
บทเรียนที่ 9 อิทธิพลของดาวพุธ และเคล็ดลับการพยากรณ์
ในทางวิชาการ วิชาโหราศาสตร์หรือศาสตร์แห่งสรวงสวรรค์นี้ ชาวเยอรมันขนานนามว่า "ชีววิทยาจักรวาล" (Cosmo-Biology) ซึ่ง”วิชาชีววิทยาจักรวาล”คือ สมการทางคณิตศาสตร์ที่ว่าด้วยกฏแห่งความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนของจักรวาล ซึ่งหมายถึง "อิทธิพลจากฟากฟ้าที่มีต่อสรรพสิ่งบนพื้นโลก" ซึ่งเป็นไปตามกฎโบราณที่ว่า "As Above, so below" "เบื้องบนเป็นเช่นไร เบื้องล่างก็เป็นเช่นนั้น"
อิทธิพลของดาวพุธในดวงชะตา
ความรู้เชิงวิชาการและระดับวุฒิการศึกษาของทุกๆคนบนโลกใบนี้ ล้วนตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวพุธ โดยตรง และรวมไปถึง กิจการทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับ หนังสือ, การประพันธ์และสิ่งพิมพ์, องค์ความรู้ต่างๆ, คณิตศาสตร์, งานปั้นแกะสลัก (ประติมากรรม) และศิลปกรรม ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวดวงนี้ทั้งสิ้น
ในทางโหราศาสตร์ หากดาวพุธสถิตได้ตำแหน่ง "อุจจ์" ในดวงชะตาของผู้ใด เจ้าชะตานั้นจักเติบโตขึ้นเป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม: ดาวพุธใน 2 มิติ
การเปรียบเทียบระหว่าง ดาราศาสตร์ (Astronomy) และ โหราศาสตร์พระเวท (Vedic Astrology เพื่อให้ผู้ศึกษาเข้าใจถึงหลักการ "As Above, So Below" (เบื้องบนเป็นเช่นไร เบื้องล่างเป็นเช่นนั้น) เราจะมาพิจารณาคุณสมบัติทางกายภาพของดาวพุธ และดูว่ามันส่งผลต่อการตีความทางโหราศาสตร์อย่างไร
|
หัวข้อ |
มุมมองทางดาราศาสตร์ |
มุมมองทางโหราศาสตร์ |
|
1. ตำแหน่งและการโคจร |
ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่ อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด และโคจรด้วยความเร็วสูงที่สุดในระบบสุริยะ (ใช้เวลาเพียง 88 วัน) |
ด้วยความที่อยู่ใกล้ "อาทิตย์" (ราชาแห่งจิตวิญญาณ) ที่สุด ดาวพุธจึงหมายถึง "พุทธิปัญญา” หรือ สติปัญญา ที่ทำหน้าที่รับคำสั่งจากจิตวิญญาณโดยตรง และความรวดเร็วในการโคจร สื่อถึง ความว่องไวของความคิด, ไหวพริบ และการสื่อสารที่รวดเร็ว |
|
2. ลักษณะทางกายภาพ |
เป็นดาวเคราะห์หินขนาดเล็ก ไม่มีดวงจันทร์บริวาร พื้นผิวเต็มไปด้วยหลุมบ่อคล้ายดวงจันทร์ และ ไม่มีชั้นบรรยากาศ ห่อหุ้ม |
การไม่มีชั้นบรรยากาศทำให้ดาวพุธเปิดรับแสงจากดวงอาทิตย์ได้เต็มที่ ในทางโหราศาสตร์จึงถือว่าดาวพุธเป็น "ดาวเป็นกลาง" หรือ“อัพยากฤต”ที่ดีเยี่ยม และเป็นดาวเชิง "นามธาตุ" พร้อมจะเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติตามดาวที่ไปกุมหรือเล็ง (เป็นศุภเคราะห์เมื่ออยู่กับศุภเคราะห์ เป็นบาปเคราะห์เมื่ออยู่กับบาปเคราะห์) |
|
3. ปรากฏการณ์ |
มักจะปรากฏให้เห็นในช่วงเวลาสั้นๆ เฉพาะตอนเช้ามืด (ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น) หรือตอนหัวค่ำ (หลังดวงอาทิตย์ตก) เท่านั้น |
สะท้อนถึงบทบาทของ "ทูต" หรือ ผู้ส่งสารระหว่างโลกกลางวันและกลางคืน จึงเป็นเทพแห่งการสื่อสาร การเจรจา และเป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ |
|
4. ความแปรปรวน |
อุณหภูมิพื้นผิวแตกต่างกันสุดขั้ว ด้านที่หันหาดวงอาทิตย์ร้อนจัด (430°C) ด้านที่หันหนีหนาวจัด (-180°C) |
สื่อถึง ความไม่แน่นอน รวนเร ผันแปร ความสองจิตสองใจ หรือความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็ว |
ความหมายของดาวพุธ ในทางโหราศาสตร์พระเวท
ในทางโหราศาสตร์ภารตะ เราเรียกดาวพุธว่า "พุธะ" ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่า "พุทธิ" ที่แปลว่า สติปัญญา, ความฉลาดรอบรู้ และความตื่นรู้ ผู้ที่ดาวพุธเข้มแข็งในดวงชะตาจึงมักเป็นผู้ที่มีปัญญาแตกฉาน
ดาวพุธ ถือเป็น "พระยุวราช" หรือ เจ้าชายแห่งคณะเทพนพเคราะห์ มีบุคลิกที่ดูอ่อนเยาว์ สดใส และเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ
1.การกะและความหมายหลัก
ดาวพุธเป็นตัวแทน (การกะ) ของสิ่งสำคัญดังต่อไปนี้
1.1 คือ วิทยะและญาณะ (วิชาความรู้และปัญญา): หมายถึง การศึกษาในระบบ, วิชาการ, ความสามารถในการเรียนรู้ และความจำ
1.2 วาจา: การพูด, การสื่อสาร, วาทศิลป์, การเจรจาต่อรอง และภาษาศาสตร์
1.3 คณิตศาสตร์: การคำนวณ, ตรรกะ, ตัวเลข, สถิติ และดาราศาสตร์
1.4 การค้าขาย: ธุรกิจ, การพาณิชย์, การแลกเปลี่ยน และบัญชี
