
บทที่ 3 รากฐานของวิชา”โหราศาสตร์พระเวท“ ตอนที่ 9 บทบาทและหน้าที่ของดาวเคราะห์
วันนี้เราจะมาเรียนตอนสุดท้ายของบทที่ 3 แล้วครับ ปกติไม่อยากจะเขียนอะไรยืดยาวแบบนี้ แต่ก็จำเป็นต้องเขียน เพราะหวังว่าในอนาคตความรู้เหล่านี้จะได้สืบต่อไปยังคนรุ่นหลังต่อไป เพราะหากเขียนไม่ละเอียด ก็จะมีปัญหาในการศึกษาโหราศาสตร์พระเวทในภายหลัง
ด้วยเหตุนี้ เพื่อความสมบูรณ์ของบทเรียน ผู้เขียนจึงเตรียมโครงสร้างบทเรียนเอาไว้กว่า 300 บทเรียน โดยเตรียมเอาไว้สิบกว่าปีแล้ว แต่ยังไม่มีเวลาและโอกาสที่จะนำมาเผยแพร่ ส่วนมากจะเผยแพร่ความรู้โหราศาสตร์ภารตะทั่วไปๆ ผ่านเว็บไซด์ www.astroneemo.net มาเกือบ 20 ปี
แต่ตอนนี้พร้อมแล้ว ที่ทำจะงานเขียนที่เป็นรูปแบบบทเรียนสำหรับนักศึกษาทุกท่าน และจะค่อยๆเขียนมาลงให้ทุกท่านได้ศึกษากันทีละขั้นที่ละตอนอย่างละเอียด จากขั้นต้นไปขั้นสูง และเขียนแบบไม่มีการปิดบังความรู้ใดใดทั้งสิ้น
ดาวเคราะห์ทั้ง 7 กับระบบอวัยวะภายในของ”กาลบุรุษ”
ในโหราศาสตร์พระเวท ดาว (ग्रह – คฺรห)ไม่ใช่วัตถุท้องฟ้าอย่างเดียวแต่เป็น พลังงานกรรม ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงพลังงานกับ “กาลบุรุษ” ซึ่งเป็นร่างต้นแบบของมนุษย์ทั้งหลายบนโลกนี้
เมื่อดวงดาวแต่ละดวงต่างก็มีบทบาทหรือหน้าที่ที่จะต้องกระทำ ซึ่งบทบาทหน้าที่ที่แท้จริงก็คือ”กรรม” และกรรมก็ส่งผลต่อชีวิตและโชคชะตา ดังนั้นการรู้จัก “บทบาทและหน้าที่ของดวงดาว”ก็คือหัวใจในการอ่านดวงแบบโหราศาสตร์พระเวท
ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงตำแหน่งอวัยวะภายนอกของกาลบุรุษกับราศี และในวันนี้เราจะมาพูดถึงความสัมพันธ์อวัยวะภายใน อารมณ์ และจิตใจของกาลบุรุษ กับบทบาทและหน้าที่ของดาวเคราะห์ทั้ง 7 ซึ่งมีดังนี้
(1) ดาวอาทิตย์ सूर्य – สุริยะ ความหมายของกาลบุรุษ: หัวใจ บทบาท-หน้าที่:พลังปราณ (ชีวิต–ลมหายใจ) อาตมัน (จิตรู้) ศักดิ์ศรี–อำนาจ–อัตลักษณ์ ความเป็นพ่อ ความหมายทางกรรม: ดาวแห่งความจริง ความภาคภูมิ และการตัดสินใจโดยธรรม
(2) ดาวจันทร์– चन्द्र – จันทรา ความหมายของกาลบุรุษ: จิตใจ–อารมณ์ บทบาท-หน้าที่:มนัส (มโน–ใจ) ความรู้สึก ความจำ ความเป็นแม่ ความหมายทางกรรม: ดาวแห่งจิตใจ ถ้าดาวจันทร์ให้คุณ จะทำให้เจ้าชะตามีความสุขเกือบทั้งชีวิต
(3) ดาวอังคาร หรือ คุชชะ – मंगल – หรือ มังคละ ความหมายของกาลบุรุษ: เลือด–พลังแห่งความกล้าบทบาท-หน้าที่:โทสะ ความกล้าหาญ การตัดสินใจ การรบ งานโลหะ–การผ่าตัด–ทหาร ความหมายทางกรรม: ดาวแห่งพลังแบ่งแยก ถ้าดาวอังคารเด่น—เจ้าชะตาเป็นนักสู้ ถ้าร้าย—จะเกิดอุบัติเหตุ ขัดแย้ง
(4) ดาวพุธ – बुध – ความหมายของกาลบุรุษ: ระบบประสาท บทบาท-หน้าที่:พูด คิด วิเคราะห์ การเรียนรู้ การค้า ความหมายทางกรรม: ดาวแห่งเหตุผล ถ้าให้คุณ เจ้าชะตาจะมีความเฉลียวฉลาด ถ้าให้โทษ เจ้าชะตาจะคิดมาก ฟุ้งซ่าน เป็นโรคประสาท
