Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

secret Of Navamasa 2 800

ในระบบนาฑิโหราศาสตร์ ซึ่งเป็นโหราศาสตร์ของชาวทมิฬนาฑู ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของราศีจักรกับนวางศ์จักรเอาไว้ว่า   ราศีจักรคือ ร่างกายของคนเราซึ่งเป็นผลมาจากวิบากของอกุศลกรรม(ที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม)  ส่วนวางศ์จักรเป็นเสมือน ภาคยะ (โชค)ที่มาจากกุศลวิบากที่ทำมาในแต่อดีตชาติ (ปรากฏออกมาในรูปนามธรรม) ราศีจักรเป็นเหมือนต้นไม้ และนวางศ์จักรคือดอกและผล เราสามารถคาดเดาผลผลิตของต้นไม้ต้นนี้ว่าจะออกมามากหรือน้อย จะดีหรือชั่ว จะหมองหม่นหรือรุ่งเรืองก็จะต้องดูจากนวางศ์จักรนี้เป็นตัวตัดสิน

บางท่านก็กล่าวว่านวางศ์จักรคือกระดูกสันหลังและราศีจักรก็คือร่างกาย หรือกล่าวว่าราศีจักรเป็นเพียงภาพถ่าย แต่นวางศ์จักรเป็นฟิมล์เอ็กเรย์ และในอายุเวทว่าด้วยโยคะศาสตร์ ราศีจักรแสดงถึงร่างกายที่เป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่เรียกว่า สถุละ สรีระ (วิภาคะ) ส่วนนวางศ์จักรแสดงถึงรูปลักษณ์ภายในเรียกว่า สุกษมะ สรีระ (วิภาคะ) ซึ่งประกอบด้วยมนัส (จิตใจ)โพธิ(ปัญญา) และอหังการ(ตัวตน)

 

 

สำหรับโหราศาสตร์ระบบไชมินิ ของมหาฤาษีไชยมินี ก็ได้นำเอาหลักการของนวางศ์จักรไปใช้ในระบบทศา เรียกว่า กาลจักรทศา และมีการอธิบายเรื่องนวางศ์จักรอย่างลึกซึ้งเป็นจำนวนมากถึง 3000 โศลก  นักโหราศาสตร์อินเดียที่มีชื่อเสียงหลายท่านใช้หลักพิจารณาจากนวางศ์จักรเป็นตัวตัดสินเหตุการณ์และให้ความสำคัญมากว่าราศีจักร และในคัมภีร์ มนะ-สาการี ได้กล่าวว่าในบรรดาผลดีร้ายต่างๆตลอดทั้งชีวิตของคนเรา สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดจาก “นวางศ์จักร”เท่านั้น

ในระบบโหราศาสตร์มาตรฐานของมหาฤาษีปราสาระ ท่านได้กล่าวว่า ในบรรดาวรรคทั้ง16 (โษทศวรรค) ถือว่า นวอัมศะ(นวางศ์จักร)นั้นสำคัญที่สุด  และถือว่านวางศ์จักรนั้นมีความสำคัญมากกว่าราศีจักร เพราะดาวเคราะห์เป็นอุจน์ในราศีจักร แต่เป็นนิจในนวางศ์จักร ก็ถือว่าดาวดวงนั้นมีสถานะเป็นนิจ ไม่ใช่เป็นอุจน์

ในระบบษัฑพละ หรือการคำนวณกำลังของดาวเคราะห์ ที่เรียกว่า วิมโษปากะ พละ (ในทิคะพละ) มีการให้กำลังจำนวน ทั้งหมด 20 หน่วยกำลัง(ษัษฏิอัมศะ) ดังนี้ (1.)ราศีจักรได้คะแนน  6 ษัษฏิอัมศะ (2.)นวางศจักรได้คะแนน  5 ษัษฏิอัมศะ(3.)ทเรกณะ(ตรียางค์) ได้คะแนน  4 ษัษฏิอัมศะ(4.) โหราและทวาทศศางศะได้คะแนนอย่างละ  2  ษัษฏิอัมศะ  (4.)ศฤมศางศะ ได้คะแนน  1 ษัษฏิอัมศะ จะเห็นได้ว่านวาศจักรนั้นมีความสำคัญรองจากราศีจักรและมีคะแนนมากว่าวรรคอื่นๆ