1.5 ศิลปะและทักษะฝีมือ: งานเขียน, งานประพันธ์, และงานที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนของมือ (เช่น งานแกะสลัก, วาดภาพ)
2. ธรรมชาติของดาวพุธ
สิ่งที่ทำให้นักโหราศาสตร์ต้องระมัดระวังในการพยากรณ์ดาวพุธมากที่สุด คือคุณสมบัติพิเศษที่เรียกว่า "ความแปรเปลี่ยน" เพราะดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่ปรับตัวได้ง่าย ซึ่งดาวพุธโดยพื้นฐานเป็นดาวศุภเคราะห์ แต่มีธรรมชาติคล้ายกับ "กิ้งก่าเปลี่ยนสี" เช่น หากกุมกับดาวศุภเคราะห์ (เช่น พฤหัสบดี, ศุกร์) ดาวพุธจะให้คุณ หากกุมกับดาวบาปเคราะห์ (เช่น เสาร์, ราหู, อังคาร) ดาวพุธจะกลายเป็นดาวร้าย และแสดงผลในทางลบตามไปด้วย
เพศของดาวพุธ เป็น “นปุงสกลิงค์” ไม่ใช่ทั้งชายและหญิงแท้ สื่อถึงความสามารถในการเข้าได้กับทั้งสองฝ่าย หรือความเป็นกลาง
ข้อมูลจำเพาะทางโหราศาสตร์
|
หัวข้อ |
รายละเอียด |
|
วรรณะ |
ไวศยะ หรือ พ่อค้า หมายถึงผู้แสวงหาผลกำไรและการเจรจา |
|
คุณะ |
รชะคุณะ คือ พลังแห่งความกระตือรือร้น, การเคลื่อนไหว, กิเลส และกิจกรรม |
|
ธาตุ |
ธาตุดิน (ปฐวี) (ในบางตำราอาจหมายถึงลมหายใจและการสื่อสาร แต่ในทางธาตุชั้นลึกคือดิน หมายถึงความหนักแน่น) |
|
ตรีโทษ (ธาตุ) |
ตรีโทษ คือมีส่วนผสมของทั้ง วาตะ(ลม), ปิตตะ(ไฟ), และกัปผะ(ดิน/น้ำ) ผสมผสานกัน ทำให้ปรับตัวเก่ง |
|
ทิศ |
ทิศเหนือ |
|
เทพผู้รักษา |
พระวิษณุ ผู้ดูแลรักษาสามโลก (ดาวพุธจึงมีหน้าที่ดูแล บริหารจัดการทั้ง 3 โลก) |
สรุปใจความสำคัญ
"ดาวพุธ คือ สะพานเชื่อมระหว่างโลกภายใน (ความคิด) กับโลกภายนอก (คำพูดและการกระทำ)"
หากดาวพุธในดวงชะตาเสีย (สถิตในเรือนทุสถานะ หรือร่วมกับดาวบาปเคราะห์) เจ้าชะตาอาจมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร, พูดจาเชื่อถือไม่ได้, โกหกเก่ง หรือมีระบบประสาทที่ผิดปกติ แต่หากดาวพุธเด่น (เป็นอุจจ์ หรือ เกษตร) เจ้าชะตาจะเป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ เจรจาเป็นเงินเป็นทอง และประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจหรือวิชาการ
ตำนานชาติเวรดาวพุธ: ปัญญาที่กำเนิดจากความขัดแย้ง
ในคัมภีร์ปุราณะได้จารึกเรื่องราวการกำเนิดของ "พุธะ" เอาไว้ ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเทวดาและอสูร ที่เรียกว่า "สงครามทารกามยา" (तारकामय युद्ध)
เรื่องราวเริ่มต้นที่ พระจันทร์ (โสมะ) เทพบุตรผู้รูปงามและเจ้าสำราญ ได้กระทำพิธีราชสูยะบูชาจนมีรัศมีเจิดจรัส เป็นที่หลงใหลของสตรีทั่วทั้งสามโลก
ความงามของพระจันทร์ได้ไปต้องตา นางดารา (ตารา) ผู้เป็นชายาของ พระพฤหัสบดี ครูแห่งเหล่าทวยเทพ ด้วยแรงปรารถนา (กิเลส) นางดาราจึงได้หนีตามพระจันทร์ไป ทิ้งให้พระพฤหัสบดีต้องอับอายและโกรธแค้น
สงครามจึงอุบัติขึ้น! ฝ่ายพระพฤหัสบดีได้กองทัพเทวดามาช่วย ส่วนฝ่ายพระจันทร์ (ซึ่งถือว่าเป็นศิษย์ที่ทรยศครู) กลับได้ พระศุกร์ อาจารย์ของเหล่าอสูร ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของพระพฤหัสบดี ยกทัพอสูรมาหนุนหลัง สงครามลุกลามใหญ่โตจน พระพรหม ต้องเสด็จลงมาห้ามทัพ และบังคับให้พระจันทร์คืนนางดาราแก่สวามี
กำเนิดกุมารผู้ทรงปัญญา
เมื่อนางดารากลับมาสู่อ้อมอกพระพฤหัสบดี ปรากฏว่านางได้ตั้งครรภ์เสียแล้ว เมื่อทารกคลอดออกมา กลับมีรัศมีรุ่งเรืองและสติปัญญาเฉลียวฉลาดเกินวัย จนเหล่าทวยเทพต่างตกตะลึง
พระพฤหัสบดีและพระจันทร์ต่างอ้างสิทธิ์ความเป็นพ่อ จนพระพรหมต้องไต่สวน ในที่สุดนางดาราจึงสารภาพด้วยความอับอายว่า "ทารกนี้เป็นบุตรของพระจันทร์"
พระจันทร์ดีใจมาก จึงตั้งชื่อบุตรชายว่า "พุธะ" ซึ่งแปลว่า ผู้ฉลาดหรือผู้รู้ และรับไปเลี้ยงดูด้วยความรักใคร่ จากตำนานข้างต้น เราสามารถถอดรหัสออกมาเป็นกฎเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ที่สำคัญได้ดังนี้:
1.ความสัมพันธ์ ปัญญา (พุธ) และ จิตใจ (จันทร์): พระจันทร์ คือ จิตใจ ส่วนนางดารา คือ ดวงดาว หรือ แสงสว่างนำทาง และดาวพุธ ก็คือ สติปัญญา
นัยยะแฝง: สติปัญญา (พุธ) ย่อมเกิดมาจากจิตใจ (จันทร์) ที่ได้รับการทำงานร่วมกับแสงสว่าง (ดารา) หากปราศจากจิตแล้ว ปัญญาก็ไม่อาจเกิดได้ คนโบราณมันเปรียบแสงคือปัญญา ดังพุทธภาษิต “นัตถิ ปัญญา สมาอาภา” แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี
