โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)

ชาตาใดที่มีลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ นับว่าเป็นดวงชาตาที่ดีมาก โดยทั่วไปจะให้ผลดีด้านสุขภาพและความแข็งแรง จิตใจมั่นคงและองอาจกล้าหาญ มีความเป็นผู้นำสูงเพราะอาทิตย์เป็นราชาของดาวเคราะห์ทั้งมวล

สำหรับสิงห์ลัคน์ ดาวพุธ ศุกร์ เสาร์ เป็นดาวให้บาปผล(ผลร้าย) ส่วนดาว อังคาร พฤหัส และอาทิตย์ เป็นดาวให้ศุภผล(ผลดี) แต่การร่วมหรือเป็นโยคต่อกันของดาวอาทิตย์(เจ้าเรือนเกณฑ์) ร่วมกับดาวพฤหัส (เจ้าเรือนตรีโกณ) จะไม่ก่อให้เกิดเป็นราชาโยคใดใดในดวงชาตา ทั้งๆที่ดาวสองดวงนี้เป็นดาวคู่มิตรซึ่งกันและกันตามธรรมชาติ แต่เพราะดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนทุสถานภพที่ 8 ด้วย ผลของราชาโยคจึงถูกลบล้างไปหมด ส่วนดาวเสาร์และดาวจันทร์เป็นดาวพิฆาต สำหรับลัคนานี้

 

ลัคนาราศีสิงห์

1. ดาวอาทิตย์หากกุมลัคนา(ราศีสิงห์) จะให้คุณและเป็นมงคลแก่เจ้าชาตาเป็นอย่างสูง
2. ดาวจันทร์ กับอาทิตย์เจ้าเรือนลัคน์เป็นมิตรต่อกัน แต่จันทร์ก็เป็นเจ้าเรือนที่ 12 ด้วยดังนั้นจึงถูกทำให้เป็นกลางสำหรับลัคนานี้
3. ดาวอังคาร เป็นเจ้าเรือนที่ 4 (เกณฑ์)และที่ 9 (ตรีโกณ) ทำให้ดาวอังคารเป็นดาว “โยคการกะ”ซึ่งเป็นดาวให้คุณสูงสุดในลัคนานี้
4. ดาวพุธ เป็นเจ้าเรือนที่ 2และที่ 11 ด้วยความเป็นเจ้าเรือนที่ 2 ทำให้พุธเป็นดาวพิฆาตเจ้าชาตา(มารการกะ) และเจ้าเรือนที่ 11 (เรือนตรีษัฑายะ) ซึ่งดาวพุธเป็นดาวเจ้าเรือนทั้งสองเรือนที่เป็นเรือนให้โทษแก่เจ้าชาตา
5. ดาวพฤหัสบดี เป็นเจ้าเรือนที่ 5 และที่ 8 สำหรับโหรภารตะถือว่าดาวพฤหัสหากสถิตย์อยู่ในราศีสิงห์ถือว่าได้ตำแหน่งดีมาก ซึ่งในคัมภีร์โหรพระเวทกล่าวว่า “หากดาวพฤหัสอยู่ในราศีสิงห์หรือกุมภ์ ให้ผลเท่ากับดาวพฤหัสที่เป็นอุจน์ในราศีกรกฏ” และนักโหราศาสตร์แคว้นเกลาร่าของภารตะ ก็ยกย่องดาวพฤหัสในราศีสิงห์ว่าให้ผลเท่ากับอุจน์ เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะดาวพฤหัสเป็นการกะ(ตัวแทน)ของการกำเนิดบุตร(ปุตตการกะ) ซึ่งหากดาวพฤหัสอยู่ราศีสิงห์ เจ้าชาตาก็จะเกิดบุตรชายมากกว่าบุตรสาว แต่ในขณะที่ดาวพฤหัสอยู่ราศีกรกฏเจ้าชาตาก็จะให้กำเนิดบุตรสาวมากว่าบุตรชาย
แต่เนื่องจากความเป็นเจ้าเรือนที่ 8 ของพฤหัส จึงไม่สามารถก่อให้เกิดราชาโยคได้
6. ดาวศุกร์ เป็นเจ้าเรือนที่ 3และที่ 10 ด้วยความเป็นเจ้าเรือนที่ 3 (เรือนตรีษัฑายะ)ดาวศุกร์จะไม่ให้คุณ แต่จะให้คุณจากความเป็นเจ้าเรือนที่ 10 ภพกรรมะ ผลรวมของศุกร์จะถูกทำให้เป็นกลาง
7. ดาวเสาร์ เป็นเจ้าเรือนที่ 6 (อริ) และที่ 7 (ปัตนิ-มารกะสถานะ) ทำให้กลายเป็นดาวพิฆาตเจ้าชาตาซึ่งให้โทษร้ายแรงที่สุดสำหรับลัคน์นี้
อธิบายดังนี้ (1) ถึงแม้กฎทั่วไปจะกล่าวว่า ดาวบาปเคราะห์หากเป็นเจ้าเรือนเกณฑ์จะให้คุณ แต่เนื่องจาก เป็นเจ้าเรือนที่ 6 ด้วย กฎข้อนี้จึงถูกลบล้างไป (2) อีกทั้งเสาร์เป็นเจ้าเรือนที่ 7 (ปัตนิ) ซึ่งเป็นเรือนมารกะสถาน จึงทำให้เสาร์เป็นดาวมารการกะ (ดาวพิฆาต-ที่ทำให้เจ้าชาตาถึงตาย) (3) ดาวเสาร์เป็นดาวประธานแห่งบาปเคราะห์ ซึ่งให้โทษอยู่แล้วโดยธรรมชาติ (4) ตามธรรมชาติ ดาวอาทิตย์เจ้าเรือนลัคน์และดาวเสาร์ต่างก็เป็นดาวคู่ศัตรูซึ่งกันและกัน

 

กฎและข้อยกเว้น ของลัคนาราศีสิงห์ จากคัมภีร์ ภาวารถะ รัตนากร

1. สำหรับลัคนาราศีสิงห์ หากดาวอาทิตย์-พุธ-อังคาร หรือ ดาวอาทิตย์-พฤหัส-พุธ ร่วมหรือเป็นโยคต่อกันจะทำให้เจ้าชาตาร่ำรวย ส่วนหาก ดาวอาทิตย์ร่วมกับพุธ จะทำให้เจ้าชาตามีฐานะปานกลาง
2. หากมีดาวพฤหัสและศุกร์ร่วมกัน จะทำลายโยคดีต่างๆที่มีอยู่ในดวงชาตาให้หมดสภาพลง
3. ดาวศุกร์ในลัคน์ จะไม่ก่อให้เกิดโยคดีใดใดในดวงชาตา แต่หากศุกร์สถิตย์ในตุลย์(เป็นเกษตร) จะให้คุณ แต่หากสถิตในราศีพฤษภ(เป็นเกษตร) ศุกร์จะกลายเป็นดาวให้โทษ
4. หากดาว อาทิตย์-พุธ-อังคาร ร่วมลัคน์ ในมหาทศาของ พุธ จะทำให้เจ้าชาตาจะร่ำรวยมาก
5. หากดาวเสาร์ร่วมอาทิตย์ในราศีกรกฏ ในมหาทศาของ เสาร์ จะทำให้เจ้าชาตาเป็นสุขและโชคดี

หมายเหตุ***กรุณาศึกษาบทนำหรือทฤษฎีเพื่อทำความเข้าใจก่อน ทฤษฎีดาวให้คุณ-ดาวให้โทษ เฉพาะคนเกิดลัคนาราศีต่างๆ http://bit.ly/2Zj5gBI