
บทเรียนที่ 6 อิทธิพลของดาวพฤหัสบดี และเคล็ดลับการพยากรณ์
สำหรับบทเรียนตอนใหม่นี้จะเริ่มเรื่องจากอิทธิพลและความหมายของดาวเคราะห์ทั้ง 9 ดวงก่อน เพื่อปูพื้นฐานสำหรับการเรียนบทต่อๆไป ในบทเรียนนี้ผู้เขียนได้ประเดิมบทเรียนด้วย”ดาวพฤหัส”ก่อนเป็นปฐม เพราะถือว่าเป็นดาวครู ดาวแห่งโหราศาสตร์ และเป็นดาวประธานแห่งดาวศุภเคราะห์ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่การศึกษาโหราศาสตร์ในบทต่อๆไป
ในสภาวะแห่งจิตสำนึกขั้นสูง เหล่าปราชญ์ผู้ทรงภูมิธรรม ซึ่งก็คือเหล่ามหาฤษีทั้งหลาย ได้ประจักษ์แจ้งถึงสัจธรรมทางปรัชญาหลายประการ และได้ให้กำเนิดศาสตร์แขนงต่างๆ อันได้แก่ วิชาโหราศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ โยคะ และ เวทานตะ ซึ่งศาสตร์ทั้งปวงล้วนศึกษาเกี่ยวกับ "ความมีอยู่" หรือ "ภาวะดำรงอยู่" ในแง่มุมต่างๆของชีวิตเรา ไม่ว่าเราจะตระหนักถึงมันหรือไม่ก็ตาม เช่น
ฟิสิกส์ คือศาสตร์ที่ว่าด้วยความมีอยู่ของสรรพสิ่ง ในฐานะ "สสาร" และ "พลังงาน" ด้านเคมี หรือ ธาตุในฐานะ "คุณสมบัติ" หรือ คุณะ ที่เราได้ศึกษาไปแล้ว ด้านคณิตศาสตร์ ในฐานะ "จำนวนนับ" (सङ्ख्या – สงฺขฺยา) และในด้านชีววิทยา (Biology) คือศาสตร์ที่ศึกษาความมีอยู่ของสรรพสิ่งในฐานะ "ชีวิต"
แต่ทว่า "ปฐมปรัชญา" หรือ เวทานตะ (वेदान्त) คือศาสตร์ที่ศึกษา "ความมีอยู่ ในฐานะ ความมีอยู่" ในสภาวะที่บริสุทธิ์
ในขณะที่ "ศาสตร์แห่งความมีอยู่" (เวทานตะ) ซึ่งว่าด้วย "ศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต" หรือ โยคะ มีศาสตร์หลักแบ่งเป็นหกสาขา หรือ "อังคะทั้ง ๖ ส่วน" ซึ่งทุกส่วนหรือสาขาถูกควบคุมโดย "ศาสตร์แห่งความมีอยู่ ในฐานะ กาลเวลา" ซึ่งนั่นก็คือ โหราศาสตร์ (ज्योतिष –โชติษ)
เพราะโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเรื่อง "การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งผ่านเงื่อนไขของเวลา" โดยเฉพาะซึ่งสอดคล้องกับคำนิยามของโหราศาสตร์ในฐานะที่เป็นคัมภีร์ที่ว่าด้วย "ศาสตร์แห่งกาลเวลา"
ดาวพฤหัส-ดาราศาสตร์ (Astronomy)
ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ และเป็นวัตถุที่สว่างที่สุด(โชติมาตร)ลำดับที่ 4 บนท้องฟ้า (รองจากดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์, และดาวศุกร์) โดยมีคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ (Orbital Period) ใช้เวลาประมาณ 11.86 ปี ของโลก ในการโคจรครบ 1 รอบในระบบสุริยะ
ดาวพฤหัสหมุนรอบตัวเอง (Rotation) ใช้เวลาหมุนเร็วมาก ใช้เวลาเพียงประมาณ 9 ชั่วโมง 55 นาที ต่อ 1 รอบ (ทำให้วันบนดาวพฤหัสสั้นที่สุดในระบบสุริยะ) ส่วนความเร็วเฉลี่ยในการโคจร ใช้เวลาประมาณ 0.0831 องศาต่อวัน (หรือประมาณ 4.99 ลิปดาต่อวัน)
ดาวพฤหัส-โหราศาสตร์ (Astrology)