นวางศ์จักรสามารถให้ตำแหน่งดาวเคราะห์ค่อนข้างละเลียด เช่น ในราศีมีน ดาวอาทิตย์เสวยวรรคโคตมะ (วรรค+อุตตมะบางทีเรียก-วรรคอุตมางศะ หรือ วรโคตรนวางศ์)  แสดงว่าดาวอาทิตย์สถิตย์อยู่ระหว่าง 26องศา 40 ลิปดาถึง 30องศาในราศีมีน (นวางศ์พฤหัส) (จะอธิบายเรื่องวรโคตรนวางศ์นี้โดยละเอียดในตอนต่อไป)  การจัดวางดาวเคราะห์เกษตรหรือเจ้าราศีในราศีจักรกับดาวเจ้านวางศ์ในนวางศ์จักรเป็นดาวดวงเดียวกัน และเรียงลำดับเหมือนกัน ซึ่งในวรรคอื่นๆไม่มี  ในระบบมหาทศา ดาวเสวยอายุจะคำนวณจากราศีจักร และดาวแทรก (อันตรทศา-ภุตติ-วิทศา) คำนวณมาจากนวางศ์จักร  ดวงนวางศ์จักรสามารถใช้ทฤษฎีพิเศษของโหราศาสตร์ระบบนันฑิได้  คือ ทฤษฏีที่เรียกว่า “นวางศะ-ดุลย-ราศี” และทฤษฎี “ราศี-ดุลย-นวางศะ” ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยความสดุลย์ของราศีจักรกับนวางศ์จักร (จะอธิบายเรื่องนี้โดยละเอียดในตอนต่อไป)

 