2.ความเป็นดาวคู่มิตรคู่ศัตรู ดาวพุธ เกลียด พระจันทร์ ในตำนาน พุธรู้สึกอับอายที่เป็นลูกชู้ (กำเนิดจากความผิดศีลธรรม) จึงถือว่าพระจันทร์เป็น "ศัตรู" ส่วนพระจันทร์ รัก ดาวพุธ เพราะพ่อ (จันทร์) ย่อมรักลูก (พุธ) เสมอ แม้ลูกจะเกลียดตนก็ตาม ทางโหราศาสตร์จึงถือว่า จันทร์มองพุธเป็น "ดาวคู่มิตร"
ผลพยากรณ์: หากดาวพุธอยู่ในเรือนของจันทร์ (กรกฎ) มักให้ผลไม่ค่อยดี (พุธอยู่เรือนศัตรู) แต่ถ้าจันทร์ไปอยู่ในเรือนของพุธ หรือเรือนคู่มิตร (เมถุน-กันย์) จันทร์กลับรู้สึกสบายใจ
3.ความสัมพันธ์กับพฤหัสบดี แม้พุธจะเป็นลูกเลี้ยง แต่พฤหัสบดีก็ยอมรับในความฉลาด (แม้จะเจ็บใจลึกๆ) ในทางโหราศาสตร์ พุธมักมองพฤหัสบดีเป็นกลางๆ หรือศัตรู (ในแง่ของความเคร่งครัดที่ขัดขวางความรื่นเริง) แต่พฤหัสบดีมักมองพุธเป็นศัตรูทางวิชาการ (ปัญญาทางโลก vs ปัญญาทางธรรม)
4.ดาวคู่มิตรศัตรู ตามหลักนิสรคิกะถาวรตามธรรมชาติ ดาวจันทร์ไม่เป็นศัตรูกับใครเลย แต่ดาวพุธเป็นศัตรูกับจันทร์ พฤหัสเป็นมิตรกับจันทร์ แต่จันทร์เป็นกลางกับพฤหัส พุธเป็นกลางกับพฤหัส แต่พฤหัสเป็นศัตรูกับพุธ ส่วนพุธกับศุกร์ต่างก็เป็นคู่มิตรต่อกัน
หมายเหตุ ในการศึกษาศาสตร์โบราณของอินเดีย ท่านจึงมักผูกศาสตร์กับความรู้เอาไว้ในตำนาน เพื่อง่ายต่อการท่องจำ และเป็นรหัสลับเพื่อมิให้คนนอกวรรณะเข้าใจในความหมาย ถึงจะท่องจำตำนานได้แต่ก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
ผลของดาวพุธใน 12 เรือนเรือน
การพิจารณาตำแหน่งของดาวพุธในแต่ละเรือนเรือน จะช่วยให้เราเข้าใจถึงกระบวนการคิด รูปแบบการสื่อสาร และความถนัดเฉพาะตัวของเจ้าชะตา
1. ดาวพุธสถิตในเรือนลัคนา หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธกุมลัคน์" ผู้ที่มีดาวพุธสถิต ณ ตำแหน่งลัคนา จะส่งผลให้เจ้าชะตามีลักษณะดังนี้ คือ
2.ความเป็นปราชญ์ : เจ้าชะตาจะเป็นผู้คงแก่เรียน รักในการศึกษาหาความรู้
3.สติปัญญาเลิศ : มีความเฉลียวฉลาด ไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม และมีความคิดที่ว่องไว
4.เจ้าแห่งศิลปะ : มีความแตกฉานและเชี่ยวชาญในศิลปวิทยาการหลากหลายแขนง
5.วาทศิลป์เป็นเอก : มีความสามารถในการเจรจาที่โดดเด่น สามารถใช้คำพูดสะกดผู้ฟังให้เคลิบเคลิ้มหรือคล้อยตามได้โดยง่าย
6.อายุยืนยาว : ตำแหน่งนี้ของดาวพุธ ยังให้พรให้เจ้าชะตามีอายุขัยที่ยืนยาวอีกด้วย
เคล็ดลับการพยากรณ์
ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัย "ทำไมพุธกุมลัคน์แล้วถึงอายุยืน" ในโหราศาสตร์ภารตะ มีกฎเกณฑ์เรื่อง ษัฑพละ หรือกำลังของดวงดาว ซึ่งมีกำลังในส่วนของ"ทิคะพละ" หรือดาวได้กำลังจากทิศ กฏมีอยู่ว่า: "ดาวพุธ และ ดาวพฤหัสบดี จะได้รับพละกำลังสูงสุด (ทิคะพละ) เมื่อสถิตอยู่ในเรือนที่ 1 (ลัคนา) หรือทิศตะวันออก"
ดังนั้น เมื่อดาวพุธกุมลัคน์ จึงเท่ากับว่าดาวพุธมีพลังความเข้มแข็งเต็มที่ ส่งผลให้ระบบประสาท ซึ่งดาวพุธดูแลอยู่นั้น แข็งแรงและตื่นตัวอยู่เสมอ เมื่อสมองดี ระบบประสาทดี โรคภัยไม่มี ร่างกายโดยรวมจึงแข็งแรงและทำให้อายุยืนยาวนั่นเอง
หมายเหตุ ศึกษา “ษัฑพละ หรือกำลังของดวงดาว” เพิ่มเติมได้ที่ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-29-18/61-2014-07-08-05-35-30.html
2. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 2
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนกฎุมพะ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 2 นี้ จะส่งผลให้เจ้าชะตามีลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้:
1.มั่งคั่งและถ่อมตน เป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งร่ำรวย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โอ้อวด
2.ความสามารถรอบด้าน : เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถหลากหลาย ปรับตัวเก่ง และรอบรู้ในหลายศาสตร์
3.พรสวรรค์ด้านวาจา : ได้รับพรสวรรค์จากเบื้องบนให้มีวาทศิลป์อันเป็นเลิศ พูดจาคมคาย ลึกซึ้ง และจับใจผู้ฟัง (พูดเป็นเงินเป็นทอง)
4.ปฏิภาณกวี : มีสุนทรียภาพในหัวใจ มีความสามารถในเชิงกวี วรรณกรรม หรือการประพันธ์
5.โภคทรัพย์ที่สุจริต: ทรัพย์สินรายได้ที่หามาได้นั้น ล้วนมาจากการประกอบสัมมาอาชีพ เป็นเงินทองที่ได้มาโดยสุจริตและถูกต้องตามกฎหมาย
เคล็ดลับการพยากรณ์
ทำไมดาวพุธอยู่ตรงนี้แล้ว "ปากดี" (ในความหมายที่ดี) เป็นพิเศษ นั่นเพราะเรือนที่ 2 ในทางโหราศาสตร์เรียกว่า "วากยะ ภะวะ" หรือ "เรือนแห่งวาจา" และดาวพุธ เองก็ทำหน้าที่เป็น "การกะ" หรือตัวแทนแห่ง "การสื่อสาร"
