ความหมายและอิทธิพลของดาวราหู ในโหราศาสตร์พระเวท
ราหู (राहु) ซึ่งมีรูปร่างลักษณะคล้ายงูใหญ่ และถูกตัดแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนศีรษะก็คือ North node ของดวงจันทร์ ส่วนด้านหาง หรือ ดาวเกตุ ก็คือ south node ของดวงจันทร์ ราหู-เกตุ เป็นจุดทางดาราศาสตร์ที่วงโคจรของดาวจันทร์ตัดกับเส้นสุริยวิถี และอิทธิพลของจุดตัดเหล่านี้ที่สัมพันธ์กับวงโคจรของดวงจันทร์ ก็จะทำให้เกิดอุปราคา ราหู-เกตุแม้จะไม่ใช่ดาวเคราะห์ แต่เนื่องจากอิทธิพลสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ ในทางโหราศาสตร์ จึงอนุโลมถือเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 8-9 ในบรรดาดาวนพเคราะห์
ราหู-เกตุไม่ได้ดำรงอยู่ในฐานะไม่ใช่วัตถุทางกายภาพบนเทห์ฟากฟ้าที่มีวัตถุ รูปร่าง หรือมวลที่สังเกตได้เหมือนดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ราหู-เกตุ ถือเป็น “ดาวอุปเคราะห์” หรือ “ฉายาเคราะห์” และไม่มีตัวตนในโหราศาสตร์พระเวทและในทางดาราศาสตร์ ดาวเคราะห์เหล่านี้บางทีก็ถูกเรียกว่า "ดาวเคราะห์เงา" ซึ่งแสดงถึงกรรมหรือตัวบ่งชี้กรรมของเจ้าชะตา โดยราหูเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาทางโลกและวัตถุ และเกตุเป็นตัวแทนของนามธรรม ความหลุดพ้น และจิตวิญญาณ
ราหูเป็นดาวที่สร้างภาพลวงตาและสร้างความปรารถนาในวัตถุนิยม ราหูหมายถึงชื่อเสียงของเจ้าชะตาและเป็นตัวแทนของภาคธุรกิจภาพยนต์ ไอที ไฟฟ้า และอิเลคทรอนิกส์ ราหูมีนิสัยโลภมาก มักปรารถนาต้องการเสพวัตถุนิยมทุกอย่างในโลก และไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตนมี ราหูมักแสวงหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ ราหูใช้เวลาสถิตอยู่ในแต่ละราศียาวนานถึง 18 เดือน และช่วงเวลามหาทศาของราหูก็ยาวนานถึง 18 ปีเช่นกัน
ตำนานฮินดูเกี่ยวกับดาวราหู
ในศาสนาฮินดู ราหูและเกตุ รู้จักกันในชื่อ “ฉายาครหะ” หรือดาวฉายาเคราะห์ เป็นเพียงแค่เงา ดาวเหล่านี้ไม่มีมวล วัตถุ หรือรูปร่างใดๆ เป็นเพียงจุดบนจักรราศีที่มีการเคลื่อนที่และมีวงโคจรของตนเอง ขณะเดียวกัน ในการพยากรณ์ที่เกี่ยวดาวราหู-ดาวเกตุ นักพยากรณ์จำเป็นต้องวิเคราะห์สถานภาพ ตำแหน่งของดาวอาทิตย์และดาวจันทร์ในดวงชะตาเพื่อประกอบการพยากรณ์ด้วย ตามคัมภีร์โบราณของฮินดู จากเหตุการณ์กวนเกษียรสมุทร ในสมัยที่พระนารายณ์ทรงทำให้เทวดาและอสูรช่วยกันกวนเกษียรสมุทรเพื่อทำน้ำอมฤต เมื่อได้น้ำอมฤตมาแล้ว "สวรรภานุ" ( स्वर्भानु) ซึ่งเป็นอสูรได้แอบดื่มน้ำอมฤตเข้าไปเพื่อความเป็นอมตะ
เมื่อถูกพระอาทิตย์และพระจันทร์เห็นเข้า จึงไปฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์ทรงขว้างจักรตัดศีรษะของ"สวรรภานุ" ขาดเป็นสองท่อน แต่อสูร"สวรรภานุ" ก็ยังไม่ตายเนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤตไปแล้ว จึงกลายเป็นอมตะ ท่อนบนเรียกว่า"ราหู" ท่อนล่างเรียกว่า"เกตุ" พระราหูจึงอาฆาตแค้นพระอาทิตย์และพระจันทร์ และคอยไล่จับกินจนเกิดเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคา
ดาวราหูเป็นดาวแห่งความลึกลับ ไร้ร่างกาย ตัวตน ดังนั้นราหูจึงไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไรและต้องการมากเพียงใด เพราะราหูยังรู้สึกไม่สาแก่ใจเพราะมีตนเองมีแต่ศีรษะแต่ไร้ร่างกาย เจ้าชะตาที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของราหู จะทำให้เจ้าชะตามีความปรารถนาและมีต้องการมากขึ้นๆ อย่างไม่รู้สึกพอ เพราะราหูสร้างแต่ตัณหา ความทะเยอทะยาน ความหมกมุ่น และความลุ่มหลงในจิตใจของเจ้าชะตา ในทางโหราศาสตร์ ราหูถือเป็นดาวบาปเคราะห์ หรือ ดาวร้าย เนื่องจากมีต้นกำเนิดมาจากอสูร และเป็นสาเหตุของการเกิดสุริยุปราคา-จันทรุปราคา ซึ่งราหูและเกตุคือจุดอุปราคา ecliptic points หรือจุดตัดระหว่างระนาบวงโคจรของดวงจันทร์ตัดกับระนาบวงโคจรของดวงอาทิตย์ บนเส้นสุริยะวิถี
