รวมบริการของเรา
ฤกษ์มงคล
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์เปิดร้าน
- จำนวนผู้อ่าน: 227983

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
ร้านของชำ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านค้า ออฟฟิต คลีนิก โรงงานอุตสาหกรรม และกิจการเล็ก-ใหญ่ ทั่วไปฯลฯ
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*******

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
การคำนวนฤกษ์เปิดร้านใหม่ จะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน แปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ในการขอฤกษ์เปิดร้านใหม่ อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่าน ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของร้านกิจการนั้นๆ เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด หากเป็นสามีภรรยาก็ต้องแจ้งมาทั้งสองท่านและบอกอาชีพมาด้วย หากมีหุ้นส่วนให้แจ้งมาด้วย
2. เวลาที่ต้องการจะเปิดร้านโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
3. ร้านที่จะเปิดเป็นแบบไหน สองชั้นหรือชั้นเดียว เป็นโกดัง โรงงาน อาคารพานิชย์ หากมีแผนที่เขียนทิศทางมาด้วยจะดีมาก
4. กิจการทีทำทำกิจการอะไรบ้าง ค้าปลีกหรือค้าส่ง หรือเป็นออฟฟิต เป็นโชว์รูม
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์เปิดร้านใหม่ โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์เปิดร้านใหม่ 989.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 989 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร
![]()

การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครูฤกษ์เปิดร้านใหม่
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
ฤกษ์เปิดร้านใหม่ที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์มงคลระบุวันและเวลาที่สมพงษ์กับดวงเจ้าของกิจการ และลักษณะของกิจการ
2.แนะนำเรื่องพิธีกรรมแบบง่ายสำหรับการเปิดร้าน
![]()

***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย



เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์ออกรถ
- จำนวนผู้อ่าน: 626189
**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
บริการดูฤกษ์มงคล ฤกษ์ออกรถ ปี 2568 (รถใหม่และรถมือสอง) *****ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 929 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*******

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
ในการหาฤกษ์ออกรถ ข้อมูลที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของรถ เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิดและอาชีพ
**หากคนซื้อรถเป็นคนละคนกับคนใช้รถ เช่นพ่อซื้อให้ลูกขับ หรือ สามีซื้อให้ภรรยาขับ ต้องใช้ดวงวันเดือนปีเกิดของคนซื้อนะครับ หรือคนที่ทำสัญญาซื้อขายกับไฟแนนซ์ ส่วนดวงคนขับหรือคนใช้รถไม่ต้องนะครับ เอาไม่เอาดวงคนขับมาหาฤกษ์นะครับ ไม่อย่างนั้นรถผู้บริหารเปลี่ยนพนักงานขับรถบ่อยๆก็แย่สิครับ หากดวงคนซื้อดี คนขับก็ต้องดีตามไปด้วยนี่เป็นกกเกณฑ์ของฤกษ์ยามครับ
2. เวลาที่ต้องการจะออกรถโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และออกที่จังหวัดไหน
3. รถยี่ห้ออะไร รถเก่าหรือใหม่ สีอะไร ทะเบียนอะไร โปรดแจ้งด้วย
4. รถที่ออกมาแล้วจะเอาไปทำอะไร ใช้ขนส่ง หรือค้าขายหรือขับไปทำงานราชการเอกชน ต้องการดวงฤกษ์เด่นด้านไหน ให้คุณเรื่องอะไร เช่นค้าขายดี หรือได้เลื่อนตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา หรือ ช่วยทำมาหากิน โชคลาภ ฯลฯ
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์ออกรถ โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์ออกรถ 929.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบุูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 929 บาทเท่านั้น รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู
เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF ) หรือแจ้งการโอนเงิน
และเมื่อทางอาศรมฯได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์แล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์มงคลให้กับท่านทางอีเมล์ ภายใน 24 ชั่วโมงและ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม
ฤกษ์มงคลที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์ออกรถ และวิธีใช้ฤกษ์ ระบุวันและเวลาออกรถที่สมพงษ์กับดวงเจ้าของรถ และอาชีพของเจ้าของรถ
2.ทิศมงคลสำรับการขับรถออกจากอู่
3.เวลาที่จะต้องขับถึงบ้านไม่เกินกี่โมง
4.สีมงคลและเลขทะเบียนที่เป็นมงคลสมพงษ์กับดวงชาตาของท่าน
วิธีการใช้ฤกษ์
เมื่อส่งฤกษ์ให้ท่านแล้ว จะมีวิธีการอธิบายวิธีใช้ฤกษ์ไว้ในอีเมล์อย่างละเอียด ทั้งการเตรียมตัวก่อนฤกษ์ และ หลังฤกษ์ เช่น เรื่องสีถูกโฉลก เรื่องเลขทะเบียนมงคล บทสวดก่อนออกรถ วิธีการใช้ทิศมงคลในการออกรถ เรื่องการขับรถกลับบ้าน เรื่องการตกแต่งรถและอุปกรณ์เสริม เรื่องสถานที่การออกรถ เรื่องคำเตือนดวงอุบัติเหตุ เรื่องช่วงวันถือฤกษ์ไม่ควรขับรถไปไหนบ้าง เรื่องเวลาเริ่มต้นของฤกษ์(ปฐมฤกษ์) และเวลาสิ้นสุดฤกษ์(ปัจฉิมฤกษ์)
เรื่องวิธีการใช้ฤกษ์ให้เกิดผลดีและเกิดศุภผลตามที่ท่านต้องการ และวิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์ และความหมายของฤกษ์ทั้ง 9 เช่น ทลิทโทฤกษ์ มหัทธโนฤกษ์ โจโรฤกษ์ ราชาฤกษ์ ฯลฯ
และเรื่องการเทียบจากเวลามาตรฐานของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ โดยโทรไปที่หมายเลข 1811การตรวจสอบเวลามาตรฐาน เพื่อให้ตรงกับเวลาฤกษ์ เนื่องจากแต่ละจังหวัดมีเวลาท้องถิ่นแตกต่างกัน ซึ่งอาจารย์จะเป็นผู้คำนวณให้ เช่น เวลาท้องถิ่นของกรุงเทพกับอุบลราชธานี แตกต่างกันถึง 18 นาที
![]()

ในปัจจุบันการใช้รถแทบจะเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนยุคใหม่ก็ว่าได้ แต่การใช้ฤกษ์ยามกันนั้น มีน้อยกันมากแทบจะเรียกว่ามักจะใช้ฤกษ์สะดวกกันเป็นหลัก ส่วนผลที่ตามๆกันมาก็คืออุบัติเหตุ การบาดเจ็บล้มตาย การเฉี่ยวชน การสูญหาย และการผ่อนต่อไปไม่ไหว ซึ่งหากเราเชื่อโบราณบ้างก็คงจะไม่เสียหายกันมากมายขนาดนี้
ฤกษ์ออกรถ-ในการออกรถโดยใช้หลักโหราศาสตร์ที่สมพงษ์กับดวงชาตากำเนิดของเจ้าของรถ สามารถเป็นหลักประกันความปลอดภัยได้มากที่สุด และน่าเชื่อถือมากที่สุด และสามารถปกป้องคุ้มครองรถ ผู้ขับขึ่ ผู้โดยสาร ตลอดการเดินทางไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ แห่งใดๆก็ตาม และยังทำให้เกิดโชคเกิดลาภ เป็นศิริมงคลให้กับผู้ขับขี่ ลบล้างอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อาจารย์เห็นมามาก คนเราเวลาจะออกรถแล้ว ใจมันรุ่มร้อน จะออกวันนั้นวันนี้ให้ได้ พออาจารย์ให้ฤกษ์ช้าไปก็ชิงไปออกรถมาก่อน เมื่อผลเสียเกิดขึ้นก็ค่อยมาหาอาจารย์ร้องให้ช่วยแก้ไข อาจารย์ก็บอกว่า คงช่วยเหลืออะไรไม่ได้ มันเกิดขึ้นมาแล้ว ดวงรถก็เหมือนดวงคนนั่นแหละคุณไปรับเอามาเป็นเจ้าของแล้ว แบบไม่ดูฤกษ์ยาม จะดีจะชั่วก็ต้องว่ากันไป
เพราะเวลาที่ออกรถนั่นแหละเป็นฤกษ์ยามที่สำคัญมาก เหมือนเด็กเกิดใหม่ มีชิวิตจิตวิญญาณเหมือนกัน หากใครไม่เชื่อก็ลองเอาเวลาที่ออกรถ ไปหาหมอดูที่ไหนก็ตามแล้วผูกดวงออกมา ก็มักจะบอกได้ว่า จังหวะชีวิตของ(รถ) นี้เป็นไปอย่างไร จะดีจะชั่วหรือเกื้อหนุนดวงเราอย่างไรบ้าง
“รถ”ในทรรศนะโหราศาสตร์ก็คือเรือนชาตา ที่ 4 ซึ่งก็หมายถึง บ้านหลังที่ สองเหมือนกัน หากเราได้ฤกษ์ยามงามดีในการออกรถแล้ว อย่างน้อยมันก็น่าจะเป็นบ้านที่ให้ความสุขและอบอุ่นแก่เราได้เหมือนกัน หากไม่เข้าใจเรื่องฤกษ์
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
การหาฤกษ์ออกรถให้ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์นั้น จำเป็นจะต้องคำนวนฤกษ์มาจากดวงเจ้าของรถเท่านั้น แล้วหาวันดี และวันสมพงษ์กับดวงเจ้าของรถให้สัมพันธ์กัน จึงจะถือว่าเป็นมงคล สามารถแก้ไขดวงชาตาและส่งเสริมดวงเจ้าของรถได้ โดยเฉพาะคนที่มีพื้นดวงเป็นดวงอุบัติเหตุอยู่แล้ว การหาฤกษ์มงคลที่สมพงษ์กับดวงชาตา จะสามารถแก้ไขพื้นดวง และบรรเทาผลร้ายในดวงชาตาให้ลดทอนลงได้ และช่วยส่งเสริมโชคลาภ การทำมาหากิน และปัดเป่าอุปสรรค ฯลฯ
ฤกษ์ยามที่ถูกต้องจึงไม่ใช่ดูจากปฎิทินแล้วบอกว่าเป็นวันดี วันธงไชย ฯลฯ แล้วยึดเอาตามนั้น วันดีตามปฎิทินก็อาจจะเป็นวันร้ายของเราก็เป็นได้
โดยปกติในหลักครูโหรนั้นท่านได้กำหนดฤกษ์ออกรถไว้อย่างเคร่งครัด มีหลายกฏเกณฑ์ รวมถึงต้องใช้หลักเกณฑ์อื่นๆมาประกอบอีกครั้งหนึ่งด้วย ซึ่งอาจารย์ไม่แนะนำให้ใช้ฤกษ์ที่คิดเอาเองว่าดี เช่น ต้องเป็นวันพฤหัสบ้าง ต้องเป็นวันที่ 9 บ้าง ฯลฯ หรือต้องเป็นวันเกิดตัวเองบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มิใช่ฤกษ์ที่ถูกต้องในระบบโหราศาสตร์ เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์มิใช่เรื่องงมงายแต่อย่างใด แต่กลับช่วยให้คนเราสามารถแก้ไขหรือขจัดความยุ่งยากๆต่างๆ ที่เกิดจากอิทธิพลหรือพลังงานที่ส่งมาจากฟากฟ้า และทำให้อิทธิพลนั้นเป็นกลาง สมพงษ์และสอดคล้องกับกระแสพลังชีวิตหรือดวงชาตาของเราเอง
ดังนั้นหากเราจะใช้ฤกษ์ที่ใช้ทั่วไปดาษดื่นตามปฎิทินแขวนผนัง ว่าวันนี้เป็นวันดี เป็นฤกษ์ดี เป็นวันอธิบดี วันธงไชย ฯลฯ อะไรต่างๆนั้น ถือว่าวันที่ดีเหล่านั้นก็ไม่ได้ดีตลอดไปทั้งวัน บางวันก็มีเพียงไม่กี่ชั่วโมง ที่ว่าดีหรือถูกต้องตามระบบฤกษ์ยาม หรือในปฎิทินบอกว่าวันนี้ไม่ดีเป็นวันโลกาวินาส วันขลุบ วันร้ายๆ ต่างๆ ความเป็นจริงก็ไม่ได้ร้ายตลอดไปทั้งว้นเช่นเดียวกัน ซึ่งฤกษ์แบบนี้เราเรียกว่าฤกษ์บน
แต่ที่แน่ๆแล้ววันดีเหล่านั้นที่เราเชื่อว่าดี แต่หากไม่สมพงษ์กับดวงชาตากำเนิดของเรา ซึ่งเรียกว่าฤกษ์ล่าง ก็อาจจะกลับกลายเป็นฤกษ์ร้ายได้เลยทันที ทำให้ปัจจุบันนี้คนไม่เข้าใจเรื่องฤกษ์ยามกัน พอว่าออกรถวันดีเป็นวันธงไชยแล้ว ทำไม่รถจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้บ่อยๆ ฤกษ์เป็นสิ่งที่เชื่อไม่ได้จริงหรือ ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเราใช้ฤกษ์กันไม่เป็น ไม่สอบทานดวงฤกษ์ที่ต้องสมพงษ์กับดวงชาตากำเนิดของเราเสียก่อน วันฤกษ์ดีก็เลยกลับกลายเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยทันที
ความจริงเรื่องฤกษ์ออกรถ ที่ถูกต้องตามหลักโหรฯ จะมีคุณประโยชน์ดังนี้
1.สามารถก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ตามที่เราปรารถนา(ตามกำลังของฤกษ์ในขณะนั้นๆ)
2.สามารถแก้ไขดวงชาตาเดิมของเจ้าของ จากร้ายกลายเป็นดีได้ (ตามกำลังของฤกษ์ในขณะนั้นๆ)
3.สามารถที่จะบรรเทาและสลายผลร้ายต่างๆ ที่อาจจะจะเกิดขึ้นมาในอนาคตจากหนักเป็นเบา หรือจากเบาเป็นไม่มี (ตามกำลังของฤกษ์ในขณะนั้นๆ)
ดังนั้นหัวใจของฤกษ์ยามที่ถูกต้องก็คือ การใช้ฤกษ์บนและฤกษ์ล่างให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดศุภอิทธิพล เป็นศุภผลแก่เจ้าการ หรือเจ้าของงานที่จะกระทำการโดยฤกษ์นั้นๆ
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์
ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
ฤกษ์ออกรถ--ฤกษ์ยามคือสิ่งที่ บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ ที่บอกว่าเป็นวันดีฤกษ์ดีนั้น (ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ วันดีก็ไม่ใช่ว่าจะดีทั้งวัน และวันดีฤกษ์ดีของวันนั้น ก็อาจจะไม่สมพงษ์กับดวงชาตาของผู้ใช้ฤกษ์ จนกลับกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษก็เป็นได้ ดังนั้นฤกษ์ยามที่ถูกต้องจะต้องเป็นฤกษ์ที่ดีและสมพงษ์กับดวงชาตาเฉพาะบุคคลเท่านั้น เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์ของดวงชาตา(ภูมิดล)และฤกษ์ยามจากท้องฟ้า(นภดล)ได้ ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย

โหราศาสตร์ภารตะ หรือโหราศาสตร์จากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ หรือเรียกว่าโหราศาสตร์พระเวท -Vedic Astrology เป็นวิชาดาราศาสตร์-โหราศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดวิชาหนึ่งของโลก มีประวัติย้อนหลังไปถึง 8,300 ปี 3,000 ปีก่อนคริสตกาล หรือ ประมาณ 10,000 ปี มาแล้ว (8300 B.C.- 3000 B.C.) โดยในระยะเวลาดังกล่าว วิชานี้ได้รับการค้นคว้าและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมาพร้อมๆ กับคัมภีร์พระเวท ของพราหมณ์ โดยมหาฤาษีหรือมหามุนีที่เป็นบูรพาจารย์ของพราหมณ์ในยุคบรรพกาล ที่รจนาคัมภีร์พระเวท (สัปตยุคฤาษี) จำนวน 18 องค์คือ มหาฤาษีสูรยา มหาฤาษีปิตมาส มหาฤาษีวยาสะ มหาฤาษีวสิษฐะ มหาฤาษีอตรี มหาฤาษีปราสาระ มหาฤาษีกาษยาปะ มหาฤาษีลิษะ มหาฤาษีชาวาล มหาฤาษียาวนะ มหาฤาษีภฤคุ มหาฤาษีสูรยา และมหาฤาษีศอุนาคา เป็นต้น
วิชาโหรฯแห่งดินแดนภารตะ(อินเดีย) ตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบันมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อเช่นโหราศาสตร์ฮินดู (Hindu Astrology) โหราศาสตร์พระเวท (Vedic Astrology) โชฺยติษ ศาสตร์ (Jyotish shastra)เป็นวิชาที่ว่าด้วย กาลเวลา การโคจรของดาวเคราะห์ และปรากฏกาณ์ทางดาราศาสตร์ ที่ส่งพลังรังสีที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของมนุษย์ ทั้งในด้านชาตาชีวิต สุขภาพ ความสามารถ ความนึกคิด อารมณ์ต่างๆ ล้วนแต่ได้รับอิทธิพลจากพลัง รังสีดี-ร้ายของจักรวาลและเป็นวิชาหนึ่งในวิชาหลักสมัยโบราณที่นักบริหาร นักการทหาร และนักปกครอง จะต้องเรียนรู้และเป็นแม่แบบของวิชา โหราศาสตร์ระบบนิรายนะในวัฒนธรรมอื่นๆทั่วโลก และเป็นบรมครูของโหราศาสตร์ไทย และโหราศาสตร์ลังกา พม่า ลาว เขมร มอญ อินโด ธิเบต ฯลฯและแม้แต่โหราศาสตร์จีนก็ได้รับอิทธิพลจากโหราศาสตร์ภารตะเป็นอย่างมากผ่านทางพุทธศาสนามหายานที่แพร่เข้าไปในประเทศจีน เมื่อกว่า 2,000 ปีมาแล้ว ซึ่งศาสตร์เหล่านี้ เป็นศาสตร์ชั้นสูงที่มีการคำนวณ ยุ่งยากสลับซับซ้อนและละเอียดเป็นอย่างมากเพื่อใช้สำหรับทำนาย เหตุการณ์บ้านเมือง ทำนายฝนฟ้า ฤดูกาลทำนายชาตาชีวิตของกษัตริย์และบุคคลชั้นสูงส่วนสามัญชน จะไม่มีโอกาสได้ใช้เลย ปัจจุบันในประเทศอินเดีย ในรอบศตวรรษที่ผ่านมา มีการเปิดเผยความลี้ลับของวิชาโหราสาตร์และคัมภีร์เก่าแก่ที่ปิดบังซ่อนเร้นมานานนับพันปี นำมาเผยแพร่ให้ความรู้ต่อสาธารณชนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นประโยชน์เท่าเทียมกันแก่บุคคลทุกชั้นวรรณะ ที่จะได้มีโอกาสใช้และได้รับผลดีจาก ภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่ของบรรพชนโบราณ

การคำนวนฤกษ์ออกรถ จะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆหรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามีเคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไปให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็นพลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นในการแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ในการขอฤกษ์ออกรถ อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่าน

ปัจฉิมลิขิต ทางอาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่านั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่าระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่านั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย
เรื่องเวลาเกิด
1.สำหรับท่านที่ไม่มีเวลาเกิดหรือมีเวลาเกิดที่ไม่แน่นอน ก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากเราใช้วิธีคำนวณหาฤกษ์แบบโบราณจะไม่มีปัญหา ซึ่งในสมัยก่อนคนที่จะทราบเวลาเกิดที่แน่นอนมีน้อยมาก ส่วนมากก็จะเพียงแค่ทราบว่าเกิดวันไหน หรือรู้แต่เพียงว่า เกิดต้อนเช้า สาย บ่ายเย็น เกิดตอนพระบิณฑบาต เกิดตอนต้อนวัวเข้าคอก เกิดตอนพระตีระฆังเพล ฯลฯอย่างนี้เป็นต้น
โดยเราจะคำนวณจากองศาพระอาทิตย์ในวันที่ท่านเกิด ประกอบกับคำนวณจากองศาพระจันทร์ในฤกษ์ที่จันทร์เสวยนั้น ๆเป็นหลัก ซึ่งวิธีนี้จะคำนวณจากเวลา 07.00 น. ของทุกวัน สำหรับท่านทที่ไม่มีเวลาเกิดที่แน่นอน เราจะตั้งค่าการคำนวณจากเวลา 07.00 น. ก็จะทำให้สามารถหากฤกษ์กำเนิดในดวงชาตาได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า “การใช้ดาวอาทิตย์เป็นลัคนา)
2.สำหรับท่านไม่มีทั้งวัน เวลาเกิด หรือแม้กระทั่งปีเกิดก็ไม่มี ทางโหราศาสตร์ภารตะนั้นก็มีวิธีคำนวณดวงชาตาอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า “นามนักษัตร” คือใช้ชื่อตอนแรกเกิดของคนๆนั้น มาคำนวณดวงชาตาและคำนวณฤกษ์ จากดาวนักษัตรทั้ง ๒๗ นักษัตรที่สัมพันธ์กับตัวอักษรแรกของชื่อที่ตอนถือกำเนิด ซึ่งวิธีนี้ใช้กันมาหลายพันปีแล้ว และทางอาศรมฯก็สามารถคำนวณฤกษ์โดยใช้วิธีนี้ให้ท่านได้ โดยยังคงความถูกต้องแม่นยำ เหมือนกับคนที่มีวันเกิดทั่วไป (แต่ชื่อใหม่ที่เคยเปลี่ยนนั้นใช้ไม่ได้ จำเป็นต้องเป็นชื่อที่ตั้งตอนแรกเกิด เท่านั้น
3.สำหรับท่านที่เกิดต่างประเทศ /อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ในการกรอกข้อมูลกำเนิดให้ใช้เวลาเกิด ณ ประเทศที่ท่านเกิดได้เลย หรือต้องการใช้ฤกษ์มงคลเพียงแค่แจ้งชื่อเมือง /ประเทศ/รัฐ /เวลาท้องถิ่น/เวลา DST ที่ท่านต้องการประกอบการมงคลต่างๆ ส่วนอาจารย์จะแจ้งฤกษ์มงคลตามเวลาท้องถิ่น Local Time ณ เมืองที่ท่านอาศัยอยู่ โดยอาจารย์จะคำนวนจาก Time Zone,DST,GMT,Lat-Long ซึ่งแม่นยำและไม่ผิดพลาด

เรื่องสีถูกโฉลก
เรื่องสีรถมีผลต่อดวงชาตาน้อยมาก (ตามหลักโหราศาสตร์ที่แท้จริง) เรื่องสีมักเอาไว้เพื่อเสริมดวง(เพิ่มกำลังใจนิดหน่อย) แต่ ฤกษ์ยามมีผลร้อยเปอร์เซ็นต์ (ตามหลักโหราศาสตร์) เพราะตามหลักโหราศาสตร์ให้ความสำคัญกับอิทธิพลของสีน้อยมาก และแต่ละตำรา สีก็จะแตกต่างกัน ดังนั้นหากเราชอบสีอะไร สีนั้นก็ถูกโฉลกกับเรา
เรื่องเลขทะเบียนมงคล
การกำหนดเลขทะเบียนรถที่ให้ไปเป็นการ คำนวนจากดวงชาตาของรถและวัน,เวลาของลัคนาในดวงฤกษ์ออกรถ ส่วนดวงชาตาของรถก็คำนวนมาจากดวงของเจ้าของรถอีกที ดังนั้นเมื่อลัคนาของดวงฤกษ์ต่างกัน เลขทะเบียนจึงต่างกันด้วย บางคนขอฤกษ์มาหลายครั้งแต่เลขทะเบียนที่ได้อาจจะแตกต่างกัน ส่วนอักษรนำหน้าทะเบียนรถนั้นยากที่จะกำหนดให้ได้ เพราะต้องเรียงตามลำดับหมวดอักษร
ปกติอาจารย์จะให้เลขทะเบียนมงคลแก่รถทุกๆคัน ตามดวงชาตาของรถคันนั้นๆ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงตามวันและเวลาของฤกษ์นั้นๆ หากเลขทะเบียนที่ไม่ได้ตามกฏเกณฑ์ที่ให้ เลขใดที่ตกเลขไม่ดีก็ให้นำแผ่นทองเล็กๆมาปิดไว้ (ตรงตัวเลขที่ด้านหลังแผ่นป้ายทะเบียน ห้ามติดด้านหน้าเพราะผิดกฎหมาย)
ส่วนฤกษ์มงคลที่ได้รับเรื่องทิศ ถ้าหากศูนย์ที่ออกรถไม่สามารถกำหนดได้เนื่องจากสถานที่ตั้งจำกัด วิธีแก้ไขก็คือให้ขับออกมาก่อนแล้วก็ขับมุ่งตรงไปยังทิศที่ฤกษ์กำหนดสักระยะหนึ่ง แล้วก็ค่อยขับกลับบ้าน หากต้องนำรถไปพ่นกันสนิม ติดฟิล์มและตกแต่งเพิ่มเติมให้ทำก่อนฤกษ์ออกรถก็ได้ หรือออกรถก่อนแล้วสัก 2-3วันก็ค่อยนำเข้าไปทำก็ได้ ทำเสร็จแล้วก็ไม่ต้องหาฤกษ์อีก
**จริงๆแล้วเรื่องสีหรือทะเบียนมีผลน้อยในเรื่องฤกษ์ยาม เพียง 1เปอร์เซ็นต์ แต่ศาสตร์หมอดูชอบใช้กันมากเพราะไม่สามารถคำนวนฤกษ์ยามในระบบโหราศาสตร์ได้ แต่ก็มีคนถามมามาก ความจริงชอบสีอะไรก็ถือว่าถูกโฉลกแล้วครับ แต่ฤกษ์ยามที่ดีมีผล 99 เปอร์เซ็นต์ โปรดจำเอาไ้ว้ง่ายๆว่า หากวิชาใดที่เรียนรู้กันได้ง่ายๆ 5 นาทีก็เป็น จำเอาได้ง่ายๆ เช่นเกิดวันอาทิตย์ต้องสีแดง เกิดวันจันทร์ต้องสีเหลือง ปีนี้ชงกับปีนั้นทำการมงคลไม่ได้ เดือนนี้ไม่ดีกับคนเกิดวันนั้นวันนี้ ฯลฯ นั่นมิใช่วิชาฤกษ์ยามของวิชาโหรนะครับ เพราะการเรียนรู้วิชาฤกษ์ยามของวิชาโหรนั้นต้องเรียนกันเป็นสิบปีนะครับ
ตามหลักวิชาโหร เรื่องสี และเรื่องตัวเลข มีผลน้อยมาก การให้ผลดีร้ายนั้นมากจากดวงฤกษ์ 99 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสีและอื่นๆมีผลน้อยมาก แต่วิชาหมอดูมักจะถือว่าเรื่อสีและตัวเลขเป็นเรื่องใหญ่ เพราะวิชาหมอดูคำนวนฤกษ์โดยใช้หลักดาราศาสตร์ไม่ได้ วางลัคนาไม่ได้ หากเราจะดูว่าสีไหนถูกโฉลก ก็คือสีที่เราชอบนั่นเอง เช่นคุณชอบสีขาวแต่เกลียดสีดำ อาจารย์บอกว่าคุณต้องใช้รถสีดำเท่านั้นจึงจะถูกโฉลกห้ามใช้สีขาว คุณก็ขับไปทุกข์ไป อย่างนี้จะเรียกว่าถูกโฉลกได้อย่างไร

***คำเตือน***
ในกรณีที่ในพื้นดวงของคุณมี”ดวงอุบัติเหตุ” หรือเคยผ่านการประสบอุบัติเหตุมาแล้ว (หรือเคยผ่านการผ่าตัดก็ถือว่าเป็น”ดวงอุบัติเหตุ”เหมือนกัน) ดวงฤกษ์ที่ดีจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แต่ก็ไม่ควรประมาทในการขับขี่ยวดยาน โดยเฉพาะการเมาแล้วขับห้ามกระทำอย่างเด็ดขาด
และในช่วง 7 วันนี้เป็นวันถือ ไม่ควรขับรถใหม่ไปในสถานที่ไม่เป็นมงคลต่างๆเช่น ไปงานศพ หรือไปโรงพัก โรงพยาบาล หรือเยี่ยมคนป่วย หรือเข้าอู่เพื่อซ่อม และห้ามทะเลาะเบาะแว้งกันในรถเป็นอันขาด แต่ให้ขับรถไปทำบุญ ท่องเที่ยว หรือไปทำงานหาเงิน รถคันนี้ก็จะเป็นมงคลตลอดไป
เวลาฤกษ์ออกรถจะเป็นเวลา ตามใบฤกษ์ ควรจะไปรอที่ศูนย์รถแต่เนิ่นๆนะครับ หรือแจ้งศูนย์รถให้ทราบล่วงหน้าก่อน เมื่อได้เตรียมเอกสาร และรับมอบรถแล้วให้ทำตามใบฤกษ์ที่เขียนไว้ด้านล่าง นะครับ จะบอกทิศมงคลและคาถาออกรถเอาไว้พร้อมสรรพ และบอกเวลาเดินทางกลับให้ถึงบ้านภายในเวลาไม่เกินเท่าไหร่ ส่วนในเรื่องเอกสาร เราอาจจะทำเอกสารสัญญาก่อนถึงฤกษ์ออกรถก่อนล่วงหน้าหลายๆวันหรือทำวันเดียวกันกับวันออกรถก็ได้
เมื่อถึงบ้านแล้วควรจุดธูปเทียนบอกกล่าวแก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านให้ท่านรับทราบและเชิญท่านมาคุ้มครองรักษา ต่อมาก็ให้พ่อแม่มานั่งรถเป็นคนแรกเพื่อเป็นศิริมงคล แล้วให้ท่านให้พรแก่เราและรถ เพื่อให้เดินทางขับขี่ปลอดภัย มีโชคมีลาภ หลังจากนั้นก็ควรจะนำรถใหม่ขับไปทำบุญที่วัด และถวายสังฆทาน หรือหาพระที่มีวิชาให้ท่านเจิมรถและสวดชยันโตให้ศีลให้พร ก็จะเป็นมงคลมากยิ่งขึ้น

ใบฤกษ์และดวงชาตาที่คำนวณออกมาตามระบบโหราศาสตร์ และดวงฤกษ์ที่ให้ไปใน PDF File ท่าน สามารถที่จะพิมพ์ออกมาใช้ได้หลายๆใบ สำหรับเอาไว้ใส่กรอบบูชาฤกษ์และดวงชาตาของตัวเอง หรือนำไปให้โหรทำนายดวงชาตา หรือให้พระท่านสวดแผ่นดวงชาตาเพื่อเสริมศิริมงคลได้ หรือ เอาไปจารใส่แผ่นทอง นากเงิน เพื่อบรรจุใต้ฐานพระหรือนำไปหล่อพระเพื่อเสริมชาตาได้ แต่เมื่อพิมพ์ออกมาแล้วห้ามฉีกทิ้ง หรือทิ้งลงถังขยะ เพราะจะทำลายดวงชาตาเราเอง แต่หากไม่ใช้แล้วสามารถนำไปจำเริญไฟหรือจำเริญน้ำ (นำไปเผาไฟหรือลอยน้ำเพื่อถวายคืนให้กับครูอาจารย์ได้)
การใช้เวลาตามฤกษ์ควรจะต้องคำนวณเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่นที่เป็นมาตรฐานสำหรับสถานที่นั้น ๆ หรืออย่างน้อยนาฬิกาจะต้องตรง โดยเทียบจากเวลามาตรฐานของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ โดยโทรไปที่หมายเลข 1811 ซึ่งจะบอกเวลามาตรฐานประเทศไทย ซึ่งทางอาศรมฯจะใช้เวลามาตรฐานประเทศไทยนี้คำนวณฤกษ์ ฉะนั้นจะต้องตรงกันทั้งสองฝ่าย
เวลาจากดวงฤกษ์ที่ให้เป็นการคำนวณเวลาเริ่มต้นของฤกษ์ และจะสิ้นสุดฤกษ์ เช่นฤกษ์ที่กำหนดเป็นเวลา 09.11 - 09.29 น. หมายความว่าหัวใจในการทำกิจกรรมนั้น ๆจะต้องเริ่มต้นในเวลา 09.11 น.จนถึง 09.29 น. (ปกติอาจารย์จะให้เวลาเริ่มต้นและเวลาสุดฤกษ์เอาไว้ให้) เช่น การออกรถ ก็ต้องเริ่มติดเครื่อง และขับรถออกจากศูนย์จำหน่ายรถภายในเวลาฤกษ์ที่กำหนด ส่วนหากต้องใช้ระยะเวลามากกว่านี้ก็จะต้องให้มีการทำกิจกรรมต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอนหรือหยุดไปกลางคัน ก็ยังถือเวลาอยู่ในเวลาของฤกษ์ได้
อนึ่งฤกษ์ยามชั้นสูงของอาศรมฯ จะคำนวนละเอียดเป็นนาที ดังนั้นฤกษ์ดีที่จะได้ก็จะมีระยะเวลาจำกัดประมาณ 20 -35 นาทีเท่านั้น หรืออย่างมากก็ไม่เกิน 45 นาทีเท่านั้น


เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
- รายละเอียด
- หมวด: บริการดูฮวงจุ้ย
- จำนวนผู้อ่าน: 307960

ได้ผลตอบรับดีมาตลอดหลายสิบปีว่าแก้ไขฮวงจุ้ยแล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอเชิญอาจารย์ไปดูอีกหลายครั้ง
福安堂 堪舆命理择日馆
ดูฮวงจุ้ย 风水แก้ฮวงจุ้ย ฮวงจุ้ยบ้าน ฮวงจุ้ยสำนักงาน ฮวงจุ้ยที่ดิน ฮวงจุ้ยโรงงาน ปี 2568
เลือกซื้อบ้าน-ที่ดิน เลือกทำเล บ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด บ้านเดี่ยว
บ้านจัดสรร บ้านแฝด ทาว์นโฮม ทาว์นเฮาส์ โฮมออฟฟิศ
ดูดวง ตรวจดวงชะตา ให้สมพงษ์กับดวงเจ้าบ้าน
โดย ซินแส ณภัทร ศรีจักรนารท 福安居士(张老师-泰国风水师) (Astro Neemo)
ดูฮวงจุ้ยกับอาจารย์ณภัทร ไม่แพงอย่างที่คิด เพราะอาจารย์ไม่ได้ทำการค้าพาณิชย์ ไม่ได้จ้างสื่อ ไม่มีนายหน้า ไม่มีหน้าม้า ไม่มีหัวคิว สอบถามก่อนได้ เพื่อการตัดสินใจ สนใจแอด @astroneemo
ได้รับเชิญไปดูฮวงจุ้ย ณ เมืองซีอาน ประเทศจีน ปีที่ 5 พ.ศ 2567
ได้รับเชิญไปดูฮวงจุ้ย ณ เมืองซีอาน ประเทศจีน ทุกปี
ซินแสไทยที่ได้รับเชิญไปดูฮวงจุ้ยที่ไต้หวันเป็นประจำทุกปี
อีกทั้งได้การยอมรับจากนักธุรกิจและนักลงทุนชาวไทย
ชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ที่มาลงทุนและอาศัยอยู่ในประเทศไทย
福人福地 福地福人居
山不在高,有仙则名; 水不在深,有龙则灵。斯是陋室,惟吾德馨。
และ "ดูดวง" ด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจคลิ๊ก
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดู "ฮวงจุ้ยแปลนบ้าน" 
ดูฮวงจุ้ยเลือกซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง "ซื้อบ้านผิด คิดจนตัวตาย"
ฮวงจุ้ยเลือกซื้อบ้าน-ฮวงจุ้ยบ้านอยู่อาศัย สำคัญกับชีวิตของทุกๆคน เพราะกว่ามีบ้านได้ 1 หลัง ก็ต้องสะสมเงินทองและใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และหากได้ฮวงจุ้ยดีสมพงษ์กับดวงชะตาเจ้าของบ้านก็ย่อมทำให้อยู่เย็นเป็นสุขเจริญรุ่งเรือง
หากเลือกบ้านผิด ก็จะเกิดผลร้ายตามมา เช่น ทะเลาะกันอย่างที่ไม่เคยเป็น เงินทองฝืดเคือง เจ็บป่วย อุบัติเหตุ ผ่าตัด ดวงตก สุดท้ายก็ผ่อนต่อไม่ไหว หรือไม่ก็ย้ายออกไป สำนวนไทยบอกว่ารู้สึกว่า"บ้านมันร้อน" ซึ่งหลายๆคนก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้ "ซื้อบ้านผิด คิดจนตัวตาย" โปรดให้ความสำคัญเรื่องนี้ให้มาก
หลายๆคนอาจจะสงสัย เวลาไปหมู่บ้านจัดสรร โครงการใหม่ๆ ไม่ว่าจะราคาหลักล้าน ไปจนถึงหลายสิบล้าน ร้อยล้าน ก็มักจะเจอประกาศขายบ้านอยู่เสมอๆ ทั้งที่เป็นบ้านใหม่ ตกแต่งแล้วก็มี ยังไม่ตกแต่งก็มี เหมือนกับว่าเพิ่งซื้อได้ไม่นานก็ประกาศขายแล้ว แม้แต่ขาดทุนก็ยอมขาย อธิบายง่ายๆตามศาสตร์ฮวงจุ้ยก็คือ ซื้อบ้านผิด ไม่ถูกโฉลกกับดวงชะตา
พอซื้อแล้วเข้าไปอยู่ก็มักจะมีเรื่องเดือดร้อน เงินทองที่เคยคล่องตัว ก็เกิดฝืดเคือง จนกระทั่งไม่มีปัญญาผ่อนต่อก็มี หรือซื้อไปแล้ว อยู่สักพักก็รู้สึกว่าอยู่ไม่สบาย นอนไม่หลับ คนในบ้านเจ็บป่วย หรือ ทะเลาะเบาะแว้งกัน หากไม่ต้องการประสบปัญหาแบบนี้ปรึกษาได้ที่นี่
ดูฮวงจุ้ยไม่เกี่ยวกับทิศและองศา แต่เกี่ยวกับดวงของเจ้าของบ้านและดาวจรบนฟ้า
บริการตรวจฮวงจุ้ยแบบบ้าน อาคารสำนักงาน ณ บ้านอาจารย์
ฮวงจุ้ยแบบบ้าน สร้างผิด-ชีวิตเปลี่ยน
แผนที่บ้านอาจารย์ กรุณาสอบถาม ทาง Line @astroneemo หรือ แอดไลน์คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/%40astroneemo
ตั้งแต่อาจารย์ดูฮวงจุ้ยมาเกือบ 30 ปี อาจารย์"ไม่เคยใช้" ของแก้ฮวงจุ้ยเทียม เช่น อ่างปลา บ่อน้ำพุ ลูกแก้ว ลูกหิน สิงห์โต ปี่เซี๊ยะ ยันต์แปดทิศ(โป๊ยข่วย) กระจกเงา น้ำเต้า กระดิ่ง เหรียญจีน สิงห์คาบดาบ ฯลฯ เอามาใช้แก้ฮวงจุ้ยเลย เพราะของเหล่านี้เป็น"ฮวงจุ้ยเทียม" แก้ไขอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ปลอบใจ ว่าได้แก้แล้ว แต่ปัญหายังคงอยู่เหมือนเดิม และอาจารย์ก็ไม่เคยขายของหรือหลอกทำพิธีแก้ฮวงจุ้ยใดใดทั้งสิ้น สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือ อาจารย์มั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพมาโดยตลอด ไม่เคยแสวงหากำไรจากการขายสิ่งของใดๆ และไม่เคยแนะนำให้ใครทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ใดๆ ความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเคารพต่อต้นกำเนิดของฮวงจุ้ยและจิตวิญญาณแห่งการเผยแพร่ความรู้อย่างมีความรับผิดชอบ
由于张老师在风水领域有着近三十年的深厚研究,老师坚决摒弃通过使用诸如鱼缸、喷泉、水晶球、弹珠、狮子、貔貅、八卦、镜子、葫芦、铃铛、中国钱币及佩剑等人造风水物品来调整风水。这些物件被归类为所谓的“人造风水”,无法有效解决实际问题,其本质仅在于心理安慰,营造一种问题已被解决的假象,而真正的问题依旧存在。值得一提的是,老师始终秉持专业操守,从未通过售卖任何物品牟利,也未诱导个人搞任何的迷信法事。这种清正廉洁的态度体现了,也对风水学本源的尊重以及对知识传播的负责精神。
อีกทั้งไม่เคยบอกให้ทำประตูบ้านเอียงๆ โต๊ะทำงานเฉียงๆ เพื่อให้ตรงกับทิศหรือองศา(ฮุงกิม)ที่เชื่อว่าดี ซึ่งทำให้ขาดความสมดุล ผลร้ายย่อมตามมา หรือใช้ไม้บรรทัดฮวงจุ้ยไปวัดแล้วบอกว่าดีหรือร้าย เพราะตกตัวอักษรสีดำ แล้วบอกว่าโชคร้าย นี่คือความเชื่อที่งมงายไร้เหตุผล
与此同时,老师坚决反对将房门或工作台按照所谓“吉利方向”(分金)人为倾斜的做法,因为这样的改动可能会破坏整体平衡,最终引发负面影响。老师也不主张使用风水尺(鲁班尺)进行测量,因为风水尺上的符号所谓“吉凶”的判断其实毫无科学依据,纯属迷信之説。
ซึ่งฮวงจุ้ยแต่โบราณไม่เคยมีของอย่างนี้ เพราะฮวงจุ้ยใช้หลักการของคัมภีร์อี้จิง ซึ่งเป็นหลักเดียวกันกับแพทย์แผนจีนซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ เน้นในเรื่องความสมดุลหยิน-หยางและธาตุทั้ง 5 ซึ่งต้องดูการส่งเสริมและหักล้างกัน รวมถึงการกักเก็บและการหมุนเวียนของพลังชี่ หากร่างกายมีความสุมดล ย่อมไม่เกิดโรค หากบ้านที่อยู่อาศัยมีความสมดุลย่อมเจริญรุ่งเรือง
在古代风水文化中,从未出现过这些不合理的现象。真正的风水是基于《易经》的原理,与中医的体繫有着相通性。中医作为一门科学,强调阴阳五行的平衡,通过相互促进与制约实现的“气”储存与循环。人体如果平衡,就能够免除疾病;而居所环境保持平衡,住宅能够藏风聚气,便能助力兴旺和发展。这种科学性的理念才是风水的核心所在。
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
ซินแส ณภัทร บริการ ดูฮวงจุ้ย 风水 ฮวงจุ้ยบ้าน ฮวงจุ้ยสำนักงาน ฮวงจุ้ยที่ดิน ฮวงจุ้ยบริษัท ฮวงจุ้ยโรงงาน เสริมฮวงจุ้ย และแก้ฮวงจุ้ยด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยสำนักรูปลักษณ์สมัยราชวงศ์ถัง鸾头派-形势派 ของท่านหยางกง 杨公 และท่านถือเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยของทุกสำนัก โดยใช้โหราศาสตร์ชีเจิ้ง (七政四余) ของราชสำนักจีน คัมภีร์อี้จิง ทฤษฎีหยิน-หยาง (阴阳) และพลังชี่ (气) เป็นรากฐาน และผสานกับฮวงจุ้ยระบบ 理气派 ช่วยปรับแก้ทิศทางให้เป็นมงคล เสริมดวงชาตา ธุรกิจการงาน แก้ไขอุปสรรคต่างๆในการงาน อาชีพ หนี้สิน และความสัมพันธ์ในครอบครัว อาจารย์มีประสบการณ์นับสิบปี ในการดูและแก้ไขฮวงจุ้ย 风水ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน(ต้นกำเนิดวิชาฮวงจุ้ย风水) ลาว สิงคโปร์ ไต้หวัน ฯลฯ โดยเฉพาะไต้หวัน อาจารย์ได้รับเชิญเกือบทุกปี ปีละ 2-3 ครั้ง และเป็นที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ยให้กับนักธุรกิจชาวจีนและชาวไต้หวัน ที่มาลงทุนในประเทศไทย และสมาคมจีนต่างๆในประเทศไทย
***หากต้องการเชิญ อาจารย์ ไปตรวจแก้ฮวงจุ้ยบ้าน ร้านค้า ออฟฟิต กรุณาติดต่อ คุณกมล (บอย) โทรศัพท์ : 085-832-8228 Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
ในการดูฮวงจุ้ย 风水 ของอาจารย์จะค่อนข้างละเอียด ในการดูแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 2 ชม. หรือบางรายอาจนานถึง 4 ชม. ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และปัญหาที่ต้องการแก้ไข ส่วนหลังจากการดูฮวงจุ้ยแล้ว ท่านสามารถติดต่อสอบถามเรื่องฮวงจุ้ยที่อาจารย์เคยไปปรับแก้ให้ได้ตลอด 6 เดือน ผ่านทาง Line@astroneemo โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ภาพการไปดูฮวงจุ้ยอาจารย์ คลิ๊กที่นี่

ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
สำนักเรานี้ ไม่มีการหลอกขายสินค้าเสริมมงคล แก้ฮวงจุ้ย ไม่มีสะเดาะเคราะห์แก้กรรม ไม่เน้นทุบรื้อ(นอกจากฮวงจุ้ย 风水 ร้ายมากจนทำร้ายผู้อยู่ศัย) ไม่มีเรียกเงินทองเพิ่ม ไม่การหลอกให้เปิดประตูเงินทอง ไม่มีการหลอกทำพิธีกรรม ไม่มีการใช้ของแก้ฮวงจุ้ยเพื่อปลอบใจแต่ไม่ได้ผล ไม่มีการเรียกร้องผลประโยชน์เพิ่มเติมใดใด
แต่อาจารย์จะเน้นเรื่องคุณธรรม การสร้างความสมดุลย์กระแสพลังชี่ ฟ้า-ดิน-คน และสกัดกั้นและสลายพลังชี่พิฆาต เสริมพลังชี่มงคล ที่สมพงษ์กับดวงชาตาเจ้าของบ้านและอาชีพการงาน และแก้ไขอุปสรรคที่เผชิญอยู่ การปรึกษาผู้รู้ก่อน ย่อมที่จะไม่พลาดพลั้ง ศาตร์แห่งฮวงจุ้ยไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่ได้พิสูจน์ความจริงมาตลอดหลายพันปี ศาสตร์แห่งภูมิพยากรณ์นี้ สามารถช่วยเหลือและให้คำแนะนำกับท่านได้ เช่น
1.ฮวงจุ้ยบ้าน 阳宅风水 เช่น มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย คนในบ้านไม่สามัคคีกัน ขัดแย้งกัน ทำมาหากินไม่ขึ้น เก็บเงินไม่อยู่ เงินทองรั่วไหล เปลี่ยนที่อยู่บ่อย โยกย้ายบ่อย มีปัญหากับคนข้างบ้าน มีปัญหาโจรกรรมบ่อยผิดปกติ คนอยู่อาศัยเจ็บป่วย เรื้อรังอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ลูกหลานไม่เชื่อฟัง เรียนไม่เก่ง ปัญญาทึบ การเงินติดขัด การงานมีปัญหา หนี้สินพอกพูน ฯลฯ
2.ฮวงจุ้ยการงาน 事业风水 ฮวงจุ้ยบริษัท 公司风水 ฮวงจุ้ยออฟฟิต 办公室风水 ฮวงจุ้ยโรงงาน 工厂风水
เช่น มีปัญหาเรื่องธุรกิจการงาน กิจการไปไม่ไหว ลูกน้องบริวารไม่ดี เปลี่ยนบ่อย ลูกค้าน้อย เงินทองของบริษัทหมุนเวียนไม่คล่อง กิจการถดถอย หนี้สินรุงรัง เก็บเงินลูกค้าไม่ได้ สินค้ามีปัญหา มีศัตรูทางธุรกิจมาก พ่ายแพ้ในการแข่งขันทางธุรกิจ ชื่อเสียงไม่ดี ลูกน้องแบ่งฝักฝ่าย ล้มละลาย ฯลฯอาจารย์จะเข้าไปตรวจดูชัยภูมิภายนอก และภายในตังบ้านหรืออาคาร หาตำแหน่งที่ฮวงจุ้ยเสีย เช่น ตำแหน่งชั๊วขี่ 杀气 (ชี่พิฆาต) ซึ่งมีหลากหลายประเภท และจัดการแก้ไขขจัดให้หมดสิ้นไป
3.ฮวงจุ้ยเลือกซื้อบ้าน-ที่ดิน ฮวงจุ้ยที่ดิน 住房地风水 地形风水 宅基地风水 เลือกทำเล เพื่อสร้างบ้าน สร้างออฟฟิต สร้างโรงงาน หรือเลือกซื้อบ้านใหม่ ที่ดิน ฯลฯ เพื่อเสริมโชคลาภ ขจัดอุปสรรคที่จะมีมาในอนาคต อาจารย์จะแนะนำว่าสถานที่ไหนเหมาะสมกับดวงเราและอาชีพของเรา อีกทั้งแนะนำวิธีเสริมฮวงจุ้ย เช่น ตำแหน่ง อำนาจบริวาร (明堂 เหม่งตึ๊ง) ตำแหน่งขุมทรัพย์ (财库 ไฉ่โข่ว) สำหรับการก่อสร้างใหม่ อาจารย์จะช่วยกำหนดการหันทิศทางของตัวบ้านหรืออาคาร การเลือกตำแหน่งประตูใหญ่ การเลือกตำแหน่งตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ สำหรับ ฮวงจุ้ยบ้านใหม่ อาจารย์จะแนะนำเรื่องห้องต่างให้ถูกโฉลกกับผู้อยู่อาศัยแต่ละคน โดยดูจากดวงชาตา วันเดือนปีเกิด และโหงวเฮ้งของแต่ละคน
4.ฮวงจุ้ยทุบรื้อ ตกแต่ง ต่อเติม 装修开工风水 สำหรับบ้าน ที่พักอาศัย ออฟฟิต โรงงาน เพื่อให้พลังชี่สมดุลย์ ส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยโชคดี และมิให้เกิดความขัดแย้งของพลังชี่ และในกรณีที่ต้องการรีโนเวทบ้าน หรือ รีโนเวทออฟฟิตใหม่ อาจารย์จะให้คำแนะนำในการออกแบบ จัดวางห้องต่างๆ ให้เหมาะสมและเน้นการไหลเวียนของพลังชี่มงคลภายในบ้าน ก่อให้เกิดโชคลาภและความรุ่งเรือง
5.ฮวงจุ้ยออกแบบบ้าน 住宅设计风水 室内设计 风水居家风水 ออฟฟิต โรงงาน การจัดวางผังห้องต่างๆ (ฮวงจุ้ยแปลนบ้าน) หรือจัดตำแหน่งและทิศทางที่จะต้องทำการก่อสร้าง เพื่อให้พลังชี่สมดุลย์ ก่อนทำการสร้างบ้าน และมิให้เกิดปัญหาในอนาคต และจะได้ไม่ต้องมาทุบรื้อในภายหลัง (สำหรับกรณีนี้อาจารย์จำเป็นที่จะต้องไปวัดพลังกระแสชี่จากสถานที่ก่อสร้างจริง ไม่สามารถดูจากภาพถ่ายได้)
6.ฮวงจุ้ยตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 神位风水 ศาลพระภูมิ ศาลเจ้า ตี่จู้ จัดวางของมงคล พระพุทธรูป เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ รวมไปถึงตำแหน่งตั้งหิ้งบูชาบรรพบุรุษ ในตำแหน่งที่เสริมพลังชี่มงคล เสริมความรุ่งเรืองและไม่ให้เป็นโทษต่อเจ้าของบ้าน
7.ฤกษ์ยามมงคล 择日 吉课 พิธีกรรม 风水仪式 ในการทำการต่างๆเช่น ฤกษ์สร้างบ้าน ฤกษ์ยกเสาเอก ฤกษ์เปิดกิจการ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์ทุบรื้อเปลี่ยนแปลงแก้ไข ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ฯลฯ

