
บทเรียนที่ 5 พลังอำนาจแห่งดวงดาว
มหาฤษีโบราณได้ยกย่องให้ ชโยติษะศาสตร์ หรือโหราศาสตร์ เป็นเอกกว่าศาสตร์เวทางคะทั้งหกของพระเวท โดยเปรียบเปรยไว้อย่างงดงามว่า โหราศาสตร์คือ "ดวงตาแห่งพระเวท"คำว่า "เวท" ในภาษาสันสกฤต มาจากรากศัพท์ว่า "วิทยะ" ที่แปลว่า "ความรู้" ดังนั้น โหราศาสตร์จึงมิใช่เรื่องงมงาย แต่เป็น "ศาสตร์แห่งความรู้แจ้ง" ในระดับจิตวิญญาณ ในบทนี้ เราจะมาเรียนรู้เรื่อง "สถานะของดาว" ที่จะบ่งบอกความเข้มแข็งหรืออ่อนแอของดาวเคราะห์แต่ละดวง
1.ทฤษฎีดาวเกษตร ซึ่งนักโหราศาสตร์ทุกคนรู้จักดี แต่กลับไม่รู้ที่มาที่ไป ว่าทฤษฎีและแนวคิด เรื่อง ดาวเกษตรประจำราศี ว่ามีแนวคิดมาจากไหน คำตอบในครั้งนี้ก็จะทำให้ทุกคนกระจ่าง และเข้าใจในระบบดาราศาสตร์และปรัชญาโหราศาสตร์
ที่มาของดาวเกษตร มีที่มาจากจักรราศีภาคกลางวันและจักรราศีภาคกลางคืน ระยะห่างของดาวเคราะห์จากดวงอาทิตย์ กายทิพย์ของกาลบุรุษ และในมุมมองของดาราศาสตร์ที่เอาดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลาง (Heliocentric)
ดังนั้นเมื่อเราเอาดาวอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางที่”ราศีสิงห์”ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของกายทิพย์ของกาลบุรุษ (โดยสัดส่วนกายทิพย์ของกาลบุรุษจะมีสัดส่วนเท่ากันๆซึ่งไม่เหมือนมนุษย์ อาจจะคล้ายๆคนแคระเช่น ขาจะไม่ยาวเหมือนมนุษย์ ซึ่งจะกล่าวถึงสัดส่วนนี้ในเรื่องของ กาลบุรุษในระบบ”วาสตุศาสตร์”)
แล้วนับเวียนทวนเข็มนาฬิกาจากราศีสิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร ก็จะเป็น”จักราศีภาคกลางวัน” (ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเภทราศี ที่มีราศีกลางวัน กับราศีกลางคืน) โดยมีดาวอาทิตย์เป็นประธาน เพราะดาวอาทิตย์ให้แสงในตอนกลางวัน และลำดับถัดไปคือระยะห่างของดาวเคราะห์กับดาวอาทิตย์ ก็จะเป็น อาทิตย์-พุธ-ศุกร์-อังคาร-พฤหัส-เสาร์ และนี่คือที่มาของดาวเกษตรประจำราศีภาคกลางวัน
ส่วนดาวเกษตรประราศีภาคกลางคืนเริ่มต้นจากดาวจันทร์ในราศีกรกฏ เพราะดาวจันทร์จะส่องแสงในเวลากลางคืนเป็นหลัก และลำดับถัดก็จะนับตามเข็มนาฬิกา คือ ดาวจันทร์-พุธ-ศุกร์-อังคาร-พฤหัส-เสาร์ และนี่คือที่มาของดาวเกษตรประจำราศีทั้ง 12 ราศี ซึ่งถือว่าหากดาวใดสถิตในเรือนเกษตรของตนเอง ดาวนั้นก็จะมีกำลัง และให้ผลดี มั่งคง สุขสบายเหมือนเราได้อาศัยอยู่ในบ้านของตนเอง
2.ทฤษฎีดาวอุจน์-นิจ