การจัดวางลำดับนวางศ์

1.ในราศีเมษ สิงห์ ธนู จะเริ่มต้นด้วย นวางศ์ราศีเมษ

2.ในราศีพฤษภ กันย์ มังกร จะเริ่มต้นด้วย นวางศ์ราศีมังกร

3.ในราศีมิถุน ตุลย์ และกุมภ์ จะเริ่มต้นด้วย นวางศ์ราศีตุลย์

4.ในราศีกรกฏ พิจิก และมีน จะเริ่มต้นด้วย นวางศ์ราศีกรกฏ

หลักการพิจารณาดวงนวางศ์ขั้นต้น

  1. ให้พิจารณา ศุภะอางศะ และ ปาปะ อางศะ ก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าหากมีดาวเคราะห์สถิตย์ในศุภะอางศะก็จะแสดงถึงผลดี และหากเป็นปาปอางศะก็จะแสดงผลร้าย โดยศุภะอางศะหมายถึงราศีในนวางศ์จักร หรือศุภะนวางศ์ซึ่งเป็นราศีที่มีดาวศุภเคราะห์เป็นเจ้าเรือน เช่น นวางศ์ราศีพฤษภ-ตุลย์ (ดาวศุกร์) นวางศ์ราศีมิถุน-กันย์(ดาวพุธ)  นวางศ์ราศีกรกฏ (ดาวจันทร์) นวางศ์ราศีธนู-มีน(ดาวพฤหัส) นอกนั้นเป็นปาปะนวางศ์ หรือ ปาปะอางศะ
  2. ให้พิจารณาถึงกำลังของดาวนั้นๆในที่สถิตในนวางศ์จักร เช่น เป็น อุจน์ เป็นนิจ เป็นเกษตร อยู่ในเรือนมิตรหรือเรือนศัตรู ในดวงนวางศ์
  3. ดาวเคราะห์ที่อยู่ในตำแหน่งต่อไปนี้จะให้ผลดี คือ ดาวเคราะห์ที่สถิตย์ในภาคยะอางศะ (เรือนที่ 9 ในนวางศ์จักร) ลาภะอางศะ(เรือนที่ 11 ในนวางศ์จักร) เกณทระอางศะ (เรือนที่ 1,4,7,10 ในนวางศ์จักร) โกณาอางศะ(เรือนที่ 5และ 9 ในนวางศ์จักร) ลัคนาอางศะ (เรือนลัคน์ในนวางศ์จักร)
  4. ดาวเคราะห์ที่สถิตย์ในไตรภาคราศี คือ สถิรราศี จรราศี และทวิภาวะราศี ในดวงนวางศ์ แสดงถึงการมีอายุและวัยของเจ้าชาตา และสำหรับเพื่อการพิจารณาอายุขัยของเจ้าชาตา
  5. ดาวเคราะห์เสวยวรรคอุตมาศะ (วรโคตรนวางศ์) จะให้ผลดีกว่าตำแหน่งอื่นๆ
  6. ดาวเคราะห์ที่สถิตย์ในนวางศ์ที่ 64 จะให้ผลร้าย (นวางศ์มรณะ)
  7. ดาวเคราะห์ที่สถิตในปุษการะนวางศ์ (ในองศาที่กำหนด) จะให้ผลด้านยศศักดิ์ ตำแหน่งและชื่อเสียง (จะอธิบายเรื่องปุษการะนวางศ์นี้ในตอนต่อๆไป)
  8. นิธนะอางศะ (เรือนที่ 8ในนวางศ์) พิจารณาถึงความตายของเจ้าชาตา
  9. ใช้ทฤษฎี “ราศีดุลยนวาศ์” และ “นวางศ์ดุลยราศี” สำหรับการพิจารณาประกอบกับดาวจร
  10. ราศีจักรอุปมาเหมือนร่ายกายของกาลปุรุษ ส่วนนวางศ์จักรเปรียบเหมือนจิตวิญญาณของกาลปุรุษ แสดงว่าทั้งสองส่วนล้วนแล้วแต่อิงอาศัยซึ่งกันและกัน และจะขาดเสียส่วนหนึ่งส่วนใดมิได้ ดาวเคราะห์ใดแสดงผลอย่างไรในราศีจักรแต่อาจะแสดงผลนั้นตรงกันข้ามในนวางศ์จักร
  11. ในหลักพิจารณาทั่วไป ดาวเคราะห์อ่อนแอในราศีจักร แต่เข้มแข็งในนวางศ์จักร ก็ถือได้ว่าดาวเคราะห์นั้นเข้มแข็ง ในกรณีเดียวกัน ดาวเคราะห์ใดให้ปาปผลในราศีจักร แต่ให้ศุภผลในนวางศ์จักร ก็ถือว่าดาวดวงนั้นให้ศุภผล หากมีการร่วมกันของดาวเจ้าเรือนลัคน์ในราศีจักรกับเจ้าเรือนลัคน์ในนวางศ์จักร ดาวเคราะห์ก็จะถือว่าเป็นศุภผล ให้โชคและให้ผลดี

  12. ให้พิจารณาเจ้าเรือนในนวางศ์จักรดังนี้

    (ก.)ดาวเจ้าเรือนที่ 1 ที่ 4 และที่ 7 ในนวางศ์จักรถือเป็น”เทวะเคราะห์” แสดงถึง เทวะ ความอุดมสมบูรณ์   พละกำลัง และทรัพย์สิน  ผู้ที่เกิดในโยคของดาวเคราะห์เหล่านี้จะส่งผลให้เป็นคนใจกว้าง มีศีลมีสัตย์ ยึดมั่นในศาสนาและมีอำนาจ

    (ข.)ดาวเจ้าเรือนที่ 2 ที่ 5 และที่8 ในนวางศ์จักร ถือเป็น “นระเคราะห์” แสดงถึง  มนุษย์ ความมีชื่อเสียงในอาชีพความเสียสละ และมีความสุข

    (ค.)ดาวเจ้าเรือนที่ 3 ที่ 6 และที่9 ในนวางศ์จักร ถือเป็น “รากษสเคราะห์” แสดงถึง  ปิศาจ ความโหดร้าย รุนแรง เห็นแก่ตัว

  13. ในการพิจารณานวางศ์จักร มี 2ประการที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ราศีลัคนาและเจ้าเรือนลัคน์ในราศีจักร ไม่ควรเป็น เรือนที่ 6 ที่ 8 และที่ 12 ในนวางศ์จักร

    (ก.) หากลัคนาเป็นจรราศี ในราศีจักร ก็ไม่ควรเป็น เรือนที่ 6 และที่ 8 ในนวางศ์จักร

    (ข.) หากลัคนาเป็นสถิรราศี ในราศีจักร ก็ไม่ควรเป็น เรือนที่ 4 ในนวางศ์จักร

    (ค.)หากลัคนาเป็นทวิภาวะราศี ในราศีจักร ก็ไม่ควรเป็น เรือนที่ 2 ที่ 4 และที่ 8 ในนวางศ์จักร