การดูฮวงจุ้ยบ้านจริงๆนั้น ไม่ใช่ดูแค่ตัวบ้านของเรา หรือเฉพาะที่ดินของเราแค่นั้น แต่ต้องดูเงื่อนไขอื่นๆแล้วนำมาประกอบกัน ดังนี้
1.ฮวงจุ้ยชัยภูมิ หรือภูมิทัศน์รอบๆบ้าน (อย่างน้อยรัศมี 1 ตารางกิโลเมตร) หรือที่เรามองเห็นได้จนสุดสายตา เพราะภูมิทัศน์รอบๆนี่แหละเป็นตัวกำหนดฮวงจุ้ยของตัวบ้านของเราและมีอิทธิพลต่อฮวงจุ้ยบ้านมากที่สุด ทั้งจะต้องดูจากถนน ปากซอย ทางเข้า จนไปถึงท้ายซอย และแยกมุมถนนต่างๆ ทั้งแหล่งน้ำ ชุมชน กิจการค้าอื่นๆ อาคารที่อยู่โดยรอบ เช่น วัด โบสถ์ ศาลเจ้า โรงงาน โรงแรม โรงเรียน ฯลฯ ล้วนแต่มีผลต่อตัวบ้านและโชคเคราะห์ของเราทั้งสิ้น
2.ฮวงจุ้ยบ้าน ทั้งภายใน ภายนอก ต้องดูลักษณะรูปทรง ตัวบ้าน ทิศทางหรือการวางตำแหน่งของตัวอาคารที่เราอาศัยอยู่ ทั้งพื้นว่าง พื้นที่จัดสวน รั้ว ประตูใหญ่ ส่วนภายในก็ต้องดูการจัดวางผังบ้าน ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
ทั้งนี้ก็เพื่อมาเพื่อกำหนด ห้องประธาน ตำแหน่งขุมทรัพย์ ตำแหน่งบริวาร ตำแหน่งวาสนาบารมี ตำแหน่งพ่อแม่และลูกหลาน ตำแหน่งอาชีพการงาน ยศศักดิ์ ทั้งหมดล้วนต้องสัมพันธ์กับกิจการหรืออาชีพที่เราจะทำ และสมพงศ์กับดวงชาตาของผู้อยู่อาศัยแต่ละคน
3.ฮวงจุ้ยทิศทาง ต้องพิจารณาถึงทิศทางของพลังชี่ดี-ร้ายต่างๆ สนามพลังหยินหยางของแต่ละพื้นที่ ทิศทางลมและทิศทางพระอาทิตย์ขึ้นตกในแต่ละฤดูกาล และอิทธิพลจากการโคจรของดาวเคราะห์บนฟากฟ้า นอกจากนี้ยังต้องมีฤกษ์ยามที่สมพงศ์กับดวงชาตาของเจ้าบ้านและกิจการที่ทำ เพื่อใช้พลังฟ้า- คน- ดิน สอดประสานกันสมดุลย์กัน จึงจะสมบูรณ์
4.การแก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ดังนั้นการแก้ฮวงจุ้ย โดยใช้สิ่งของต่างๆ เช่น มีด ดาบ กระจก สิงโต น้ำเต้า น้ำพุ อ่างน้ำ ตู้ปลา ฯลฯ บางครั้งอาจจะไม่ค่อยได้ผลนักถ้าวางผิดตำแหน่ง แต่กลับเป็นผลร้ายยิ่งไปอีก และการแก้ฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดก็คือ ต้องทำให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด และทำให้กลมกลืนกับตัวบ้านมากที่สุด ไม่ใช่ไปวางของแก้ฮวงจุ้ยทั่วไปหมดจนบ้านกลายเป็นศาลเจ้า หรือทำให้ประโยชน์ของพื้นที่ใช้สอยเสียไป
หากต้องการสอบถามรายละเอียดก่อน คลิ๊กที่นี่..
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo
บทความของอาจารย์
“ หยางกง ” บูรพาจารย์ฮวงจุ้ยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ตำนาน องค์ฮ้อเฮี๊ยฮุ้งฮุดโจ้ว 何野云师尊 วิธีการใช้หล่อแก เข็มทิศ 罗盘 ฮวงจุ้ยภาควิชาการ 风水理论 เคล็ดฮวงจุ้ย 阳宅风水 โหราศาสตร์จีน เทพไท้ส่วยเอี๊ย





我们提供的服务:
1.起名策划服务 主要包括:宝宝起名,成人改名,公司起名,品牌命名 ,产品命名,名人艺名及签名设计。
2.风水策划服务 主要包括:风水勘测,环境选址及改运,楼盘,住宅,办公,商家,店铺工厂风水布置策划。
3.风水建筑设计 主要包括:风水规划设计, 建筑风水设计,室内风水设计,景观风水设计,城市发展,风水项目策划。
4.命理推算和预测咨询 主要包括:事业发展咨询,前程预测咨询,项目咨询,财运咨询,婚姻咨询,挑选吉日吉时咨询,健康咨询,投资顾问等服务。
承办代客安状地主爷﹐本头公及其他各种神龛服务。
代客主持各项祭拜天神仪典及尊基﹐升主柱﹐摄装电影开镜拜神仪式﹐神仙佛像开光和敬师拜祖﹐择吉晋宅等吉祥典礼。本网站有中﹐泰﹐印度着名神学士﹐星象家和有道高僧接受各界有关婚丧喜庆 ﹐风水地理等的咨询与实际服务。
公司 风水,事业 风水,办公室 风水,工厂 风水,住房地 风水,地形 风水, 宅基地 风水,装修 风水,开工 风水,住宅设计 风水, 室内设计 风水, 居家 风水, 神位 风水, 择日 风水, 泰国 风水师, 泰国风水师
电邮 联係
请与我联系 张老师(福安居士)Line: @astroneemo 微信 :astroneemo
ดูฮวงจุ้ย ดูฮวงจุ้ย ฮวงจุ้ยบ้าน
- รายละเอียด
- หมวด: คำนวณดวงพิชัยสงคราม
- จำนวนผู้อ่าน: 213781
ภาพจริงของจริงเปิดเผยครั้งแรกในรอบ 11 ปี
ดวงพิชัยสงครามรุ่นชนะมาร อัญเชิญพระพุทธปางมารวิชัย มาประดิษฐานในดวงพิชัยสงคราม เพื่อเสริมบารมี ชนะศัตรูและอุปสรรค
ทำพิธีเขียนและลงอักขระกำกับคาถาด้วยลายมือของอาจารย์เองทุกตัวอักษร ทำมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒
บริการผูกดวง ยันต์พิชัยสงครามตามแบบโบราณ
พลิกชาตา เสริมดวง เสริมวาสนาบารมี อำนาจและยศศักดิ์ ด้วยการบูชาดวงพิชัยสงคราม ทำครั้งเดียวบูชาได้ตลอดชีวิต
ค่าบูชาครู 3,999 บาท จัดทำมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นปีที่ 16 โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
ศาสตร์โบราณของสายวิชาโหรฯโดยเฉพาะใช้สำหรับ เสริมดวงชะตา ปัดเป่าเคราะห์กรรม
แก้ดวงตก คุ้มครอง ป้องกันภัย แก้คุณไสยฯ หรือช่วยให้ทำกิจการต่างๆให้ประสบความสำเร็จฯลฯ
ใช้เวลาจัดคำนวนและทำพิธีกรรมประมาณ 1 เดือน
กรุณาแอดไลน์ @astroneemo https://line.me/R/ti/p/%40astroneemo
กรอกข้อมูลที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้ครับ![]()
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************

**หมายเหตุ ใช้เวลาจัดทำและปลุกเสกทำพิธีประมาณ 1 เดือน ในกรณีท่านที่ดวงมีเคราะห์ แก้ไขยาก ซึ่งจะต้องทำพิธีแก้ไขหลายครั้งจนกว่าจะสำเร็จซึ่งจะทำให้การจัดส่งล่าช้าประมาณ 1 เดือนครึ่ง ถึง 2 เดือน จึงแจ้งมาเพื่อทราบ
ดวงพิชัยสงคราม เป็นคุณูปการทางด้านโหราศาสตร์ของบูรพาจารย์ที่ได้ถ่ายทอดมาเป็นมรดกตกทอดของ"บูรพาจารย์สายโหราศาสตร์โดยเฉพาะ" ซึ่งครูสายวิชาอาคมนั้นไม่มี และเป็นการผูกดวงชาตาของบุคคลหรือฤกษ์ยามโดยละเอียดที่สุด คำว่าผูกดวง เป็นภาษาโหรคือเป็นการคำนวณดวงชาตา โดยใช้คณิตศาสตร์และวิชาตรีโกณมิติแบบโบราณ โดยใช้หลักคำนวนของคัมภีร์พระสุริยาตรของโหร อย่างละเอียดคำนวนเป็นองศาลิปดา นวางศ์ ตรียางค์ อินทภาส บาทจันทร์ ฯลฯซึ่งหากไม่ได้เจนจัดในด้านโหราศาสตร์ภาคคำนวนแล้วก็จะทำไม่ได้เลย
อีกทั้งได้ผสมผสานกับวิชาพุทธเวทย์วิทยาคม เพื่อคุ้มครองปกป้องหนุนดวงชาตาให้พ้นจากสรรพอันตรายและถูกกระทำย่ำยีทั้งปวง และแก้ไขดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดี ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในหมู่บุคคลชั้นสูง เจ้าพระยามหากษัตริย์ เจ้านาย ฯลฯ แต่สามัญชนยากนักที่จะได้ครอบครอง เพราะในอดีตวิชานี้ได้แพร่หลายเฉพาะในกรมโหรในพระบรมมหาราชวัง ในการผูกดวงพระชาตาของเจ้านายหรือพระบรมวงศานุวงศ์ พระยา เจ้าพระยา พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ เศรษฐีผู้มีทรัพย์ หรือใช้ในการคำนวณ ผูกดวงพระชาตา เช่นดวงประสูติของเจ้านายชั้นสูง หรือการใช้ในการคำนวณฤกษ์ยามสำคัญๆ เช่นจารึกดวงพระฤกษ์พิชัยสงครามลงในศิลา แผ่นทองเพื่อเป็นศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างพระเจดีย์ พระธาตุเจดีย์ พระวิหาร อุโบสถ พระบรมมหาราชวัง ฯลฯ นัยเพื่อความปลอดภัยและขอความคุ้มครองจากดวงพิชัยสงครามให้แก่ถาวรวัตถุที่ก่อสร้างนั้นๆ นอกจากนี้คงจะหาครูบาอาจารย์ทำให้ได้ยากนัก เพราะขาดผู้มีความรอบรู้ในวิชาภาคคำนวณของคัมภีร์พระสุริยาตร จนทำให้กระทั่งในปัจจุบันการผูกดวงพิชัยสงครามเพื่อบูชาตามแบบโบราณนั้นมีน้อยยิ่งกว่าน้อย จนแทบจะเรียกได้ว่าเกือบจะสูญหายไปหมดแล้ว
ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
เพื่อเป็นการสืบสานวิชาโบราณมิให้สูญหายไป ทางอาศรมศรีจักรนารทจึงได้จัดทำการจัดทำดวงพิชัยสงรามให้แก่บุคคลทั่วไปเป็นกรณีพิเศษ ในราคาค่าจัดทำที่ทุกๆคนสามารถนำไปครอบครองบูชาได้ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ดวงชาตาสูงสุดอย่างที่ไม่มีพิธีกรรมใดจะมาเปรียบเทียบได้ เนื่องจากเป็นการผูกดวงชาตาเฉพาะบุคคลโดยละเอียด กำกับลงอักขระยันต์คาถาตามแบบวิธีโบราณ โดยได้จัดทำลงแบบสีบนผ้าขาว(ผ้าแคนวาส Canvas - เนื้อหนา แข็งแรงทนทานขนาด A3) พิมพ์ลายไทยลงตารางคำนวณโดยระบบการพิมพ์ที่ทันสมัยที่สุดคือเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์สกรีนระบบดิจิตอล DTG (direct to garment) แล้วนำมาลงอักขระ และเลขคำนวณของแต่ละดวงชาตานั้นจะลงด้วยลายมือเท่านั้น พร้อมว่าคาถากำกับตามวิธีโบราณ (ไม่ใช่การซิลค์สกรีน) ใช้เวลาจัดทำประมาณ 1 เดือน ส่งพร้อมคู่มือตั้งดวงและคาถาบูชาดวงพิชัยสงคราม 1 เล่ม/ดวง แต่ไม่ได้แถมกรอบรูปให้ เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น ขอให้ท่านไปเลือกหากรอบรูปที่ท่านชอบแล้วนำไปใส่กรอบบูชาเอง
ผลตอบรับล่าสุดปี 2567
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
สำนักเรานี้ ไม่มีการหลอกขายสินค้าเสริมมงคล แก้ฮวงจุ้ย ไม่มีสะเดาะเคราะห์แก้กรรม ไม่เน้นทุบรื้อ(นอกจากฮวงจุ้ย 风水 ร้ายมากจนทำร้ายผู้อยู่ศัย
(หมายเหตุ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปแล้วว่าการคำนวณดวงชาตาที่แพร่หลายในเมืองไทยในปัจจุบันนี้ได้มีปฎิทินใช้กันอยู่ 2 ระบบ ระบบแรกก็คือการคำนวณที่ได้ใช้เกณฑ์การคำนวณตามแบบคัมภีร์พระสุริยาตร ตามแบบโบราณ ระบบที่สองเพิ่งใช้กันมาไม่ถึงร้อยปีก็คือการคำนวณแบบดาราศาสตร์ โดยใช้ปฎิทินดาราศาสตร์สมัยใหม่ ตัดอายนางศแบบลาหิรี ซึ่งระบบนิรายนะได้ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกและเกณฑ์คำนวนทั้งสองระบบนี้ทำให้ตำแหน่งดวงดาวต่างๆ แตกต่างกันบ้างเล็กน้อยระหว่าง 1-7 องศา บ้างก็อยู่ราศีเดียวกัน บ้างก็อยู่ต่างราศีกัน ส่วนเกณฑ์คำนวณเพื่อวางลัคนาก็มีแตกต่างกัน หลายๆแบบ เช่น อันโตนาทีสามัญ อันโตนาทีสารัมภ์ พหินาที บ้างก็ตัดเวลาท้องถิ่น (Local time) บ้างก็ไม่ตัดเวลาท้องถิ่น บ้างก็ใช้สมผุสอาทิตย์อุทัย บ้างก็ใช้อาทิตย์อุทัยเวลา 6.00 น.เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ จึงแจ้งไว้ให้เป็นที่สังเกตุ)
หากต้องการสอบถามรายละเอียดก่อน คลิ๊กที่นี่..
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )

คู่มือตั้งดวงพิชัยสงครามพร้อมคาถาบูชาดวงพิชัย แถมฟรี 1 เล่ม /ดวง
ค่าครูสำรับการจัดทำดวงพิชัยสงคราม เพียง 3,999.- บาทเท่านั้น (พร้อมการจัดส่งEMSให้ฟรีถึงบ้าน เฉพาะในประเทศไทย) ในกรณีส่งต่างประเทศจะคิดค่าจัดส่งต่างหาก กรุณาสอบถามค่าจัดส่งที่ Line @astroneemo ใช้เวลาจัดทำประมาณ 1 เดือน ส่งพร้อมคู่มือตั้งดวงและคาถาบูชาดวงพิชัยสงคราม 1 เล่ม/ดวง
***ค่าครูคำนวณดวงพิชัยสงครามโดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ7,500-15,000 บาทต่อ 1ดวง
แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการคำนวณดวงพิชัยสงครามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้บูชาดวงพิชัยสงครามของตัวเอง
ในช่วงนี้ทางอาศรมฯจึงได้ กำหนดไว้เพียง 3,999.-บาท /1 ดวงเท่านั้น รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู้เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร และขอความกรุณาอย่านำราคานี้ไปต่อรองกับครูอาจารย์ท่านอื่นๆ
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู
เมื่อท่านได้ชำระค่าครูบูชาดวงพิชัยสงคราม แล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF ) หรือแจ้งการโอนเงิน ได้ที่เมนูหน้าเว็บไซด์หรือคลิ๊กที่นี่ "แบบฟอร์มแจ้งการโอนเงินค่าบูชาครู"
*** หมายเหตุการคำนวนดวงพิชัยสงครามนี้ เป็นคุณสมบัติและวิชาเฉพาะตัวของโหรฯเท่านั้น หากผู้ที่จัดทำมิได้มีความรู้และศึกษาวิชาโหรหรือมีการครอบครูทางสายวิชาโหรที่ถูกต้องแล้ว จะไม่สามารถจัดสร้างดวงพิชัยสงครามได้ถูกต้องตามหลักวิชา ซึ่งก็อาจจะคำนวนผิดพลาดได้ และจะไม่เกิดผลดีใดใด ต่อดวงชาตาของผู้ผูกดวง และก็เป็นการผิดครูเสียด้วย ขอให้ท่านโปรดใช้วิจารณญาณ และพึงให้ความเคารพแก่บูรพาจารย์ทางสายวิชาโหรฯด้วย
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปาฎิหาริย์ของดวงพิชัยสงคราม
หลังการที่ทางอาศรมเรารับจัดสร้างดวงพิชัยสงคราม ผ่านมาประมาณปีแรกปีเดียว(พ.ศ.2554) ก็ได้รับแจ้งผลจากหลายๆท่านโดยเฉพาะในเรื่องการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง หลายท่านเห็นผลได้ชัดเจน(ได้ผลแม้แต่เพิ่งเริ่มทำการคำนวนยังไม่ได้ทำการจัดส่งออกไป) ส่วนบางท่านก็ให้คุณเรื่องการงานประสบผลสำเร็จ บางท่านก็ได้โชคจากการเสี่ยงโชค และหลายท่านก็ได้โชคเรื่องยวดยานพาหนะ เช่นมีคนยกให้ มีคนซื้อให้ ฯลฯ บางท่านก็ได้บ้านใหม่ เท่าที่เห็นก็มีหลากหลาย แต่บางท่านก็เห็นผลชัดในเรื่องการแก้เคราะห์ จากร้ายกลายเป็นดี
ในการจัดสร้าง มีขั้นตอนซับซ้อนมากมาย ตั้งแต่การเลือกเฟ้นฤกษ์ยาม ในการคำนวน การเลือฤกษ์ยามในการเขียนลงแผ่นยันต์ และการสวดคาถาบรรจุพุทธคุณ การอัญเชิญบารมีครูบาอาจารย์มาประสิทธิ์ประสาท ให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ โดยเฉพาะการเขียนดวงชาตาลงในแผ่นยันต์ จะผิดพลาดไม่ได้เลย หากผิดแม้แต่ขั้นตอนเดียว หรือลงอักขระ ตัวอักษรผิดแม้ตัวเดียวก็ต้องเขียนใหม่หมด บางรายก็ต้องเปลี่ยนแผ่นยันต์ใหม่ 3-4 แผ่น /ดวง นับว่าไม่ง่าย ซึ่งในแผ่นดวงนี้ห้ามลบ ห้ามแก้ไข ใดใดทั้งสิ้นโดยเฉพาะดวงใครแรงๆ หรือเจ้ากรรมนายเวรแรงๆ เวลามาลงในแผ่นยันต์แล้ว แทบจะเรียกว่าต้องแก้กันใหม่หลายๆรอบ ทำเอาผมแทบจะอยากจะวางมือเลยจริงๆ ต้องใช้สมาธิสูงมาก ต้องใช้สติกำกับอยู่ตลอดเวลา เผลอนิดเดียวก็ไม่ได้ เจ้ากรรมนายเวรเล่นเอาให้เขียนผิดจนได้ นี่ก็เป็นเหตุการณ์ปกติ

ล่าสุดมีเหตุการณ์แปลกๆที่ผิดปกติอยู่สองราย รายแรกชื่อคุณจิรภัทร อยู่สุพรรณบุรี นี่เป็นเหตุการณ์เดือนที่แล้ว ผมส่งไปมาอยู่หลายรอบ เพราะหลังจากลงคาถาและเขียนอักขระลงไปเรียบร้อยแล้ว ทำการสอบทาน 2-3 รอบแล้วจัดส่ง ปรากฏว่าเมื่อไปถึงมือคุณจิรภัทรปรากฏว่า ตัวอักษรที่เป็นชื่อหายไปอย่างไร้ร่องรอย ผมก็เลยแจ้งให้ส่งกลับมาลงคาถาและลงอักขระเพิ่ม เมื่อได้รับแล้วก็จัดส่งไปให้ใหม่ปรากฏว่า ตัวอักษรที่เขียนเวลาเกิด ว่าเกิดเวลาเท่าไหร่ หายไปทั้งแถบ หายไปแบบไร้ร่องรอย
และเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันนี้ 19 มีค 54 คุณธีรพัชร์ ที่จ.ร้อยเอ็ด ได้รับดวงพิชัยสงครามแล้วก็นำไปใส่กรอบบูชา เมื่อใส่กรอบแล้ว ปรากฏว่าอยู่ๆ ชื่อของคุณ"ธีรพัชร์"ตัว(ร์) หายไปเฉยๆ เหลือเพียง"ธีรพัช" ก็เลยโทรมาบอกผมว่า อาจารย์เขียนชื่อผมแต่ลืมตัว( ร์ ) ผมก็เลนแจ้งว่า ไม่ลืมหรอก เพราะชื่อคุณผมเขียนไปหลายรอบ ผมจำได้ดี แล้วชื่อแบบนี้คนเขียนตกตัว (ร์) มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ดวงคุณผมเปลี่ยนแผ่นยันต์ไป 3 แผ่น และสุดท้ายผมตรวจสอบดูแล้ว ตัวอักษรอยู่ครบ ไม่มีหายไป ตอนแรกผมว่ากะจะถ่ายรูปเอาไว้ด้วย แล้วผมก็เล่าเรื่องของคุณจิรภัทรให้ฟัง ว่ารายนั้นน่ะหายไปหลายรอบ สุดท้ายหายไปเป็นเกือบครึ่งบรรทัดเลย สรุปว่าคุณธีรพัชร์ก็เข้าใจว่าคืออะไร ผมก็เลยให้ส่งกลับมาลงคาถาใหม่ ผมว่าเหตุการณ์แบบนี้ อาจจะมาจาก การปกป้องคุ้มครองดวงชาตาของดวงพิชัยฯ คือเมื่อเจ้าของดวงมีเหตุการณ์อะไรที่จะเป็นผลร้าย ดวงพิชัยก็เลยทำการขัดขวางเอาไว้ และแสดงนิมิตให้ปรากฏที่แผ่นดวง ตัวอักขระก็เลยหายไป หรือก็มาจากการลงคาถาไม่ครบ ตัวยันต์อาจจะวิ่งไม่ครบรอบ หรือเรียกว่าพลังลัดวงจร อันนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ จริงๆแล้วผมไม่ใช่ผู้วิเศษอะไรที่จะเสกเป่าให้ได้ขนาดนั้น แต่คิดว่าคงเป็นเพราะบารมีครูอาจารย์ที่แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏ เพื่อช่วยปัดเป่าเคราะห์กรรม และช่วยปกป้องจากพลังร้ายที่เรามองไม่เห็น
ที่ผ่านมาค่าครูดงพิชัยสงครามทั้งหมด หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วก็นำไปทำบุญทำกุศลตามกฏเกณฑ์ของโหร ไม่ได้ทำเพื่อสร้างความร่ำรวยให้แก่ตัวเองก็หาไม่ ทั้งนี้ก็เพียงหวังจะสืบทอดและรักษาวิชาของครูอาจารย์แต่โบราณให้คงไว้ อีกทั้งให้ได้ประโยชน์ในการช่วยเหลือขจัดปัดเป่าทุกข์ภัย ให้กับคนที่มีบุญบารมีทีมีไว้ครอบครอง
ข้อมูลที่ได้รับแจ้งกลับมาในปี 2554 นี้(27 ธค 54) ปรากฎว่า หลายรายได้ผลทางเลื่อนยศ ฐานะตำแหน่ง มีชื่อเสียง หลายรายก็ได้ผลทางลาภลอย หรือก็ได้รถ ได้บ้าน จากที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็มีโอกาสได้ซื้อ หรือกู้ธนาคารผ่านแบบง่ายๆ บางรายก็มีโอกาสได้ชำระหนี้สินแบบทั้งๆที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน บางคนก็ขายบ้านได้ราคา ทั้งๆที่สภาพของบ้านไม่น่าจะขายได้ แต่ก็ยังได้ราคาดีบางรายศัตรูแพ้ภัยตัวเอง ต้องยอมแพ้ไปแบบง่ายๆ หรือคิดคดทรยศคุณท่าน ก็ประสบผลกรรมอย่างทันตาเห็น
แต่บางรายก็ได้สมบัติ ลาภลอยแบบฟรี เช่น พระอาจารย์ประสิทธิ์ (หลวงบัง) วัดนก กทม. ผมได้จัดทำดวงพิชัยสงครามถวายท่าน หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ก็มีโยมมาถวายรถเบ็นซ์ (มือ2) ให้กับท่าน อีกท่านหนึ่งเป็นครูอาจารย์ท่านหนึ่ง ผมได้ทำมอบให้ท่าน หลังจากนั้นไม่กี่วันท่านก็ได้เงินทองเข้ามาแก้ปัญหาทางการเงินให้ท่านแบบไม่คาดฝัน เรื่องราวอัศจรรย์เหล่านี้ ก็มาการที่ท่านเหล่านั้น มีจิตเป็นกุศล หมั่นสวดมนต์ภาวนา หมั่นทำบุญ บริจาคทาน สมาทานศีล5 ไม่ขาดตกบกพร่อง มีสัจจะวาจา ผลแห่งสัจจะอฐิษฐานก็จะต้องสำเร็จผลในทุกๆคน ไม่มียกเว้น




ปาฎิหาริย์ (เมษายน 2555)
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซินแสชาติชาย ภาคอุดม จังหวัดบุรีรัมย์ได้เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ได้บูชาดวงพิชัยสงครามไปเมื่อปีที่แล้วได้กระทำการสวดบูชาสม่ำเสมอมิได้ขาด แม้แต่วันเดียวและก็ได้พบกับสิ่งดีๆเข้ามาตลอด ลูกศิษย์ลูกหาไปมาหาสู่มากมาย และทำการสิ่งใดก็มีคนมาช่วยสนับสนุนอย่าเต็มที่ และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซินแสได้ขับรถไปต่างจังหวัด และขณะขับกลับบ้านพอดีตกช่วงกลางคืน ถนนมืดมาก จนรถประสบอุบัติเหตุเกือบคว่ำตกข้างทาง แต่ก็มีเหตุการณ์ปาฏิหาริย์รถกลับพลิกขึ้นมาบนถนน และจอดนิ่งอยู่ และปลอดภัยดีทุกๆอย่าง และพอกลับถึงบ้านปรากฏว่าดวงพิชัยสงครามที่ได้บูชาอยู่นั้น เกิดอัศจรรย์ตัวอักขระได้หายไปอย่างไร้ร่อยรอย ทั้งที่เมื่อวานก็ยังเห็นได้ชัดเจนอยู่ ก็เชื่อได้ว่าคงเป็นอักขระยันต์พิชัยสงครามและการสวดบูชาสม่ำเสมอได้แสดงปาฎิหาริย์คุ้มครองให้ปลอดภัย และซินแสก็ได้ส่งรูปมาให้ผมดู ตามที่ได้ลงเอาไว้ ซึ่งปกติผมลงดวงพิชัยสงครามจะลงด้วยหมึกปากกาชนิดลบไม่ได้ (ปากกาเขียนแผ่นซีดี) ซึ่งก็ไม่น่าจะหายหรือเลอะเลือนไปได้เลย แต่ก็ต้องบันทึกเอาไว้ว่าเป็นปาฎิหาริย์อย่างหนึ่ง
พิธีกรรมการลงยันต์ดวงพิชัยสงครามของอาจารย์
1.การลงอักขระ เนื่องการลงดวงพิชัยสงคราม มีกรรมวิธีโดยเฉพาะของครูอาจารย์ในแต่ละสาย ซึ่งไม่เหมือนกัน คาถากำกับก็ไม่เหมือนกัน การลงอักขระ มีการลงแบบย่างตาม้าก็มี เขียนลงจากบนลงล่างก็มี จากขวาไปซ้ายหรือซ้ายไปขาว จากล่างขึ้นบน หรือ จากดวงในเขียนออกไปดวงนอก ฯลฯ
2.การลงพระคาถา อันนี้มีแบบแผนว่าจะต้องเป็นอิติปิโสก่อนเป็นหลัก แล้ว ตามด้วพระคาถาต่างๆ ซึ่งจะไม่กล่าวในที่นี้
3.การแก้พื้นดวงชาตา การตัดตัวเสียในดวง เช่นในดวงชาตาของตนบางคนมีดาวเคราะห์เสีย(ให้โทษ)ในดวงชาตา เช่น ดาวสำคัญตกในภพ อริ มรณะ วินาศน์ ดาวเคราะห์อยู่ในลักษณะเบียฬกัน (ให้โทษ) ดาวเจ้าเรือนลัคน์สถิตย์ในทุสถานะภพ ดาวเคราะห์ดับ(เป็นอัสตะ) ดาวเคราะห์สัปยุทธ์กัน (กุมกันสนิทองศา) ดาวจันทร์เป็นหีนโทษ หรือ กษิณจันทร์ ดาวปาปเคราะห์ เช่น ราหู-เกตุ เบียฬพระเคราะห์สำคัญ ซึ่งตรงนีอาจารย์จะมีวิธีเสริมและแก้ไขไปทีละตัว ซึ่งบางรายอาจจะทำได้หมด แต่บางรายก็ทำได้เฉพาะบางตัว
4.แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับฤกษ์ยามในการลงอักขระเป็นสำคัญ หากฤกษ์ยามไม่ถูกต้องแล้ว การลงคาถาและอักขระก็ไม่เป็นผล เพราะฤกษ์ยามมงคลเป็นบาทฐานของพลังจากจักรวาลทั้งมวล อีกทั้งอาศรมฯเรามีการใช้ฤกษ์ยามชั้นสูงจากโหราศาสตร์พระเวทของพรามหณ์อันศักดิ์สิทธิ์ ในการหาฤกษ์ลงอักขระ อาจารย์จะใช้ฤกษ์ตามหลักคัมภีร์มูหูรตะเป็นหลักในการคำนวณฤกษ์ยามลงอักขระเป็นปฐม และต้องหลีกเลี่ยงช่วงเวลาร้ายต่างๆ เช่น วันที่จันทร์เสวยฤกษ์ร้าย วันที่พระอาทิตย์ย้ายราศี(สุริยสังกรานมณะ) จันทร์ดับ(อมาวาสี) เวลาโยคร้าย กรณะร้าย ทุรมูหูรตะ วาชระยาม ยมกาล ราหูกาล คัณฑานตะกาล(ช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างกลางวัน-กลางคืน หรือเวลาหลังพระอาทิตย์ตกภายใน 48 นาที) วันที่คราส จันทคราส สุริยคราส ฯลฯ ซึ่งทังหมดนี้ไม่สามารถลงอักขระดวงพิชัยสงครามได้เลย ดังนั้นอาจารย์ในการจัดทำจึงใช้เวลาค่อนข้างนานคือประมาณ 1เดือน หรือมากกว่า
ผลตอบรับจากผู้ที่นำไปบูชา
จากหลายปีที่ผ่านที่ได้ดวงพิชัยให้ผู้ที่ศัทธาในวิชาสายนี้นับร้อยๆราย ก็ปรากฏว่าได้ผลในเสริมดวงชาตาเกือบทุกๆคน ทั้งได้เลื่อนยศตำแหน่ง กิจการก้าวหน้า หายป่วยจากโรคร้าย ได้บริวารดี หรือ ได้งานที่ดีขึ้น รายได้มั่นคงขึ้น ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขได้โชภลาภ ลาภลอย ถูกรางวัลสลากกินแบ่ง ไปไหนก็มีแต่คนรักชอบ คนเชื่อถือคำพูดของเรมากขึ้น ฯลฯ
แต่ก็มีกรณีที่ไม่ได้ผลมีแจ้งมาเพียง 2-3 ราย(ใน 5ปี) เท่านั้นที่บอกว่ายังไม่ได้ผล เข้าใจว่าเจ้าตัวปฏิบัติไม่ครบ เช่น ว่าไม่รักษาสัจจะ หรือ ไม่สวดคาถา ก็เลยไม่ปรากฏผล หรือไม่ก็คาดหวังผลสูงจนเกินไป เช่น หวังจะถูกหวยรวยโชคเป็นล้านๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้
ความเชื่อผิดๆเรื่องดวงพิชัยสงคราม
ในบางกรณีคนก็เชื่อว่าดวงพิชัยสงครามสามารถสะเดาะเคราะห์แก้กรรมได้ทุกชนิด เช่น กรรมเรื่องคู่ครอง ความรัก รักสามเส้า โดยเฉพาะกรรมที่มาจากการทำแท้ง ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะสมัยโบราณไม่มีการทำแท้งโดยเจตนาเช่นสมัยนี้ และบูรพาจารย์ที่ได้ผูกวิชานี้ขึ้นไว้เพื่อเสริมดวง เสริมบารมีในด้านยศศักดิ์ และให้คุณด้านเอาชัยชนะต่อศัตรู เอาชนะด้านการแข่งขัน หรือ ทำให้ศัตรูกลายมาเป็นมิตร เสริมดวงบริวาร และป้องกันภัยต่างๆที่มองไม่เห็น เช่น พวกไสยศาสตร์ คุณไสย์ ศาสตร์มืด มนต์ดำเป็นต้น หรือให้โชคลาภ ด้านทรัพย์สินเงินทอง มีวาจาทำให้คนเชื่อถือ ทั้งก็ขึ้นอยู่กับวาสนาในพื้นดวงของเจ้าชาตาเองด้วย ซึ่งถ้าได้ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ที่ให้ได้ทั้งหมด ผลดีจะปรากฏให้เห็นได้สมดังปรารถนาทุกประการ
ปัจฉิมลิขิต อันนี้เป็นเรื่องอัศจรรย์ใจเป็นการส่วนตัวของอาจารย์ในการลงดวงพิชัยสงคราม คือ ในเรื่องลายมือในการเขียนอักขระในดวงพิชัยสงคราม มีหลายท่านชมมาว่าเขียนได้สวยมาก ซึ่งในความเป็นจริงลายมือของผม(อาจารย์) ไม่ใช่ลายมือสวยๆแบบที่เห็นในแผ่นดวง
คราวแรกที่ได้นิมิตมาจากครูอาจารย์ให้เริ่มดวงพิชัยนั้น ก็มีความกังวลเรื่องเรื่องลายมือของตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะเป็นคนลายมือไม่สวย(อย่างยิ่ง) ก็เลยจะไปจ้างร้านศิลป์ หรือ พวกเก่งทางศิลป์เขียนให้ก่อนแล้วค่อยมาสวดทีหลัง แต่ปรากฏว่ากี่คนๆก็เขียนไม่ได้เลยแม้แต่แผ่นเดียว จนต้องเลิกทำไปพักใหญ่ แต่ผมทุกวันนี้ก็ยังเขียนไม่สวยเหมือนเดิม อันนี้ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะรู้ดีในเรื่องลายมือ แต่เมื่อสวดคาถาจรดปากกาลงไป ลายมือผมก็เปลี่ยนเป็นลายมือของคนโบราณอย่างที่เห็น นี่เป็นเรื่องอัศจรรย์มากๆ
เรื่องแปลกอีกอย่างหนึ่ง ในขณะเขียน เมื่อเราตั้งใจจะลงอักขระเลขใดเลขหนึ่งลงไป เช่น ต้องการจะเขียนเลข ๗ แต่มือกลับไปเขียนเป็นเลข ๒ (อันนี้บังคับมือไม่ได้) ในบางดวงชาตา เป็นอย่างนี้หลายๆครั้ง ปกติเมื่อเขียนผิดไปแล้วก็จะลบไม่ได้เลยต้องทิ้งแล้วเริ่มต้นเขียนใหม่ แม้จะเขียนใกล้จบแล้วก็ตามก็ต้องกลับมานับหนึ่งใหม่ บางรายเขียนผิดไป 4- 5แผ่นก็มี ก็เลยหยุดมาตรวจดวงชาตาอีกครั้งปรากฏว่า ดวงคนนี้มีเจากรรมนายเวรแรง มีอุปสรรคมาก ครูอาจารย์ท่านก็เลยแสดงนิมิตให้ปรากฏแบบนี้ เพื่อให้เขียนช้ำในแผ่นใหม่ ลงคาถาใหม่อีกครั้ง
ตำนานดวงพิชัยสงคราม
นานมาแล้ววันเวลาได้ล่วงมาจนถึงครั้งหนึ่ง บ้านเมืองได้เกิดความระส่ำระส่ายด้วยข้าวยากหมากแพงเพราะดินฟ้าอากาศวิปริต ฝนไม่ต้องตามฤดูกาล ประชาชนพลเมืองได้รับความเดือดร้อนอดอยากถึงกับต้องปล้นสะดมกันกิน

ในการครั้งนั้น ทางฝ่ายข้าศึกเคลื่อนกำลังทัพมาประชิดเมืองไว้ ในยามนั้นก็ก่อความประหวั่นพรั่นกลัวแก่บรรดาประชาชนพลเมืองและเสนาข้า ราชการเป็นยิ่งนัก
ความเห็นส่วนใหญ่ลงมติว่าควรจะยอมแพ้แก้ข้าศึกเสียดี กว่า เพื่อจะได้ถนอมชีวิตข้าคนพลเมืองเอาไว้ แต่ทว่าทางฝ่ายทหารส่วนใหญ่ยังมีหัวใจเปี่ยมด้วยเลือดและวิญญาณของนักรบที่ หยิ่งในศักดิ์ศรีและมีความหวงแหนอธิปไตยชาติบ้านเมือง ฝ่ายทหารจึงต่างพากันคัดค้านความเห็นไม่ควรยอมแพ้แก่ข้าศึกอย่างแข็งขัน โดยทหารทุกคนยินดีจะยอมตาย ยึดถืออุดมคติว่า "ตัวตายดีกว่าชาติตาย"
องค์พระประมุขทรงเห็นชอบและสนับสนุนความคิดเห็นทางฝ่ายทหารและเพื่อเป็น การบำรุงขวัญทหาร พระองค์ได้ทรงมีพระราชโองการให้โหรจัดทำดวงชาติให้แก่แม่ทัพนายกองที่จะต้อง ทำหน้าที่คุมกำลังป้องกันชาติบ้านเมืองในครั้งสำคัญนี้ ทุกคนรักษาบูชาไว้ในพระนครซึ่งนิยมกันว่าศักดิ์สิทธ์และเป็นของสูงคู่ควร บูชาไว้แต่เฉพาะพระมหากษัตริย์
การรบได้ดำเนินไปในสภาพที่ด้อยกว่าข้าศึกทั้งกำลังคนและกำลังอาวุธ ผลจึงปรากฏว่า ในการประจัญบานแต่ละครั้ง ทหารหาญที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งลดน้อยถอยตัวลงไปอีกทุกครั้ง เพราะถูกลิดรอนทำลายลงด้วยกำลังของข้าศึกที่มีเหนือกว่าอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งความหวังที่พอมีอยู่บ้างในตอนต้นก็ทลายหายไปหมด ทหารทุกคนทุกหัวใจต่างก็มีแต่ความทอดอาลัยและรอคอยแต่ว่าเมื่อไรข้าศึกจะโหม กำลังเข้ามาบดขยี้ ทำลายให้สิ้นชาติสิ้นความเป็นไทยไปเท่านั้น
ครั้งแล้ว ก่อนนาทีสุดท้ายจะมาถึง สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดถึงก็ได้ปรากฏถึงเสียก่อนนั่นคือ เกิดความวิปริตท้องฟ้าและอากาศเกิดมหาวาตะอย่างรุนแรง พร้อมกับมีฝนกระหน่ำลงมาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ติดต่อกันอยู่ถึงสามวันสามคืน จนกระทั่งน้ำเอ่อท่วมท้นสูงถึงคอ
เมื่อพายุและฝนสงบลงแล้ว ต่างคนต่างก็ได้เห็นภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นก่อนแต่อย่างใด ภาพนั้นคือภาพค่ายทหารของข้าศึกพินาศภินทนาการไปหมด ด้วยอำนาจของลมพายุและกระแสน้ำ ช้าง ม้า และเหล่าทหารก็พลอยสูญชีวิตไปด้วยเป็นจำนวนมาก ที่ยังเหลือชีวิตก็อยู่ได้แต่ตะเกียกตะกายเพื่อให้รอดพ้นได้เพียงแต่ตัวไม่ มีใครมีกะจิตกะใจจะรบเอาชัยต่อไปหรือคิดห่วงใยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จมหายอยู่ ภายใต้น้ำอีกเลย

ในการที่บ้านเมืองรอดพ้นจากเงื้อมมือข้าศึกมาได้อย่างปาฏิหาริย์พร้อมด้วย แม่ทัพนายกองและทหารประสบชัยชนะอย่างอัศจรรย์ ทางฝ่ายข้าศึกก็ประสพความพิบัติกลับไปอย่างยับเยินในครั้งนั้นฉะนั้นจึงเป็นที่เชื่อถือกันว่า เนื่องจากอานุภาพแห่งการปฏิบัติบูชาดวงชาตาที่คำนวนบรรจุไว้ในมหายันต์พุทธมนต์นั้นโดยแท้ พระมหากษัตริย์ได้ทรงถือเอาเหตุมงคลครั้งนั้นมาพระราชทานนามแก่ดวงชาตานี้ ว่า"ดวงพิชัยสงคราม"
นับแต่กาลครั้งนั้นมา ดวงพิชัยสงครามก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาที่ต่างคนต่างก็พยายามขวนขวายหากัน เพื่อเอาไว้บูชาเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง อันที่เชื่อถือกันว่ามีอิทธิพลทั้งในเมตตามหานิยมและทางป้องกันภยันตรายต่าง ๆ แก่เจ้าชาตาผู้ยึดมั่นในการปฏิบัติบูชา
ดวงพิชัยสงครามนี้อันมีความหมายว่า”ดวงชนะศึก”แต่ดั้งเดิมมานิยมกันว่าเป็น ของสูงที่คู่ควรแต่เฉพาะพระมหากษัตริย์เท่านั้นและเป็นที่รู้จักกันดีแต่ เฉพาะวงในคือในกรมโหรหลวงและในพระบรมมหาราชวังเท่านั้น
แต่เดิมทีดวงพิชัยสงครามนี้ท่านว่าหาได้มีชื่อดังที่เรียกขานกันเช่นใน ปัจจุบันนี้ไม่ ที่มีชื่อเรียกว่าดวงพิชัยสงครามมาจากตำนานดังกล่าว
หากดูกันเผิน ๆ จะเห็นว่ามีลักษณะเหมือนยันต์อันศักดิ์สิทธ์ทางไสยศาสตร์ เนื่องจากพฤฒาโหราจารย์ผู้แตกฉานเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งสามคือ พุทธศาสตร์ ไสยศาสตร์ และ โหราศาสตร์ ได้กำหนดรูปดวงชาตานี้ขึ้น โดยการนำเอาพุทธมนต์มาชักเป็นพระคาถากำบังดวงชาตาไว้
ดวงพิชัยสงคราม...คือดวงชะตาที่ถูกผูกขึ้นอย่างละเอียด ที่สุดแบบจักรราศีซึ่งดวงพิชัยสงครามนี้อาจจะเป็นดวงชะตาของบุคคลหรือดวง ฤกษ์ในการกระทำการต่างๆอย่างใดอย่างหนึ่งได้ในสมัยก่อนนั้นผู้ที่จะมีดวง พิชัยสงครามได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลระดับชั้นแม่ทัพหรือเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ขึ้นไปตลอดจนกระทั่งระดับพระมหากษัตริย์สามัญชนธรรมดาหาอาจมีดวงพิชัยสงคราม ได้ไม่ เพราะดวงนี้จะหาคนผูกเป็นได้ยากมากอีกทั้งใช้เวลาในการคำนวณมาก ระดับโหรชั้นอาจารย์ยังต้องใช้เวลาในการคำนวณถึง ๗วันจึงจะสำเร็จดังนั้นจึงจะค่อนข้างหาผู้ที่มีดวงพิชัยสงครามได้ยากมากใน ปัจจุบัน

ลักษณะของดวงพิชัยสงครามและความหมาย
การผูกดวงพิชัยสงครามตามรูปด้านบนมีหลักในการผูกดังต่อไปนี้...
๑ .กำหนดให้ดวงราศีจักรอยู่กึ่งกลางยันต์พิชัยสงครามด้านบนของกระดาษใต้พระพุทธฉาย
๒.ใต้ยันต์พิชัยสงคราม จัดเป็นยันต์รูปบัลลังก์ อยู่กลางกระดาษและทำเป็นยันต์ลดหลั่นกันลงมา ๙ ชั้น
๓.เบื้อง ซ้ายชั้นล่างสุด ของยันต์รูปบัลลังก์เป็นหลักอินทภาส เบื้องขวาเป็นหลักบาทจันทร์ซึ่งหลักทั้งสองนี้โบราณยกย่องว่ามีความสำคัญสูง ท่านจึงให้สถิตย์ภายใต้เศวตฉัตร
๔.กรอบของยันต์พิชัยสงครามมีพระคาถาพระเจ้าสิบหกทิศปิดไว้ทุกทิศ
๑.ยันต์พิชัยสงครามทำล้อมกรอบดวงราศีจักร เพื่อให้คุ้มครองดวงชะตา มิให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาแพ้วพานได้พระคาถาที่บรรจุในยันต์พิชัยสงครามนี้
ก็ คือ "พระอิติปิโสย่างตาม้า" และสำหรับทิศแม่ธาตุทั้งสี่ของดวงพิชัยสงคราม อันได้แก่ทวารทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลมไฟ จะมีคาถา นะ มะ พะ ทะ ปิดไว้
ส่วน ตามมุมต่างๆของดวงพิชัยสงครามเฉพาะที่ยันต์พิชัยสงครามมีช่องโหว่อยู่ ๑๖ ช่องก็ได้บรรจุพระคาถาพระเจ้าสิบหกทิศปิดไว้ทุกช่อง โดยพระ
คาถาดังกล่าวนี้คือ "นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง"
๒.พระอิติปิโสแปดทิศกรอบนอกของดวงพิชัยสงครามได้บรรจุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ป้องกันภัยพิบัติไว้ทั้งแปดทิศด้วยกันซึ่งก็คือพระคาถาอิติปิโสแปดทิศ
๓.พระคาถาอื่นๆนอกจากพระคาถาดังกล่าวแล้วในดวงพิชัยสงครามยังอาจจะบรรจุพระคาถาอื่นๆลงไปได้อีกเช่นพระนวหรคุณเก้า, หัวใจพระอภิธรรมหรือพระธรรมเจ็ดคัมภีร์, พุทธรักษา, ธรรมรักษา, สังฆรักษา, ปิตารักษาและอินทรักษา, พรหมรักษา, เทวดารักษา, มาตารักษาเป็นต้น
จะเห็นได้ว่าการจั ดสร้างดวงพิชัยสงครามขึ้นมาดวงหนึ่งนั้นจะต้องใช้เวลา และความรู้ความสามารถเป็นอย่างสูงอีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงพระคาถาที่จารึกใน ดวงพิชัยสงครามจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าดวงพิชัยสงครามจัดสร้างขึ้นเพื่อ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ทำหน้าที่คุ้มครองรัก ษาเจ้าของดวงชะตาให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆดังนั้นถ้าผู้ใดมีดวงพิชัยสงครามเป็นของตัวเองก็ จงหมั่นบูชาและภาวนาตามคาถาด้านล่างนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง...


