
12.ประวัติศาสตร์โหราศาสตร์พระเวท ตอนที่ 3 ยุคปุราณะ
ในการศึกษาโหราศาสตร์พระเวทให้ลึกซึ้งถึงแก่น เพื่อที่จะเข้าใจความหมายและการตีความโศลกต่างๆในคัมภีร์โหราศาสตร์พระเวทโบราณ เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้บริบททางวัฒนธรรมและปรัชญาพระเวท ในทุกๆแง่มุม ตัวอย่างเช่น การเข้าใจในธรรมชาติ 3 ประการ(ไตรคุณ) ที่เป็นพื้นฐานของจักรวาล เช่น สัตตวะ รชะ ตมะ ซึ่งแทรกซึมอยู่ในทุกๆสรรพสิ่ง มีกล่าวเอาไว้ในคัมภีร์“ปุราณะ”
โดย”ไตรคุณ” หรือ “คุณะทั้งสาม” ในโหราศาสตร์พระเวท ตือ คุณสมบัติพื้นฐานของธรรมชาติ ได้แก่ สัตตวะ (ความบริสุทธิ์ ความสมดุล ความรู้) รชะ (กิจกรรม ความทะเยอทะยาน ความหลงใหล) และตมัส (ความเฉื่อยชา อวิชชา ความมืด) คุณสมบัติเหล่านี้ปรากฏอยู่ในทุกสรรพชีวิตและทุกดาวเคราะห์ ทุกราศี และนักษัตร แต่มีสัดส่วนที่แตกต่างกัน และมีอิทธิพลต่อลักษณะนิสัย โชคชะตา และพฤติกรรมของบุคคล เมื่อเราเข้าใจ “ไตรคุณ” คือ สัตตวะ รชะ ตมะ หรือ ตมัส เราก็จะเข้าใจความหมายของดาวเคราะห์ ราศี และนักษัตร ต่างได้อย่างลึกซึ้ง
สัตตวะ คุณะ
คุณสมบัติ: ความบริสุทธิ์ ความสมดุล สติปัญญา ความรู้ และแสงสว่าง
พฤติกรรม: ความชัดเจน ความสุข และความสงบ
ความสัมพันธ์ทางโหราศาสตร์: มักสัมพันธ์กับดาวเคราะห์ที่แสดงถึงความเมตตากรุณา หรือดาวเคราะห์ที่ให้กำลังด้านบวก เช่น ดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ และดาวพฤหัสบดี และราศีต่างๆ ที่ดาวเคราะห์เหล่านี้ครองอยู่ เช่น ราศีกรกฏ ราศีสิงห์ ราศีธนู และราศีมีน
รชะ คุณะ
คุณสมบัติ: สัมพันธ์กับกิจกรรม ความหลงใหล ความทะเยอทะยาน ความกระสับกระส่าย และการเคลื่อนไหว
พฤติกรรม: มีลักษณะเด่นคือความปรารถนา ความผูกพัน และแรงผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จ
ความสัมพันธ์ทางโหราศาสตร์: เชื่อมโยงกับดาวศุภเคราะห์ต่างๆ เช่น ดาวพุธและดาวศุกร์ และราศีต่างๆ เช่น ราศีเมถุน ราศีกันย์ ราศีตุลย์ และราศีพฤษภ
ตมัส คุณะ
คุณสมบัติ: ความเฉื่อยชา ความไม่รู้ ความมืด ความเฉื่อยชา และความยึดติด
พฤติกรรม: นำไปสู่ความหลงผิด ความเฉื่อยชา และภาวะเฉื่อยชาทางจิตวิญญาณหรือทางกาย
ความสัมพันธ์ทางโหราศาสตร์: เชื่อมโยงกับดาวบาปเคราะห์ เช่น ดาวเสาร์ ดาวอังคาร และราหู/เกตุ และราศีต่างๆ เช่น ราศีเมษ ราศีพิจิก ราศีมังกร และราศีกุมภ์
คัมภีร์“ปุราณะ” คืออะไร?
