
11.ประวัติศาสตร์โหราศาสตร์พระเวท ตอนที่ 2 ยุคพระเวท
ยุคพระเวท (Vedic Period – वैदिक काल) ยุคพระเวทตอนต้น (1500 ปีก่อนคริสตกาล – 1000 ปีก่อนคริสตกาล) ถือเป็นยุคสมัยสำคัญในประวัติศาสตร์อินเดีย เมื่อชาวอินโด-อารยันตั้งถิ่นฐานอยู่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอนุทวีปอินเดีย ยุคสมัยนี้ ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักกันในฤคเวท ให้ข้อมูลเชิงลึกอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับแง่มุมทางสังคม การเมือง และศาสนาของชีวิตในยุคนั้น สังคมถูกจัดระเบียบโดยเครือญาติและสายสัมพันธ์ในครอบครัว โดยมีวิถีชีวิตแบบเร่ร่อนและเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก ก่อนจะค่อยๆ ขยับเข้าสู่เกษตรกรรม ในทางการเมือง เผ่าต่างๆ นำโดยหัวหน้าเผ่า (ราจัน) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสภาต่างๆ เช่น สภาและสมิติ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ
ชีวิตทางศาสนาวนเวียนอยู่กับการบูชาธรรมชาติ พิธีกรรมบูชายัญ (ยัชญะ) และบทสวดบูชาเทพเจ้าต่างๆ เช่น พระอินทร์ อัคนี วรุณ และสุริยะ ลักษณะเหล่านี้สะท้อนถึงอารยธรรมอินเดียในยุคที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาทางวัฒนธรรม สังคม และศาสนาในภายหลัง
ยุคพระเวทตอนกลาง ถือกำเนิดขึ้นในอินเดียโบราณระหว่าง 1500 ถึง 600 ปีก่อนคริสตกาล ได้สร้างอารยธรรมพระเวท หรือที่รู้จักกันในชื่อวัฒนธรรมพระเวท หรือยุคพระเวท เป็นอารยธรรมที่ซับซ้อนและหลากหลาย อารยธรรมนี้มีความโดดเด่นในด้านการปฏิบัติศาสนาพระเวทและการเรียบเรียงพระเวท ซึ่งเป็นชุดคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นรากฐานของศาสนาฮินดู
คัมภีร์พระเวทเป็นต้นกำเนิดของภูมิปัญญา วิทยาศาสตร์ ประเพณี และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของอารยธรรมอันน่าทึ่ง คัมภีร์เหล่านี้คือการรวบรวมภูมิปัญญาอันบริสุทธิ์แห่งจักรวาลที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปฐมกาล คัมภีร์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคัมภีร์เท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมอินเดียและอารยธรรมมนุษย์อีกด้วย
ในยุคต้นของอารยธรรมอินเดีย โหราศาสตร์พระเวทยังคงซ่อนอยู่ในบทสวด หรือ มันตรา (मन्त्र) หรือ มนต์
และบทกลอนที่ถ่ายทอดกันด้วยมุขปาฐะ และองค์ความรู้ทั้งหลายได้ถูกบันทึกไว้ในยุคแรกเริ่มนั้น มีการรวมพระเวทสามคัมภีร์แรกไว้เป็นหมวดเดียวกัน เรียกว่า ไตรเพท
คำกล่าวของโบราณาจารย์ กล่าวไว้ว่า “ไตรเพท” เป็นประตูแรกแห่งพุทธิปัญญา แต่ผู้รู้เท่านั้นจึงจะเห็นดวงดาวในท้องฟ้าของตน” ไตรเพทเป็นที่รู้จักในฐานะ "ความรู้ 3 อย่าง" และถือเป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดของศาสนาพราหมณ์ และเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 3 คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ และคัมภีร์ที่เพิ่มเติมภายหลังอีกอีก 1 คัมภีร์ ซึ่งได้แก่
1.ฤคเวท (ऋग्वेद) ประมวลบทสวดสรรเสริญเทพเจ้า
“ฤคเวท”เป็นคัมภีร์พระเวทที่เก่าแก่ที่สุดในสมัยอินเดียโบราณ (ฤกฺเวท สํหิตา) ซึ่งประกอบด้วย บทสวด 1,026 โศลก (श्लोक) คาถาหรือมันตรา รวม 10,600 คาถา (मन्त्र) และแบ่งออกเป็นส่วนๆ รวม 10 มณฑล (मण्डल) ซึ่งในนั้นมี 36 โศลก ที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ (โชติษะ)
