บทเรียนโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)

บทเรียนที่ 11 อิทธิพลของดาวอาทิตย์ และเคล็ดลับการพยากรณ์

ความหมายของดาวอาทิตย์ในโหราศาสตร์พระเวท ในโลกแห่งโหราศาสตร์ภารตะ ดาวอาทิตย์ หรือ สุริยะเทพ  มิใช่เพียงก้อนก๊าซร้อนแรงที่ลอยอยู่กลางอวกาศ แต่ทว่าคือ "ราชาแห่งดวงดาว"  และ "ศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณ" ที่ส่องสว่างนำทางชีวิตของสรรพสัตว์ ในทางโหราศาสตร์ภารตะ ดาวอาทิตย์ หรือ สุริยะเทพ คือราชาแห่งดวงดาว ถือเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลและชีวิต การทำความเข้าใจดาวอาทิตย์คือกุญแจสำคัญในการไขรหัสแห่ง "อัตตาตัวตน"ของมนุษย์เรา โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของ "ตัวตน", "อำนาจ", และ "แสงสว่างแห่งปัญญา" ดังนี้:

1. แก่นแท้แห่งตัวตนและจิตวิญญาณ

• อาตมัน (Atman): ดาวอาทิตย์คือตัวแทนของ "จิตวิญญาณ" หรือ "แก่นแท้ของอัตตาที่แท้จริง" (True Self) ที่อยู่เหนือร่างกายและจิตใจ เป็นประกายไฟศักดิ์สิทธิ์  ที่สถิตอยู่ในตัวเราทุกคน การศึกษาดาวอาทิตย์จึงเป็นการศึกษาถึง "เจตจำนงแห่งจิตวิญญาณ" ในภพชาตินี้
• อัตตา (Ego): ในทางโลก ดาวอาทิตย์คือ "อัตตา" หรือความรู้สึกเป็นตัวเป็นตน  ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการขับเคลื่อนชีวิต แต่หากมีมากเกินไป จะกลายเป็นความเย่อหยิ่งทะนงตัว และการถือตนเป็นศูนย์กลาง หรือหมายถึงเปลือกของอัตตาที่ห่อหุ้มดวงวิญญาณไว้

2. พลังอำนาจและความเป็นผู้นำ  

• ราชาและรัฐบาล ดาวอาทิตย์คือสัญลักษณ์ของ "อำนาจสูงสุด" ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์, ประธานาธิบดี, รัฐบาล, ผู้บังคับบัญชา, หรือกฎหมายบ้านเมือง ผู้ที่มีดาวอาทิตย์เข้มแข็งมักมีบทบาทเป็นผู้นำ เป็นผู้กำหนดทิศทาง และเป็นที่พึ่งพาของผู้อื่น
• ความมั่นใจและความรับผิดชอบ : แสงสว่างของอาทิตย์คือความมั่นใจในตนเองอย่างแรงกล้า และความพร้อมที่จะแบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนราชาที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาราษฎร์

3. การกะ (ตัวแทน) ที่สำคัญ

นอกจากเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแล้ว ดาวอาทิตย์ยังทำหน้าที่เป็น "การกะ" ของสิ่งสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย:

• ปิตา : เป็นตัวแทนของบิดา หรือบุคคลผู้มีอิทธิพลในฐานะพ่อ ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์, มรดกทางพันธุกรรม, และค่านิยมที่ได้รับถ่ายทอดมาจากบิดา
• จักขุ : เป็นตัวแทนของดวงตา (โดยเฉพาะตาขวา) และความสามารถในการมองเห็น ทั้งในแง่กายภาพและ "การเห็นแจ้งทางปัญญา"
• สุขภาพและพลังชีวิต : ดาวอาทิตย์คือ "พลังชีวิต" (ปราณ) ที่หล่อเลี้ยงร่างกาย เป็นธาตุไฟที่สร้างความอบอุ่นและเผาผลาญโรคภัยไข้เจ็บ ผู้ที่มีอาทิตย์เข้มแข็งมักมีสุขภาพแข็งแรงและมีภูมิต้านทานสูง

4. เกร็ดความรู้

• ไฟที่สร้างสรรค์และทำลาย โหรภารตะมักเปรียบเทียบดาวอาทิตย์ว่าเป็นดาวประเภท क्रूर  "ครูระ" คือมีความร้อนแรงและเด็ดขาด ซึ่งจำเป็นต่อการปกครองและการฟันฝ่าอุปสรรค แต่ความร้อนนี้ก็สามารถ "เผาไหม้" (Combust) ดาวเคราะห์ที่เข้าใกล้เกินไปได้ ทำให้คุณสมบัติของดาวดวงนั้นถูกบดบังหรือแปรปรวนไป
• ทิคะพละ : ดาวอาทิตย์มีพลังสูงสุดเมื่อสถิตใน ทิศใต้ (เรือนที่ 10) หรือเวลาเที่ยงวัน ซึ่งเป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าที่สุดและอยู่ ณ จุดสูงสุดของท้องฟ้า เปรียบเสมือนราชาที่ประทับบนบัลลังก์ทองอย่างสง่างาม
• การแสวงหาการยอมรับ : ธรรมชาติของดาวอาทิตย์คือการ "ส่องแสง" จึงมีความต้องการลึกๆ ที่จะได้รับการยอมรับ, การยกย่อง, และการเป็นจุดสนใจหากไม่ได้รับการตอบสนอง อาจนำไปสู่ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจหรือการเรียกร้องความสนใจในทางที่ผิด

บทสรุป:

การเข้าใจดาวอาทิตย์ตามแนวทางของโหรภารตะ คือการเข้าใจถึง "พลังแห่งการเป็นตัวของตัวเอง" และใช้แสงสว่างแห่งปัญญาเพื่อนำทางชีวิต และการเรียนรู้ที่จะสร้างสมดุลระหว่าง "อัตตาทางโลก" กับ "อาตมันทางธรรม" เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำที่แท้จริง ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น.

