ความสำคัญของดาวเคราะห์เจ้าทศา
นอกจากความสำคัญในความหมายของดาวเคราะห์ที่เป็นอุจจ์หรือเป็นนิชค์ ยังมีความสำคัญอย่างอื่นอีก (1) ขอบเขตทั่วไปของดาวเคราะห์ (2) เรือนของดาวเคราะห์และเรือนที่ถูกโยคของดาวเคราะห์ในราศีจักร สำหรับดาวเคราะห์เจ้าอนุทศา จะให้ผลในความหมายของเรือนที่ดาวเคราะห์นั้นสถิต โดยนับจากเจ้ามหาทศาเป็นเรือนที่ 1 กฎนี้ใช้ได้ดีสำหรับดาวเคราะห์เจ้าวิทศาด้วย
เจ้าอนุทศาจะให้ผลดีหรือร้ายในความหมายของตัวเอง หรือของเจ้ามหาทศา ต้องสัมพันธ์กับเจ้ามหาทศาจะโดยการร่วม, การ
22
เป็นโยค หรือการเป็นมิตรแก่กันและกัน ซึ่งดาวเคราะห์ในราศีจักรจะสัมพันธ์กันในทางเป็นมิตรหรือไม่เป็นมิตรแก่กันและกันได้เสมอ
เจ้าอนุทศาที่ร่วมกับเจ้ามหาทศา หรืออยู่ในเรือนของเจ้ามหาทศา และเจ้าอนุทศาที่มีกำลังดีเท่ากันกับเจ้ามหาทศา จะให้ผลอย่างเดียวกันกับผลของเจ้ามหาทศา
ถ้าเจ้ามหาทศากับเจ้าอนุทศาเป็นโยคแก่กันและกัน หรือไม่ขัดแย้งแก่กันและกัน ผลในอนุทศาจะเป็นผลดีเสมอ
ถ้าความสัมพันธ์ของเจ้าอนุทศาและเจ้ามหาทศา เป็นเพียงความสัมพันธ์ชั่วคราว ต้องพยากรณ์จากความสัมพันธ์ถาวรของดาวเคราะห์ ซึ่งอาจเป็นความสัมพันธ์ที่สูงกว่าหรือต่ำกว่า หรือดีกว่า หรือเลวกว่า การเป็นมิตรหรือไม่เป็นมิตรกันชั่วคราวกับเจ้ามหาทศา ถ้าเจ้าอนุทศาอยู่ในเรือนที่ 6, ที่ 8 หรือที่ 12 จากเจ้ามหาทศา จะเป็นผลร้ายเสมอ เพราะทั้งเจ้าอนุทศาก็ไม่เป็นมิตรชั่วคราวกับเจ้ามหาทศาอีกด้วย
หาทศากำเนิด
ได้กล่าวแล้วว่าทศาแรกที่เสวยอายุเมื่อเกิด ได้แก่มหาทศาของดาวเคราะห์ที่เป็นเจ้าการนักษัตร์ที่จันทร์เสวยเมื่อเกิดดังนี้
23
ถ้าจันทร์กำเนิดเสวยนักษัตร์ |
ดาวเคราะห์ - เป็นเจ้ามหาทศา เสวยอายุ – เป็นปี |
กฤตติกา, อุดตราผลคุณี, อุตตราษาฒ โรหิณี, หัสต, ศะระวะณา มฤคศิร, จิตตรา, ธนิษฐ อาระทะระ, สวาดิ, ศตภิษา ปุนะระวะสุ, วิศาขะ, ปูรหพาภัทรบาท ปุษย, อนุราช, อุตราภัทรบาท อัษเลษ, เชษฐ, เรวดี มาฆ, มูล, อัศวิณี ปูรพาผลคุณี, ปูรพาษาฒ, ภารณี |
อาทิตย์ 6 ปี จันทร์ 10 ,, อังคาร 7 ,, ราหู 18 ,, พฤหัสบดี 16 ,, เสาร์ 19 ,, พุธ 17 ,, เกตุ 7 ,, ศุกร์ 20 ,, |
