โศลกที่ ๖๒
ให้หาสมผุลของผลต่างระหว่างเสาร์ และ มานที ในชะตาว่ามีเท่าใด และคิดดูว่าอยู่ราศีใดองศาเท่าใด ถ้าเสาร์โคจรเป็นตรีโกณกับจุดนี้ เจ้าชะตาจะตาย อีกประการหนึ่ง ท่านว่าสมผุสของธูมาทิปัญจะเคราะห์อยู่ตรียางค์ใด เสาร์ผ่านตรียางค์นั้นเจ้าชะตาจะตาย ฯ
หมายเหตุ
ธูมาทิปัญจะเคราะห์คืออุปเคราะห์ ๕ ดวงของดาวดังต่อไปนี้ ธูมะของอังคาร อรรทประหระของพุธ ยะมะกัณฏะกะของพฤหัสบดี โกณฑัณฑะของศุกร์ และมานทีของเสาร์
เวลาของอุปเคราะห์อรรทประหระ คือ
วัน กลางวัน กลางคืน
อาทิตย์ เวลา ๑๑.๓๖ น. เวลา ๐๔.๒๔ น.
จันทร์ “ ๑๐.๐๐ น. “ ๐๒.๔๘ น.
อังคาร “ ๐๘.๒๔ น. “ ๐๑.๑๒ น.
พุธ “ ๐๖.๔๘ น. “ ๒๓.๓๖ น.
พฤหัสบดี “ ๑๖.๒๔ น. “ ๒๒.๐๐ น.
ศุกร์ “ ๑๔.๔๘ น. “ ๒๐.๒๔ น.
เสาร์ “ ๑๓.๑๒ น. “ ๑๘.๔๘ น.
การหาสมผุสของธูมะ เมื่อรู้สมผุสของอาทิตย์แล้วในชะตา ท่านให้เอา ๔ ราศี ๑๓ องศา ๒๐ ลิบดาบวก จะเป็นสมผุสของธูมะ หรือจะพูดง่ายๆธูมะจะห่างจากอาทิตย์ไปทางหน้า ๑๐ นักษัตรหรือ ๔๐ นวางค์พอดี หรือเท่ากับบวกด้วย ๑๓๓ องศา ๒๐ ลิบดา
การหาสมผุสอุปเคราะห์ของราหู หรือวัยตีปาตะ ท่านให้เอา ๓๖๐ องศาตั้ง ลบด้วยองศาของธูมะ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นสมผุสของวัยตีปาตะ
การหาสมผุสอุปเคราะห์ของจันทร์หรือปะริธิ ท่านให้เอา ๑๘๐ องศาไปบวกกับวัยตีปาตะ ผลลัพธ์ที่ได้คือสมผุสของปะริธิ
การหาสมผุสอุปเคราะห์ของศุกร์หรือโกทัณฑะ ท่านให้เอา ๓๖๐ องศาตั้ง ลบด้วยปะริธิ ผลลัพธ์ที่ได้คือสมผุสของโกทัณฑะ
โศลกที่ ๖๓
ท่านให้พิจารณาดูว่ามานทีอยู่ในตรียางค์ใด นวางค์ใด และทวาทะศำศะใด สมมุติว่ามานทีอยู่ราศีกุมภ์ ๒ องศา ๒๗ ลิบดา ๕๔ พีลิบดา มานทีสถิตในตรียางค์ที่ ๑ ของราศีกุมภ์คือนวางค์ตุลย์ และมานทีสถิตในทวาศำศะของราศีกุมภ์ ท่านว่าเจ้าชะตาจะตายเมื่อพฤหัสบดีโคจรเป็นตรีโกณกับราศีตุลย์ เสาร์โคจรเป็นตรีโกณกับราศีกุมภ์ และอาทิตย์โคจรเป็นตรีโกณกับราศีกุมภ์ ฯ
โศลกที่ ๖๔
ท่านให้หาผลรวมของลัคนาและมานที ได้เท่าใดหาสมผุสของจุดนี้ในดวงชะตา ถ้าอาทิตย์โคจรผ่านจุดนี้ เจ้าชะตาจะตาย หาสมผุสรวมของมานทีและจันทร์ จันทร์ผ่านจุดนี้เจ้าชะตาจะตาย หาสมผุสรวมจากลัคนา มานทีและจันทร์ในชะตา จุดนี้เป็นจุดมรณะลัคนาของเจ้าชะตา คือถ้าลัคนาอยู่จุดนี้เป็นเวลาตายของเจ้าชะตา ฯ
โศลกที่ ๖๕
ท่านให้เอา ๙ คูณมานที และคูณเสาร์ในชะตา แล้วหาสมผุสรวมของผลลัพธ์นี้ว่าอยู่ในราศีใด องศาใด เสาร์ผ่านจุดนี้เจ้าชะตาจะตาย ฯ
