ติดต่อสอบถาม กรุณาแอด Line @astroneemo

  • Slider 1
  • Slider 2
  • Slider 3
  • Slider 4
  • Slider 5
  • Slider 6
  • Slider 7
  • Slider 8

Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***




เมื่อ ๒๒ สิงหา ๕๒ ที่ผ่านมา เดินทางเข้าไปธุระในตัวเมืองพาราณสี ยังมีนักบวชฑิฆัมพรของศานสนาเชน พร้อมด้วยลูกศิษย์ เดินทางผ่านตัวเมือง ท่ามกลางผู้คนที่ขวักไขว่ โดยไม่สนใจใยดีกับเรือนร่างที่เปลือยเปล่า หลายคนก้มกราบสักการะด้วยความเคารพ แต่อีกหลายคนก็มองด้วยสายตาที่ตะลึง งงงัน ( มาได้ไงนี่ ) เอามาให้ดูว่า ของอย่างนี้ยังมีอยู่จริง ๆ ครับ



สังเกต คนที่บวชใหม่ อาจไม่พร้อมที่จะเปิดเผยทั้งหมด เพราะเดินผ่านชุมชน อาจมีอาการขึ้นมาระหว่างทาง จึงต้องป้องกันเอาไว้ก่อน เดี๋ยวขายขี้หน้าครูบา อิอิ



ดู เพื่อศึกษาเปรียบเทียบนะครับ สาระสำคัญมิได้อยู่ที่การนำภาพมาให้ดู แต่อยู่ที่ว่า ดูแล้วลองเปรียบเทียบว่า สิ่งที่เราเคารพนับถือนั้น ประเสริฐดีแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งของอีกซีกโลกหนึ่ง ยังอยู่ในระดับที่จะต้องบำเพ็ญอีกมาก....หรือท่านผู้รู้ว่าใด๋


22 สิงหา 2552 ขณะกำลังเดินทางลงจากเขาหิมพานต์เมืองดารัมซาร่า เห็นฝูงนกใหญ่บินว่อนอยู่เหนือเวหาส ตัวใหญ่และดำทะมืน นับจำนวนไม่ได้ เลยบอกให้รถหยุดแล้วลัดเลาะไปตามริมลำธาร สายตาจ้องมองไปที่ฝูงนกประหลาดที่กำลังบินว่อนอยู่เหนือศีรษะ ท่ามกลางแสงแดดจัดจ้าเหลือคณานับ



ตามไปที่จุด ๆ หนึ่ง ซึ่งหมู่นกยักษ์บินร่อนลงตัวแล้วตัวเล่า



สายตากระทบเข้ากับภาพที่เห็น ฝูงอีแร้งหิมพานต์กำลังรุมจิกกินซากสัตว์ตัวหนึ่ง



ดูท่าน่าจะเป็นควายหรือวัว เพราะซากใหญ่พอสมควร



ตัวที่ร่อนลงใหม่ ก็เริ่มเดินขยับเข้าใกล้ ตัวที่อิ่มแล้วก็เริ่มขยับออกไป ผลัดเปลี่ยนเวียนกัน



บางขณะมีสุนัขหวงซากวิ่งกระโจนเข้ามา ไล่หมู่แร้งให้แตกวง บินว่อนก่อนจะโฉบลงมาใหม่



อีก ฝูงที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บนต้นไม้ รอเวลาที่จะโฉบลงมาร่วมวง เกือบโดนโจมตีด้านหลัง เลยต้องรีบลัดเลาะกลับมาขึ้นรถ พร้อมภาพที่บันทึกไว้กว่าครึ่งร้อย


