
บทเรียนที่ 17 โหราศาสตร์พระเวทยุคใหม่ ในศตวรรษที่ 21
โลกใหม่ – ปัญญาใหม่ ในศตวรรษที่ 21 นี้คือยุคแห่งความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด แต่ขณะเดียวกันก็เป็นยุคแห่งความท้าทายทางจิตวิญญาณ เพราะโลกกำลังเผชิญกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่แทรกซึมเข้าสู่ทุกมิติ และโลกเต็มไปด้วยข้อมูลที่ล้นทะลัก ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมากก็จะนำมาซึ่งความสับสน รวมไปถึงวิกฤตตัวตนและความหมายในชีวิต ทำให้ผู้คนรู้สึกขาดความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสังคมจนสูญเสียเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต
ในบริบทเช่นนี้ โหราศาสตร์พระเวท (Vedic Astrology – वैदिक ज्योतिष – ไวทิก โชติษ) จึงได้กลับมาในรูปแบบใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพื่อทำนายดวงชะตาเท่านั้น แต่เพื่อ มอบเครื่องมือเพื่อการรู้ใจตนเอง ให้กับเรา เพื่อเข้าใจรากฐานของ “กรรม” และช่วยให้มนุษย์สามารถค้นพบ ความกลมกลืน ระหว่างโลกภายนอกกับอาณาจักรภายในจิตวิญญาณ
1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ ชโยติษะ: เมื่อดวงดาวถูกคำนวณ
เราอยู่ในยุคที่ซอฟต์แวร์สามารถ "สร้างดวงชะตาได้ในเวลาเพียง 2 วินาที" และในอนาคตอันใกล้ AI จะสามารถวิเคราะห์และอ่านความหมายของดาวเคราะห์ได้แม่นยำกว่าโหรผู้เริ่มต้นหลายเท่าตัว
เครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่:
1.1 ชคันนาถ โหรา (Jagannatha Hora): โปรแกรมคำนวณที่ฟรีและมีความละเอียดลึกซึ้ง ครอบคลุมวิธีการคำนวนทุกแบบของโหราศาสตร์พระเวททุกสาขา
1.2 ปฺราศระ สฺไลท์ (Parasara’s Light): ซอฟต์แวร์มาตรฐานที่ใช้กันแพร่หลายในสายวิชาและทฤษฎีของมหาฤาษีปราศาระ
1.3 เว็บไซด์โหราศาสตร์ออนไลน์: แพลตฟอร์มระดับโลก เช่น AstroSage, AstroVed และ Drik Panchang ที่ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูล ปัญจางคะ (ปฏิทินฮินดู) และสามารถนำมาใช้ในการพิจารณาดวงชะตาและเลือกเฟ้นฤกษ์ยามได้ง่ายขึ้น เช่น ดิถี นักษัตร โยค และการณะ ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในโหราศาสตร์พระเวท
ศักยภาพและข้อจำกัดของ AI:
ศักยภาพ: AI สามารถคำนวณราศีจักร ลัคนา องศาดาวเคราะห์ และ ทศา ได้อย่างแม่นยำสูง สามารถแปลความหมายดาวโดยใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และสร้างดวงชะตาประจำปี วรรษาผล ได้โดยอัตโนมัติ
ข้อควรระวัง: แม้ AI จะสามารถพยากรณ์เสมือนโหราจารย์เบื้องต้นได้ แต่ยังไร้จิตวิญญาณ การขาด "ทิศทางทางธรรมะ" และ จิตวิญาณของครู ทำให้การตีความขาดความลุ่มลึกในเชิง วิบากกรรม และขาดการชี้นำและวิธีการใช้ชีวิต เพราะ AI ไม่มีชีวิต
ความสับสน: แม้ AI จะสามารถเข้าถึงข้อมูลทางโหราศาสตร์และคัมภีร์โบราณต่างๆมากมาย และแม้แต่เข้าถึงเทคนิคการพยากรณ์ในรูปแบบต่างๆ แต่ข้อมูลจากแหล่งต่างๆล้วนมีแต่ความสับสนและขัดแย้งกันในทางทฤษฎีอยู่มาก และทฤษฎีของสำนักต่างๆที่กล่าวมาต่างก็ไม่สามารถลงรอยกันได้มานานนับเป็นพัน ๆ ปีแล้ว
เพราะต่างก็ว่าหลักวิชาของตนนั้นถูกต้องและแม่นยำ แล้ว AI จะต้องแยกแยะได้ว่าทฤษฎีไหนว่าถูกหรือผิด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะโหราศาสตร์ไม่ใช่คณิตศาสตร์ที่เป็นหลักการตายตัว แต่เป็นศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ ซึ่ง AI ไม่มี และ AI ก็ไม่สามารถเข้าใจถึงความสุข ทุกข์ กิเลส ความโลภ โกรธ หลง ความดีใจ เสียใจ รวมไปถึง ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข โทมนัส อุปาสาส ความชั่วและความดี กุศลและอกุศล ของคนเราว่ามีลักษณะอย่างไร ดังนั้นคำพยากรณ์จาก AI จึงไม่อยู่บนพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้