ในทางโหราศาสตร์ไทยและภารตะ ดาวพฤหัสบดี (๕) ถือเป็น "ประธานศุภเคราะห์" เป็นเทพเจ้าแห่งปัญญาและโชคลาภ มีกำหนดเกณฑ์การโคจรดังนี้ คือ โคจรวันละประมาณ 5 ลิปดา (0 องศา 5 ลิปดา) โดยเฉลี่ย (คำนวณจาก 0.0831 องศา x 60 = 4.986 ลิปดา) และใช้เวลาในการโคจรผ่าน 1 ราศี ใช้เวลาประมาณ 1 ปี (หรือ 12-13 เดือน) ต่อ 1 ราศี และการโคจรครบรอบจักรราศี (12 ราศี) ใช้เวลาประมาณ 12 ปี นอกจากนี้ยังมีการโคจรวิกลคติ โดยในหนึ่งปี ดาวพฤหัสจะมีการเดินผิดปกติ (พักร, มนท์, เสริด) เป็นช่วงเวลาประมาณ 4 เดือน ต่อปี โดยจะปรากฏเหมือนโคจรถอยหลังเมื่อมองจากโลก
กฎแห่งความสอดคล้อง – มุมมองตะวันตกและตะวันออก
ในโลกตะวันตกท่านปรมาจารย์ เฮอร์มีส ทริสเมกิสตุส (Hermes Trismegistus) นักปราชญ์โบราณที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับเสมือนเทพเจ้า ได้กล่าวถ้อยคำประกาศก้องถึง กฎแห่งความสอดคล้อง ไว้ว่า "สิ่งที่อยู่เบื้องบน นั้นเหมือนกับ สิ่งที่อยู่เบื้องล่าง, และสิ่งที่อยู่เบื้องล่าง นั้นก็เหมือนกับ สิ่งที่อยู่เบื้องบน, ทั้งนี้เพื่อที่จะให้ปาฏิหาริย์แห่ง ความรู้แจ้งเห็นจริงในความเป็นหนึ่งเดียว นั้นดำรงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์"
ในขณะที่โลกตะวันออก ท่านศรี อรวินโท (Sri Aurobindo - มหาฤาษีและนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินเดีย) ได้กล่าวในสิ่งที่คล้ายกันไว้ว่า "ความลี้ลับของ ดอกบัว นั้น..ไม่อาจถูกตีความได้ด้วยการวิเคราะห์เพียงแค่ โคลนตม ที่อยู่เบื้องล่าง...แต่จักต้องทำความเข้าใจต้นแบบของดอกบัว ที่เบ่งบานอยู่นิจนิรันดร์ ณ สรวงสวรรค์เบื้องบน"
คำกล่าวของมหาปราชญ์ทั้งสองข้างต้น ก็คือหัวใจของวิชาโหราศาสตร์ (ยถฺ ปิณฺเฑ ตถฺ พฺรหฺมาณฺเฑ - แปลว่า "ในกายมนุษย์ (ย่อส่วน) เป็นเช่นไร ในจักรวาล (ขยายส่วน) ก็เป็นเช่นนั้น" การศึกษาดวงดาวเบื้องบน จึงจะทำให้เราเข้าใจชะตามนุษย์เบื้องล่างได้
คำว่า”ดอกบัวและโคลนตม”ท่านอรวินโทเปรียบเปรยว่า เราไม่สามารถเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ (ดอกบัว) ได้ หากมองแค่ร่างกายเนื้อหนังหรือกิเลส (โคลนตม) แต่ต้องมองไปที่ "ดวงวิญญาณ" หรือต้นกำเนิดจากสวรรค์ของมนุษย์ (ดอกบัว) การใช้คำว่า”ดอกบัว”แทนคำว่า”มนุษย์”ในวัฒธรรมอินเดียโบราณมีความหมายลึกล้ำ แม้แต่ในพุทธศาสนาเองก็เปรียบมนุษย์เหมือนดอกบัวทั้ง 4 เหล่า เช่นเดียวกัน
บทบาทของดาวพฤหัสบดีในการพยากรณ์ดวงชะตา
ดาวพฤหัสบดี (बृहस्पति พฤหสฺปติ) ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ที่สำคัญที่สุดในระบบสุริยะ ดาวพฤหัสบดีมีขนาดใหญ่มากจนสามารถนำโลกจำนวนถึง 1,300 ใบมาบรรจุลงภายในได้ และดาวพฤหัสบดีก็เป็น "ตัวบ่งชี้" หรือ "สื่อนำ" แห่ง เทวกรุณา หรือความเมตตาจากเบื้องบน หากดาวพฤหัสบดีในดวงชะตาให้คุณ หรือมีความเข้มแข็ง ดวงชะตาทั้งดวงชะตาจะถูกพิจารณาว่าเป็นดวงชะตาที่ให้คุณและเสริมศิริมงคลแก่เจ้าชะตา