เมื่อ "เทพแห่งการเจรจา" มานั่งอยู่ใน "เรือนแห่งคำพูด" จึงเท่ากับเป็นการเสริมพลังกันอย่างสมบูรณ์แบบเป็นทวีคูณ ทำให้เจ้าชะตามักมีอาชีพที่ต้องใช้ปากทำมาหากิน เช่น ทนายความ, นักร้อง, พิธีกร, หรือนักขาย และมักจะประสบความสำเร็จร่ำรวยจากการใช้วาจานั้นเอง
3. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 3
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนสหัชชะ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 3 นี้ จะส่งผลต่อชะตาชีวิตในลักษณะดังนี้:
1.อายุขัยและพละกำลังปานกลาง: เจ้าชะตามักมีอายุขัยอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่สั้นไม่ยาวนัก และมีพละกำลังความแข็งแรงของร่างกาย (รวมถึงสมรรถภาพทางเพศ) อยู่ในระดับพอประมาณ
2.เผชิญความทุกข์ยาก : ชีวิตมักจะต้องผจญกับความทุกข์ระทม หรืออุปสรรคนานัปการที่ผ่านเข้ามาทดสอบจิตใจ
3.ชีพจรลงเท้า : เป็นผู้ที่อยู่ไม่ติดที่ มักมีการเดินทางโยกย้ายอยู่เสมอ หรือชอบท่องเที่ยวพเนจร
4.กล้าทำในสิ่งที่ผิด : ข้อนี้ต้องระวัง เพราะดาวพุธในตำแหน่งนี้อาจทำให้เจ้าชะตามีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว จนถึงขั้นกล้าที่จะกระทำการที่ต่ำช้า หรือผิดศีลธรรมเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
5.สนใจในไสยเวทย์ : มีความสนใจหรือมีความรู้ในศาสตร์ลึกลับ สายมู ไสยศาสตร์ มนตร์ดำ หรือวิชามายากล
6.หลงใหลในรสกาม : เป็นผู้ที่แสวงหาความสุขทางโลกีย์ และเสพสมในรสแห่งกามารมณ์อย่างเต็มที่
เคล็ดลับการพยากรณ์
นักศึกษาอาจจะสงสัยว่า "ทำไมพุธอยู่เรือน 3 ถึงเป็นหมอผี หรือ ชอบสายมู"
1.เรือนที่ 3 คือ "มือ" และ "ทักษะ": ดาวพุธคือความฉลาด เมื่อความฉลาดมาอยู่ที่มือ (เรือน 3) จึงหมายถึงความชำนาญในการประดิษฐ์ เขียนยันต์ หรือทำพิธีกรรมต่างๆ
2.ดาวพุธ คือ ตัวแทนแห่ง "มันตรา" : ในโหราศาสตร์ภารตะ ดาวพุธเกี่ยวข้องกับบทสวดมนต์และเวทมนตร์คาถา เมื่ออยู่ในเรือน 3 ที่เป็นเรือนแห่งความพยายาม จึงมักโน้มเอียงไปในการใช้คาถาอาคมเพื่อหวังผลบางอย่าง
3.ความเจ้าเล่ห์: ดาวพุธคือกิ้งก่าเปลี่ยนสี เมื่อมาอยู่ในเรือนแห่งความกล้า (สหัชชะ) หากไม่มีดาวดีมาช่วย ก็มักจะใช้สมองไปในทางแกมโกง มากกว่าความฉลาดทางธรรม
4. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 4
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนพันธุ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 4 ซึ่งเป็นเรือนแห่งการศึกษาและความสุขทางใจ จะส่งผลให้เจ้าชะตา:
1.เป็นปราชญ์แห่งการคำนวณและดวงดาว : จะมีความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาคณิตศาสตร์และโหราศาสตร์ (เป็นตำแหน่งที่สร้างหมอดูเก่งๆ หรือนักคณิตศาสตร์ระดับปรมาจารย์)
2.ญาติมิตรอาจเป็นปฏิปักษ์ : แม้จะมีความรู้ดี แต่ความสัมพันธ์กับพี่น้องหรือเครือญาติอาจไม่ราบรื่นนัก ญาติพี่น้องอาจตั้งตนเป็นศัตรูหรือนำความเดือดร้อนมาให้
3.วาจาไพเราะเสนาะหู : เป็นผู้ที่มีกิริยาวาจานุ่มนวล สุภาพอ่อนโยน น่าฟัง
4.มั่งคั่งร่ำรวย : เป็นผู้ที่มีฐานะดี มีทรัพย์สินเงินทองอุดมสมบูรณ์
5.เจ้าแห่งทรัพย์สินและยานพาหนะ : จะได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน เรือนช่องห้องหอที่มั่นคง และมียวดยานพาหนะดีๆ ไว้ในครอบครอง
6.เกียรติยศชื่อเสียงขจรไกล : ชื่อเสียงและเกียรติยศจะวิ่งเข้าหาเจ้าชะตาอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องสงสัย
เคล็ดลับการพยากรณ์
"ทำไมพุธอยู่เรือน 4 ถึงเด่นเรื่องโหราศาสตร์" ก็เพราะเรือนที่ 4 คือ เรือนแห่งวิทยา (วิชาความรู้) หมายถึงการศึกษาในระดับสูง การศึกษาวิชาการ ส่วนดาวพุธ คือ การกะ (ตัวแทน) แห่งการคำนวณ ตรรกะ และดาราศาสตร์ เมื่อผสมผสานดาวแห่ง "ตรรกะและการคำนวณ" มาอยู่ในเรือนแห่ง "การเรียนรู้" เจ้าชะตาจึงมักมีสมองที่ปราดเปรื่องในการไขรหัสลับของจักรวาล หรือรหัสลับของตัวเลข ได้ดีกว่าคนทั่วไป
หมายเหตุ: ที่ตำราบอกว่าญาติเป็นศัตรู เพราะดาวพุธมักจะมองหาเหตุผลและตรรกะ แต่เรื่องในครอบครัวบางครั้งต้องใช้ความรู้สึก (จันทร์ หรือ เรือน 4) การใช้เหตุผลมากไปอาจทำให้กระทบกระทั่งกับญาติได้
5. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 5
