Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

สารบัญ

คัมภีร์ :  ไม่ดำเนินทางชั่ว  ไม่แอบรังแกข่มเหง

อธิบาย : สถานที่ที่ไม่ดี อาทิเช่น บ่อนการพนัน โรงอาบอบนวด ซ่องโสเภณี ดิสโก้เทค ร้านคาราโอเกะ  เป็นต้น สถานที่เหล่านี้ต้องถือว่าเป็นทางชั่ว จะต้องหลบเลี่ยงไม่ไป  ในสถานที่มืดสลัว คนอื่นมองไม่เห็นฟังไม่ได้ยิน หรือในที่ลับตาซึ่งง่ายต่อการทำชั่ว สถานที่เหล่านี้คือเขตแบ่งระหว่างความดีความชั่ว ต้องรู้จักหักห้ามใจไม่ก้าวล่วงเข้าไปและก็จะไม่ยอมข่มเหงรังแกใครเป็นอันขาด  คัมภีร์สองคำนี้ บอกให้รู้จักหลบเลี่ยงแล้ว ที่สำคัญก็คือ ตักเตือนคน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของการเป็นคนดี “ไม่ดำเนินทางชั่ว” เป็นความสง่าผ่าเผยของจิตใจถึงแม้จะเป็นทางชั่วเล็กๆ เช่น ร้านคาราโอเกะ มีความผิดเล็กน้อยก็ตามถ้าตัดขาดได้ไม่ไปเสีย ทางชั่วใหญ่ เช่น บ่อนการพนัน โรงอาบอบนวดโสเภณี เราก็รู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดี แน่นอนยิ่งต้องละเว้น ในที่ลับตาไม่มีคนเห็นก็เป็นที่ทำชั่วได้ง่าย ถ้าในใจเราสามารถปัดกวาดให้สะอาดโปร่งใส ถึงเห็นจะอยู่ในห้องที่ผู้อื่นไม่เห็น นอกจากตนเอง เราก็จะไม่ยอมทำเรื่องชั่วร้ายเป็นอันขาดได้แล้ว  ยิ่งในที่แจ้งก็ไม่ต้องพูดถึงถ้าทำได้เช่นนี้แล้วมาทำบุญสร้างกุศล มาทำเรื่องดีงามต่างๆ ได้ ก็จะทำได้ตลอดไม่ติดขัด

เราต้องรู้ว่าบุญวาสนามาจากการให้ทดแทนคุณ หากใจเราคิดแสวงหาบุญวาสนา แม้เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นทางชั่วแล้วนะ ! เพราะฉะนั้น การจะสร้างบุญวาสนาให้กับลูกหลาน จึงไม่ควรที่จะอธิษฐานขอให้ลูกหลานมีบุญวาสนา เช่น สะสมที่ดินสร้างบ้านใหญ่โต ผูกพันจับแต่งงาน ดิ้นรนยื้อแย่ง ซื้อเกียรติยศ เหล่านี้เป็นการทำแทนลูกหลาน ช่วยหาบุญวาสนาให้ ต้องรู้ว่ารูปลักษณ์การสร้างบุญวาสนา หากมองภายนอกแล้ว ถึงแม้จะดูเงียบๆ เฉยๆ แต่ก็สามารถทำให้ลูกหลานยืนยาวและเจริญนาน ถ้ารูปแบบการสร้างบุญวาสนาดูภายนอกเห็นเป็นเอิกเกริกฟู่ฟ่า การตอบสนองบุญวาสนาของลูกหลานก็จะสั้นลง

การมีชื่อเสียงเกียรติยศ  ถ้ามีชื่อแท้จริงสมลักษณะก็ไม่เป็นไรคือดีจริงมีคุณสมบัติจริง หากใจอยากให้ดังทั่วเมือง ให้คนตีร้องป่าวประกาศ อย่างนี้เป็นทางชั่ว เพราะฉะนั้น ควรรู้จักถนอมชื่อ ไม่ใช่เป็นการสร้างชื่อสร้างภาพ หากรู้จักเรียนวรรณกรรม มีสมบัติผู้ดีเตือนให้ระมัดระวังการรับการให้  พึงใส่ใจความสง่าผ่าเผย เช่นนี้ถือเป็นการถนอมชื่อ ถ้าวิ่งเต้นให้มีชื่อในบอร์ด เบ่งอำนาจอิทธิพลแสดงความหยิ่งยโส ออกกิริยาไพร่สามัญ อย่างนี้เป็นการสร้างชื่อเพราะฉะนั้น ผู้ที่ถนอมชื่อจะปรากฎความนิ่งเงียบสงบและดูเป็นมงคลส่วนคนที่สร้างชื่อก็เห็นอึกทึกครึกโครม ดูกะเร่อกะร่า !