ในทางตรงกันข้าม หากดาวพฤหัสบดีอ่อนแอ (นิรฺพล) ดวงชะตานั้นก็จะสูญเสีย "พลังภายใน" หรือสูญเสียความเข้มแข็งโดยพื้นฐานไป Guru (คุรุ)ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของดาวพฤหัสบดี แปลว่า "ครู" หรือ "ผู้หนักแน่น" ซึ่งสอดคล้องกับขนาดที่ใหญ่โตของดาวพฤหัส หรือ บางตำราก็เรียกพฤหัสบดีว่า "ชีวะ" หมายถึง "ชีวิต" หรือ "จิตวิญญาณ" เพราะเป็นดาวที่หล่อเลี้ยงชีวิตและประคองดวงชะตา
อิทธิพลของดาวพฤหัสบดีในเรือนทั้ง 12
1.ดาวพฤหัสบดีในลัคนา
ดาวพฤหัสบดี เมื่อสถิตในลัคนา จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้คงแก่เรียน มีรูปร่างงดงาม และมีอารมณ์เบิกบานร่าเริง อิทธิพลของดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 1 จะมีรูปลักษณ์อันสง่างาม สุขุม คัมภีรภาพ มีบุคลิกภาพอันทรงเสน่ห์ น่าดึงดูดใจ เปี่ยมด้วยการเรียนรู้และภูมิปัญญา
ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 1 จะให้ผลทำให้เจ้าชะตามี อายุยืนยาว มีความเป็นผู้คงแก่เรียนและมีความเป็นปราชญ์ เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือจากมวลมหาชน นอกจากนี้ เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีรูปโฉมงดงาม และมีสติปัญญาในการแยกแยะผิดชอบชั่วดี หรือมีวิจารณญาณในระดับสูง ทั้ง IQ และ EQ
2.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 2 (กฎุมพะ)
ดาวพฤหัสบดี เมื่อสถิตในเรือนที่ 2 ดาวพฤหัสบดีจะให้พรสวรรค์ด้านกวีนิพนธ์ ความงดงามแห่งรูปโฉม ความมั่งคั่งร่ำรวย และชื่อเสียงเกียรติยศ แก่เจ้าชะตา เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มี "พรสวรรค์ในการเจรจา" หรือได้รับประทานพรจากสวรรค์ให้มี วาทะอันฉะฉานชัดเจน หรือจะเป็นผู้ที่พูดจาไพเราะ เสนาะหู นอกจากนี้ ยังเพียบพร้อมไปด้วยความเป็นผู้คงแก่เรียนและชอบการศึกษาหาความรู้
เมื่อ ดาวแห่งปัญญา สถิตอยู่ใน เรือนแห่งวาจา ย่อมส่งผลให้บุคคลนั้นเป็นบัณฑิตผู้ทรงภูมิรู้ คงแก่เรียน และถ่ายทอดภูมิรู้และปัญญาผ่านทางวาจา (คุรุ) หรือ ผู้สอน เคล็ดลับการพยากรณ์: ในทางโหราศาสตร์ภารตะ เรือนที่ 2 นอกจากหมายถึงทรัพย์สินแล้ว ยังหมายถึง "วาจา" และ "ใบหน้า" อีกด้วย
3.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 3 (สหัชชะ)
ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 3 มักส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว และไม่เห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่น (ไม่ใช่นักเสียสละ) หรือ เห็นแก่ตัว เจ้าชะตาจะต้องเผชิญกับ ความล้มเหลวในเรื่องใหญ่ๆหลายครั้งหลายคราในชีวิต และจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีนักกับพี่น้อง มักจะถูกเยาะเย้ยถากถาง และจะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในช่องท้อง หรือระบบย่อยอาหาร