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนปุตตะ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 5 ซึ่งเป็นเรือนแห่งบุญวาสนาและการสร้างสรรค์ จะส่งผลดีเลิศต่อเจ้าชะตา ดังนี้:
1.ชื่อเสียงและศาสตร์ลึกลับ: เจ้าชะตาจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกว้างขวาง และจะเป็นผู้แตกฉานระดับปรมาจารย์ในศาสตร์ลึกลับ (โหราศาสตร์, ไสยเวทย์ หรือมนตรา)
2.ความบริบูรณ์ในชีวิต: ชีวิตจะเพียบพร้อมไปด้วยโภคทรัพย์ ความสะดวกสบาย และมีสติปัญญาที่เฉียบแหลมเหนือคนทั่วไป
3.ทายาทและการศึกษา: จะมีบุตรชายจำนวนมาก (หรือมีลูกศิษย์บริวารมาก) และจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านการศึกษา
4.ความอิ่มเอิบใจ : เป็นผู้ที่มีความสุขทางใจ รู้จักพอ และมีความเกษมสำราญในชีวิต
5.ชื่อเสียงจากกุศลกรรม : ชื่อเสียงเกียรติยศที่ได้มานั้น จะเกิดจากการกระทำความดี การเสียสละ และความมีน้ำใจต่อผู้อื่น (ไม่ใช่ดังเพราะเรื่องอื้อฉาว)
เคล็ดลับการพยากรณ์
"ทำไมพุธอยู่เรือนที่ 5 ถึงเก่งเรื่องคาถาอาคม" เพราะเรือนที่ 5 คือ "มันตรา ภวะ" ในโหราศาสตร์ภารตะ เรือนที่ 5 ไม่ได้แปลว่าลูกอย่างเดียว แต่หมายถึง "มนตร์คาถา" และการสวดภาวนา
ดาวพุธ คือ "คำพูด" เมื่อคำพูดศักดิ์สิทธิ์ ไปอยู่ในเรือนแห่งมนตรา จึงทำให้เจ้าชะตามี "วาจาสิทธิ์" หรือสวดมนต์แล้วขึ้น ท่องคาถาแล้วขลัง เรียนรู้วิชาลึกลับได้รวดเร็ว (สิทธิมันตรา) และปัญญาจากอดีตชาติ เรือนที่ 5 คือบุญเก่า การมีดาวปัญญา (พุธ) อยู่ตรงนี้ แสดงว่าชาติที่แล้วเคยเป็นนักปราชญ์หรือผู้ทรงศีลมาก่อน ชาตินี้จึงฉลาดโดยกำเนิด
6. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 6
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนอริ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 6 ซึ่งเป็นเรือนแห่งอุปสรรคและศัตรู กลับส่งผลให้เจ้าชะตามีความเข้มแข็งในลักษณะดังนี้:
1.ผู้พิชิตศัตรู : เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีชัยชนะเหนือศัตรูคู่แข่งอย่างเด็ดขาด เปรียบเสมือนแม่ทัพผู้เกรียงไกรในสนามรบ
2.ชอบการวิวาทและสงคราม : มีนิสัยชอบการโต้เถียง การแข่งขัน หรือสนใจในเรื่องยุทธวิธีและการต่อสู้ (ไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆ)
3.โทสะจริต: มักเป็นคนเจ้าอารมณ์ โกรธง่าย หรือมีความฉุนเฉียวอยู่ในกมลสันดาน
4.วาจาเชือดเฉือน: คำพูดคำจามักจะแข็งกร้าว ห้วน หรือชอบพูดจาขวานผ่าซากตรงไปตรงมาจนคนฟังอาจสะดุ้ง
5.ความเกียจคร้าน : แม้ปากจะเก่งกล้า แต่ทางกายกลับมีความเฉื่อยชา หรือมักหาทางหลีกเลี่ยงการใช้แรงงานหนัก
เคล็ดลับการพยากรณ์
ว่า "ทำไมพุธอยู่เรือนอริ ถึงชนะศัตรู แต่ขี้เกียจ" เพราะธรรมชาติของดาวพุธมักชอบเอาชนะด้วยปัญญา ไม่ใช่กำลัง ดาวพุธคือสมองและคำพูด การชนะศัตรูในที่นี้จึงมักหมายถึง การโต้วาที, การขึ้นศาล, หรือการใช้เล่ห์เหลี่ยมทางกฎหมาย (เจ้าชะตามักเหมาะเป็นทนายความ หรือนักวิจารณ์ฝีปากกล้า) ศัตรูพ่ายแพ้เพราะเถียงไม่ทัน
นอกจากนี้ยังชอบถกเถียง เนื่องจากเรือน 6 คือความขัดแย้ง เมื่อดาวแห่งคำพูดมาอยู่ จึงมัก "แกว่งปากหาเสี้ยน" ชอบวิพากษ์วิจารณ์ หรือหาเรื่องถกเถียงอยู่เสมอ
แต่ทำไมถึงขี้เกียจ เพราะดาวพุธเป็นธาตุลม (ความคิด) เมื่อมาอยู่ในเรือนอริ (งานหนัก/หนี้สิน) มักจะทำให้เจ้าชะตา "คิดเยอะแต่ทำน้อย" หรือชอบใช้สมองสั่งงานคนอื่นมากกว่าจะลงมือทำเอง จึงดูเหมือนคนฉลาดแต่ขี้เกียจ
7. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 7
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนปัตนิ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 7 ซึ่งเป็นเรือนแห่งคู่ครองและการหุ้นส่วน จะส่งอิทธิพลต่อเจ้าชะตาและคู่ชีวิตดังนี้:
1.ผู้ใฝ่รู้และรูปงาม: เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่รักการศึกษาหาความรู้ เป็นผู้คงแก่เรียน และมักมีรูปร่างหน้าตาดี สง่างาม (เพราะดาวพุธเล็งลัคนา ส่งกระแสถึงตัวตนโดยตรง)
2.คู่ครองช่างต่อปากต่อคำ: ข้อนี้เป็นจุดที่ต้องทำใจ เพราะคู่ครองของเจ้าชะตามักจะเป็นคนฝีปากกล้า ชอบโต้เถียง หรือขี้บ่น หาเรื่องทะเลาะวิวาทด้วยวาจาอยู่เสมอ
3.เชี่ยวชาญในศาสตร์เร้นลับ: มีความชำนาญเป็นพิเศษในวิชาลี้ลับ ศาสตร์พยากรณ์ หรือวิชาการแขนงที่เข้าถึงได้ยาก
4.ปราชญ์ผู้ได้รับความเคารพ : จะได้รับการยกย่องนับถือจากสังคม อันเนื่องมาจากคุณธรรมและแนวคิดทางปรัชญาที่ลึกซึ้งของตนเอง
