Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

มุหูรตะ

บทที่ 1

ความสำคัญของฤกษ์ยาม

โดย อ.รัตน์-ศิระ นามะสนธิ

กาลหรือเวลาเป็นสิ่งมีค่าเหลือจะประมาณได้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากเวลา ความเจริญก็อยู่ที่เวลาความเสื่อมก็อยู่ที่เวลา ข้อนี้เป็นความจริงที่ยืนหยัดดท้าทายให้พิสูจน์ได้ตลอดกาล เมื่ออำนาจในการสร้าง การพิทักษ์รักษา และการทำลาย อยู่ใต้อิทธิพลของเวลาเช่นนี้ เป็นการสมควรหรือไม่ที่จะปรึกษาอิทธิพลของพลังงานที่เกิดในสุริยจักรวาล และจักรวาลของดาวเคราะห์อื่นที่ได้รับอิทธิพลจากอาทิตย์ในการแจกจ่ายพลังงาน เพื่อหาทางดียิ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องอิทธิพลของเวลา

ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงเรื่องดาวเคราะห์สำแดงอิทธิพลต่อมนุษย์ เพราะเรื่องนี้มีในตำราเล่มอื่นแล้ว อาทิตย์เป็นมูลฐานทุกอย่างของการดำรงชีวิต อาทิตย์เองเป็นเจ้าการในเรื่องเวลา และอิทธิพลของอาทิตย์แผ่สร้านปกคลุมอยู่ในทุกระยะของเวลา พร้อมด้วยอำนาจของพลังงานสำหรับการสร้าง การพิทักษ์รักษา และการทำลาย มหาฤาษีสมัยโบราณได้เฝ้าสังเกตอิทธิพลของพลังงานนี้ และรวบรวมสิ่งที่ได้พบเห็นยกขึ้นเป็นสูตรไว้มากมาย ในคัมภีร์ที่ให้ชื่อว่ามุหูรตะ จังหวะของเวลาเป็นความสำคัญสำหรับสรรพสิ่งทั่วไปเนื้อแท้ชั้นที่หนึ่งของเวลาได้แก่ พลังงานธรรมชาติของดาวดาวที่อำนวยผลในจังหวะต่าง ๆ ของเวลา แต่ละจังหวะของเวลามีคุณสมบัติพร้อมมูลอยู่ในตัว การเจริญเติบโตและความเสื่อมสลายเป็นผลธรรมชาติในวงจรแห่งความหมุนเวียนของเวลา ฉะนั้นการประกอบกิจการใดก็ดีเช่น การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ตลอดจนการเที่ยว การเล่น จึงต้องเลือกกระทำในเวลาที่เหมาระแก่กิจการนั้น เพราะว่าอิทธิพลแห่งพลังงานของอาทิตย์และดาวเคราะห์อื่นไม่ดำเนินอย่างสม่ำเสมอเพียงในระยะวันหนึ่ง ๆ ย่อมผิดแผกแตกต่างกันตามจังหวะของเวลา เช่น อิทธิพลของอาทิตย์ในเวลาเช้า บ่าย เย็น และเที่ยงคืน จะไม่ใช่อย่างเดียวกันในเรื่องความร้อน แสง อำนาจดึงดูด กระแสกระตุ้นเตือน การตื่นตัว ฯลฯ ฉะนี้มหาฤาษีจึงค้นคว้าหามูลเหตุดีร้ายในจังหวะหนึ่ง ๆ ของเวลาซึ่งเป็นความสำคัญพิเศษในความหมายของคำว่ามุหูรตะ ความแตกต่างกันระหว่างมุหูรตะและชะตากำเนิดมีอยู่ว่า เราพิจารณาผลในชะตากำเนิดจากฐานะและที่สถิตตายตัวของดาวเคราะห์เมื่อเกิด ซึ่งเป็นผลอดีตกรรมของเจ้าชะตาเอง หรือกล่าวได้อีกทางหนึ่งว่าดวงชะตะกำเนิดแสดงให้เห็นผลอดีตกรรมที่ตามติดมากับเจ้าชะตาตั้งแต่เกิด ซึ่งให้ผลแต่ร่างกาย จิตใจ การดำรงชีพ และปัจจัยประกอบอื่น ๆ การพิจารณาชะตากำเนิด พิจารณาด้วยหลักวิชาธรรมดาจากเครื่องหมายที่จารึกแทนดาวเคราะห์และสัญญลักษณ์อื่น ๆ ส่วนมุหูรตะมีความสำคัญกว่าในประการที่เราสามารถเลือกเอาจังหวะเวลาที่มีค่าสำหรับเรื่องภายหลังการเกิด ซึ่งสามารถปัดเป่า ทำให้เป็นกลาง ขัดขวาง หรือเอาชนะ แก่ผลร้ายที่แสดงอยู่ในชะตากำเนิด เครื่องหมายหรือสัญญลักษณ์ในชะตากำเนิดเพียงชี้ให้เห็นผลตายตัว ไม่มีกำหนดเปลี่ยนแปลงหรือขจัดปัดเป่าผลร้ายได้ ส่วนมุหูระตะเป็นสิ่งที่ให้กำหนดในการป้องกันและแนะนำให้ใช้ความกล้า ความพยายาม และการเสี่ยง ในเวลาหรือจังหวะที่เป็นศุภมงคล สามารถพลักดันผมร้าย และประสพความสำเร็จในผลดี นี่เป็นความสำคัญพิเศษของมุหูรตะ เพราะการเลือกจังหวะเวลาสำหรับความมุ่งหมายอย่างหนึ่ง ๆ จะต้องให้ได้จังหวะเวลาที่มีการไหวตัวในทางดีทุกอย่าง ที่เหมาะสมแก่ความมุ่งหมายนั้น ๆ เป็นจุดสำคัญ เพราะพลังงานที่เหมาะสมจะทำลายส่วนที่เป็นอวมงคลให้ไร้ค่าในการสำแดงผล

