การทำขวัญเดือน ก็คือการโกนผมไฟ นั่นเอง โกนผมไฟ หรือ พิธีทำขวัญเดือน เป็นพิธีที่ทำสืบเนื่องมาแต่โบราณ โดยมีความเชื่อกันว่า ผมของเด็กที่ติดมากับครรภ์มารดานั้น ไม่สะอาด จึงต้องโกนทิ้งเพื่อให้ผมขึ้นมาใหม่
ในการทำขวัญเดือนนี้มักเข้าในกันว่าจะต้องอายุครบเดือนแล้วจึงค่อยทำพิธี แต่จริงๆแล้วจะต้อง นำ วัน เดือน ปีเกิดของเด็กที่คลอดไปให้โหรผูกดวงก่อนแล้วจึงกำหนดฤกษ์ว่าควรจะเป็นวันเวลาใด ที่สมพงษ์กับดวงชาตาของเด็ก เพื่อให้เกิดศิริมงคลแก่ตัวเด็กและบิดามารดา เพื่อให้เด็กเลี้ยงง่ายอยู่รอดปลอดภัยและเฉลียวฉลาด ปัญญาดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ดังนั้นการโกนผมไฟจะกระทำเมื่อหาฤกษ์ที่เป็นมงคลกับตัวเด็กก่อนเป็นอันดับแรกและจะได้วันไหนก็สุดแท้แต่ฤกษ์ซึ่งโหรจะเป็นผู้กำหนด เด็กอาจจะอายุ 1เดือน ไปจนถึง 6 เดือน -12 เดือนก็สามารถกระทำพิธีโกนผมไฟได้หมด (ซึ่งคนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าจะต้องทำเมื่ออายุครบ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้อง)
ดังนั้นเมื่อได้ฤกษ์โกนผมไฟแล้วก็จะจัดให้มีการทำขวัญ ตั้งชื่อ ขนานนาม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ เด็ก ส่วนพิธีโกนผมไฟ จะทำอย่างไรนั้น ก็สุดแต่กำลังทรัพย์ ของบิดามารดาและวงศ์ตระกูล
ในอดีต พิธีการโกนผมไฟ มักทำการอย่างใหญ่โตมาก ก็คือ มีพิธีสงฆ์มีการเจริญ พระพุทธมนต์ มิพิธีพราหมณ์ มีเครื่องเซ่นสรวงสังเวย มีการเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาในพิธี หลั่งน้ำสังข์ที่ศีรษะเด็ก ระหว่างนั้น พระสงฆ์สวดชยันโต ปี่พาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัย จากนั้นมอบเด็ก ให้ผู้อื่น โกนผมไฟต่อ พอเสร็จพิธีโกนผมไฟแล้ว จะมีพิธีเอาเด็กลงอู่สู่เปล
แต่ในปัจจุบัน การทำพิธีโกนผมแบบข้างต้นนั้นก็ทำได้ยากเนื่องด้วยครอบครัวสมัยใหม่ มีเวลาค่อนข้างจำกัด และก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มรูปแบบเหมือนในสมัยก่อน
ทางอาศรมของเราต้องการ ที่จะให้ประเพณีทำขวัญเดือน หรือประเพณีการโกนผมไฟ นี้ยังคงอยู่สืบต่อไป เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเด็กเอง และครอบครัว โดยจะแนะให้ทำพิธีอย่างง่ายๆและรวบรัดให้เหมาะกับสภาวะสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงรูปแบบประเพณีดั้งเดิมเอาไว้ได้มากแค่ไหน ก็สุดแท้แต่ความเห็นควรของแต่ละครอบครัว แต่ที่สำคัญที่สุดและจะขาดไม่ได้ก็คือฤกษ์โกนผมไฟที่ถูกต้องตามหลักวิชาโหร ซึ่งจะพอเป็นหลักประกันได้ว่าจะเป็นศิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองให้กับตัวเด็กและครอบครัวได้อย่างแน่นอน
เหล่านี้นับวันยิ่งหายากเต็มที เพราะไม่ว่าด้วยสาเหตุของเวลาที่จำกัด บวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนใหญ่เลยโกนผมไฟกันเอง ซึ่งจะง่ายขึ้นถ้าโกนในช่วงที่เด็กกำลังหลับอยู่ อุปกรณ์ในการโกนผมไฟนั้นมี ใบมีดโกน กรรไกร หวี ใบบอน หรือ ใบบัว 1 ใบ (ไว้ลองเส้นผม) และดอกอัญชัน
ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เมื่อโกนผมเสร็จแล้ว ก็จะนำเส้นผมที่ไว้บนใบบอน หรือใบบัว ผู้ใหญ่จะเอาไปลอยน้ำ โดยที่เก็บส่วนหนึ่งใส่กล่องไว้พอเป็นพิธี แล้วไปวางในเตียงของเด็ก หรือไว้ใกล้ตัวเด็ก เพราะโบราณเชื่อกันว่า เด็กจะไม่งอแง ถ้ามีเส้นผมของเขาอยู่ใกล้ตัว คล้ายว่าเด็กจะหวงของๆเขามาก แต่ไม่สามารถสื่อสารกับเราได้
ขั้นตอนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ นำดอกอัญชัน โดยขยี้ให้สีของดอกไม้ออกมา แล้วนำมาทาที่ศีรษะของเด็ก เพื่อที่ว่าผมที่ขึ้นใหม่จะได้ดกดำมากกว่าเดิม
นอกจากโกนผมไฟแล้ว คิ้วของเด็กก็ต้องโกนด้วยเช่นกัน ดังนั้น คนโบราณจึงนิยมนำ ก้านพลูมาเขียนคิ้วเพื่อให้คิ้วที่ขึ้นมาสวยงามได้รูป