โศลกที่ ๖๖
หาสมผุสรวมของเจ้าภพที่ ๖-๘ และ ๑๒ ท่านว่าเสาร์ผ่านจุดนี้หรือโคจรเป็นตรีโกณกับจุดนี้เจ้าชะตาจะตาย ฯ
โศลกที่ ๖๗
เอา ๙ คูณผลรวมองศาของเสาร์และมานที เอา ๙ คูณองศาของพฤหัสบดีแล้วเอาผลลัพธ์ทั้งสองจำนวนรวมกันคิดหักหาสมผุสของจุดรวม เสาร์ มานทีและพฤหัสบดีว่าอยู่ราศีใดองศาเท่าใด ถ้าพฤหัสบดีโคจรผ่านจุดนี้เจ้าชะตาจะตาย ฯ
โศลกที่ ๖๘
เอา ๙ คูณผลรวมองศาของเสาร์และมานทิ เอา ๙ คูณองศาของอาทิตย์ เอา ๙ คูณผลรวมองศาของอาทิตย์และมานทิ ผลลัพธ์ทั้งสามประการรวมกันทำเป็นสมผุสขึ้นในดวงชะตาว่าอยู่องศาใดราศีใด ถ้าอาทิตย์ผ่านจุดนี้เจ้าชะตาจะตาย ฯ
โศลกที่ ๖๙
ให้พิจารณาดูว่ามีพระเคราะห์ใดที่ร่วมราศีกับเจ้าเรือนของภพที่ ๑ หรือ ที่ ๕ บ้าง เมื่อมีแตกเป็นวันเดือนปี ตามกำลังทศาของดาวที่ร่วมนั้นและหารด้วย ๑๒ ผลลัพธ์จะได้เป็นจำนวนอายุของเจ้าชะตา ฯ
โศลกที่ ๗๐
เอา ๙ คูณผลรวมองศาของเสาร์และมานทิ เอา ๙ คูณองศาของจันทร์ เอา ๙ คูณผลรวมองศาของจันทร์และมานทิ ผลลัพธ์ทั้งสามประการรวมกันเท่าใดคิดเป็นสมผุสในชะตาว่าอยู่ราศีใดและองศาเท่าใด ถ้าจันทร์โคจรผ่านจุดนี้เจ้าชะตาจะตาย ฯ
โศลกที่ ๗๑
ถ้าเจ้าชะตาเกิดกลางวันให้หาผลรวมองศาของอาทิตย์และเสาร์ เมื่อได้ผลรวมแล้วทำเป็นจุดสมผุสในชะตาว่าจุดนี้ตกอยู่ในนักษัตรใดและในส่วนใดของนักษัตรนั้น ท่านว่าในการเสวยอายุตามระบบของทศา ถ้าดาวที่ครองนักษัตรนี้เสวยอายุคิดจนถึงจุดนี้เจ้าชะตาจะตายถ้าเกิดกลางคืน ท่านให้หาผลรวมองศาของจันทร์และราหู และคิดอย่างเดียวกันกับที่ได้กล่าวมาแล้ว ฯ
เหตุที่ทำให้ตาย
โศลกที่ ๗๒
ตรียางค์ที่ ๒๒ จากตรียางค์ของลัคนาเป็นสาเหตุที่จะทำให้เจ้าชะตาตาย ในการตายของเจ้าชะตานอกจากจะพิจารณาเกี่ยวกับตรียางค์ที่ ๒๒ ว่าเป็นตรียางค์เทียบเท่ากับราศีใด อยู่ในราศีใด และจะต้องพิจารณาถึงดาวที่ครองตรียางค์นี้ด้วย ฯ
โศลกที่ ๗๓
ท่านให้พิจารณาว่าตำแหน่งของมานที อยู่ในราศีใดและนวางค์ใดด้วย ต่อไปให้ดูว่าภพที่ ๗ จากมานทีและในนวางค์ที่เล็งกันพอดีนั้น มีพระเคราะห์อะไรสถิตอยู่ ถ้าพระเคราะห์ที่เล็งกับมานทีโดยนวางค์พอดีนี้เป็นพวกศุภเคราะห์ เจ้าชะตาจะตายอย่างสบายไม่กระวนกระวาย ถ้าอังคารเล็งจะตายในการต่อสู้กัน ถ้าเสาร์เล็งจะถูกลอบทำร้ายตาย ถูกโจรฆ่าตาย ตายจากพิษของสัตว์เลื้อยคลานต่างๆเช่นงูกัดตาย ถ้าอาทิตย์หรือจันทร์ไม่มีแสงเล็ง เจ้าชะตาจะตายโดยน้ำมือของผู้มีอำนาจหรือผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินหรือมิฉะนั้นจะตายเนื่องจากสัตว์น้ำ ฯ