    (ง.) ในขั้นต่อไปให้พิจารณาคือ เจ้าเรือนทุสถานะ(ที่ 6ที่ 8 ที่ 12)ในราศีจักร ไม่ควรที่สัมพันธ์หรือร่วมกับลัคนาหรือเจ้าเรือนลัคน์ในวางศ์จักรเพราะจะส่งผลร้ายในมหาทศาและอันตรทศา

ราศีจักรอุปมาเหมือนร่ายกายของกาลปุรุษ ส่วนนวางศ์จักรเปรียบเหมือนจิตวิญญาณของกาลปุรุษ แสดงว่าทั้งสองส่วนล้วนแล้วแต่อิงอาศัยซึ่งกันและกัน และจะขาดเสียส่วนหนึ่งส่วนใดมิได้ ดาวเคราะห์ใดแสดงผลอย่างไรในราศีจักรแต่อาจะแสดงผลนั้นตรงกันข้ามในนวางศ์จักร

 

ในหลักพิจารณาทั่วไป ดาวเคราะห์อ่อนแอในราศีจักร แต่เข้มแข็งในนวางศ์จักร ก็ถือได้ว่าดาวเคราะห์นั้นเข้มแข็ง ในกรณีเดียวกัน ดาวเคราะห์ใดให้ปาปผลในราศีจักร แต่ให้ศุภผลในนวางศ์จักร ก็ถือว่าดาวดวงนั้นให้ศุภผล หากมีการร่วมกันของดาวเจ้าเรือนลัคน์ในราศีจักรกับเจ้าเรือนลัคน์ในนวางศ์จักร ดาวเคราะห์ก็จะถือว่าเป็นศุภผล ให้โชคและให้ผลดี

 

ให้พิจารณาเจ้าเรือนในนวางศ์จักรดังนี้

(ก.)ดาวเจ้าเรือนที่ 1 ที่ 4 และที่ 7 ในนวางศ์จักรถือเป็น”เทวะเคราะห์” แสดงถึง เทวะ ความอุดมสมบูรณ์ พละกำลัง และทรัพย์สิน ผู้ที่เกิดในโยคของดาวเคราะห์เหล่านี้จะส่งผลให้เป็นคนใจกว้าง มีศีลมีสัตย์ ยึดมั่นในศาสนาและมีอำนาจ

(ข.)ดาวเจ้าเรือนที่ 2 ที่ 5 และที่8 ในนวางศ์จักร ถือเป็น “นระเคราะห์” แสดงถึง มนุษย์ ความมีชื่อเสียงในอาชีพความเสียสละ และมีความสุข

(ค.)ดาวเจ้าเรือนที่ 3 ที่ 6 และที่9 ในนวางศ์จักร ถือเป็น “รากษสเคราะห์” แสดงถึง ปิศาจ ความโหดร้าย รุนแรง เห็นแก่ตัว

 

ในการพิจารณานวางศ์จักร มี 2ประการที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ราศีลัคนาและเจ้าเรือนลัคน์ในราศีจักร ไม่ควรเป็น เรือนที่ 6 ที่ 8 และที่ 12 ในนวางศ์จักร

(ก.) หากลัคนาเป็นจรราศี ในราศีจักร ก็ไม่ควรเป็น เรือนที่ 6 และที่ 8 ในนวางศ์จักร

(ข.) หากลัคนาเป็นสถิรราศี ในราศีจักร ก็ไม่ควรเป็น เรือนที่ 4 ในนวางศ์จักร

(ค.)หากลัคนาเป็นทวิภาวะราศี ในราศีจักร ก็ไม่ควรเป็น เรือนที่ 2 ที่ 4 และที่ 8 ในนวางศ์จักร

(ง.) ในขั้นต่อไปให้พิจารณาคือ เจ้าเรือนทุสถานะ(ที่ 6ที่ 8 ที่ 12)ในราศีจักร ไม่ควรที่สัมพันธ์หรือร่วมกับลัคนาหรือเจ้าเรือนลัคน์ในวางศ์จักรเพราะจะส่งผลร้ายในมหาทศาและอันตรทศา