บทเรียนโหราศาสตร์พระเวท คำนำ ปรัชญาโหราศาสตร์พระเวท 3
ในการศึกษาโหราศาสตร์พระเวท ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูของอินเดีย ตั้งแต่โบราณที่ผ่านมานับพันๆปี นักศึกษาที่สนใจจะศึกษาโหราศาสตร์พระเวทอย่างจริงจัง จะต้องศึกษาศาสตร์ต่างๆและสาขาวิชาต่างๆ มากมาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความทักษะและความสามารถในการทำนาย ก่อนอื่นนักศึกษาโหราศาสตร์พระเวทจะต้องมีความรู้และเชี่ยวชาญภาษาสันสกฤตให้ได้เสียก่อน เมื่อมีความรู้ภาษาสันสกฤตแล้ว นักศึกษาก็จะสามารถศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ชั้นสูงจากคัมภีร์พระเวทได้ เมื่อนักศึกษาเชี่ยวชาญคณิตศาสตร์แล้ว นักศึกษาก็สามารถเริ่มเรียนรู้วิชาดาราศาสตร์ได้ ซึ่งสมัยนี้เรียกว่าโหราศาสตร์ภาคคำนวน
เมื่อนักศึกษาเชี่ยวชาญศาสตร์ ทั้งภาษาศาสตร์ วิชาคำนวน และวิชาดาราศาสตร์ว่าด้วยการโคจรของดาวเคราะห์ ในระบบสุริยะจักรวาล ฯลฯเหล่านี้เสียก่อนจึงจะมีคุณสมบัติในการศึกษาโหราศาสตร์ได้ และเราต้องเข้าว่าในสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องคิดเลขและคอมพิวเตอร์ นักศึกษาต้องสามารถคำนวณตำแหน่งดาวเคราะห์ด้วยมือปากกาและกระดานคำนวนเท่านั้น
แม้แต่สมัยเมื่อ 50 ปีก่อนก็ต้องคำนวนด้วยมือเช่นเดียวกัน ซึ่งนาฬิกา เครื่องคิดเลข คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ต่างๆ มีแพร่หลายไปตามบ้านเรือนไม่เกิน 100 ปีมานี่เอง
แต่ในยุคปัจจุบันนี้เรามีคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ช่วยในการคำนวนทางโหราคณิตศาสตร์ได้ ทั้งการคำนวนตำแหน่งดาวเคราะห์ องศา ลิปดา จักรราศี และกลุ่มดาวนักษัตรและวิถีการโคจร ต่างๆ ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที โดยการใช้ซอฟต์แวร์โหราศาสตร์เข้ามาช่วย และช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องไปศึกษาโหราศาสตร์ภาคคำนวณ ซึ่งเป็นวิชาคณิตศาสตร์ชั้นสูง ที่มีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนอีกต่อไป และทำให้เราประหยัดเวลาในการศึกษาไปมากกว่าครึ่ง
นอกจากจะต้องศึกษาศาสตร์ที่มีกฏเกณฑ์อันซับซ้อนอย่างภาษาสันสกฤต (ภาษาที่มีหลักการที่แน่นอนทางไวยากรณ์ศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของภาษาศาสตร์สมัยใหม่) คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์แล้ว นักศึกษายังต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับศาสตร์แห่งพระเวทในระดับลึกซึ้ง
ซึ่งหมายถึงการศึกษาวรรณกรรมพระเวทอย่างเอาจริงเอาจัง รวมถึงการท่องมนต์หรือมันตราต่างๆให้คล่องแคล่ว การฝึกทำสมาธิ และฝึกโยคะต่างๆ ด้วยความศรัทธาและจริงใจอย่างแน่วแน่ มนต์หรือมัตราต่างๆเป็นสูตรลับในการเปล่งเสียงอันทรงพลังที่ช่วยให้เราเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า (มนต์แต่ละบทไม่เหมือนกัน บางบทสำหรับวัตถุ บางบทสำหรับจิตวิญญาณ) และพระผู้เป็นเจ้าคือเป้าหมายของการทำสมาธิ ส่วยโยคะ หรือโยคกรรม หมายถึงการเชื่อมโยงจิตวิญญาณในระดับอณูให้เข้ากับจิตวิญญาณสูงสุดอีกครั้ง เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับใช้และเจ้านาย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง "พรหมจารี" (นักศึกษาพระเวท) ที่ได้ศึกษาพระเวทด้วยศรัทธาอัน แรงกล้า