โศลกที่ ๗๔
ถ้าดาวที่เข้มแข็งให้แสงถึงภพที่ ๘ จากลัคนา เจ้าชะตาจะตายเนื่องจากพิษของการอักเสบตามความหมายของพระเคราะห์ที่ให้แสงถึง ถ้าดาวที่ให้แสงถึงเป็นอาทิตย์หมายความถึงความร้อน เช่นถูกไฟไหม้ ถ้าเป็นจันทร์หมายถึงโรคที่เกี่ยวกับน้ำ ถ้าอังคารหมายถึงบาดแผล เกี่ยวกับการถูกอาวุธ ถ้าเป็นพุธหมายถึงโรคที่มีความร้อนสูงเช่นไข้ต่างๆ ถ้าเป็นพฤหัสบดีหมายถึงโรคเกี่ยวกับปอดซึ่งมีเสลดเสมหะมาก ถ้าเป็นศุกร์หมายถึงความอดอยาก กาอดอาหาร ถ้าเป็นเสาร์ หมายถึงการอดน้ำ การขาดน้ำ
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๘ จากลัคนากุมลัคนาจะตายด้วยโรคความหมายเกี่ยวกับภพที่ ๘ นั้นว่าเป็นราศีใดหรือตรียางค์ใด ถ้าภพที่ ๘ เป็นจรราศีจะตายต่างถิ่น ถ้าภพที่ ๘ เป็นราศีสถิระราศีจะตายในถิ่นของตน ถ้าภพที่ ๘ เป็นอุภยราศีจะตายบนถนน ฯ
โศลกที่ ๗๕
ท่านให้พิจารณาดูว่าภพที่ ๘ จากลัคนา มีพระเคราะห์ใดสถิตอยู่ พระเคราะห์นั้นจะเป็นเหตุให้เจ้าชะตาตาย ถ้าไม่มีดาวในภพที่ ๘ ให้พิจารณาว่ามีดาวอะไรให้แสงถึงภพที่ ๘ ทายว่าจะตายเพราะดาวนั้น ถ้ามีดาวหลายดวงด้วยกันให้เลือกทายเฉพาะดาวที่เข้มแข็งที่สุด ถ้าไม่มีดาวในภพที่ ๘ และไม่มีดาวใดให้แสงถึงภพที่ ๘ ด้วย ท่านให้ทายสาเหตุการตายจากเจ้าเรือนที่ครองตรียางค์ที่ ๒๒ จากตรียางค์ของลัคนาในชะตา ฯ
โศลกที่ ๗๖
ถ้ามีบาปเคราะห์ในภพที่ ๘ เจ้าชะตาจะตายอย่างทารุณลำบากยากเย็นตามความหมายของพระเคราะห์นั้น หรือมิฉะนั้นจะได้รับภยันตรายจากผู้อื่นโดยถูกอาวุธตามลักษณะของดาวนั้น แต่ถ้ามีศุภเคราะห์ในภพที่ ๘ เจ้าชะตาจะตายอย่างปกติไม่ทุรนทุรายด้วยประการต่างๆ ฯ
โศลกที่ ๗๗
ในชะตามีอังคารอยู่ในราศีตุลย์ อาทิตย์อยู่ในราศีพฤษภ และมีจันทร์อยู่ในราศีที่ครองด้วยเสาร์ ท่านว่าจะตายในที่สกปรก เช่นกองขยะเป็นต้น ฯ
โศลกที่ ๗๘
ในชะตาถ้ามีจันทร์ซึ่งไม่มีแสงอยู่ในภพที่ ๘ และมีเสาร์ที่เข้มแข็งให้แสงถึงจันทร์ด้วย เจ้าชะตาจะตายด้วยโรคทวารหนักหรือโรคตา หรือจะตายเพราะการผ่าตัดหรือถูกอาวุธ
โศลกที่ ๗๙
ถ้าบาปเคราะห์ทั้งสามดวงคืออาทิตย์ อังคารและเสาร์ร่วมกับจันทร์อยู่ในภพที่ ๘ จากลัคนา หรือร่วมกันในภพใดๆเป็นตรีโกณกับลัคนาพอดี เจ้าชะตาจะตายเนื่องจากลมพายุพัดตกเขา หรือตกเหว ลมพัดไม้หรือหินทับตาย หรือตกจากที่สูง หรือฟ้าผ่าตาย ฯ