สมมุติว่าในชะตะกำเนิดแสดงให้เห็นความไม่สมบูรณ์สำหรับการศึกษา เพราะมีดาวร้ายอยู่ในเรือนที่ ๔ จากลัคน์และพฤหัสบดีเจ้าการ การศึกษา พุธเจ้าการความรู้และเชาว์ ถูกเบียน ฐานะเช่นนี้ของเรือนและดาวเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า เจ้าชะตาขาดการศึกษา เพราะผลกรรมแต่อดีตชาติ เรื่องอย่างนี้คัมภีร์มุหูรตะบรรยายว่าอุปสรรคในการศึกษาที่ชี้หมายในชะตากำเนิด จะให้อุปสรรคนั้นลดน้อยเบาบางบลงได้ โดยเริ่มต้นการศึกษาในเวลาที่เป็นศุภมงคลสำหรับการศึกษา อีกประการหนึ่งบสมมุติว่ามีดาวร้ายในเรือนที่ ๕ ซึ่งหมายถึงการสูญเสียบุตร มุหูรตะจะช่วยได้เป็นขั้นแรก โดยแนะนำให้ทำการสมรสในเวลาที่เป็นศุภมงคล สำหรับการสมรส ในขณะเมื่อรังษีที่กระจายจากดาวเคราะห์มีกำลังแรงพอที่จะตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงอำนาจของผลร้าย ในเรื่องการเกิดและการรอดชีวิต ซึ่งอย่างน้อยก็ประกันการมีบุตรและให้บุตรมีชีวิตได้อยู่บ้าง ฉะนั้นมุหูรตะช่วยตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงผลร้ายได้กว้างขวาง แต่ขอเตือนอย่าให้นักศึกษาหลงคิดว่า มุหูรตะเป็นกุญแจสำคัญในเรื่องทรัพย์สินและความสุขทั้งมวล มุหูรตะเพียงให้เรารู้ได้ว่าควรจะทำการอย่างใดเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวซึ่งอาจมีขึ้นเท่านั้น


ผลสำเร็จหรือความล้มเหลวของมนุษย์เป็นเรื่องธรรมชาติของการดึงดูดและการผลักดัน ระหว่างมนุษย์กับวัตถุที่มนุษย์เกี่ยวข้องหรือกระทำอยู่ทุกเมื่อทุกวัน มุหูรตะจำกัดขอบเขตว่าขณะใดเป็นเวลาที่มีค่าสำหรับกิจการอย่างใด โดยคัดเลือกจังหวะดำเนินงานแต่ละอย่างให้สอดคล้องต้องกันกับแต่ละชนิดของอิทธิพลแห่งดาวเคราะห์ อาศัยการพิจารณาจากการผูกดวงในเวลาที่ต้องการ แล้วนำดวงที่เรียกว่าดวงฤกษ์นั้นมาเปรียบเทียบกับดวงกำเนิดของผู้ประกอบกิจการ ก็จะได้ฤกษ์ยามที่ได้ผลสมบูรณ์