พระคาถาบูชาดวงพิชัยสงคราม
(ตั้งนะโม ๓ จบ)
"นะโม เม สัพ พะเทวานัง สัพพะคะระหะ จะ เทวานัง สุริยัญ จะ ปะมุญจะถะ ศศิ ภุมโมจะเทวานัง วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ ชีโว ศุกะโร จะ มหาลาภัง โสโร ราหูเกตุ จะมหาลาภัง สัพพะภะยัง วินาสสันติ สัพพะทุกขัง วินาสสันติ สัพพะโรคัง วินาสสันติลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทาสัพพะเทวามัง ปาละยันตุ สัพพะทา เอเตนะมังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถีภะ วันตุ เมฯ"
__________________
คาถาอิติปิโสแปดทิศ
อิระชาคะตะระสาฯ ชื่ อกระทู้เจ็ดแบก ด้านบูรพา
กระทู้เจ็ดแบก อาจารย์จําแนกไว้บูชา เสกข้าวกินทุกวัน อาจป้องกันเครื่องศาสตรา อนึ่งภาวนา แล้วหันหน้าสู่ช้างสาร อาจหักงวงคชา ด้วยพลาอันห้าวหาญ มีกําลังเหลือประมาณ ยิ่งช้างสารอันตกมัน ฤษีทั้ง7องค์ ท่านดํารงอยู่ทิศนั้น เมื่ออภิวันท์ หันพักตร์นั้นทางทิศบูรพา
ติหังจะโตโรถินังฯ ชื่อฝนแสนห่าด้านอาคเนย์
อาคเนย์ฝนแสนห่า ใช้ภาวนาคราเดินทาง ถึงเดินสิ้นทั้งวัน เรื่องนํ้านั้นอย่าระคาง เสกหมากรับประทานพลาง สิบห้าคําอ้างกินเรื่อยไป แม้นใคร่ให้มีฝน อย่าร้อนรนจงใจเย็น ให้เสกไส้เทียนชัย เสกให้ได้แสนเก้าพัน แล้วให้นึกเทเวศ ผู้เรืองเดชในสวรรค์ อิทรพรหมสิ้นด้วยกัน ตลอดจนถึงชั้นอะกะนิฏฐ์ ฝนก็จะตกหนัก เพราะอารักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีโรคอันวิปริต จงพินิจพิจารณา เอาทํานํ้ามนต์ แล้วพรํ่าบ่นด้วยคาถา เสกพ่นสัก7ครา มิทันช้าก็จักหาย อาคเนย์นามทิศศา จงหันหน้าไปโดยหมาย เคารพครูบรรยาย แล้วจึงร่ายคาถาเอย
ปิสัมระโร ปุสัตพุทฯ ชื่อนารายณ์กลืนสมุทรด้านทักษิณ
นารายณ์กลืนสมุทร์ ฤทธิรุททิศทักษิณ เรื่องฝีเกลื่อนหายสิ้น ไม่ต้องกินเสกพริกไทย เจ็ดเม็ดเสกเจ็ดหน แล้วจงพ่นลงทันใด สามครั้งก็จะหาย สมดังใจจํานง อนึ่งใช้เสกปูน สําหรับสูญฝีหัวลง มิช้าฝีก็คง ยุบย่อลงในบัดใด ภาวนาลงกระดาษ อย่าประมาทจงตั้งใจ ฟั่นเทียนเอาทําไส้ เทียนนั้ นไซร้หนึ่งบาทหนา ลงคาถาล้อมให้รอบ ตามระบอบอย่ากังขา เท่ากําลังเทวดา ตามชันษาผู้เป็นไข้ แล้วจุดบูชาพระ อย่าได้ละภาวนาไป มิช้าไข้นั้นไซร้ จะหายดังปลิดทิ้ง
โสมานะกะริถาโทฯ ชื่อ นารายณ์พลิกแผ่นดินด้านหรดี
หรดีพึงสําเหนียก มีชื่อเรียกเป็นสองอย่าง คือนารายณ์คลายจักรอ้าง กับอีกทั้งพลิกแผ่นดิน มีฤทธิ์และศักดา ทั้งเดชาและโกสินทร์ ภาวนาเป็นอาจิณ ยํา เกรงสิ้นเหล่าศัตรู รําลึกแต่ในใจ ข้าศึกไซร้ปืนสู้ หย่อนกําลังพรั่งพรู ไม่คิดสู้เราต่อไป ถึงแม้คนใจกล้า พอเห็นหน้าก็อ่อนไป ครูเฒ่าท่านสอนไว้ แม้สิ่งใดมีประสงค์ สิ่งนั้นพลันต้องได้ สมดังใจจํานง เพราะคาถาเป็นมั่นคง อย่างวยงงจงบูชา คุณครูผู้บรรยาย ท่านเร่ย้ายหรดีทิศา เมื่อจะภาวนา จงหันหน้าทางนั้นเอย
ภะสัมสัมวิสะเทภะฯ ชื่อตวาดหิมพานต์ ด้านประจิม
ทิศประจิมนามประหลาด ชื่อตวาดหิมพานต์ มีเดชอันห้าวหาญ ดุจช้างสารไม่กลัวตาย พบช้างและปะเสือ ที่ดุเหลือทั้งโคควาย อีกทั้งโจรดุร้าย ก็อย่าได้นึกกลัวมัน จงนิ่งภาวนา พระคาถาไปฉับพลัน เป็นมหาจังงังอัน วิเศษยิ่งอย่ากริ่งใจ สัตว์ร้ายและคนพาล ไม่อาจหาญเข้ามาใกล้ ให้แคล้วให้คลาดไป จงท่องไว้ทั้งเช้าคํ่า อนึ่งเมื่อภาวนา จงหันหน้าอย่าถลํา ทิศประจิมจงจดจํา ดังแนะนําดังนั้นเอย
คะพุทปันทูทัมวะคะฯ ชื่อนารายณ์กลืนจักร ด้านพายัพ
พายัพนามทิศ มหิทฤทธิ์นั้นมากนัก ชื่อว่านารายณ์กลืนจักร์ มีฤทธิ์ศักดิ์นั้นย้อนยอก ครูเฒ่าท่านกล่าวมา ถ้าแม้นลูกไม่ออก เอานํ้าใส่ขันจอก แล้วเปล่งออกซึ่งวาจา เสกนํ้าทํานํ้ามนต์ ร้อยแปดหนด้วยคาถา ให้กินอย่ารอช้า พรหมกายาตลอดศรีษ์ บุตรน้อยจะค่อยเคลื่อน ขยับเขยื้อนเคลื่อนอินทรีย์ สะเดาะเสกวารี หากไม่มีนํ้ากระสาย จงเป่าด้วยคาถา ไม่ทันช้าหลุดกระจาย ครูประสิทธิ์บรรยาย ท่านเร่ย้ายอยู่พายัพ เพื่อเป็นการคํานับ ตามตําหรับอาจารย์เอย
วาโธโนอะมะมะวาฯ ชื่อนารายณ์ขว้างจักรด้านอุดร
นารายณ์ขว้างจักร์นี้เลิศลบ อีกนามหนึ่งตรึงไตรภพ สองชื่อย่อมลือจบ ทั่วพิภพเรืองเดชา ภาวนาสูดลมไป ว่าให้ได้สักสามครา คอยดูที่ฉายา ถ้าเห็นเงาว่าหาย ไป ครานั้นจงชื่นชม คนนับหมื่นหาเห็นไม่ บังตาหายตัวได้ ครูกล่าวไว้เร่งบูชา หันพักตร์สู่อุดรทิศ แล้วตั้งจิตภาวนา ตามบทพระคาถา ที่กล่าวมาแต่ต้นเอย
อะวิชสุนุตสานุสติฯ ชื่อนารายณ์ถอดรูปหรือแปลงรูป ด้านอีสาน
อิสานนามแถลง นารายณ์แปลงรูปโดย หมาย ภาวนาอย่าระคาย ศัตรูร้ายแปลกเราไป เมื่อจะเสดาะแล้วไซร้ เสกให้ได้ร้อยแปดคาบ ตั้งใจให้แน่วแน่ ครั้นถ้วนแล้วเป่ากระหนาบ ต้องหลุดอย่างราบคาบ ได้เคยปราบเห็นประจักษ์ ถ้าชอบทางเสน่ห์ ทําเป็นเล่ห์ให้เขารัก นํ้าหอมอย่าหอมนัก จงรู้จักที่อย่างดี แล้วเสกให้บ่อยๆ อย่างน้อยๆ108ที แล้วเก็บไว้ให้ดี ถึงคราวที่จะต้องใช้ เสกอีกสักเจ็ดหน ประกายตนแล้วจึงไป เป็นเสน่ห์แก่ผู้ใช้ ทั้งหญิงชายทุกภาษา ไม่ว่าคนชั้นไหน แต่พอได้เห็นพักตรา ให้รักด้วยเมตตา ประหนึ่งว่าเป็นลูกหลาน แคล้วคลาดเหล่าศัตรู สิ้นทั้งหมู่อันธพาล ครูอยู่ทิศอิสาน จงนมัสการและบูชาเอย
สิทธิการิยะ อุปเท่ห์พระอิติปิโส 8 ทิศนี้ มีอาณุภาพมากหลาย
ป้องกันได้สารพัดตามใจปรารถนา พระอาจารณ์เจ้ากล่าวไว้ว่า
ฝอยท่วมหลังช้างแล มีอุปเทห์มากมายเหลือจะพรรณนา จะกล่าวไว้ย่อๆดังนี้
“แม้นจะยาตราไปทางสารทิศใด ให้ภาวนาพระคาถาประจำทิศ ตามทิศที่จะไปนั้น หรือทำน้ำมนต์ลูบหน้า หรือ ประพรมพาหนะ ที่จะไปนั้นจะปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวงไม่มีมารบกวนเลยป้องกันได้สารพัดแม้ว่าทิศที่จะไปนั้นจะต้องผีหลวง หรือ หลาวเหล็ก ก็ดี( ทิศที่ร้ายตามตำราโหราศาสตร์ )
คุ้มกันได้สิ้น ไปสงครามก็จะมีชัยชนะไปทำมาค้าขายก็จะกำไร เจริญรุ่งเรือง บังเกิดลาภผลพูนทวี จะลงเป็นประเจียดป้องกันศาสตราอาวุธก็ได้
ทั้งเป็นเสน่ห์แก่ฝูงชนทั่วไป เขียนบูชาไว้กับบ้านเรือน ป้องกันภัยอันตรายได้ทุกอย่าง ถ้าจะไปนอนกลางป่าให้เสกก้อนดินไปวางไว้ตามทิศ เมื่อจะวางทิศไหนให้เสกด้วยคาถาประจำทิศนั้นอีก ทิศล่ะ 8 จบกันสารพัด สัตว์ร้าย เปรียบประดุจมีกำแพงแก้วไว้คุ้มกันตนไว้ถึง 7 ชั้นถึงแม้จะถูกข้าศึกโจรผู้ร้ายล้อมไว้ก็ดี จะหักออกทางทิศไหนให้ภาวนา คาถาประจำทิศนั้นเถิด แล้วค่อยหักออกมา”
ยันต์บารมีพระพุทธเจ้า
อานุภาพของยันต์ ยันต์นี้ลงไว้ที่นอนหรือติ ดไว้ที่บ้าน ป้องกันได้สารพัด ทั้งภูตผี ปีศาจ วิญญาณร้าย ปกป้องรักษาคุ้มกันภัยอันตรายทั้งปวง ยันต์นี้สามารถใช้สะกดผีได้ เมื่อลงแล้วให้ปลุกเสกด้วยพระคาถาสัมพุทเธ
สัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก ปัญจะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
สัมพุทเธ ปัญจะปัญญาสัญจะ จะตุวีสะติสะหัสสะเก ทะสะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
สัมพุทเธ นะวุตตะระสะเต อัฏฐะจัตตาฬีสะสะหัสสะเก วีสะติสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหังนะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ

ยันต์คาถาคุณพระพุทธเจ้า56
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.
๑. อิ. อิฏโฐ สัพพัญญุตัญญานัง อิจฉันโต อาสะวักขะยังอิฏฐัง ธัมมัง อะนุปปัตโต อิทธิมันตัง นะมามิหัง ,๒. ติ. ติณโณ โย วัฏฏะทุกขัมหา ติณณัง โลกานะมุตตะโมติสโส ภูมี อะติกกันโต ติณณะโอฆัง นะมามิหัง ,๓. ปิ. ปิโย เทวะมะนุสสานัง ปิโยพรหมานะมุตตะโมปิโย นาคะสุปัณณานัง ปิณินทริยัง นะมามิหัง ,๔. โส. โสกา วิรัตตะจิตโต โย โสภะนาโม สะเทวะเกโสกัปปัตเต ปะโมเทนโต โสภะวัณณัง นะมามิหัง ,๕. ภะ. ภะชิตา เยนะ สัทธัมมา ภัคคะปาเปนะ ตาทินาภะยะสัตเต ปะหาเสนโต ภะยะสันตัง นะมามิหัง ,๖. คะ. คะมิโต เยนะ สัทธัมโม คะมาปิโต สะเทวะกังคัจฉะมาโน สิวัง รัมมัง คะตะธัมมัง นะมามิหัง ,๗. วา. วานา นิกขะมิ โย ตัณหา วาจัง ภาสะติ อุตตะมังวานะ นิพพาปะ นัตถายะ วายะมันตัง นะมามิหัง
๘. อะ. อะนัสสา สะกะสัตตานัง อัสสาสัง เทติ โย ชิโนอะนันตะคุณะสัมปันโน อันตะคามิง นะมามิหัง ,๙. ระ. ระโต นิพพานะสัมปัตเต ระโต โย สัตตะโมจะเนรัมมาเปตีธะ สัตเต โย ระณะจัตตัง นะมามิหัง ,๑๐. หัง. หัญญะติ ปาปะเก ธัมเม หังสาเปติ ปะรัง ชะนังหังสะมานัง มะหาวีรัง หันตะปาปัง นะมามิหัง ,๑๑. สัม. สังขะตาสังขะเต ธัมเม สัมมา เทเสสิ ปาณินังสังสารัง สังวิฆาเฏติ สัมพุทธันตัง นะมามิหัง ,๑๒. มา. มาตาวะ ปาลิโต สัตเต มานะถัทเธ ปะมัททิโตมานิโต เทวะสังเฆหิ มานะฆาฏัง นะมามิหัง ,๑๓. สัม. สัญจะยัง ปาระมี สัมมา สัญจิตะวา สุขะมัตตะโนสังขารานัง ขะยัง ทิสวา สันตะคามิง นะมามิหัง ,๑๔. พุท. พุชฌิตวา จะตุสัจจานิ พุชฌาเปติ มะหาชะนังพุชฌาเปนตัง สิวัง มัคคัง พุทธะเสฏฐัง นะมามิหัง ,๑๕. โธ. โธติ ราเค จะ โทเส จะ โธติ โมเห จะ ปาณินังโธตะเกลสัง มะหาปุญญัง โธตาสะวัง นะมามิหัง ,๑๖. วิช. วิเวเจติ อะสัทธัมมา วิจิตะวา ธัมมะเทสะนังวิเวเก ฐิตะจิตโต โย วิทิตันตัง นะมามิหัง ,๑๗. ชา. ชาติธัมโม ชะราธัมโม ชาติอันโต ปะกาสิโตชาติเสฏเฐนะ พุทเธนะ ชาติมุตตัง นะมามิหัง ,๑๘. จะ. จะเยติ ปุญญะสัมภาเร จะเยติ สุขะสัมปะทังจะชันตัง ปาปะกัมมานิ จะชาเปนตัง นะมามิหัง ,๑๙. ระ. ระมิตัง เยนะ นิพพานัง รักขิตา โลกะสัมปะทาระชะโทสาทิเกลเสหิ ระหิตันตัง นะมามิหัง
๒๐. ณะ. นะมิโตเยวะ พรหเมหิ นะระเทเวหิ สัพพะทานะทันโต สีหะนาทัง โย นะทันตัง ตัง นะมามิหัง ,๒๑. สัม. สังขาเร ติวิเธ โลเก สัญชานาติ อะนิจจะโตสัมมา นิพพานะสัมปัตติ สัมปันโน ตัง นะมามิหัง ,๒๒.ปัน. ปะกะโต โพธิสัมภาเร ปะสัฏโฐ โย สะเทวะเกปัญญายะ อะสะโม โหติ ปะสันนัง ตัง นะมามิหัง ,๒๓. โน. โน เทติ นิระยัง คันตุง โน จะ ปาปัง อะการะยิโน สะโม อัตถิ ปัญญายะ โนนะธัมมัง นะมามิหัง ,๒๔. สุ. สุนทะโร วะระรูเปนะ สุสะโร ธัมมะภาสะเนสุทุททะสัง ทิสาเปติ สุคะตันตัง นะมามิหัง ,๒๕. คะ. คัจฉันโต โลกิยา ธัมมา คัจฉันโต อะมะตัง ปะทังคะโต โส สัตตะโมเจตุง คะตัญญาณัง นะมามิหัง ,๒๖. โต. โตเสนโต วะระธัมเมนะ โตสัฏฐาเน สิเว วะเรโตสัง อะกาสิ ชันตูนัง โตละจิตตัง นะมามิหัง ,๒๗. โล. โลเภ ชะหะติ สัมพุทโธ โลกะเสฏโฐ คุณากะโรโลเภ สัตเต ชะหาเปติ โลภะสันตัง นะมามิหัง ,๒๘. กะ. กันโต โย สัพพะสัตตานัง กัตวา ทุกขักขะยัง ชิโนกะเถนโต มะธุรัง ธัมมัง กะถาสัณหัง นะมามิหัง ,๒๙. วิ. วินะยัง โย ปะกาเสติ วิทธังเสตวา ตะโย ภะเววิเสสัญญาณะสัมปันโน วิปปะสันนัง นะมามิหัง ,๓๐. ทู. ทูเส สัตเต ปะหาเสนโต ทูรัฏฐาเน ปะกาสะติทูรัง นิพพานะมาคัมมะ ทูสะหันตัง นะมามิหัง
๓๑. อะ. อันตัง ชาติชะราทีนัง อะกาสิ ทิปะทุตตะโมอะเนกุสสาหะจิตเตนะ อัสสาเสนตัง นะมามิหัง ,๓๒. นุต. นุเทติ ราคะจิตตานิ นุทาเปติ ปะรัง ชะนังนุนะ อัตถัง มะนุสสานัง นุสาสันตัง นะมามิหัง ,๓๓. ตะ. ตะโนติ กุสะลัง กัมมัง ตะโนติ ธัมมะเทสะนังตัณหายะ วิจะรันตานัง ตัณหาฆาฏัง นะมามิหัง ,๓๔. โร. โรเสนโต เนวะ โกเปติ โรเสเหวะ นะ กุชฌะติโรคานัง ราคะอาทีนัง โรคะหันตัง นะมามิหัง ,๓๕. ปุ. ปุณันตัง อัตตะโน ปาปัง ปุเรนตัง ทะสะปาระมีปุญญะวันตัสสะ ราชัสสะ ปุตตะภูตัง นะมามิหัง ,๓๖. ริ. ริปุราคาทิภูตัง วะ ริทธิยา ปะฏิหัญญะติริตตัง กัมมัง นะ กาเรตา ริยะวังสัง นะมามิหัง ,๓๗. สะ. สัมปันโน วะระสีเลนะ สะมาธิปะวะโร ชิโนสะยัมภูญาณะสัมปันโน สัณหะวาจัง นะมามิหัง
๓๘. ทัม. ทันโต โย สะกะจิตตานิ ทะมิตะวา สะเทวะกังทะทันโต อะมะตัง เขมัง ทันตินทริยัง นะมามิหัง ,๓๙. มะ. มะหุสสาเหนะ สัมพุทโธ มะหันตัง ญาณะมาคะมิมะหิตัง นะระเทเวหิ มะโนสุทธัง นะมามิหัง ,๔๐. สา. สารัง เทตีธะ สัตตานัง สาเรติ อะมะตัง ปะทังสาระถี วิยะ สาเรติ สาระธัมมัง นะมามิหัง ,๔๑. ระ. รัมมะตาริยะสัทธัมเม รัมมาเปติ สะสาวะกังรัมเม ฐาเน วะสาเปนตัง ระณะหันตัง นะมามิหัง ,๔๒. ถิ. ถิโต โย วะระนิพพาเน ถิเร ฐาเน สะสาวะโกถิรัง ฐานัง ปะกาเสติ ถิตัง ธัมเม นะมามิหัง
๔๓. สัต. สัทธัมมัง เทสะยิตวานะ สันตะนิพพานะปาปะกังสะสาวะกัง สะมาหิตัง สันตะจิตตัง นะมามิหัง ,๔๔. ถา. ถานัง นิพพานะสังขาตัง ถาเมนาธิคะโต มุนิถาเน สัคคะสิเว สัตเต ถาเปนตัง ตัง นะมามิหัง ,๔๕. เท. เทนโต โย สัคคะนิพพานัง เทวะมะนุสสะปาณินังเทนตัง ธัมมะวะรัง ทานัง เทวะเสฏฐัง นะมามิหัง,๔๖. วะ. วันตะราคัง วันตะโทสัง วันตะโมหัง อะนาสะวังวันทิตัง เทวะพรหเมหิ มะหิตันตัง นะมามิหัง ,๔๗. มะ. มะหะตา วิริเยนาปิ มะหันตัง ปาระมิง อะกามะนุสสะเทวะพรหเมหิ มะหิตันตัง นะมามิหัง
๔๘. นุส. นุนะธัมมัง ปะกาเสนโต นุทะนัตถายะ ปาปะกังนุนะ ทุกขาธิปันนานัง นุทาปิตัง นะมามิหัง ,๔๙. สา. สาวะกานังนุสาเสติ สาระธัมเม จะ ปาณินังสาระธัมมัง มะนุสสานัง สาสิตันตัง นะมามิหัง ,๕๐. นัง. นันทันโต วะระสัทธัมเม นันทาเปติ มะหามุนินันทะภูเตหิ เทเวหิ นันทะนียัง นะมามิหัง ,๕๑. พุท. พุชฌิตาริยะสัจจานิ พุชฌาเปติ สะเทวะกังพุทธะญาเณหิ สัมปันนัง พุทธัง สัมมา นะมามิหัง ,๕๒. โธ. โธวิตัพพัง มะหาวีโร โธวันโต มะละมัตตะโนโธวิโต ปาณินัง ปาปัง โธตะเกลสัง นะมามิหัง
๕๓. ภะ. ภะยะมาปันนะสัตตานัง ภะยัง หาเปติ นายะโกภะเว สัพเพ อะติกกันโต ภะคะวันตัง นะมามิหัง,๕๔. คะ. คะหิโต เยนะ สัทธัมโม คะตัญญาเณนะ ปาณินังคะหะณิยัง วะรัง ธัมมัง คัณหาเปนตัง นะมามิหัง ,๕๕. วา. วาปิตัง ปะวะรัง ธัมมัง วานะโมกขายะ ภิกขุนังวาสิตัง ปะวะเร ธัมเม วานะหันตัง นะมามิหัง ,๕๖. ติ. ติณโณ โย สัพพะปาเปหิ ติณโณ สัคคา ปะติฏฐิโตติเร นิพพานะสังขาเต ติกขะญาณัง นะมามิหัง ,ฉัปปัญญาสะ พุทธะคาถา พุทธะคุณา สุคัมภิราเอเตสะมานุภาเวนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา.
คุณพระพุทธเจ้า 56 พระคาถานี้ เป็นอักขระ 1792 คุณพระเจ้า 38 พระธรรมคาถานี้ เป็นอักขระ 1216 คุณพระสังฆเจ้า 14 พระคาถานี้ เป็นอักขระ 448 ประสมกันเข้าเป็นอักขระ 3456 พระรัตนมาลานี้ ถ้าผู้ใดพบ ให้หาอุปเทศ(คำสั่งสอน-ชี้แจง-แนะนำ)เอาเถิด ถ้าจะนิราศเหาะเหินเดินอากาศ และชำแรกแทรกภูเขาไปประการใด จะสำเร็จความปรารถนาชั่วนี้ชั่วหน้า กันภัยอันตรายทั้งปวง บุคคลผู้ใดพบพระคาถานี้ เหมือนได้พบพระเจ้าจริงแท้อย่าสนเท่ห์ ถ้าผู้ใดมิได้พบว่าเหยียบดินผิดเลย ฯ
อิ-กันหอก ดาบ แหลน หลาว ,ติ-กันผี ปีศาจทั้งปวง ,ปิ-เสกกะแจะน้ำมันหอม หมากพลูสารพัด กินเป็นเสน่ห์แก่เทวดาทั้งปวง ,โส-ให้บรรเทาทุกข์โศกทั้งปวงแล ,ภะ-กันศัตรูทำร้ายมิได้เลย ,คะ-ให้บรรเทาโรคาพยาธิทั้งปวงแล ,วา-กันโจรแลผู้ร้าย ทำร้ายมิได้เลย ,อะ-กันเสือแลจรเข้,ระ-กันกระทำคุณผี แลคุณคน แลสารพัดทั้งปวง,หัง-เข้าสู่ณรงค์สงครามแล ,สัม-ถ้าจะเข้าสู่ณรงค์สงคราม หาผู้ทำร้ายมิได้แล ,มา-ถ้าคนแข็งกระทำให้อ่อน ,สัม-เสกสมั่งกินมีปัญญา ,พุท-ถ้าเสนียดจัญไร อุปัทวภัยทั้งปวงโธ-กันช้างกับสัตว์ร้ายทั้งปวงที่มาประจญ ,วิช-กันศัตรูพ่ายแพ้ ทำให้เขามีเมตตาจิต ,ชา-กันกระทำ จะไปทิศานุทิศใดๆคนไม่ทำร้าย ,จะ-สระหัวหายถ้อยความ ไม่เป็นเหตุให้วิวาทใครๆ ลระ-กันเสนียดจัญไรทั้งปวง
ณะ-กันห่าลงแล ,สัม-เป็นเสน่ห์ ,ปัน-กันภูตแลผี ,โน-กันช้าง ,สุ-กันกระทำแล และอาคมทั้งปวง ,คะ-ค้าขายกินทั้งปวง ,โต-เข้าสู่ขุนนาง ท้าวพระยาทั้งปวง มีความสวัสดีโล-ให้ศัตรูเป็นมิตร ,กะ-เสกข้าวสารซัดผีเข้า,วิ-แข่งพนันสารพัด ,ทู-จะไปก็ดี จะอยู่ก็ดี ,อะ-ให้ศัตรูมันยินดี ,นุต-กันหลับแล ,ตะ-เสกปลูกสารพัดทั้งปวง ,โร-กันภัยเมื่อจะมีที่ไปแล ,ปุ-กันจรเข้ และแมลงป่องแล ,ริส-เข้าไปกระทำองอาจ ในท่ามกลางคนทั้งปวง ,สะ-สวดทุกวัน เทวดามาฟังแสนหนึ่ง ,ทัม-เสกผ้าโพกหัว นุ่งห่ม 1 ที ,สะ-กันอาถรรพ์ และกระทำอาเพทและ อาคม ,ระ-กันเสือและควาย ช้าง ,ถิ-เสกข้าวกินคง(กระพัน)
สัต-กันโจรผู้ร้าย จะกระทำมิได้เลย ,ถา-ภาวนาเข้าไปในสงคราม ,เท-เสกเทียนเป็นสวัสดี 19 คาบ ,วะ-เสกดอกไม้ทัดเป็นเสน่ห์ ,มะ-ขึ้นช้างลงม้า ขึ้นเรือนลงเรือน 12 คาบนุส-ขึ้นช้างลงม้า มีตะบะเดชะ ,สา-เสกเมื่อกินเส้น 11 ที ,นัง-เสกประคำสังวาลย์ ,พุท-ให้ว่าเมื่อเข้าบ้านเข้าเมือง กันภัยทั้งปวง ,โธ-เสกทั้งปวง ,ภะ-เสกอาวุธทั้งปวง ,คะ-ไปสู่พระยา สมณะ พราหมณาจารย์แล ,วา-เข้าสู่คนแข็งก็อ่อน ,56 พระคาถานี้พระรัตนมาลา.......
อักขระ และพระคาถานี้ ชื่อ อันตะ คุณัง เป็นที่ประเสริฐยิ่งในไตรภพทั้ง 3 หาที่สุดมิได้ ถ้าบุคคลผู้ใดพบพระคาถานี้แล้ว ได้เล่าได้เรียน เป็นคุณอันประเสริฐ ให้รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า เมื่อเช้าให้ว่า 108 จบ เมื่อค่ำ 108 จบ เป็นนิตย์ทุกวัน เทวดารักษา หาเป็นอันตรายไม่เลย และราชภัย แลอัคคีภัย แลโจรภัย จะเป็นราชเสน่ห์แก่มนุษย์ และศัตรู จะกระทำมิได้ เดชคุณพระพุทธเจ้า จบเท่านี้แล อุปเทสปริปุณณา.......
อิ . ถา . สะ . โร . ปิ . สุ . โธ
มา . ตะ . ติ . โน . พุท . ปุ . โส
สะ . ปัน . เท . โธ . มะ . วิ . คะ
นุ . สะ . นุ . วา . นัง . ภะ . ริ
สะ . ถิ . พุท . วะ . ภะ . โต . ชา
หัง . อะ . คะ . สา . ติ . สะ . คะ
ระ . ณะ . วิ . อะ . มะ . จะ . โล
ทู . สา . ระ . ระ . กะ . วา .ทะ (ลงแบบตาหมากรุกม้า)


คาถาสวดบูชาดวงพิชัยสงคราม “พาหุงฯชัยมงคลคาถา” ฉบับพระมหาราชครูฯ
1.พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะ สาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะ เสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
2.มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะ สัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะ มักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
3.นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
4.อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถัง คุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
5.กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
6.สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
7.นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
8.ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม * ชะยะมังคะลานิ
9.เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตะวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.
* ถ้าสวดให้คนอื่นให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต
วิธีใช้ ตั้งนะโม ๓ จบ
หากจะเข้าเฝ้าเจ้านาย ให้ท่านมีความเมตตา ให้เขียนชื่อผู้ที่ตนจะเข้าพบนั้นด้วยแป้งในฝ่ามือ แล้วเจริญชัยมงคลคาถาทั้ง ๙ บท เมือจบแล้วให้สวดเฉพาะบทที่ ๔ (บท อะขิตตะชัค ๓ จบ)
ถ้าจะให้ศัตรูพ่ายแพ้
๑.ให้เขียนชื่อศัตรูใส่กระดาษแล้วนั่งทับขณะเจริญภาวนา แล้วนำกระดาษนั้นนำไปทิ้งน้ำหรือเผาไฟ
๒.ให้เขียนชื่อศัตรูพันไส้เทียน ก่อนจะนำไปฟั้น แล้วนำเทียนมาจุดขณะเจริญภาวนา
วิธีการบูชาและสวดคาถาฉบับพระมหาราชครูฯ
วิธีบูชาถวายพรพระ คือสวดบทพาหุงฯ ไปถึงบททุคคาฯ แล้วว่าเอตานิ ฯลฯ อีกบทหนึ่ง เมื่อสวดจบแล้วมีความประสงค์สิ่งใดก็ดี พึงตั้งจิตอฐิษฐานเอาตามความประสงค์ของตน ด้วยอำนาจการเจริญพุทธมนต์นี้ก็จะสมความประสงค์ได้ หากได้กระทำการบูชาทุกวันมิได้ขาดแล้ว ท่านว่าเป็นบุญลาภอันประเสริฐยิ่ง ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
พระคาถาที่จะสวดบูชาให้บูชาเป็นบางอย่าง คือแยกเอาไว้ดังนี้
๑.บทสวดพรชัยพาหุง ศัตรูหมู่ร้ายจะยำเกรงพ่ายแพ้แก่อำนาจตน ครั้งภายหลังศัตรูจะกลับจิตเข้ามาเป็นมิตรและจะนำลาภสักการะมาสู่ตัวเราเสมอๆด้วยอำนาจการเจริญบทพรชัยพาหุงฯ
๒.สวดบทมาราติเร ฯลฯ เป้นการป้องกันภูติผีปิศาจแลภูติพรายอันเป็นอันตรายร้ายแรง จะทำอันตรายแก่เรามิด้เลย จะพ่ายแพ้ยำเกรงไปเอง และจะกลับมาคุ้มครองรักษาเราด้วยอำนาจเจริญพุทธพรชัยบท มาราติเร ฯลฯ
๓.สวดบา นาราคิริง ฯลฯ เมื่อจะเผชิญกับศัตรูผู้เข้ามาทำร้าย ศัตรูก็จะพ่ายแพ้ยำเกรงอำนาจแห่งเรา กลับมีจิตเคารพรักเราเป้นอันดี ทั้งที่จะมีลาภผลเนืองนองมาเสมอๆ ด้วยอำนาจเจริญพุทะพรชัยบท นาราคิริง ฯลฯ
๔.สวดบท อุกขิตตะขัด ฯลฯ ถ้าจะไปต่างถิ่นใดใดก้ดี ให้หมั่นเจริญบทนี้เสมอๆ แม้บุคคลก็ดี ปีศาจก็ดีที่มีอยู่ ณ ที่นั้น จะมีเมตตาแก่เรา จะช่วยป้องกันรักษาเรา ให้ได้รับความสุขความเจริญ ทั้งลาภก็เจริญ ด้วยอำนาจเจริญบทอุกขิตตะขัด ฯ
๕.สวดบท กัตตวานะ ฯลฯ ถ้ารู้ว่าผู้ใดตั้งตนเป็นศัตรูแก่เราก็ดี เมื่อขณะกำลังสวดมนต์บทนี้อยู่ ให้รำลึกถึงศัตรูผู้นั้น ศัตรูผู้นั้นก้จะมีจิตละอายแก่เรา ไม่สามารถทำร้ายแก่เราและจะกลับมาเป็นมิตรแก่เราอีกด้วย ด้วยอำนาจการเจริญบท กัตตวาฯ
๖.สวดบท สัจจังวิหายะ ฯลฯ แม้จะกล่าวถ้อยคำใดใดก้ดี คนทั้งหลายจะมีความเลื่อมใสเชื่อถือในคำพูดเรา แล้วเกิดมีเมตตาแก่เราด้วย ลาภผลก็เจริญตาม ด้วยพระพุทธมนต์บทนี้ ฯ
๗.สวดบท นันโท ฯลฯ จะบำบัดเสียซึ่งเหล่าอสรพิษทั้งหลายที่มีพิษร้ายแรงต่างๆ มีงู ตะเข็บ ตะขาบ เป็นต้น จะไม่มาทำร้ายแก่เราเลย ฯ
................................................................................................

ตำราบูชาดวงชะตากำเนิด
โดย ขุนอนุยุตร์กนกกรรม (ขาว ปานโชติ)
คำนำ
ตำราดวงชะตาชื่อพิชัยสงครามนี้ เป็นตำราเก่าแก่สืบมาแต่บรมโบราณ พระโบราณาจารย์ท่านสรรเสริญไว้ว่า ถ้าผู้ใดนับถือกระทำตามอุปเท่ห์ที่ท่านกล่าวไว้ อาจอำนวยผลให้ผู้นั้นบรรลุอิฎฐวิบูลผล คือ ลาภ ยศ สรรเสริญความสุขสวัสดี แม้ดวงชะตาต้องกาลกรรณีหรือ พระเคราะห์ร้ายประการใด ๆ ก็อาจบรรเทาให้เบาลงได้ และอาจคุ้มเสนียดจัญไรอุปัทวันตรายต่าง ๆ อันเป็นปัจจุบันโทษ พระโบราณาจารย์ท่านนับถือสรรเสริญว่าศักดิ์สิทธิ์นัก ที่กล่าวนี้ก็กล่าวตามตำรามิได้ต่อเติมเสริมความตามอัตตโนมัติให้พิสดารแต่ ประการใด เป็นแต่ดัดแปลงถ้อยคำให้เข้าใจง่ายเท่านั้น ข้าพเจ้าใคร่จะรักษาของโบราณไว้มิให้สาบสูญ จึงให้พิมพ์ขึ้นไว้เป็นที่ระลึกสำหรับแจกปันแก่สานุศิษย์มิตรสหายบรรดาที่มี ความสนใจในทางนี้ แต่ตำราชนิดนี้จะนำไปทดลองพิสูจน์ให้เห็นเหตุผลเหมือนกับทางวิทยาศาสตร์ไม่ ได้ ต้องอาศัยทางจิตตานุภาพยึดคุณพระรัตนตรัยเป็นหลัก จึงอาจเห็นผลประจักษ์ตามตำรากล่าว แม้ในทุกวันนี้ การบูชานพเคราะห์และสดุดีสังเวยก็ยังคงใช้อยู่ในพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น แต่
จะอย่างไรก็ตาม ตำรานี้ก็ไม่นำความเสียหายมาให้แก่ผู้นิยมนับถือ ย่อมเป็นไปในทางเจริญสิริมงคลอย่างเดียว เพราะฉะนั้น ขอท่านผู้ได้รับตำราเล่มนี้ จงเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย ทำใจให้เป็นจิตตานุภาพ ก็อาจจะได้บรรลุผลสมความปรารถนาทุกประการ
ขุนอนุยุตร์ ฯ
วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2474

การผูกดวงชะตาขึ้นบูชานี้ ไม่ใช่พิธีที่พึ่งจะนิยมขึ้นในสมัยใหม่ เป็นลัทธิเก่าที่นิยมกันมาแต่ครั้งโบราณนานนักหนาแล้ว แต่มักจะนิยมกันอยู่ในหมู่ชนชั้นสูง ไม่แพร่หลายไปถึงคนสามัญชั้นล่าง มีชนชั้นกลางนิยมกันบ้างไม่สู้มากนัก เพราะดวงชะตาสำหรับบูชานี้ ไม่ใช่กระทำหรือผูกกันได้ง่าย ๆ เหมือนกับดวงชะตาที่ทำนายทุกข์โศกโชคลาภ และอีกประการหนึ่งท่านที่กระทำหรือผูกได้ ท่านก็ไม่ค่อยจะยินดีเผยแผ่เกียรติคุณของท่านให้ปรากฏแพร่หลาย ท่านมักจะเลือกทำให้แต่เฉพาะชนชั้นสูงและสานุศิษย์บางคนที่ท่านรักใคร่ ซึ่งท่านเห็นว่ามีความเลื่อมใสสุจริตมั่นคงอาจรักษาเกียรติคุณไว้ได้ และเป็นผู้นับถือจริง เคารพจริง ต้องการจะบูชาจริง ๆ ฉะนั้น การบูชาดวงชะตาจึงไม่ค่อยแพร่หลายไปถึงชนทุกชั้น
(ตีพิมพ์ลงในพยากรณสาร)
ก็อันว่าดวงชะตาที่ผูกขึ้นสำหรับบูชา นี้เรียกกันว่าดวงพิชัยสงคราม โดยมีเรื่องเก่าเล่ากันมาว่า ครั้งหนึ่ง (ศักราชไม่ปรากฏ) พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่ง (ชาติใด ภาษาใด นามใด ไม่ปรากฏ) ถูกข้าศึกล้อมเมืองไว้ จะหนีก็ไม่มีทางออก จะต่อสู้กำลังพลก็น้อยกว่าข้าศึกมาก เมื่อเข้าที่คับขันเช่นนี้ ให้ประชุมมุขมนตรีปรึกษาการที่จะป้องกันพระนคร แต่ก็ไม่มีผู้ใดออกอุบายประการใด จึงท่านขุนโหรคนหนึ่งกราบทูลสรรเสริญพรรณนาคุณานุคุณของการบูชาดวงชะตา กำเนิดขึ้นว่า ในคัมภีร์โหราศาสตร์ท่านสรรเสริญคุณไว้เป็นอเนกประการว่า ถ้าบุคคลผู้ใดได้ผูกดวงชะตากำเนิดของตนขึ้นไว้บูชาโดยอาการอย่างใดอย่าง หนึ่งก็ดี บุคคลผู้นั้นจะประสพผลเป็นทิฏฐธรรมเวทนีย์ (ได้ผลทันตาเห็น) โดยแม่นแท้ คือจะอุดมสมบูรณ์ด้วย อายุ วรรณ สุขะ พละ และ ลาภ ยศ ความสรรเสริญความสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลในชาติปัจจุบันทันตาเห็น อาจคุ้มครองป้องกันมิให้ผู้นั้นตกต่ำด้วยอำนาจคุณพระรัตนตรัย แล้วขุนโหรกราบทูลต่อไปว่า บัดนี้บ้านเมืองก็เข้าที่คับขันอยู่แล้ว ถ้าทรงโปรดให้ผูกดวงพระชะตาขึ้นแล้วทรงบูชาด้วยความเคารพในคุณพระไตรรัตน์ ตามอุปเท่ห์ของโบราณาจารย์ ก็อาจสามารถจะอุปัตถัมภ์พระบารมีให้ทรงพระเดชานุภาพ เป็นที่เกรงขามแห่งอริราชศัตรู ทั้งอาจเชิดชูพระเกียรติยศให้ปรากฏไปมีชัยแก่ข้าศึก อาจปราบหมู่ปัจจนึกให้ปลาดพ่ายแพ้ไปได้ ด้วยอำนาจคุณพระรัตนตรัยอภิบาลบำรุงรักษาเป็นมั่นคง อย่าทรงพระปริวิตกเลย
เมื่อได้ทรงฟังขุนโหรกราบทูลเช่นนั้น จึงรับสั่งให้ตั้งพิธีผูกดวงพระชะตาขึ้นในทันใด ครั้นขุนโหรคำนวณเสร็จและลงตัวพระเคราะห์ในยันต์ตามคัมภีร์เรียบร้อยแล้ว จึงทรงกระทำสักการบูชาโดยเคารพ ขอคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง แล้วทรงยกพลออกต่อสู้ข้าศึก ก็เผอิญให้ข้าศึกครั่นคร้ามพระเดชานุภาพปราชัยพ่ายแพ้ไปหมด แต่นั้นมาจึงเรียกดวงชะตานี้ว่า ดวงพิชัยสงคราม เหตุที่มีชัยชะนะราชไพรีเพราะได้บูชาดวงชะตานี้ ที่จริงดวงพิชัยสงครามก็คือ ดวงชะตาที่สำหรับพยากรณ์กันนี่เอง แต่คำนวณละเอียดวิตถารพิสดารออกไป ทุก ๆ พระเคราะห์ลงตัวเลขที่เป็นผลลัคน์มัธยมสมผุสทั้งสิบพระเคราะห์ แสดงราศี, องศา, ลิปดา, ฤกษ์, ดฤถี และนาฑีทั้งสิบพระเคราะห์ ตลอดกระทั่งส่วนนวางค์ ตรียางศ์ที่ลักขณาเกาะเกี่ยวอยู่ละเอียดที่สุด กระทั่งอินทภาษบาทจันทร์เคราะห์รูปเคราะห์สม
ส่วนการที่จะนำดวงพิชัยสงครามขึ้นสู่ที่บูชานั้น ท่านกล่าวอุปเท่ห์ไว้หลายอย่างต่างวิธี ตามคติที่นิยมใช้กันต่อ ๆ มา วิธีหนึ่งท่านให้เอาไม้ศรีมหาโพธิ์มาแกะเป็นพระห้ามสมุทร ส่วนสูงตั้งแต่พระบาทถึงพระเกศ ท่านกำหนดไว้ 11 นิ้ว หรือ 13 นิ้ว แล้วเอาแก่นขนุนมาทำฐาน ในฐานนั้นให้คว้านเสียพอบรรจุดวงชะตาได้ ให้เอาไม้นนทรีมาทำกระดานอุดฐานที่คว้านออก แล้วเอาเงินหนัก 1 บาท มาแผ่ให้บางลงดวงพิชัยสงคราม (คือดวงชะตากำเนิดของตนเอง) แล้วลบดวงชะตานั้นด้วยชาดหรคุณ เวลาจะบรรจุดวงชะตาท่านให้บรรจุธาตุพระสีวลี (พระฉิม) ลงไปด้วย และเอาจันทน์เทศ กฤษณา มากรางใส่ ลงไปด้วย มีหัวแหวนเพ็ชรนิลจินดานพเก้าใส่ลงไปด้วยก็ยิ่งดี เวลาจะบรรจุดวงชะตาให้ดูฤกษ์ยามดี เมื่อทำเสร็จแล้วให้แต่งบายศรีซ้ายขวาพร้อมด้วยเครื่องสักการบูชากระยาบวด นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป มาฉันสมโภช เสร็จแล้วประดิษฐานพระห้ามสมุทรไว้ในที่เบื้องสูง ดาดเพดานด้วยผ้าขาว บูชาด้วยข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนเสมอเป็นนิตย์
อีกวิธีหนึ่ง ท่านให้ลงดวงพิชัยสงครามในแผ่นทองหรือแผ่นเงิน หรือจะลงในผืนผ้าหรือแผ่นกระดาษก็ได้ บางอาจารย์ใช้หลอมตะกั่วเป็นแท่งสี่เหลี่ยมให้เป็นแอ่งลึกตอนกลาง แล้วลงดวงชะตาในแอ่งนั้น และในแอ่งนั้นใช้น้ำมันมะพร้าวเจือน้ำมันหอม ตามเป็นประทีปบูชาพระเสมอเป็นนิตย์ไม่มีเวลาดับตลอดกาล
วิธีลงดวงชะตาพิชัยสงครามสำหรับบูชา ที่กล่าวมานี้ จะเลือกใช้วิธีใดก็ได้ตามใจสมัครคงได้ผลเท่ากัน ข้อสำคัญมีอยู่ตรงตั้งใจบูชาโดยเคารพจริง ๆ และหมั่นบูชาทุกวันเสมอเป็นนิตย์อย่าให้ขาด ขออำนาจคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ก็จะได้บรรลุซึ่งศุภผลให้ประจักษ์ทันตาเห็นดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ในตำราท่านอ้างถึงบุคคลครั้งกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมากมายหลายท่าน คือ พระอาจารย์เทียนมหาเถรวัดงู พระยาเดโช หลวงสารภักดีชาตอง พระยาราชภักดี นายเทียน นายสาย นายสังฃ์ ว่า ท่านเหล่านี้ล้วนได้บูชาดวงพิชัยสงคราม และต่างคนต่างก็ได้บรรลุยศศักดิ์อรรคฐานด้วยกันทุกท่าน ที่กล่าวมานี้ก็กล่าวตามตำราท่านสรรเสริญไว้ แต่ขอให้เข้าใจว่าบรรดาบุคคลที่กล่าวในตำราที่ท่านอ้างมานี้ ใช่ว่าเพียงแต่ท่านได้บูชาดวงชะตาแล้วก็จะได้ประสพผลยศศักดิ์อรรคฐานสมใจนึก เมื่อไรต้องอาศัยประกอบคุณงามความดีอีกส่วนหนึ่งด้วย และใช่ว่าพอบูชาได้สักเดือนสักปีก็จะคอยให้ลาภยศไหลมาเทมาดังใจนึกก็หาไม่ ต้องหมั่นบูชาเคารพด้วยความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยเสมอทุกวันอย่าให้ขาด ด้วยอำนาจคุณพระรัตนตรัยทั้งสามประการ จะอุปัตถัมภ์ดลบันดาลให้เกิดสิริมงคลแก่ตน เมื่อสิริมงคลเกิดแก่ตนแล้ว อันว่า ลาภ ยศ ความสรรเสริญ ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลก็จะค่อยมีมาเป็นลำดับสมดังมโนรถความปรารถนาทุก ประการ
ส่วนคาถาที่บูชาดวงชะตานั้น ก็คือ พาหุงทั้ง 8 บท นั่นเอง แต่ท่านวางอุปเท่ห์ไว้ดังมีแจ้งต่อไปนี้