สรุปความหมายและเคล็ดลับการพยากรณ์ดาวอาทิตย์  ดาวอาทิตย์ทำหน้าที่เป็น "การกะ" ของสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิต ดังนี้:

• อาตมัน : จิตวิญญาณ, แก่นแท้ของตัวตน, อัตตา (Ego), และเจตจำนงเสรี
• ปิตา : บิดา, ผู้ให้กำเนิด, หรือบุคคลผู้มีอำนาจในครอบครัว
• ราชะ : รัฐบาล, กษัตริย์, การเมือง, อำนาจรัฐ, และตำแหน่งผู้นำสูงสุด
• จักขุ : ดวงตา (โดยเฉพาะตาขวา), การมองเห็น, และแสงสว่าง

2. สภาวะตามธรรมชาติ

• ธาตุ: ธาตุไฟ (อัคนี) แต่เป็นไฟที่มีแสงสว่างและคงที่ (ต่างจากอังคารที่เป็นไฟประลัยกัลป์)
• คุณลักษณะ: เป็นดาวบาปเคราะห์ ประเภท "ครูระ" คือ เข้มงวด, รุนแรง และมีความร้อนแรง ซึ่งจำเป็นต่อการปกครองและการดำรงอยู่ของชีวิต "ครูระ" คือ ดาวเคราะห์ที่มีลักษณะโหดร้าย-รุนแรง (क्रूर) ได้แก่ ดาวเสาร์  ดาวอังคาร  และดาวอาทิตย์  บางครั้งอาจรวมถึงราหูและเกตุด้วย ดาวเคราะห์เหล่านี้เป็นตัวแทนของความท้าทาย วินัย การเปลี่ยนแปลง และบทเรียนชีวิตที่ยากลำบาก
• นิสัย: รักอิสระ, หยิ่งทะนง , มีความต้องการเป็นศูนย์กลาง และมีความเป็นผู้นำสูง

บทบาทของดาวอาทิตย์ในดวงชะตา  

ในฐานะองค์ราชาแห่งระบบสุริยะจักรวาล ดาวอาทิตย์ และดาวจันทร์ ในทางโหราศาสตร์นับเป็นดาวพิเศษที่มีแสงสว่าง ซึ่งมีอยู่เพียงสองดวงในจักรวาล และมีความสำคัญมากในโหราศาสตร์ทุกระบบ

ดาวอาทิตย์คือผู้มอบอำนาจทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่แก่เจ้าชะตา ดวงชะตาใดจะถือว่าทรงพลังอำนาจทางการเมืองได้นั้น ก็ต่อเมื่อดาวที่มีแสงสว่างทั้งสอง อันได้แก่ ดาวอาทิตย์ และ ดาวจันทร์ สถิตในตำแหน่งที่เข้มแข็งเท่านั้น อย่างไรก็ตามในทางโหราศาสตร์ภารตะนั้น ถือว่าดาวอาทิตย์เป็นดาวบาปเคราะห์ตามธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันดาวจันทร์ก็นับเนื่องอยู่ในดาวศุภเคราะห์(หากมีแสงสว่างพอไม่เป็นกสิณจันทร์)

ผลของดาวอาทิตย์ใน 12 เรือน  

1. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนลัคนา  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิต ณ เรือนลัคนา จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นคนประเภทโทสะจริตและมีความเกียจคร้านแฝงอยู่ไปในตัว เป็นผู้มีความกล้าหาญ แต่มักจะมีศีรษะล้านหรือผมบาง มีจิตใจที่ค่อนข้างโหดเหี้ยม  มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงจนกลายเป็นการยกตนข่มท่าน นอกจากนี้ยังเป็นคนขาดความอดทนและไร้ความเมตตาปรานี

หากลัคนาเป็นราศีเมษ (ซึ่งดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่ง "มหาอุจจ์") การที่ดาวอาทิตย์มหาอุจน์กุมลัคน์นั้น จะบันดาลให้เจ้าชะตาเป็นผู้คงแก่เรียน มั่งคั่งร่ำรวย มีความสามารถรอบด้าน และมีชื่อเสียงโด่งดัง

หากลัคนาเป็นราศีกรกฎ เจ้าชะตาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยที่ดวงตา (อาทิตย์กุมลัคน์ในราศีธาตุน้ำ มักส่งผลเสียต่อระบบการมองเห็น)

หากลัคนาเป็นราศีตุลย์  (ซึ่งดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่ง "นิจ") เจ้าชะตาจะต้อง เผชิญกับความโศกเศร้าความยากจนขัดสน และการสูญเสียบุตรธิดา

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. ดาวอาทิตย์กุมลัคน์เปรียบเสมือนไฟเผาศีรษะ ซึ่งเหตุใดตำราจึงกล่าวว่าเจ้าชะตามักจะมี "ผมบาง"

ให้เราพิจารณาว่า ลัคนาก็คือศีรษะ และดาวอาทิตย์คือธาตุไฟที่ร้อนแรงที่สุด เมื่อก้อนไฟมหึมามาตั้งอยู่บนศีรษะ ความร้อน (ปิตตะ) ย่อมเผาผลาญรากผม ส่งผลให้เจ้าชะตาที่มีอาทิตย์กุมลัคน์มักมีปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านก่อนวัย หรือมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าคนปกติ (ขี้ร้อน)

2. มีอัตตาและทิฐิสูง เพราะดาวอาทิตย์คือตัวแทนของ "อัตตา" (Ego) เมื่อกุมลัคน์ ย่อมทำให้เจ้าชะตารู้สึกไปว่าตนเองคือศูนย์กลางของจักรวาล  หากเป็นอุจจ์ (เมษ) ก็จะหมายถึงความมั่นใจของราชาผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีความสามารถ

หากเป็นนิจ (ตุลย์) ก็จะกลายเป็นคนหยิ่งทะนง มีทิฐิมานะ มักชอบเรียกร้องความสนใจ แต่ภายในใจกลับขาดความมั่นใจในตัวเอง หรือต้องพึ่งพาผู้อื่นจนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง

3. ดวงตาสัมพันธ์กับดาวอาทิตย์ เพราะดาวอาทิตย์เป็น “การกะ” ของดวงตา (โดยเฉพาะตาขวา) เมื่ออาทิตย์กุมลัคน์ และสถิตในราศีที่เป็นศัตรูหรือราศีธาตุน้ำ (เช่น กรกฎ พิจิกหรือ มีน) ย่อมส่งผลโดยตรงให้สายตามีปัญหา                                        

2. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 2  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 2 จะส่งผลให้เจ้าชะตามีทรัพย์สินน้อยและด้อยการศึกษา แต่กลับเป็นผู้ที่มีจิตใจกว้างขวางและโอบอ้อมอารี และมักชอบให้อภัยแก่บุคคลที่เป็นศัตรู ใบหน้ามักมีตำหนิหรือมีแผลเป็น หรือมีปัญหาเกี่ยวดวงตา

แต่เจ้าชะตามักจะต้องสูญเสียเงินทอง ทรัพย์สินให้แก่รัฐ เช่น ถูกทางการยึดทรัพย์ หรือถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ถูกเรียกเก็บค่าปรับ หรือการถูกตรวจสอบเส้นทางการเงิน (โดยเฉพาะหากดาวอาทิตย์ได้รับเกณฑ์ร้าย) และนักศึกษาต้องจำไว้ว่า ดาวบาปเคราะห์ทุกดวงเมื่อสถิตในเรือนที่ 2 ล้วนส่งผลร้ายต่อทรัพย์สินและความมั่งคั่งด้วยกันทั้งสิ้น

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. มีวาจาตรงไปตรงมา : เรือนที่ 2 หมายถึง "วาจา"เมื่อดาวอาทิตย์ (ราชา) มาสถิตอยู่ เจ้าชะตามักมีน้ำเสียงที่ก้องกังวาน ทรงอำนาจ และพูดจาด้วยความมั่นใจ (บางครั้งอาจดูเหมือนสั่งการ) มักพูดความจริงแบบโผงผาง ขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ซึ่งความตรงไปตรงมานี้เอง อาจสร้างศัตรูได้ แต่จริงๆแล้วเป็นคนใจกว้างและมีสัจจะ

2. ไฟเผาเรือนการเงิน: เหตุใดบางตำราจึงบอกว่า "ยากจน" เพราะธรรมชาติของดาวอาทิตย์คือ "การให้" และ "ความร้อน" เมื่อมาอยู่ในเรือนแห่งการสะสม (เรือนที่ 2) ดาวอาทิตย์มักจะเผาผลาญเงินเก็บ หรือเจ้าชะตามักนำเงินไปใช้เพื่อรักษา "หน้าตา" และเกียรติยศทางสังคม มากกว่าที่จะเก็บไว้ หรือไม่เจ้าชะตาก็ชอบที่จะ”เป็นผู้ให้” ชอบบริจาค ชอบเสียสละ ใจกว้าง หรือเป็นคนไม่เห็นแก่เงิน 

3. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 3  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 3 จะส่งผลให้เจ้าชะตามีความสง่างาม แลดูภูมิฐานเป็นอย่างยิ่ง มีอุปนิสัยชอบเสียสละ เป็นผู้พิชิตศัตรู จิตใจเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ และมีพละกำลังอันแข็งแกร่ง แต่อาทิตย์ในตำแหน่งนี้กลับส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์กับพี่น้องท้องเดียวกัน (โดยเฉพาะน้องคนรองๆ ลงไป)

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. เรือนที่ 3 คือเรือนแห่งการสื่อสารและการเขียน เมื่อดาวอาทิตย์ (พลังงาน) สถิตอยู่ เจ้าชะตามักมีลีลาการเขียนหรือการพูดที่ทรงพลัง มั่นใจ และโน้มน้าวจิตใจผู้คนได้ดีเยี่ยม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาชีพนักข่าว, บรรณาธิการ หรือโฆษกผู้ประกาศข่าว

2. เรือนอุปัจจัยที่ให้คุณ เรือนที่ 3 เป็น เรือนอุปัจจัย (เรือนแห่งการเติบโต) ซึ่งดาวบาปเคราะห์อย่างอาทิตย์สถิตอยู่ในเรือนอุปัจจัยก็จะยิ่งให้คุณตามกาลเวลา ยิ่งเจ้าชะตาอายุมากขึ้น ความสำเร็จในชีวิตก็จะยิ่งทวีคูณ และมีความสามารถในการจัดการปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดี

3. ไฟเผาพี่น้อง : กฎเกณฑ์ที่สำคัญก็คือ "ดาวบาปเคราะห์ในเรือนที่ 3 มักทำลายพี่น้อง กฎ "การะโก ภาวะ นาศะยะ" "कारको भाव नाशय"  นี่คือเคล็ดลับสุดยอดและนี่คือกฎเหล็กของโหราศาสตร์พระเวทที่แปลว่า "ตัวการกะ (ผู้ทำหน้าที่) จะทำลายเรือนที่ตนเองเป็นตัวแทน ถ้าหากไปสถิตในเรือนนั้น" เพราะดาวอาทิตย์เป็นการกะของภพที่ 3 (พี่น้อง)

เหตุผลก็คือดาวอาทิตย์คือ "อัตตา" และทิฐิมานะ เมื่อมาอยู่ในเรือนพี่น้อง เจ้าชะตามักทำตัวข่มพี่น้อง หรือมีความโดดเด่นเกินหน้าเกินตา จนทำให้พี่น้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หรือเกิดการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันเองในครอบครัว

***หมายเหตุ-ดาวเคราะห์ที่เป็นตัวแทนของภพต่างๆ

ในโหราศาสตร์พระเวท ดาวเคราะห์ที่เรียกว่า การกะ (ตัวบ่งชี้หรือตัวแทน) คือดาวเคราะห์ที่ทำหน้าที่เป็น "ตัวแทน" หรือควบคุมเรือนชะตา (ภวะ) และด้านต่างๆ ของชีวิต และการนำมาปรับใช้ตามกฎ "การะโก ภาวะ นาศะยะ" "कारको भाव नाशय" ซึ่งที่เขียนไว้ในบทก่อนๆและในบทต่อๆไปยังไม่ได้อธิบายเรื่องนี้โดยเฉพาะ วันนี้จึงถือโอกาสอธิบายไปพร้อมๆกันเลย

โดยมีดาวเคราะห์ที่เป็นตัวแทน เช่น ดาวพฤหัสบดีเป็นการกะตัวแทนของ ความมั่งคั่งและบุตร (เป็นการกะของเรือนที่ 2และ 5) ดาวอาทิตย์-ตนเองและสถานภาพ พี่น้อง และหน้าที่การงาน  (เรือนที่ 1,3 และ10) ดาวจันทร์-มารดาและ จิตใจ (เรือนที่ 4)