ในโหราศาสตร์ตะวันตก ราหูเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหัวมังกร ส่วนคาปุต Caput ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของราหูและในโหราศาสตร์ตะวันตกเชื่อกันว่าราหูเป็นดาวศุภเคราะห์ ส่วนดาวเกตุเป็นดาวบาปเคราะห์ และนักโหราศาสตร์ตะวันตกโดยมากในขณะวิเคราะห์ดวงชะตา มักจะไม่ให้ความสำคัญกับดาวราหูและเกตุ
ธรรมชาติของดาวราหู
ดาวราหูไม่มีเรือนเกษตรเป็นของตนเอง มีเพียงดาวเคราะห์ที่มีอยู่จริง 7 ดวงเท่านั้นที่มีเรือนเกษตรเป็นของตนเอง ขณะวิเคราะห์ดวงชะตา เราควรจำไว้ว่าที่สถิตย์ของราหูเหล่านี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากราหูเหล่านี้มีอำนาจ มีอิทธิพลเสมือน ดาวเกษตรเจ้าเรือนหรือเจ้าราศีที่ราหูนั้นสถิตย์อยู่
หมายความว่าแม้ว่าราหูจะไม่ได้เป็นเจ้าเรือนใดๆ ก็ตาม แต่ราหูก็ทำหน้าที่เป็นเกษตรเจ้าเรือนของราศีนั้นๆ เช่น ในกรณีที่ราหูสถิตราศีมังกร มีดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือน ดังนั้นราหูจึงแสดงอิทธิพลเหมือนกับดาวเสาร์ด้วย และทั้งดาวเสาร์และราหูโคจรไปที่ใด ก็เท่ากับว่าทั้งสองดวงนี้เชื่อมถึงกันตลอดเวลา
ราหูเป็นเจ้าฤกษ์หรือเจ้าการของนักษัตรดังต่อไปนี้ คือ อารทรานักษัตร สวาตินักษัตร และศตภิษกนักษัตร
อย่างไรก็ตาม บางตำราเชื่อว่าราหูเป็นมหาอุจน์ในราศีพฤษภหรือราศีเมถุน และเป็นนิจในราศีพิจิกหรือราศีธนู หากราหูอยู่ในเรือนที่ให้คุณแก่ในดวงชะตา เช่น ไม่สถิตในเรือนทุสถานภพ เช่น อริ มรณะ หรือวินาศ จากลัคนาหรือชนมราศี(ราศีที่จันทร์สถิตย์) ดาวราหูก็จะให้ผลดีต่อเรือนนั้น
ความหมายของ ราหู ในโหราศาสตร์พระเวท
ราหูหมายถึงปู่หรือทวด หรือราหูหมายถึงผู้ที่เกิดในวรรณะต่ำ หรือบางคนอาจจะเป็นคนชอบมีความสัมพันธ์กับผู้หญิง(ชั้นต่ำ) บางคนเป็นคนที่มีความคิดและการกระทำที่ชั่วร้าย นักเลง หรือ โจร หรือผู้ที่ชอบคบค้าสมาคมกับคนนอกรีตนอกรอยและคนชั้นต่ำ
เป็นคนที่ไม่รู้จักพอ ชอบเดินทาง ชอบอยู่นอกบ้านหรือชอบอยู่ในป่า ชอบพูดเกินจริง หรือชอบพูดเท็จอยู่เสมอ เป็นผู้ที่ไม่กล้าสบตาคนขณะที่พูดคุยกับผู้อื่น
รวมไปถึง การหลอกลวง ความหลงผิด การคอร์รัปชั่น ความไม่เคารพศาสนา วัตถุนิยม ความสุขนิยม และความเป็นพิษ ราหูมักเกี่ยวข้องกับนักต้มตุ๋น นักเล่นตลก อาชญากร และความทุกข์ยาก เช่น การเสพติดและบาดแผลทางใจ ในบางกรณี ราหูอาจหมายถึง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นิเวศวิทยา ความบันเทิง วัฒนธรรม อารมณ์ขัน และงานฝีมือ
โรคสิ่งเกี่ยวข้องกับราหู คืออาการท้องอืด หรืออาการปวดเฉียบพลันรุนแรง และหมายถึงสัตว์ต่างๆ เช่น ลา แกะ หมาป่า อูฐ งู แมลงมีพิษ ที่มืด แมลง นกฮูก ฯลฯ
การไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรืออยู่ในบ้านเช่า สนุกกับชีวิตโดยไม่สนใจคนอื่น การใช้ยานพาหนะในชื่อของผู้อื่น การใช้รถของหน่วยงานหรือองค์กร การรับบุตรบุญธรรม การเดินทางแสวงบุญ การเจ็บป่วยของเจ้าชะตา ความบกพร่องและความพิการของลูก และความบกพร่องในด้านวิสัยทัศน์ ทั้งหมดนี้ล้วนถูกตัดสินจากตำแหน่งของราหูในดวงชะตา
ดังนั้น ดาวราหูจึงมีความโดดเด่นมากในทางโหราศาสตร์ เป็นดาวเคราะห์สำคัญในแง่ของผลประโยชน์ทางวัตถุและความสะดวกสบาย ในยุคปัจจุบัน ราหูเป็นดาวเคราะห์ที่สำคัญที่สุด เพราะดาวเคราะห์ประจำยุคนี้คือ "กาลียุค"
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
