบกัน แล้วนำมาคำนวนร่วมกับดวงชาตาของผู้ใช้ฤกษ์อีกจึงจะถือว่าเป็นฤกษ์ที่สมบูรณ์