โดยแต่ละเรือนอาจจะมีดาวเคราะห์การกะหลายดวง ซึ่งเน้นแง่มุมต่างๆ ของความหมายของเรือน และการกะหรือตัวบ่งชี้ดาวเคราะห์เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ดวงชะตาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

การกะสำหรับแต่ละเรือนชะตา (ภวะ)

เรือนที่ 1 (ตนเอง/ร่างกาย): มี การกะ คือ ดาวอาทิตย์ (สุขภาพ), ดาวเสาร์ (วินัย)

เรือนที่ 2 (ความมั่งคั่ง/ครอบครัว): ดาวพฤหัสบดี (ความมั่งคั่ง, ครอบครัว, คุณค่า)

เรือนที่ 3 (ตนเอง/ร่างกาย): ดาวอาทิตย์ (สุขภาพ), ดาวเสาร์ (วินัย) เรือนที่ 3 (พี่น้อง/ความพยายาม): ดาวอังคาร (พี่น้อง, ความกล้าหาญ, ความพยายาม)

เรือนที่ 4 (แม่/บ้าน/ความสะดวกสบาย): ดาวจันทร์ (แม่, จิตใจ, ความสุข), ดาวศุกร์ (ยานพาหนะ, ความหรูหรา), ดาวอังคาร (บ้าน)

เรือนที่ 5 (ลูก/ปัญญา/ความคิดสร้างสรรค์): ดาวพฤหัสบดี (ปัญญา, จิตวิญญาณ, ลูกๆ)

เรือนที่ 6 (ศัตรู/หนี้สิน/สุขภาพ): ดาวอังคาร (ศัตรู, การแข่งขัน), ดาวเสาร์ (ความเจ็บป่วย, การดิ้นรนในชีวิตประจำวัน)

เรือนที่ 7 (คู่ครอง/หุ้นส่วน): ดาวศุกร์ (คู่ครอง, ความสัมพันธ์)

เรือนที่ 8 (อายุยืน/การเปลี่ยนแปลง): ดาวเสาร์ (อายุยืน, การเปลี่ยนแปลง, มรดก)

เรือนที่ 9 (พ่อ/ธรรมะ/โชคลาภ): ดวงอาทิตย์ (พ่อ), ดาวพฤหัสบดี (ครู, ธรรมะ, การเรียนรู้ขั้นสูง)

ภพที่ 10 (อาชีพ/สถานะ): ดวงอาทิตย์ (สถานะ ชื่อเสียง), ดาวพุธ (อาชีพ ธุรกิจ), ดาวเสาร์ (วินัยในอาชีพ), ดาวพฤหัสบดี (สถานะสูง)

ภพที่ 11 (ผลกำไร/เพื่อน): ดาวพฤหัสบดี (ผลกำไร พี่น้อง)

ภพที่ 12 (ความสูญเสีย/โมกษะ/ค่าใช้จ่าย): ดาวเสาร์ (ความทุกข์ที่ซ่อนเร้น ค่าใช้จ่าย), เกตุ (โมกษะ จิตวิญญาณ)

แนวคิดก็คือ ภพทั้ง 12 ที่แสดงถึงด้านต่างๆ ของชีวิตในดวงชะตากำเนิด ตัวบ่งชี้หรือการกะ ก็คือ  ดาวเคราะห์ที่เป็น "ตัวแทน" หรือ “ควบคุม” หรือ “ตัวบ่งชี้” ซึ่งเป็นตัวแทนหลักของภพนั้นๆ หากมีดาวเคราะห์การกะหลายตัว ซึ่งบางภพก็มีการกะหลายตัว หรือการกะบางตัวควบคุมหลายภพ โดยแต่ละตัวเน้นด้านที่แตกต่างกัน (เช่น ดาวอาทิตย์สำหรับบิดา ดาวพฤหัสบดีสำหรับธรรมะในภพที่ 9)

4. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 4

เมื่อดาวอาทิตย์สถิต ในเรือนที่ 4 จะส่งผลให้หัวใจถูกเบียน (มีโรคหัวใจหรือความทุกข์ใจ) ขาดแคลนซึ่งความสุข ไร้ที่ดินทำกิน ขาดญาติมิตร และยานพาหนะ มักมีความสนใจในเพศตรงข้ามเป็นพิเศษ มีบ้านเรือนหลายแห่ง (แต่หาความสุขมิได้) มักผลาญทรัพย์สมบัติของบิดาให้พินาศ และจิตใจจะร้อนรน จนไม่มีวันพบกับความสงบสุขและความพึงพอใจได้เลย

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. ราชาผู้ไร้บัลลังก์ : เคล็ดลับสำคัญที่สุดคือเรื่อง "ทิคะพละ" ดาวอาทิตย์มีพลังสูงสุดในทิศใต้ (เรือนที่ 10 หรือ เที่ยงวัน) แต่เมื่อมาอยู่ในทิศเหนือ (เรือนที่ 4 หรือ เที่ยงคืน) ดาวอาทิตย์จะ "ไร้พลัง"

การพยากรณ์ เปรียบเสมือนพระราชาที่ซ่อนตัวอยู่ในวัง ไม่ได้ออกว่าราชการ ทำให้เจ้าชะตามักรู้สึกอึดอัด ขาดความมั่นใจในสังคม หรือมีความขัดแย้งภายในใจลึกๆ  ที่ไม่สามารถแสดงอำนาจออกมาได้อย่างเต็มที่

2. ไฟสุมทรวง : เรือนที่ 4 คือ "หัวใจ" และ "ความสงบสุข" ดาวอาทิตย์คือ "ไฟ" การพยากรณ์ เมื่อก้อนเพลิงมาอยู่ในเรือนแห่งความร่มเย็น ย่อมทำให้น้ำในเรือนที่ 4 เหือดแห้ง เจ้าชะตาจึงมักเป็นคน "ร้อนอกร้อนใจ" อยู่ไม่ติดที่ หรือมีปัญหาโรคหัวใจ, ความดันโลหิต, และกรดไหลย้อน (แสบร้อนกลางอก)

