Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

(2) ดาราพละ-กำลังจากนักษัตรฤกษ์

ส่วนสำคัญส่วนที่ 2 คือดาราพละหรือกำลังของดาวฤกษ์ทั้ง 27 หรือดาวนักษัตร มีความกว้างนักษัตรละ 13 องศา 20ลิปดา ซึ่งหากจันทร์โคจรผ่านกลุ่มดาวนักษัตรเหล่านี้เมื่อใด ก็จะสะท้องพลังรังสีดี-ร้ายของดาวฤกษ์เหล่านี้มาสู่พื้นปฐพี   ซึ่งกลุ่มดาวนักษัตรเหล่านี้เองที่เราเรียกว่า “ฤกษ์” ซึ่งมีความสำคัญมากต่อดวงชาตาชีวิตของคน และเป็นหลักในการวางฤกษ์ยามต่างๆ คำว่าฤกษ์ส่วนมากจะสับสนกันมากว่าอัน ไหนเป็นฤกษ์สำหรับตัวเราและอันไหน เป็นฤกษ์สำหรับประกอบกิจกรรมที่เราต้องการจะเริ่มต้นใหม่เพื่อให้เกิดสวัสดิมงคล ตามหลักโหรพราหมณ์(โหรภารตะ) และหลักโหราศาสตร์ไทยชั้นสูงส่วนมากก็มีหลักการคล้ายกัน แทบจะเรียกว่าเป็นระบบแบบแผนเดียวกัน  ซึ่งฤกษ์ในที่นี้ก็คือการคำนวนตามหลักดาราศาสตร์โดยอ้างอิงการโคจรของพระจันทร์ ที่โคจรไปรอบจักรราศีทั้ง 12 ราศี ซึ่งในราศีทั้ง 12 ราศีนี้ก็จะมีกลุ่มดาวฤกษ์ (Fixed Star)ที่สถิตย์อยู่คงที่เรียงรายล้อมจักรราศีชั้นนอกเป็นรัศมี 360 องศาตามจักราศี โดยโหราศาสตร์ระบบดั้งเดิมของอินเดีย ใช้ระบบ 28 นักษัตร (เหมือนของจีน) ต่อมาในยุคหลังหรือประมาณพันกว่าปีมาแล้ว โหราศาสตร์อินเดียได้มีการปรับปรุงลดลงให้คงไว้เพียง 27 กลุ่ม(ลด-อภิชิตนักษัตร)เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวน
โดยระบบคณิตศาสตร์ระยะเชิงมุมหรือวิชาตรีโกณมิติ ซึ่งกลุ่มดาวฤกษ์ต่างๆ ก็ได้จัดเรียงและกำหนดชื่อไว้ดังนี้

 

 

การหากำลังของดาราพละ เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการคำนวนหาฤกษ์มงคลที่สัมพันธ์กับดวงชาตากำเนิดของผู้ใช้ฤกษ์เพื่อให้ได้กำลังของศุภอิทธิพลให้ได้มากที่สุด เพื่อความสำเร็จสูงสุดของฤกษ์ที่จะทำการนั้นๆ ดาราพละ เป็นการคำนวนหากำลังของดาวจันทร์ที่เสวยนักษัตรหรือกลุ่มดาวฤกษ์ทั้ง 27 กลุ่มในวันที่จะทำการ(นักษัตรจร)หรือฤกษ์บนให้สัมพันธ์กับดาวจันทร์ที่เสวยฤกษ์ในดวงชาตากำเนิด(นักษัตรกำเนิด) หรือฤกษ์ล่าง ผลจะเป็นดี-ร้ายจะปรากฏตามตารางด้านบนนี้โดยกำลังดาราพละที่เป็นมงคลจะตกเลข 2,4,6,8,9 ดังนั้นในวันที่จะทำการมงคลใดใด ก็ต้องตรวสอบดาวจันทร์จรที่เสวยฤกษ์บน กับดาวจันทร์ในดวงชาตากำเนิดให้ได้กำลังที่เป็นมงคลเสมอ และหากตกเลขกำลังร้ายคือ 1,3,5,7 ก็ต้องงดเว้นการทำการมงคลนั้นๆหรือให้งดเว้นช่วงเวลาที่จะให้ผลร้ายตามตารางที่ 2