ข่าวว่าอีสานบางส่วนแล้งหลาย เลยคึดฮอดบ้าน เห็นลอมฟางของแขกแล้ว งึดคะเจ้าหลาย
เพิ่นบ่เผาฟาง บ่เผาตอข้าว เพราะบ่มีตอให้เผา เวลาเกี่ยวเขามักจะเกี่ยวจำตอ คือเกี่ยวเอามาทั้งหมด
เสร็จแล้วก็ทำลอมไว้ ขายฟางสำหรับให้วัว-ควาย สัตว์อื่น ๆ กิน และขายให้คนเอาไปทำหลังคามุงบ้าน
แขก(ซุมเงินน้อย)นิยมเอาฟางมุงบ้านครับ




ประเทศเราเดี๋ยวนี้ อีกา หายากแล้ว แต่ที่อินเดียมีเป็นจำนวนมาก
เพราะเป็นถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร และที่สำคัญ คนไม่ทำร้ายสัตว์
อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน




อันนกนี้เขาเรียก อีแก เพราะต่างไปจากอีกา
ธรรมดาอีกาจะตัวดำสนิท แต่ที่นี่มีอีกาอีกชนิดมีสีหม่น
เพื่อไม่ให้ผู้คนสับสนเลยเรียกชื่อเสียใหม่ว่า อีแก




ส่งท้ายชุดนี้ด้วยรถบัสรับ-ส่งนักเรียน ที่ติดค้างหลายท่านไว้
หลังจากที่เอาสามล้อปั่น สามล้อถีบ และสามล้อจูง มาให้ชมแล้ว
ตามเมืองใหญ่ก็มีรถบัสเหมือนกัน แต่เป็นบัสโบราณเสียส่วนมาก
และที่สำคัญ ปลากระป๋องยังเรียกครูบาเลยครับ อัดแน่นกันจริง ๆ
นักบวชฑิฆัมพร (ชีเปลือย)



ศาสนา เชน ถือกำเนิดก่อนพระพุทธศาสนา มีท่านศาสดามหาวีระ หรือ นิครนถ์นาฏบุตร เป็นศาสดา (เดิมเป็นเจ้าชายในราชตระกูลของเจ้าลิจฉวี เมืองไวสาลี)
ใน ช่วงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้และเผยแผ่ธรรม ท่านศาสดามหาวีระก็เผยแผ่ลัทธินิครนถ์ของท่านไปด้วย โดยมีเหตุการณ์ที่ขัดแย้งและเป็นปฏิปักษ์ต่อกันหลาย ๆ อย่าง
พระพุทธองค์ทรงตรัสเรียกลัทธินี้ว่า เดียรถีย์
ศาสดามหาวีระเข้าสู่นิรวาณก่อนพระพุทธเจ้า ณ ปาวาบุรี ไม่ห่างจากนครราชคฤห์มากนัก


นักบวชหญิงเศวตัมพร (ชุดขาว)



เมื่อ มีผู้เลื่อมใสมากขึ้น ทั้งชายหญิงก็มีผู้ออกบวชติดตาม นักบวชชายจะปฏิบัติตามท่านศาสดามหาวีระทุกประการ ส่วนนักบวชที่เป็นสตรีที่เข้าสู่ลัทธิก็ให้นุ่งชุดขาว มีผ้าปิดปาก ว่ากันว่าเพื่อมิให้ทำลายเชื้อโรค หรือไม่ทำให้เชื้อโรคตาย

ข้อสังเกตุ.- ระหว่างพุทธศาสนากับศาสนาเชนมีความแตกต่างและเหมือนกันหลาย ๆ อย่าง
ส่วนที่เหมือนกันมาก ๆ คือ
๑. เป็นอเทวนิยม ไม่ถืออำนาจศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าว่าสามารถบันดาลทุกข์สุขให้ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรม คือ การกระทำ
๒. ไม่เบียดเบียนตนและสัตว์อื่นให้ลำบาก
ส่วนที่แตกต่างกันมีมากมาย และต้องสังเกตุให้ดี
ถ้าเห็นหินแกะสลักหรือรูปเหมือน โดยเฉพาะปางที่ประทับนั่งจะเหมือนกันมาก
ถ้า เป็นพระพุทธรูปจะมีพุทธลักษณะที่สวยงาม ส่วนถ้าเป็นสาสดามหาวีระที่กลางหน้าอกจะมีรูปดอกจันทน์ ชาวพุทธเคยไหว้ผิดไหว้ถูกมานักต่อนักแล้ว
ส่วนปางประทับยืนนี้แตกต่างชัดเจน เพราะพระพุทธเจ้าทรงจีวร ส่วนศาสดามหาวีระยืนเปลือยกายเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน


รองเท้าพิเศษสำหรับนักบวชครับ ถ้าไม่ชำนาญจริง ๆ รองเท้าก็จะวิ่งออกหน้าคนใส่
เวลาที่นักบวชเดินทางมักจะใส่รองเท้าแบบนี้ เวลาที่ไม่ได้เดินทางก็จะเอารองเท้ามาวางไว้ตรงทางเข้ามันดีร(ศาสนสถานหรือเทวาลัย)
ให้คนรู้ว่าอยู่ ผู้คนมักเอาดอกไม้มาบูชาด้วยครับ ก็แปลกดี




นี่ก็รองเท้าไม้อีกแบบครับ แปลกดีครับ


ม้าเมืองราชคฤห์ ได้รับการเรียกขานว่า ม้าขื่นขม คือถูกใช้แรงงานหนัก ไม่มีโอกาสได้เดินหากินเหมือนม้าทั่วไป
เวลาพักก็ยังต้องแบกสัมภาระไว้ กินอาหารในถุงด้วยการเอาถุงแขวนคอให้ น่าสงสารเต็มใจครับ




วัว คุณหนูตัวน้อย ๆ ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี อาหารใส่ถ้วยใหญ่ ๆ ไม่ต้องออกเดินหาอาหารครับ โตมาก็เพียงแค่ให้นมกับเจ้าของเท่านั้น ต่างกันราวฟ้าดิน



ดูดี ๆ นี่คือ คน ครับ ทานอาหารด้วยใบตอง ไม่มีถาด ไม่มีช้อน เอามือหยุมเข้าปากอย่างเดียวครับ
แต่นี่ยังถือว่าดีนะครับที่มีคนมาให้ทานพอได้กินบ้าง คนไม่มีอะไรจะกิน ยิ่งลำบากกว่านี้ครับท่าน





ขอทานคนหนึ่ง นอนร้องโอดโอยอยู่ข้างทาง น่าเวทนามาก



ขนมหวานเมืองแขกมีหลายอย่าง และรับรองคุณภาพว่าหวานได้ใจจริง ๆ



เคยได้ยินคำว่า แขกขี้คุย ไหม ?
เมื่อก่อนไม่คิดอะไรมาก เข้าใจแต่ว่า แขกขี้คุย คือแขกที่พูดมาก
แต่ก็ถึงบางอ้อ..บางอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย เมื่อเห็นกับตา 2 จะ ( ก็...จะจะ...นั่นแหละ )
ว่าแขกขี้คุย ก็คือ แขกนั่งขี้แล้วก็คุยกันไปด้วย มันเป็นเช่นนั้นได้จริง ๆ ครับ




เอาภาพมาฝากสำหรับคนที่ไม่เคยเห็นรถรางครับผม



เตา ปิ้งจาปาตีครับ จาปาตี คือ แป้งที่ทำมาจากข้าวสาลี คั้นกับน้ำให้พอเหนียว ๆ ปั้นเป็นก้อน ๆ แล้วใช้ไม้บดใส่เขียงไม้ให้เป็นแผ่น ๆ แล้วก็ปิ้ง
เป็นอาหารที่ใช้ทานแทนข้าวของแขกครับ มักทานกับผัดผัก ใส่มันฝรั่ง หรือ กับอาหารแขกทุกชนิด ครับ