เมื่อเราเข้าใจเรื่องดาวเกษตรที่เปรียบเสมือนบ้านที่อยู่อาศัยของตนเองแล้ว ต่อไปก็จะกล่าวถึงราศีที่ดาวเคราะห์แต่ละดวงเมื่อโคจรไปสถิตย์ก็จะได้ "สถานะพิเศษ" มากกว่าอยู่บ้านตนเอง ก็คือราศีที่เมื่อไปอยู่แล้วจะรู้สึกฮึกเหิม มีพลังสูงสุด ส่งผลดีอย่างเต็มที่ ก็จะเรียกว่าราศี "อุจจ์" และจะมีเรือนตรงกันข้ามที่เมื่อไปอยู่แล้วจะห่อเหี่ยว หมดพลัง หรือเสื่อมถอย เรียกว่าราศี"นิจ" ของดาวเคราะห์นั้นๆ โดยตำแหน่งนิจจะอยู่ตรงข้ามกับอุจจ์ 180 องศาเสมอ
ถ้าจะเปรียบเอาง่ายๆว่า เรือนเกษตร เหมือนกับบ้านเราเอง อยู่แล้วสบายและทำอะไรก็ได้ในบ้านหลังนั้น แต่สำหรับเรือนอุจน์ หมายถึงที่ทำงานของเรา เช่น เราเป็นนายกรัฐมนตรี เราก็จะมีอำนาจสูงสุดตามสถานะและตำแหน่ง แต่เมื่อเราอยู่บ้านเราก็เป็นคนธรรมดา เมื่อเราไปอยู่ราศีอุจน์ก็เหมือนกับไปทำงานยิ่งตำแหน่งสูงอำนาจก็ยิ่งมาก และรุ่งโรจน์ ตามความหมายอุจน์ แต่หากเป็นราศีนิจก็ตรงกันข้าม ก็เปรียบเสมือนที่ทำงานของเราเหมือนกัน แต่ได้ตำแหน่งต่ำต้อย ตกต่ำ ไร้อำนาจ วาสนา เกียรติยศ ฯลฯ
นอกจากราศีอุจน์นี้แล้วก็จะมีองศา”บรมอุจน์” และองศา”บรมนิจ”อีกด้วย หมายความว่าในราศีทั้งราศีได้ตำแหน่งอุจน์ แต่หากพิจารณาละเอียดลงไปเป็นองศา ก็จะได้”องศาบรมอุจน์”และ”องศาบรมนิจ”โดยมีความหมายดี-ร้ายจากเดิมเพิ่มเป็นทวีคูณ
ตารางแสดงตำแหน่งองศาบรมอุจจ์และบรมนิจ
|
ดาวเคราะห์ |
เป็นอุจจ์ (Exalted)(พลังสูงสุด) |
องศา |
เป็นนิจ (Debilitated)(พลังต่ำสุด) |
องศา |
|
๑ อาทิตย์ (Sun) |
♈ เมษ (Aries) |
10° |
♎ ตุลย์ (Libra) |
10° |
|
๒ จันทร์ (Moon) |
♉ พฤษภ (Taurus) |
3° |
♏ พิจิก (Scorpio) |
3° |
|
๓ อังคาร (Mars) |
♑ มังกร (Capricorn) |
28° |
♋ กรกฎ (Cancer) |
28° |
|
๔ พุธ (Mercury) |
♍ กันย์ (Virgo) |
15° |
♓ มีน (Pisces) |
15° |
|
๕ พฤหัส (Jupiter) |
♋ กรกฎ (Cancer) |
5° |
♑ มังกร (Capricorn) |
5° |
|
๖ ศุกร์ (Venus) |
♓ มีน (Pisces) |
27° |
♍ กันย์ (Virgo) |
27° |
|
๗ เสาร์ (Saturn) |
♎ ตุลย์ (Libra) |
20° |
♈ เมษ (Aries) |
20° |
|
๘ ราหู (Rahu)* |
♉ พฤษภ / ♊ เมถุน |
- |
♏ พิจิก / ♐ ธนู |
- |
|
๙ เกตุ (Ketu)* |
♏ พิจิก / ♐ ธนู |
- |
♉ พฤษภ / ♊ เมถุน |
- |

ส่วนที่มาที่ไปในเรื่องราศีอุจน์และนิจ มีหลากหลายทฤษฏี