เคล็ดลับการพยากรณ์: ในทางโหราศาสตร์ ดาวศุภเคราะห์อย่างพฤหัสบดีเมื่อมาอยู่ในเรือนที่ 3 ซึ่งเป็นเรือนอุปจัยและเรือนแห่งความกล้าหาญ มักจะแสดงผลในทางลบมากกว่าทางบวก เพราะธรรมชาติของดาวครูไม่ชอบการต่อสู้แย่งชิงกับใคร
แต่หากดาวบาปเคราะห์มาสถิตในเรือนอุปปัจจัยจะกลับกลายเป็นให้คุณ แต่อย่างไรก็ตามก็มีข้อยกเว้นว่าหากดาวพฤหัสในเรือนที่ 3 สถิตในเรือนอุจน์ เรือนเกษตร เรือนมูลเกษตร(มูลตรีโกณ) หรือเรือนมิตร และได้โยคเกณฑ์จากดาวศุภเคราะห์ หรือดาวคู่มิตร ความหมายก็จะเป็นไปในทางบวกมากขึ้น และจะตรงกันข้าม หรืออาจจะผสมกันกับคำพยากรณ์ข้างต้น
หมายเหตุ -เรือนอุปปัจจัย อันได้แก่เรือนที่ 3 (สหัสชะ) เรือนที่ 6(อริ) เรือนที่ 10 (กรรมะ) และเรือนที่ 11 (ลาภะ) ในดวงชาตา)
4.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 4 (พันธุ) (Jupiter in the Fourth House)
การที่ดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในเรือนที่ 4 จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้ที่มีความสุขและรักความสำราญ และรายล้อมไปด้วยมิตรสหายและญาติพี่น้องจำนวนมาก เจ้าชะตาจะเป็นผู้โชคดีในเรื่องของบ้านเรือนและที่อยู่อาศัย ชื่อเสียงเกียรติยศจะขจรขจายและแพร่สะพัดไปทั่วแผ่นดิน
เจ้าชะตาจะมีจิตใจที่แข็งแกร่งดุจเพชร หรือมีความหนักแน่นมั่นคง และจะได้เสวยความสุขสบายตลอดชีวิต
เคล็ดลับการพยากรณ์: เรือนที่ 4 คือ "เรือนแห่งความสุข" ทั้งสุขกายสุขใจการมีดาวศุภเคราะห์ใหญ่สถิตอยู่ จึงมักให้ผลดีในเรื่องความสุขสบายทางวัตถุและจิตใจ แต่อย่างไรก็ตามหากนักพยากรณ์เห็นคำทำนายอย่างนี้แล้ว ก็อย่าทายดีไปเสียหมด เพราะหากดาวพฤหัสถูกโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวบาปเคราะห์ จากดาวคู่ศัตร สถิตในเรือนศัตรู ความหมายดีๆในข้อนี้ก็จะเสื่อมลงไปตามกำลังของดาวเคราะห์ที่เป็นโยค
5.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 5 (ปุตตะ)
การที่ดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในเรือนที่ 5 จะประสิทธิ์ประสาท สติปัญญาขั้นสูง ให้แก่เจ้าชะตา ความมั่งคั่งร่ำรวยจะหลั่งไหลมา แต่อาจจะมีความวิตกกังวลอันเนื่องมาจาก บุตรบริวาร เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีความสามารถรอบด้าน หรือมีทักษะหลากหลาย
และเนื่องจากเรือนที่ 5 ถือเป็นหนึ่งใน "มุมสามเหลี่ยมคุณธรรม-หรือธรรมะตรีโกณ" การที่ดาวพฤหัสบดีสถิตในตำแหน่งนี้ สามารถส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้ที่มีศีลธรรมจรรยาสูงส่ง และมีจิตใจฝักใฝ่ในทางจิตวิญญาณ