ตัวอย่างนาย ก. เกิดในวันที่ดาวจันทร์เสวยมาฆะนักษัตรที่ ๑๐และต้องการจะทำการมงคลในวันที่ดาวจันทร์จรเสวยเรวดีนักษัตรที่ 27ผลจากตารางกำลังของดาราพละจะตกเลข 9 (ปรมมิตร) ถือว่าเป็นกำลังของดาราพละได้กำลังสูงสุดและเป็นมงคลดีมาก จะให้กำลังด้านความสำเร็จและมีโชค แต่หากในวันเดียวกันนาย ข. เกิดวันที่ดาวจันทร์เสวยฤกติกานักษัตรฤกษ์ที่ 3 ผลจะกลายเป็นตกเลข 7 (นิธนะ) จะเป็นผลร้าย ควรหลีกเลี่ยงการทำการในวันดังกล่าว

ดังนั้นในวันที่ปฏิทินบอกว่าวันนี้เป็นวันฤกษ์ดี และสามารถทำการมงคลต่างๆได้นั้น  ก็เพียงเป็นการคำนวนแบบกว้างๆจากฤกษ์บนที่ดาวจันทร์โคจรเสวยนักษัตรในแต่ละวันเท่านั้น แต่หากคำนวนร่วมกับดวงชาตากำเนิดของผู้ที่จะใช้ฤกษ์แล้วก็อาจจะไม่ได้เป็นผลดีตามที่ปฏิทินบอกก็เป็นได้ ดังนั้นการคำนวนกำลังร่วมกันของฤกษ์บนและฤกษ์ล่างเป็นสิ่งจำเป็นในการหาฤกษ์ยาม
*หมายเหตุ ในการคำนวนหานักษัตรกำเนิดในดวงชาตาจะต้องคำนวนโดยใช้วิธีการเฉพาะทางของโหราศาสตร์หรืออาจจะปรึกษานัก-โหราศาสตร์ที่มีประการณ์

 

ตารางเทียบกำลังของดาราพละ

 

 

การแก้ไขดาราพละที่ไม่เป็นมงคล
ในกรณีที่คำนวณฤกษ์จากดวงชาตาและวันที่ประสงค์แล้วปรากฏว่า ตกดาราพละที่ไม่เป็นมงคล มีวิธีแก้ไขดังนี้


1.ทลิทโท(ชนม) ให้ยกเว้น 7 ฆฏิกะ หรือ 2 ชั่วโมง 48 นาทีแรก ของนักษัตรนี้ และให้ใช้ข้าวสาร โปรยไปในบริเวณที่จะทำพิธี หรือ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เพื่อแก้เคล็ด
2.โจโร (วิบัติ) ให้ยกเว้น 3 ฆฏิกะ หรือ 1 ชั่วโมง 12 นาทีแรก ของนักษัตรนี้ และให้ใช้น้ำตาลอ้อย โปรยไปในบริเวณที่จะทำพิธี หรือ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เพื่อแก้เคล็ด
3.เทศาตรี (ปรัตยัก) ให้ยกเว้น 8 ฆฏิกะ หรือ 3 ชั่วโมง 12 นาทีแรก ของนักษัตรนี้ และให้ใช้เกลือ โปรยไปในบริเวณที่จะทำพิธี หรือ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เพื่อแก้เคล็ด
4.3.เพชฌฆาต (นิธนะ) ให้ยกเว้น 6 ฆฏิกะ หรือ 2 ชั่วโมง 24 นาทีแรก ของนักษัตรนี้ และให้ใช้เมล็ดงา โปรยไปในบริเวณที่จะทำพิธี หรือ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เพื่อแก้เคล็ด