ก็เพื่อที่จะสร้างกระบวนการในการสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าสูงสุด "พรหมจารี"ไม่เพียงแต่จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับองค์ความรู้จากพระเวทเท่านั้น แต่ยังต้องดำเนินชีวิตที่แตกต่างจากชนทั่วไป ก็เพื่อที่จะช่วยในการแสวงหาความรู้ทางจิตวิญญาณ (ผลสัมฤทธิ์อันสูงสุดของพระเวทคือความรู้ทางจิตวิญญาณ) วิถีทางในดำเนินชีวิตได้แก่ การรักษาความบริสุทธิ์(รักษาพรหมจรรย์) การรับประทานอาหารที่บริสุทธิ์ (มังสวิรัติ) ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
รักษากายและใจให้สงบระงับ มีความรู้จักควบคุมตนเอง มีความเคร่งครัดในศีล ความบริสุทธิ์ สะอาด มีความอดทน รักความเรียบง่าย รักษาสัจจะ มีความสัตย์จริง มีความเมตตา กรณา และอหิงสาธรรม รวมไปถึงการเคารพพ่อแม่และผู้ใหญ่ในตระกูล เคารพผู้มีอาวุโส เคารพครูบาอาจารย์และสมณะ เป็นต้น
เส้นทางการฝึกฝนคู่ขนานสองสายนี้ ซึ่งก็คือการฝึกฝนทางสายวิทยาศาสตร์ที่เป็นรูปธรรม เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฯลฯและศาสตร์อันลี้ลับ เช่น อภิปรัญชา โยคะ และสมาธิ ของพระเวทอันเป็นนามธรรม ก็จะก่อให้เกิดนักโหราศาสตร์ที่ทรงพลังและมีความสามารถในพยากรณ์ที่แม่นยำอย่างยิ่ง
การฝึกฝนทางวิทยาศาสตร์ข้างต้น ได้คัดแยกนักเรียนที่ฉลาดน้อยกว่าออกไป เหลือเพียงนักเรียนที่ฉลาดที่สุดเท่านั้นที่จะศึกษาต่อ การฝึกฝนทางศาสตร์ลี้ลับได้ปลูกฝังความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งเป็นแก่นแท้ของผู้มีปัญญา ดังนั้น จึงมีเพียงกลุ่มผู้มีปัญญาเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่สามารถที่ศึกษาโหราศาสตร์พระเวทต่อไปได้
ความเชี่ยวชาญทางโหราคณิตศาสตร์ชั้นสูง เช่น ตรีโกณมิติ ฯลฯ ทำให้เกิดความสามารถในการใช้เหตุผลอย่างเฉียบแหลม ซึ่งช่วยวิเคราะห์ดวงชะตาได้อย่างมาก แต่ในขณะที่การวิเคราะห์ดวงชะตาต้องใช้สติปัญญาอย่างสูงร่วมดัวย ซึ่งยังไม่เพียงพอ
ดังที่นักศึกษาโหราศาสตร์ทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โหราศาสตร์พระเวทนั้น มีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่กับนักศึกษาที่ฉลาดที่สุดก็ยังต้องยอมศิโรราบกับศาสตร์ที่ลี้ลับศาสตร์นี้
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งจำเป็น ในการทำความเข้าใจดวงชะตา เนื่องจากโหราศาสตร์เป็นศาสตร์แห่งกาลเวลา และปัจจัยแห่งกาลเวลาคือการสำแดงของพระผู้เป็นเจ้า จึงเป็นที่ทราบกันดีในวัฒนธรรมของพระเวทว่า หากนักโหราศาสตร์ต้องการประสบความสำเร็จ นักโหราศาสตร์จำเป็นจะต้องทำการเคารพบูชาพระผู้เป็นเจ้า
เนื่องจากการดลใจจากพระกฤษณะที่สถิตในหัวใจของโหรเท่านั้นที่จะทำให้โหรพยากรณ์ได้อย่างถูกต้อง ดังที่พระกฤษณะตรัสไว้ในภควัทคีตา 15.15 ว่า:เราได้ประทับอยู่ในหัวใจของคนทุกคน รวมถึงความทรงจำ ความรู้ และความหลงลืมก็มาจากเรา เราเป็นผู้รู้พระเวทอย่างลึกซึ้ง แท้จริงแล้ว เราคือผู้รวบรวมเวทานตะ และเราคือผู้รู้พระเวททั้งมวล
และในภควัทคีตา 10.10 พระกฤษณะตรัสว่า:สำหรับบรรดาผู้อุทิศตนรับใช้เราด้วยความรักอย่างสม่ำเสมอ เราจะประทานความรู้และความเข้าใจเพื่อให้พวกเขามาหาเราได้
ดูดวงโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ) ศาสตร์เดียวที่คุณยังไม่เคยดู https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