วิธีบูชาถวายพรพระ
สวดพาหุงจนไปถึงบททุคคา เมื่อสวดจบแล้วตนจะประสงค์สิ่งใด ๆ ก็ดี จงตั้งจิตอธิษฐานเอาตามความประสงค์ของตนเถิด ก็อาจสมประสงค์ของตนได้ ถ้ากระทำบูชาได้ทุกวันมิได้ขาดเลย ก็อาจจะเห็นผลประจักษ์ ท่านว่าเป็นบุญลาภอันประเสริฐอย่างยิ่ง มีคุณทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเป็นเที่ยงแท้
คาถาที่จะสวดบูชาจำเพาะบางอย่างแยกไว้ดังกล่าวต่อไปนี้
- สวดบทพาหุง ศัตรูหมู่ร้ายจะยำเกรงพ่ายแพ้อำนาจแก่ตน ครั้นภายหลังศัตรูจะกลับจิตเมตตาเข้ามาเป็นมิตร และมีน้ำจิตจะนำลาภผลมาบูชาแก่ตัวเราเสมอ ๆ ด้วยอำนาจเจริญพาหุง ฯ
- สวดบทมาราติเร อาจจะคุ้มภูตผีปีศาจอันตรายอันร้ายแรง ภูตผีจะทำอันตรายแก่เรามิได้ จะพ่ายแพ้ยำเกรงไปเอง แล้วจะกลับใจมารักใคร่ซึ่งตัวเราโดยอำนาจตั้งใจเจริญมาราติเร ฯ
- สวดบทนาฬาคิริง จะผจญกับศัตรูที่จะมาทำร้าย ก็พ่ายแพ้กลัวอำนาจแก่เรา ครั้นภายหลังจะกลับมาเป็นมิตร จะมีจิตรักเราเป็นอันดี ลาภผลก็จะมีมาเนือง ๆ ด้วยอำนาจเจริญนาฬาคิริง ฯ
- สวดบทอุกขิตตะขัค แม้จะไปต่างถิ่นหรืออยู่ในที่ใด ๆ ก็ดี แม้อยู่ในที่นั้นหมั่นเจริญอยู่เสมอ ๆ บุคคลหรือภูตปีศาลในที่นั้นจะมีเมตตาเรา แล้วจะป้องกันรักษาซึ่งตัวเราให้มีความสุขเจริญทั้งลาภผลด้วยอำนาจเจริญอุก ขิตตะขัค ฯ
- สวดบทกัตวานะกัฏฐะ ถ้ารู้ว่าผู้ใดเป็นศัตรูแก่เราก็ดี เมื่อเจริญกัตวานะกัฏฐะ แล้วตั้งจิตระลึกถึงศัตรูผู้นั้น ศัตรูก็มีจิตละอายแก่เรา ไม่สามารถทำร้ายแก่เราได้ แล้วก็จะกลับใจมาเป็นมิตรเราด้วย ฯ
- สวดบทสัจจังวิหา แม้จะกล่าวถ้อยคำสิ่งใด ๆ ก็ดี แก่คนทั้งหลาย ๆ จะมีความเชื่อถือแล้วมีความเมตตาแก่ตนทั้งลาภผลเจริญดีด้วยอำนาจเจริญสัจจัง วิหา ฯ
- สวดบทนันโท จะบำบัดเสียซึ่งอสรพิษ เช่น ตะขาบ แมลงป่องและสัตว์ที่มีพิษต่าง ๆ จะไม่มีจิตมาเบียดเบียนแก่เราเลย ตั้งใจสวดบทนันโทอาจดับพิษได้ต่าง ๆ ฯ
- สวดบททุคคาหะทิฏฐิ จะผจญเสียซึ่งอมนุษย์เทวดาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิจะมาคิดร้ายแก่เรานั้นก็พ่ายแพ้ อำนาจแก่เราไปเอง แล้วภายหลังท่านทั้งหลายนั้นก็จะกลับจิตมีความเมตตา จะพิทักษ์รักษาให้เรามีความเจริญ ด้วยอำนาจเจริญบททุคคา ฯ
เมื่อบุคคลผู้ใดเป็นศัตรูแก่เรา ท่านให้เขียนชื่อศัตรูผู้นั้นใส่ในกระดาษทำเป็นไส้เทียนจุดบูชาพระ อีกอย่างหนึ่งเขียนชื่อศัตรูในกระดาษเอานั่งทับไว้ แล้วตั้งใจเป็นเมตตาจิตถวายพระพระพาหุงถึงทุคคาครบ 8 บท เมื่อจบแล้วเอาชื่อศัตรูขยำน้ำเสีย ศัตรูผู้นั้นจะทำร้ายหรือทำอันตรายแก่เรามิได้เลย ครั้งภายหลังศัตรูผู้นั้นจะกลับจิตมาเป็นมิตรแก่เรา แล้วก็จะนำลาภผลมาบูชาแก่เรา
ถ้าจะให้เป็นเสน่ห์แก่ท้ายพระยา ขุนนาง สมณะชีพราหมณ์ ประชาชนทั้งหลาย และพ่อค้าพาณิช ท่านให้เขียนชื่อของเราใส่ในกระดาษแล้วเอาเครื่องหอมประพรมที่ชื่อของเรา แล้วใส่ในอุ้มมือของเรา แล้วตั้งจิตถวายพรพระด้วยบทพาหุงถึงทุคคาครบ 8 บท จบแล้วเอาชื่อของเราจุ่มลงในน้ำ ขอเดชอำนาจพระสมุทรวารี ทั้งคุณศรีพระรัตนตรัย จงมาบันดาลดลให้สมประสงค์ แล้วมาบำรุงรักษา ซึ่งตัวข้าพเจ้าให้ปราศจากสรรพทุกข์โศกโรคภัยอันตรายต่าง ๆ ทั้งศัตรูหมู่ร้ายก็ให้พ่ายแพ้อำนาจ ดุจดังพระยามาราธิราชแพ้อำนาจด้วยบารมี 30 ทัศของพระพุทธเจ้าฉะนั้น แล้วขอเดชานุภาพพระไตรรัตนาธิคุณอีกอดุลเทพยมหิทธิศักดิ์ทั่วสากล จงมาบันดาลดลอภิบาลรักษา ซึ่งข้าพเจ้าให้ประกอบด้วยสุข สมบัติ บริวาร ยศ ให้ปรากฏเกียรติคุณสุนทร อำนาจ สรรพสิ่งที่มุ่งมาด จงสมประสงค์ประสิทธิโดยทันทีแก่ข้าพเจ้านี้ด้วยเทอญ ฯ สวดตามธรรมดาควรจะสวดนะโมสะระณาคมน์อิติปิโสและพาหุง ทั้ง 8 บท ทุกวันอย่าให้ขาด สวดตามกำลังวันด้วยยิ่งดีนักแล ฯ
คาถาบูชาดวงชะตา
- พาหุง สหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาละวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนิน ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุธารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุธารุณันตัง ทาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฎฐะวะจะนัง ชะนะกายะ มัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะ ยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรหมัง วิสุทธิชุติมิทะพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเต ชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
- เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะมยยะ นะโร สะปัญโญ ฯ
คาถาบทนี้บูชาพระสีวลี (พระฉิม)
สีวลี จะ มะหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตังสะทา ฯ
คาถาบทนี้ขอลาภผล
สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโหปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุเม ลาเภนะ อุตตะโม โสระโหปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุ เมฯ
------------------------------------------------------------------------------------------


ความหมายของฤกษ์ทั้ง ๙
หลายๆ ท่านเมื่อได้รับดวงพิชัยสงครามจากผม มักจะอีเมล์มาถามบ่อยๆว่าฤกษ์ต่างๆที่อยู่ในดวงชะตาในดวงพิชัยสงคราม เช่น ลัคนาเกาะทลิทโทฤกษ์ จันทร์เสวย....นักษัตร ราชาฤกษ์ ฤกษ์เหล่านี้ คืออะไร ดีอย่างไร ตอนนี้จะได้อธิบายพอให้เข้าใจง่ายๆดังนี้ ซึ่งฤกษ์มีทั้งหมดมีอยู่ 9 ฤกษ์ คือ ทลิทโทฤกษ์ มหัทธโนฤกษ์ โจโรฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์ เทศาตรีฤกษ์ เทวีฤกษ์ เพชฌฆาตฤกษ์ ราชาฤกษ์ สมโณฤกษ์
ซึ่งฤกษ์ทั้ง 9 นี้คำนวณมากจากดาวฤกษ์ 27 นักษัตร กรุณาอ่าน ดวงชาตาภายใต้อิทธิพลของ 27 นักษัตร
ซึ่งสามารถใช้ทำนายดวงชะตาได้แบบคร่าวๆเท่านั้น และมีผลแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ว่าเห็นดวงเราจันทร์หรือลัคนาเป็นโจโรฤกษ์ก็ตกใจ หรือเป็นราชาฤกษ์แล้วก็ดีใจ ว่าดวงดี แบบนี้ไม่ใช่นะครับ เพราะข้อมูลดวงชะตาและฤกษ์นี้มีไว้สำหรับให้โหรใช้ประกอบการทำนายผสมกับเงื่อนไขอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งการทำนายดวงชะตาของโหร จะประกอบด้วยหลักใหญ่ๆดังนี้
( 1.)ลัคนา (2.) ดาวเคราะห์ทั้ง 9 (3.)ราศีทั้ง 12 ราศี (4.)นักษัตรฤกษ์ทั้ง 27 นักษัตร (5.) ตรียางค์ทั้ง 24 ตรียางค์ (6.) นวางศ์ทั้ง 108 ลูกนวางศ์ (7.)วันทั้ง 7 ในสัปดาห์ (8.) ดิถีขึ้น-แรม (9.)เรือนชะตาทั้ง 12 เรือน ฯลฯ
ซึ่งทั้งหมดนี้โหรต้องนำมาคำนวณทั้งหมด เช่น คำนวณองศาลิปดา กำลังของดาวเคราะห์และเรือนชาตา (ษัฑพละ)องศาระยะเชิงมุม โยคเกณฑ์ดี-ร้ายต่างๆ ดาวคู่มิตร คู่ศัตรู การส่งเสริมและหักล้างกันของดาวเคราะห์ต่างๆ อีกทั้งต้องคำนวณทั้งดาวในพื้นดวงเดิมและดาวจรในขณะนั้นๆ แล้วจึงออกคำทำนายหรือพยากรณ์ดวงชะตา หากเป็นฤกษ์ยามก็ต้องคำนวณ “กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์”เพิ่มเข้าไปอีกและต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของเจ้าการและประเภทของงานที่จะต้องใช้ฤกษ์
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเป็นโหร ไม่ใช่เรื่อง่ายๆ อีกทั้งต้องเรียนศึกษาและมีประสบการณ์มากกว่า 10-20 ปี จึงจะพอเชื่อถือได้ ไม่เหมือนปัจจุบันไปเรียนวิชาโหรแค่ 6 เดือนก็ออกมาตั้งตนเป็นอาจารย์แล้ว
ความหมายของฤกษ์ทั้ง ๙ (ให้ดูที่จันทร์เสวยฤกษ์เป็นหลัก อยู่บรรทัดสุดท้ายในแผ่นดวงพิชัยสงคราม)
1. ทลิทโทฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ชนมะ (นักษัตรที่ ๑,๑๐,๑๙)
ทลิท โทฤกษ์ แปลว่า ผู้ขอ มีดาวเกตุเป็นดาวเจ้าฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ เพราะเป็นฤกษ์อันดับแรกของจักราศี และเป็นฤกษ์ประเภทบูรณะฤกษ์ หรือฤกษ์เต็มครบทั้ง ๔ บาทฤกษ์ ถือว่าจะให้ความราบรื่น ปราศจากอุปสรรคขัดขวาง จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น การขอหมั้น ขอแต่งงาน ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ การทำการใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา มีความเมตตา เกิดเสน่ห์ มหานิยม คนนิยมชมชอบ เปิดร้านขายของ สมัครงาน ทำการใดๆ ที่ริเริ่มใหม่ คนที่ไม่รู้โหราศาสตร์มักไปแปลผิดๆว่าเป็นฤกษ์ยาจก ขอทาน คนเข็ญใจ ซึ่งไม่ถูกต้อง หากเป็นฤกษ์ขอทานแล้ว โบราณจะใช้ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์สูขอลูกสาวชาวบ้านได้อย่างไร ใครจะยกลูกสาวให้ยาจกคนเข็ญใจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ความจริงฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ที่ให้คนเมตตา รักใคร่ ขออะไรก็ได้ แม้แต่ลูกสาวของคนอื่นซึ่งถือว่ามีค่ามากที่สุดของครอบครัวนั้นๆ ฤกษ์ นี้มีดาว เกตุ (๙) เป็นดาวเจ้าฤกษ์ จะให้คุณแก่ดวงฤกษ์ตามลักษณะและความหมายด้านดีของดาวเกตุ (เกตุนี้เป็นเกตุ คำนวณแบบอินเดีย ไม่ใช่ดาวเกตุแบบไทย)
ส่วนคนที่มีดวงชาตาเสวยฤกษ์นี้ เป็นคนที่มีเสน่ห์มีคนรักใคร่นิยมชมชอบ เป็นคนที่ชอบริเริ่มอะไรใหม่ๆ ชอบงานท้าทาย เป็นคนมีความสามารถสูง อาชีพเด่นคือ ค้าขาย ครู รับราชการ นักวิจัย งานเกี่ยวกับฟ้า อิเลคทรอนิกส์ ฯลฯ มีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ชีวิตบั้นปลายจะมีความสุขมาก
2. มหัทธโนฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่าสมบัติ
มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ ทุกอย่าง เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจด้านบัญชี การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน เปิดร้านค้าต่าง ร้านแลกเงิน ร้านขายทอง ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคลที่ต้องการความร่ำรวยมีเงินทอง ทรัพย์สินมากมาย ฤกษ์นี้มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ก็จะเด่นในเรื่องความรัก เพศสัมพันธ์ กิจการสถานบันเทิง ดนตรี ศิลปะ เสื้อผ้า ของแต่งกาย การตกต่าง งานออกแบบ ร้านอาหาร ธุรกิจด้านความงาม ร้านเสริมสวย ก็จะเด่นมากขึ้นไปอีก
สำหรับคนที่เกิดเสวยฤกษ์นี้จะ มีรูปร่างหน้าตาดี มีวาทศิลป์ เด่นในเรื่องงานทางด้านศิลปะ การออกแบบ ตกแต่ง ตนตรี มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข ไม่ค่อยมีทุกข์ร้อน มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย
3. โจโรฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า วิบัติ
โจโรฤกษ์ แปลว่าผู้ช่วงชิง (ไม่ใช่แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย) ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีดาวอาทิตย์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์" คือ ฤกษ์ไม่เต็มบาท มักไม่ใช้เป็นฤกษ์มงคล แต่เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ข่มขวัญ บีบบังคับ ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจและผลประโยชน์ งานเสี่ยงๆ ในระยะสั้นๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบแบบใช้กำลัง ในบางกรณีหากต้องการ ช่วงชิงแข่งขัน ในการธุรกิจ การกีฬา การเอาชนะในทุกรูปแบบ ก็มักจะใช้ฤกษ์นี้ เป็นฤกษ์ประกอบการ แต่โหรมักไม่ให้ฤกษ์นี้แก่ใครง่ายๆ นอกจากจะเป็นเรื่องที่สำคัญต่อบ้านเมือง เช่นการให้ฤกษ์ทำการปฎิวัติ รัฐประหาร ก็มักใช้ฤกษ์นี้
สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนที่มีอำนาจในตัวเอง มีความสามารถในด้านการแข่งขัน การช่วงชิงเอาชนะ อาชีพเด่นคือ นักธุรกิจ นักกีฬา งานที่เกี่ยวกับอุตสาหรรมขนาดใหญ่ นักการทหาร นักปกครอง และคนที่รวยมากๆระดับประเทศก็มักเกิดฤกษ์นี้แต่ก็ต้องมีชีวิตในบางช่วงที่ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย คนเกิดในฤกษ์นี้มักเด่นในด้านชื่อเสียงและทรัพย์สิน
4. ภูมิปาโลฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า เกษม
ภู มิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน มีดาวจันทร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร งานเกี่ยวกับที่ดิน น้ำ หรือต้องการมวลชนมากๆ เมตตามหานิยม ธุรกิจการเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้าง ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทำได้หมด ฤกษ์นี้มีดาวจันทร์ครองเป็นเจ้าฤกษ์ ดังนั้น ธุรกิจที่ข้องกับดาวจันทร์ก็คือ ธุรกิจทางน้ำ สื่อสารมวลชน ความงาม โฆษณาประชาสัมพันธ์ ก็จะเด่นมากขึ้น
สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนที่มีอำนาจในตัวเอง มียศศักดิ์และฐานะดี มีธุรกิจเป็นของตนเอง จิตใจเมตตากรุณา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อาชีพเด่นในทางนักปกครอง นักการเมือง นักแสดง หรือ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็จะดี

5. เทศาตรีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรัตยุระ
เท ศาตรีฤกษ์ แปลว่า ข้ามท้องถิ่น หรือ สามแผ่นดิน ผู้ท่องเที่ยว (คนแปลผิดเป็น ฤกษ์หญิงแพศยา) บางคราเรียกว่า "เวสิโยฤกษ์" หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า มีดาวอังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศี พฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มกรกับกุมภ์ เป็น ภินทฤกษ์ ความหมายจริงของฤกษ์นี้ก็คือ “ฤกษ์สามถิ่น(ประเทศ)” เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการติดต่อการค้าระหว่างถิ่น งานด้านต่างประเทศ ต่างชาติ ภาษาต่างประเทศ กิจการทัวร์ ธุรกิจนำเข้า ส่งออก ธุรกิจเกี่ยวกับความสนุกสนานชักชวนคนเข้าออกมากหรือธุรกิจที่ไม่จำกัดชนชั้น วรรณะ ไม่จำกัดคนรวย คนจน ทุกคนสามารถมาใช้ได้เสมอกันหมด เช่น เปิดโรงมหรสพ ร้านอาหาร สถานเริงรมย์ โรงแรม โรงหนัง ตลาดและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพเดินทาง นวดแผนโบราณ กิจการแพทย์ โรงพยาบาล และอาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ ฤกษ์นี้มีดาว อังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์ กิจการที่เป็นด้านอุตสาหกรรม เครื่องยนต์กลไก การซ่อมแซม อุตสาหกรรมเหล็ก โลหะ เครื่องจักร การก่อสร้าง ยานยนต์ก็จะมีผลดีเป็นพิเศษ
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย เรียนรู้ได้หลายภาษา มีเสน่ห์แรง มักได้ทำงานเกี่ยวกับการเดินทาง หรือเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ มีทรัพย์สินที่ดินบ้านช่องมากมายหลายแห่ง แต่ชีวิตในบางช่วงก็ต้องตกระกำลำบากหรือต้องย้ายถิ่นฐานบ้านช่องอยู่เสมอๆ หากอยู่ต่างถิ่นก็จะเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยดีกว่าถิ่นกำเนิดของตัวเอง คนเกิดในฤกษ์นี้มักเด่นในด้านชื่อเสียง มีใจเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวใคร
6. เทวีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า สาธะกะ
เทวี ฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และ การสมความปรารถนา มีดาวราหูเป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานที่ต้องการความหรูหรา มีชื่อเสียง มีพลังฤกษ์ที่นุ่มนวลอ่อนช้อยดุจเทวี การเจรจาสู่ขอ งานแสดง งานนิทรรศการ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าสาวและเข้าห้องหอ การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า สารพัดงานมงคลทั้งปวงสามารถใช้ฤกษ์นี้ได้
ฤกษ์นี้มีดาว ราหูเป็นเจ้าฤกษ์ แสดงถึงความลุ่มหลง หลงใหล มีเสน่ห์ และให้คุณเป็นพิเศษแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกับ ต่างชาติ ต่างภาษา ร้านอาหาร บาร์ไนต์คลับ สุรายาเมา และบ่อนการพนัน
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนาดี ทำอะไรมักมีคนคอยช่วยเหลือ มีชีวิตที่สงบสุขและสุขสบาย ไม่เดือดร้อน แต่มักชอบลุ่มหลงอะไรง่ายๆ มีชื่อเสียงดี อาชีพเด่นก็คือ นักแสดง กิจการเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม อัญมณี เสื้อผ้า เครื่องประดับ ฯลฯ
7. เพชฌฆาตฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า นิธนะ
เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำการตัด การแบ่ง ไม่ใช่เพชฌฆาต ที่ไว้ฆ่าคน สมัยก่อนการลงโทษโดยการประหารชีวิตด้วยการตัดคอ มีผู้ทำการลงโทษก็เรียกว่า เพชฌฆาต ทำให้คนเข้าใจสับสน ซึ่งศัพท์คำนี้แปลว่า “ผู้ตัด” เฉยๆ ส่วน เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลความว่า “ฤกษ์แห่งการตัด” ไม่เกี่ยวกับการฆ่าแต่อย่างใด มีดาวพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ตัดขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า "ตรินิเอก" คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลโดยทั่วไป เป็น ฉินทฤกษ์ แต่เป็นฤกษ์ดีหมาะสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ การบวชเรียน การบำเพ็ญเพียรทางจิต การนั่งสมาธิภาวนา การศึกษาศาสตร์ลี้ลับ ศึกษาโหราศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ ฯลฯ หรือบาทีก็เป็นฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ประดิษฐานรูปเคารพเพื่อให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ ฤกษ์นี้มีดาวพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ก็จะให้คุณโดดเด่นทางด้านการศึกษา และการศาสนา การปฎิบัติทางจิตภาวนาเป็นพิเศษ
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนจิตใจดี มีศีลธรรม เคร่งในศาสนา เรียนรู้สิ่งต่างๆได้เร็ว เป็นคนเฉียบขาด ซื่อตรง ซื่อสัตย์ เกลียดชังการคดโกง มีความกตัญญูรู้คุณ ไม่หวั่นไหวเกรงกลัวต่อสิ่งใด มีคนเคารพนับถือมาก มีการศึกษาในระดับสูงๆ อาชีพเด่น ก็คือ ครูอาจารย์ อนุศาสนาจารย์ ผู้คงแก่เรียน แพทย์ หมอ พยาบาล เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญในเครื่องจักรยนต์ กลไกต่างๆ
8. ราชาฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า มิตระ
ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่หกว่าฤกษ์ทั้งปวง ที่เหมาะสำหรับ งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ แสวงหาอำนาจ บารมี การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน เปิดร้าน และกิจการงานมงคลทั้งปวง มีบอกว่าฤกษ์นี้สามัญชนใช้ไม่ได้ อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริง และไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ คำว่าราชาฤกษ์ แปลว่า ฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าฤกษ์ทั้งหลาย เป็นราชาแห่งฤกษ์ไม่ใช่ฤกษ์ใช้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน ใครๆก็ใช้ได้ไม่จำกัดชนชั้นวรรณะใดใด ฤกษ์ นี้มีดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ แสดงว่าเป็นฤกษ์ที่จะให้ความมั่นคงยืนนานมากที่สุด และหากเป็นกิจการที่ข้องกับงานอุตสาหรรมขนาดใหญ่ โรงงานผลิต การก่อสร้าง งานเชิงสาธารณะ งานราชการ รัฐวิสาหกิจ ก็จะให้ผลดีมากเป็นพิเศษ
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนา บารมีสูง ปรารถนาสิ่งใดก็มักได้มาอย่างง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมากมาย เป็นเจ้าของกิจการที่ใหญ่โต มีบริวารดี ลูกน้องเชื่อฟัง มีคนคอยช่วยเหลือมิได้ขาด
9. สมโณฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรมมิตระ
สม โณฤกษ์ แปลว่า ความสุข ความสงบ นักบวช นักสอนศาสนา มีดาวพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ ทำพิธีกรรมทางศาสนา และ ทางนักบวช เช่น การทำขวัญนาค การอุปสมบท หล่อพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ารับการศึกษา และ การกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ ตั้งศาล ผูกข้อมือ สู่ขวัญ โกนผมไฟ ฤกษ์นี้มีดาวพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ กิจการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การสื่อสาร ขนส่งมวลชน กิจการที่เกี่ยวกับงานด้านเอกสาร สัมมนา งานวิจัย จะให้ผลดีเป็นพิเศษ
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจ มีวาทะปฏิภาณดี เฉลียวฉลาด เรียนรู้เร็ว มีการศึกษาสูง มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ ชอบศึกษาปรัชญา ศาสนา สิ่งลี้ลับ ชอบทำบุญกุศล มีจิตวิทยาสูงมากในการจูงใจคน
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์คลอดบุตร (่ผ่าคลอด)
- จำนวนผู้อ่าน: 867671

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับ 16 ปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**

ดูฤกษ์มงคล ฤกษ์คลอดบุตร ฤกษ์ผ่าคลอด อภิชาตบุตร ตามหลักโหราศาสตร์ชั้นสูงจากคัมภีร์พระเวท ปี 2568 *****ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ฤกษ์ผ่าคลอด ทุกๆ 12 นาทีชีวิตเปลี่ยน
ดูฤกษ์เป็นนาที เพราะดวงจะเปลี่ยนทุกๆ 1 ลูกนวางศ์ ประมาณ 12-14 นาที วางฤกษ์ผิดชีวิตเปลี่ยน
ค่าบูชาครู 2999 บาทโดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
ตัวอย่างใบฤกษ์ และการพยากรณ์ดวงชะตาของเด็กในอนาคต

กุณฑลิวินิจฉัย (วิเคราะห์ดวงกำเนิด-ฤกษ์ผ่าคลอด)
ชื่อ....................................... สกุล.......................................... เพศ...... หญิง....... ประสูติกาล ณ โรงพยาบาล .....................จังหวัด ..................................................
ชื่อบิดา...................................................ชื่อมารดา................................................
ศุภดิถีมงคลวาร สุริยคติกาล วันจันทร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๒:๕๕ น จันทรคติกาล วัน ๒ ๕ฯ ๑๒ ปีมะเมียฉศก จุลศักราช ๑๓๗๖ มหาศักราช ๑๙๓๖ ลัคนาสถิตย์ราศีมังกร ๑๓.๓๙ องศา เกาะปัญจมนวางศ์ ๖ ทุติยตรียางค์ ๖ เกี่ยวกับฤกษ์ที่ ๒๒ ศราวณะนักษัตรประกอบด้วยภูมิปาโลแห่งฤกษ์ ดาวจันทร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ จันทร์สถิตย์ ราศีพิจิก เสวยฤกษ์ที่ ๑๘ เชษฐะนักษัตร วิมโษตรีทศา - สมดุลย์จันทรทศา มหาทศาจันทร์ ๐ ปี ๕ เดือน ๒๕ วัน ศักราช-ปีชัยยะศก อายัน-ทักษิณายัน ฤดู-เหมันตฤดู มาส-กฤติกามาส วาร-วันจันทร์ ดิถี-ศุกลจตุรถี นักษัตรโยค-โสภณโยค กรณะ-วานิชกรณะ มุหูรตะโยค-รวิโยค,โสภณโยค อาทิตย์ขึ้นเวลา ๐๖.๑๔ น. ตกเวลา ๑๗.๔๙ น. (ปฐมฤกษ์เริ่มเวลา ๑๒.๕๕-๑๓.๐๘ น. เป็นปัจฉิมฤกษ์)
ดวงชาตานี้ได้เกณฑ์มหามงคล ดังนี้
1. ลัคนา เจ้าเรือนลัคนา ดาวเคราะห์ทั้ง ๙ เจ้าเรือนทั้ง๑๒ ศุภนวางศ์ ศุภตรียางค์ เป็นศุภผล 9/10 อ่านรายละเอียดได้ที่ โหราวิทยา เล่ม 1 ผูกดวงชาตา และ โหราวิทยา เล่ม 7 พิจารณาดวงชะตาเบื้องต้น
2. วาร ดิถี นักษัตรโยค กรณะ มุหูรตะโยค เป็นศุภผล 10/10 รายละเอียด วิธีการให้ฤกษ์ยามชั้นสูง (มุหูรตะ) และ มุหูรตะ โยค
3. กำลังในษัฑพละ ปัญจกสุทธิ ทั้งหมดเป็นศุภผล 10/10 รายละเอียด ษัฑพละ : กำลังของดวงดาว
4. ไม่มีโทษต่างๆในดวงชาตา 4.1มังคลิโทษ 4.2 กรรตตรีโทษ 4.3 ษัษฏ อัษฏ ริผฆฏะ จันทรโทษ 4.4 อุทัยอัสตะสุทธิ 4.5 ทุรมุหูรตะ 4.6 คณะทาณะดารา 4.7 บาปษัทวรรค 4.8 ภฤคุษัทกะ 4.9 กุชอัษฏมะ 4.10 ราศีวิษฆติกา 4.11 กุณนวางศ์โทษ 4.12 วาระโทษ 4.13 คระหโนตปาตะโทษ ล้างโทษทั้งหมดเป็นศุภผล 9/10 รายละเอียดกรุณาอ่าน วิธีการให้ฤกษ์ยามชั้นสูง (มุหูรตะ)
5. ไม่มีโทษร้ายประจำวัน (ปัญจางคะ) 5.1ทุรมุหูรตะ 5.2 วารชยะ 5.3 ราหูกาล 5.4 คุลิกากาล ไม่มีโทษ เป็นศุภผล 10/10 รายละเอียดกรุณาอ่าน วิธีการให้ฤกษ์ยามชั้นสูง (มุหูรตะ)
6. ไม่มีโยคร้าย พละริษฏโยค (อายุสั้นไม่เกิน ๘ ขวบ) ไม่มีโทษ เป็นศุภผล 10/10
7. ไม่มี ตรียางค์ นวางศ์ให้โทษ ล้างโทษ เป็นศุภผล 10/10 (รายละเอียดกรุณาอ่านเรื่อง ความแตกต่างของ ตรียางค์นวางศ์พิษ ของไทยกับภารตะ )
8. โยคมงคลในดวงชาตาของเด็กคนนี้..มีดังนี้
1-กาหาละโชค काहल योग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีอำนาจ
2-ทามะ-ทามินีโยค दाम दामिनी योग-เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะร่ำรวย มีชื่อเสียง มีบุตรหลายคน
3-โยคัณฑะโยค योगदा योग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะร่ำรวย มีทรัพย์สินมากมาย
4-ราชา สัมพันธนะโยค राजसम्बन्ध योग –เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะมีความสุขดุจราชา และเกี่ยวข้องกับคนชั้นสูง จะเป็นบุคคลสำคัญในสังคมที่ตนเองอยู่
5-วิปริวรรตะ ราชาโยค विपरीत राजयोग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะมีผู้ช่วยเหลือให้พบกับความสำเร็จ มีความสุขดุจราชาและได้ชัยชนะ
6-ราชา/ลักษมีโยค राजयोग-लक्ष्मी योग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นมีโชคดีเสมอและประสบความเร็จอย่างสูง
7-ราชา/ธรรมะ-กรรมะธิปติ धर्म कर्माधिपति योग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงและประสบความสำเร็จ
8-มาลยโยค मालव्य योग –เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะมีรูปร่างเจ้าชะตาสมส่วน จิตใจเข้มแข็ง มีทรัพย์สิน มีความสุขด้วยบุตรภรรยา มียานพาหนะ มีชื่อเสียง และมีความรู้
9-อุภยจารีโยค उभयचरी योग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะมีความสุข ความสบายดุจราชา มีคนเกื้อหนุน
10-จามรโยค चामर योग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะเป็นคนมีวาทะศิลป์ในการพูด อายุยืน มีวิชาความรู้ และเก่งในศิลปะ มีอายุยืน มีการศึกษาสูง
11-ปริชาติโยค पारिजात योग -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะเข้มแข็ง และมีชื่อเสียง มีความสุขดุจราชา,มีหลักการ มีความรู้
12-โยคการกะ योग कारक -เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ จะประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน ,และมีตำแหน่งสูง มีเกียรติยศมีความสำเร็จและชื่อเสียง
13-เภรีโยค भेरी योग-เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะเป็นคนมีชื่อเสียงมาก ร่ำรวย มีทรัพย์สินมาก มีคู่ครองที่ดี มีบุตรหลานดี
14-พรหมโยค ब्रह्म योग เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะได้อาหารรสดี เป็นที่นับถือของพราหมณ์และผู้มีความรู้สูง มีความรู้สูงมาก อายุยืน ใจบุญ และทำแต่ความดีเสมอ
15-คชเกศริโยค गजकेसरी योग เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ อายุยืน ชื่อเสียงดี มีอิทธิพลมาก ความสำเร็จผลทั่วไป เป็นผู้นำที่ดีในการเมือง การสังคม และองค์การสาธารณกุศลต่าง ๆ มีเสน่ห์และมีชัยชนะต่อศัตรู
16-อานัพผโยค अनफा योग เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ มีความสุขสำราญ พอใจและยินดีในทุก ๆ มีบุคลิกดี หน้าตาดี
รายละเอียดกรุณาอ่าน คัมภีร์ไตรศตโชคมัญชริ
การ คำนวนฤกษ์จะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของทารกนั้นๆ ว่าจะต้องให้ถือกำเนิดมาในฤกษ์อะไร และในช่วงเวลาที่กำหนดให้มานั้นหาฤกษ์ดีได้ยากหรือไม่
หากต้องขอฤกษ์ผ่าคลอดนี้ อาจารย์อาจจะต้องใช้เวลา 3-5 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หรืออาจใช้เวลามากกว่านี้ ในกรณีที่ช่วงเวลาที่ครบกำหนดตามอายุคครรภ์นั้นหาฤกษ์ได้ยาก ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาคู่สมรส (พ่อแม่ของเด็ก) วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด และบอกอาชีพมาด้วย พร้อมชื่อ-สกุลโดยละเอียด
2. เวลาที่ต้องการที่สูติแพทย์กำหนด ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และคลอด โรงพยาบาลอะไร ที่จังหวัดไหน และช่วยระบุช่วงเวลาให้ละเอียดหน่อยนะครับ และต้องสอบถามกับทางแพทย์และทางโรงพยาบาลว่า สามารถทำการผ่าตัดได้ช่วงไหนบ้าง เช่น เช้า สาย บ่าย เย็น หรือกลางคืน (ระบุ เช่น 08.00-20.00 น.) โดยปกติแล้วการผ่าคลอดมักจะไม่ทำตอนดึกๆมากนัก เช่น ตี 1-5 เพราะอาจจะเป็นอันตราย
3. เพศของลูก หากทราบก่อนแล้ว ชายหรือหญิง หากตั้งชื่อแล้วก็ระบุมาด้วย
4. เป็นลูกลำดับที่เท่าไหร่ (ท้องที่เท่าไหร่) หรือเป็นท้องแรก
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์ผ่าคลอด โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์ผ่าคลอด 2,999 บาท / ต่อ 1 ฤกษ์ ใช้เวลาคำนวณประมาณ 1-2 วัน หากต้องการขอฤกษ์ใหม่ต้องทำบุญค่ายกครูใหม่ครับ
(หมายเหตุ ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ชั้นสูงของโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) มีค่าควรเมือง ค่าครูปกติอยู่ที่ 10,000 บาท/ฤกษ์ แต่เนื่องด้วยอาจารย์ต้องการเผยแพร่ศาสตร์ชั้นสูงของภารตะให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้ จึงกำหนดค่าครูไว้เพียง 2,999 บาท/ฤกษ์เท่านั้น รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู้เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร)

ฤกษ์มงคลที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์มงคล เวลามงคลสำหรับการผ่าคลอด
2.ดวงชาตาของเด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ (กุณฑลิวินิจฉัย) หรือ การพยากรณ์ดวงชาตากำเนิด คือ การอธิบายดวงฤกษ์ผ่าคลอดตามหลักโหร เช่น บอกว่าฤกษ์ผ่าคลอดดีอย่างไร มีโยคเกณฑ์มงคลส่งเสริมดวงชาตาของเด็กในด้านไหนบ้าง ในอนาคตเด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร ทั้งความสำเร็จด้านการงาน-อาชีพ ยศตำแหน่ง มีคนอุปถัมภ์ การเงิน-ความร่ำรวยมั่งคั่ง สุขภาพ-อายุยืน คู่ครอง ชื่อเสียง บุตรหลาน ฯลฯ
3.วิธีการใช้ฤกษ์ผ่าคลอด ตามหลักโหราศาสตร์
4.การปฏิบัติตัว ในระหว่างตั้งครรภ์และหลังจากคลอดแล้ว เพื่อให้ได้ลูกดี และประสบความสำเร็จ
การบันทึกเวลาตกฟากของฤกษ์ผ่าคลอด
การบันทึกเวลาตกฟาก
ส่วนการกำหนดว่า จุดไหนคือจุดที่นับว่าเป็นฤกษ์กำเนิด หรือ เวลาตกฟาก(ลัคนา) ซึ่งมี หลายฝ่ายที่มีความคิดแตกต่างกันในเรื่องของเวลาคลอดว่าจะเอาเวลาไหนเป็นเวลา ตกฟาก(เวลาคลอด)กันแน่ซึ่งเวลาตกฟากนี้แหละเป็นจุดเริ่มต้นของลัคนาในดวง ชาตา โดยมีหลายคติ ดังนี้
1.อาธานะ ลัคนา หมายเอาเวลาร่วมสังวาสกัน (กำหนดฤกษ์ปฏิสนธิ) แล้วเอาเวลานั้นมาคำนวณแล้วหาวัน-เวลากำหนดคลอด ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีหาฤกษ์คลอดแบบโบราณและสามารถคำนวนวันเวลาคลอดได้อย่าง แม่นยำ ปัจจุบันแทบไม่มีแล้ว
2.ศิโรทัศนา ลัคนา หมายเอาเวลาที่ศีรษะเด็กโผล่ออกมาจากช่องคลอด
3.ภูปาตนะ ลัคนา(ฤกษ์ผ่าคลอด) หมายเอาเวลาที่ตัวเด็กพ้นออกมาจากครรภ์มารดาอย่างสมบูรณ์ทั้งตัว (ไม่เกี่ยวกับสายรก) ซึ่งทางอาศรมฯของเรา ถือมตินี้เป็นหลักในการบันทึกเวลาคลอด โดยอ้างอิงจากวาทะ ของสัตยาจารย์ โหราจารย์ของฮินดูเมื่อหลายพันปีก่อนแนะนำให้ถือเอามตินี้เป็นหลักในการ บันทึกเวลาตกฟากเพื่อวางลัคนา
ซึ่ง ทางกฎหมายปัจจุบันให้คำจำกัดความในเรื่องคำว่า “คลอด”เพื่อระบุสภาพบุคคลทางกฎหมาย “คลอด” หมายความว่า คลอดออกมาจากครรภ์มารดา ล่วงพ้นจากครรภ์มารดาออกมาอย่างสมบูรณ์แล้วทั้งตัว ไม่มีอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดของทารกติดค้างอยู่ จะตัดสายสะดือทารกแล้วหรือยัง ไม่เป็นข้อสำคัญ กฎหมายถือว่า คลอดโดยสมบูรณ์แล้ว
4.การร้องไห้ของทารก ในบางมติถือว่า เมื่อคลอดแล้วทารกต้องร้อง และเอาเวลาร้องไห้ของทารกนั้น นับเป็นเวลาตกฟาก ส่วนในทางกฎหมายนับการหายใจของทารก นับเป็นสภาพบุคคลตามกฎหมาย (คลอด-อยู่รอดเป็นทารก)สรุป..ในหลักโหราศาสตร์ฮินดูภารตะ การนับเวลาตกฟากให้ใช้ข้อ 3 เป็นหลักในการบันทึกเวลาตกฟากซึ่งตรงกับหลักกฏหมายในปัจจุบันว่าด้วยสภาพบุคคลและตรงตามหลักของโหรโบราณ
วิธีการใช้ฤกษ์ผ่าคลอด
วิธีใช้ฤกษ์จะมีคำอธิบายเป็นขั้นตอนอย่างละเอียดอยู่ในอีเมล์ ซึ่งจะส่งให้พร้อมกับใบฤกษ์ที่ระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของฤกษ์
ฤกษ์กำเนิด หรือที่เราเรียกว่าดวงชาตากำเนิด การที่จะให้ได้ผลดี บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์คงเป็นไปไม่ได้ เพราะดวงกำเนิดก็คือแผนที่กรรมของคนเราที่ทำมาแล้วในอดีตชาติ การหาฤกษ์มงคลเพื่อเป็นฤกษ์กำเนิดนั้นหากได้ดีเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว แต่หากได้มากกว่านั้นก็เป็นบุญวาสนาของเจ้าชาตา เพราะการเลือกวันดีจากวันกำหนดคลอดเพียง 5-7 วันคงหาวันดีสมบูรณ์ได้ยาก แต่อย่างไรก็ตาม วิชาโหราภารตะนั้นมีเครื่องมือวินิจฉัยดวงชาตาอยู่มากมายกว่าโหรระบบอื่นๆ นับร้อยเท่าตัว ซึ่งสามาถเลือกเฟ้นฤกษ์ที่ดีปลอดผลร้ายได้เป็นอย่างดีในช่วงเวลาที่กำหนด แต่หากจะได้ฤกษ์ดีแบบเต็มร้อย ก็คงต้องใช้วิธีเลือกเฟ้นฤกษ์ยามตั้งแต่ปฏิสนธิ หรือฤกษ์ร่วมสังวาส (ร่วมกามพฤติ) กรุณาอ่านประวัติ
* พระบูรพมหาพฤฒาจารย์-ฤษีวยาสะ (กฤษณะ ไทวปายนะ วยาส)
**ดวงชาตาของผู้มีบุญมาเกิด “ดวงกำเนิดพระราม” ดวงชาตาที่หาได้ยากในรอบหมื่นปี
อย่างไรก็ตามคนเราเกิดมาทุกผู้ทุกคน ล้วนแต่ต้องมีสุขและทุกข์ปะปนกันในแต่ละช่วงอายุ ไม่เว้นยากดีมีจน มากบ้างน้อยบ้างตามวิบากกรรมที่สั่งสมกันมา ในทางโหราศาสตร์ท่านว่า ในบรรดาดาวทั้งหมด 9 ดวงที่กำหนดดวงชาตาของทุกๆคน มีดาวดี(ศุภเคราะห์)เพียง 2 (พฤหัสและศุกร์) ดาวร้าย 4 ดวง หรือดาวปาปเคราะห์ (อาทิตย์ อังคาร เสาร์ ราหู เกต) และดาวเป็นกลาง 2 ดวง ที่จะส่งผลดีร้ายในแต่ละชาตาไม่ท่ากัน ( จันทร์ พุธ) หมายความว่าชีวิตคนเราจะต้องประสบทุกข์ 4 ส่วน ประสบสุขได้เพียง 2 ส่วน อีกสองส่วนจะร้ายหรือดีเพิ่มเข้าไปอีก ก็แล้วแต่วิบากกรรมของคนๆนั้น
1.วัน-เวลาของฤกษ์ผ่าคลอด
วันเวลาจากดวงฤกษ์ผ่าคลอดที่ให้เป็นการคำนวณวันเดือนปีที่จะผ่าคลอด และบอกเวลาเริ่มต้นของฤกษ์ผ่าคลอด(ปฐมฤกษ์เริ่มเวลา) และจนสิ้นสุดฤกษ์ผ่าคลอด (ปัจฉิมฤกษ์) เช่น สมมุติว่าฤกษ์ที่กำหนดเป็นเวลา 09.11 น. -09.29 น. หมายความการคลอดเอาทารกออกมาจะต้องอยู่ภายในเวลา 09.11 น.จนถึง 09.29 น. (ผมจะให้เวลาเริ่มต้นและเวลาสุดฤกษ์เอาไว้ให้) โดยท่านจะต้องแจ้งเวลานี้ให้แก่แพทย์ที่ทำการผ่าตัด และวิสัญญีแพทย์ และพยาบาลได้ทราบก่อนล่วงหน้า เพื่อจะได้เตรียมการให้ตรงกันกับฤกษ์ผ่าคลอดที่ให้ไว้
2.การเทียบเวลา
การใช้เวลาตามฤกษ์ผ่าคลอดควรจะต้องคำนวนเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่นที่เป็นมาตรฐานสำหรับสถานที่นั้นๆ เพราะแต่ละจังหวัดมีเวลาท้องถิ่นแตกต่างกันไป บางจังหวัดต่างกันถึง 18 นาที โดยเทียบจากเวลามาตรฐานของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ โดยโทรไปที่หมายเลข 1811 ซึ่งจะบอกเวลามาตรฐานประเทศไทย ซึ่งผมใช้เวลามาตรฐานประเทศไทยนี้คำนวนฤกษ์ ฉะนั้นจะต้องตรงกันทั้งสองฝ่าย
3.การบันทึกเวลาตกฟาก
มีหลายฝ่ายที่มีความคิดแตกต่างกันในเรื่องของเวลาคลอดว่าจะเอาเวลาไหนเป็นเวลาตกฟาก(เวลาคลอด)กันแน่ซึ่งเวลาตกฟากนี้แหละเป็นจุดเริ่มต้นของลัคนาในดวงชาตา โดยมีหลายคติ ดังนี้
1.อาธานะ ลัคนา หมายเอาเวลาร่วมสังวาสกัน (กำหนดฤกษ์ปฏิสนธิ) แล้วเอาเวลานั้นมาคำนวณแล้วหาวัน-เวลากำหนดคลอด ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีหาฤกษ์คลอดแบบโบราณและสามารถคำนวนวันเวลาคลอดได้อย่างแม่นยำ ปัจจุบันแทบไม่มีแล้ว
2.ศิโรทัศนา ลัคนา หมายเอาเวลาที่ศีรษะเด็กโผล่ออกมาจากช่องคลอด
3.ภูปาตนะ ลัคนา หมายเอาเวลาที่ตัวเด็กพ้นออกมาจากครรภ์มารดาอย่างสมบูรณ์ทั้งตัว (ไม่เกี่ยวกับสายรก) ซึ่งทางอาศรมถือมตินี้เป็นหลักในการบันทึกเวลาคลอด โดยอ้างอิงจากวาทะ ของสัตยาจารย์ โหราจารย์ของฮินดูเมื่อหลายพันปีก่อนแนะนำให้ถือเอามตินี้เป็นหลักในการบันทึกเวลาตกฟากเพื่อวางลัคนา
ซึ่งทางกฎหมายปัจจุบันให้คำจำกัดความในเรื่องคำว่า “คลอด”เพื่อระบุสภาพบุคคลทางกฎหมาย “คลอด” หมายความว่า คลอดออกมาจากครรภ์มารดา ล่วงพ้นจากครรภ์มารดาออกมาอย่างสมบูรณ์แล้วทั้งตัว ไม่มีอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดของทารกติดค้างอยู่ จะตัดสายสะดือทารกแล้วหรือยัง ไม่เป็นข้อสำคัญ กฎหมายถือว่า คลอดโดยสมบูรณ์แล้ว
4.ในบางมติถือว่า เมื่อคลอดแล้วทารกต้องร้อง และเอาเวลาร้องไห้ของทารกนั้น นับเป็นเวลาตกฟาก ส่วนในทางกฎหมายนับการหายใจของทารก นับเป็นสภาพบุคคลตามกฎหมาย (คลอด-อยู่รอดเป็นทารก)
สรุปว่าในการนับเวลาตกฟากของฤกษ์ผ่าคลอดให้ใช้ข้อ 3 เป็นหลักในการบันทึกเวลาตกฟาก
4.การปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์
สำหรับหญิงหากตั้งครรภ์เกิน ๖ เดือน หรือมีครรภ์แก่จวนจะคลอด โบราณท่านมีข้อห้ามดังนี้ คือ 1. ห้ามย้ายบ้าน 2.ห้ามเดินทางไกล 3.ห้ามย้ายเตียง 4. ห้ามทุบรื้อซ่อมแซมบ้าน 5.ห้ามไปสุสาน ไปงานศพ หรืองานแต่งงาน 6.ห้ามไปเยี่ยมคนป่วย 7.ห้ามไปโรงศาล โรงพัก 8.ห้ามไปยังที่ๆมีอันตราย-เสี่ยงภัย 9.ห้ามเย็บปักถักร้อย 10.ห้ามเตรียมเสื้อผ้าของใช้สำหรับทารกก่อนล่วงหน้า 11.ห้ามผิดศีล ๕ (ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม โกหก ดื่มสุรา) 12.ห้ามเล่นการพนันขันต่อ 13.ให้ถือหลักปฏิบัตินี้ต่อไปหลังจากคลอดแล้วอย่างน้อย 1 เดือน
ส่วนข้อปฏิบัติเพื่อให้ทารกเกิดมาเป็นคนมีบุญวาสนาดี มีสติปัญญาดี ให้ปฏิบัติดังนี้ 1.สวดมนต์-จะได้ลูกความจำดี 2.ถือศีล ๕ หรือศีล ๘ ในวันพระ-จะได้ลูกจะมีผิวพรรณงดงาม และมีชื่อเสียงดี 3.ทำการบริจาคทาน – จะได้ลูกจะเป็นเศรษฐี มั่งมีเงินทอง 4.นั่งสมาธิภาวนา-จะได้ลูกจะมีสติปัญญาดี 5.มีสัจจะ ไม่โกหก –จะได้ลูกจะมีคนเคารพยำเกรง มีอำนาจวาสนา 6.ไม่โมโหร้าย ไม่ฆ่าสัตว์ไม่เบียดเบียนสัตว์ –จะได้ลูกมีสุขภาพดี อายุยืนปราศจากโรค 7.ไม่ด่าคน ไม่ใช้วาจาประทุษร้ายใคร -จะได้ลูกมีเสห่ห์ มีคนรักคนชอบ 8.ไม่ดูหมิ่นดูแคลนผู้อื่น-จะได้ลูกมียศศักดิ์
5.การปฏิบัติตัวก่อนผ่าคลอด
ในการเตรียมตัวก่อนคลอดนั้น การใช้ฤกษ์เพื่อให้เกิดผลดีและเกิดศุภผลตามที่ท่านต้องการ อย่างน้อยที่สุดท่านจะต้องสมาทานศีล 5 รักษากายวาจาใจให้บริสุทธิ์ และในขณะที่กระทำการตามฤกษ์นั้น จิตใจจะต้องแน่วแน่มั่นคงไม่หวั่นไหว ห้ามมีอารมณ์โกรธเคือง โมโห หรือมีเจตนาจะไปประทุษร้ายต่อใคร จิตใจต้องไม่วอกแวก สับสน วิตกกังวล ฯลฯ เมื่อทำได้ครบตามที่กล่าวแล้วดวงฤกษ์ก็จะมีอิทธิพลังเป็นศุภผลส่งผลเกิดผลดีให้แก่ดวงชาตาของเด็กทารกที่จะเกิดและเกิดความเจริญรุ่งเรืองสืบไป
6.การปฏิบัติตัวหลังผ่าคลอด
สำหรับเมื่อคลอดบุตรออกมาแล้ว ช่วงระยะเวลา 1เดือนแรก เป็นช่วงที่อันตรายสำหรับทารกและคุณแม่ โบราณถือว่าเป็นช่วงดวงยังอ่อนทั้งลูกและแม่ และช่วงนี้ห้ามออกไปนอกบ้าน ไปจ่ายตลาด ซื้อของ หรือไปทำกิจกรรมอื่นๆ ฯลฯ ให้ปฏิบัติตัวตามข้อ 4 ต่อไปอีก 1เดือน และเพิ่มการห้ามออกนอกเคหะสถานอีกหนึ่งข้อ
และนอกจากนี้คุณแม่จะต้องรีบทำบุญทำกุศล ทำการบริจาคทาน (อาจจะฝากคนอื่นไปทำให้)ภายใน 7 วันหลังคลอดเพื่อเป็นการฉลองต้อนรับเทวดาองค์ใหม่ที่มาจุติในบ้าน และหลังจากเด็กอายุครบ 1 เดือน หรือ ภายใน 6เดือน ท่านอาจจะต้องหาฤกษ์ยามสำหรับการโกนผมไฟให้กับลูกน้อย ตามประเพณี เพื่อสวัสดิมงคลแก่ตัวเด็กและครอบครัว โดยการขอฤกษ์โกนผมไฟให้คลิ๊กที่นี่ ดูฤกษ์โกนผมไฟ
6. ข้อควรระวังในการใช้ฤกษ์ผ่าคลอด
อย่างไรก็ตามการใช้ฤกษ์ชั้นสูงนี้มักจะมีเหตุที่ทำให้เจ้าการมักจะใช้ไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดอยู่บ่อยครั้งอันเนื่องมาจาก ดวงฤกษ์ที่สูงเกินวาสนาของเจ้าการ(เจ้าของดวง) หรือเจ้าของดวงมีเหตุที่ถูกอุปสรรคขัดขวางจากเจ้ากรรมนายเวร หรือวิบากกรรมอื่นๆ ที่จะไม่ไห้ได้ผลสำเร็จตามฤกษ์นั้นๆ ดังนั้นต้องหมั่นบำเพ็ญบุญ สวดมนต์ไหว้พระ เจริญเมตตาจิต เพื่อให้สามารถใช้ฤกษ์ได้ดังใจปรารถนา
![]()

ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
การหาฤกษ์คลอดบุตร (ฤกษ์ผ่าคลอด) โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
ในสมัยปัจจุบันนี้ นิยมทำการผ่าท้องทำคลอดทารก หรือวิธี ซี-เซกชัน (C-section) มากจนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ในอดีตการผ่าท้องมักจะทำเมื่อการคลอดทางช่องคลอดอาจเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพหรือชีวิตของมารดาหรือเด็กเท่านั้น แต่สมัยนี้ที่คนนิยมทำการผ่าคลอดก็คือความสะดวกของแพทย์และมารดาและเจ็บปวดน้อยกว่าคลอดเอง และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญในการตัดสินใจผ่าท้องก็คือ ต้องการให้ลูกคลอดตามเวลาของ “ฤกษ์ดี” ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันอยู่หลายๆประเด็นคือ การให้ฤกษ์คลอดนั้นเป็นการกำหนดดวงชาตาของทารกในครรภ์หรือไม่ และฤกษ์ที่ได้มานั้นเป็นฤกษ์ดีจริงหรือไม่ ใครเป็นคนรับรอง ครูอาจารย์ที่ให้ฤกษ์นั้นมาจากตำราไหน วิชาไหน สายไหน ที่รับรองแล้วว่าได้ผลดีที่สุด สามารถส่งผลให้ทารกที่ถือกำเนิดมาตามฤกษ์ผ่าคลอดนั้น ได้ผลตามที่กล่าวอ้างจริงๆ
และเป็นที่รู้กันอยู่ว่า ดวงชาตากำเนิดก็คือแผนที่บ่งบอกแสดงกรรมของบุคคล และทารกถือกำเนิดในครรภ์มารดาก็ด้วยมีพันธะกรรมต่อกันไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง อีกทั้งทารกนั้นก็ย่อมมีกรรมเป็นของๆตน จะชั่วดีก็ขึ้นอยู่กับกรรมที่ทารกนั้นได้เคยกระทำเอาไว้แล้วในอดีต การคลอดของทารกในเวลาใดๆก็ตามก็เป็นการแสดงถึงดวงชาตากำเนิดซึ่งบ่งชี้กรรมของทารกนั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการผ่าคลอด หรือคลอดเอง ไม่ว่าจะดูฤกษ์ผ่าคลอดหรือไม่ เวลาที่คลอดนั้นเอง ก็คือ ดวงชาตากำเนิด ที่จะกำหนดชาตาชีวิตของทารกนั้นไปตลอดชีวิต


หลักการคำนวนหาฤกษ์ผ่าคลอดตามหลักโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) ของอาศรมศรีจักรนารท
ในการหาฤกษ์ผ่าคลอด หรือฤกษ์กำเนิดของเด็กทารกมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะดวงกำเนิดจะส่งผลให้กับเด็กทารกนั้นไปตลอดชีวิต ทั้งสติปัญญา ความเฉียวฉลาด คุณงามความดี ความเจริญรุ่งเรือง-ความตกต่ำ ทั้งด้านการงาน อาชีพ ความร่ำรวย-ความยากจน ความสุข-ความทุกข์ในชีวิตสมรส และสุขภาพดี-ร้ายต่างๆ ฯลฯ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงดาวในดวงชาตากำเนิดทั้งสิ้น ดังนั้นในการหาฤกษ์กำเนิดนั้นจำเป็นตั้งใช้ศาสตร์ที่มีความละเอียดแม่นยำสูง มีคัมภีร์โบราณรองรับทฤษฎีว่าด้วยฤกษ์กำเนิดโดยเฉพาะ อีกทั้งต้องเป็นทฤษฎีที่ได้ผ่านการรับรอง การสอบทานทางทฤษฎีมาอย่างยาวนานนับพันปี จึงจะใช้ได้ผล โดยหลักการพิจารณาหาฤกษ์กำเนิดมีลำดับการพิจารณาดังนี้
1.ฤกษ์ผ่าคลอด-เด็กทารกต้องไม่มีดวงอายุสั้น ไม่เกิน 8 ขวบ -หลักวิชานี้เรียกว่า"อายุรทัย" คือดวงชาตาที่อายุสั้นมากระหว่าง 1-8 ขวบ เรียกว่า"พลริษฏโยค" ดังนั้นดวงชาตาใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นดวงชาตาที่ดีเด่นสักเพียงใด มีดาวอุจน์ ดาวเกษตร ดาวที่ให้โยคเกณฑ์ดีสักเพียงใดก็ตาม หากในดวงชาตามีโยคร้ายนี้ ก็เท่ากับว่าผลดีทั้งหมดเป็นอันสูญไป อันนี้เป็นความสำคัญอันดับที่ 1 ในการหาฤกษ์
2.ฤกษ์ผ่าคลอด-เด็กทารกต้องไม่ดวงอายุสั้น ไม่เกิน 40 ปี หลักวิชานี้เรียกว่า "อัลปอายุรโยค" เรียกว่าโยคอายุสั้น ซึ่งมีตั้งแต่ อายุ 9-40 ปีดั้งนั้นหากดวงจะดีเด่นสักพียงไร ตัวอย่างเช่น เด็กคนหนึ่งสอบมหาลัยได้ที่ 1 แต่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 20 ปี หรือคนหนุ่มอายุระหว่าง 30-40 เป็นช่วงสร้างครอบครับ หากเสียชีวิตลงในช่วงนี้ก็เท่ากับครอบครัวขาดที่พึ่ง หรือบางคนอายุยังน้อย กำลังทำมาหากินรุ่งเรือง มีเงินทองทรัพย์สิน มีชื่อเสียงเกียรติยศ แต่ก็กลับมาต้องเสียชีวิต ในวัยหนุ่มสาว
3.ฤกษ์ผ่าคลอด-ดวงชาตาต้องไม่พิกลพิการ เป็นใบ้ หูหนวก หรือ ทุพลภาพ ด้วยอุบัติเหตุต่างๆ ไม่ปัญญาอ่อน หรือ สติไม่สมประกอบ
4.ฤกษ์ผ่าคลอด-ดวงชาตาต้องไม่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง เช่น เป็น โรคที่ไม่ทางรักษา หรือ โรคทางพันธุกรรม
5.ฤกษ์ผ่าคลอด-ดวงชาตาต้องไม่มีดวงติดคุก เรียกว่า "พันธนะโยค" เช่น ถูกจับกุมคุมขัง ถูกติดคุกตะราง ถูกควมคุมตัวด้วยวิธีการต่างๆ
6.ฤกษ์ผ่าคลอด-ดวงชาตาต้องไม่เป็นคนยากจนเข็ญใจ ไร้ที่พึ่ง เรียกว่า “เกมะทรุมโยค” โดยไม่มีดาวเคราะห์อื่นใดเคียงข้างจันทร์ เป็นผลให้นิสัยทรามหรือการแต่งกายไม่เรียบร้อย ทุกข์ทรมาน เจ้ามารยา เสียเปรียบผู้อื่น และความเศร้าใจทุกข์ใจ และต้องไม่เป็นคนประพฤติชั่วทั้งกาย วาจา ใจ
7.ฤกษ์ผ่าคลอด-ดวงของเด็กชาย-หญิงต้องเป็นอภิชาตบุตร กล่าวคือต้องได้ดีกว่าพ่อแม่ หรือ ดีกว่าทุกคนในวงศ์ตระกูลของตน อีกทั้งต้องมีปัญญาดี จิตใจมีเมตตา มีศีลธรรม มีคุณธรรม มีทรัพย์สินเงินทอง มีชื่อเสียงดี มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีคู่ครองดี มีบุตรหลานดี เสริมดวงเสริมฐานะให้พ่อแม่ มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรีในสังคม และมีอายุยืน
8. ฤกษ์ผ่าคลอด-สำหรับดวงทารกหญิงต้องได้คู่ครองดี ไม่มีดวงเป็นหม้าย หย่าร้าง ชู้สาว และดวงที่ไม่มีบุตรสืบวงศ์ตระกูล
ซึ่งในคัมภีร์โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)โบราณ ได้มีการอธิบายผลร้ายต่างๆนี้ในดวงกำเนิดของทารก และเราสามารถหลีกเลี่ยงจากเกณฑ์ร้ายต่างๆได้โดยการกำหนดเวลาคลอดที่ปลอดจาก เกณฑ์ร้ายนั้นได้ และหลักการทั้งหมดนี้ สามารถคำนวนและกำหนดดวงชาตาของเด็กได้จริงตามวิธีการทางโหราศาสตร์ ซึ่งมีความแม่นยำสูงมาก
แต่อย่างไรก็ตามจะสามารถทำให้ได้ผลครบทั้ง 8 ข้อนั้น ขึ้นอยู่กับช่วงวัน-เดือน-ปีและเวลาของทารกที่จะคลอดว่ามีดวงดาวโคจรและมีทรรศนะสัมพันธ์ ที่ให้คุณต่อดวงชาตามากเพียงใด หากดวงดาวมีจังหวะการโคจรดี ก็สามารถหาได้ครบทั้ง 8 ข้อ แต่หากดวงดาวมีจังหวะการโคจรไม่ดีก็จะให้ความสำคัญตามลำดับข้างต้น กล่าวคือ ทารกจะต้องมีอายุยืนก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนความเจริญรุ่งเรืองด้านต่างๆของดวงชาตาทารกนั้นก็จะให้ความสำคัญรองลงมาตามลำดับ
ดังนั้นการหาฤกษ์ผ่าคลอดนั้น มีวันที่แพทย์ให้มาจำกัด อยุ่ระหว่าง 5-7 วันเท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีช่วงเวลาให้คำนวนกว้างมากๆจึงจะดี เช่น ให้หาฤกษ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจะดีที่สุด หรือ อย่างน้อย ต้องได้ ระหว่าง 8.00-20.00 น.ของแต่ละวัน บางรายให้ช่วงเวลามาแคบมาก เช่น ช่วงเช้า เท่านั้น ทำให้การหาฤกษ์ผ่าคลอดนั้นมีข้อจำกัดมากจนหาฤกษ์ไม่ได้ เรื่องเวลานั้นต้องต้องปรึกษาสูติแพทย์ด้วยว่าท่านมีเวลามาผ่าให้ตามเวลาที่เราต้องการไหม หรือมีผลต่อสุขภาพของแม่และเด็กไหม หากเป็นโรงพยาบาลเอกชนมักจะให้เวลาตามที่ขอ ส่วนโรงพยาบาลของรัฐการกำหนดช่วงเวลาผ่าคลอดมักทำได้ยาก หรือร.พ.บางแห่งก็ไม่มีการผ่าคลอดในวันเสาร์-อาทิตย์อันนี้ต้องตรวจสอบก่อนที่จะมาขอฤกษ์
หรือบางรายก็ได้สูติแพทย์ที่มีเวลาน้อย เพราะมีงานล้นมือ ท่านก็ต้องผ่าตามความสะดวกของแพทย์ ซึ่งมีผลต่อดวงชาตาของเด็ก อย่าลืมว่าเมื่อ แพทย์ทำการผ่าตัดคลอดออกมาแล้ว คุณหมอท่านมีภาระรับผิดชอบเพียง 6 ชั่วโมงหลังคลอดว่าทารกปลอดภัย ก็ถือว่าหมดหน้าที่ความรับผิดชอบของแพทย์ แต่สำหรับโหราศาสตร์แล้วถือว่าเวลากำเนิดนั้นมีผลต่อดวงชาตาตลอดชีวิตของคนๆนั้น
การกำหนดดวงชาตาเด็กโดยการผ่าคลอดสามารถทำได้หรือไม่
ที่มีการถกเถียงกันก็คือ การกำหนดดวงชาตาของเด็กทารกนั้น โหราจารย์สามารถใช้วิชาโหราศาสตร์กระทำการนี้ได้หรือไม่ และทำแล้วจะผิดครูหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับนักโหราศาสตร์ หรือนักพยากรณ์ในสายอื่นๆทั่วไป เพราะเพิ่งจะมีการนิยมกำหนดฤกษ์ผ่าคลอดในไม่กี่สิบปีมานี้เอง ปูมโหรโดยทั่วไปก็ยังไม่สามารถระบุชี้ชัดอย่างไรได้เพราะมีข้อมูลไม่พอ และสายครูอาจารย์ในศาสตร์ที่ตนเองร่ำเรียนมา ก็ไม่เคยมีสอนให้ฤกษ์ผ่าคลอดเอาไว้ ไม่ว่าในตำราไหน ว่าทำได้หรือไม่ ทำแล้วดีจริงหรือไม่ ไม่มีใครรับรองได้ นอกจากจะเสี่ยงดวงเสี่ยงวิชากันเอาเอง
ส่วนประเด็นนี้มีคำตอบจากโหราศาสตร์ภารตะของพราหมณ์ฮินดูโบราณ ซึ่งมีการกำหนดฤกษ์คลอดมาแล้วแต่โบราณอย่างเชี่ยวชาญและเป็นระบบ อีกทั้งมีตำหรับตำราชั้นคัมภีร์อธิบายวิธีการกำหนดฤกษ์คลอดนี้เอาไว้มากมายเอาไว้หลายพันปีมาแล้ว (ซึ่งไม่มีในโหราศาสตร์ระบบอื่นๆ) จึงนับว่าสายนี้ไม่ผิดครูเพราะครูท่านสอนวิธีเอาไว้แล้ว
การกำหนดฤกษ์คลอดล่วงหน้า ของโหรพระเวท(ภารตะ)แบบโบราณ
แต่ในสมัยโบราณไม่มีการผ่าคลอด การกำหนดฤกษ์คลอดจึงจำเพาะจงจงไปที่การ ร่วมสังวาสกัน (กามพฤติ-นิเษกะ) ในเวลาฤกษ์ยามที่โหรกำหนด วิธีนี้เรียกว่า “อาธานะจักร” หรือ “อาธานะกุณฑลิ” เมื่อสามี-ภรรยาทำการสังวาสกันในเวลาที่เป็นศุภมงคลตามดวงฤกษ์อาธานะแล้ว ก็สามารถคำนวณเวลาคลอดของทารกออกมาได้ตามฤกษ์ยามที่ได้ผูกเอาไว้ล่วงหน้า เด็กทารกที่เกิดมาก็จะมีดวงชาตา เพศ รูปลักษณ์ ผิวพรรณ อุปนิสัย ความสามารถตามที่ได้กำหนดไว้ตามฤกษ์ทุกประการ อีกทั้งดวงฤกษ์อาธานะนี้ สามารถกำหนดระยะของตัวอ่อนของทารกที่อยู่ในครรภ์ได้อย่างละเอียด โดยไม่ต้องอุลต้าซาวด์แต่อย่างใด เช่น มหาฤาษีแต่โบราณท่านกำหนดเอาไว้ในหลักวิชาโหราศาสตร์ก่อนเกิด ตัวอย่าง เช่น คัมภีร์ไชยมินิสูตร ของมหาฤาษีไชยมิณี มีรายละเอียด ของฤกษ์คลอดแบบโบราณดังนี้ คือ
ในอัธยายะ ๓ บาท ๔. ของคัมภีร์ มีการอธิบายดังนี้
วิธีการหาอุปเคราะห์ในดวงอาธานะจักร เพื่อกำหนดดวงชาตาของทารก และกำหนดอาธานะลัคน์ (ลัคนาของการตั้งครรภ์) และเปรียบเทียบวิธีการคำนวณของวิธีของมหาฤาษีปะราสาระกับมหาฤาษีไชยมิณิ ในเรื่อง ระยะเวลาตั้งครรภ์, การแท้ง ,การผสมพันธ์ ,ความหวังในการตั้งครรภ์ , อสุจิและเชื้อผสมพันธุ์ ,การเจริญของทารกในครรภ์ ,ลักษณะวิสัยของเชื้อกำเนิด ,การก่อรูปของทารก ,เพศของทารก ,โรคของมารดา, ผิวพรรณของทารก ,คู่แฝด, และอวัยวะบกพร่อง
ในอัธยายะ ๔ บาท ๑. ของคัมภีร์ มีการอธิบายดังนี้
การพิจารณาความเจริญและบกพร่องของอวัยวะของทารก ,ลูกผิดกฎหมาย ,วรรณะผิวพรรณของทารก,ทารกมีความสุข, ทารกมีบุญ ,ทารกมีความรู้ ,ทารกฉลาดและแข็งแรง ,โดยพิจารณาจากลัคน์ปราณบาท ,ลัคน์อาธานะ ในการตั้งครรภ์
ในอัธยายะ ๔ บาท ๒. ของคัมภีร์ มีการอธิบายดังนี้
เรื่อง มารการก (จุดวิบัติของทารก) ,เรือนที่เป็นโยคทำให้ทารกไม่สมประกอบ ,ฝาแฝด ,การกำหนดเวลาคลอด ,การคลอดก่อนกำหนด ,วินิจฉัยโรคของทารก ,ทารกอายุสั้น โดยพิจารณาจากลัคน์อาธานะในขณะตั้งครรภ์
ในอัธยายะ ๔ บาท ๓. ของคัมภีร์ มีการอธิบายดังนี้
เรื่อง เพศของทารก, สีผิวของทารก ,รูปร่างและความฉลาด ,คลอดง่าย-คลอดยาก เป็นต้น โดยพิจารณาจากลัคน์อาธานะในขณะตั้งครรภ์และขณะคลอด
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้เพื่อให้เห็นว่า วิชาโหรภารตะนั้นมีการกำหนดฤกษ์คลอดเอาไว้จริงๆ มาแต่โบราณนับพันๆปีมาแล้ว นี่เป็นหนึ่งในหลายสิบคัมภีร์ทีทำการอธิบายการหาฤกษ์คลอดเอาไว้ ซึ่งคัมภีร์เหล่านี้แต่งโดยโหราจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับบูรพาจารย์ และวิธีการนี้ในปัจจุบันก็ยังนิยมทำกันอยู่ในประเทศอินเดีย
ประจักษ์พยานจากฤกษ์คลอดในสมัยโบราณ (อาธานะ)
ตัวอย่างเด่นๆที่สำคัญ จากประวัติศาสตร์ฮินดูโบราณเห็นจะไม่มีใครเกินประวัติของท่าน มหาฤาษีวยาสะ ขอเล่าเรื่องแทรกเกี่ยวกับการถือกำเนิด ของท่านในแง่มุมทางโหราศาสตร์ โดยมีตำนานมาว่า คืนหนึ่งขณะที่ฤาษีประราสาระกำลังนั่นเรือข้ามฟากอยู่นั้นท่านได้คำนวน "อาธานะกุณฑลิ" หรือเรียกอีกอย่างว่า "อาธานะจักร" ดวงกาลชาตาพิเศษ สำหรับหาเวลาที่ดีในการร่วมกามารมณ์ของบุรุษ-สตรี เพื่อการปฏิสนธิของทารก
ซึ่งหากบิดามารดาได้ร่วมกามพฤติ (การร่วมกามรมณ์) หรือ ทำการ"นิเษกะ" (การร่วมกามารมณ์ครั้งแรกของสตรี) ในช่วงเวลานี้แล้ว ทารกเมื่อเกิดมาจะได้เป็นคนดีมีความสามารถสูง รูปร่างงดงาม เฉลียวฉลาดและไม่ทุพลภาพซึ่งในขณะนั่งเรือข้ามฟากอยู่นั้น อาธานะกุณฑลิจักร ก็ได้แสดงให้ว่าจะผู้มีบุญญาธิการยิ่งใหญ่จะมาถือกำเนิด ถ้าหากมีหญิงชายใดร่วมสังวาสกันในเวลานั้น บุตรที่อกมาจะเป็นชาย มีบุญญาธิการเป็นอันมาก ท่านมหาฤาษีก็ได้แจ้งแก่นางสัตยาวดีผู้ซึ่งนั่งเรือข้ามฟากมาด้วยกัน และท่านก็ขอทำการ"นิเษกะ" กับนาง ซึ่งนางก็ตอบตกลง ผลก็คือการให้กำเนิดมหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คือพระมหาฤาษีวยาสะในกาลต่อมา
ในการคำนวน อาธานะกุณฑลิจักร นี้ จะช่วยในการเลือกเพศทารก การกำหนดเวลาคลอด สติปัญญา ผิวพรรณ บุคคลิก และความเจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าของทารก โดยโหราจารย์ฮินดูก็ได้มีการสืบทอดวิชากันมาจนถึงปัจจุบันนี้
สำหรับแง่มุมทางโหราศาสตร์ อาธานะกุณฑลิจักร ก็น่าจะเป็นคำตอบสำหรับปัญหาการคำนวนดวงชาตาในปัจจุบัน ซึ่งโหรมักจะรู้แต่เวลาคลอด แต่ไม่รู้เวลาปฏิสนธิ ดังนั้นผู้ที่คลอดในเวลาเดียวกัน(ดวงชาตาจะเหมือนกัน)แต่เวลาปฏิสนธิอาจจะต่างกัน และผู้ที่ปฏิสนธิพร้อมกันแต่เวลาคลอดก็จะต่างกัน (ฝาแฝด)
ส่วนบิดาของท่านคือมหาฤาษีประรา สาระ(ปราศร) ผู้ที่รจนาคัมภีร์ทางโหราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ คัมภีร์พฤหัต ประราสาระ โหราศาสตรา และถือเป็นคัมภีร์ชั้นเอกของโหราศาสตร์ภารตะ ส่วนบิดาของมหาฤาษีประราสาระก็คือ มหาฤาษีวาสิฐะ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดมหาฤาษี (สัปตฤาษี) ผู้ยิ่งใหญ่และท่านทั้งหลายล้วนเป็นครูของพระราม(ศรีราม)
อ่านประวัติของท่านโดยละเอียดได้ที่
* พระบูรพมหาพฤฒาจารย์-ฤษีวยาสะ (กฤษณะ ไทวปายนะ วยาส)
**ดวงชาตาของผู้มีบุญมาเกิด “ดวงกำเนิดพระราม” ดวงชาตาที่หาได้ยากในรอบหมื่นปี
ฤกษ์ผ่าคลอดนั้นได้ผลจริงหรือไม่
ก็คือฤกษ์ผ่าคลอดที่ได้มานั้นดีจริงหรือไม่ ฤกษ์นั้นได้จากไหน สายวิชาใด ครูอาจารย์ผู้ให้ฤกษ์มีประสบการณ์มากเพียงใด อย่างที่ทราบกันมาว่า นอกจากวิชาโหราศาสตร์ภารตะแล้ว ไม่มีสายวิชาไหนมีการบัญญัติฤกษ์คลอดเอาไว้ในตำรา ไม่ว่าโหรไทย โหรจีน โหรตะวันตก ล้วนไม่มีทั้งสิ้น เท่าที่ให้ฤกษ์ยามกันนั้น ล้วนแต่ใช้ประสบการณ์ของอาจารย์ผู้ให้เอง ว่าดวงชาตาที่ดีๆนั้นจะต้องมีกฎเกณฑ์อย่างไร โดยเทียบเคียงจากดวงชาตาของบุคคลสำคัญ ร่ำรวย มีชื่อเสียงในปัจจุบันเป็นหลัก หรือกฏเกณฑ์ดี-ร้ายอื่นๆตามตำราที่ว่าเอาไว้ ซึ่งเป็นหลักพิจารณาดวงชาตาของบุคคลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่หลักในการพิจารณาหาฤกษ์กำเนิดทารกแต่อย่างใด ซึ่งสองอย่างนี้แตกต่างกัน
และฤกษ์ที่ได้มาจากระบบต่างกัน เช่น ได้ฤกษ์จีนแล้วมาเทียบฤกษ์ไทยก็ปรากฏว่าเป็นฤกษ์ร้าย หรือในทำนองกลับกัน ก็เช่นกัน และหลักวิชาแต่ละสายก็มีความหยาบละเอียดแตกต่างกันเป็นอย่างมาก จนแทบจะลงรอยด้วยกันไม่ได้ อย่างนี้แล้วคนที่ไม่รู้ฤกษ์ยามจะทำอย่างไร จะเชื่อใครดี บางคนตั้งใจไปหาฤกษ์ผ่าคลอดเพื่อให้ลูกเกิดมาดี พอลูกโตมาแล้วก็เกิดปัญหา ก็เลยไปตรวจดวงดูปรากฏว่าเป็นดวงร้าย อย่างนี้ก็มี ดังนั้นการหาฤกษ์คลอดนั้นจะต้องใช้สายวิชาที่เชื่อถือได้เท่านั้น จึงจะได้ผล
กฏเกณฑ์และวิธีการหาฤกษ์ผ่าคลอดของโหราศาตร์พระเวท-ภารตะ
สำหรับโหราศาสตร์ภารตะ หรือโหรพราหมณ์ของฮินดูนั้น มีกฏเกณฑ์เฉพาะสำหรับดูฤกษ์ให้กำเนิดทารก และมีเครื่องมือการคำนวณอย่างหลายหลากมากมาย เพื่อที่จะเลือกเฟ้นช่วงเวลาที่เป็นศุภผลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตามเงื่อนไขของเวลาที่จำกัด โดยกฏเกณฑ์การหาฤกษ์คลอดบุตรมีดังนี้
1.ดาวเคราะห์ ราศีและลัคนาของฤกษ์ผ่าคลอด
1.1 ดวงชาตา ของทารกจะต้องสัมพันธ์กับดวงชาตาของบิดามารดาไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง ทั้งจากดาวเคราะห์ นักษัตรฤกษ์ และเรือนชาตา
1.2 ลัคนา ของดวงชาตาทารก จะต้องมีกำลังดี เข้มแข็งและให้อิษฏผล โดยลัคนาจะเป็นตัวกำหนดเรือนชาตาและดาวดี-ร้ายในดวงฤกษ์กำเนิด ลัคนาจะต้องปราศจากผลร้ายทั้งมวล และการเบียฬจากดาวร้ายอื่นๆ และจุดที่ลัคนาสถิตนี้เป็นตัวชี้วัดว่าดวงนี้เข้มแข็งหรือไม่
นอกจากนี้ในระบบโหราศาสตร์ก่อนเกิดของโหรภารตะ ยังมีกฏเกณฑ์ที่เรียกว่า “วิโยนิเภท” หรือ “วิวิธโยนิ” ที่อธิบายว่าจุดองศากำเนิดของมนุษย์ จะแตกต่างจากจุดองศากำเนิดของ สัตว์ พืชพรรณ ฯลฯ วิธีนี้สามารถสอบทานองศาของลัคนาหรือเวลาเกิดได้ถูกต้อง ใช้สำหรับผู้ที่มีเวลาเกิดไม่แน่นอน หรือสอบดวงชาตาย้อนกลับไปได้ว่า คนๆนี้ชาติที่แล้วเกิดเป็นอะไร มาจากภพภูมิไหน
1.3 ดาวเคราะห์ หรือดาวเจ้าเรือน จากลัคนาข้างต้น ต้องมีกำลังดี เจ้าเรือนลัคน์ (ลัคนธิปติ)ต้องมีกำลัง(ดูข้อ 1.4) สถิตในศุภราศี ศุภนวางศ์ ศุภตรียางค์ เสวยองศาหรือนวางศ์ที่ให้ผลดีเช่น วรโคตรรนวางศ์ หรือ ปุษการะนวางศ์ ไม่เสวยองศาที่เป็นโทษ (มรณะองศา)หรือ เสวยตรียางค์ นวางศ์พิษ กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ความแตกต่างของ ตรียางค์นวางศ์พิษ ของไทยกับภารตะ หรือ สถิตในเรือนคู่ศัตรู กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิเคราะห์ดาวคู่มิตร-ศัตรูแบบภารตะ-ไทย หรือสถิตในตำแหน่งคัณฑานตะ (นวางศ์ขาด) หากเป็นไปได้ควรให้ดาวร้ายสถิตย์ในเรือนอุปจัย หรือ ไม่ควรมีดาวเคราะห์ใดสถิตในเรือนทุสถานะภพ หรือไม่ควรให้ดาวทำมุมโยคร้ายต่อกัน หรือ ไม่ควรมีดาวเคราะห์ วิกลคติ พักร มณฑ์ เสริด ฯลฯ เป็นต้น หากไม่ได้ตามเงื่อนไขนี้ต้องหาวิธีแก้ไข ตามวิธีการปรุงดาวเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์
1.4 การหากำลังของดาวเคราะห์ (ษัฑพละ) คือการคำนวณหากำลังของดาวเคราะห์ทั้ง 7 ในดวงชาตาของทารก ว่ามีกำลังหรือไม่ และให้ผลดีกี่ส่วน และให้ผลร้ายกี่ส่วน (อิษฏผล-กัษฏผล) ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดดวงชาตาว่าจะดีหรือร้าย หากดีจะดีมากแค่ไหน หากร้ายจะร้ายเพียงใด ทั้งนี้ต้องปรุงผลดาวเคราห์ให้ได้กำลังดีที่สุด เพื่ออำนวยผลแก่ดวงชาตาให้มากที่สุด กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ษัฑพละ : กำลังของดวงดาว
2.การหากำลังของดวงฤกษ์ของฤกษ์ผ่าคลอด
ในการคำนวนหาฤกษ์ผ่าคลอดจะมีส่วนประกอบสำคัญหลักๆอยู่หลายประการ เช่น กำลังของดาวเคราะห์ การวางตำแหน่งดาวเคราะห์ในดวงฤกษ์ให้มีความหมายสัมพันธ์กับดวงชาตาและกิจการที่จะกระทำ การวางลัคนาให้สัมพันธ์กับเรือนชาตา,ราศีตามความมุ่งหมายและกิจการที่ต้องการให้ประสบความสำเร็จและประการที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นหัวใจในการวางฤกษ์คือ “การหากำลังของดวงฤกษ์” ซึ่งจะประกอบด้วย 6 ส่วนคือ
2.1 ปัญจกสุทธิ หรือกำลังทั้ง 5 ประการของ ดิถี นักษัตร วาร โยค และ กรณะ ตามรายละเอียดใน”ปฏิทินปัญจางคะ” คือ
(2.1.1) ดิถีหรือวันขึ้นแรม
ของโหรภารตะจะแบ่งเป็นศุกลปักษ์ หรือข้างขึ้น และกฤษณปักษ์หรือข้างแรม มีดีร้ายต่างกัน นอกจากนี้ดิถียังแบ่งประเภทย่อมออกเป็น นันดิถี ภัทรดิถี ชยะดิถีหรือ ปูรณะดิถี ก็จะเกิดผลดีเป็นมงคลอย่างสูงและควรหลีกเลี่ยง ริกตะดิถี เพราะเป็นดิถีไม่ดี เว้นแต่จะมีพลังศุภมงคลจากทางอื่นมาช่วยแก้ไขให้บรรเทาให้เป็นกลาง หรือ ได้โยคเกณฑ์พิเศษจากเงื่อนไขอื่นๆ
(2.1.2) วาร-วันในสัปดาห์
วาระ หรือ วันในสัปดาห์ทั้ง 7 เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการคำนวณหาพละ หรือกำลังของดาวเคราะห์ที่มีกำลังแรงในวันนั้นๆ โดยวันในสัปดาห์ตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันเสาร์ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อมโยงไปถึงดวงดาวเจ้าวันที่กำลังโคจรบนท้องฟ้า ซึ่งจะสามารถส่งผลดี-ร้ายได้จากกำลังดาวและลักษณะที่เป็นดาวศุภเคราะห์ศุภเคราะห์หรือปาปเคราะห์ กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 10.การหากำลังของดวงฤกษ์
(2.1.3) นักษัตร-กลุ่มดาวฤกษ์ทั้ง ๒๗
ส่วนสำคัญส่วนที่ 3 คือกำลังของดาวฤกษ์ทั้ง 27 หรือดาวนักษัตร มีความกว้างนักษัตรละ 13 องศา 20 ลิปดาซึ่งหากจันทร์โคจรผ่านกลุ่มดาวนักษัตรเหล่านี้เมื่อใด ก็จะสะท้องพลังรังสีดี-ร้ายของดาวฤกษ์เหล่านี้มาสู่พื้นปฐพี ซึ่งกลุ่มดาวนักษัตรเหล่านี้เองที่เราเรียกว่า “ฤกษ์” ซึ่งมีความสำคัญมากต่อดวงชาตาชีวิตของคน และเป็นหลักในการวางฤกษ์ยามต่างๆ
นักษัตรต่างๆเหล่านี้แบ่งออกตามลักษณะของกำลังมี 7ประเภทคือ 1.นักษัตรมั่นคงถาวร(สถิระ) 2.นักษัตรเคลื่อนไหว-(จาระ) 3.นักษัตรร้ายกาจ(วัชระ) 4.นักษัตรรวม-ผสมผสาน (มิษระ) 5.นักษัตรแจ่มใส-รุ่งโรจน์ (ลฆุ)6.นักษัตรเฉียบขาด(อุคระ)7.นักษัตรอ่อนโยน (มฤธุ)
และนอกจากนี้ในช่วงเวลาของแต่ละนักษัตรก็มีช่วยเวลาร้ายอยู่ทุกนักษัตร เรียกว่า *เวลาต้องห้ามของแต่ละนักษัตร (นักษัตรตะยะชะยะกาล) ต้องหลีกเลี่ยง กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 11.อิทธิพลของนักษัตร
(2.1.4) โยค หรือนักษัตรโยค
นักษัตรโยคมีการคำนวณองศาสัมพันธ์ระหว่างอาทิตย์และจันทร์ ใน 1เดือนจันทรคติ (28 วัน) เพื่อหาพลังรังษีที่เป็นศุภผล หรือเป็นมงคลเอื้อประโยชน์ต่อชีวิต และจิตวิญญาณของมนุษย์ และพลังงานที่ไม่เป็นศุภผลที่ให้โทษ ซึ่งเรียกว่านักษัตรโยค โดย 1 ในรอบเดือนทางจันทรคติจะมีโยคทั้งดีและโยคร้ายหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยน แต่ละโยคมีระยะ 13 องศา 20 ลิปดา มีจำนวนทั้งหมด 27 โยค กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 11.อิทธิพลของนักษัตร
(2.1.5) กรณะ-หรือนักษัตรกาล
พลังงานส่วนที่ 5 คือ กรณะ หรือเรียกว่า นักษัตรกาลเป็นการคำนวณระยะเวลาของครึ่งวันของวันทางจันทรคติโดยคำนวณจากระยะของดาวอาทิตย์และดาวจันทร์ในช่วงทุกๆ 6 องศาทวีคูณ ผลทีได้เป็นพลังรังสีดี-ร้ายมีจำนวน 11 กรณะและหมุนเวียนกันต่อเนื่องกันตลอดดิถีตามหลักวิธีการคำนวณกรณะคือ ใน 1 เดือนจันทรคติ กรณะลำดับที่ 1-7 หมุนเวียนกันเป็นเจ้าการ 8 ครั้งโดยเริ่มต้นในครึ่งวันหลังของดิถีที่ 1 ของเดือน ลำดับที่ 8-11 เป็นเจ้าการคงที่ไม่หมุนเวียน โดยใน 1 วันจะมี 2 กรณะ กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 11.อิทธิพลของนักษัตร
2.2 ราหูกาล ยมกาล คุลิกากาล และช่วงเวลาร้ายอื่นๆที่ต้องหลีกเลี่ยง
นอกจากหลักการที่กล่าวมาแล้วข้างต้น การกำหนดฤกษ์ยามมงคลยังจะต้องพิจารณาจากกาละ หรือ มุหูรตะกาล เพิ่มเติมอีกหลายประการ เช่น
1.ราหูกาล -คือช่วงเวลาที่ไม่ดีในแต่ละวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาของราหู ควรหลีกเลี่ยงและงดเว้นกิจการที่เป็นมงคลในช่วงระยะเวลานี้ ช่วงของราหูกาลถือว่าเป็นเวลาให้โทษร้ายรุนแรง ห้ามให้ฤกษ์มงคลเป็นอันขาด หากทำการเริ่มต้นกิจการงานใดใดในระหว่างช่วงของราหูกาลนี้ จะเกิดความเสียหาย ผิดหวัง และการจบสิ้น กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ราหูกาล
2.ยมกาล-คือช่วงเวลาของพระยม เทพเจ้าแห่งความตายซึ่งต้องหลีกเลี่ยง แต่เป็นช่วงเวลาเหมาะแก่การประกอบพิธีงานอวมงคลต่างๆเช่นงานฌาปนกิจศพ ส่วนงานมงคลอื่นๆควรต้องงดเว้น เพราะจะทำให้เกิดความล้มเหลว
3.คุลิกากาล-หรือเรียกว่า ”มันถิกาล”ซึ่งมันถิและคุลิกาเป็นบุตรของดาวพระเสาร์และเป็นช่วงจะทำให้้เกิดปรากฏการณ์้ซ้ำๆขึ้นอีกหลายครั้ง ซึ่งไม่เป็นมงคล กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ “คุลิกา” ในโหราศาสตร์ภารตะ(ฮินดู) ส่งผลต่อเราอย่างไร : ตอน 1
2.3 ทุรมุหูรตะ-หมายความว่า เป็นช่วงเวลาที่ไม่เป็นมงคล ในแต่ละวัน และจะต้องหลีกเลี่ยง
2.4 วารชยะ-ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีอีกเช่นกัน โดยคำนวนจากห้วงเวลาของนักษัตรที่จันทร์เสวย ซึ่งนักษัตรหนึ่งๆไม่ได้ให้ผลดีตลอดทั้งนักษัตร แต่จะมีช่วงที่ไม่เป็นมงคลเป็นช่วงๆของนักษัตรนั้นๆ ดังนั้นในวันหนึ่งๆอาจจะมี วารชยยาม มากว่า 1 ช่วงเวลา
กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 12.ราหูกาล ยมกาล คุลิกากาล และช่วงเวลาร้ายอื่นๆ และ 13.ปัญจกสุทธิ รวมกำลังทั้ง 5 ประการ
2.5 ปัญจกวิธี คือ การคำนวนหากำลังราศีเพื่อวางลัคน์ในดวงฤกษ์ โดยขั้นตอนนี้เป็นการคำนวนหาฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับดวงชาตา ตำแหน่งของลัคนาในดวงฤกษ์จะต้องได้กำลังดี ปราศจากผลร้ายอื่นๆเพื่อที่จะให้เกิดอิทธิพลังในการบันดาลความสำเร็จตามความมุ่งหมายของฤกษ์ที่จะทำการนั้นๆ ปัญจกวิธี เป็นการคำนวนหามูลฐานของพลังสำคัญ ๔ ประการดังนี้ ๑. ดิถี ๒. วาระ หรือวันในสัปดาห์ทั้ง ๗ วัน ๓. นักษัตร ทั้ง ๒๗ นักษัตร นับจากอัศวิณี ไปจนถึง เรวดี ๔. ราศีลัคน์ ทั้ง ๑๒ ราศี นับจากราศีเมษ ไปจนถึงราศีมีน แล้วนำทั้งหมดนำมาหากำลังราศีที่ดีที่สุดเพื่อวางลัคนา
กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 16.ปัญจกวิธี- วิธีการวางลัคน์ในดวงฤกษ์
2.6 มุหูรตะโยค หรือโยคที่ได้เกณฑ์พิเศษโดยอาศัย กำลังจากดิถี วาร มาส(เดือน) และนักษัตร ผสมกัน ซึ่งมีทั้งดีและร้าย ส่วนโยคดีก็ เช่น สิทธาโยค ,สุตะโยค ,ศุภมัธยมโยค ,โสภณโยค, อมฤตโยค หรือโยคร้าย เช่น มฤตยูโยค ,นาศะโยค ,อุตปาฏนะโยค ,ยมธันโยค, ทคธะโยค ทั้งนี้ต้องตรวจสอบให้ได้ โยคดี กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 17.มุหูรตะโยค-โยคที่ส่งผลดี-ร้าย
2.7 ข้อยกเว้นและกฏเกณฑ์พิเศษอื่นๆ โดยกฏเกณฑ์ทั้งหมดนี้จะได้อธิบายรายละเอียดต่างๆดังต่อไปนี้ เช่น ห้ามวันคราส เช่น สุริยุปราคา จันทรุปราคา ทั้งก่อน-หลัง 7วัน ,ห้ามวันพระอาทิตย์ย้ายราศี หรือ สุริยสังกรานมณ ,คัณฑานตะ-หมายถึงข้อพับ หรือเป็นจุดรอยต่อของฤกษ์และราศี ซึ่งแสดงถึงการแตกแยก ทำลาย และความวิบัติ, กรรตรีโทษ -โทษเบียฬ นอกจากนี้ก็ยังมีโทษอื่นๆอีก เช่น ,ษัษฏะ อัษฏะ ริผฆฏะ จันทรโทษ ,สเคราะห์จันทรโทษ ,คณะทาณะดารา , ปาปษัทวรรค, ภฤคุษัทกะ , กุชอัษฏมะ (คุชโทษ) ,อัษฏมลัคนโทษ , ราศีวิษฆติกา , กุณนวางศโทษ, วาระโทษ , คระหโนตปาตะโทษ, เอการะกาลาโทษ ,กรูระสัมยุตโทษ ,อกาลฆรรชิตะ ,วริษติโทษ , ไวธรุติโทษ , มหาปาตะโทษ กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 18. ข้อยกเว้นและกฏเกณฑ์พิเศษอื่นๆ
2.8 โชคดี-โชคร้าย (โยค)ในดวงชาตา
สัมพันธภาพต่างๆของดาวเคราะห์ทุกดวงในดวงชาตาของทารก ประกอบเป็นรูปโยค(หรือโชค) ส่งผลให้ทารกนั้นเป็นคนโชคดีหรือโชคร้าย สำหรับโหราศาสตร์ภารตะท่านกำหนดสัมพันธภาพดี-ร้ายเอาไว้ 300 ประเภท
การวางดาวเคราะห์ในดวงฤกษ์จะต้องได้สัมพันธภาพที่ดี หรือ โยคดี ที่ส่งผลให้มีชื่อเสียง มีปัญญา ร่ำรวย เกียรติยศ ฯลฯ เช่น นภสโชค จามรโชค เภรีโชค คชเกษริโยค หรือโยคที่ทำให้โชคดีดุจราชา เช่น ราชาโยค อย่าให้มีโยคร้าย เช่น โยคติดคุก เป็นหม้าย ยากจน พิการ ประสาท วิกลจริตและมีโรคร้ายต่างๆ กรุณาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ คัมภีร์ไตรศตโชคมัญชริ
และที่สำคัญที่สุดก็คือต้องไม่ให้เด็กเกิดในฤกษ์ร้ายให้โทษ ซึ่งมีโยคร้ายในดวงชะตาที่ให้โทษรุนแรงดังต่อไปนี้
1. เกมทรุมโยค โยคร้ายในดวงชาตา ทำให้ยากจน อนาถา ไร้ที่พึ่ง https://bit.ly/3qkylOh
2. สกฏโชค โยคร้ายจะลบล้างโยคดีที่ให้คุณแก่เจ้าชะตาทุกๆโยคทั้งหมดในดวงชะตาจนหมดสิ้น https://bit.ly/3O1M19j
3.ศักติโชค – เกียจคร้าน เชื่องช้า ไม่มีทรัพย์ และไม่มีใครชอบ ,ทัณฑโชค – ขาดความสุขเพราะภรรยาและบุตร https://bit.ly/3aDGgjM
4.ศกฏโชค – ให้ยากจน และชีวิตในบ้านไม่มีความสุข - วิหคโชค – จรจัด ทะเลาะวิวาท และเลวทราม https://bit.ly/3aECVko
5.ศูลโชค – ให้เจ้าชะตาไม่มีทรัพย์สิน ดุร้าย กล้าหาญ และมีแผลเป็นที่เกิดจากสงคราม,ยุคโชค – ให้ยากจน สังคมรังเกียจ ไม่นับถือศาสนา และขี้เมา , โคลโชค – ให้ยากจน สกปรก โสมม ไม่มีชื่อเสียง เขลา และเกียจคร้าน https://bit.ly/39jJ1pZ
6.นลโชค – ไม่สมประกอบ อารมณ์ร้าย และตกต่ำ https://bit.ly/3mONqVn
7.สารปโชค – ให้เจ้าชะตาทนทุกข์จากเหตุหลายอย่าง โหดร้าย โง่ https://bit.ly/3H4xrvA
8.ทุรโชค-จะถูกผู้อื่นดูถูกเหยียดหยาม เห็นแก่ตัวอย่างยิ่งอยู่เสมอ ชอบหลอกลวงผู้อื่น https://bit.ly/3NA4eLp
9.ทริทรโชค-เจ้าชะตาก่อการเป็นหนี้สินมากมาย ยากจนมาก ต้องทนฟังเรื่องที่ทำให้ตัวต้องลำบาก เลวทราม ทำบาปหยาบช้า และทำสิ่งที่ผิด https://bit.ly/3O5Ay8E
10.เทหกัษฏโชค – เจ้าชะตาไม่มีความสุขกาย ลำบากกาย ผู้ที่ทำงานด้วยมือหรือกรรมกร https://bit.ly/3QfkLX0
11.โรคกัษฏโชค -ร่างกายเจ้าชะตาอ่อนแอและขี้โรค https://bit.ly/3Q8yFtH
12.กริศอังคโชค-เจ้าชะตามีร่างกายซูบผอม และร่างกายกรำทุกข์เวทนา https://bit.ly/3QdOgYU
13.ทริทราโชค-โชคทั้งนี้ให้ความยากจนอย่างน่ากลัว ไร้เงินทอง จิตใจคับแคบ, ชั่วร้าย และขัดสนทุกๆทาง https://bit.ly/3O1p0mW
14.มูกโชค -เจ้าชะตาเป็นใบ้ https://bit.ly/3H83SJF
15.อันธโชค – เจ้าชะตาสายตาไม่ดีในเวลากลางคืน หรือตาบอดตั้งแต่เกิด https://bit.ly/3xoc97Q
16.ทุรมุขโชค – หน้าตาน่าเกลียด ไม่น่าดู หรือหน้าบึ้งบูดโกรธง่าย เจ้าโมโหโทโส https://bit.ly/3xvdpXP
17.วากจาลนโชค – เจ้าชะตาพูดติดอ่าง ,วิษปรโชค– เจ้าชะตาจะถูกผู้อื่นวางยาพิษ https://bit.ly/3NDzBVh
18.โสทรนาศโชค (โสทะระนาศะ – พี่น้องวินาศ)– เจ้าชะตาเสียพี่น้องชายหญิงเกือบทั้งหมด https://bit.ly/3Mzgqe3
19.คฤหนาศโชค (คฤหะนาศะ – บ้านเรือนพินาศ) – เจ้าชะตาสูญเสียทรัพย์สมบัติบ้านเรือนทั้งหมด https://bit.ly/3mxke4W
20.มาตรุนาศโชค (มาตรุนาศะ – เสียมารดา) – มารดาเจ้าชะตาอายุสั้น https://bit.ly/3NA6wtZ
21.กปฏโชค (กะปะฏะ – มายา, ตลบตแลง) – เจ้าชะตาเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้ากล เสแสร้งแกล้งทำ มีอุบายมายา https://bit.ly/3xAZdwk
22.มาตรุศตรูตวโชค (มาตรุศตรูตะวะ – เป็นศัตรูกับมารดา) – เจ้าชะตาเกลียดมารดา https://bit.ly/3tr4hku
23.คุรุ-จัณฑาล โทษ "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว" เจ้าชาตาจะเป็นคนยากจน ขาดแคลนเงินทองอยู่เสมอ แต่หากเจ้าชาตาเกิดในตระกูลมั่งคั่ง ร่ำรวย เจ้าชาตาก็จะรักษาทรัพย์เอาไว้ไม่อยู่ https://bit.ly/3H7Atir
24.พุทธิชฑโชค-เจ้าชะตาจะเป็นคนโง่ทึบ เบาปัญญา ปัญญาอ่อน
25.พันธนโชค-เจ้าชะตาจะถูกจองจำ ถูกกักขังในเรือนจำ
26.วามสเฉทโชค-เจ้าชะตาจะเป็นผู้ทำลายครอบครัวและวงศ์สกุล
27.อันธโชค-เจ้าชะตาจะตาบอดสนิทมาแต่กำเนิด
28.มถิภรมนโชค-เจ้าชะตาจะกลายเป็นคนวิกลจริต
2.9 โทษร้ายต่างๆในดวงชาตา
นอกจากนี้ยังมีโทษร้ายอื่นๆในดวงชาตาที่ต้องหลีกเลี่ยง เช่น มังคลิโทษ หรือคุชโทษ (โทษร้ายจากดาวอังคาร) ,กาฬสรปะโทษ (โทษร้ายจากราหู) ,นทิโทษ (โทษร้ายของพ่อ-แม่ที่ส่งผลต่อทารก),สรปิตโทษ (โทษจากการถูกสาปแช่ง),ปิตรโทษ (โทษจากบรรพบุรุษ),กฤตติกา ชนมโทษ (โทษสำหรับผู้เกิดเดือนกฤตติกา)
เสต สาติโทษ เคราะห์ร้าย 7ปีครึ่ง ที่ทุกๆคนต้องเผชิญ
กาฬ สรปะ โทษ (อสรพิษแห่งความตาย)- โทษร้ายแรงในดวงชาตา
ภคุฏโทษ ดวงความขัดแย้งในชีวิตคู่
นทิโทษ ดวงพิฆาตคู่ครองและทำลายผู้สืบสกุล
2.10 โยคร้ายที่ทำให้อายุสั้น
และที่สำคัญที่สุดเมื่อได้ฤกษ์ดีแล้ว ก็ต้องนำมาสอบทานว่าทารกนี้จะต้องมีอายุยืนนาน เรียกว่า การหา “อายุรทัย” และต้องไม่มีโยคร้ายที่ทำให้อายุสั้นก่อนวัยอันควร(อายุสั้น 1-7 ขวบ) เรียกว่า “พละริษฏโยค”
สรุป.. จากข้อมูลเบื้องต้น ท่านจะเห็นว่าโหรภารตะนั้นท่านละเอียดสุขุมในเรื่องฤกษ์ยามเป็นอย่างมาก ยิ่งในกรณีที่เป็นการให้ฤกษ์กำเนิดทารกแล้ว ก็ต้องยิ่งให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะฤกษ์ผ่าคลอดหรือดวงฤกษ์กำเนิดนี้เองก็จะผูกพันและกำหนดชาตาชีวิต ทั้งความรุ่งเรือง และความตกต่ำของเด็กคนนี้ต่อไปจนวันตาย
และตามความเป็นจริงของโลกใบนี้ คนเราทุกย่อมประสบกับความทุกข์มากกว่าความสุข โหราศาสตร์เองก็กล่าวเอาไว้ว่าดวงชาตาของคน มีดาวร้าย หรือดาวปาปเคราะห์ 5 ดวง (อาทิตย์ อังคาร เสาร์ ราหู เกตุ) มีดาวดีหรือดาวศุภเคราะห์เพียง 2 ดวง(พฤหัส ศุกร์) นอกนั้น( พุธ จันทร์)ยังไม่แน่ว่าดีหรือร้าย แล้วแต่ดวงของแต่ละคน สรุปว่า ดวงคนเรานั้นประสบทุกข์มากกว่าสุข ดังนั้นจะหาฤกษ์ดีสักปานใดก็ยังตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขนี้
**ข้อจำกัดในการหาฤกษ์ผ่าคลอด***
ถึง แม้ว่าเราจะมีกฏเกณฑ์มากมายในการเลือกเฟ้นฤกษ์ยามที่ดีเป็นมงคลแก่บุตรหลาน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอันเนื่องมาจากเงื่อนของเวลาในการผ่าคลอด ซึ่งแพทย์จะกำหนดให้เวลาเพียง 5-7 วันตามอายุครรภ์ที่เหมาะสมแก่การผ่าคลอด (หรือ 38 สัปดาห์) ซึ่งเวลาค่อนข้างจำกัดนี้การหาฤกษ์ที่สมบูรณ์ที่สุดย่อมทำได้ยาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ดูฤกษ์ยามเอาเสียเลย หรือไปดูฤกษ์แบบง่ายๆ หรือฤกษ์ชั้นสองชั้นสาม หรือเอาฤกษ์โหลๆ เช่น วันธงชัย เป็นต้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อแม่และทารกในครรภ์
เคย ได้ยินได้ฟังมาว่า อาจารย์บางท่านให้ฤกษ์ผ่าคลอดตอนอายุครรภ์เพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น เท่ากับว่าคลอดก่อนกำหนด เพราะเชื่อว่าช่วงเวลานี้เป็นฤกษ์ดีที่สุด ซึ่งอันตรายมาก ดังนั้นในการขอฤกษ์ อายุครรภ์มารดาจะต้องได้ตามที่สูติแพทย์กำหนดเท่านั้น หากอายุครรภ์ไม่ถึงหรือเกินกว่ากำหนดถึงแม้จะมีฤกษ์ดีสักปานใด ทางอาศรมฯก็จะไม่ให้ฤกษ์
ในการ ขอฤกษ์ผ่าคลอดกับทางอาศรมฯ ซึ่งใช้โหราศาสตร์ชั้นสูงคำนวณฤกษ์ ในสมัยโบราณมักต้องเป็นชนชั้นสูง เจ้านาย คนมียศฐาบรรดาศักดิ์ หรือเป็นพระราชา และพระราชวงศ์เท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้ใช้ฤกษ์แบบนี้ หากทารกคนใดได้มีโอกาสใช้ศาตร์ชั้นสูงนี้ในการกำหนดฤกษ์คลอดแล้ว ก็ย่อมแสดงอยู่เป็นนัยแล้วว่า เป็นทารกผู้มีบุญมาเกิด หรือมียศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โตมาในอดีตชาติ และในชาตินี้เมื่อได้ถือกำเนิดเกิดมา ก็ย่อมเกิดมาสนองคุณบิดา-มารดา ครูอาจารย์และประเทศชาติให้เกิดความสุขความเจริญสืบไป
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย



เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
******************************************************
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์มงคลสมรส
- จำนวนผู้อ่าน: 601654

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
"ได้รับจัดอันดับเป็น1ใน5หมอดูฤกษ์แต่งงานชื่อดัง"
บริการดูฤกษ์มงคล ฤกษ์แต่งงาน พิธีไทย ปี 2568 *****ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ฤกษ์หมั้น ฤกษ์สวมแหวน ฤกษ์ยกขันหมาก ฤกษ์รดน้ำสังข์ ฤกษ์ส่งตัว ฤกษ์ปูเตียง ฤกษ์จดทะเบียนสมรส
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด ของคู่สมรสโดยเฉพาะ
ค่าบูชาครู 1299,1999 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)


**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
********
สอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์แต่งงาน โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
ค่าครูบูชา ฤกษ์แต่งงานแบบไทย 1999 / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าครูบูชา ฤกษ์จดทะเบียนสมรสอย่างเดียว 1299 / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
***ค่าครูคำนวนฤกษ์แต่งงานของระบบ"โหร"ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไปจะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 4,000- 6,000 บาทต่อ 1ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 1299, 1999 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู้เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************

สิ่งที่ท่านจะได้รับในการขอฤกษ์จากอาศรมฯ
(1..)ฤกษ์แต่งงานไทย 1999 บาท จะมี 4 ฤกษ์ จะได้ใบฤกษ์มงคลและวิธีใช้ฤกษ์ โดยในอีเมล์จะมีรายละเอียดจำนวน 22 หน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะทำพิธีแบบภาคกลางคือ รดน้ำสังข์ หรือ ทำพิธีผูกแขนสู่ขวัญ แบบล้านนาหรือแบบภาคอีสาน
โดยเป็นการอธิบายวิธีการใช้ฤกษ์ การทำพิธีกรรม และลำดับพิธีกรรม เช่น การสู่ขอ พิธีแห่ขันหมาก พิธีสงฆ์ พิธีรับไหว้ คำบูชาพระภูมิเจ้าที่และเทพยดาอารักษ์ (สำหรับงานมงคลสมรส) คำบูชาสำหรับไหว้บรรพบุรุษ (สำหรับงานมงคลสมรส) รวมถึงทิศมงคลต่างๆในการทำพิธี และอธิบายเรื่องฤกษ์ยามชั้นสูงว่าแตกต่างจากฤกษ์ยามทั่วไปอย่างไร
พร้อมแนบเอกสารไฟล์ PDF อีกจำนวน 4 ชุด คือ
(1.)ใบฤกษ์มงคลสมรส (ตามตัวอย่าง) พร้อมใส่ดวงชาตาของคู่บ่าวสาวและดวงฤกษ์ ได้ออกแบบอย่างดงามด้วยศิลปะลวดลายไทย เหมาะสำหรับพิมพ์เก็บไว้หรือใส่กรอบไว้เป็นที่ระลึกเนื่องในงานมงคลสมรส
และในใบฤกษ์ได้ระบุฤกษ์ไว้จำนวน 4 ฤกษ์ คือ 1.ฤกษ์หมั้น 2.ฤกษ์จดทะเบียนสมรส 3.ฤกษ์รดน้ำสังข์ 4. ฤกษ์ปูลาดเรียงหมอน(ฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาว) พร้อมระบุเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของฤกษ์ในแต่ละฤกษ์
**การจดทะเบียนสมรสในงานแต่ง ถือเป็นกรณีพิเศษที่ทางราชการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่นายทะเบียนมารับทำการจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ ณ ในงานพิธีซึ่งตามคติของคนสมัยก่อนถือฤกษ์จดทะเบียนสมรสและฤกษ์แต่งงานควรจะเป็นฤกษ์เดียวกัน ไม่ควรแยกกัน
(2).ตัวอย่างลำดับพิธีแต่งงานแบบไทย จำนวน 6 หน้า (ตัวอย่างการจัดขบวนแห่ การมอบหมายหน้าที่ของแต่ละคน การเรียงลำดับพิธีการ พร้อมระบุชื่อผู้ที่รับมอบหมายหน้าที่)
(3).เกร็ดความรู้พิธีมงคลสมรสแบบไทย จำนวน 3 หน้า (รวบรวมเกร็ดความรู้และพิธีการจากครูบาอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในการจัดพิธีมงคลสมรส)
(4).กฏเกณฑ์การให้ฤกษ์ยามชั้นสูง จำนวน 63 หน้า (อธิบายความสำคัญและความเป็นมาและวิธีคำนวนฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์พระเวท (ภารตะ) ซึ่งจะแตกต่างจากโหราศาสตร์ไทย)
(2.)ฤกษ์จดทะเบียนสมรส 1299 บาท โดยในอีเมล์จะมีรายละเอียดจำนวน 13 หน้า โดยเป็นการอธิบายวิธีการใช้ฤกษ์และทิศมงคลสำหรับการจดทะเบียนสมรส และ คำบูชาพระภูมิเจ้าที่และเทพยดาอารักษ์ (สำหรับงานมงคลสมรส) คำบูชาสำหรับไหว้บรรพบุรุษ (สำหรับงานมงคลสมรส) ในกรณีที่ต้องการจดทะสมรสโดยไม่ต้องการจัดพิธีแต่งงาน และอธิบายเรื่องฤกษ์ยามชั้นสูงว่าแตกต่างจากฤกษ์ยามทั่วไปอย่างไร
พร้อมแนบเอกสารไฟล์ PDF อีกจำนวน 2 ชุด คือ
(1.)ใบฤกษ์จดทะเบียนสมรส (ตามตัวอย่าง) พร้อมใส่ดวงชาตาของคู่บ่าวสาวและดวงฤกษ์ ได้ออกแบบอย่างดงามด้วยศิลปะลวดลายไทย เหมาะสำหรับพิมพ์เก็บไว้หรือใส่กรอบไว้เป็นที่ระลึกเนื่องในงานมงคลสมรส
และในใบฤกษ์ได้ระบุฤกษ์ไว้จำนวน 4 ฤกษ์ คือ 1.ฤกษ์หมั้น 2.ฤกษ์จดทะเบียนสมรส 3.ฤกษ์รดน้ำสังข์ 4. ฤกษ์ปูลาดเรียงหมอน(ฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาว) พร้อมระบุเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของฤกษ์ในแต่ละฤกษ์
(2).กฏเกณฑ์การให้ฤกษ์ยามชั้นสูง จำนวน 63 หน้า (อธิบายความสำคัญและความเป็นมาและวิธีคำนวนฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์พระเวท (ภารตะ) ซึ่งจะแตกต่างจากโหราศาสตร์ไทย)
****************************************************

![]()

ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
"ฤกษ์แต่งงาน" ฤกษ์ ยามคือสิ่งที่ บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ(ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์และฤกษ์ยาม ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย
ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
การให้ฤกษ์มงคลสมรส ฤกษ์หมั้น ฤกษ์แต่งงาน พิธีไทย และฤกษ์จดทะเบียนสมรส
ในการหาฤกษ์แต่งงานในระบบโหรพระเวทของพรามณ์หรือโหราศาสตร์ภารตะนี้ มีการพิจารณาในรายละเอียดลึกซึ้ง มีการประเมินผลมาตลอดระยะเวลา 5000 ปี แต่หากดูจากโหราศาสตร์ระบบอื่นๆอาจจะหาฤกษ์ได้ง่ายกว่านี้ แต่ก็มีผลเสียตามมามากมาย โดย เฉพาะความสุขในชีวิตสมรส
มีการอย่าร้างตามมามากมาย นี่อาจจะเป็นเพราะใช้ฤกษ์สะดวกหรือใช้ฤกษ์ยามแบบสุกเอาเผากิน นอกจากกฎเกณฑ์ฤกษ์ยามพื้นฐานทั่วไปแล้ว ยังต้องพิจารณาเพิ่มเติมอีกเป้นพิเศษสำหรับฤกษ์มงคลสมรส เช่น
(1.) ห้าม วันพุธ วันอังคาร (2.) ห้ามริกตะดิถี (3.) ห้ามวันพระจันทร์ดับ อมวาสี วันที่ดาวเคราะห์ดับ วันที่มีคราส ฯลฯ (4.) ห้ามวันที่มีดิถีร้าย เช่น วันดิถีมหาสูญ ฯลฯ (5.) ห้ามวันที่ มีกรณะร้าย (คำนวนจากองศาพระอาทิตย์และจันทร์) ห้ามวิษฎิกรณะอย่างเด็ดขาด (6.)ห้าม เวลาที่มีโยคร้าย (คำนวนจากเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น-ตก แล้วนำมาเฉลี่ย 8 ส่วน) ห้ามโยค วยาธิปัฎ ธรุวคัณฑ วัชร ศูละ วิษฎัมภะ วยาฆาต และปริฆะ (7.) ห้ามวันต้องอัคนิโรธณ์ (8.)ในดวงฤกษ์ต้องไม่มีคุชะโทษ (อังคารอยู่ในเรือที่ 8 ศุกร์ในเรือนที่ 6) แสดงถึงการอย่าร้าง (9.) ในดวงฤกษ์ดาวจันทร์ต้องไม่ร่วมกับดาวเคราะห์ใดใด แสดงถึงความไม่มีความสุขในชีวิตสมรส (10.)ในดวงฤกษ์เรื่อนที่ 7 ตัองว่าง ไม่มีดาวเคราะห์สถิตย์ แสดงถึงการทะเลาะวิวาท (11.) ในดวงฤกษ์ต้องไม่มีปาปเคราะห์ร่วมลัคน์ แสดงถึงความทุกข์ยากขัดสน (12.) ตรวจสอบดาราพละ และปัญจก ให้สมดุลย์ เพื่อลบล้างผลร้ายในดวงชาตาของทั้งสอง (13.) ห้ามใช้นักษัตรทำลาย เช่น เชษฐนักษัตร เป้นเหตุให้เกิดผลร้ายแก่ดวงชาตาของพี่น้องสามี นักษัตรมูลละ เป็นเหตุให้บิดา มารดาของสามีตาย อัสษิเลษะ เป้นเหตุให้มารดาของสามีตาย วิศาขะทำลายน้องชายสามี มูละทำลายบิดามารดาของทั้งสองฝ่าย (14.) พิจารณามหากูฎะเพื่อความปรองดองในการสมรส (14.1) ทินะกูฎะ หาความปรองดองในชีวิตคู่ (14.2) คณะกฏะ หาความปรองดองในเรื่องอารมณ์และนิสัยของคู่สมรส (14.3) มาเหนทรกูฏะ แสดงถึงความมีสวัสดิภาพและอายุยืนของทั้งคู่ (14.4) สตรีทีรฆกูฎะ แสดงถึงมิตรไมตรีที่มีต่อกัน (14.5) โยนิกูฏะ แสดงถึงความสอดคล้องกันในเรื่องเพศ และกามารมณ์ (14.6) ราศีกูฎะ แสดงถึงความสุขในชีวิตคู่ และความเจริญรุ่งเรือง (14.7) เคาราห์ไมตรีกุฎะ แสดงถึงจิตใจและอารมณืของคุ่สมรส การเอื้ออาทร ความมีน้ำใจให้กัน (14.8) วัศยะกูฎะ แสดงถึงความรับผิดชอบต่อกัน การปฎิบัติต่อกันตามฐานะ (14.9) รัชชุกูฎะ แสดงถึงความมั่นคงหรือระยะเวลาของชีวิตสมรส (14.10) เวธกูฎะ แสงถึงการให้โทษซึ่งกันและกัน เบียดเบียนกัน (14.11) วรรณะกูฎะ แสดงถึงความถือตัวเย่อหยิ่งต่อกันในชีวิตคุ่ (14.12) นิทิกูฎะ แสดงถึงเชื้อสายและกรรมพันธ์ ที่สมดุลยกันในคู่สมรส แต่กฏเกณฑ์ข้อห้ามมากมายเหล่านี้ อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งหมด แต่ต้องให้โหราจารย์ผู้ที่มีประสบการณ์พิจารณาผลร้ายต่างๆว่าจะควรแก้ไขปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไร ให้ลดทอนผลร้ายต่างๆในดวงฤกษ์และหาจุดดีมาทดแทน อีกทั้งต้องหาจุดเสียต่างๆในพื้นดวงกำเนิดของคู่บ่าวสาวว่ามีจุดไหนที่ขัดแย้งกัน และมีจุดไหนที่ส่งเสริมกัน โหราจารย์จะต้องปรุงดวงฤกษ์ให้สัมพันธ์กับดวงชาตาของบ่าวสาวทั้งสอง เช่น หากดวงคู่มีผลร้ายพิฆาตต่อกัน ก็ต้องหาฤกษ์มงคลสมรสที่สามารถลดทอนผลร้ายนี้ได้ หรือหากมีจุดใดที่ส่งเสริมกัน โหราจารย์ย่อมต้องหาฤกษ์ที่เสริมให้มั่นคงยิ่งๆขึ้น

โทษร้ายต่างๆในดวงชาตาของพื้นดวงคู่บ่าวสาว
อย่างไรก็ตามหากพื้นดวงชาตาของคู่บ่าว-สาวมีโทษดังต่อไปนี้ เช่น มังคลิโทษ หรือคุชโทษ (โทษร้ายจากดาวอังคาร) ,กาฬสรปะโทษ (โทษร้ายจากราหู) ,นทิโทษ (โทษร้ายของพ่อ-แม่ที่ส่งผลต่อทารก),สรปิตโทษ (โทษจากการถูกสาปแช่ง),ปิตรโทษ (โทษจากบรรพบุรุษ),กฤตติกา ชนมโทษ (โทษสำหรับผู้เกิดเดือนกฤตติกา)
(1)เสต สาติโทษ เคราะห์ร้าย 7ปีครึ่ง ที่ทุกๆคนต้องเผชิญ ช่วงนี้การแต่งงานควรต้องระวัง
(2)กาฬ สรปะ โทษ (อสรพิษแห่งความตาย)- โทษร้ายแรงในดวงชาตา
(3)ภคุฏโทษ ดวงความขัดแย้งในชีวิตคู่
(4)นทิโทษ ดวงพิฆาตคู่ครองและทำลายผู้สืบสกุล
หากมีโทษร้ายดังกล่าวข้างต้นในดวงชาตาของคู่บ่าวสาว หรือคนใดคนหนึ่ง การใช้ฤกษ์แต่งงานชั้นสูงของโหราศาสตร์พระเวทของภารตะนี้ จะช่วนลดลอนผลร้ายได้มากที่สุด ซึ่งฤกษ์ยามในระบบอื่นๆไม่สามารถทำได้
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์
ฤกษ์แต่งงานมักต้องมีดวงฤกษ์ประกอบกันหลายดวงฤกษ์เพื่อใช้ในการทำพิธีต่างๆตามขั้นตอน ทั้งนี้เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของคู่บ่าวสาว และการรักใคร่ปรองดองกัน อยู่ร่วมกันจนแก่เฒ่าดวงฤกษ์ที่ว่านี้ ก็คือ
1.ฤกษ์แต่งงานแบบไทย ท่านจะได้ 1.ฤกษ์ขันหมากหมั้น 2.ฤกษ์หลั่งน้ำสังข์ 3.ฤกษ์จดทะเบียนสมรส 4.ฤกษ์ส่งตัวเข้าเรือนหอ(ฤกษ์ปูลาดเรียงหมอน) บอกเวลา ปฐมฤกษ์ - ปัจฉิมฤกษ์ คือเวลาจุดเริ่มต้นของฤกษ์-และจุดสิ้นสุดฤกษ์ และทิศมงคลต่างๆ
2.ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ท่านจะได้เวลามงคลที่จะทำการจดทะเบียนสมรส ทิศมงคล และเคล็ดมงคลต่างๆ (บอกเวลา ปฐมฤกษ์ ปัจฉิมฤกษ์)
หมายเหตุ-
1.การจัดงานแต่งพิธีไทย สามารถจัดวันเดียวได้ และสถานที่เดียวจนเสร็จสมบูรณ์ได้ แต่หากจะเพิ่มพิธีจีนคือ พิธียกน้ำชา ก็สามารถทำได้โดยแทรกพิธีเข้าไปในช่วงการรับไหว้ หรือช่วงเวลาอื่นๆ(ของพิธีไทย) ก็จะทำให้พิธีมงคลสมรสมีการผสมผสานทั้งพิธีไทยพิธีจีนได้อย่างสมบูรณ์และงดงามยิ่งขึ้น
2.การจัดแบบพิธีจีนไม่สามารถจัดวันเดียวเสร็จได้ เพราะต้องทำตามธรรมเนียมโบราณทุกขั้นตอน ต้องใช้เวลาหลายวัน เพราะมีหลายฤกษ์ และต่างสถานที่กัน หากต้องการจัดวันเดียวแนะนำให้ใช้ฤกษ์ไทย แล้วเสริมพิธียกน้ำชาเข้าไปในช่วงเวลาต่างๆได้ เพราะการยกน้ำชาไม่ใช่ฤกษ์ จึงสามารถแทรกเข้าไปในช่วงเวลาของพิธีแต่งไทยได้ เช่น แทรกในพิธีรับไหว้ หรือแทรกหลังจากพิธีรดน้ำสังข์ เป็นต้น
3.การเลี้ยงฉลองมงคลสมรสตอนกลางคืน ไม่เกี่ยวกับฤกษ์ เพราะเมื่อทำพิธีแต่งงานตามฤกษ์แล้วก็ถือว่าพิธีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ส่วนในการเลี้ยงฉลองมงคลสมรส สามารถจัดวันที่สะดวกเช่น เย็นวันเสาร์-อาทิตย์ได้ ส่วนการเลี้ยงฉลองจะทำในวันพิธีแต่งงานก็ได้ หรือทำหลังจากวันที่ทำพิธีแต่งงานแล้วก็ได้ จะทำทั้งสองที่หรือสองครั้งก็ได้ ทำที่บ้านหรือที่โรงแรมก็ได้ เช่น เลี้ยงทั้งที่ ตจว กับ กทม เพื่อให้ความสะดวกแก่เพื่อนฝูงและญาติมิตร
ทั้งนี้เพื่อความสะดวกสำหรับการเตรียมการแต่งงานของท่าน ทางอาศรมฯจึงให้บริการคำนวนฤกษ์แต่งงานให้กับท่านล่วงหน้าได้หลายปี เพราะจะได้ทำการวางแผนการแต่งงาน การจองโรงแรม และ เตรียมการอื่นๆได้ทัน


หากต้องขอฤกษ์แต่งงาน ทางอาศรมฯจะต้องใช้เวลา 1-2 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หรืออาจใช้เวลามากกว่านี้ ในกรณีที่คู่สมรสมีดวงชาตาที่หาฤกษ์สมรสได้ยาก ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาคู่บ่าว-สาว วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด และบอกอาชีพมาด้วย พร้อมชื่อ-สกุลโดยละเอียด
2. เวลาที่ต้องการจะแต่งคร่าวๆว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน และช่วยระบุช่วงเวลาให้กว้างๆหน่อยนะครับ ประมาณ 3, 6เดือน 8 เดือน - 1 ปี เช่น ต้องการแต่งระหว่าง เดือนมกรา -มีค 60 หากในช่วงเวลาดังกล่าวไม่สามารถหาฤกษ์ได้ ทางอาศรมจะให้ฤกษ์ในเวลาที่ใกล้เคียงที่สุดแทน
3. แต่งแล้วเจ้าบ่าวไปอยู่บ้านเจ้าสาว (อาวาหมงคล) หรือเจ้าสาวไปอยู่บ้านเจ้าบ่าว (วิวาหมงคล) หรืออยู่ด้วยกันเอง และแต่งแล้วจะต้องไปร่วมทำกิจการอาชีพร่วมกันหรือไม่อย่างไร
4. แต่งแล้วต้องการมีบุตรกี่คน แบบไหน ชายหรือหญิง
5.ในการจัดพิธีแต่งงานต้องการวันเดียวกันจนจบพิธี หรือต้องการแยกวันหมั้น/สู่ขอ และวันแต่งแยกคนละวันกัน
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผมต้องการสำหรับคำนวนดวงฤกษ์ และยังมีรายละเอียดปลีดย่อย เช่น เคล็ดมงคลในการแต่งงาน จะต้องทำอย่างไร และมีข้อห้ามอะไรบ้างเราจะแจ้งให้เป็นรายๆไปครับ
ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย





เมื่อทางอาศรมฯได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์แล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์แต่งงาน ให้กับท่านทางอีเมล์ ภายใน1-2 วันแล้วแต่กรณี และ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม ฤกษ์มงคลที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
*ฤกษ์แต่งงานแบบไทย ท่านจะได้ 1.ฤกษ์ขันหมากหมั้น 2.ฤกษ์หลั่งน้ำสังข์ 3.ฤกษ์จดทะเบียนสมรส 4.ฤกษ์ส่งตัวเข้าเรือนหอ บอกเวลา ปฐมฤกษ์ - ปัจฉิมฤกษ์ คือเวลาจุดเริ่มต้นของฤกษ์-และจุดสิ้นสุดฤกษ์ และทิศมงคลต่าง
*ฤกษ์แต่งงานแบบจีน (**งดบริการชั่วคราว) ท่านจะได้ฤกษ์ 1.ปูเตียง 2.แต่งผมเจ้าสาว 3.ฤกษ์ตัดชุด 4.ฤกษ์หมั้น 5.ฤกษ์ลงจากเกี้ยว(ส่งตัวเข้าบ้านเจ้าบ่าว) 6.ฤกษ์ตึงฉู่ (ฤกษ์กลับบ้านเจ้าสาว) ที่สมพงษ์กับเจ้าบ่าวสาว และบิดามารดาของทั้งสองฝ่าย สมพงษ์ทั้งฤกษ์ไทยฤกษ์จีน ใบฤกษ์เขียนเป็นภาษาไทยและจีน (บอกเวลา ปฐมฤกษ์ - ปัจฉิมฤกษ์)
*ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ท่านจะได้เวลามงคลที่จะทำการจดทะเบียนสมรส ทิศมงคล และเคล็ดมงคลต่างๆ (บอกเวลา ปฐมฤกษ์ ปัจฉิมฤกษ์)

ฤกษ์แต่งงานแบบจีน(งดให้บริการชั่วคราว)



ในใบฤกษ์จะมีให้ทั้งภาษาไทย-จีน และคำนวนฤกษ์แต่งงานให้เป็นมงคลทั้งไทยและจีน (งดให้บริการชั่วคราว)
(ค.)ฤกษ์แต่งงานจีน **งดบริการชั่วคราว โดยในอีเมล์จะมีรายละเอียดจำนวน 16 หน้า โดยเป็นการอธิบายวิธีการใช้ฤกษ์ วิธีการทำพิธีกรรม และลำดับพิธีกรรมแบบจีน เช่น พิธีหมั้น พิธีปูเตียง พิธีคั่งเต๊(ยกน้ำชา) พิธีการตัดชุดเจ้าสาว พิธีสระผมเจ้าสาว พร้อมคำบูชาพระภูมิเจ้าที่และเทพยดาอารักษ์ (สำหรับงานมงคลสมรส) คำบูชาสำหรับไหว้บรรพบุรุษ (สำหรับงานมงคลสมรส) และอธิบายเรื่องฤกษ์ยามชั้นสูงว่าแตกต่างจากฤกษ์ยามทั่วไปอย่างไร
พร้อมแนบเอกสารไฟล์ PDF อีกจำนวน 4 ชุด คือ
ใบฤกษ์มงคลสมรสแบบจีน (ตามตัวอย่าง)จำนวน 3 แผ่น ได้ออกแบบอย่างดงามด้วยศิลปะลวดลายแบบจีนด้วยหงส์และมังกรพร้อมคำอวยพรให้อยู่กินกันจนแก่เฒ่า เจริญรุ่งเรือง เหมาะสำหรับพิมพ์เก็บไว้หรือใส่กรอบไว้เป็นที่ระลึกเนื่องในงานมงคลสมรส โดยใบฤกษ์แต่ละแผ่นจะมีรายละเอียดดังนี้
(1.)ใบฤกษ์มงคลสมรสแบบจีน แผ่นที่ 1 คำนวนดวงชาตาของคู่บ่าวสาวแบบจีนและเทียบกับไทย
(2.)ใบฤกษ์มงคลสมรสแบบจีน แผ่นที่ 2 ใบฤกษ์เขียนเป็นภาษาไทย ได้ระบุฤกษ์ไว้จำนวน 7 ฤกษ์ คือ ๑.ฤกษ์หมั้น ๒.ฤกษ์ตัดปูเตียง ๓.ฤกษ์ตัดชุดเจ้าสาว ๔.ฤกษ์ทำผมเจ้าสาว ๕.ฤกษ์ออกจากบ้านเจ้าสาว ๖. ฤกษ์รับเจ้าสาวเข้าบ้านเจ้าบ่าว หรือ ฤกษ์แต่งงานจีน ๗.ฤกษ์ตึงฉู่ (ฤกษ์กลับบ้านเจ้าสาว) พร้อมระบุคนที่เกิดปีชงกับฤกษ์ และระบุเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของฤกษ์ในแต่ละฤกษ์
(3.)ใบฤกษ์มงคลสมรสแบบจีน แผ่นที่ 3 ใบฤกษ์เขียนเป็นภาษาจีน ตามรายละเอียดของแผ่นที่ 2 ในกรณีที่คู่บ่าวสาว หรือบิดามารดามีชื่อจีนก็สามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมชื่อจีนในตอนขอฤกษ์ได้
(4).กฏเกณฑ์การให้ฤกษ์ยามชั้นสูง จำนวน 63 หน้า (อธิบายความสำคัญและความเป็นมาและวิธีคำนวนฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์พระเวท (ภารตะ) ซึ่งจะแตกต่างจากโหราศาสตร์ไทย )

เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
******************************************************
ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์แต่งงาน ดูฤกษ์แต่งงาน ที่ไหนดี ปี 2022
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์โกนผมไฟ
- จำนวนผู้อ่าน: 406561


**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
ดูฤกษ์มงคล ฤกษ์โกนผมไฟ ฤกษ์ทำขวัญเดือน ปี 2568 *****ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 919 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย

ตัวอย่างใบฤกษ์โกนผมไฟ
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
ในการขอฤกษ์โกนผมไฟ อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของเด็ก
ในการหาฤกษ์โกนผมไฟ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ชื่อและดวงชาตาเด็ก เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด
หากยังไม่ตั้งชื่อ กรุณาอ่านบทความการตั้งชื่อตามหลักทักษาปกรณ์ คลิ๊กที่นี่
2. เวลาที่ต้องการจะทำพิธีโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์โกนผมไฟ โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์โกนผมไฟ 919.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบุูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 919 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
เมื่ออาศรมฯได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์แล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์โกนผมไฟให้กับท่านทางอีเมล์ ภายใน 24 ชั่วโมงและ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม
***ฤกษ์มงคลที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์โกนผมไฟโดยให้วันและเวลาที่สมพงษ์กับดวงชะตาของเด็ก
2.ทิศมงคลสำรับการทำพิธีโกนผมไฟ
3.พิธีกรรมการโกนผมไฟแบบง่าย และสะดวก
******************************************************************
![]()

ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
ฤกษ์โกนผมไฟ--ฤกษ์ ยามคือสิ่งที่ บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ(ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์และฤกษ์ยาม ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย

การทำขวัญเดือน ก็คือการโกนผมไฟ นั่นเอง โกนผมไฟ หรือ พิธีทำขวัญเดือน เป็นพิธีที่ทำสืบเนื่องมาแต่โบราณ โดยมีความเชื่อกันว่า ผมของเด็กที่ติดมากับครรภ์มารดานั้น ไม่สะอาด จึงต้องโกนทิ้งเพื่อให้ผมขึ้นมาใหม่
ในการทำขวัญเดือนนี้มักเข้าในกันว่าจะต้องอายุครบเดือนแล้วจึงค่อยทำพิธี แต่จริงๆแล้วจะต้อง นำ วัน เดือน ปีเกิดของเด็กที่คลอดไปให้โหรผูกดวงก่อนแล้วจึงกำหนดฤกษ์ว่าควรจะเป็นวันเวลาใด ที่สมพงษ์กับดวงชาตาของเด็ก เพื่อให้เกิดศิริมงคลแก่ตัวเด็กและบิดามารดา เพื่อให้เด็กเลี้ยงง่ายอยู่รอดปลอดภัยและเฉลียวฉลาด ปัญญาดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ดังนั้นการโกนผมไฟจะกระทำเมื่อหาฤกษ์ที่เป็นมงคลกับตัวเด็กก่อนเป็นอันดับแรกและจะได้วันไหนก็สุดแท้แต่ฤกษ์ซึ่งโหรจะเป็นผู้กำหนด เด็กอาจจะอายุ 1เดือน ไปจนถึง 6 เดือน -12 เดือนก็สามารถกระทำพิธีโกนผมไฟได้หมด (ซึ่งคนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าจะต้องทำเมื่ออายุครบ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้อง)
ดังนั้นเมื่อได้ฤกษ์โกนผมไฟแล้วก็จะจัดให้มีการทำขวัญ ตั้งชื่อ ขนานนาม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ เด็ก ส่วนพิธีโกนผมไฟ จะทำอย่างไรนั้น ก็สุดแต่กำลังทรัพย์ ของบิดามารดาและวงศ์ตระกูล
ในอดีต พิธีการโกนผมไฟ มักทำการอย่างใหญ่โตมาก ก็คือ มีพิธีสงฆ์มีการเจริญ พระพุทธมนต์ มิพิธีพราหมณ์ มีเครื่องเซ่นสรวงสังเวย มีการเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาในพิธี หลั่งน้ำสังข์ที่ศีรษะเด็ก ระหว่างนั้น พระสงฆ์สวดชยันโต ปี่พาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัย จากนั้นมอบเด็ก ให้ผู้อื่น โกนผมไฟต่อ พอเสร็จพิธีโกนผมไฟแล้ว จะมีพิธีเอาเด็กลงอู่สู่เปล

แต่ในปัจจุบัน การทำพิธีโกนผมแบบข้างต้นนั้นก็ทำได้ยากเนื่องด้วยครอบครัวสมัยใหม่ มีเวลาค่อนข้างจำกัด และก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มรูปแบบเหมือนในสมัยก่อน
ทางอาศรมของเราต้องการ ที่จะให้ประเพณีทำขวัญเดือน หรือประเพณีการโกนผมไฟ นี้ยังคงอยู่สืบต่อไป เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเด็กเอง และครอบครัว โดยจะแนะให้ทำพิธีอย่างง่ายๆและรวบรัดให้เหมาะกับสภาวะสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงรูปแบบประเพณีดั้งเดิมเอาไว้ได้มากแค่ไหน ก็สุดแท้แต่ความเห็นควรของแต่ละครอบครัว แต่ที่สำคัญที่สุดและจะขาดไม่ได้ก็คือฤกษ์โกนผมไฟที่ถูกต้องตามหลักวิชาโหร ซึ่งจะพอเป็นหลักประกันได้ว่าจะเป็นศิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองให้กับตัวเด็กและครอบครัวได้อย่างแน่นอน
เหล่านี้นับวันยิ่งหายากเต็มที เพราะไม่ว่าด้วยสาเหตุของเวลาที่จำกัด บวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนใหญ่เลยโกนผมไฟกันเอง ซึ่งจะง่ายขึ้นถ้าโกนในช่วงที่เด็กกำลังหลับอยู่ อุปกรณ์ในการโกนผมไฟนั้นมี ใบมีดโกน กรรไกร หวี ใบบอน หรือ ใบบัว 1 ใบ (ไว้ลองเส้นผม) และดอกอัญชัน
ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เมื่อโกนผมเสร็จแล้ว ก็จะนำเส้นผมที่ไว้บนใบบอน หรือใบบัว ผู้ใหญ่จะเอาไปลอยน้ำ โดยที่เก็บส่วนหนึ่งใส่กล่องไว้พอเป็นพิธี แล้วไปวางในเตียงของเด็ก หรือไว้ใกล้ตัวเด็ก เพราะโบราณเชื่อกันว่า เด็กจะไม่งอแง ถ้ามีเส้นผมของเขาอยู่ใกล้ตัว คล้ายว่าเด็กจะหวงของๆเขามาก แต่ไม่สามารถสื่อสารกับเราได้


ขั้นตอนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ นำดอกอัญชัน โดยขยี้ให้สีของดอกไม้ออกมา แล้วนำมาทาที่ศีรษะของเด็ก เพื่อที่ว่าผมที่ขึ้นใหม่จะได้ดกดำมากกว่าเดิม
นอกจากโกนผมไฟแล้ว คิ้วของเด็กก็ต้องโกนด้วยเช่นกัน ดังนั้น คนโบราณจึงนิยมนำ ก้านพลูมาเขียนคิ้วเพื่อให้คิ้วที่ขึ้นมาสวยงามได้รูป
ความจริงเรื่องฤกษ์โกนผมไฟที่ถูกต้องตามหลักโหรฯ จะมีคุณประโยชน์ดังนี้
1.สามารถก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ตามที่เราปรารถนา(ตามกำลังของฤกษ์ในขณะนั้นๆ) และทำให้เด็กเฉลียวฉลาด เพราะการโกนผมไฟเป็นการกระตุ้นให้สมองได้รับพัฒนา เซลล์สมองรอยหยักในสมองก็จะเพิ่มมากขึ้น
2.สามารถแก้ไขดวงชาตาเดิมของเจ้าของ จากร้ายกลายเป็นดีได้ (ตามกำลังของฤกษ์ในขณะนั้นๆ)
3.สามารถที่จะบรรเทาและสลายผลร้ายต่างๆ ที่อาจจะจะเกิดขึ้นมาในอนาคตจากหนักเป็นเบา หรือจากเบาเป็นไม่มี (ตามกำลังของฤกษ์ในขณะนั้นๆ)
ดังนั้นหัวใจของฤกษ์ยามที่ถูกต้องก็คือ การใช้ฤกษ์บนและฤกษ์ล่างให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดศุภอิทธิพล เป็นศุภผลแก่เจ้าการ หรือเจ้าของงานที่จะกระทำการโดยฤกษ์นั้นๆ
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย



เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์ปลูกบ้าน
- จำนวนผู้อ่าน: 586706

บริการดูฤกษ์มงคล ฤกษ์ยกเสาเอก ฤกษ์ตอกเสาเข็ม วางศิลาฤกษ์ ฤกษ์สร้างบ้านปี 2568 *****ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 999 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*******

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
การคำนวนฤกษ์ (ฤกษ์ยกเสาเอก,ฤกษ์ตอกเข็มเอก, ฤกษ์เปิดหน้าดิน, ฤกษ์วางศิลาฤกษ์ )จะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน แปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ในการขอฤกษ์ยกเสาเอก อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1-2 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่านเอง
การหาฤกษ์ยกเสาเอก สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของบ้าน เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด หากเป็นสามีภรรยาก็ต้องแจ้งมาทั้งสองท่านและบอกอาชีพมาด้วย
2. เวลาที่ต้องการจะปลูกบ้าน โดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
3. แบบบ้านเป็นแบบไหน สองชั้นหรือชั้นเดียว เป็นโกดัง โรงงาน อาคารพานิชย์ หากมีแผนที่เขียนทิศทางมาด้วยจะดีมาก
4. บ้านปลูกแล้วจะเอาไปทำอะไร ใช้ หรือให้เช่า อยู่เอง หรือ ต้องการดวงฤกษ์เด่นด้านไหน ให้คุณเรื่องอะไร เช่นค้าขายดี หรือได้เลื่อนตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา หรือ ช่วยทำมาหากิน โชคลาภ ฯลฯ
5. ประเภทของฤกษ์ เช่น ฤกษ์ยกเสาเอก, ฤกษ์ตอกเสาเข็ม ,ฤกษ์ยกเสาเอก+ตอกเสาเข็ม ,ฤกษ์เปิดหน้าดิน ,ฤกษ์วางศิลาฤกษ์
6.ถ้าหากต้องการให้อาจารย์ระบุตำแหน่งเสาเอก-โทในแปลนบ้าน ให้ส่งแปลนบ้านชั้นล่าง+ทิศ เมล์มาพร้อมกับการขอฤกษ์ ดูตัวอย่างการส่งแปลนบ้านคลิ๊กที่นี่
บางคนก็อาจจะสะดวกใช้ฤกษ์เพียงฤกษ์เดียวหรือหลายฤกษ์(ตามความเหมาะสมของการก่อสร้าง) ให้เลือกเอาว่าจะเอาฤกษ์อะไร ซึ่งบางคนก็จะอาจจะใช้ฤกษ์ตอกเสาข็มอย่างเดียวแล้วยกเสาเอกในภายหลังแบบไม่ ต้องคำนึงถึงฤกษ์ หรือตอกเสาเข็มไปก่อนแบบไม่ต้องดูฤกษ์ แต่ใช้ฤกษ์ยกเสาเอกแทนก็ได้
หรือบางคนก็จะขอแยก 2 ฤกษ์เพื่อความเป็นศิริมงคลให้ครบถ้วนคือ ฤกษ์ตอกเข็มเอก และ ฤกษ์ยกเสาเอก ซึ่งต้องกำหนดระยะเวลามาให้ผมก่อน ว่าจะต้องให้ฤกษ์ตอกเข็มและฤกษ์ยกเสาเอกห่างกันกี่วัน (ปกติแล้วการตอกเสาเข็มกับการยกเสาเอก จะห่างกันประมาณ 15-30 วัน กรุณาปรึกษาช่างก่อน)
หรือบางท่านแปลนบ้านและรูปแบบบ้านยังไม่พร้อม ก็อาจจะใช้ฤกษ์เปิดหน้าดินเพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือหากเป็นอาคารขนาดใหญ่ สถานที่ราชการก็ควรจะขอฤกษ์วางศิลาฤกษ์
**กรอกแบบฟอร์มขอฤกษ์ยกเสาเอก-ตอกเสาเข็ม คลิ๊กแบบฟอร์มด้านล่างนี้...
ค่าครูบูชาฤกษ์ยกเสาเอก 999.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไปจะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 999 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

------------------------------------------------------------------------
สนใจเชิญอาจารย์ไปทำพิธียกเสาเอก กรุณาติดต่อคุณกมล(บอย) 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF ) ชมภาพทำพิธียกเสาเอกของอาจารย์ได้ที่นี่ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-22/2016-09-26-02-20-46.html
------------------------------------------------------------------------
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครูฤกษ์ยกเสาเอก
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
และเมื่อทางอาศรมฯได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์ยกเสาเอกแล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์มงคลให้กับท่านทางอีเมล์ ภายใน 24 ชั่วโมงและ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม จะมีรายละเอียดในอีเมล์ที่ส่งฤกษ์ให้กับท่าน ประมาณ 15-25 หน้า พร้อม PDF File อธิบายกฏเกณฑ์การให้ฤกษ์ชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะ(พระเวท)จำนวน 63 หน้า
ฤกษ์ฤกษ์ยกเสาเอกที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ทิศมงคลสำหรับขุดหลุม การขนดินไว้ตามทิศต่างสำหรับการลงเสาเอก ทิศสำหรับการวางเสา
2.ทิศมงคลสำหรับยกเสาเอก โท
3.เวลาฤกษ์สำหรับยกเสาเอก /ตอกเข็มเอก ตัดเวลาตั้งแต่ปฐมฤกษ์-สุดฤกษ์ เป็นเวลาเท่าใด ที่สมพงษ์กับดวงชาตาของเจ้าบ้าน และสมพงษ์กับกิจการของอาคารที่กำลังจะก่อสร้าง
4.รายละเอียดของเครื่องบูชา สำหรับการยกเสาเอก
เมื่อท่านได้สร้างอาคารบ้านเรือนเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากต้องการฤกษ์ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่/ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ /ฤกษ์ตั้งศาล กรุณากลับเข้ามากรอกแบบฟอร์มขอฤกษ์อีกครั้ง เมื่อสร้างเสร็จแล้ว
*ดูภาพพิธี วางศิลาฤกษ์ ยกเสาเอก ตอกเสาเข็ม คลิ๊กที่นี่