เคล็ดลับการพยากรณ์
ทำไมเจ้าชะตาถึง "หล่อ/สวย และฉลาด" เพราะดาวพุธสถิตเรือนที่ 7 จะทำมุม "เล็ง" ไปยังลัคนา (เรือนที่ 1) เต็มๆ 100% ทำให้เจ้าชะตาได้รับอิทธิพลความฉลาดและความดูดีอ่อนกว่าวัยของดาวพุธไปเต็มๆ
ทำไมคู่ครองถึง "ชอบชวนทะเลาะ"เรือนที่ 7 คือคู่ครอง เมื่อดาวพุธ (เทพแห่งการพูด) ไปนั่งอยู่ ย่อมทำให้ได้คู่ครองที่ "พูดเก่ง" หรือ "ช่างเจรจา"
แต่หากดาวพุธนั้นสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ หรือเป็นดาวพุธที่ขาดกำลัง "การพูดเก่ง" นั้นจะกลายสภาพเป็น "การชอบเถียง" หรือ "ปากจัด" ทันที
8. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 8
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนมรณะ"เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 8 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ให้คุณ จะส่งผลให้เจ้าชะตามีวาสนาสูงส่ง ดังนี้:
1.ชื่อเสียงขจรไกล : เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
2.ผู้มีอำนาจลงทัณฑ์ : จะได้ประกอบอาชีพที่มีอำนาจในการตัดสินและลงโทษผู้อื่น (เช่น ผู้พิพากษา, อัยการ, หรือนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่)
3.สถานะดั่งราชา : จะมีสถานภาพทางสังคมที่สูงส่ง สง่างาม และยิ่งใหญ่ประดุจดั่งพระราชา
4.ผู้นำและผู้บัญชาการ : จะได้เป็นผู้นำชุมชน หรือผู้บัญชาการกองกำลัง เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่มีผู้คนยำเกรง
5.ความมั่งคั่งและความสุขสบาย : ชีวิตจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยโภคทรัพย์และความสะดวกสบายรอบด้าน ปรับตัวได้ดีในทุกสถานการณ์
6.อายุยืนยาว : ตามกฎเกณฑ์โหราศาสตร์ที่ว่า "ดาวศุภเคราะห์สถิตในเรือนอายุ (เรือน 8) ย่อมส่งเสริมให้อายุยืน" ดังนั้นเจ้าชะตาจะมีอายุขัยที่ยืนยาว
เคล็ดลับการพยากรณ์
"ทำไมพุธอยู่เรือนมรณะ ถึงได้เป็นผู้พิพากษาหรือคนมีอำนาจสั่งลงโทษ" เพราะดาวพุธ (ปัญญา-กฎหมาย) + เรือน 8 (ความตาย/การลงโทษ) ดาวพุธ คือ สติปัญญาและการเขียน (กฎหมาย) และเรือน 8 คือ เรื่องลึกลับ, มรดก, ความตาย, และการสูญเสีย เมื่อนำความหมายมารวมกัน จึงหมายถึง "ผู้ใช้ปัญญาจัดการกับความผิดหรือความตาย" ซึ่งก็คือบทบาทของ “ตุลาการ” ที่มีอำนาจตัดสินชี้ขาด นั่นเอง
วิปริตราชาโยค หากดาวพุธเป็นเจ้าเรือนทุสถานะ (เช่น เป็นเจ้าเรือนอริ หรือ วินาศ) แล้วมาอยู่ในเรือนมรณะ (เรือน 8) จะเข้าเกณฑ์ "วิปริตราชาโยค" (โชคร้ายกลับกลายเป็นดี) ทำให้จากคนธรรมดากลายเป็นผู้มีอำนาจวาสนาสูงส่งแบบพลิกผันได้ทันที
9. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 9
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนศุภะ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 9 ซึ่งเป็นเรือนแห่งความสำเร็จ, บิดา, และศาสนา จะส่งผลให้เจ้าชะตาเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและโชคลาภ ดังนี้:
1.สนใจในศาสตร์เร้นลับ : จิตใจใฝ่รู้ในวิชาลี้ลับ ปรัชญา หรือโหราศาสตร์ (คล้ายเรือนที่ 5 แต่เรือนที่ 9 จะเน้นไปในทางความศรัทธาและศาสนามากกว่า)
2.เพียบพร้อมด้วยสมบัติและคุณธรรม : เจ้าชะตาจะได้ครอบครองทั้งความมั่งคั่ง, ความสามารถรอบด้าน, ความเที่ยงธรรม, จริยธรรมอันดีงาม และทักษะฝีมืออันเป็นเลิศ... ทุกสิ่งนี้จะเป็นสมบัติของคุณ
3.ใจกว้างและมีวาทศิลป์ : เป็นผู้ที่มีความคิดก้าวหน้า ใจกว้าง และได้รับพรสวรรค์ในการเจรจาพาที (พูดจาน่าเชื่อถือและโน้มน้าวใจคนเก่ง)
4.โชคลาภจากบิดาและครอบครัว : จะได้รับโชคลาภหรือการสนับสนุนที่ดีจากบิดา มีคู่ครองที่ดี และมีบุตรที่ว่านอนสอนง่าย นำความสุขมาให้
เคล็ดลับการพยากรณ์
อยากให้นักศึกษาเข้าใจถึงความเชื่อมโยงของ "พุธ + ศุภะ" ได้ดังนี้ ทำไมถึงเด่นเรื่อง "จริยธรรม" เพราะเรือน 9 คือ "ธรรมะ ภวะ" หมายถึง กฎธรรมชาติ, ศาสนา, และความถูกต้อง ส่วนดาวพุธ คือ สติปัญญา เมื่อปัญญามาสถิตในเรือนแห่งธรรมะ จึงทำให้เจ้าชะตาเป็นคน "คิดดี พูดดี ทำดี" มีหลักการในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
ความหมายเรื่อง "พ่อ"เรือน 9 เป็นตัวแทนของพ่อ และดาวพุธ หมายถึง การค้าขาย หรือ การสื่อสาร บิดาของเจ้าชะตาอาจจะเป็นพ่อค้า, นักธุรกิจ, นักเขียน หรือเป็นครูบาอาจารย์ และเจ้าชะตามักจะได้รับมรดกทางปัญญาหรือทรัพย์สินจากพ่อด้วย