2.ยชุรเวท (यजुर्वेद) ศาสตร์แห่งพิธีกรรม
“ยชุรเวท” ประกอบด้วยคาถาแบบร้อยแก้ว ส่วนหนึ่งยืมมาจากฤคเวท สำหรับใช้ในพิธีกรรมบูชายัญต่างๆ ในคัมภีร์นี้มี 44 โศลก ที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์
3.สามเวท (सामवेद) ศาสตร์แห่งเสียงและดนตรี
หรือ ประมวลบทเพลงสวดในพิธีบูชายัญ “สามเวท” คำว่า "สาม" แปลว่า ท่วงทำนอง บทสวดในสามเวทจึงออกแบบให้ ขับร้องได้อย่างไพเราะ ประกอบด้วยบทเพลง 1,549 โศลก (ซึ่ง เกือบทั้งหมดมาจากฤคเวท) จุดประสงค์หลักคือเพื่อประกอบ “โสมยัญญะ” คือการบวงสรวงบูชายัญแด่เทพเจ้าต่างๆ เพื่อความเป็นมงคล
4.อาถรรพเวท (अथर्ववेद) มนตร์แห่งชีวิตและความลี้ลับ
“อาถรรพเวท” มาจากคำว่า अथर्वन् แปลว่า "นักบวช" และ वेद แปลว่า "ความรู้") หรือคือ "คลังความรู้ของอาถรรพวัน (นักบวชผู้กระทำพิธีบูชาไฟ) ซึ่งเป็นขั้นตอนทางศาสนาสำหรับชีวิตประจำวัน" คัมภีร์นี้อยู่ในคัมภีร์พระเวทชุดที่ 4 และเป็นส่วนเพิ่มเติมล่าสุด
“อาถรรพเวท” ถือว่าเป็นคัมภีร์ “ภาคปฏิบัติ” สำหรับใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากที่สุด มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วย บทสวด 760 บทสวด และมี 160 โศลกที่ซ้ำกับฤคเวท แต่บางส่วนก็เก่าแก่กว่าฤคเวท มักใช้ใน การรักษาโรค การอธิษฐานขอให้อายุยืน การป้องกันสิ่งชั่วร้าย และพิธีกรรมในชีวิตประจำวัน และในคัมภีร์นี้มี 162 โศลก ที่เกี่ยวกับโหราศาสตร์
การศึกษาคัมภีร์พระเวท-“เวทานตะ”
เวทานตะ หรือ จุดสูงสุดของสภาวะรู้แจ้ง และเวทานตะ ก็คือส่วนสรุปของคัมภีร์พระเวท ประกอบด้วยคัมภีร์ อรัณยกะ (आरण्यक) และ อุปนิษัท (उपनिषद्) คัมภีร์พระเวท ได้ถูกแบ่งออกเป็นสาขาวิชาต่างๆ หรือแบ่งเป็นส่วนๆ เรียกว่า เวทางคะ (वेदाङ्ग) ซึ่งประกอบด้วย 6 ส่วนหรือ 6 วิชา ซึ่งวิชาโหราศาสตร์ (โชติษ) ก็เป็น 1ใน 6 วิชาที่สำคัญใน “เวทางคะ” ซึ่งประกอบด้วย
1.ศิกษา (शिक्षा –ศิกฺษา) -ศิกฺษาศาสตร์ – ว่าด้วยการศึกษาวิธีออกเสียงสำหรับการท่องมนตร์พระเวทได้ถูกต้อง ตามข้อกำหนดการเปล่งเสียงที่กำกับในมนตร์ของแต่ละศาสตร์
2.ไวยากรณ์ (व्याकरण –วฺยากรณ)-ว่าด้วยการศึกษาไวยากรณ์ ความรู้ทางไวยากรณ์สำคัญต่อการเรียนพระเวทอย่างมาก ถ้าผู้เรียนพระเวทไม่รู้พื้นฐานทางไวยากรณ์ ก็จะไม่สามารถอ่านคัมภีร์พระเวทให้เข้าใจได้
3.นิรุคฺต (निरुक्त – นิรุกฺต) – นิรุกติศาสตร์ –ศาสตร์ว่าด้วยการศึกษาประวัติที่มาของศัพท์ ความหมายของศัพท์ และ อภิธานศัพท์เฉพาะที่ปรากฏในมนตร์ของพระเวท
4.ฉันทศาสตร์ ( छन्दस् –ฉนฺทสฺ) – ฉันทลักษณ์ ว่าด้วยการศึกษาฉันทลักษณ์ เพื่อให้เข้าใจ มาตรา ในแต่ละพยางค์ของมนตร์
5.กัลปะ (कल्प กลฺป) – กัลปศาสตร์ -ว่าด้วยการศึกษาสูตรและพิธีกรรมและกฎ ข้อปฏิบัติต่างๆ สำหรับทำยัญบูชา ต่างๆ
6.โชติษ (ज्योतिष –โชติษ) – ศาสตร์แห่งแสงสว่างและดวงดาว หรือ โหราศาสตร์พระเวท หรือ ชโยติษศาสตร์ – ว่าด้วยศึกษาโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ การดูดวงชะตา ดูฤกษ์ยามมงคลเพื่อกำหนดเวลาฤกษ์มงคลสำหรับการประกอบพิธีกรรม เพื่อให้”ฤกษ์”อำนวยผลให้พิธีกรรมบรรลุความสำเร็จ
*******************************
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดยอาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo)
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