เคล็ดลับการพยากรณ์: หลักการ "มุมสามเหลี่ยมคุณธรรม-หรือธรรมะตรีโกณ" ประกอบด้วยเรือนที่ 1, 5, และ 9 ซึ่งเป็นเรือนแห่งบุญกุศลและการสะสมความดีงาม และเงื่อนไขนี้สามารถใช้ได้กับดาวทุกดวง แต่ยังมีเงื่อนไขปลีกย่อยลงไปอีก เช่น เรือนทั้ง 3 มีดาวสถิตความหมายก็จะเข้มข้นขึ้น หรือ 1 ใน 3 เรือนมีดาวพฤหัสร่วมด้วย ความหมายและพลังในด้านคุณความดีก็จะยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ ส่วนมากจะเห็นในดวงพระ นักบวช และนักการกุศล
6.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 6 (อริ)
ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 6 ถือเป็น ผู้ทำลายล้างศัตรู หมายถึงศัตรูจะพ่ายแพ้ไปเองด้วยบารมีของเจ้าชะตา อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนี้มักส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นคนเกียจคร้าน และมีร่างกายที่อ่อนแอ หรือสุขภาพไม่แข็งแรงนัก นอกจากนี้ เจ้าชะตาอาจจะหันไปพึ่งพาหรือประกอบ พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ เพื่อจัดการกับปัญหาหรือศัตรู
เคล็ดลับการพยากรณ์: เรือนที่ 6 เป็นเรือนทุสถานะ (เรือนเสีย) และเป็นเรือนอุปปัจจัยด้วย เมื่อดาวศุภเคราะห์ครองเรือนนี้ มักให้ผลในเรื่องการเอาชนะอุปสรรคแต่ต้องแลกมาด้วยปัญหาอื่นๆ เช่นสุขภาพ หรือการใช้วิธีการที่ไม่เปิดเผย
และนักพยากรณ์จะต้องตีความให้ดี คำว่า”เกียจคร้าน”ในความหมายของดาวครู ไม่ใช่ขี้เกียจสันหลังยาวเหมือนดาวอังคารในด้านลบ คนเกียจคร้านจะมาเป็นครูได้อย่างไร ในความหมายนี้จริงๆก็คือชอบวิธีการลัด เช่น เรียนลัด สอนลัด ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายด้วยสติปัญญา ดังนั้นความหมายของเรือนอริ คือ ศัตรู หนี้สิน โรคภัย ดาวพฤหัสในเรือนนี้จะทำทุกสิ่งที่เป็น negative ให้กลายเป็น positive ด้วยปัญญาอย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่อง เรือนอุปปัจจัย ที่จะทำให้ทุกอย่างยากขึ้น
7.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 7 (ปัตนิ)
การที่ดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในเรือนที่ 7 เจ้าชะตาจะมีสถานะเปรียบประดุจดั่ง ราชา เนื่องจากดาวพฤหัสเป็นดาวแห่งปัญญาได้สถิตอยู่ในตำแหน่ง เรือนเกณฑ์ (ตำแหน่งเสาหลักของดวงชะตา) ตำแหน่งนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง โดยจะสามารถ ทำลายล้างผลร้ายได้ทุกประการ
และเจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีความสามารถในการสื่อสารระดับสูง ผลของดาวพฤหัสบดีที่ให้คุณ ในเรือนที่ 7 จะส่งผลให้ เจ้าชะตาเป็นผู้คงแก่เรียน เป็นผู้รักในบทกวี มีรูปงาม มีจิตใจโอบอ้อมอารีและใจกว้างยิ่งกว่าบิดา มีชื่อเสียงโด่งดัง เพียบพร้อมไปด้วย คู่ครองที่ดี และบุตรที่ดี
