หน้า 2 จาก 5
ที่มาของโหราศาสตร์พระเวท(โหราศาสตร์ภารตะ)
การดูดวงชะตาและสามารถทำนายให้แม่นยำนั้นทำไม่ยาก แต่การแก้ไขดวงชะตานั้นยากยิ่งกว่า เช่นว่าดูแล้วบอกว่าแก้ไขดวงชะตาไม่ได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าหากรู้แล้วแต่บอกว่าแก้ไม่ได้ แล้วเราจะรู้ดวงชะตาไปทำไมกัน
และที่สำคัญก็คือเมื่อรู้แล้วว่า ตนเองจะมีเคราะห์หรือโชคร้าย เราก็สามารถใช้วิชาโหราศาสตร์หาทางหลีกเลี่ยงผ่อนหนักเป็นเบา
และหากเมื่อตัวเองเจอปัญหาหนักๆในชีวิต อับจน หมดสิ้นหนทาง "วิชาโหราศาสตร์" ก็มีวิธีการเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จนสามารถหาทางออกให้จนได้ ซึ่งจะทำให้เราอยู่เหนือดวงชะตา กลายเป็น"คนเหนือดวง"เพราะวิชาโหราศาสตร์เป็นวิชาที่บ่งบอก"วิบากกรรม"ของเราไม่ว่าจะกรรมดีหรือ กรรมชั่ว จะกรรมนี้ให้ผลดีผลร้ายเมื่อใด ก็จะแสดงใน"แผนที่กรรม"ของเราให้เห็น "ผ่านดวงดาว" บนฟากฟ้า ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต
วิชาระดับโหรหลวงของหลายประเทศที่รับวัฒนธรรมจากอินเดีย
โหรหลวงในหลายอาณาจักรในสมัยโบราณ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มักใช้วิชา"โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)" หรือบางทีก็เรียกว่า โหราศาสตร์ฮินดู เป็นโหรประจำราชสำนักของอาณาจักรต่างๆ แม้กระทั่งประเทศจีนเองก็ตาม เมื่อรับเอาพระพุทธศาสนาไปเป็นศาสนาประจำราชวงศ์เกือบทุกราชวงศ์ เกือบ 2000 ปี พระสงฆ์จากอินเดียที่มาจากตระกูลพราหมณ์ หรือพราหมณ์อินเดียเองก็นำเอาโหราศาสตร์นี้มาเป็นโหรหลวงในราชสำนักของจีน จนกลายเป็นวิชาหนึ่ง ที่เรียกว่า "โหราศาสตร์ชีเจิ้ง" 七政 ซึ่งก็คือโหราศาสตร์พระเวท-เวอร์ชั่นภาษาจีนนั่นเอง
โหราศาสตร์พระเวท หรือ โชติษะศาสตร์ ซึ่งเป็นศาสตร์ๆหนึ่งคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ หรือเรียกกันว่า"วิชาโหรพราหมณ์"ที่โหรหลวงในแคว้นต่างๆประเทศอินเดียใช้กันมาตั้งแต่โบราณ เป็นศาสตร์แห่งความรู้อันสูงส่งและลึกล้ำของ"คัมภีร์พระเวท"ของพราหมณ์ ซึ่งถูกปกปิดเป็นความลับอย่างยิ่ง และสืบทอดกันมาเฉพาะใน"วรรณะพราหมณ์"มานานนับพัน ๆปี
และหลายพันปีที่ผ่านมา "ศาสนาพราหมณ์"กับ"โหราศาสตร์พระเวท" ก็แพร่หลายไปทั่วทุกอาณาจักร โดยเฉพาะอาณาจักรโบราณในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ได้มีคณะพราหมณ์ไปเป็น"โหรหลวง"ประจำราชสำนักในอาณาจักรต่างๆ แต่ทุกวันนี้สูญหายไปเกือบหมด
จนเมื่อกระทั่งอินเดียตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษเมื่อ ปี 2401-2517 ประมาณ100 ปีก่อน ชาวอังกฤษเห็นความหัศจรรย์ของภูมิปัญญา คัมภีร์พระเวทของพราหมณ์ จึงสั่งให้ทำการแปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งรวมถึงโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)ด้วย ในฐานะเจ้านาย พราหมณ์จึงยินยอมเปิดเผย"ความลับที่ถูกปกปิดมานานนับพัน ๆปี" นำมาแปลและเผยแพร่ให้สาธารณชนได้ศึกษาไปทั่วโลก นี่คือที่มาของโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)ที่ถูกต้องแม่นยำ ซึ่งได้ถูกเปิดเผยมาไม่ถึงร้อยปีนี่เอง
นอกจากนี้ชาวอังกฤษก็ได้ขุดพบโบราณสถานเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่สาปสูญไปนับพันปี ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เนื่องจากเริ่มแรกได้ค้นพบสถูปพระบรมสารีกริกธาตุ ซึ่งตรงกับรัชกาลที่5และอังกฤษได้มอบพระบรมสารีริกธาตุ ให้กับประเทศสยาม ปัจจุบันนี้บรรจุไว้ในบรมบรรพต(ภูเขาทอง) จนถึงทุกวันนี้
และชาวอังกฤษจึงประกาศให้โลกรู้เป็นครั้งว่า "พระพุทธเจ้ามีอยู่จริง" ในประวัติศาสตร์ ไม่ใช่นิทาน เรื่องเล่าที่ชาวตะวันตกเชื่อกัน (แต่เราชาวพุทธนั้นเชื่ออยู่แล้วไม่เคยสงสัย) ก็เลยมีการขุดค้นโบราณสถานตามที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก และก็ได้พบสิ่งสำคัญที่สุด ก็สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ซึ่งทำให้พวกเราชาวพุทธได้ไปแสวงบุญจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
นอกจากจะมีคัมภีร์สำหรับการพยากรณ์อันแม่นยำแล้ว ก็จะมีคัมภีร์สำหรับเคล็ดวิธีแก้ดวงและเสริมดวงโดยเฉพาะ โดยอ้างอิงจากคัมภีร์พระเวทโบราณ และมีหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน สืบเนื่องและพิสูจน์ความแม่นยำมาตลอด 5000 ปี