คัมภีร์ปุราณะ (पुराण) เป็นวรรณกรรมชั้นสำคัญในศาสนาฮินดู จัดอยู่ในกลุ่ม "ศฺฤติ–สมฤติ" ซึ่งหมายถึง สิ่งที่ “จำได้” หรือถ่ายทอดสืบต่อกัน ซึ่งคำว่า “ปุราณะ” มาจากรากศัพท์ว่า “ปุราณ” (पुराण) = เก่าแก่, ดั้งเดิม ใช้เรียกคัมภีร์ที่มีการ “เรื่องเล่า” และถ่ายทอดหลักธรรมโดย เล่าผ่านเรื่องราวระหว่างบุคคล
รูปแบบการถ่ายทอดของคัมภีร์ปุราณะมักเป็นรูปแบบบทสนทนา เช่น ฤๅษีเล่าธรรมให้ศิษย์ เทพบรรยายธรรมให้เทพหรือมนุษย์ ใช้รูปแบบ “กถา” คือ “นิทานธรรม” ซึ่งเล่าโดยพราหมณ์ในวัดหรือโบสถ์ พร้อมแนวทางการแสดงความรักและศรัทธาต่อเทพเจ้า หรือเรียก่า “ภักติ” (भक्ति) เนื้อหากล่างถึง (1) ประวัติการสร้างและการทำลายจักรวาล (2) ลำดับวงศ์ของเทพเจ้า กษัตริย์ ฤๅษี มนุษย์ครึ่งเทพ ฯลฯ (3) ภูมิศาสตร์ จักรวาลวิทยา และปรัชญาอินเดียโบราณ
คัมภีร์ปุราณะ 18 เล่มหลัก
ซึ่งคัมภีร์ปุราณะมีการจัดหมวดตาม “คุณะ” (गुण) คือ ธรรมชาติสามประการที่เป็นพื้นฐานของจักรวาล ประกอบด้วย (1) สัตตวะ (सत्त्व สตฺตฺวะ) – ความบริสุทธิ์ สัจจะ มีคัมภีร์ 6 เล่ม (2) รชะ (रजस् –รชสฺ) – ความเร่าร้อน ปรารถนา มีคัมภีร์ 6 เล่ม (3) ตมะ (तमस् –ตมสฺ) – ความมืด มายา อวิชชา มีคัมภีร์ 6 เล่ม รวม 18 เล่ม
มหาบูรพาจารย์แห่งวิชาโหราศาสตร์ในยุคปุราณะ
ในยุคนี้ มีมหาฤๅษี 18 ตนที่เป็น ปรวรรตกะ (प्रवर्तक ปฺรวรฺตก) หรือ มหาบูรพาจารย์แห่งวิชาโหราศาสตร์พระเวท ซึ่งก็คือผู้เผยแพร่วิชาโชติษและแต่งคัมภีร์เพื่อการคำนวณทางดาราศาสตร์ โดยมีรายนามชื่อ 18 ปรวรรตกะ ดังนี้
1. सूर्य – มหาฤษีสูรฺย 2. अत्रि – มหาฤษีอตฺริ 3. नारद – มหาฤษีนารทะ
4. मनु – มหาฤษีมนุ 5. पौलिश– มหาฤษีเปาลิศ 6. यवन – มหาฤษียวนะ
7. पितामह – มหาฤษีปิตามหะ 8. पराशर – มหาฤษีปราศระ 9. गर्ग – มหาฤษีครฺคะ
10. अंगिरा – มหาฤษีองฺคิรา 11. च्यावन – มหาฤษีจฺยาวนะ 12. भृगु – มหาฤษีภฤคุ
13. वसिष्ठ – มหาฤษีวสิษฺฐะ 14. कश्यप – มหาฤษีกศฺยปะ 15. मरीचि – มหาฤษีมรีจิ
16. लोमेश – มหาฤษีโลเมศ 17. व्यास – มหาฤษีวฺยาสะ 18. शौनक – มหาฤษีเชานกะ
วิชาโหราศาสตร์ในยุคปุราณะมี 3 แขนง: คือ
1.สิทธานตะ ( सिद्धान्त - สิทฺธานฺตะ) – ว่าด้วยระบบดาราศาสตร์และคำนวณทางคณิตศาสตร์
2.สํหิตา (संहिता– สํหิตา) – โหราศาสตร์ว่าด้วยดวงเมือง อากาศ และแผ่นดิน
3.โหรา (होरा – โหรา) – ว่าด้วยการทำนายดวงชะตาบุคคล
วรรณกรรมร่วมยุค ในยุคปุราณะ
1. รามายนะ रामायण –– (ค.ศ. 7323 ก่อนคริสตกาล)
2. มหาภารตะ महाभारत (ค.ศ. 5000–4000 ก่อนคริสตกาล)
3.คัมภีร์อุปนิษัท (उपनिषद् ) คัมภีร์ปรัชญาที่เน้นการบรรลุธรรมและรู้แจ้งตนเอง
จุดประสงค์ของการเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์
"โหราศาสตร์มิใช่เพียงเพื่อรู้โชคชะตา แต่เพื่อการพัฒนาจิตวิญญาณ" เป้าหมายของวิชาโชติษคือ "เพื่อยกระดับตนเอง และก้าวสู่การรู้แจ้ง โดยการปรับความปรารถนา ให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง หมายเหตุ — ความรู้ไม่ใช่สิ่งต้อง “เชื่อ” หากแต่คือสิ่งต้อง “เข้าใจ” เพราะดวงดาวไม่มีอำนาจเหนือเรา แต่เรามีอำนาจเหนือใจเราต่างหาก
*******************************
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดยอาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo)
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
