มี 474 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์
การให้ฤกษ์มงคลสมรส ฤกษ์หมั้น ฤกษ์แต่งงาน พิธีไทย และฤกษ์จดทะเบียนสมรส
ในการหาฤกษ์แต่งงานนี้ นับว่ายากมาก ทางโหรภารตะจะจัดเจนมากในการพิจารณาหาความสัมพันธ์การครองคู่ของสามีภรรยา โดยพิจารณาจาก “มหากูฏะ 8ประการ” เพื่อดูว่าสมพงษ์กันหรือไม่และการพิจารณาหาความสัมพันธ์และความขัดแย้งต่างๆและปรับปรุงผลของดวงฤกษ์แต่งงาน เพื่อให้เป็นศุภผลใน การดูฤกษ์แต่งงานไม่ใช่เป็นเรื่องพิธีกรรมแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นเป็นเพียงรูปแบบ แต่ประเด็นหลักของการใช้ฤกษ์แต่งงานในทางโหราศาสตร์ในสัญลักษณ์แห่งพิธีกรรมก็ คือเป็นหลักประกันที่สำคัญที่สุด ที่ จะการประกันชีวิตสมรสได้ว่า การสมรสนั้นจะมั่นคงราบรื่น ฐานะมั่นคง ไม่มีปากเสียงและเกิดการทะเลาะวิวาทในคนทั้งสอง ไม่เกิดการอย่าร้าง และเกิดบุตรที่มีปัญญา ฉลาดเฉลียว และสืบวงศ์ตระกูลไปในภายภาคหน้า
เรามาทำความเข้าใจกันก่อน
1.สำหรับการระบุช่วงเวลาที่ต้องการจัดพิธีแต่งงาน ควรจะให้ช่วงเวลามาอย่างน้อย 3-6 เดือน การคำนวณฤกษ์แต่งงานชั้นสูงจากโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)นั้นไม่เหมือนโหราศาสตร์ระบบอื่นๆ
2.ฤกษ์แต่งงาน เนื่องจากอาจารย์คำนวณฤกษ์มาจากดวงกำเนิดของคู่บ่าว-สาวเป็นสำคัญซึ่งต้องใช้เวลาคำนวณนานมากและคำนวณออกมาเป็นนาที ไม่ใช่ไปเปิดปฏิทินดูแล้วให้ฤกษ์ แบบนี้ 5 นาทีก็ออกฤกษ์ได้แล้ว ซึ่งฤกษ์แบบนี้เรียกว่าฤกษ์โหลๆ ซึ่งไม่ให้ผลดีอะไรเลย
3.ฤกษ์แต่งงานชั้นสูงนี้ที่คำนวณมาจากดวงคู่-บ่าวสาวจะเป็นฤกษ์ที่สมพงศ์ดวงคู่ มีพลังส่งเสริมให้ชีวิตคู่ประสบความสำเร็จ ได้มีอภิชาตบุตร เสริมครอบครัวให้มั่นคง มั่งคั่ง เจริญรุ่งเรืองไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ไม่ใช่ดูว่าเป็นวันดีจากปฏิทินฤกษ์แล้วก็จัดงานแต่งเลย ซึ่งปฏิทินฤกษ์ยามคำนวณแต่ฤกษ์บน ไม่ได้เอาดวงเราเข้าไปคำนวณด้วย ดังนั้นฤกษ์ดีตามปฏิทินก็ไม่ได้ว่าจะดีกับทุกคนและอาจจะเป็นโทษร้ายแรงกับเราก็ได้เพราะไม่สมพงศ์กัน เพราะฤกษ์ดีในปฎิทินโหรนั้นมีไว้หรับคนเรียนโหรมาเท่านั้นจึงจะเข้าใจเพราะต้องสอบทานกับดวงชาตาก่อนแล้วจึงให้ฤกษ์ แต่ชาวบ้านซื้อไปอ่านคิดว่าฤกษ์ดี กลับกลายเป็นโทษไป อาจารย์เองก็เคยทำปฏิทินฤกษ์มงคลมาแล้ว3 ปี คลิ๊กดูปฏิทิน แต่คนที่ไม่ได้เรียนโหรนำไปใช้ก็เลยเกิดความเข้าใจผิด อาจารย์ก็เลยคิดว่าหากทำต่อไปจะเกิดโทษกับคนอ่านก็เลยเลิกทำ
4. ปกติแล้วอาจารย์จะพยายามหาฤกษ์จากดวงชาตาให้ได้ฤกษ์แต่งงานใน วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก่อนเป็นอันดับแรก แต่อาจารย์จะไม่ให้ฤกษ์แต่งงานในวันอังคารและพุธโดยเด็ดขาด
5.ส่วนมากคนจะเข้าใจผิดว่า จัดพิธีแต่งงานตอนกลางวันแล้ว กลางคืนต้องเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในคืนนั้นเลย ซึ่งต้องขอบอกว่า การเลี้ยงฉลองมงคลสมรส นั้นไม่ใช่ฤกษ์ "ไม่จำเป็นจะต้องทำในวันเดียวกันกับวันแต่ง" เช่น หากเราได้ฤกษ์เป็นวันจันทร์ หรือวันพฤหัส เราก็จัดพิธีแต่งงานให้สมบูรณ์ตามฤกษ์แต่งงานก่อน พอถึงเสาร์-อาทิตย์ ก็ค่อยจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ซึ่งตอนนี้สามารถเชิญแขกและญาติพี่น้องมาร่วมงานได้เต็มที่ สมมุติว่าบ้านเจ้าสาว อยู่ต่างจังหวัด บ้านเจ้าบ่าวอยู่ กทมก็สามารถจัดงานเลี้ยงได้ 2 ครั้ง ทั้ง กทม และ ตจว แต่ต่างวันต่างที่กัน โดยเราสามารถเลือกเป็นคืนวันศุกร์-วันเสาร์-อาทิตย์ได้เองเลย โดยไม่ต้องดูฤกษ์ เพราะฤกษ์แต่งงานนั้นได้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วในตอนทำพิธีแต่ง ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกของแขกเป็นสำคัญ