เคล็ดลับการพยากรณ์: หลักการที่ว่า "พฤหัสในเกณฑ์ทำลายโทษนับแสน" มาจากโศลกโบราณที่ว่า "กึ กุรฺวนฺติ คฺรหาห์ สรฺเว ยสฺย เกนฺทฺเร พฤหสฺปติห์" แปลว่า "ดาวเคราะห์ร้ายทั้งหลายจะทำอะไรได้ เล่า หากพฤหัสบดีสถิตในเรือนเกณฑ์"
อย่างไรก็ตามการตีความโศลกโบราณของอินเดีย เวลาท่านจะอธิบายความหมายท่านจะอธิบายความหมายที่เป็นไปได้สูงสุด หรือ ความหมายเชิงอุกฤษฏ์ (นัยยะเชิงอุกฤษฏ์) เอาไว้ก่อน แล้วค่อยนำโยคเกณฑ์อื่นๆมาหักล้างภายหลัง
ดังนั้นเราจะเห็นฝอยพยากรณ์ต่างๆในโศลกโบราณ ถ้าจะดีก็ดีก็จะเขียนดีแบบสุดๆ เช่น เจ้าชะตาจะเป็นดุจพระราชา เป็นต้น ถ้าจะร้ายก็จะเขียนให้ร้ายแบบสุดๆ นี่คือการตีความเชิงอุกฤษฏ์ซึ่งต้องนำมาหักล้างภายหลัง หลายท่านไปอ่านแล้วไม่เข้าใจก็เลยนึกว่าตำราไม่แม่น ในทางนิติศาสตร์ของไทย คำว่า”โทษอุกฤษฏ์” ก็คือ โทษสูงสุด หรือ โทษประหารชีวิต แต่ศาลท่านก็เอาคุณงามความดีมาลดหย่อนผ่อนโทษในภายหลัง หลักโหราศาสตร์ก็เฉกเช่นเดียวกัน
ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 8 (มรณะ)
ตำแหน่งนี้ถือเป็น ตำแหน่งที่ให้ผลร้าย ของดาวพฤหัสบดี ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าชะตาต้องกลายเป็นผู้ที่ ต้องพึ่งพาผู้อื่น เจ้าชะตาอาจจะกระทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม หรือ การกระทำที่เป็นบาป หรือผิดจรรยาบรรณ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนี้จะส่งผลให้เจ้าชะตามีอายุยืนยาว เนื่องจากเรือนที่ 8 คือเรือนแห่งอายุขัย และพฤหัสคือดาวแห่งการขยายตัว
แม้จะมีข้อเสีย แต่เจ้าชะตาจะเป็นที่รักใคร่ชอบพอของคนทั้งปวง มักจะต้องทำงานแทนผู้อื่น หรือรับภาระหน้าที่ในนามของผู้อื่น จะเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจสูงอย่างยิ่ง และมักจะมีความสนใจหรือพัวพันกับ สตรีที่ต่ำต้อย (หรือสตรีผู้ทุศีล)
เคล็ดลับการพยากรณ์: เรือนที่ 8 เป็นเรือนลึกลับ เมื่อดาวครูไปอยู่ จึงมักทำให้พฤติกรรมบางอย่างผิดแปลกไปจากครรลองครองธรรม หรือต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเสื่อมเสีย หรืออีกในแง่หนึ่งทำให้เจ้าชะตาเชี่ยวชาญในศาสตร์ลึกลับ เช่น โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ อย่างไรก็ตามเรือนนี้ก็เป็นเรือนทุสถานะ (เรือนเสีย)
ส่วนเรื่องสตรีต่ำต้อย นั่นเป็นบริบทของสังคมของคนในสมัยโบราณ ที่ถือว่า สตรีต้องบริสุทธิ์ เป็นหญิงพรหมจรรย์ แต่ในปัจจุบันค่านิยมเหล่านี้เสื่อมไปหมดแล้ว ความหมายก็จะกลายเป็นสตรีที่มีตำหนิ เช่น เคยหย่าร้าง หรือเคยเสียพรหมจรรย์มาก่อนแต่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสังคมปัจจุบัน
ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 9 (ศุภะ)