การที่ดาวแห่งสติปัญญาขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของดวงชะตา ย่อมส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นบุคคลชั้นนำในสายอาชีพ
10. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 10
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนกัมมะ" จุดนี้คือ "จุดจอมฟ้า" ของดวงชะตา หรือเรือนที่ 10 (กัมมะ) ซึ่งเป็นเรือนที่ว่าด้วยการงานและเกียรติยศสูงสุด การที่ดาวแห่งสติปัญญาขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของดวงชะตา ย่อมส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นบุคคลชั้นนำในสายอาชีพ เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 10 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ให้คุณอย่างยิ่ง จะส่งผลให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานดังนี้:
1.ปราชญ์ผู้โด่งดัง : เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ระดับนักปราชญ์ และมีชื่อเสียงขจรไกลในวงสังคม
2.พลังจิตตานุภาพที่เข้มแข็ง : เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ มีพลังใจที่ยิ่งใหญ่ในการกระทำการใดๆ ให้สำเร็จลุล่วง
3.มั่งคั่งและสุขสบาย : ชีวิตจะบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทองและความสะดวกสบายทุกรูปแบบ
4.ความเป็นมืออาชีพขั้นสูง : ด้วยอิทธิพลของดาวพุธที่ครอบงำจุด "จอมฟ้า" จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็น "มืออาชีพ" ตัวจริง! เปี่ยมไปด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญการเฉพาะด้าน และได้รับการยอมรับนับถือในแวดวงอาชีพของตนอย่างสูงสุด
เคล็ดลับการพยากรณ์
"จุดจอมฟ้า" (The Meridian) คืออะไร ในทางโหราศาสตร์สากลและภารตะบางแขนง เรือนที่ 10 คือจุดที่สูงที่สุดของท้องฟ้าในขณะที่เจ้าชะตาเกิด (MC - Medium Coeli) หรือจุดเที่ยงวัน เมื่อดาวพุธ (ดาวแห่งการสื่อสารและธุรกิจ) ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดนี้ แปลว่า "ความสามารถของเขาจะเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก"
อาชีพที่เหมาะสม ดาวพุธในเรือน 10 มักสร้าง "ยอดฝีมือ" ในสายงานที่ใช้สมอง เช่น นักธุรกิจระดับ CEO, นักเขียนชื่อดัง, นักบัญชีมือหนึ่ง, บรรณาธิการบริหาร หรือนักโหราศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ
11. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 11
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนลาภะ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 11 ซึ่งเป็นเรือนแห่งความสำเร็จและโชคลาภ จะส่งผลดีต่อเจ้าชะตาอย่างมหาศาล ดังนี้:
1.ปัญญาเป็นเลิศ : เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดหลักแหลมอย่างยิ่ง
2.ความเป็นปราชญ์ : จะมีความรอบรู้คงแก่เรียน เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว ดาวพุธคือตัวแทนแห่งวิชาการและการเรียนรู้ (เมื่ออยู่ในเรือนลาภะ จึงหมายถึงการได้กำไรจากการศึกษา)
3.อายุยืนยาว : เป็นตำแหน่งที่ช่วยส่งเสริมให้เจ้าชะตามีสุขภาพแข็งแรงและอายุขัยยืนยาว
4.ความสำราญทางโลก : จะได้รับความเพลิดเพลินเจริญใจ ได้เสพสุขในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และความรื่นรมย์ต่างๆ ของชีวิตอย่างสมบูรณ์
5.บริวารและทรัพย์สินมากมาย : จะมีลูกน้องบริวารห้อมล้อมคอยช่วยเหลือจำนวนมาก และจะมีความมั่งคั่งร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำ เพราะเรือนที่ 11 คือ "เรือนแห่งลาภผล" นั่นเอง
เคล็ดลับการพยากรณ์
"ทำไมพุธอยู่เรือน 11 ถึงรวยและเพื่อนเยอะ" เพราะเรือนลาภะ (การได้มา) + พุธ (การติดต่อสื่อสาร/สังคม) และเรือน 11 คือ ผลกำไรและความสำเร็จ ดาวพุธ คือ การค้าขาย และ การสื่อสาร เมื่อมารวมกัน จึงหมายถึง "กำไรจากการค้าขาย" หรือ "รวยเพราะปาก" เจ้าชะตามักมีพรสวรรค์ในการเปลี่ยนความรู้หรือคำพูดให้กลายเป็นเงินทองครับ
เครือข่ายสังคม เรือน 11 ยังหมายถึง เพื่อนฝูงและสังคมวงกว้าง ดาวพุธ คือ มิตรภาพและการปรับตัว เจ้าชะตาจึงเป็นคน "กว้างขวาง" เข้ากับคนง่าย มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม ซึ่งเส้นสายเหล่านี้แหละที่จะนำเงินทองและความสำเร็จมาให้
12. ดาวพุธสถิตในเรือนที่ 12