1.ทฤษฎีแรก ถือเอาความสว่างของดาวเคราะห์(โชติมาตร)มาวัดความเป็นอุจน์ เช่น ดวงอาทิตย์มีกำลังร้อนแรงและมีแสงสว่างมากที่สุดเมื่อสถิตย์ในราศีเมษ นั่นก็คือ ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม หรือ ดาวศุกร์มีแสงสว่างสูงสุดเมื่อดาวศุกร์กำลังโคจรอยู่ในราศีมีน และดาวอื่นๆก็เช่นกัน
2.ทฤษฎีที่ 2 ราศีมูลตรีโกณ หรือที่เรียกอีกชื่อว่าดาวมูลเกษตร คือ ตำแหน่งดาวพระเคราะห์ที่ถือว่าให้คุณสูงกว่าตำแหน่งเกษตรปกติ โดยตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งของดาวที่อยู่ในราศีที่เป็นมิตรหรือให้กำลังกันตามหลักตรีโกณ 120 องศา กับราศีที่ดาวดวงนั้นเป็นเจ้าของหรือเป็นตำแหน่งที่ดาวได้รับพลังสูงสุดกรุณาศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ เจาะลึกราศีจักร ตอน 9 ราศีมูลตรีโกณ
3.ทฤษฎีที่ 3 มาจากระบบษัฑพละ หรือ กำลังทั้ง 6 ประการของดาวเคราะห์ โดยศึกษาได้จาก ษัฑพละ กำลังของดวงดาว

ทฤษฎีเจ้าเรือนสัมพันธ์
หลักการสำคัญที่ทำให้อ่านดวงได้ลึกซึ้งขึ้นนอกจากทฤษฏีที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก็คือคือ "ทฤษฎีเจ้าเรือนสัมพันธ์" หรือ ทฤษฎีดิสโพซิเตอร์ หรือทฤษฎีแฝงเรือนเกษตร กล่าวคือดาวเคราะห์สามารถถ่ายทอดพลังของตัวเองไปยังราศีต่างๆ ที่ตัวเองนั้นเป็นเจ้าเรือน ตัวอย่างเช่น ดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนราศีธนูและราศีมีน หากดาวพฤหัสบดีได้ตำแหน่งอุจน์ ราศีธนูและราศีมีนก็จะมีพลังศุภผลและดาวเคราะห์ใดใดที่อยู่ในราศีนี้ก็จะมีพลังศุภผลด้วยเช่นกัน
“ดิสโพซิเตอร์” คือดาวเคราะห์ที่เป็นเจ้าเรือนหรือเจ้าราศี ตัวอย่างเช่น หากดาวอังคารอยู่ในราศีกรกฎ ซึ่งเป็นนิจ โดยราศีกรกฎจะมีดาวจันทร์เป็นเจ้าเรือน และดวงจันทร์ก็กลายเป็นดิสโพซิเตอร์ของดาวอังคาร หากดาวจันทร์ซึ่งเป็นดิสโพซิเตอร์สถิตราศีพฤษภได้ตำแหน่งเป็นอุจน์ ก็ล้างโทษความเป็นนิจของดาวอังคารด้วย เรียกว่า “นิจภังคะราชาโยค” กรุณาอ่านเพิ่มเติม นิจจะภังคะราชาโยค กฏเกณฑ์ล้างโทษดาวเป็นนิจในดวงชาตา
กำลังของดาวในเรือนเกณฑ์
เรือนเกณฑ์ คือเรือนที่ 1, 4, 7, และ 10 เป็นซึ่งเป็นเสาหลักของดวงชะตา หากดาวศุภเคราะห์ เช่น พฤหัส, ศุกร์, พุธ สถิตย์อยู่ในเรือนเกณฑ์ จะให้คุณมหาศาล หรือหากดาวบาปเคราะห์ หากเป็นเจ้าเรือนเกณฑ์ จะกลับกลายเป็นให้คุณ (จากร้ายกลายเป็นดี)
สีประจำดาว