นิทาน ๑ : ในสมัยหมิง มีคนชื่อ หยางจื่อ เป็นชาวอำเภออู๋ เมืองเจียงซู เป็นข้าราชการตำแหน่ง ซ่างซู คืนหนึ่งเขาก็ฝันว่า เขาไปเที่ยวสวนแห่งหนี่ง แล้วก็เด็ดผลลี้ติดมือมา 2 ผล กินเข้าไป พอตื่นขึ้นมาก็ให้รู้สึกเจ็บใจตัวเองแล้วพูดว่า “นี่แสดงว่ายามปกติฉันขาดความซื่อสัตย์ เห็นแก่ได้ รู้สึกไม่ลึกซึ้งดี จึงเป็นเหตุให้ฉันต้องขโมยผลลี้ของคนอื่นกิน” ด้วยเหตุนี้เขาจึงลงโทษตนเอง โดยไม่กินข้าวอยู่หลายวัน


นิทาน ๒ : เมื่อก่อนโน้น มีสามเณรรูปหนึ่งอายุ 8 ปี นามว่าเหมี่ยวหยวน เขามีอภิญญาได้มรรคผลแล้ว ครั้งหนึ่งเขาลอยเข้าไปในราชวัง  ฮองเฮาต้องการอุ้มเขา สามเณรเหมี่ยวหยวนไม่ยอม จึงทูลฮองเฮาว่า “อุ้มหม่อมฉันไม่ได้ ฮองเฮาไม่ควรเข้ามาใกล้หม่อมฉัน  หม่อมฉันออกบวชแล้ว” ฮองเฮาก็ตรัสว่า “เจ้ากับลูกชายข้าเล็กเท่านั้นให้ข้าอุ้มเจ้าหน่อยจะเป็นไรไป”  เหมี่ยวหยวนทูลว่า “เราเอาเรื่องมิตรไมตรีมาเปรียบเทียบ ก็อย่างที่ท่านฮองเฮาตรัสเมื่อครู่นี้ แต่มิตรไมตรีเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ก็เหมือนเชื้อไฟเล็กๆ ขนาดดาวก็สามารถเผาผลาญป่าได้กว้างใหญ่โตได้ อะไรที่เป็นเรื่องอารมณ์ ก็เริ่มจากทีละน้อยจากเล็กก็กลายเป็นใหญ่ เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญญาก็จะหลบหลีกการติเตียนสงสัย นี่ก็เป็นสิ่งที่เรียกว่า ป้องกันเรื่องเล็กไว้ก่อน

นิทาน ๓ :  ในสมัยฮั่น นายหยางจิ้น เป็นผู้ว่าราชการเมืองตงไหลมีครั้งหนึ่งผ่านมาที่อำเภอที่ตนปกครอง นายอำเภอหวังมี้ก็เป็นบุคคลที่เขาคัดเลือก ตกกลางคืน นายอำเภอหวังมี่ก็นำเอาทองคำเข้ามาหานายหยางจิ้น หวังมี่พูดว่า “ค่ำมืดอย่างนี้ไม่มีใครรู้เรื่องนี้” หยางจิ้นว่า “ฟ้ารู้ดินรู้  เจ้ารู้ข้ารู้ ทำไมจึงพูดว่าไม่มีใครรู้”  หวังมี่ได้ยินแล้วรู้สึกอับอายมาก ต่อมาหยางจิ้นได้เลื่อนขั้นเป็นถึงซันกง


นิทาน ๔ :  แพทย์เหอเติ้ง เป็นหมอที่มีวิชาสูง เขามีผู้ป่วยแซ่ซุนคนหนึ่ง ป่วยมานานแล้ว ภายหลังที่แพทย์เหอเติ้งไปดูไข้ที่บ้านหลายครั้งแล้ว ภรรยาผู้ป่วยจึงพูดกับเหอเติ้งว่า “สามีฉันป่วยมานานเงินทองก็ใช้จวนหมดแล้ว ฉันยอมอุทิศกายเป็นค่าหมอค่ายา”  เหอเติ้งฟังแล้วก็พูดกับเธอย่างจริงจังว่า “คุณนายซุนทำไมจึงพูดเช่นนี้ แต่ขอให้สบายใจอย่าได้กังวล ฉันจะรักษาคุณซุนอย่างเต็มที่ ถ้าหากฉันถือโอกาสลวนลามเธอ อย่างนี้ทำให้ข้านี้ต้องเป็นคนต่ำทรามไปตลอด คุณนายก็จะสูญเสียความเป็นกุลสตรี ถึงแม้เราจะหลบพ้นการด่าทอของคนอื่นได้ แต่ต้องรู้ว่า หลบสายฟ้าได้ยากนัก !”  ต่อมาเหอเติ้งก็มีความฝัน ฝันว่าตนเองได้รับราชการตำแหน่งใหญ่ มีเทพเจ้าองค์หนึ่งพูดกับเขาว่า “เหอเติ้ง เจ้ารักษาคนช่วยเหลือคนมีบุญกุศลโดยเฉพาะภายใต้การตกอับของผู้อื่น ไม่ลวนลามหญิงชาวบ้าน ดังนั้นพระเจ้าจึงประทานตำแหน่งแก่เจ้ากับเงินอีก 5 หมื่นพวง” ภายหลังการฝันไม่นาน โอรสของฮ่องเต้เจ็บป่วย สืบหาแพทย์หลายคนมาแล้ว ต่อมาก็หามาถึงเหอเติ้ง เหอเติ้งให้ยาเพียงห่อเดียวก็หาย ดังนั้นพระโอรสถึงประทานตำแหน่งให้เหอเติ้งกับเงินอีก 5 หมื่นพวง เหมือนกับในฝันไม่พิดเพี้ยน !