3. หมายเหตุเรื่องเรื่อง "บ้าน": ในตำราบางแห่งกล่าวแย้งกันเองว่า "ขาดแคลนที่ดิน" แต่ "มีบ้านหลายหลัง"อธิบาย ดาวอาทิตย์คือ "Ego" และ "เกียรติยศ" เจ้าชะตาอาจพยายามสร้างบ้านหลังใหญ่โตเพื่อโชว์บารมี (อาจจะมีบ้านหลายหลัง) แต่บ้านเหล่านั้นกลับร้อนระอุ อยู่แล้วไม่มีความสุข หรือมีปัญหาขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินอยู่ตลอดเวลา (หรือขาดความสุขจากบ้าน)

4. ความสัมพันธ์กับบิดามารดา เรือน 4 คือ แม่, อาทิตย์ คือ พ่อ เมื่อพ่อมานั่งทับที่ของแม่ มักแปลว่า "พ่อที่มีอิทธิพลครอบงำบ้าน" หรือ พ่อทำหน้าที่แทนแม่ หรือในทางร้ายคือ พ่อแม่แยกทางกัน และเจ้าชะตาต้องอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งด้วยความลำบากใจ

5. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 5  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 5 จะส่งผลให้เจ้าชะตามีสติปัญญาเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ และจะเป็นที่โปรดปรานรักใคร่ของคนในรัฐบาล (ข้าราชการหรือผู้มีอำนาจปกครอง)

แต่ในทางกลับกัน เจ้าชะตาอาจจะไร้บุตรธิดา ไร้ความสุขสบาย และไร้ทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นผู้ที่มีใจรักในป่าเขาลำเนาไพร และมักพยายามที่จะปลีกวิเวกไปพำนักอาศัยในถิ่นฐานที่มีลักษณะเช่นนั้น ซึ่งตำแหน่งนี้ของดาวอาทิตย์ถือว่าส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์กับบุตรเป็นอย่างยิ่ง

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. ไฟเผาเรือนบุตร : นี่คือตำแหน่งของ "ปุตตะ โทษ" ดาวอาทิตย์เป็นธาตุไฟที่แห้งแล้งและร้อนแรง เมื่อมาสถิตในเรือนแห่งการกำเนิด (เรือน 5) ย่อมส่งผลให้ "มีบุตรยาก" หรือเสี่ยงต่อการแท้งบุตร หรือหากมีบุตร บุตรคนโตมักจะสร้างปัญหา หรือมีความขัดแย้งรุนแรงกับเจ้าชะตา เหมือนเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้

2. การเมืองและการบันเทิง : เรือนที่ 5 คือ "เวที"  และ "อำนาจการบริหาร" เมื่อดาวอาทิตย์ (ราชา หรือแสงสว่าง) มาสถิตอยู่ เจ้าชะตาจึงมีพรสวรรค์ในการเป็น "ศูนย์กลางดึงดูดความสนใจ"   ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาชีพ นักการเมือง  หรือ นักแสดง ศิลปิน ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความมั่นใจในตัวเองสูง

3. นักปราชญ์ผู้สันโดษ : คำทำนายที่ว่า "ชอบอยู่ป่า" นั้นมีนัยยะลึกซึ้ง หมายถึงการแสวงหาความสงบเพื่อบ่มเพาะปัญญา ดาวอาทิตย์ในเรือน 5 บ่งบอกถึงสติปัญญาในระดับจิตวิญญาณ เจ้าชะตาอาจเบื่อหน่ายสังคมจอมปลอม และปรารถนาที่จะปลีกวิเวกไปอยู่ในที่เงียบสงบเพื่อศึกษาปรัชญา

4. นักเก็งกำไร : ดาวอาทิตย์คือความเชื่อมั่น และเรือน 5 คือการเสี่ยงโชค จะทำให้เจ้าชะตามักกล้าได้กล้าเสียในการลงทุน เล่นหุ้น หรือการพนัน (แต่มักจะขาดทุนทรัพย์ตามคำทำนายหลัก ซึ่งหากดาวอาทิตย์ไม่เข้มแข็งจริงๆ ก็จะตกเป็นผู้พ่ายแพ้ เพราะความใจใหญ่เกินไป)

6. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 6  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 6 จะส่งผลให้เจ้าชะตามีความเจริญรุ่งเรือง แต่ความรุ่งเรืองนั้นจะมาพร้อมกับการมีศัตรูคู่แข่ง หรือเจ้าชะตาเป็นผู้ทรงคุณธรรมและมีชื่อเสียงโด่งดัง มีระบบย่อยอาหารดี (ธาตุไฟแรง) เจ้าชะตามักจะเป็นผู้มีชัยชนะเสมอ แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับความยุ่งยากจากศัตรูอยู่เนืองๆ นอกจากนี้เจ้าชะตายังจะมีวาสนาได้เป็นถึงผู้บัญชาการที่มีความเชี่ยวชาญในการรบ และได้เป็นเจ้านายคนที่มีข้าทาสบริวารห้อมล้อมมากมาย แต่ต้องระวังโรคภัยเกี่ยวกับทางเดินอาหาร

เคล็ดลับการพยากรณ์

1.เรือนอุปัจจัยที่ให้คุณ : ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็น "จุดแข็ง" ของดาวอาทิตย์ (ราชา) เพราะเรือนที่ 6 คือเรือนแห่งการให้บริการ การรับใช้ หรือศัตรูและความขัดแย้ง เมื่อเป็นพระราชาย่อมไม่เกรงกลัวศัตรู

การพยากรณ์ ยิ่งมีศัตรู ยิ่งเข้มแข็ง ยิ่งมีปัญหา ยิ่งรวย เจ้าชะตาจะเติบโตขึ้นจากการแก้ไขปัญหา เหมาะเป็นทนายความ, แพทย์, หรือนักแก้ปัญหาธุรกิจ

2. ระบบย่อยอาหาร: คือดาบสองคม ตำราบอกทั้ง "ย่อยดี" และ "มีโรคทางเดินอาหาร" ฟังดูแล้วรู้สึกย้อนแย้ง

