ข้อคิดของการเรียนวิชาโหร-วิชาฮวงจุ้ย
ช่วงหลายปีมานี้มาคนเข้ามาสอบถามอาจารย์ตลอด ว่ารับสอนวิชาโหราศาสตร์ภารตะไหม รับสอนวิชาฮวงจุ้ยไหม อาจารย์ตอบปฏิเสธไปทุกราย อาจารย์เพียงแต่เขียนบทความให้ความรู้ศาสตร์โบราณต่างๆเหล่านี้ เผยแพร่เป็นวิทยาทานให้กับผู้อ่านทุกท่านเท่านั้น แล้วทำไมจึงไม่รับสอน ก็ต้องตอบตามตรงว่า หลักสูตรของอาจารย์สอนฟรีไม่คิดเงินแต่ต้องเรียนกับอาจารย์และฝึกฝนวิชาไม่น้อยกว่า 10 ปีจึงไปประกอบอาชีพได้ ทุกคนก็ต่างก็ล้มเลิกความตั้งใจ เพราะเข้าใจไปว่าเรียนกัน 3เดือน 6 เดือนก็ไปประกอบอาชีพหาเงินได้แล้ว
ต้องเข้าใจก่อนว่าศาสตร์นี้เป็นศาสตร์โบราณ เป็นศาสตร์ลี้ลับขั้นสูง มีไว้เพื่อแก้วิบากรรม เปลี่ยนชะตาชีวิตคน เพราะดวงชะตาไม่ได้ถูกฟ้ากำหนดมาทั้ง 100 เปอร์เซนต์ แต่กำหนดมาเพียงบางส่วน สัดส่วนก็แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
เช่นบางคนฟ้าลิขิต 50 กำหนดดวงตัวเองได้ 50 บางคนก็ 70/30 หรือ 60/40 หรือบางคนฟ้าดินกำหนดไว้ 100 เปอร์เซ็นต์เลยก็มี เช่น พวก เกิดมาหูหนวก ตาบอด พิการซ้ำซ้อน เป็นต้น เราต้องเป็นผู้ช่วยแนะนำและหาวิธีแก้ไข ไม่อย่างนั้นจะรู้ชะตาชีวิตไปทำไมกัน เพราะเมื่อรู้แล้วแต่แก้ไขไม่ได้ ดังพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่าหากชีวิตถูก(พระพรหม)ลิขิตเอาไว้แน่นอนแล้วไซร้ การปฏิบัติเพื่อชีวิตพรหมจรรย์ย่อมไม่มี (หมายถึงการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นย่อมไม่มี) หรือไม่ก็ดูในพระสูตรเรื่อง "อายุวัฒนกุมาร" ก็จะเข้าใจ
ดังนั้นศาสตร์นี้จะเรียน 3-6 เดือนจบย่อมเป็นไปไม่ได้เลย หากนำมาประกอบอาชีพก็ย่อเป็นโทษด้วยกันทั้งสองฝ่าย ลองดูคนที่มีอาชีพแพทย์ ต้องเรียนกัน 6 ปี ต้องพัฒนาทักษะอีก 3 ปี จึงจะเป็นแพทย์รักษาคนได้ นอกจากนี้ก็ยังต้องไปเรียนแพทย์เฉพาะทางอีก 5 ปี รวมแล้ว ก็ 14 ปี สั่งสมประสบการณ์อีกนับ 10 ปี จนอายุ 40 กว่าๆ จึงจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ รักษาโรคคนก็หาย ช่วยชีวิตคนก็รอด
หากซินแสหรือ หมอดูไปเรียน 6 เดือน อ่านหนังสือเอาเองอีก 2-3 เล่มก็มาเปิดสำนักกันแล้ว แล้วมาชี้เป็นชี้ตายคนอื่น สั่งคนทำอย่างนั้นอย่างนี้ สั่งทุบตึกรื้อบ้าน บอกคนนั้นไม่เสริมดวงคนนี้ บอกคู่นั้นคู่นี้จะต้องเลิกกัน บ้างก็บอกว่าลูกคนนี้ไม่เสริมดวงพ่อแม่ ก็เป็นการทำลายชีวิตและอนาคตของเด็กไป ทั้งๆที่ตัวเองความรู้และประสบการณ์ไม่พอ คนที่หลงเชื่อก็กลายเป็นแพะรับบาปไป
จริงๆแล้วการศึกษาโหราศาสตร์ หรือ ฮวงจุ้ยนั้น ผู้ที่ศึกษาจะต้องมี"ดวงหมอดู"ในดวงชะตาก่อน จึงจะเรียนได้ และใช้เวลาศึกษาและสั่งสมประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 20 ปีขึ้นไป จึงจะมาประกอบอาชีพได้ และที่สำคัญเรียนสายนี้มาของแท้มักจะต้องยากจน และห้ามหวังความร่ำรวยจากอาชีพนี้อย่างเด็ดขาด เพราะนี่ไม่ใช่วิชาธรรมดา แต่เป็นวิชาที่ต้องเสียสละตนเองในทุกสิ่งทุกอย่างจึงจะได้เข้าถึงเคล็ดวิชาชั้นสูงของวิชานี้ อีกทั้งผู้เรียนจะต้องมีคุณธรรม ไม่โลภ ต้องถือศีลปฏิบัติธรรม บำเพ็ญภาวนาจนกระทั่งได้ฌานจนสามารถสัมผัสพลังงาน(ชี่) หรือพลังในรูปแบบอื่นๆที่คนธรรมดามองไม่เห็นได้ กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้จะมีสักกี่คน