การที่ดาวพฤหัสบดีครอบครองเรือนที่ 9 จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่ในทางธรรมและ จิตวิญญาณอย่างสูง เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มี ความเคารพภักดีต่อครูบาอาจารย์ ซื่อสัตย์ กตัญญู จะเป็นผู้คงแก่เรียนและมีความรอบรู้กว้างขวาง
จะได้ดำรงตำแหน่งในระดับสูง หรือเทียบเท่า ระดับรัฐมนตรี หรือ ราชเลขา เนื่องจากดาวพฤหัสบดีมีสถานะเป็น "มนตรี" หรือที่ปรึกษาในสภาเทพ นอกจากนี้เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วย ศีลธรรมและจริยธรรมอันสูงส่ง
เคล็ดลับการพยากรณ์: เรือนที่ 9 คือเรือนแห่ง "ธรรมะ" และ "โชคลาภ" เมื่อดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวแห่งธรรมะมาสถิตอยู่ จึงถือเป็นตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม เพราะเป็นเรือนตรีโกณที่ส่งเสริมกันอย่างดี
10.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 10 (กัมมะ)
ตำแหน่งที่ให้คุณ ของดาวพฤหัสบดีในเรือนนี้ จะส่งผลให้เจ้าชะตามี ความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิต จะมีสถานะเปรียบประดุจดั่งราชา เจ้านาย หรือผู้มีอำนาจ และจะมีชื่อเสียงโด่งดัง เพียบพร้อมไปด้วย ความสุขสบาย มียานพาหนะ และมีบุตรบริวาร นอกจากนี้เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่ ทรงคุณธรรม เป็นผู้คงแก่เรียน และเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยวาสนาบารมี
เคล็ดลับการพยากรณ์: เรือนที่ 10 คือเรือนกัมมะ (การงาน) เมื่อดาวครูมาอยู่ มักหมายถึงการทำงานในสายอาชีพที่มีเกียรติ เช่น ครู แพทย์ ตุลาการ หรือนักบวช ฯลฯ และไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็มักประสบความสำเร็จอย่างสูง อย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่อง เรือนอุปปัจจัย ที่จะทำให้ทุกอย่างยากมากขึ้น
11.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 11 (ลาภะ)
หากดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในตำแหน่งที่ดีในเรือนที่ 11 จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้ที่มี ความมุ่งมั่นตั้งใจสูง เป็นผู้คงแก่เรียน และมีอายุยืนยาว จะมีรายได้เข้ามาหลายช่องทาง (อเนกลาภ) มีชื่อเสียงโด่งดัง และมี ยานพาหนะ จำนวนมาก
เคล็ดลับการพยากรณ์: เรือนที่ 11 คือเรือนลาภะ เมื่อดาวขยายตัวอย่างพฤหัสมาอยู่ จึงมักหมายถึงความสำเร็จที่มาจากการขยายผลกำไรและการเติมเต็มความปรารถนา อย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่อง เรือนอุปปัจจัย ที่จะทำให้ทุกอย่างยากขึ้น กว่าปกติ
12.ดาวพฤหัสบดีในเรือนที่ 12 (วินาศ)
ในเรือนที่ 12 ซึ่งเป็น ตำแหน่งที่ให้ผลร้าย ดาวพฤหัสบดีจะส่งผลให้เจ้าชะตา ปราศจากความสุข ปราศจากบุตร และปราศจากวาสนาบารมี ทรัพย์สินเงินทองที่มีมาก่อนหน้านี้จะ ถูกทำลายลง และมักจะต้องประสบกับภาวะ ขัดสนเงินทอง อยู่ตลอดเวลา
