วิเคราะห์จากดาวอุปเคราะห์
ดาวอุปเคราะห์ทั้งแปด ล้วนเป็นอัปมงคลและก่อให้เกิดผลร้าย ยกเว้นดาวอุปเคราะห์”ยะมะฆัณฏกะ” (यमघण्ट्क) –เป็นบุตรของพระพฤหัส และมีพลังในการให้ผลดีเช่นเดียวกับดาวพฤหัสบดี แต่ดาวอุปเคราะห์ทีเหลือทั้งแปด มีอิทธิพลชั่วร้ายในภวะ (เรือน) ที่ดาวอุปเคราะห์ทั้งแปดเหล่านี้สถิตอยู่
หลักและวิธีการวินิจฉัย
อ่านทฤษฎีจากตอนที่ 4 https://bit.ly/44PwG6Q
1.ดาวเกตุ(สากล)(ไฟ)ในพื้นดวงเดิมราศีกันย์ 25 องศา กุมกับดาวอุปเคราะห์จร ธูมะ (ควัน) 25องศา และคุลิกา(บุตรของพระเสาร์) 27 องศา ในราศีกันย์ บ่งบอกถึงภัยพิบัติจากไฟ
2.ดาวเกตุ(สากล)(ไฟ)ในพื้นดวงเดิมราศีกันย์ 25 องศา +ดาวจรธูมะ+คุลิกา เล็งกับดาวจรอิทราจาปะ ที่ราศีมีน บ่งบอกถึงอุบัติเหตุและความหายนะ
3.ดาวเกตุ(สากลจร) สถิตราศีพฤษภ 7 องศา กุมดาว อังคารเดิม 11 องศา เล็งด้วยราหูจร 7องศาราศีพิจิก ซึ่งเป็นภพมรณะของดวงเมือง ซึ่งดาวอังคารเป็นเจ้าเรือนลัคนา (ลัคนาธิปติ) และเป็นเจ้าเรือนมรณะด้วย ดังนั้นภัยพิบัติทั้งหมดล้วนส่งผลต่อเจ้าชะตาหรือลัคนาโดยตรง อย่างไม่ต้องสงสัย
4.ดาวอุปเกตุจร 12 องศากุมลัคนาและอาทิตย์ในดวงเดิม 10 องศา แสดงให้เห็นว่าภัยพิบัติ จะเกิดกับเจ้าชะตา(ดวงเมือง)โดยตรง
5.ดาวอุปเคราะห์มฤตยูจร (ไม่ใช่ดาว ๐) 7องศา ทับดาวจันทร์เดิม 11 องศาในราศีกรกฏ เรือนพันธุ หมายถึง ที่อยู่อาศัยจะวิบัติ
6.อุปเคราะห์มันทิจร(บุตรของเสาร์) ราศีตุลย์ 9 องศา เล็งอาทิตย์เดิมและลัคนาดวงเมือง 10 องศา บ่งบอกภัยพิบัติ ต่อ ลัคนาและดวงเมือง
7.ลัคนาและดาวอาทิตย์ในดวงเมืองเดิม 10 องศา นอกจากจะถูกอังคารจรกุมสนิทองศาแล้ว ยังถูก ดาวอุปเคราะห์จร ดาวอุปเกตุ 12 องศาและดาว ปริเวษะ 4องศา บีบลัคนาอย่างแรง ลัคนาบอบช้ำอย่างแรงเพราะถูกเฬียนซ้ำกันหลายชั้น จนที่ในที่สุด ก็ไม่อาจสามารถจะดำรงคงอยู่ได้
8.ดาวราหูเดิม ราศีมีน 25 องศา และ อุปเคราะห์จร อิทรจาปะ 25 องศา ราหูเดิมถูกเฬียนแบบสนิทองศาและโยคกับดาวอุปเคราะห์ กาละ 23 องศาในดวงเดิมที่กุมลัคนา ดาวอุปเคราะห์โยคถึงกันในภพวินาศและภพตนุ หมายถึง การเกิดเหตุร้ายกับเจ้าตัวอย่างไม่คาดฝัน
9.ในพื้นดวงเดิมมีดาวอังคาร 11 องศา มีดาวอุปเคราะห์ ปริเวษะ 6 องศาในราศีพฤษภ เป็นภพที่ 2 กดุมภะ โยคหน้าคือราศีมิถุน มีดาวอุปเคราะห์ มฤตยู 9 องศา มีดาวอุปเคราะห์ อินทรจาปะ 23 องศาเป็นโยคหลังในราศีกุมภ์ ทั้งหมดอยู่พื้นดวงเดิม
10.ในดวงจร (1.)ราศีมีน อิทรจาปะ 25 องศา (2.)ราศีเมษ ดาวอุปเกตุ 12 องศา ดาวปริเวษะ 4องศา (3.)ราศีพฤษภ อาทิตย์จร 12 องศา เกตุสากล 7 องศา จันทร์จร 5 องศา ดาวพุธ 23 องศา ดาวศุกร์ 10 องศา
ดาวอุปเคราะห์กาละ 23 องศา(กุมพุธสนิทองศา) ดาวศุกร์จร 10 องศา ร่วมอาทิตย์จร 12องศา ดาวพุธกลายเป็นดาวดับ(อัสตะ) ร่วมกับเกตุสากลจร 12 องศา และถูกราหูจรในราศีพิจิก 12 องศาเล็ง 180 องศา
ดาวศุภเคราะห์จรไม่ให้คุณ ดาวพุธจร 23 องศา ถูกดาวอุปเคราะห์กาละ 23 องศา(กุมพุธสนิทองศา) และใกล้รัศมีอาทิตย์ 12องศาทำให้ดาวพุธเป็นดาวดับ(อัสตะ) ทำให้ดาวพุธกลายเป็นดาวบาปเคราะห์ เต็มตัว
ดาวจันทร์จรในราศีพฤษภ 5 องศาได้ตำแหน่งมหาอุจน์ แต่อาทิตย์จร 12 องศา ทำให้ดาวจันทร์โคจรเข้าสู่จุดดับ และวันนี้ตรงกับ”วันอมาวสี”ดาวจันทร์จึงเป็นกษิณจันทร์ และให้โทษ
ส่วนดาวประธานแห่งศุภเคราะห์ คือดาวพฤหัสจร แต่เป็นนิจในราศีกรกฏ 5 องศา กุมกับดาวอุปเคราะห์มฤตยู 7 องศา ดาวพฤหัสเป็นนิจและถูกเฬียนจึงไม่ให้คุณ และไม่ปกป้องคุ้มครอง
สรุปจากดวงจร จะเห็นได้ว่าทั้งดาวเดิมดาวจรทั้งดาวเคราะห์และดาวอุปเคราะห์จร ทำมุมถึงกันหมด โดยเฉพาะองศาใกล้เคียงกันเกือบทั้งหมด แม้ดาวศุภเคราะห์จร คือดาวศุกร์ ดาวพุธ ดาวจันทร์ ก็ดับด้วยรัศมีอาทิตย์ กลายเป็นดาวให้โทษสรุปว่าดาวศุภเคราะห์จร มิอาจให้คุณได้ กลับกลายเป็นให้โทษทั้งสิ้น
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์ https://bit.ly/3ThfWig
*******************************