อธิบายขยายความ เพราะดาวอาทิตย์คือ "ชฐาระ อัคนี" หรือธาตุไฟย่อยอาหาร เมื่ออยู่ในเรือนโรคภัย (เรือน 6) ไฟนี้จะ "แรงเกินไป" ทำให้ย่อยอาหารเร็ว หิวบ่อย (ย่อยดี) แต่ในระยะยาวจะนำไปสู่โรคกระเพาะ, กรดไหลย้อน, หรือลำไส้อักเสบ เพราะความร้อนจัด หรือที่แพทย์ไทยเรียก “ธาตุไฟพิการ”

3. มีปัญหากับบริวาร : เพราะดาวอาทิตย์คือ "Ego" เมื่อมาอยู่ในเรือนผู้รับใช้ (เรือน 6) เจ้าชะตามักวางตัวเป็น "เจ้านายที่ชอบวางอำนาจ"  ซึ่งแม้จะมีลูกน้องเยอะ แต่ลูกน้องมักจะเกรงกลัวมากกว่ารักใคร่ หรือมักมีปัญหากระทบกระทั่งกับลูกจ้างอยู่เสมอ

4. อาชีพแพทย์ : นี่คือตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับอาชีพ "แพทย์" (โดยเฉพาะศัลยแพทย์) เพราะต้องใช้ความกล้าหาญ (อาทิตย์) ในการต่อสู้กับโรคร้าย (เรือน 6) และต้องใช้ความเป็นผู้นำในการสั่งการในการผ่าตัดและรักษา และเจ้าชะตาสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้เป็นอย่างดี

7. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 7

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 7 จะส่งผลให้เจ้าชะตาต้องถูกบีบคั้นกลั่นแกล้งจากทางรัฐหรือผู้มีอำนาจ และเจ้าชะตาจักต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ ไร้ซึ่งความสุขในชีวิตสมรส มักต้องประสบกับความอัปยศอดสู อาจถูกเหยียดหยามดูแคลนจากสตรีเพศ ร่างกายจักต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บ และชีวิตมักต้องเดินทาง พเนจรร่อนเร่ หรือย้ายที่อยู่ตลอดเวลา

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. อาทิตย์ตกดิน: สิ้นสูญทิคะพละ นี่คือตำแหน่งที่ดาวอาทิตย์ "อ่อนกำลังที่สุด" ในเรื่องกำลังจากทิศทาง (เพราะเรือนที่ 7 หมายถึงทิศตะวันตก และเวลาย่ำค่ำ ราชาที่ปราศจากบัลลังก์ ย่อมขาดความสง่างามและความมั่นใจ 

การพยากรณ์ เจ้าชะตามัก "แพ้ทาง" ผู้อื่น มักต้องยอมจำนนต่อคู่ครอง หรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ และมักรู้สึกว่าตนเองสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง   

2. อัตตาสะท้อนอัตตา : ดาวอาทิตย์คือ "อัตตา" (Ego) เมื่อเล็งลัคนาจากเรือนคู่ครอง (เรือน 7) แปลว่า "คู่ครองคือกระจกสะท้อนอัตตาของเจ้าชะตา" หมายความว่าคู่ครองเองก็มีอัตตาสูงเช่นกัน

การพยากรณ์: มักได้คู่ครองที่มีนิสัยหยิ่ง ทะนงตน, มียศศักดิ์, หรือชอบวางอำนาจ ทำให้เกิดการชิงดีชิงเด่นกันเองในบ้าน "เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้" คือนิยามของคู่นี้

3. ถูกสตรีดูแคลน : ในบริบทโหราศาสตร์โบราณ ดวงชายที่มีอาทิตย์ (พ่อ หรือ อำนาจของผู้ชาย) ตกต่ำในเรือนคู่ครอง (หญิง) มักหมายถึง "การสูญเสียอำนาจความเป็นชาย" ต่อหน้าสตรี ทำให้ถูกมองข้าม หรือไม่ได้รับการให้เกียรติเท่าที่ควร หรือดวงกลัวเมีย เป็นต้น

4. ภัยในต่างแดน: เรือนที่ 7 ยังหมายถึง "ต่างประเทศ" หรือ "การเดินทางไกล" ด้วย เมื่อดาวอาทิตย์ ให้โทษในเรือนนี้ จึงต้องระวังปัญหาเมื่อเดินทางไปต่างแดน

8. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 8

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 8 จะส่งผลให้เจ้าชะตาต้องพลัดพรากจากญาติมิตรและไร้ซึ่งทรัพย์สินเงินทอง จิตใจมักหม่นหมองซึมเศร้าเต็มไปด้วยความโศกสลด หรือเป็นคนชอบทะเลาะวิวาทและจู้จี้จุกจิกพิถีพิถันจนเกินพอดี ชีวิตจะต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้และอุปสรรคขัดข้องในทุกๆสถานการณ์

เคล็ดลับการพยากรณ์  

1. ราชาในเงามืด : เรือนที่ 8 คือความลึกลับ และความลับเมื่อแสงสว่าง (อาทิตย์) ส่องเข้าไปในที่มืดมิด

ในด้านบวก: เจ้าชะตาจะมีความสามารถพิเศษในการ "เปิดเผยความลับ" เหมาะเป็นนักสืบ, นักวิจัย, หรือผู้ศึกษาศาสตร์ลึกลับ

ในด้านลบ: ตัวตน (Ego) ของเจ้าชะตามักถูกซ่อนเร้น ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมภายนอก ทำคุณคนไม่ขึ้น และรู้สึกเหมือนปิดทองหลังพระเสมอ

2. ไฟเผามรดก : เรือนที่ 8 คือ ทรัพย์สินของผู้อื่น (มรดก, ภาษี, ประกันภัย) เมื่อดาวอาทิตย์ (ความร้อน) สถิตอยู่ การพยากรณ์ มักมีปัญหาขัดแย้งเรื่องมรดกกับญาติพี่น้อง หรือทรัพย์สินของคู่ครองมักถูกเผาผลาญไป (เช่น คู่ครองมีหนี้สิน หรือมีค่าใช้จ่ายสูง)

3. อาภัพพ่อ : เมื่อดาวอาทิตย์ (พ่อ) สถิตในเรือนที่ 8 (ความตาย หรือ การพลัดพราก) การพยากรณ์: บิดาอาจเสียชีวิตก่อนวัยอันควร, หรือบิดามีชีวิตที่ลึกลับซับซ้อน (เช่น ทำงานราชการลับ, มีบ้านเล็กบ้านน้อย), หรือเจ้าชะตาห่างเหินจากบิดาอย่างมาก