ในเรื่องคุณสมบัติเฉพาะของดวงดาวไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี เรื่องทิศ เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ศึกษาจะต้องเรียนรู้ไว้ เช่น สำหรับทายของหายว่าสีอะไร อยู่ทิศไหน เป็นต้น สำหรับตอนนี้เราจะมาพูดเรื่องกำลังของสีก่อน ซึ่งมีดังนี้ พฤหัสบดี: สีทอง อาทิตย์: สีแดงเข้ม/สีส้ม/แดงเลือดนก จันทร์: สีขาวนวล อังคาร: สีแดงเข้ม พุธ: สีเขียว ศุกร์: สีขาว เสาร์: สีดำ ราหู: สีดำ (เหมือนเสาร์) เกตุ: สีแดง (เหมือนอังคาร) ซึ่งเรื่องสีประจำดาวเคราะห์นี้ไม่มีความแน่นอน มักจะผันแปรไปตามราศีที่สถิต และดาวที่อยู่ใกล้กันดังนั้น นักศึกษาจึงจำเป็นต้องรู้จักแม่สี การผสมสี ให้ออกมาเป็นสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีของวัตถุ CMYK หรือสีของแสง RGB
ราศีปัญจะมหาภูตะ
จากที่ได้เคยศึกษามาราศีประด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดินน้ำลมไฟ ซึ่งทุกท่านได้เคยรู้มาแล้ว ซึ่งเอาไว้พยากรณ์ในระดับพื้นฐานที่เป็นรูปธรรม และในตอนนี้เรามาศึกษาระบบ ปัญจภูตะ หรือ ธาตุทั้ง 5 ซึงเป็นมูลฐานของจักรวาล โดยเพิ่มเอา"ธาตุอากาศ"เข้าไป หากใครได้ศึกษาปรัชญามาก่อนก็จะเข้าใจเรื่อง"ปัญจภูตะ" ซึ่งเป็นธาตุพื้นฐาน 5 อย่างที่ประกอบขึ้นเป็นสรรพสิ่ง ได้แก่ ปฐวี (ดิน), อาโป (น้ำ), วาโย (ลม), เตโช (ไฟ), และอากาศ (ช่องว่าง-วิญาณธาตุ) สำหรับใช้ในการพยากรณ์ในระดับนามธรรม
|
มหาภูตะ |
ราศี |
|
เตโช (ไฟ) |
เมษ, สิงห์, พิจิก |
|
อาโป (น้ำ) |
พฤษภ, กรกฎ, ตุลย์ |
|
ปฐวี (ดิน) |
เมถุน, กันย์ |
|
วาโย (ลม), |
มังกร, กุมภ์ |
|
อากาศธาตุ/วิญญาณธาตุ |
ธนู, มีน |
นอกจากนี้ดาวเคราะห์ยังมีอิทธิพลต่อสิ่งต่างๆรอบตัวเรา เช่น ปรัชญาคลาสสิกมีกฎที่เป็นพื้นฐานว่า “เบื้องบนเป็นอย่างไร เบื้องล่างก็เป็นอย่างนั้น” ดังนั้นโลกคือแบบจำลองของสวรรค์อย่างแท้จริง! ตามกฎของพีทาโกรัส เชื่อว่าเลขเก้าหลักสอดคล้องกับท้องฟ้าเก้าชั้นที่โคจรรอบโลก และศาสตร์นี้จึงเป็นที่มาและจุดเริ่มต้นของ”วิชาเลขศาสตร์” ส่วนนักอัญมณีศาสตร์พบว่าการสั่นสะเทือนของอัญมณีสอดคล้องกับการสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์ และสิ่งนี้จึงเป็นที่รู้จักในชื่อ”โหราศาสตร์-อัญมณีศาสตร์” ซึ่งเราจะได้เรียนในบทต่อๆไป
จบบทที่ 5

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดย อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
3.TikTok : astroneemo
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo)
เส้นทางไปบ้านอาจารย์ https://maps.app.goo.gl/LKz3vbnMDU5Qnu3P6
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************