สมมุติว่าสผุดจันทร์กำเนิดราศีกุมภ์ 14 องศา 34 ลิปดา, 6 องศา 51 ลิปดา ถึง 20 องศา ในราศีกุมภ์เป็นเขตของนักษัตร์ศตภิษา คือจันทร์เสวยนักษัตร์ศตภิษาซึ่งราหูเป็นเจ้าการ ฉะนั้นราหูเป็นเจ้ามหาทศาเสวยอายุเมื่อเกิด ปีมหาทศาของราหู 18 ปี แต่ราหูไม่ได้เสวยอายุตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 18 ปี เพราะเมื่อเกิดจันทร์จรผ่านเจ้าในเขตนักษัตร์ศตภิษาแล้ว (14 องศา 34 ลิปดา – 6 องศา 40 ลิปดา) = 7 องศา 54 ลิปดา เขต 13 องศา 20 ลิปดา ของนักษัตร์ศตภิเษกเท่ากับ 18 ปีของมหาทศาราหู เฉลี่ยได้ลิปดาละ
24
(6480 ÷ 700) = 7 วัน 6 มหานาที (2 ชั่วโมง 24นาที) จันทร์ผ่านเข้าในนักษัตร์ศตภิเษกแล้ว 7 องศา 54 ลิปดา (7 X 60 + 54) = 474 ลิปดา. 8 วัน 6 มหานาที X 474 = 10 ปี 7 เดือน 29 วัน 24 มหานาที. 18 ปีของมหาทศาราหู = 11 องศา 20 ลิปดา (1 นักษัตร์). จันทร์ผ่านเข้าในเขตนักษัตร์ศตภิษาแล้ว 7 องศา 54 ลิปดา เท่ากับเวลา 10 ปี 7 เดือน 29 วัน 24 มหานาที 18 ปีของระหูแปลงเป็น
17 ปี 11 เดือน 29 วัน 60 มหานาที
ผ่านไปแล้ว 10 ,, 7 ,, 29 ,, 24 ,,
คงเหลือ 7 ,, 4 ,, 0 ,, 36 ,,
ฉะนั้นราหูเสวยอายุตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 7 ปี 4 เดือน 1 วัน
จะหาเวลาเสวยอายุของทศาแรกได้จากสูตรสำเร็จนี้ด้วยความสะดวก เอาองศา, ลิปดา, ของจันทร์กำเนิดเทียบกับองศาลิปดา, ในสูตรที่มีจำนวนน้อยกว่าอย่างใกล้เคียงที่สุด จะได้ดาวเคราะห์ เจ้ามหาทศาและเวลาของทศาแรกที่เสวยอายุเมื่อเกิด จากแถวของราศีที่จันทร์กำเนิดสถิต ถ้าลิปดาจันทร์มากกว่าในสูตรให้เอาลิปดาในสูตรลบ ได้ส่วนเกินเท่าใดหาเวลาของดาวเคราะห์เจ้ามหาทศาจากสูตร 2 ได้เท่าใดเอาไปลบเวลาที่ได้จากสูตร 1 ผลเป็นเวลาสุทธิของทศาที่เข้าเสวยอายุตั้งแต่เกิด
25
สมมุติจันทร์ในราศีกุมภ์ 14 องศา 34 ลิปดา จำนวนใกล้เคียงในสูตรได้ 14 องศา 20 ลิปดา ในแถวราศีกุมภ์ได้ราหู 7 ปี 7 เดือน 24 วัน. ส่วนเกิด 14 ลิปดาของราหูในสูตร 2 ได้ 3 เดือน 24 วัน เอาไปลบ 7 เดือน 24 วัน ได้ 4 เดือน. ได้เวลาสุทธิของมหาทศาราหูเข้าเสวยอายุตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 7 ปี 4 เดือน (ไม่มีเศษวันเพราะปัดเศษมหานาทีทิ้งไป)
(อ – อาทิตย์ จ – จันทร์, ภ – อังคาร, ร – ราหู, ช – พฤหัสบดี, ส – เสาร์, ว – พุธ, ก – เกตุ, ศ – ศกร์. ปี – ปี, ด – เดือน, ว – วัน.)