หรือที่เรียกว่า "ดาวพุธในเรือนวินาศ" เมื่อดาวพุธสถิตอยู่ในเรือนที่ 12 ซึ่งเป็นเรือนแห่งการสูญเสียและความสันโดษ จะส่งผลในสองมิติที่แตกต่างกันดังนี้:
1.ความเกียจคร้านและความขัดสน: เจ้าชะตามักมีความเกียจคร้านเฉื่อยชาเข้าครอบงำจิตใจ ซึ่งส่งผลสืบเนื่องให้ต้องประสบปัญหาขัดสน หรือขาดแคลนทรัพย์สินเงินทอง
2.ความล้มเหลว: ชีวิตมักต้องเผชิญกับความผิดหวังและความล้มเหลวอยู่เนืองๆ ทำอะไรมักไม่ค่อยสำเร็จดั่งใจหวัง
3.วาจาดีแต่อาภัพโชค: แม้เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีวาจาไพเราะ พูดจาน่าฟังเพียงใด แต่ทว่าวาสนาโดยรวมกลับดูอาภัพและไร้โชคช่วย (ขาดเฮง)
4.พรแห่งปัญญาและการศึกษา : แต่ว่าแม้ตำแหน่งนี้จะดูเหมือนให้โทษในทางโลก แต่ในทางวิชาการและการเรียนรู้นั้น กลับถือเป็น "ตำแหน่งที่ดีเยี่ยม" เจ้าชะตาจะได้รับพรวิเศษและอานิสงส์ทั้งปวงที่เกิดจากการศึกษาหาความรู้, การเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง และความแตกฉานทางปัญญา (Wisdom)
เคล็ดลับการพยากรณ์
บทสรุปปิดท้ายเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของ "พุธวินาศ" ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น: ว่าทำไมจนแต่ฉลาด เพราะเรือน 12 คือ "โมกษะ" หรือการหลุดพ้น และความสันโดษ ส่วนดาวพุธ คือ ปัญญา
เมื่อปัญญาไปอยู่ในเรือนแห่งความสันโดษ เจ้าชะตาจึงมักใช้สมองไปกับการขบคิดปรัชญา, การค้นคว้าวิจัยในห้องแล็บเงียบๆ, หรือการปฏิบัติธรรม มากกว่าจะเอาสมองไปคิดเรื่องหาเงินหากำไร จึงดูเหมือนเกียจคร้านทางโลก แต่ขยันทางธรรม
ปัญญาญาณ:ดาวพุธในเรือน 12 มักส่งผลให้เจ้าชะตามี "สัมผัสที่ 6" หรือสัญชาตญาณแม่นยำ เพราะจิตเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณได้ง่าย นอกจากนี้ดาวพุธเรือน 12 เป็นตำแหน่งที่ดีมากสำหรับ "นักแปลภาษาต่างประเทศ" หรือผู้ที่ต้องทำงานเบื้องหลังความสำเร็จของผู้อื่น
บทเสริม: ความสอดคล้องระหว่าง โหราศาสตร์, อัญมณีศาสตร์ และ เลขศาสตร์
ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนนี้ จะเปิดเผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง มหาปัญจธาตุทั้ง 5 (Five Great Elements), ดวงดาว, อัญมณี, รัศมีสีแห่งจักรวาล และ ประสาทสัมผัส
ตารางนี้คือหัวใจสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว:
|
ธาตุ (Element) |
ดาวเคราะห์ (Planet) |
อัญมณี (Gem) |
สีแห่งจักรวาล (Cosmic Colour) |
ผัสสะ/สัมผัส (Sense) |
เลขศาสตร์ (Number) |
|
อากาศ (Ether) |
พฤหัสบดี (Jupiter) |
บุษราคัม (Yellow Sapphire) |
สีฟ้าอ่อน (Light Blue) |
เสียง (Sound) |
3 |
|
ลม (Air) |
เสาร์ (Saturn) |
ไพลิน (Blue Sapphire) |
สีม่วง (Violet) |
สัมผัส (Touch) |
8 |
|
ไฟ (Fire) |
อังคาร (Mars) |
ปะการัง (Coral) |
สีเหลือง (Yellow) |
รูป/การมองเห็น (Vision) |
9 |
|
น้ำ (Water) |
ศุกร์ (Venus) |
เพชร (Diamond) |
สีคราม (Indigo) |
รส (Taste) |
6 |
|
ดิน (Earth) |
พุธ (Mercury) |
มรกต (Emerald) |
สีเขียว (Green) |
กลิ่น (Smell) |
5 |
(หมายเหตุ: สีแห่งจักรวาลในตำรานี้ อาจมีความแตกต่างจากสีประจำวันตามตำราไทยทั่วไป เนื่องจากเป็นการอ้างอิงตามหลักการสั่นสะเทือนของแสง หรือ Cosmo-Biology)
เคล็ดลับภาควิชาการ ทำไมดาวพุธ (ดิน) ถึงคู่กับ กลิ่น เพราะธาตุดินคือสิ่งที่มีมวลสารหนาแน่นที่สุด อนุภาคกลิ่นจึงต้องอาศัยมวลสารในการเดินทาง ดาวพุธจึงครองจมูก และการดมกลิ่น
ทำไมพฤหัส ถึงคู่กับ เสียง เพราะธาตุอากาศ คือความว่าง เสียงเดินทางผ่านความว่าง หากไม่มีที่ว่าง เสียงก็ก้องกังวานไม่ได้ พฤหัสบดีจึงหมายถึงการฟัง (โสตะ) และคำสอนที่ถ่ายทอดผ่านเสียง
ทำไมอังคาร (ไฟ) ถึงคู่กับ การมองเห็น เพราะเรามองเห็นได้ด้วยแสงสว่าง (ไฟ) หากโลกนี้มืดมิด (ไร้ไฟ) ดวงตาก็ไร้ความหมาย ดาวอังคารจึงครองดวงตา
--------------------------------------------------------------------------------------
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดย อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
3.TikTok : astroneemo
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo)
เส้นทางไปบ้านอาจารย์ https://maps.app.goo.gl/LKz3vbnMDU5Qnu3P6
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************