เจ้าชะตาจะเป็นคน เกียจคร้าน และไร้การศึกษา มักจะถูกผู้คนเยาะเย้ยถากถาง และจะมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย (หรือศีลธรรมด่างพร้อย)
เคล็ดลับการพยากรณ์: เรือนที่ 12 คือเรือนวินาศ หมายถึงการสูญเสีย แต่ในทางจิตวิญญาณขั้นสูง หากดาวพฤหัสสัมพันธ์ดีในเรือนนี้ อาจหมายถึง “โมกษะ” หรือการหลุดพ้นทางจิตวิญญาณได้เช่นกัน แต่ในทางโลกวัตถุตามตำรานี้ถือว่าให้ผลเสีย
ให้นักศึกษาสังเกตว่า ตั้งแต่เรือนที่1 ไปถึงเรือนที่ 8 บรรยายชีวิตของเราตั้งแต่เกิดจนตาย ชีวิตเรามาจบลงที่เรือนที่ 8 คือเรือนมรณะ ก็ถือว่าเป็นอันจบสิ้นของเรือนทางรูปธรรม ส่วนเรือนที่ 9 ไปจนถึงเรื่องที่ 12 เป็นเรือนแห่งนามธรรมจับต้องไม่ได้ ดังนั้นการตีความหมายของเรือน 9-12 ให้ตีความหมายไปในแนวทางของนามธรรม เรื่อนที่ 12 เป็นเรือนแห่งการหลุดพ้น หากในแง่ดี ก็คือหลุดพ้นจากพันธนาการ การออกจากการคุมขัง หลุดพ้นจากโรคภัย(หายโรค) หรือหลุดพ้นจากหนี้สิน เรือนที่ 12 เรือนแห่งรายจ่าย การที่ดาวพฤหัสดาวแห่งการขยายตัวก็จะทำให้เจ้าชะตาชอบใช้จ่าย หรือ รายจ่ายมากกว่ารายรับ ทั้งนี้ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆไป
สรุปความหมายดาวพฤหัสบดี
ในทางโหราศาสตร์พระเวท ดาวพฤหัสบดีถือเป็น "ดาวประธานของดาวศุภเคราะห์" เป็นดาวแห่งการขยายตัว การเติบโต ความอุดมสมบูรณ์ และสติปัญญาบริสุทธิ์ คำว่าพฤหัสบดี หมายถึง การอธิษฐาน หรือผู้ยิ่งใหญ่ คุรุ ครู, ผู้หนักแน่น (ด้วยความรู้), ผู้ขจัดความมืดบอด และชีวะ ชีวิต, จิตวิญญาณ ดาวพฤหัสบดีเป็นตัวแทน (ดาวการกะ) ของเรื่องราวดีๆ ในชีวิต เช่น
ปัญญาญาณและการเรียนรู้ หมายถึงความรู้ในระดับสูง ปรัชญา ศาสนา และวิจารณญาณในการแยกแยะถูกผิด
ครูบาอาจารย์และศาสนา หมายถึง ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์ นักบวช ศีลธรรม และจริยธรรม
ความมั่งคั่งและโชคลาภ หมายถึง เงินทอง ความมั่งคั่งที่มาจากการสะสม หรือโชคที่ได้มาโดยง่าย
บุตรบริวาร เป็นดาวตัวแทนหลักของ "ลูก" หรือการสืบทอดทายาท
ความสุขและความสมบูรณ์ หมายถึง ความอิ่มเอิบใจ ความมองโลกในแง่ดี และความเมตตากรุณา
ร่างกาย หมายถึง ไขมัน ตับ หู , และระบบการไหลเวียนโลหิต
ปรัชญาสำคัญ ดาวพฤหัสบดีคือตัวแทนของพรจากสวรรค์ หากดาวพฤหัสบดีในดวงชะตาเข้มแข็ง เปรียบเสมือนมีเกราะแก้วคุ้มครองชีวิต ภัยอันตรายต่างๆ จะพ่ายแพ้ไป และชีวิตจะเต็มไปด้วยโอกาสและการเติบโต
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดย อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
3.TikTok : astroneemo
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo)
เส้นทางไปบ้านอาจารย์ https://maps.app.goo.gl/LKz3vbnMDU5Qnu3P6
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************