4. สุขภาพและอายุขัย : ดาวอาทิตย์คือ "พลังชีวิต" (ปราณ) ในเรือนมรณะ (เรือน 8) ข้อควรระวัง ต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ, สายตา, หรือกระดูกสันหลัง พลังชีวิตอาจไม่แข็งแรงนักหากไม่ดูแลตัวเอง แต่หากฝึกฝนทางจิต พลังนี้ก็จะเปลี่ยนเป็น "ยาอายุวัฒนะ" ได้

9. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 9  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 9 จักส่งผลให้เจ้าชะตาบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน ญาติมิตร และบุตรธิดา เป็นผู้ที่มีความเคารพนอบน้อมต่อครูบาอาจารย์และเลื่อมใสศรัทธาในผู้ทรงศีล แต่หากอาทิตย์ให้โทษก็จะกลับกัน ตำแหน่งนี้อาจส่งผลร้ายต่อบิดา (เบียดเบียนบิดา) อาจเป็นผู้เหินห่างจากหลักธรรมจริยธรรม และมักมีทัศนคติที่เกลียดชังหรือดูถูกสตรีเพศ

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. กฎ "การะโก ภาวะ นาศะยะ" "कारको भाव नाशय" - กรณีบิดา: นี่คือตัวอย่างของกฎ "ตัวแทนทำลายเรือนของตนเอง" เพราะดาวอาทิตย์เป็นการกะของเรือนที่ 9 เมื่ออาทิตย์ (พ่อ) สถิตในเรือนที่ 9 (หมายถึงพ่อเช่นกัน)เมื่อดาวตัวแทนพ่อ มานั่งทับเรือนพ่อ พลังงานจะ "ล้นเกิน" จนเกินความพอดี

การพยากรณ์: บิดาอาจเป็นคนที่มี Ego สูงมาก, ชอบบงการ, หรือประสบความสำเร็จสูงจนลูกรู้สึกกดดัน (อยู่ใต้เงาพ่อ) หรือในกรณีร้ายแรงคือ เกิดความขัดแย้งรุนแรงจนตัดขาดจากบิดา

2. ธรรมะราชา : เรือน 9 คือ ศาสนาและปรัชญา อาทิตย์ คือ ผู้นำ หรือ ราชา

การพยากรณ์: เจ้าชะตามักไม่ได้เชื่อศาสนาแบบงมงาย แต่เชื่อใน "ปรัชญาความเป็นผู้นำ" หรือตั้งตนเป็นศาสดา หรือผู้นำลัทธิเสียเอง  มักเชื่อมั่นในความถูกต้องของตนเองอย่างแรง จนกลายเป็นไม่ยอมรับความคิดของผู้อื่น

3.ด้อยค่าสตรี: ตำราโบราณมักตีความว่า อาทิตย์ (ขั้วบวก หรือ ชาย) อยู่ในเรือนศุภะ (จริยธรรม) ทำให้ยึดติดกับค่านิยมโบราณว่า "ชายเหนือกว่าหญิง" อย่างสุดโต่ง ขยายความว่า เจ้าชะตาอาจยึดถือขนบธรรมเนียมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และมองบทบาทสตรีว่าด้อยกว่า ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับบริบทสังคมปัจจุบัน อีกทั้งยังต้องพิจารณาดาวศุกร์และจันทร์ประกอบด้วย

4. การเมืองและโชคลาภ: ดาวอาทิตย์ (การเมือง) สถิตในเรือนโชคลาภ (เรือน 9) เป็นตำแหน่งที่ให้คุณสูงมากสำหรับ "นักการเมือง" หรือ "นักกฎหมาย" เพราะจะได้รับการสนับสนุนและได้รับโชคลาภจากผู้ใหญ่อยู่เสมอ

10. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 10  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิต ณ เรือนที่ 10 จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้คงแก่เรียน มีการศึกษาสูง และจะได้รับมรดกทรัพย์สินจากบิดามากมาย เจ้าชะตาจะเป็นผู้เปี่ยมด้วยสติปัญญาอันเฉลียวฉลาด มีรถราและยานพาหนะมากมายไว้ในครอบครอง มักได้เสวยแต่ความสุข และมีร่างกายแข็งแรงทรงพลัง

การที่ดาวอาทิตย์ขึ้นสถิต ณ จุดจอมฟ้า เช่นนี้ อาทิตย์จะทรงอานุภาพยิ่งนัก และให้สถานะอันสูงส่งดั่งราชา ความรอบรู้สรรพวิชา และมอบความกล้าหาญชาญชัยให้แก่เจ้าชะตา

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. มหาทิคะพละ : นี่คือตำแหน่งที่ "ทรงพลังที่สุด" ของดาวอาทิตย์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวันที่ส่องแสงเจิดจ้าเหนือศีรษะ ไม่มีเงาใดๆ มาบดบังได้

การพยากรณ์: เจ้าชะตาเกิดมาเพื่อเป็น "ผู้นำ"เท่านั้น! ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร จะต้องได้เป็นหัวหน้า, เจ้าของกิจการ, หรือผู้บริหารสูงสุด (CEO) ประสบความสำเร็จทางโลกและการงาน

2. ข้าราชการและชื่อเสียง : อาทิตย์ (รัฐบาล หรือ ราชการ) ในเรือน 10 (เกียรติยศ) การพยากรณ์: เจ้าชะตามักได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานที่เกี่ยวข้องกับราชการ, รัฐวิสาหกิจ หรือการเมือง และมักมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักของสาธารณชน 

3.บิดาของเจ้าชะตามักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง, มียศถาบรรดาศักดิ์, หรือเป็นแบบอย่าง ที่เจ้าชะตายึดถือและเจริญรอยตาม

4. ระวังอัตตาที่ล้นเกิน : ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของตำแหน่งนี้คือ "ความถือตัว" เจ้าชะตาอาจมั่นใจในตัวเองสูงมากจนไม่ฟังใคร และชอบสั่งการคนรอบข้างเหมือนเป็นลูกน้อง ซึ่งอาจสร้างความอึดอัดใจให้คนรอบข้างได้

11. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 11

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 11 จักส่งผลให้เจ้าชะตามั่งคั่งร่ำรวยและมีการศึกษาสูงส่ง มีอายุขัยยืนยาวและแวดล้อมด้วยข้าทาสบริวารที่ดีจำนวนมาก เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพชั้นสูง  มีร่างกายแข็งแรงและจักประสบความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างยิ่ง

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. เรือนอุปัจจัยที่ดีที่สุด : เรือนที่ 11 เป็นเรือนแห่ง "กำไร" และ "ความสำเร็จ" (ลาภะ) ดาวอาทิตย์ (ราชา) ในเรือนนี้จึงแปลว่า "ได้กำไรจากอำนาจ"  

การพยากรณ์: เจ้าชะตามักทำเงินได้มหาศาลจากการติดต่อกับหน่วยงานราชการ, การประมูลงานรัฐ, หรือการใช้ Connection กับผู้มีอิทธิพลในภาครัฐ

2. เครือข่ายสังคมชั้นสูง : อาทิตย์หมายถึงชนชั้นสูง สถิตในเรือนเพื่อนฝูง (เรือน 11)

ผลพยากรณ์: เพื่อนฝูงของเจ้าชะตามักไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนมียศศักดิ์, นักการเมือง, หรือมหาเศรษฐี ซึ่งเพื่อนเหล่านี้จะช่วยเกื้อหนุนให้เจ้าชะตาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

3. พ่อก็คือเพื่อน : ความสัมพันธ์กับบิดาจะแตกต่างจากเรือนอื่น คือ บิดามักทำตัวเหมือน "พี่ชาย" หรือ "เพื่อนรุ่นใหญ่" ที่คอยให้คำแนะนำและสนับสนุนด้านทุนทรัพย์แก่เจ้าชะตา

4. ประสบความสำเร็จ: ดาวอาทิตย์เป็นดาวแห่งความปรารถนา เมื่ออยู่ในเรือนแห่งความสมหวัง(ลาภะ) ก็ย่อมทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะสูงส่งแค่ไหน ก็มักจะคว้ามาได้สำเร็จเสมอ

5. ช่วยสลายผลร้ายในดวงชะตา ในคัมภีร์หลายคัมภีร์กล่าวตรงกันว่า ดาวอาทิตย์ในเรือนที่ 11 มีพลังศุภอิทธิพล เป็นพลังจากพระวิษณุเทพ ในการช่วยสลายโทษร้ายในดวงชะตาได้ เป็นการล้างโทษ ดังนั้นไม่ว่าดวงชะตาจะร้ายแค่ไหน หากมีอาทิตย์สถิตย์ในเรือนที่ 11 นี้ผลร้ายย่อมบรรเทาเบาบางลงไป ดังนั้นนักพยากรณ์ต้องจำเคล็ดนี้ไว้ให้ดี

12. ดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 12  

เมื่อดาวอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 12 จะส่งผลให้เจ้าชะตามีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางสายตา และต้องขัดสน ไร้ซึ่งบุตรธิดาและทรัพย์สินเงินทอง หรือมักชอบตั้งตนเป็นปฏิปักษ์หรือมีความขัดแย้งกับบิดา ร่างกายอ่อนแอและอาจต้องเผชิญกับการตกต่ำในหน้าที่การงาน  ตำแหน่งนี้ถือเป็นตำแหน่งที่ให้โทษ   ของดาวอาทิตย์ โดยเฉพาะในด้านวิชาชีพการงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสื่อมถอยหรือการสูญเสียตำแหน่งหน้าที่

เคล็ดลับการพยากรณ์

1. สูญเสียอัตตา: เรือนที่ 12 คือการสูญเสีย เมื่อดาวอาทิตย์ (ตัวตน) ไปอยู่ตรงนั้น

การพยากรณ์: เจ้าชะตามักรู้สึก "ไร้ตัวตน" ในสังคม   ไม่ชอบออกงานสังคม ไม่ชอบเป็นจุดเด่น หรือมักถูกมองข้ามความสำคัญไป   เหมาะกับการทำงานเบื้องหลัง มากกว่า

2. สูญเสียบิดา: การพยากรณ์ บิดาอาจเสียชีวิตตั้งแต่เจ้าชะตายังเล็ก, หรือบิดาไปทำงานต่างถิ่นไกลๆ, หรือบิดาเป็นคนเก็บตัวลึกลับ ทำให้เจ้าชะตาขาดต้นแบบความเป็นพ่อ  

3. สูญเสียดวงตาและการมองเห็น : ดาวอาทิตย์คือตาขวา เรือน 12 คือตาซ้าย (หรือการสูญเสีย)

ข้อควรระวัง: ดาวอาทิตย์ในเรือนนี้มีเกณฑ์สูงมากที่จะมีปัญหาสายตา สายตาสั้นหรือยาว ผิดปกติ หรือ โรคต้อหิน ต้อกระจก ฯลฯ หรือได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา ควรดูแลสุขภาพตาเป็นพิเศษ

4. การงานในต่างแดนจะเป็นผลดี: เจ้าชะตาอาจจะได้ไปทำงานในต่างประเทศ, หรือทำงานกับบริษัทข้ามชาติ , ทำงานในโรงพยาบาล, ห้องแล็บวิจัย, หรือสถานปฏิบัติธรรม งานเหล่านี้คือความหมายของเรือน 12 ซึ่งจะทำให้ดาวอาทิตย์กลับกลายมาเป็นให้คุณ  

จบบทเรียนที่ 11

--------------------------------------------

 

***ประกาศ***

อาศรมศรีจักรนารท โดย อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว

1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand

2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html

3.TikTok : astroneemo

*******************************

สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อ.ณภัทร ศรีจักรนารท (AstroNeemo)

เส้นทางไปบ้านอาจารย์ https://maps.app.goo.gl/LKz3vbnMDU5Qnu3P6

กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html

*******************************

บริการของเรา 

ดูฤกษ์ออกรถ  ดูฤกษ์ยกเสาเอก   ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่   ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่  ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท   ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส   ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ  ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ  ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่   ดูฤกษ์ลาสิกขาบท   ดูฤกษ์โกนผมไฟ   ดูฤกษ์ผ่าคลอด   ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย  คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง   ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ) 

กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์

*******************************