(5) ดาวพฤหัส (คุรุ)– बृहस्पति – หรือ พฤหสปติ ความหมายของกาลบุรุษ: หมายถึงไขมัน–ความสุข–ปัญญา บทบาท-หน้าที่:ธรรมะ ปัญญา วิชา ความรู้ ลูกชาย ความสุขโดยธรรม ความหมายทางกรรม: ดาวแห่งคุณธรรม ถ้าดี: เสริมทุกด้าน ถ้าร้าย: หลงผิด ตัดสินใจพลาดเพราะมองโลกในแง่ดีเกินไป
(6) ดาวศุกร์– शुक्र –ความหมายของกาลบุรุษ: น้ำอสุจิ–ความสุขทางเนื้อหนัง บทบาท-หน้าที่:กาม ความรัก ศิลปะ ความสุข ความหรูหรา ความหมายทางกรรม: ดาวแห่งความปรารถนา ถ้าดี: เสน่ห์–รักสวยงาม ถ้าร้าย: เสพติดความสุข–หลงรูป หลงตัวเอง
(7) ดาวเสาร์– शनि –หรือ ศนิ ความหมายของกาลบุรุษ: กระดูก–ข้อ–ความทุกข์ บทบาท-หน้าที่:ความลำบาก ความอดทน เวลา กฎแห่งกรรม งานหนัก ความหมายทางกรรม: ดาวแห่งการชำระกรรม ถ้าดี: ประสบความสำเร็จใหญ่ ถ้าร้าย: ต้องประสบความทุกข์ยาวนาน จนบางคนกลายเป็นคนเข้มแข็ง
(8) ดาวราหู– राहु – ธรรมชาติ: กิเลส–ความปรารถนา–เงา บทบาท-หน้าที่:ทำให้เจ้าชะตา “อยากได้” ความโลภ และการแสวงหาแบบไร้ขอบเขต ชอบสิ่งใหม่ เทคโนโลยี ต่างประเทศ สิ่งแปลก เรื่องลึกลับ–เหนือธรรมชาติ .oเชิงปรัชญา: ราหูเป็น “เงาของความโลภ” เมื่อเจอสิ่งที่อยากได้ก็จะวิ่งเข้าใส่ แต่เมื่อเจอสิ่งที่กลัวก็จะวิ่งหนี สอนให้เราต้องเรียนรู้ “ความพอเพียง” และ “สัจจธรรม”
(9) ดาวเกตุ – केतु –ธรรมชาติ: ปลดวาง–ตัด–สลาย หน้าที่:การแยกออก-ไสยศาสตร์–โยคะ–สมาธิความว่าง-วิปัสสนาญาณ ในเชิงปรัชญาดาวเกตุ คือ “ประตูสู่โมกษะ” คือพลังที่จะนำพาเจ้าชะตาออกจากโลกีย์
ราหู–เกตุ: ดาวไม่ใช่ดาวแต่เป็นพลังกรรมลึกที่สุดของ ชโยติษะศาสตร์ เพราะดาวเคราะห์ทั้ง 7 เป็น การกระทำตามบทบาทและหน้าที่ตามธรรมชาติของดาวเคราะห์นั้นๆ แต่ ราหู–เกตุ เป็นพลังที่ลึกกว่านั้นซึ่งลึกในระดับที่อยู่นอกเหนือรูปร่าง และการจำกัดความใดใด
ราหู–เกตุ คือแกนของกรรมเก่า (สังสการ) ถ้าดาวราหู คือ ความอยาก ความโลภ และดาวเกตุก็คือ “ความไม่ต้องการอะไรเลย” ดาวเกตุมักทำให้เกิด ความศรัทธา ความเข้าใจในสัจธรรม แต่ก็ทำให้ห่างเหินโลก หากไม่รู้สมดุล ในคัมภีร์ “ปราศาระ โหราศาสตรา” ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ราหูให้ทุกข์ทางวัตถุ เกตุให้ทุกข์ทางจิตใจ ทั้งนี้ก็เพื่อชำระกรรมเก่า” เพราะฉะนั้น คนที่ราหู–เกตุเด่น มักเป็น นักปรัชญา ผู้สนใจธรรมะ หรือผู้แสวงหาอะไรบางอย่างที่คนทั่วไปไม่สนใจ ถ้าไม่เด่นผิดธรรมชาติ ชีวิตจะเรียบง่ายมากกว่าคนทั่วไป
บทบาทและหน้าที่ของดาวเคราะห์
ในโหราศาสตร์พระเวท ดาวเคราะห์ ไม่ได้เป็นเพียงก้อนหินหรือก๊าซในอวกาศ แต่เป็น "ตัวแทน" ของพลังจักรวาลที่มีบทบาทหน้าที่เฉพาะ เช่น
ในฐานะราชสำนักทิพย์แห่งจักราศี