การหาฤกษ์ปลูกบ้าน หรือหา"ฤกษ์ยกเสาเอก"ให้ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์นั้น จำเป็นจะต้องคำนวนฤกษ์มาจากดวงเจ้าของบ้าน ชาย-หญิง สามี-ภรรยาเท่านั้น แล้วหาวันดี และวันสมพงษ์กับดวงเจ้าของบ้านให้สัมพันธ์กัน จึงจะถือว่าเป็นมงคล สามารถแก้ไขดวงชาตาและส่งเสริมดวงเจ้าของบ้านได้ การหาฤกษ์มงคลที่สมพงษ์กับดวงชาตา สามารถแก้ไขพื้นดวง และบรรเทาผลร้ายในดวงชาตาให้ลดทอนลงได้ และส่งเสริมโชคลาภ การทำมาหากิน และปัดเป่าอุปสรรค อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโจรภัย อัคคีภัย อันตรายต่างๆ ฯลฯ
ฤกษ์ยามที่ถูกต้องจึงไม่ใช่ดูจากปฎิทินแล้วบอกว่าเป็นวันดี วันธงไชย ฯลฯ แล้วยึดเอาตามนั้น วันดีตามปฎิทินก็อาจจะเป็นวันร้ายของเราก็ได้
ในการยกเสาเอกนั้น หากเป็นบ้านสมัยก่อนเรามักมีเสาไม้ มาเพื่อประกอบเป็นตัวบ้าน ฉะนั้นในการยกเสาเอกก็สามารถทำได้ตามแบบโบราณ ก็ตือเลือกหาไม้มงคลที่จะมาเสาเอก มีพิธีกรรมเซ่นสรวง บูชา พิธีตัดไม้ แต่ในปัจจุบันหาไม่มีแล้ว
พอมาในสมัยนี้อาคารบ้านเรือนก็เป็นตึกแถว เป็นปูน เป็นอาคารสูง ฉะนั้นพิธีกรรมการวางรากฐานก็จะไม่ใช่การยกเสาเอกแบบโบราณ แต่เป็นพิธีกรรมแบบอื่นๆ เช่นการวางศิลาฤกษ์ หรือการ ลงเสาเข็ม หรือตอกเสาเข็มเอกแทน พิธีการยกเสาเอก
อย่างไรก็ตามว่าไปตามหลักการของ"ฤกษ์ยกเสาเอก"ที่สำคัญก็คือเมือนได้วันดีฤกษ์ดี (ฤกษ์บน) แล้ว ก็ต้องมาสอบทานกับดวงเจ้าของบ้านว่าสมพงษ์กับฤกษ์ในวันนั้นหรือไม่ หากไม่สมพงษ์ฤกษ์ดีวันดีนั้นก็ใช้ไม่ได้เพราะจะเป็นโทษแก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ดังนั้นก็ต้องทำการคำนวนหาฤกษ์ใหม่ไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้วันดี ฤกษ์ดี และสมพงษืกับดวงชาตากำเนิดของเข้าของบ้าน ทั้งสามีและภรรยา นี่จึงจะเรียกว่าเป็นฤกษ์ที่ดีที่ถูกต้องตามหลักวิชาโหราศาสตร์ ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัย เจ้าของบ้านอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง ปราศจากศัตรู โรคภัยไข้เจ็บ มียศศักดิ์ มีบริวาดี บุตรหลานดี นอกจากนี้ดวงฤกษ์ที่เป็นศุภผลนี้จะรับประกันได้ว่าจะคุ้มครองป้องกันให้อาคารบ้านเรือนนั้นพ้นจากภัยทั้งหลาย เช่น วาตภัย อุทกภัย อัคคีภัย โจรภัยได้เป็นอย่างดี และฤกษ์ดีก็จะส่งผลคุ้มครองให้ปลอดภัยดีกว่าบริษัทประกันภัยแห่งไหนๆในโลก
ดังนั้นหัวใจของ ฤกษ์ยกเสาเอก ที่ถูกต้องก็คือ การใช้ฤกษ์บนและฤกษ์ล่างให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดศุภอิทธิพล เป็นศุภผลแก่เจ้าการ หรือเจ้าของงานที่จะกระทำการโดยฤกษ์นั้นๆ
ประเภทของฤกษ์ยามที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและวางรากฐาน
ฤกษ์ยามมงคลที่มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของผู้อยู่อาศัยและกิจการต่างที่จะเริ่มต้นกระทำในแผ่นดินมีหลายแบบหลายประเภท ซึ่งขึ้นอยู่กับประเพณีและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นและความเหมาะสมของโครงสร้างที่จะการทำ โดยปกติมีดังนี้
- ฤกษ์เปิดหน้าดิน ปกติมักจะเป็นประเพณีแบบคนจีน ที่จะเริ่มทำการสร้างบ้าน เรียกว่า “ต้งถู่动土” โดยเหมาะสำหรับพื้นที่เปล่าหรือการก่อสร้างที่ยังไม่ได้กำหนดผังโครงสร้าง หรือ ทิศทางเอาไว้แน่ชัด และเป็นพิธีสำหรับการเปิดหน้าดินเอาฤกษ์เอาชัยเพื่อจะเริ่มทำการก่อสร้างบ้านหรือกิจการต่างๆในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งประเพณีของฝรั่งก็มีคล้ายๆกันเรียกว่า Groundbreaking
- ฤกษ์ตอกเสาเข็ม (ตอกเข็มเอก) เป็นฤกษ์อันแรกสำหรับวาระการก่อสร้างบ้านเรืองที่อยู่อาศัย ซึ่งในอดีตแต่โบราณมักไม่กระทำกันเพราะไม่จำเป็น เพราะเป็นเรือนไม้ แต่สำหรับบ้านในสมัยปัจจุบันก็คงหลีกเลี่ยงไม่พ้นการตอกเสาเข็ม เว้นแต่ว่าอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีดินแข็ง ดินดาน ดินปนหิน บางครั้งการตอกเสาเข็มก็ไม่จำเป็น
- ฤกษ์ยกเสาเอก เป็นฤกษ์ทำกระทำกันมาแต่โบราณ ซึ่งต้องหาฤกษ์ยามที่เป็นมงคลในการตั้งเสาต้นแรกของตัวบ้าน อีกทั้งต้องหาตำแหน่งทิศเสาเอก โท ตรี ทิศของการขุดหลุม การโกยมูลดินที่ขุดกองเอาไว้ในทิศที่เป็นมงคล และการวางเสา ต้องหันปลายเสาไปทิศไหนที่เป็นมงคลของวันและเดือนนั้นๆ
- ฤกษ์วางศิลาฤกษ์ เป็นฤกษ์ใหญ่และสำคัญ ซึ่งมักจะต้องเป็นอาคารขนาดใหญ่ ศาสนาสถาน วัดโบสถ์ วิหาร ลานเจดีย์ หรือ อาคารสำนักงานของหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน ก็มักจะใช้การวางศิลาฤกษ์เป็นหลัก
พิธีกรรมการสร้างบ้านที่นิยมทำกันในสมัยปัจจุบัน
1.บ้าน คสล.ไม่เกิน 2 ชั้นครึ่ง ที่ต้องใช้การตอกเสาเข็ม และสามารถผูกเหล็กเป็นโครงเสาเพื่อทำการยกเสาเอกได้ให้ใช้พิธีกรรมได้ 3 แบบ ให้เลือกเอาเพียงอย่างเดียวคือ
1.1พิธีตอกเข็มเอก มีพิธีการบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ สังเวยเทวดา อ่านโองการ (ต้องมีอาจารย์/หมอโหรา/พราหมณ์ มาทำพิธีให้)โดย ถือฤกษ์ในการตอกเสาเข็มต้นแรกลงในแผ่นดิน ซึ่งวิธีนี้ไม่ต้องทำการขุดหลุมเอาไว้ก่อนพอทำพิธีเสร็จแล้วก็ค่อยขุดหลุม ยกเสาและทำการสร้างตามแบบแปลนได้เลย (ต้องมีฤกษ์ตอกเข็มเอก)
1.2พิธียกเสาเอก มีพิธีการบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ สังเวยเทวดา อ่านโองการ (ต้องมีอาจารย์/หมอโหรา/พราหมณ์ มาทำพิธีให้)ซึ่งต้องมีการขุดหลุมตามทิศต่างๆเอาไว้ก่อนแล้วจึงมีพิธียกเสาเอก (ต้องมีฤกษ์ยกเสาเอก)
1.3พิธีตอกเข็มเอก+ยกเสาเอก เพื่อความสมบูรณ์ของฤกษ์ยาม โดยมีทั้ง ฤกษ์ตอกเข็มเอก และ ฤกษ์ยกเสาเอก การตอกเข็มเอกด้วยพิธีแบบง่ายก่อน โดยให้เจ้าภาพจุดธูปเทียนบอกกล่าวขอขมาพระภูมิเจ้าที่ (เจ้าบ้านทำเอง)โดยถือฤกษ์ในการตอกเสาเข็มต้นแรกลงในแผ่นดิน หลังจากนั้นประมาณ 15-30 วันก็ต้องมีพิธียกเสาเอก มีพิธีการบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ สังเวยเทวดา อ่านโองการ (ต้องมีอาจารย์/หมอโหรา/พราหมณ์ มาทำพิธีให้) (ต้องมีฤกษ์ตอกเข็มเอก+ยกเสาเอก)
2.บ้านที่เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ มากกว่า 3 ชั้น ซึ่งไม่สามารถทำการผูกเหล็กหล่อเสาได้ ให้ใช้ฤกษ์เดียวและพิธีกรรมตอกเข็มเอกเพียงอย่างเดียว มีการบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ สังเวยเทวดา อ่านโองการ โดยถือฤกษ์การก่อสร้างคือการเจาะเข็มต้นแรกลงไปในแผ่นดิน
3.อาคารที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่มากและซับซ้อน ให้ใช้พิธีวางศิลาฤกษ์ การบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ สังเวยเทวดา อ่านโองการเชิญเทวดาแบบเต็มสูตรซึ่งต้องใช้คณะผู้ทำพิธีมีหลายท่าน โดยมากเป็นคณะพราหมณ์
ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
ในสมัยโบราณท่านมหาฤาษีผู้รจนาคัมภีร์โหราศาสตร์และฤกษ์ยามต่างๆได้กล่าวเอาไว้ว่า การสร้างรากฐานอาคารบ้านเรือนสำหรับอยู่อาศัยนั้นมีส่วนประกอบอยู่ 4ประการคือ 1.การวางรากฐาน (หรือ ยกเสาเอก วางศิลาฤกษ์ ฯลฯ) 2.การขุดบ่อน้ำ (ในปัจจุบันไม่มีธรรมเนียมนี้แล้ว)
3.การเข้ากรอบประตู (ในปัจจุบันก็ไม่มีธรรมเนียมนี้แล้ว) 4.การเข้าอยู่บ้านใหม่ หรือการขึ้นบ้านใหม่ ท่านมหาฤาษีกล่าวว่าประการที่ 1 และ 4 สำคัญมากที่สุดในการหาฤกษ์ยามเพื่อความสุขสวัสดีของผู้อยู่อาศัยในการปลูกบ้านนี้ จะมีเดือนที่ปลูกบ้านได้ตามกำหนดมาแต่โบราณ และจุดทิศทางวางเสาเอก การตอกไม้มงคล การกำหนดเวลามงคลฤกษ์ยกเสาเอก ฯลฯ
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย

1.สำหรับท่านที่ไม่มีเวลาเกิดหรือมีเวลาเกิดที่ไม่แน่นอน ก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากเราใช้วิธีคำนวณหาฤกษ์แบบโบราณจะไม่มีปัญหา ซึ่งในสมัยก่อนคนที่จะทราบเวลาเกิดที่แน่นอนมีน้อยมาก ส่วนมากก็จะเพียงแค่ทราบว่าเกิดวันไหน หรือรู้แต่เพียงว่า เกิดต้อนเช้า สาย บ่ายเย็น เกิดตอนพระบิณฑบาต เกิดตอนต้อนวัวเข้าคอก เกิดตอนพระตีระฆังเพล ฯลฯอย่างนี้เป็นต้น
โดยเราจะคำนวณจากองศาพระอาทิตย์ในวันที่ท่านเกิด ประกอบกับคำนวณจากองศาพระจันทร์ในฤกษ์ที่จันทร์เสวยนั้น ๆเป็นหลัก ซึ่งวิธีนี้จะคำนวณจากเวลา 07.00 น. ของทุกวัน สำหรับท่านทที่ไม่มีเวลาเกิดที่แน่นอน เราจะตั้งค่าการคำนวณจากเวลา 07.00 น. ก็จะทำให้สามารถหากฤกษ์กำเนิดในดวงชาตาได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า “การใช้ดาวอาทิตย์เป็นลัคนา)
2.สำหรับท่านไม่มีทั้งวัน เวลาเกิด หรือแม้กระทั่งปีเกิดก็ไม่มี ทางโหราศาสตร์ภารตะนั้นก็มีวิธีคำนวณดวงชาตาอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า “นามนักษัตร” คือใช้ชื่อตอนแรกเกิดของคนๆนั้น มาคำนวณดวงชาตาและคำนวณฤกษ์ จากดาวนักษัตรทั้ง ๒๗ นักษัตรที่สัมพันธ์กับตัวอักษรแรกของชื่อที่ตอนถือกำเนิด ซึ่งวิธีนี้ใช้กันมาหลายพันปีแล้ว และทางอาศรมฯก็สามารถคำนวณฤกษ์โดยใช้วิธีนี้ให้ท่านได้ โดยยังคงความถูกต้องแม่นยำ เหมือนกับคนที่มีวันเกิดทั่วไป (แต่ชื่อใหม่ที่เคยเปลี่ยนนั้นใช้ไม่ได้ จำเป็นต้องเป็นชื่อที่ตั้งตอนแรกเกิด เท่านั้น
3.สำหรับท่านที่เกิดต่างประเทศ /อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ในการกรอกข้อมูลกำเนิดให้ใช้เวลาเกิด ณ ประเทศที่ท่านเกิดได้เลย หรือต้องการใช้ฤกษ์มงคลเพียงแค่แจ้งชื่อเมือง /ประเทศ/รัฐ /เวลาท้องถิ่น/เวลา DST ที่ท่านต้องการประกอบการมงคลต่างๆ ส่วนอาจารย์จะแจ้งฤกษ์มงคลตามเวลาท้องถิ่น Local Time ณ เมืองที่ท่านอาศัยอยู่ โดยอาจารย์จะคำนวนจาก Time Zone,DST,GMT,Lat-Long ซึ่งแม่นยำและไม่ผิดพลาด

บริการดู ตำแหน่งเสาเอก เสาโท ฟรี
ใบฤกษ์ยกเสาเอก

ภาพจากผู้ใช้ฤกษ์(ที่ขอฤกษ์จากเว็บไซด์) -จากหน่วยงานราชการ-มหาวิทยาลัย
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรีและนายกสภามหาวิทยาลัยฯ เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารเรียนรวมและเอนกประสงค์ ณ มหาวิทยาลัย.สุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีอธิการบดี ผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษาร่วมในพิธี เมื่อวันที่ 22 กค 2553 โดยคำนวนฤกษ์จากเว็บของเรา astroneemo.net

พิธีกรรมยกเสาเอก
เมื่อได้ฤกษ์แล้วควรไปเตรียมการขุดหลุมเตรียมยกเสาก่อน ตามรายละเอียดแผ่นดวงฤกษ์ ที่ผมเขียนบอกเรื่องทิศในการขุดหลุมเอาไว้ก่อนวันยกเสาเอก
ข้อควรระวัง
- อย่าให้เสาเอก/หรือเสาเข็มเอก เป็นตำแหน่งห้องน้ำของบ้านจะทำให้ไม่เป็นมงคล
- หากเจ้าภาพที่เป็นสตรีกำลังมีรอบเดือนในขณะวันทำพิธี ให้จุดธูปและพนมมือไหว้อย่างเดียว ห้ามแตะต้องของบวงสรวงหรือของมงคลต่างๆ และห้ามลงไปในหลุมเสาเอกเป็นเด็ดขาด กรุณาให้ผู้ใกล้ชิดทำหน้าที่แทน และจุดธูปเทียนทำพิธีได้ ส่วนขณะทำพิธีห้ามแตะต้องของบวงสรวง จนกว่าพิธีจะแล้วเสร็จ แต่สามารถซื้อของเตรียม และวันงานสามารถจัดของทำพิธีได้
**ห้ามยกเสาอื่นๆขึ้นก่อนเสาเอก-เสาโทอย่างเด็ดขาด เพราะเสาเอกคือเสาต้นแรกที่จะยกขึ้นตั้งเป็นปฐมตามเวลาฤกษ์เท่านั้น แต่มีผู้รับเหมาบางรายชอบมักง่าย ต้องการประหยัดค่าแรง โดยทำการตั้งเสาอื่นๆก่อนเสาเอก-โท แล้วเหลือเสาเอกโท เอาไว้ตั้งทีหลังตามฤกษ์ อย่างนี้ถือว่าเสียฤกษ์และไม่เป็นมงคลแก่เจ้าของบ้าน
ณ ฤกษ์นี้อันเป็นมงคลยิ่งนี้จงเสริมดวงชาตาของท่านเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยให้เจริญรุ่งเรือง หากมีอุปสรรคใดใดขอให้จงผ่านพ้นไปด้วยความสวัสดี ขอให้ท่านและบ้านเรือนเคหะสถานของท่านจงเจริญรุ่งเรืองนำมาซึ่งโชคลาภความสงบสุข ปลอดภัยจากโจรภัย อัคคีภัย วาตภัย โรคภัย และให้ผู้อยู่อาศัยทุกๆคนยิ่งด้วยสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ สมความปรารถนาทุกประการ
อาจารย์ ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo) โหราจารย์ผู้คำนวณฤกษ์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทิศของเสาเอก
1.ในการยกเสาเอกนั้นมีหลักการดังนี้ว่าให้ยกเสาเอกในทิศอิสาน(ตะวันออกเฉียงเหนือ)เสมอไป เนื่องจากทิศนี้เป็นทิศประธานของทิศทั้งปวงเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นเสมอตลอดทั้งปี ซึ่งขณะเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็ย่อมจะสาดแสงไปถูกเสาเอกของบ้านเราเป็นแห่งแรก ย่อมให้ก่อเกิดพลังงานที่เป็นศิริมงคลแก่บ้านที่อยู่อาศัย ดังนั้นจุดที่ตั้งเสาเอกย่อมต้องเป็นที่มงคลแก่บ้านเรือน มีผีบ้านผีเรือน เทวดาอารักษ์ ยันต์บรรจุพุทธคุณและดวงฤกษ์สถิตอยู่ จึงห้ามมิให้มีห้องน้ำ ส้วม หรือจุดวางขยะใดใดใกล้เสาต้นนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮวงจุ้ย 风水
เรื่องหันทิศหน้าบ้าน สามารถหันไปได้ทุกทิศไม่มีห้าม เพราะทิศมงคลได้ถูกกำหนดเอาไว้ที่เสาเอกแล้ว เรื่องทิศหน้าบ้านจึงไม่ต้องกังวล แต่เพียงให้หันหน้าออกไปยังทางเข้าบ้าน หรือถนนสายหลัก ก็ใช้ได้แล้ว แต่ด้านทิศหน้าบ้านไม่ควรหันไปตรงกับตึกสูง เสาไฟฟ้า วัด ศาลเจ้า เจดีย์ ภูเขา
รายละเอียดอื่นๆในเรื่องฮวงจุ้ย ท่านสามารถเข้าไปอ่านบทความเรื่องฮวงจุ้ยบ้านและสำนักงานได้โดยคลิ๊กลิงค์นี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีการใช้ฤกษ์ยกเสาเอกในระบบโหราศาสตร์
พิธีกรรมและวิธีใช้ฤกษ์จะมีคำอธิบายเป็นขั้นตอนอย่างละเอียดอยู่ในอีเมล์ ซึ่งจะส่งให้พร้อมกับใบฤกษ์ที่ระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของฤกษ์
เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
เครื่องบวงสรวงยกเสาเอก
ในการจัดเครื่องสังเวยบวงสรวงของอาศรมฯนั้น ใช้ตามหลักครูโหรพราหมณ์มาแต่โบราณ คือเป็นมังสวิรัติ และทางอาศรมฯก็มิได้รับจ้างจัดเตรียงเครื่องบวงสรวงแต่อย่างใด เนื่องจากเรามิได้ทำการเชิงพาณิชย์ทำการค้าขายเอากำไร
สำหรับสิ่งของเพื่อทำพิธีบวงสรวงนั้นจะมากจะน้อยก็ตามแต่เจ้าภาพจะจัดหามาเองตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธา โดยทางอาศรมจะจัดส่งรายละเอียดรายการของบวงสรวงที่จำเป็นให้ท่านพร้อมกับใบฤกษ์
และการที่เจ้าภาพเลือกสรรเครื่องบูชาทั้งหลายด้วยตนเอง จัดแจงแต่งเองด้วยจิตเจตนาอันบริสุทธิ์ มีจิตมุ่งหมายถวายเครื่องสักการะอันบริสุทธิ์ แด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายด้วยมือตน ก็ย่อมทำให้ เจ้าที่เจ้าทาง เทวดาทั้งหลาย รักใคร่กรุณา เสด็จลงมารับเครื่องสังเวยด้วยความยินดี
และที่สำคัญหากใช้ฤกษ์ชั้นสูงของโหรพราหมณ์นี้ห้ามใช้เครื่องสังเวยที่เป็นของคาวเป็นอันขาด เช่น หัวหมู เป็น ไก่ ปลา เนื้อสัตว์ ฯลฯ ซึ่งเป็นต้องห้ามสำหรับพิธีมงคลนี้ อันเนื่องมาจากการอัญเชิญเทพดาชั้นสูงลงมาเพื่อประสาทพรให้เราก็ดี เชิญมาสิงสถิตย์ในมณฑลพิธีก็ดี เชิญมาประทับในศาลก็ดี ท่านย่อมยินดีในยัญพิธีอันบริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ท่านก็ย่อมประสาทพรให้เราทั้งครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรืองตามที่จิตปรารถนา แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็สรรเสริญในยัญพิธีอันบริสุทธิ์เช่นนี้
ในทางตรงกันข้ามหากเราใช้ของคาว เช่น เนื้อสัตว์ทั้งหลาย เทพยดาเจ้าชั้นสูงท่านย่อมไม่ลงมา ก็จะมีแต่พวกเทวดาชั้นต่ำหรือสัมภเวสีมารอเพื่อกินของเซ่นไหว้เท่านั้น ในยัญพิธีที่เราได้กระทำนี้ ก็จะไม่บังเกิดศิริมงคลใดใดขึ้นเลย โปรดจำไว้ว่าการบวงสรวงนี้เป็นการบวงสรวงเทพยดาชั้นสูง มิใช่พิธีเซ่นผีสางนางไม้ หรือยักษา ฯลฯ ที่ต้องใช้ของคาวมา เซ่นไหว้
เครื่องสังเวย พิธียกเสาเอก (มังสวิรัติ)
พิธีกรรมของอาศรมฯ
พิธีกรรมของอาศรมฯ เรานั้นใช้หลักฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะโดยเคร่งครัด หลักที่สำคัญที่สุดก็คือ"ฤกษ์ยามในการทำการ" ส่วนพิธีกรรมหรือตัวอาจารย์นั้นก็เป็นเรื่องรองลงไปอีก เพราะหากเราได้ฤกษ์ไม่ดีแล้วแม้จะจัดพิธีกรรมบวงสรวงใหญ่โตเท่าใดก็ไร้ผล เพราะความสำคัญอยู่ที่ฤกษ์ยามที่กระทำการเท่านั้นจึงจะส่งผลดีร้ายให้แก่กิจกรรมนั้นๆตลอดไป
แต่หากเราได้ฤกษ์ดีเป็นมงคลและสมพงศ์กับตัวเราและกิจกรรมที่จะกระทำแล้ว แม้จะไม่มีเครื่องสังเวยอะไรเลยก็ตาม เพียงแค่มีจิตเจตนาตั้งมั่นจุดธูปเพียงดอกเดียวก็มีผลสมบูรณ์แล้ว แต่ที่สำคัญฤกษ์ที่ดีนั้นจะต้องเป็นฤกษ์ชั้นสูงที่คำนวณตามระบบโหราศาสตร์จริงๆ จึงจะได้ผล เนื่องจากจะต้องคำนวนดวงชาตาของเจ้าการอย่างละเอียด เพื่อหาฤกษ์ยามมงคลที่ดีและสมพงศ์กับดวงชาตาของเจ้าการและกิจการที่จะทำเป็นหลัก ซึ่งฤกษ์ดีวันดีก็ไม่ใช่ว่าจะดีทั้งวัน แต่มีดีเฉพาะช่วงเวลาสั้นๆเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง
ส่วนฤกษ์ดีของวันนั้นๆก็หาได้สมพงศ์กับทุกคนหรือทุกกิจกรรมก็หาไม่ ไม่ใช่บอกว่าวันนี้ฤกษ์ดี ใครๆก็นำไปใช้ได้ ซึ่งเป็นความเข้าผิดอย่างมหันต์
สำหรับตัวอาจารย์ผู้กระทำพิธีก็มีความสำคัญอยู่ที่ว่าเป็นคนมีศีลมีธรรมหรือไม่ และก็ต้องมีศีล 5 ศีล 8 เป็นอย่างน้อย และจักต้องไม่มีความโลภ ไม่มีความอยากได้ หรือเห็นแก่อามิจสินจ้าง หรือรับจ้างทำพิธีหาเงินทองเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตนเอง
ทางอาศรมฯเองจึงตระหนักในความสำคัญดังกล่าวข้างต้น โดยให้ความสำคัญของฤกษ์ยามของเจ้าการเป็นหลัก ไม่ใช่เอาตามความสะดวกของอาจารย์ หากคำนวณว่าดวงชาตาของเจ้าการได้ฤกษ์ 6 โมงเช้า อาจารย์ก็ต้องตื่นไปตั้งแต่ตี 3 ตี 4 เพราะอาจารย์จะต้องไปถึงสถานที่ทำพิธีก่อน 1 ชั่วโมงครึ่งเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย
ทั้งนี้ก็เพื่อกระทำพิธีให้สอดคล้องกับเวลาฤกษ์และดวงชาตาของเจ้าการเป็นสำคัญ และทางอาศรมฯจะต้องคำนวณฤกษ์เองเพื่อให้สมพงศ์กับดวงชาตาเจ้าการให้มากที่สุด เป็นศิริมงคลสูงสุด ตามหลักครูที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เพราะเวลาของฤกษ์ชั้นสูงของอาศรมฯทำการคำนวณแบบนาทีต่อนาที เวลาของฤกษ์ดีจึงสั้นมาก มีเพียงแค่ 20-45 นาทีเท่านั้น/ฤกษ์ ดังนั้นทางอาศรมฯจึงไม่รับทำพิธีจากฤกษ์ของครูอาจารย์ท่านอื่น หรือรับจ้างทำพิธีทุกวันเนื่องจากฤกษ์ดีไม่ได้มีทุกวัน
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์จดทะเบียน
- จำนวนผู้อ่าน: 84447

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
ฤกษ์จดทะเบียนบริษัท (บริษัทฯ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญฯ จดทะเบียนพาณิชย์ ) ปี 2568
(ให้บริการผ่านเว็บไซด์นี้เป็นปีที่ 16)
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 979 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*********

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
การคำนวนฤกษ์จดทะเบียนบริษัทจะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน แปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ในการขอฤกษ์จดทะเบียนบริษัท อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่านเอง ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของร้านกิจการนั้นๆ เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด หากเป็นสามีภรรยาก็ต้องแจ้งมาทั้งสองท่านและบอกอาชีพมาด้วย หากมีหุ้นส่วนให้แจ้งมาด้วย โดยเฉพาะกรรมการผู้มีอำนาจ
2. เวลาที่ต้องการจะจดทะเบียนโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
3. กิจการทีทำทำกิจการอะไรบ้าง ค้าปลีกหรือค้าส่ง ขายอะไรเป็นหลัก
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์จดทะเบียนบริษัท โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์จดทะเบียนบริษัท 979.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าครูบูชาฤกษ์-การคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 979 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
***ฤกษ์มงคลที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์วันและเวลาจดทะเบียนที่สมพงษ์กับดวงเจ้าของกิจการ(หลัก) และหุ้นส่วน
2.ให้คำแนะนำเรื่องชื่อและโลโก้ ของบริษัทฯ หากท่านต้องการ
![]()

ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
ฤกษ์จดทะเบียนบริษัท--ฤกษ์ยามคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ(ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์และฤกษ์ยาม ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย
วิธีการให้ฤกษ์จดทะเบียนธุรกิจ-บริษัท
ในการหาฤกษ์จดทะเบียนบริษัทนั้น ส่วนมากมักไม่ค่อยรู้กัน จริงๆแล้วการให้ฤกษ์จดทะเบียนบริษัทนั้นสำคัญมาก เพราะมันเป็นดวงฤกษ์จริงๆของการเข้าหุ้นเข้าส่วน การทำนิติกรรมใดๆ หรือกิจการใดใดของบริษัท ดวงฤกษ์จดทะเบียนนี้ก็ส่งผลไม่แพ้ฤกษ์เปิดกิจการหรือฤกษ์เปิดบริษัทเลย แต่การจดทะเบียนเริ่มตั้งแต่การจองชื่อ การประชุมและการยื่นเอกสาร จนถึงการออกหนังบริคนห์สนธิ บางครั้งเราไปกำหนดทางราชการไม่ได้ ว่าต้องออกวันนั้นวันนี้ แต่วันไปยื่นเอกสารเราสามารถกำหนดได้ ถึงแม้ว่าจะกำหนดได้แค่ว่าเป็นช่วงเช้า-บ่ายก็ตาม ก้ยังมีผลต่อการดำเนินกิจการและการเข้าหุ้นส่วน ดวงฤกษ์นี้แหละที่จะให้หุ้นส่วนไม่ขัดแย้งกัน และสามารถบริหารกิจการไปได้ด้วยความราบรื่น
**หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย



เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
******************************************************
ฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ฤกษ์จดทะเบียนบริษัท
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์ตั้งศาล
- จำนวนผู้อ่าน: 204958

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
ฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ฤกษ์ตั้งศาลพระชัยมงคล ฤกษ์ตั้ง ศาลเจ้าที่ ฤกษ์ตั้งศาลตา-ยาย ฤกษ์ตั้งศาลพระพรหม ปี 2568
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 969 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*******

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
การคำนวนฤกษ์ตั้งศาล จะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน แปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ในการขอฤกษ์ตั้งศาล อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่านเอง ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของบ้าน เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด หากเป็นสามีภรรยาก็ต้องแจ้งมาทั้งสองท่านและบอกอาชีพมาด้วย พร้อมระบุส่วนสูงของเจ้าของมาด้วยเพื่อกำหนดความสูงของศาล
2. เวลาที่ต้องการจะตั้งศาลโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
3. บ้านที่อยู่อาศัยที่จะตั้งศาลเป็นแบบไหน สองชั้นหรือชั้นเดียว เป็นโกดัง โรงงาน อาคารพานิชย์ หากมีแผนที่เขียนทิศทางมาด้วยจะดีมาก
4. ศาลที่จะตั้งเป็นศาลแบบไหน ศาลพระภูมิหรือศาลพระพรหม มีศาลตายายไหม ต้องการกี่เสา เป็นไม้หรือปูน
5. ต้องการดวงฤกษ์เด่นด้านไหน ให้คุณเรื่องอะไร เช่นค้าขายดี หรือได้เลื่อนตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา หรือ ปกปักษ์คุ้มครอง ช่วยทำมาหากิน โชคลาภ ฯลฯ
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์ตั้งศาล โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์ตั้งศาล 969.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบูชาครู คำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 969 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร
------------------------------------------------------------------------
สนใจเชิญอาจารย์ไปทำพิธีตั้งศาล กรุณาติดต่อคุณกมล(บอย) 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF ) ชมภาพทำพิธีตั้งศาลของอาจารย์ได้ที่นี่ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-22/2016-09-26-02-23-02.html
------------------------------------------------------------------------
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครูฤกษ์ตั้งศาล
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
***ฤกษ์มงคลที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์วันและเวลาตั้งศาลที่สมพงษ์กับดวงเจ้าของบ้านทั้งสามีและภรรยา และกิจการที่ทำ 2.ทิศมงคลสำหรับการตั้งศาล 3.รายละเอียดเครื่องบูชาของตั้งศาล
![]()


ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
ฤกษ์ตั้งศาล--ฤกษ์ยามคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ(ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์และฤกษ์ยาม ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย
การตั้งศาลพระภูมิหรือพระชัยมงคลเป็นธรรมเนียมและประเพณีเก่าแก่ของชนชาติไทยเรามาแต่โบราณ หากท่านสามารถจะกระทำได้สมควรจะอนุรักษ์วัฒนธรรมการบูชาเทวดาหรือการตั้งศาลนี้เอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป โดยการบูชาเทวดาก็เป็นมงคลหนึ่งในมงคล38ประการ ที่พระบรมศาสดาได้เคยกล่าวเอาไว้ อีกทั้งการตั้งศาลก็เป็นการแสดงมุทิตาจิตแสดงความเคารพแก่พระภุมะเทวดาหรือพระภูมิเจ้าที่ หรือผุ้ที่เคยเป็นเจ้าของอาศัยมาอยู่แต่ก่อน เพราะท่านเหล่านั้นสามารถให้คุณให้โทษแก่เราและครอบครัวได้อย่างมากอย่างที่เราเคยได้รับรู้กัน

และหากเราได้กระทำการเคารพบูชาโดยเสมอๆแล้ว ท่านเหล่านั้นก็ย่อมที่ให้การรักษาเรา ปกป้องคุ้มครองเราจากสิ่งทั้งที่มองเห็นและไม่เห็น ส่งเริมเราให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง แต่หากเราไม่ได้เคารพบูชาท่านแล้ว บางที่บางแห่งเจ้าที่ก็อาจจะให้โทษเราได้ บางคร้งทำให้บ้านแตก ทะเลาะวิวาท หรือแม้กระทั่งบาดเจ็บล้มตาย ก็มีให้เห็นๆกันอยู่บ่อยๆ
สิ่งสำคัญในการตั้งศาลให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์และเชิญเวดาอารักษ์ลงมาสถิตย์เพื่อปกป้องคุ้มครองให้ได้นั้น ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ 1. ฤกษ์ยามที่ถูกต้องเป็นศุภผล 2.อาจารย์ หรือหมอโหรา หรือพราหมณ์ที่มาทำพิธีอัญเชิญ ที่มีคุณสมบัติครบและมีศีลมีธรรม
หากสองส่วนนี้ ได้ครบสมบูรณ์ก็เป็นอันหวังได้ว่า จะเกิดผลสมฤทธิ์ตามที่เราปรารถนา
ในการตั้งศาลนี้ จะมีเดือนและดิถี ที่ได้ตามกำหนดมาแต่โบราณ และจุดทิศทางวางหน้าศาล และการหันทิศมงคล รวมถึงการกำหนดเวลามงคลฤกษ์ตั้งศาลหลัก ฯลฯ โดยท่านสามารถนำฤกษ์ที่ได้มานี้นำไปตั้งศาล โดยเชิญพราหมณ์ หมอโหรา ครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถือในเขตจังหวัดของท่าน มาทำพิธีตั้งศาลให้กับท่านตามฤกษ์ที่ท่านได้ขอมา
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์



ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย




เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์ทำงานใหม่
- จำนวนผู้อ่าน: 153808

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
บริการดูฤกษ์รับตำแหน่ง ฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ย้ายห้องงานใหม่ ปี 2568 (บริษัทเอกชน-ราชการ รับตำแหน่งใหม่ โยกย้าย ประดับยศ ฯลฯ)
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 949 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*******

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
การคำนวนฤกษ์รับตำแหน่ง หรือเข้าทำงานที่ใหม่ หรือย้ายห้องทำงาน จะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน แปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ในการขอฤกษ์รับตำแหน่ง อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่านเอง ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด บอกอาชีพมาด้วย
2. เวลาที่ต้องการจะโยกย้ายโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
3. สถานที่ที่จะย้ายไปเป็น โรงงาน เป็นอาคารใหญ่ หรือเป็นหน่วยราชการไหน
4. เจ้าชะตาจะต้องบอกยศ ตำแหน่ง หน้าที่ความรับผิดชอบมาด้วย
5. ต้องการดวงฤกษ์เด่นด้านไหน ให้คุณเรื่องอะไร เช่นค้าขายดี หรือได้เลื่อนตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา บริวารเชื่อฟัง หรือ ปกปักษ์คุ้มครอง ช่วยทำมาหากิน โชคลาภ ฯลฯ
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์รับตำแหน่ง เข้าทำงานใหม่ โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์รับตำแหน่ง 949.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 949 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครูฤกษ์รับตำแหน่ง
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
***ฤกษ์รับตำแหน่งที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์วันและเวลาเข้ารับตำแหน่ง หรือเข้าที่ทำงานใหม่ที่สมพงษ์กับดวงเจ้าชาตาและหน้าที่ความรับผิดชอบที่ทำ
2.คาถาเสริมดวงประจำวันเกิด และพิธีกรรมในการเข้างานใหม่
พิธีกรรมรับตำแหน่ง-เข้าทำงานใหม่
พิธีกรรมและวิธีใช้ฤกษ์จะมีคำอธิบายเป็นขั้นตอนอย่างละเอียดอยู่ในอีเมล์ ซึ่งจะส่งให้พร้อมกับใบฤกษ์ที่ระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของฤกษ์
![]()

ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
โดยมากมักจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาขอฤกษ์แบบนี้ หรือจะต้องโยกย้ายไปรับตำแหน่งหน้าที่ใหม่ๆ ในสถานที่อื่นๆ แต่ในปัจจุบันพนักงานระดับบริหารของบริษัทใหญ่ๆก็มาขอฤกษ์แบบนี้มากเช่นกัน เพื่อความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ขจัดอุปสรรค และให้เจ้านายรักใคร่เมตตา
บุคคลที่ควรจะใช้ฤกษ์รับตำแหน่ง เพื่อใช้ประโยชน์จากฤกษ์ยามชั้นสูงคือ
1.ข้าราชการระดับบริหาร ทั้งข้าราชการตำรวจ ทหาร และพลเรือน หรือข้าราชการครูตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนขึ้นไป
2.พนักงานรัฐวิสาหกิจระดับหัวหน้างานขึ้นไป ผู้บริหารองค์กร ฯลฯ
3.พนักงานบริษัท ตั้งแต่ หัวหน้าแผนก ผู้จัดการ ผู้จัดการทั่วไป ผู้บริหาร และกรรมการผู้จัดการ
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย

***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
******************************************************
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์ลาสิกขา
- จำนวนผู้อ่าน: 566546

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดหลายสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
ดูฤกษ์มงคล ฤกษ์ลาสิกขา ฤกษ์สึก ฤกษ์ลาบรรพชากรรม ปี 2568 ***ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 939 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*******

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
ในการขอฤกษ์ลาสิกขา อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่านเอง ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด บอกอาชีพมาด้วย
2. เวลาที่ต้องการจะบวชและลาสิกขาโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
3. วัดหรือสถานที่ที่จะลาสิกขา และต้องระบุจังหวัดมาด้วย
4. เมื่อสึกออกมา ต้องการดวงฤกษ์เด่นด้านไหน ให้คุณเรื่องอะไร เช่นค้าขายดี หรือได้เลื่อนตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา บริวารเชื่อฟัง หรือ ปกปักษ์คุ้มครอง ช่วยทำมาหากิน โชคลาภ ฯลฯ และที่ผ่านมามีเรื่องอะไรติดขัด ดวงชาตามีจุดเสียอะไรบ้างก็จะแก้กันคราวเดียว
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์ลาสิกขา โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์ลาสิกขา 939.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบูชาครูคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 939 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครูฤกษ์ลาสิกขา
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
และเมื่ออาศรมฯได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์ลาสิกขาแล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์มงคลให้กับท่านทางอีเมล์ และ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม
ฤกษ์ลาสิกขาที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์วันและเวลาลาสิกขาพร้อมทิศมงคลที่เป็นศรี และสมพงษ์กับดวงเจ้าชาตา บอกเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดเสร็จสรรพ
2.ทิศและฤกษ์ยามมงคลสำรับการออกเดินทางจากวัดเพื่อกลับบ้าน และไม่เกินเวลาเท่าไหร่
3.และสิ่งที่ต้องปฏิบัติก่อนบวช
- ศึกษาคำท่องขานนาคให้ชัดเจนถูกต้อง ทั้งอักขระ สำเนียง และห้ามผิด หากผิดจะทำให้ท่าน บวชไม่สำเร็จเป็นภิกษุ ในสมัยโบราณมีการให้พระสงฆ์ในบางท้องถิ่นลาสิกขาแล้วบวชใหม่ เนื่องจากบางท้องถิ่นออกเสียงอักขระบางตัวไม่ชัดเจน เป็น “อักขระวิบัติ”
- ให้ถามชื่อ ฉายาของพระอุปัชฌาย์ และชื่อฉายาของเราที่เป็นภาษาบาลี เอาไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะตอนท่องขานนาคจะต้องใช้
- เพื่อเป็นกุศล ในการจัดเลี้ยงงานบวช ห้ามฆ่าสัตว์น้อยใหญ่มาเลี้ยงฉลอง และห้ามเลี้ยงสุรา เหล้า เบียร์ของมึนเมาทุกชนิด มิฉะนั้นงานบุญจะกลายเป็นงานบาป จะไม่เป็นมงคลแก่ผู้ที่จะบวช
- อนึ่งกุลบุตรมีจิตศรัทธา อุปสมบทในบวรพระพุทธศาสนา หากต้องการให้เกิดกุศลอันยิ่งจักต้องรู้จักรักษาศีลและวินัยให้เคร่งครัด โดยท่านจะต้องศึกษาจาก”นวโกวาท” ที่ผมจะแนบไปให้ท่านอ่านท่องก่อนทำการบรรพชาอุปสมบท เพื่อจะได้รู้จักสิกขาบทของผู้ที่จะเป็นพระ เพื่อการบวชเรียนจะได้มีผลเป็นกุศลและจะไม่มีโทษแก่ผู้ที่ได้บรรพชา เพราะหากเราไปบวชเป็นพระแล้วล่วงสิกขาบทแทนที่จะบุญกลับได้ปาปกรรมอันหนักหนาสาหัส อันนี้จะต้องระวังเอาไว้ให้มาก สิ่งใดเป็นคุณอนันต์ก็ย่อมมีโทษมหันต์เช่นเดียวกัน
- หากกรณีที่ท่านได้ล่วงสิกขาบท(ผิดวินัย)ไปแล้ว ให้รีบไปแจ้งพระอุปัชฌาย์ หรือพระพี่เลี้ยง บอกกล่าวให้ท่านทราบ (อย่าอายเด็ดขาด)เพื่อที่จะได้มีการ”แสดงอาบัติหรือปลงอาบัติ” เพื่อที่จะทำตนให้บริสุทธิ์กลับคืนเหมือนเดิม หากอาบัติหนัก ก็อาจจะต้องเข้าไปอยู่ปริวาสกรรมก่อน ตามกำหนดระยะเวลา เมื่ออกมาแล้วก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ มีศีลบริสุทธิ์เหมือนพระบวชใหม่ แต่หาท่านติดค้างอาบัติ คือการทำผิดวินัยพระแต่ไม่ได้ปลงอาบัติ พอสึกออกมาท่านจะทำมาหากินไม่ขึ้น จะเป็นคนดวงซวยตลอดชีวิต ไปอยู่ที่ไหนก็จะไม่มีคนรักคนชอบ อาภัพรัก และแก้ไขอะไรไม่ได้เลย จึงต้องระวังให้มากๆ เตือนเอาไว้ด้วยความหวังดี ลองดูชีวิตคนบางคนที่บวชพระนานๆหลายๆปี และสึกออกมา มีครอบครัวทำมาหากิน ก็มักจะประสบชะตากรรมที่ไม่ดี ทำมาหากินไม่ขึ้น เจ็บป่วย อายุสั้น ส่วนมากก็มาจากสาเหตุนี้
อนึ่งสิ่งที่ไม่ควรลืมเมื่อทำการบวชแล้ว ที่คนมักลืมบ่อยๆก็คือ
- เมื่อได้รับบิณฑบาตมา หรือรับอาหารจากการประเคนมาแล้วจะต้องพิจารณาก่อน แล้วจึงฉันทุกครั้ง (บทสวดอยู่แนบท้ายใบฤกษ์)
- เมื่อฉันเสร็จแล้ว ควรตั้งจิตอุทิศกุศล แผ่เมตตาให้กับทายกผู้ถวายปัจจัย บิณฑบาตและอาหาร ฯลฯ ทุกครั้ง (บทสวดอยู่แนบท้ายใบฤกษ์)
- ลาภผล ปัจจัย เงินทองอันใดที่ได้มาในระหว่างบวชอยู่นั้น เมื่อลาสิกขาแล้วห้ามนำออกไปใช้เป็นของตัวเอง ให้ทำการถวายคืนแก่สงฆ์(แก่วัด)ทุกบาททุกสตางค์ หากท่านนำเงินจำนวนนี้ไปใช้เมื่อลาสิกขาออกมาแล้วจะท่านจะทำมาหากินไม่ขึ้น อันนี้ต้องระวังให้มากๆ แต่หากท่านบวชเพียงไม่กี่วันกี่เดือน และต้องการผลบุญกุศลสูงสุดอุทิศให้แก่บิดามารดา ฯลฯ หากมีการรับเงินรับทองเข้าก็ต้องรีบสละออกโดยเร็วที่สุด โดยนำไปหยอดตู้ค่าน้ำค่าไฟของวัด หรือตู้ทำบุญอื่นๆเช่น ชำระหนี้สงฆ์ ถวายภัตตาหาร ฯลฯ เพราะเงินทองเป็นวัตถุอนามาส เก็บสะสมไว้จะต้องอาบัติ
วิธีการใช้ฤกษ์ลาสิกขาในระบบโหราศาสตร์
**พิธีกรรมและวิธีใช้ฤกษ์จะมีคำอธิบายเป็นขั้นตอนอย่างละเอียดอยู่ในอีเมล์ ซึ่งจะส่งให้พร้อมกับใบฤกษ์ที่ระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของฤกษ์
![]()

ภาพปาฎิหาริย์ของอาจารย์
ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
ฤกษ์ลาสิกขา--ฤกษ์ยามคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ(ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์และฤกษ์ยาม ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย

แต่จริงๆแล้วตามหลักครูโหรไทย ท่านเพียงกำหนดไว้ในเรื่องของ"อัคนิโรธ" ว่าสงฆ์14 นารี11 ฯลฯ หมายความว่า กิจกรรมเกี่ยวแก่พระสงฆ์ห้ามกระทำในวันขึ้นแรม 14 ค่ำ ซึ่งหมายความว่าเมื่อถึงวันแรมหรือขึ้น 14 ค่ำห้ามทำการอุปสมบทบรรพชา(แต่ไม่ได้ห้ามลาสิกขาในวันนี้) ซึ่งหากท่านเพียงใช้หลักนี้ก็ใช้ได้แล้ว ก็คือไม่ควรกำหนดฤกษ์อุปสมบทในวันขึ้น-แรม14ค่ำ แต่อย่างไรก็ตามเผื่อเหนียวอาจจะบวกลบ1 วันเนื่องจากวันขึ้นแรมที่ใช้กันในปฎิทินชาวบ้านทั่วไปเราเรียกว่า"ดิถีตลาด" (หรือดิถีตามปฏิทินพระธรรมมหานิกาย)ซึ่งคลาดเคลื่อนกับดิถีที่เป็นจริงบนท้องฟ้าโดยคำนวนจากระยะเชิงมุมของดาวอาทิตย์และดาวจันทร์ที่เิกิดขึ้นจริงซึ่งเรียกว่า"ดิถีเพียร"(หรือดิถีตามปฏิทินพระธรรมยุติกนิกาย)ตามหลักดาราศาสตร์ประมาณ1วันโดยประมาณ (บางเดือนก็ตรงกัน)
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์
สำหรับการลาสิกขาไม่ว่าจะเป็นการบวชแบบ 7 วัน 15 วัน หรือบวชเป็นเดือนเป็นปี หรือบวชมาแล้วเป็นสิบๆปี การกลับเข้ามาสู่เพศฆราวาสนั้น จำเป็นจะต้องดูฤกษ์ลาสิกขาเพื่อความมีสวัสดิมงคลของชีวิตใหม่ หรือเราได้เกิดใหม่นั่นเองและเมื่อกลับเข้ามาสู่ทางโลกแล้ว ก็จำเป็นอยู่เองที่จะต้องมีการอาศัยฤกษ์ยามเพี่อส่งผลให้ชีวิตใหม่ที่ออกมาจากที่เปลี่ยนเพศฆราวาส ให้มีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการแก้ไขดวงชาตาได้อีกทางหนึ่ง เพราะเพศฆราวาสนั้นจำเป็นต้องมี ทั้งโภคสมบัติ ทรัพย์สมบัติ บริวารสมบัติ ต้องการศักดิ์ศรี เกียรติยศ ทั้งอายุ วรรณะ สุขะ พละ ซึ่งแตกต่างจากเพศบรรพชิตซึ่งไม่ต้องการ โดยฤกษ์ลาสิกขาที่สมพงศ์กับดวงชาตาก็จะให้ผลดีแก้ไขและส่งเสริมดวงชะตาตามกำลังของฤกษ์ในขณะนั้นๆ
อนึ่งในคำพูดของคนโบราณ เมื่อเห็นใครเป็นคนประสบแต่โชคร้าย หรือเกิดอาการวิกลจริต พิกลพิการเป็นบ้าใบ้ ก็มักจะพูดกันว่าเป็นเพราะ "สึกไม่ดูฤกษ์"
ดังนั้นหัวใจของฤกษ์ยามที่ถูกต้องก็คือ การใช้ฤกษ์บนและฤกษ์ล่างให้สัมพันธ์กันกับดวงชาตาเพื่อให้เกิดศุภอิทธิพล เป็นศุภผลแก่เจ้าการ หรือเจ้าของงานที่จะกระทำการโดยฤกษ์นั้นๆ

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย




เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
******************************************************
- รายละเอียด
- หมวด: ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ
- จำนวนผู้อ่าน: 271279

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอด16 ปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
บริการดูฤกษ์มงคล ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ปี 2568 ***ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 919 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*****

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
การคำนวนฤกษ์เปลี่ยนชื่อจะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน แปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ในการขอฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ผมอาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่านเอง ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของชื่อ-สกุลนั้นๆ เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด
2. ช่วงวันที่ ที่ต้องการจะเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อจะได้ฤกษ์ที่ดีที่สุด (เช่น 1 - 31 มค 2568)
3 จังหวัดที่จะทำการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
4. ท่านเป็นบุตรคนที่เท่าใด
5. ท่านทำอาชีพอะไร
6. ต้องการดวงฤกษ์เด่นทางไหน เช่น ต้องมีคู่ครอง หรือ ชีวิตที่ผ่านมามีปัญหาอะไรบ้าง และอยากจะแก้ เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ซึ่งในการขอฤกษ์มงคลนี้ท่านสามารถ ขอทั้งเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลได้พร้อมๆกัน
สอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์เปลี่ยนชื่อ โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์เปลี่ยนชื่อ 919.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 919 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
เมื่ออาศรมฯ ได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์แล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์มงคลให้กับท่านทางอีเมล์ ภายใน 24 ชั่วโมงและ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม
ฤกษ์เปลี่ยนชื่อที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์ระบุวันและเวลาไปทำการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อที่สมพงษ์กับดวงเจ้าชาตา เพื่อเสริมชื่อใหม่นั้นให้เป็นมงคลโดยสมบูรณ์ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์
2.พิธีกรรมแบบง่ายเมื่อได้ชื่อใหม่มาแล้ว
![]()

ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่า
นั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ--ฤกษ์ยามคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ(ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์และฤกษ์ยาม ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย

การให้ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ-เปลี่ยนนามสกุลใหม่
ในสมัยปัจจุบันนี้มีคนเชื่อถือเรื่องการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลและนามมงคลกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนามสกุลกันเป็นจำนวนมาก บางคนก็เปลี่ยนมาถึง 6-7 ครั้ง โดยยคิดว่าเปลี่ยนแล้วดี แต่จนแล้วจนรอดก็ยังต้องเปลี่ยนใหม่อยู่ร่ำไป เพราะดวงเดิมไม่สามารถเปลี่ยนตามไปด้วยได้ จึงยังคงเป็นดวงชาตาแบบเดิมๆ
สิ่งที่น่าคิดก็คือว่าในหลักวิชาการเรียกชื่อขานนาม ให้เป็นมงคลให้ถูกต้องตามหลักวิชาโหรแบบโบราณแล้ว ก็ควรจะตั้งชื่อให้ได้ตามหลักทักษา นามกำเนิด โดยคิดตามจำนวนพี่น้องท้องเดียวกันโดยเป็นคนที่เท่าใด(ชาย)และ(หญิง) จะคำนวนแยกกัน แต่ปัจจุบันนี้มีคนตั้งชื่อโดยไม่ไปปรึกษาผู้รู้ ทางโหร ตั้งเอาเองบ้าง ชอบคิดเองบ้าง เอาชื่อตคนอื่นมาตั้งบ้าง แล้วคิดว่าดี หรือไม่ก็ใช้ชื่อโดยใช้วิชาเลขศาสตร์เพียงอย่างเดียว ไม่เอาทักษา ไม่ดวงชาตา ไม่เอานามกำเนิด ชื่อที่ปรากฏออกมาก็มักเป็นชื่อแบบแปลกๆ ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาศาสตร์ ทั้งอักขระ ทั้งไวยากรณ์ ทั้งสมาส สนธิ ก็ผิดหลักภาษา เขียนและสะกดกันไม่ค่อยจะถูก จนเป็นภาษาวิบัติ ชื่อก็วิบัติ ดวงชาตาก็วิบัติตามกันมาติดๆ จึงไม่แปลกที่บางคนตั้งแล้วตั้งอีกหลายๆรอบ ดวงก็ไม่ดีขึ้นมีแต่แย่ลง
อ่านบทความเรื่องหลักการการตั้งชื่อตามหลักทักษาปกรณ์ คลิ๊กที่นี่
ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ-ในทางโหรโบราณท่านถือมากในเรื่องการตั้งชื่อ ขานนาม รวมถึงการเฉลิมพระนามของเจ้านาย เจ้าฟ้าฯ การจารึกพระนามในพระสุพรรณบัตร และการอวยยศตั้งตำแหน่ง ให้ราชทินนาม ฯลฯท่านมักเอาดวงชาตาไปผูกดูก่อน ดาวใหนให้คุณทางดวงชาตา ก็เสริมชื่อไปทางอักษรนามของดาวดวงนั้น ดาวดวงไหนให้โทษท่านก็งดเว้นวรรคอักษรนั้นเสีย อีกทั้งก็ต้องดูนามกำเนิดว่าเป็นลูกคนที่เท่าใดในฝ่ายชาย เป็นลูกคนที่เท่าใดในฝ่ายหญิง และก็เอาทักษามาจับ แล้วจึงตั้งชื่อ ส่วนการตั้งชื่อในสมัยโบราณก็มีฤกษ์ยามในการตั้งชื่อขานชื่อ มีพิธีรีตองกันพอสมควร
ที่อธิบายกันมายืดยาวไม่ใช่ผมต้องการจะไปเป็นหมอดูรับตั้งชื่อหรอกนะครับ เพียงแต่มีคนเรียกร้องขอฤกษ์ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ท่านเพียงไปขอชื่อนามมงคลที่ท่านต้องการจากครูอาจารย์ท่านใดมาก็ได้ ผมก็จะรับดูฤกษ์ยามเปลี่ยนชื่อให้ตาม"ฤกษ์ของระบบโหราศาสตร์"อย่างเดียว (ไม่ใช่ฤกษ์ของระบบอื่นนะครับ)
ดัง นั้นหัวใจของฤกษ์เปลี่ยนชื่อที่ถูกต้องก็คือ การใช้ฤกษ์บนและฤกษ์ล่างให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดศุภอิทธิพล เป็นศุภผลแก่เจ้าการ หรือเจ้าของงานที่จะกระทำการโดยฤกษ์นั้นๆ
ซึ่งพอจะเป็นหลักประกันได้ว่าชื่อ-สกุลที่ท่านเปลี่ยนนั้น จะเป็นไปตามฤกษ์ยามโดยถูกต้อง ซึ่งก็จะช่วยเสริมดวงชาตาให้ท่านได้อีกทางหนึ่งนอกว่าชื่อนามมงคลที่ท่านได้มาแล้ว
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์

ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย



เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
******************************************************
ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่
- จำนวนผู้อ่าน: 345951

**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับ16ปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
การให้ฤกษ์ย้ายเข้าบ้านใหม่(เข้าอยู่อาศัยเป็นครั้งแรก) ปี 2568 ***ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
ค่าบูชาครู 959 บาท โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
ฤกษ์มงคล ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์เข้าบ้านใหม่ ฤกษ์ย้ายบ้าน ปี 2568 *****ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นปีที่ 16
****ในกรณีขอฤกษ์ ทำบุญบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ กรุณาคลิ๊ก https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/13.html
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
*******

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
ฤกษ์เข้าบ้านใหม่หรือฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่-ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์สำหรับการเข้าอยู่อาศัยบ้านใหม่ในวันแรกคืนแรก(ไม่ใช่ฤกษ์ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ****กรณีขอ ฤกษ์ทำบุญบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ กรุณาคลิ๊ก https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/13.html) เพราะการอยู่อาศัยกินอยู่หลับนอนในคืนวันแรกนั้นมีผลดี-ร้ายต่อผู้อยู่อาศัยมากที่สุด การมีบ้านใหม่นั้นไม่ได้มีกันได้บ่อย ๆ การยึดถือฤกษ์ยามนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะประกันความปลอดภัยและความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้อยู่อาศัยและเจ้าของบ้านได้มากกว่าการไม่ยึดถือฤกษ์ยามใดใดหรือใช้ฤกษ์แบบง่ายๆตามปฏิทินฤกษ์ที่มีขายกันทั่วไป หรือเอาตามความเชื่อว่าวันนี้ดีโดยไม่มีเหตุผลใดใดมารองรับ หรือการใช้ฤกษ์สะดวกเอาตามใจชอบ
ในการขอฤกษ์ อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 2-3วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่าน ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของบ้าน เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด หากเป็นสามีภรรยาก็ต้องแจ้งมาทั้งสองท่านและบอกอาชีพมาด้วย
2. เวลาที่ต้องการจะขึ้นบ้าน หรือย้ายเข้าไปอาศัยบ้านใหม่โดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน (กรุณาให้ช่วงเวลามาไม่น้อยกว่า 15-30 วัน)
3. มีคนอาศัยอยู่กี่คน เป็น พ่อ แม่ ญาติ พี่น้องลูกหลานกี่คน
4. เป็นบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง
5. ลักษณะบ้านเป็น ทาว์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว อาคารพานิชย์ คอนโด ต้องระบุด้วย
6. บ้านหันหน้าไปทิศไหน
7. บ้านที่อยู่อาศัยใช้ทำอะไรด้วย เช่นค้าขายด้วย หรือเปิดสำนักงานอื่นๆด้วย หรือ
8. ต้องการดวงฤกษ์เด่นด้านไหน ให้คุณเรื่องอะไร เช่นค้าขายดี หรือได้เลื่อนตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา หรือ ช่วยทำมาหากิน โชคลาภ ฯลฯ
***ในกรณีขอฤกษ์ ทำบุญบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ กรุณาคลิ๊ก https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/13.html
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชาฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 959.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่าบูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 959 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

------------------------------------------------------------------------
สนใจเชิญอาจารย์ไปทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ กรุณาติดต่อคุณกมล(บอย) 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF ) ชมภาพทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ของอาจารย์ได้ที่นี่ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-22/2016-09-26-02-23-52.html
------------------------------------------------------------------------
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู
การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
เมื่อทางอาศรมฯได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่แล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์มงคลให้กับท่านทางอีเมล์ ภายใน 24 ชั่วโมง (ยกเว้นกรณีดวงชาตาของท่านทั้งสองหาฤกษ์ยากกว่าปกติอาจจะได้ในวันถัดไป)และ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม
ฤกษ์ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ใบฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่แบบโบราณที่ระบุดวงเจ้าชาตา ดวงฤกษ์ พร้อมวัน-เวลา ตั้งแต่เริ่มต้นฤกษ์-สิ้นสุดฤกษ์(ปฐมฤกษ์-ปัจฉิมฤกษ์) ที่สมพงษ์กับดวงชาตาของเจ้าบ้านสองทั้งสามีและภรรยา (ทั้งสองคน) และสมพงษ์กับกิจการของอาคารใหม่ที่จะเข้าไปอยู่
2.บอกในเรื่องการทำพิธีกรรมวิธีการไหว้เจ้าที่เจ้า เจ้าประตู เจ้าเตาไฟ การตั้งเตียง ฯลฯและข้อห้ามต่างๆ
3.รายละเอียดของเครื่องบูชา สำหรับการทำพิธีแบบเรียบง่ายด้วยตนเอง
4.รายละเอียดของเครื่องบูชา สำหรับการตั้งตี่จูเอี๊ย (ถ้าต้องการจะตั้ง)
5.บอกวิธีการใช้ฤกษ์ ที่แตกต่างจากความเชื่อทั่วไป เพราะวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และวันดีในปฏิทินฤกษ์ต่างๆก็จะอาจจะเป็นวันร้ายของตัวเราก็ได้ เพราะไม่ได้คำนวนดวงของเราเข้าไปด้วย ปฏิทินฤกษ์ต่างๆนั้นเพียงบอกดิถีดี-ร้ายแต่ละวันสามารถทำการมงคลย่อยได้เท่านั้น
****ในกรณีขอฤกษ์ ทำบุญบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ กรุณาคลิ๊ก https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/13.html
![]()

ฤกษ์ดีที่ให้ผลดีได้สมบูรณ์ที่สุด ตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง คืออะไร
1.ฤกษ์ดี ที่ให้ผลดีสมบูรณ์สูงสุดตามหลักโหราศาสตร์ คือวันดีและเวลาดีของฤกษ์บนฟ้า (ฤกษ์นภดล-ฤกษ์บน) ที่ต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของคนๆหนึ่ง (ฤกษ์ภูมิดล-ฤกษ์ล่าง) ซึ่งจะต้อง คำนวนจาก วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าของดวงชะตาโดยเฉพาะ และต้องสมพงศ์กับงานมงคล ประเภทชนิดงานที่จะทำโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา ฯลฯ ดังนั้นการหาฤกษ์จะแตกต่างกันเฉพาะงานที่กำหนดเท่านั้น จะไม่นำมาใช้ปะปนกัน
2.ฤกษ์ดีไม่ใช่จะตลอดทั้งวัน แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 30 -60 นาที เท่านั้น ดังนั้นการคำนวนฤกษ์ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง(ดวงชะตา) ต้องสมพงศ์กัน ดังนั้นฤกษ์ดีสำหรับคนๆหนึ่งอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นฤกษ์ที่สมพงศ์กับดวงชะตาเฉพาะบุคคลชนิดนี้จะหาฤกษ์ได้ยากเดือนหนึ่งๆอาจจะมีเพียง 3-5 วัน และมีช่วงเวลาสั้นๆ เป็นช่วงๆ เท่านั้น
3.ฤกษ์ตามปฏิทิน ฤกษ์ดีตามปฏิทินฤกษ์ต่างๆจึงไม่สามารถคำนวนได้ เพราะเป็นการคำนวนฤกษ์จากฤกษ์บนคือฤกษ์ฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้นำดวงชะตาของบุคคลมาคำนวนร่วมด้วย ฤกษ์แบบนี้จึงไม่ได้ผลเต็มร้อย หรือไม่ได้ผลเลย บางทีอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายไปเลยก็ได้ เพราะปฏิทินฤกษ์ต่างๆ หากนำมาหลายๆเจ้ามาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่าวันดีวันร้ายแต่ละเจ้าก็ไม่ค่อยจะตรงกัน หรือขัดกันเลยก็มี แล้วเราจะเชื่อเจ้าไหนดี
4.ทำไมจึงต้องใช้เวลาของจังหวัดที่เกิด เพราะเวลาท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแตกต่างกันมาก เช่น คนเกิด วัน เดือ นปี เดียวกัน เวลาเดียวกัน เช่น เวลา 8.00 น. แต่คนหนึ่งเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 08.00 น. แต่อีกคนหนึ่งเกิดที่กรุงเทพเวลา 08.00 น.เวลาเกิดเหมือนกัน แต่เวลาท้องถิ่นของ กทม กับ อุบลฯ แตกต่างกัน -18 นาที (คำนวนจาก Lat-Long) ดังนั้นคนที่เกิด กทม เวลาเกิดจริงตามเวลาท้องถิ่น (local mean time) คือเกิดเวลา 07.42 น. ไม่ใช่ 08.00 น. ดังนั้นคนที่เกิดกรุงเทพฯโหรจึงต้องนำเวลา 07.42 น. มาคำนวนดวงชะตา
5.ฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ได้ผล และอาจจะกลายเป็นฤกษ์ร้ายเสียอีก
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่-ฤกษ์ยามคือสิ่งที่ บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานสนามแม่เหล็กโลก พลังงานสนามแม่เหล็กของจักรวาล และพลังงานสนามแม่เหล็กเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล "ฤกษ์ยามที่ดีและถูกต้อง"เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในในชีวิตและพื้นดวงชาตาเดิมได้ โดยจะต้องคำนวนความสัมพันธ์ระหว่าง ฟ้า-ดิน-คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นฤกษ์ยามที่คำนวนความสัมพันธ์ของพื้นดวงเดิมของเจ้าการเท่านั้น จึงจะทำได้
ส่วนฤกษ์ยามตามปฎิทินฤกษ์ยามต่างๆ(ฤกษ์โหล) นั้น ไม่อาจจะมาทดแทนได้ เพราะต้องใช้ผู้รู้ทางวิชาโหราศาสตร์เท่านั้นจึงจะหาความสัมพันธ์และฤกษ์ยาม ที่ดีเป็นมงคลได้
ตัวอย่างเช่น หากมีคนมาบอกว่าวันนี้จะมีพายุใหญ่ จงอย่านำเรือออกทะเล หากมีคนเชื่อไม่นำเรือออกทะเลในวันนั้นก็ต้องพบกับอุปสรรคและลมมรสุมต่างๆ นาๆ ดีไม่ดีเรืออาจอัปปางเอาได้ แต่หากมีคนเชื่อไม่ออกเรือในวันนั้นก็จะพบกับความสวัสดีอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้น ฤกษ์ยามก็เป็นอย่างนี้ หากมีคนเชื่อและปฎิบัติตามอย่างน้อยเขาก็จะไม่พบกับความวิบัติร้ายแรง หรือไม่ก็บรรเทาผลร้ายที่จะเกิดมีขึ้นในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย
การให้ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่/ย้ายเข้าบ้านใหม่
ใน สมัยโบราณท่านมหาฤาษีผู้รจนาคัมภีร์โหราศาสตร์แห่งพระเวทและฤกษ์ยามต่างๆ(มุหูรตะ)ได้กล่าวเอา ไว้ว่า การสร้างรากฐานอาคารบ้านเรือนสำหรับอยู่อาศัยนั้นมีส่วนประกอบอยู่ 4ประการคือ
1.การวางรากฐาน (หรือยกเสาเอก วางศิลาฤกษ์ ฯลฯ)
2.การขุดบ่อน้ำ (ในปัจจุบันไม่มีธรรมเนียมนี้แล้ว)
3.การเข้ากรอบประตู (ในปัจจุบันก็ไม่มีธรรมเนียมนี้แล้ว)
4.การเข้าอยู่บ้านใหม่ หรือการขึ้นบ้านใหม่
ท่ามหาฤาษีกล่าวว่าประการที่ 1 และ 4 สำคัญมากที่สุดในการหาฤกษ์ยามเพื่อความสุขสวัสดีของผู้อยู่อาศัย
การหาฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่นี้ ก็อาจจะเป็นบ้านที่สร้างใหม่ หรือบ้านมือสองแต่เราเข้าไปอยู่ใหม่ การ เข้าไปอยู่อาศัยในครั้งแรกก็ต้องหาฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์เพื่อ เป็นหลักประกันได้ว่า การอยู่อาศัยในที่แห่งใหม่นี้จะนำความเจริญรุ่งเรือง ความปลอดภัยจากอัคคีภัย โจรภัย โรคภัยและความวิบัติอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลักวิชานี้ได้สืบทอดมาแต่โบราณมานานนับพันๆปี
การมีบ้านใหม่นั้นไม่ได้มีกันได้บ่อย ๆ การยึดถือฤกษ์ยามนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะประกันความปลอดภัยและความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้อยู่อาศัยและเจ้าของบ้านได้มากกว่าการไม่ยึดถือฤกษ์ยามใดใดหรือใช้ฤกษ์แบบง่ายๆตามปฏิทินฤกษ์ที่มีขายกันทั่วไป หรือเอาตามความเชื่อว่าวันนี้ดีโดยไม่มีเหตุผลใดใดมารองรับ หรือการใช้ฤกษ์สะดวกเอาตามใจชอบ
มี หลายท่านโทรมาเนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นฤกษ์ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ไม่ใช่นะครับ * แต่การเข้าไปอยู่บ้านใหม่ครั้งแรก ต้องดูฤกษ์ (จำเป็นมาก) เมื่อเข้าอยู่บ้านใหม่ ย้ายเข้าของครบหมดแล้วจึงค่อย"ทำบุญขึ้นบ้านใหม่"***ในกรณีขอฤกษ์ ทำบุญบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ กรุณาคลิ๊ก https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/13.html
***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา
หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์
ดัง นั้นหัวใจของฤกษ์ยามที่ถูกต้องก็คือ การใช้ฤกษ์บนและฤกษ์ล่างให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดศุภอิทธิพล เป็นศุภผลแก่เจ้าการ หรือเจ้าของงานที่จะกระทำการโดยฤกษ์นั้นๆ

การคำนวนฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่นั้นจะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน แปลงดวงชาตาจากร้ายให้กลายเป็นดีขึ้นได้
ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย



เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่
- รายละเอียด
- หมวด: ฤกษ์มงคลอื่นๆ
- จำนวนผู้อ่าน: 96398
**ได้ผลตอบรับดีมาตลอดนับสิบปี ว่านำฤกษ์ไปใช้แล้วได้ผลดีจริง และกลับมาขอฤกษ์อื่นๆอีกหลายครั้ง**
บริการหาฤกษ์มงคลอื่นๆ ที่จำเป็นในปัจจุบัน ปี 2568 ค่าบูชาครู 999 บาท
ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูง"ระดับโหรหลวง"ของ"โหราศาสตร์ภารตะ"จากคัมภีร์พระเวท
ของ พราหมณ์-ฮินดู อันศักดิ์สิทธิ์ จากประเทศอินเดีย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ฤกษ์ทุบรื้อ ฤกษ์ต่อเติมบ้าน ฤกษ์โอนบ้าน ฤกษ์โอนที่ดิน ฤกษ์เซ็นต์สัญญา ฤกษ์ศัลยกรรม
ฤกษ์เปิดบัญชีธนาคาร ฤกษ์ออกรถจากอู่ซ่อม ฤกษ์ทำบุญบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ
(ให้บริการผ่านเว็บไซด์นี้เป็นปีที่ 16)
ฤกษ์ชั้นสูงคำนวนละเอียดเป็นนาที จาก วัน เดือน ปี เกิด เวลาเกิด โดยเฉพาะบุคคล
โดย อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท (Astro Neemo)
**NEW บริการใหม่ อาจารย์เปิดบ้านรับดูดวงด้วยโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) สนใจดูดวงคลิ๊ก
**คำเตือนระวังฤกษ์ร้ายให้โทษ**
ฤกษ์ที่ถูกต้องและได้ผลจริงตามหลักโหราศาสตร์จะต้องคำนวนจาก วดป เกิด เวลาเกิดและจังหวัดที่เกิด ของเจ้าชะตาเท่านั้น เพื่อที่คำนวนหาฤกษ์มงคลที่สมพงศ์กับดวงชะตาเพื่อที่จะช่วยเสริมดวง ช่วยแก้ไขดวงเดิมจากร้ายกลายเป็นดี นี่คือผลดีของฤกษ์จากวิชาโหราศาสตร์ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าดูแค่วันอธิบดี วันธงชัย แล้วจะดีกับเรา และวันดีก็ไม่ใช่จะดีตลอดทั้งวัน และฤกษ์ดีตามปฏิทินอาจจะเป็นฤกษ์ร้ายสำหรับตัวเราก็ได้
ส่วนฤกษ์ตามอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าใช้ศาสตร์ไหนวิชาไหนมาคำนวน ส่วนมากจะบอกแค่วันที่ บางที่ก็บอกเวลาด้วย แต่ไม่คำนวนดวงชะตาของเราไปร่วมคำนวนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีอะไรและจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ฤกษ์แบบนี้ส่วนมากกลายเป็นฤกษ์ร้ายให้โทษแก่เจ้าชะตาจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย

*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
ฤกษ์มงคลอื่นๆที่ให้บริการมีดังนี้
1.ฤกษ์เซ็นต์สัญญา
2.ฤกษ์เปิดบัญชีธนาคาร
3.ฤกษ์ทำบุญบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ
4.ฤกษ์ไหว้ครูประจำปี ครอบครู ตำหนักทรง ศาลเจ้า ครูเลขยันต์ ครูโหรา ครูหมอยา ครูนาฏศิลป์ โขน ลิเก มโนราห์ ละครรำ ฯลฯ
5.ฤกษ์ผ่าตัด ฤกษ์ทำศัลยกรรม
6.ฤกษ์โอนบ้าน -โอนที่ดิน อสังหาริมทรัพย์
8.ฤกษ์วางศิลาฤกษ์ โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ หอระฆัง ศาลเจ้า อาคารเรียน อาคารที่ทำการราชการ ฯลฯ
9.ฤกษ์พุทธาภิเษก เทวาภิเษก จุด-ดับเทียนชัย เบิกเนตร
10.ฤกษ์ติดตั้งป้ายร้านค้า ห้างร้าน บริษัทฯ
11.ฤกษ์ทุบรื้อ ซ่อมแซม บ้านอาคาร หรือเพื่อแก้ฮวงจุ้ย ฯลฯ
12.ฤกษ์ตั้งหิ้งพระ แท่นบูชา รูปเคารพ บรรพบุรุษ
13.ฤกษ์หล่อพระ เทวรูป รูปปฎิมาต่างๆ ฯลฯ
14.ฤกษ์ขุดบ่อ -สระน้ำ
15.ฤกษ์บรรจุอัฐิ
16.ฤกษ์ออกรถจากอู่ซ่อม
*****และฤกษ์อื่นๆนอกเหนือจากนี้ ให้ติดต่อสอบถามมาได้ครับ
การคำนวนฤกษ์จะเร็วจะช้าจะยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับดวงชาตาของบุคคลนั้นๆ ว่าช่วงเดือนนั้นหรือในระหว่างปีนั้นมีช่วงที่ดีเป็นมงคลกับดวงชาตานั้นๆ หรือไม่และจะต้องหลีกเลี่ยงผลร้ายและปรับปรุงดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสมพงษ์กับ ดวงชาตาของเจ้าชาตาและกิจการที่จะต้องกระทำในช่วงนั้นหากตรวจสอบพบว่ามี เคราะห์หามยามร้ายในช่วงนั้นพอดี โหรจะต้องปรับดวงฤกษ์อย่างไรจึงจะสลายผลร้ายอันนั้นให้ลดลงหรือหลีกเลี่ยงไป ให้ได้ และพยายามส่งเสริมจุดที่ดีในดวงชาตาให้โดดเด่นขึ้นโดยใช้ฤกษ์ยามซึ่งเป็น พลังงานพิเศษจากฟากฟ้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมและแก้ไขดวงชาตาฉะนั้นใน การแก้ไขดวงชาตาในหลักวิชาโหรนั้น มีเพียงการใช้"ฤกษ์ยามที่สมพงษ์กับเจ้าชาตาเท่านั้น"จึงจะสามารถเปลี่ยน
ในการขอฤกษ์ อาจารย์จะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการคำนวนหาฤกษ์ หากท่านส่งข้อมูลมาพร้อมทั้งแจ้งการโอนค่าบูชาครูมาภายในวันนี้ ท่านก็จะได้รับฤกษ์ภายในพรุ่งนี้หรือไม่เกิน 24 ชมในกรณีปกติ หากดวงชาตาของท่านหาฤกษ์ได้ยาก ก็อาจจะได้ฤกษ์ภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงของท่านเอง ในการหาฤกษ์ สิ่งที่ต้องการก็คือ
1. ดวงชาตาเจ้าการ หรือเจ้าของบ้าน เป็นชายหรือหญิง วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด และจังหวัดที่เกิด หากเป็นสามีภรรยาก็ต้องแจ้งมาทั้งสองท่านและบอกอาชีพมาด้วย หรือหากเป็นกิจการสาธารณะ ที่ไม่มีเจ้าการก็บอกหน่วยงานที่เป็นประธานหรือเจ้าภาพ
2. เวลาที่ต้องการโดยเคร่าๆ ว่าประมาณวันไหน เดือนอะไร และที่จังหวัดไหน
3. ประเภทฤกษ์หรือพิธีกรรมที่ต้องการ เช่นฤกษ์พุทธาภิเษก ฤกษ์โอนบ้าน ฯลฯ
4. วัตถุประสงค์ของพิธีกรรมนั้นๆ ต้องการดวงฤกษ์เด่นด้านไหน ให้คุณเรื่องอะไร เช่นค้าขายดี หรือได้เลื่อนตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา หรือ ช่วยทำมาหากิน โชคลาภ ฯลฯ
หรือสอบถามผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอฤกษ์ โดยคลิ๊กที่แบนเนอร์ข้างล่างนี้
ค่าครูบูชา ฤกษ์ 999.- / ต่อครั้ง หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่า บุูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 3,000 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียง 999 บาทเท่านั้น
รายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร

การแจ้งการโอนเงินชำระค่าบูชาครู เมื่อท่านได้ชำระค่าครูแล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ แจ้งผ่าน Line @astroneemo (คลิ๊กเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7l5EpF )
เมื่ออาศรมฯได้รับการยืนยันการชำระค่าครูบูชาฤกษ์แล้ว จะดำเนินการจัดส่งฤกษ์มงคลให้กับท่านทางอีเมล์และ SMS แจ้งทางหมายเลขมือถือที่ท่านได้ให้ไว้ตอนกรอกแบบฟอร์ม
ฤกษ์มงคลที่ท่านจะได้รับมีดังนี้
1.ฤกษ์ตัดเวลาตั้งแต่ปฐมฤกษ์-สุดฤกษ์ เป็นเวลาเท่าใด ที่สมพงษ์กับดวงชาตาของเจ้าการทั้ง หน่วงงาน และสมพงษ์กับกิจการของฤกษ์นั้นๆ
2.เคล็ดและพิธีกรรมอื่นๆนอกเหนือจากพิธีกรรมโดยปกติ (ถ้ามี)
![]()

ในสมัยโบราณ นิยมใช้ฤกษ์ยามในการริเริมกิจการหรือกิจกรรมต่างๆเพื่อความเป็นศิริมงคล และความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง ปราศจากอุปสรรค ภัยอันตรายต่างๆ ซึ่งก็จะสำเร็จผลตามความประสงค์นั้นๆ แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่า ได้ใช้ฤกษ์ที่ถูกต้องตามหลักวิชาโหรฯหรือไม่ หรือช่วงที่ต้องการนั้นมีดวงดาวโคจรในทางที่ให้คุณ และมีฤกษ์ที่เหมาะสมกับดวงชาตาของเจ้าการหรือไม่ ในอดีตมักให้ความสำคัญกับการใช้ฤกษ์ยามเป็นอย่างมาก บางคนก็ต้องรอนับเดือนปี เพื่อจะได้ฤกษ์ยามที่เหมาะสมกับกิจการและดวงชาตาของตนเองจริงๆ ตัวอย่างที่เคยมีมาแล้วในอดีต โหรราจารย์ทั้ง ๗ คำนวณฤกษ์ ตั้งเมืองบางกอก (กรุงเทพฯ) ถวายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ (ร.๑) โดยตั้งรอนานถึง 3 ปี จึงจะประกอบพระราชพิีธีวางเสาหลักเมืองบางกอกได้ เพราะอีก 3ปี ข้างหน้าดวงดาวต่างๆถึงจะโคจรมาสถิตย์ในราศีตามที่โหรฯคำนวณล่วงหน้าเอาไว้ ในวันอาทิตย์ ปีขาล จ.ศ. 1144 หรือวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เวลา 06.54 น.
แต่หากเป็นฤกษ์ชาวบ้าวทั่วไปที่ยึดถือกันมา มักจะไม่ค่อยได้ผล เพราะไม่มีหลักวิชาที่แน่นอน เอาแต่เชื่อตามกันมาแบบผิดๆ ทำให้หลายๆต่อหลายคนขาดความเชื่อถือเรื่องฤกษ์ยาม ว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ ไม่มีผลตามที่กล่าวอ้าง อันนี้ก็ต้องอธิบายกันเสียยืดยาว กว่าจะเข้าใจกันได้ว่าฤกษ์นั้นมีหลายชั้น หลายเกรด ฤกษ์แบบโหลๆ ก็มี พลิกปฎิทินก็ให้ฤกษ์กันได้แล้ว หรือไม่ก็ดูว่า วันนี้ขึ้นแรมกี่คำ วันศุกร์ เดือนคู่ก็ให้ฤกษ์ได้ การให้ฤกษ์แบบนี้ทางผู้ศึกษาวิชาโหรฯทุกๆต่างก็รู้ดีว่าอันตรายกับผู้ใช้ฤกษ์มาก แต่ไม่มีใครเคยรู้
อาจารย์เองก็ตั้งใจหวังให้ท่านได้ประสบความสำเร็จผล ตามจิตเจตนาที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ขอท่านอย่าได้มีอุปสรรคหรือประสบกับความวิบัติใดใดในกิจการที่ทำ หรืออย่างน้อยก็ให้อุปสรรคต่างๆที่จะมีมาให้ลดน้อยถอยลงไป แก้ไขดวงชาตาเดิมที่เคยร้ายกลับกลายเป็นดี หลักอันนี้ครูบาอาจารย์โหรรับรองว่าได้ผลและถูกต้องตามหลักวิชา
แต่เนื่องจากฤกษ์ยามชั้นสูงนี้ อาจารย์เจอมากมากต่อมาก ขอบอกเอาไว้ก่อน ณ ที่นี้ เพราะบางท่านวาสนาก็ไม่ถึงฤกษ์ยามที่ให้ มีเจ้ากรรมนายเวรแรง มีวิบากกรรมที่หนักหนา ก็มักจะไม่มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ตามที่ให้ มักหลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย เป็นต้นว่า มักมีเหตุทำตามไม่ทั้นเวลาฤกษ์ รถติด เตรียมเอกสารไม่ครบ หรือไม่ว่างในเวลาฤกษ์พอดี หรือไม่ก็มีคนมาทักว่า วันนี้ไม่ดีนะ ควรจะเป็นวันนั้นดีกว่า ทั้งๆที่คนมาทักก็ไม่มีความรู้ทางโหรฯอะไรเลยแม้แต่น้อย เคนแต่ได้ยินได้ฟังมาเท่านั้น ส่วนมากคนที่ชอบทักก็เป็นญาติผู้ใหญ่ทั้งนั้น ทำให้เจ้าการเกิดความเกรงใจ ไม่ได้ใช้ฤกษ์ยามที่ให้ และพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย
ที่ผ่านมาทางอาศรมฯได้ทำการให้ฤกษ์ยามหลายอย่างแก่สาธารณะชนทั่วไป และมักมีคนมาถามฤกษ์อื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการบริการที่อาศรมฯมีให้ ก็เลยรบวรวเอาวไ้ ณ.ที่นี้เพื่อความสะดวกในการสอบถามและขอฤกษ์มงคล

***หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและความหมายเกี่ยวกับการดูฤกษ์ อ่าน "กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์" คลิ๊กที่นี่..
หมายเหตุ 1)หากสงสัยว่าวิชาโหรฯมีการคำนวนดวงชาตาของฤกษ์ยามที่ละเอียดซับซ้อนและแตกต่างจากวิชาอื่นๆอย่างไร กรุณาอ่านบทความ โหราวิทยา บทที่ 4 การคำนวนกำลังดาวเคาระห์และเรือนชาตาโดยคลิ๊ก โหราวิทยาบทที่ 4 การคำนวณกำลังดาวเคราะห์และเรือนชาตา หมายเหตุ 2) หากท่านเข้าใจว่าวิชาโหรฯเป็นวิชาที่งมงายไร้เหตุผล ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักการ ขอให้ท่านเข้าไปศึกษา วิชาการคำนวณดวงชาตาของโหรฯเสียก่อน โดยคลิ๊ก การคำนวณดวงพิชัยสงคราม,คัมภีร์สุริยยาตร์และมานัตต์
ความจริงเรื่องฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามหลักโหรฯ จะมีคุณประโยชน์ดังนี้
ดัง นั้นหัวใจของฤกษ์ยามที่ถูกต้องก็คือ การใช้ฤกษ์บนและฤกษ์ล่างให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดศุภอิทธิพล เป็นศุภผลแก่เจ้าการ หรือเจ้าของงานที่จะกระทำการโดยฤกษ์นั้นๆ



ปัจฉิมลิขิต ทาง อาศรมจะให้ฤกษ์ที่ดีที่สุดเพียงฤกษ์เดียวในช่วงระยะเวลาที่คุณระบุมาเท่า นั้น ทางเราไม่มีฤกษ์เผื่อเลือก เช่น ขอหลายๆฤกษ์ ไม่มีฤกษ์โหลๆ เช่นวันนี้วันดีแต่งงานได้ทุกคู่ หรือวันนี้วันดีออกรถได้ทุกคน หรือฤกษ์ตามใจฉัน ฤกษ์ตามใจผู้ใหญ่ หรือชอบฤกษ์ที่ฉันสะดวก หรือต้องการฤกษ์ชั้น 2 ชั้น 3 หรือต้องการฤกษ์ที่ตัวเองไปเสริชร์หาในเน็ต หรือเปิดปฏิทินดูเองแล้วนึกว่าเป็นฤกษ์ดี หรือ ไปขอฤกษ์จากอาจารย์ท่านอื่นที่ให้แต่วันมา แต่กลับไม่มีเวลาให้ แล้วจะมาขอเวลาฤกษ์ อย่างนี้เป็นต้น
ฤกษ์ ชั้น 1 หรือ ฤกษ์ยามชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์พระเวทระบบนี้คำนวณยากและหาฤกษ์ได้ยากกว่า ระบบอื่นและจะต้องคำนวน ให้ถูกต้องตามหลักวิชาต้องเป็นมงคลที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้มาขอฤกษ์เท่า นั้น ท่านไหนสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นคนมีบุญ และเป็นศิริมงคลเกิดความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองสำเร็จสมหวังตามปรารถนา แต่ท่านไหนมีวิบากกรรมเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางหรือวาสนาไม่ถึงฤกษ์ ก็นำไปใช้ไม่ได้ ส่วนโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ไม่สามารถทำแบบมักง่ายหรือให้ฤกษ์แบบตามใจท่าน เพราะหากเกิดความวิบัติใดใดแก่ผู้ใช้ฤกษ์ ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ก็ต้องรับผลกรรมอันนั้นด้วย ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ได้สาปแช่งให้เกิดความวิบัติแก่ตัวโหรผู้ให้ฤกษ์ผิดๆ โดยหวังจะเอาลาภสักการะ หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ดังนั้นจึงได้โปรดได้เข้าใจในกฏข้อนี้ด้วย



เรื่องฤกษ์ยามที่ควรรู้
"คนชอบทัก"กับคำถามสำหรับคนชอบติว่าฤกษ์ไม่ดี
วิธีการนับวันเกิดแบบโหร (เกิดวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ฯลฯ)
วิธีการนับปีเกิดแบบโหร(ปีนักษัตร ชวด ฉลู ฯลฯ)
ปัญหาเรื่องลัคนาและราศีเกิด ทำไมไม่ตรงกัน
ฤกษ์ชั้นสูง ฤกษ์ชั้น 1 ฤกษ์ชั้น 2 ฤกษ์ชั้น 3 คืออะไร
เวลาเกิดไม่แน่นอน หรือ ไม่รู้ทั้งวันเดือนปีเกิด สามารถดูฤกษ์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ฤกษ์ในระบบโหราศาสตร์
วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ ทำการมงคลไม่ได้จริงหรือ ?
สีถูกโฉลก กับ เหตุผลทางโหราศาสตร์
ปฏิทินคลาดเคลื่อน ใครผิด ใครถูก?
ความแตกต่างของฤกษ์จาก "วิชาโหร"กับ"วิชาหมอดู"
ดวงชง-การทำลายและส่งเสริมผลของฤกษ์ยามต่างๆ
วันครู วันพระ วันในพรรษา ทำการมงคลได้หรือไม่
การดูฤกษ์แบบผิดๆ กับวันกาลกิณี
ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
********************************************************
- รายละเอียด
- หมวด: บริการดูฮวงจุ้ย
- จำนวนผู้อ่าน: 10969
อ่านเพิ่มเติม: 301165 ดูฮวงจุ้ยตกแต่งบ้าน คุณวัฒน์-ภัทรา จิราธิวัฒน์ ปีที่ 20
- รายละเอียด
- หมวด: ค่าบูชาครู
- จำนวนผู้อ่าน: 37603
การชำระค่าบูชาครู ด้วยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต และPaypal


ขณะนี้ท่านสามารถชำระค่าบูชาครู ผ่านระบบ Paypal ,บัตรเครดิต,บัตรเดบิต ของทุกธนาคารได้แล้ว
1.ฤกษ์ออกรถ ค่าบูชาครู 629 บาท
2.ฤกษ์ลงเสาเอก ค่าบูชาครู 699 บาท
3.ฤกษ์เข้าบ้านใหม่ ค่าบูชาครู 659 บาท
4.ฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ค่าบูชาครู 689 บาท
5.ฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ค่าบูชาครู 679 บาท
6.ฤกษ์จดทะเบียนสมรส 999 บาท
7.ฤกษ์มงคลสมรส แบบพิธีไทย ค่าบูชาครู 1299 บาท
8.ฤกษ์มงคลสมรสพิธีจีน ค่าบูชาครู 1888 บาท
7.ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ค่าบูชาครู 619 บาท
8.ฤกษ์ตั้งศาล ค่าบูชาครู 669 บาท
9.ฤกษ์รับตำแหน่งใหม่ ค่าบูชาครู 649 บาท
10.ฤกษ์ลาสิกขา ค่าบูชาครู 639 บาท
11.ฤกษ์โกนผมไฟ(ทำขวัญเดือน) ค่าบูชาครู 619 บาท
12.ฤกษ์มงคลอื่นๆ ค่าบูชาครู 699 บาท
13.ผูกดวงพิชัยสงคราม ค่าบูชาครู 2999 บาท
14.บูชายันต์พุทธคุณลงเสาเอก ค่าครู 1999 บาท
15.ยันต์พุทธคุณตั้งศาลพระภูมิ ค่าครู 1999 บาท
16.ฤกษ์ผ่าคลอด ค่าครู 2999 บาท
17.ดูฮวงจุ้ย ติดต่อสอบถาม คุณกมล 085-832-8228
ค่าครูบูชา ฤกษ์ คำนวน1ครั้ง / 1ฤกษ์ หากต้องการขอใหม่คุณต้องทำบุญค่ายกครูใหม่
ค่า บุูชาคำนวนฤกษ์ของระบบ"โหร" ที่มีประสบการณ์โดยปกติทั่วไป จะมีการกำหนดไว้ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาทต่อ 1 ฤกษ์ แต่เพื่อเป็นการสืบสานวิชาการให้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามระบบโหราศาสตร์ และเพื่อการรักษาขนบประเพณีไทยโบราณมิให้สูญหายไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจต่อวิชาโหรฯว่าเป็นวิชาที่มีหลักการที่ เป็นระบบ มีแบบแผน ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานนับพันๆปี เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูงมีค่าควรเมือง มิใช่นำไปทำนายกันเล่นๆ อย่างที่เราเห็นๆกันโดยทั่วไป และเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ได้มีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ยามของระบบโหรที่ถูกต้อง ทางอาศรมฯจึงกำหนดอัตราค่าครูเพียงไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น
ราย ได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูลและบริหารเว็บไซด์ และเพื่อเผยแพร่ความรู็เชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ ธรรมะ ฯลฯ แก่สาธารณะชน และอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญกุศลต่างๆตามกฏเกณฑ์ของโหร
1.วิธีการชำระค่าครูด้วยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร

เมื่อ ท่านได้ชำระค่าครูบูชาฤกษ์แล้วกรุณาแจ้งการโอนเงินมาทาง SMS ที่หมายเลข 085-832-8228 หรือ e-mail แจ้งมาที่
ปัญหา ที่พบบ่อยมากก็คือเมื่อท่านทำการส่งข้อมูลและได้ทำการโอนเงินชำระค่าครูแล้ว มักจะไม่ค่อยได้แจ้งการโอนเงิน ทำให้ได้รับฤกษ์ล่าช้า (เนื่อง จากการทำการขอฤกษ์ยามมงคลจะต้องมีค่าบูชาครูเพื่อที่จะให้คุณได้ฤกษ์ยามจาก ครูบาอาจารย์ที่ถูกต้องจะไม่เป็นหนี้เวรหนี้กรรมต่อกันในการติดค้างครู อาจารย์ และโหรผู้คำนวนฤกษ์ก็จะไม่ต้องรับวิบากผลในการให้ฤกษ์ยามในการแก้ดวงชาตาให้ กับท่าน) หากได้ทำการชำระค่าครูแล้วกรุณาโทรแจ้งคุณกมล (คุณบอย) 085 832 8228 หรือแฟกซ์ / อีเมล์ตามรายละเอียดข้างต้น
ขอความกรุณาอย่าโทรมาบอกให้ผมจดรายละเอียดในการขอฤกษ์ของท่าน เพราะ
หาก ท่านไม่ได้แจ้งเข้ามา เราก็จะไม่สามารถตรวจสอบว่ายอดเงินนี้เป็นของท่าน เพราะยอดเงินจะเหมือนกันทั้งหมด จะทำให้ท่านได้รับฤกษ์ล่าช้า
ทางอาศรมฯของเราปกติ มิได้เปิดรับแขก หรือลูกค้าหรือบุคคลทั่วไป ให้ มาดูฤกษ์ที่อาศรมฯ เพราะเราเป็นที่สัปปายะซึ่งต้องการความสงบ เราจึงมีบริการคำนวนฤกษ์เฉพาะทางเว็บไซด์หรืออีเมล์เท่านั้น จึงต้องขอภัยทุกๆท่านมา ณ ที่นี้
2.วิธีการชำระค่าครูผ่านPAYPAL และบัตรเครดิตของทุกธนาคาร
2.1 คลิ๊กที่ปุ่มชำระเงิน PAYNOW

2.2 จะไปที่หน้าจอของ Paypal และท่านสามารถเลือกได้ว่าจะชำระด้วย Paypal หรือ บัตรเครดิต

2.3 หากเลือกชำระด้วยบัตรเครดิตจะไปที่หน้าจอของการชำระด้วย บัตรเครดิต ตามรูปด้านล่างนี้ท่านสามารถชำระด้วยบัตรเครดิตของทุกธนาคาร โดยกรอกแบบฟอร์มตามนี้ ซึ่งการชำระเงินระบบตัดบัตรเครดิตของPaypal ปลอดภัยที่สุดในปัจจุบันนี้และเป็นระบบเดียวที่ใช้แพร่หลายทั่วโลก และระบบจะมีการคืนเงินให้ลูกค้าในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาและมีการปกป้องข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

2.วิธีการชำระค่าครูผ่าน QR Code ของทุกธนาคาร NEW

3.แจ้งการโอนเงิน ได้ที่(1.) Line@astroneemo (2.) เมนูหน้าเว็บไซด์ โดยคลิ๊กที่นี่ "แบบฟอร์มแจ้งการโอนเงินค่าบูชาครู"

สแกน QR Code ด้านบน หรือ Add ID @astroneemo แต่ต้องเติมคำว่า @ ไว้ข้างหน้าด้วยนะครับ แล้วเราก็จะได้เป็นเพื่อนกัน สามารถสอบถามรายละเอียดเรื่องฤกษ์ยาม คำถามต่างๆ และแจ้งการโอนเงินได้ที่นี่ครบเลย
หมวดหมู่รอง
ฤกษ์ปลูกบ้าน จำนวนเนื้อหา: 1

















_exposure.jpg)














































































































