Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

สารบัญ

คัมภีร์ :  ต้องสงสารผู้เคราะห์ร้าย  ยินดีกับผู้ทำดี

อธิบาย :  คนที่เคราะห์ร้าย  มักเป็นผู้ที่ทำชั่วจึงเป็นผู้กวักภัยเคราะห์มาหา  ควรให้ความสงสารบุคคลพวกนี้  ตักเตือนชักนำเขา  อบรมเขาเพื่อให้เขาสามารถแก้ไขความชั่วมุ่งสู่ความดี  เปลี่ยนเคราะห์ร้ายเป็นบุญวาสนา

สำหรับคนดี  ก็มักเป็นผู้ที่ทำความดีเสมอๆ  จึงเป็นกวักบุญวาสนามาหา  เราก็ควรยินดีกับเขา  ส่งเสริมเขา ผลักดันเขา  เพื่อให้เขายิ่งทำดีมากขึ้น

คุณเหอหลงกู กล่าวว่า “คนที่เริ่มทำชั่วแรกๆ  นั้นเป็นเพราะความคิดของเขาคลาดเคลื่อนไปแล้วก็ไม่สามารถยับยั้บได้  แม้หลังจากทำชั่วไปแล้วก็ตาม ก็ยังมีจิตสำนึกดีที่ยังไม่มอดดับ ซึ่งก็ยังพอแก้ไขฉุดช่วยได้ ชาวโลกที่กีดกันคนที่ทำชั่ว  ก็เหมือนการปิดกั้นศัตรูอย่างนั้นถึงแม้พวกเขาขอแก้ตัวกลับใจใหม่เป็นคนใหม่ ก็มักไม่ได้รับการตอบรับจากผู้อื่น จึงหมดกำลังใจไปแก้ไขเปลี่ยนแปลง”  การทำความดีสร้างกุศล ทุกคนก็สามารถคิดได้ แต่คนก็มัวยังถือสาแบ่งแยกชนชั้น อย่างคนที่มีความรู้ความสามารถ ก็หวังว่างานดีๆ ต้องเป็นตนเท่านั้นที่ทำคนที่ด้อยกว่าก็ไม่คาดหวังว่าจะได้  งานดีๆ  คือต้องให้ผู้อื่นทำเช่นนี้ทำให้เกิดการสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายงานดีๆ ของคนอื่น อย่างนี้เป็นความชั่วของตนเอง เป็นการทำร้ายจิตใจตนเองด้วย  กับคนอื่นแล้วไม่มีการสูญเสียอะไร โดยไม่รู้ว่า ถ้าคนอื่นมีความคิดดีมีเรื่องดีแล้วเขาสามารถผลักดันส่งเสริมเขา  ชมเชยเขา จนทำให้เขาได้สำเร็จสวยงาม  เช่นนี้แล้วความดีของผู้อื่นก็เป็นความดีของตนด้วยอย่างนี้ซิจึงเป็นบุญกุศลที่เหลือคณานับ

จากปุถุชนสู่อริยชน เป็นวิถีแห่งกุศลทั้งมวล  การบังเกิดใจโพธิเป็นสิ่งเยี่ยมยอดที่สุด  ใจโพธิก็เป็นเหมือนเมล็ด  เพราะสามารถให้กำเนิดกุศลธรรม  ใจกุศลจึงเป็นเนื้อนาบุญ เพราะทำให้เวไนยสัตว์เจริญกุศลธรรม ใจโพธิเหมือนน้ำที่สะอาด เพราะสามารถชำระล้างความกังวลในใจของเวไนยสัตว์  ใจโพธิเหมือนไฟดวงใหญ่ที่สามารถเผาไหม้ความเห็นผิดได้  ในนิพพานสูตรกล่าวว่า “พุทธองค์ตรัสว่าการบำเพ็ญใจที่ดี (ใจกุศล)  เพราะสามารถขจัดวิบากกรรมนับร้อยชนิดได้ก็เหมือนสะเก็ดไฟเล็กๆ  ที่สามารถเผาผลาญสิ่งต่างๆ ได้  ต้องรู้ว่าเรื่องดีทั้งหลายเกิดจากหนึ่งความคิดที่ชอบความสบายของพวกเราแต่เมื่อใจที่ดีทั้งหลายเผยปรากฎออกมาหมด  ก็คือผลแห่งโพธิที่สมบูรณ์ของพวกเราที่สำเร็จ

นิทาน ๑ :  นางอูหลิงอี๊ จับขโมยที่เข้ามาในบ้านได้  ที่แท้เจ้าขโมยก็เป็นเด็กข้างบ้าน  อูหลิงอี๊พูดกับเขาว่า “เจ้าถูกความจนบีบบังคับจึงมาเป็นขโมย ฉันจะให้เธอหนึ่งหมื่นเป็นต้นทุนไปดำรงชีวิต  แล้วก็อย่าได้ทำชั่วอีกเลย !”  พอเจ้าขโมยได้เงินก็จะออกไป  อูหลิงอี๊เรียกเขากลับมาพูดว่า “เจ้าเป็นคนจน แบกเงินมากมายกลับบ้าน ก็กลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่สอบถาม เจ้าอยู่ที่บ้านจนกว่าจะเช้าก่อนค่อยไป”  เรื่องนี้อูหลิงอี๊ไม่เคยพูดให้ใครฟัง  จนกระทั่งลูกหลานเขาสอบได้จินสือติดต่อกัน  คนอื่นว่าเขาเป็นคนชอบสงสาร ตักเตือนแนะนำ อบรมคนชั่ว จึงได้รับผลตอบสนอง !


นิทาน ๒ :  ในสมัยฮั่น มีคนชื่อ หลงท่ง  ชอบยกย่องคนอื่น ทำความดีซึ่งล้วนพูดเกินความจริง คนอื่นให้รู้สึกแปลกใจ จึงถามหาสาเหตุหลงท่งตอบว่า “ปัจจุบันคนดีมีน้อย  คนชั่วมีมาก  อยากคิดแก้ไขวัฒนธรรมที่ไม่ดีได้ ต้องเพิ่มงานธรรมตนเอง  หากไม่ไปทำเต็มที่ไปยกย่องคนอื่นไปยกย่องงานธรรมของคนอื่น ยกย่องว่าเขาทำดีแล้ว คนที่คิดจะทำความดีก็จะลดน้อยลง  ถ้าการยกย่องชมเชยคนสัก 10 คน ถ้ามีผิดพลาดไป 5 คน ก็ยังมีอีก 5 คนไม่ผิด ก็ยังทำให้ได้ใจของคนทำดี  เขาจะได้เพิ่มความพากเพียรทำดียิ่งขึ้น  อย่างนี้ก็ใช้ได้แล้วละ”  โอวาทของท่านกอบฟูจื่อก็เคยกล่าวว่า “ขอให้ฟ้ากำเนิดคนดี ขอให้คนทำดีเสมอ ขอให้ปากพูดดีเสมอ”  คุณหลงท่งอาจพูดได้ว่า เข้าใจโอวาทนี้เป็นอย่างดี และก็ขยันไปทำ  มีประโยชน์ต่อใจธรรมของคนมากเลย !