1.ดาวอาทิตย์คือ พระราชา สุริยะคือศูนย์กลางของพลังชีวิตทั้งหมด เป็น “อาตมัน” (आत्मन्) หรือ แก่นจิต–แก่นวิญญาณของกาลบุรุษ บทบาท: ตัวตนขั้นสูง พลังใจ ศักดิ์ศรี เจตจำนง พลังสร้างสรรค์ของชีวิต
2.ดาวจันทร์ คือ พระราชินี จันทร์เป็นตัวแทน “มนัส” (मनस्) คือ จิต–อารมณ์–ความรู้สึก บทบาท:
ความจำ ความผูกพัน ความอ่อนไหว การเลี้ยงดู การตอบสนองอารมณ์ จันทร์คือแหล่งพลังละเอียดในดวงชะตา เป็นบุคลิกฐานที่ลึกที่สุดของมนุษย์
3.ดาวอังคารคือ แม่ทัพ อังคารคือตัวแทนของ “พละ” (बल) หรือ พลังแห่งการปกป้องและต่อสู้ บทบาท: แรงกาย ความกล้า การป้องกัน ไฟในหัวใจ ความกล้าหาญทางศีลธรรม เป็นดาวที่คุมพลังธาตุไฟของกาลบุรุษ
4.ดาวพุธคือ เจ้าชาย หรือพระโอรส ดาวพุธเป็นตัวแทน “วาจา + ปัญญา” หรือ พุทธิปัญญา(बुद्धि )บทบาท: การคิด การพูด การคำนวณ การเจรจา ความเฉียบแหลม พุธคือสมองของระบบราชสำนักทิพย์แห่งจักรราศี
5.ดาวศุกร์ คือ เสนาบดี หรือ มนตรีฝ่ายกาม–ศิลปะ ศุกร์เป็นตัวแทน “กามะ” และ “ศิลปะ–ความงาม” บทบาท: ความรัก ความงาม ความสุขทางโลก ดนตรี ศิลปะ ความสัมพันธ์ วัตถุ ความพึงพอใจ เป็นดาวที่สร้างเสน่ห์และการดึงดูดตามธรรมชาติ
6.ดาวพฤหัสบดี คือ คุรุ หรือ ปุโรหิต หรือ มหามนตรี พฤหัสคือ “ครู” (ग़ुरु – คุรุ) เป็นตัวแทน ธรรมะ–ปัญญา–ความสุขอันสงบ บทบาท: ความสุขที่แท้ การเรียนรู้ ธรรมะ ความเป็นผู้ใหญ่ ความโชคดีบุญเก่า ในคัมภีร์ถือว่าเป็นดาวที่ให้คุณสูงที่สุด และเป็นประธานแห่งดาวศุภเคราะห์
7.ดาวเสาร์ คือ มหาดเล็กหรือผู้รับใช้ หรือ บางแห่งเรียกว่า ผู้นำสาร หรือ ทูตแห่งกาลเวลา เพราะเสาร์เป็นตัวแทนของ “กาละ” ตัวแทนของ สัจธรรม–ความทุกข์–การสำนึก บทบาท: ความทุกข์ การชดใช้กรรม ความเนิ่นช้า ความอดทน ความเป็นจริง วินัยและเวลา เสาร์ไม่ใช่ดาวร้าย แต่คือดาว “สอนความจริงของชีวิต”
ในฐานะตัวแทนของ "บุรุษแห่งจักรวาล" ดาวอาทิตย์ เป็นตัวแทนของ วิญญาณ ดาวจันทร์ แทน จิตใจ ดาวอังคาร แทน ความแข็งแกร่งทางกาย ดาวพุธ แทน การพูด ดาวพฤหัสบดี แทน ความสุข การเรียนรู้ และปัญญา ดาวศุกร์ แทน ความใคร่ หรือพลังขับเคลื่อนทางเพศ ดาวเสาร์ แทน ความโศกเศร้า
สรุปตอนที่ 9 ดาว ก็คือหน้าที่ หน้าที่ก็คือกรรม ระบบกาลบุรุษให้การอ่านดาวที่เที่ยงตรงที่สุด ราหู ก็คือ ความอยากเกตุ ก็คือ ความว่าง ทั้งหมดเป็นกลไกกรรมที่ทำงานผ่าน 12 ราศี + 27 ฤกษ์ + 9 ดาวเคราะห์
จบบทเรียนที่ 3
……………………………….
--------------------------------------------------------------------------
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดยอาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
3.TikTok : astroneemo
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo)
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************