2. ชโยติษะศาสตร์ และ การเยียวยา: แสงสว่างเพื่อจิตภายใน
ในยุคที่ผู้คน "รู้มากแต่หลงทาง" โหราศาสตร์พระเวท จึงถูกนำมาใช้ในฐานะเครื่องมือเพื่อ การเยียวยา โดยถูกผสานเข้ากับ จิตบำบัด และ โยคะภายในใจ เช่น
2.1 จิตบำบัดเชิงโหราศาสตร์ (Psycho-Astrology): โดยใช้พื้นดวงดวงชะตาเพื่อหา “จุดอ่อนไหวทางใจ” เช่น การวิเคราะห์ดาวจันทร์ในดวงชะตา หรือ ชนมราศี ซึ่งเป็นตัวแทนของจิตใจและอารมณ์ หรือการพิจารณา เรือนที่ 8 และ 12 จากจันทร์เพื่อทำความเข้าใจบาดแผลทางใจ
2.2 ดาวเคราะห์ในฐานะบทเรียนของชีวิต: การเข้าใจว่าดาวเคราะห์ แต่ละดวงคือ ตัวแทนของ กรรม เช่น ดาวเสาร์ ไม่ใช่ดาวแห่งความโชคร้าย แต่คือ บทเรียนแห่งการยอมรับ และความเพียรที่นำไปสู่ความสำเร็จ
2.3 การใช้ ทศา เพื่อการเปลี่ยนแปลง: การใช้ระบบ ทศา เพื่อระบุ "ช่วงเวลาที่เหมาะสม" ในการเริ่มต้นการบำบัดเยียววา หรือ ส่งเสริม หรือการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งสำคัญ เช่น มหาทศาของดาวศุกร์ อาจเป็นช่วงที่เหมาะสมในการค้นพบความสามารถใหม่ของตนเอง ศุกร์หมายถึงศิลปะในการดำรงชีวิต ซึ่งอาจจะแปลได้ว่าความเชี่ยวชาญหรือทักษะทางด้านอาชีพ
เช่น บางคนค้นพบว่าตนเองนั้นเชียวชาญในศิลปะแขนงใดแขนงหนึ่ง และ เป็นการต่อยอดทางการศึกษาและด้านการอาชีพ เนื่องจากมหาทศาของดาวศุกร์มีช่วงเวลาเสวยอายุยาวนานถึง 20 ปี และหากดาวศุกร์เสวยอายุในช่วงต้นของชีวิต ก็จะเป็นช่วงการศึกษาหาความรู้และวางรากฐานให้ตัวเอง แต่ก็มีหลายๆคนค้นพบความสามารถของตนเองเมื่อมีอายุมากแล้ว เพราะเป็นช่วงที่ดาวศุกร์เสวยอายุในชั่วกลางหรือบั้นปลายชีวิต
3. โยคะ–เวท–โชติษะ: การรวมศาสตร์โบราณเพื่อการรู้แจ้ง
โหราศาสตร์พระเวท มิใช่ศาสตร์ที่โดดเดี่ยว หากแต่เป็น หนึ่งในเสาหลักแห่งศาสตร์ภายใน หรือ อธยาตมะ วิทยา (अध्यात्म) ซึ่งทำงานควบคู่กับ: หลักเชิงวิชาการดังนี้
3.1 โยค ตัวอย่างเช่น การพิจารณา “ราชาโยค” ร่วมกับการวิเคราะห์ ดาวที่ร่วมเป็นโยคในดวงชะตา เช่น ดาวเจ้าเรืนเกณฑ์กับเจ้าเรือตรีโกณมีความสัมพันธ์กัน ก็ย่อมทำให้เกิด”ราชาโยค”ขึ้นมา หรือการร่วมกันของดาวพฤหัสและดาวเสาร์ในเรือนที่ 10 ก่อให้เกิด กรรมโยค (कर्म योग) ผลของคือเจ้าชะตาจะมีความเข้าใจเรือง เหตุต้นผลกรรม และมีความสุจริตเที่ยงธรรม มีละอายและเกรงกลัวต่อบาป จนเห็นโทษทุกข์ของกรรรม และปรารถนาจะหลุดพ้น (โมกษะ)
3.2 เวทานตะ ซึ่งเป็นอภิปรัชญาของฮินดู ซึ่งเป็นระบบที่สำคัญที่สุดใน 6 ระบบของปรัชญาฮินดู มีแนวความคิดจากคัมภีร์อุปนิษัท ต่อมาได้พัฒนาต่อไปเป็น ปรัชญาเวทานตะ เป็นปรัชญาในศาสนาฮินดูที่สำคัญมีอยู่ 2 ระบบคือ ปรัชญาทไวตะ (ทวิภาวะ) และอทไวตะ (อทวิภาวะ) โดยโหราศาสตร์พระเวทมีพื้นฐานอยู่บนกรอบปรัชญาฮินดูที่ครอบคลุมทั้งสองระบบ
โหราศาสตร์พระเวท แม้จะมีรากฐานมาจากคัมภีร์ฮินดูโบราณและจักรวาลวิทยา แต่ก็ได้ผสมผสานแนวคิดจากปรัชญาทั้งสองเข้าด้วยกัน โหราศาสตร์นี้ตระหนักถึงความเป็นจริงของโชคชะตาของแต่ละบุคคล ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาทไวตะ (ทวิภาวะ)
แต่ยังชี้ให้เห็นถึงกฎแห่งกรรมและธรรมะที่เชื่อมโยงกันและเป็นสากล ซึ่งอาจสอดคล้องกับมุมมองที่ไม่เป็นทวิภาวะ หรืออทไวตะ (อทวิภาวะ) อย่างไรก็ตาม แนวปฏิบัติและกรอบความคิดทางโหราศาสตร์แบบดั้งเดิมส่วนใหญ่เอนเอียงไปทางมุมมองทวิภาวะของทไวตะมากกว่า โดยเน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่างจิตวิญญาณของแต่ละบุคคลกับระเบียบจักรวาล
โดยสรุป โหราศาสตร์พระเวทได้รับอิทธิพลจากปรัชญาทไวตะหรืออทไวตะ แต่ไม่จำกัดอยู่เพียงปรัชญาทไวตะเท่านั้น แม้ว่าแนวคิดทวิภาวะของทไวตะจะสะท้อนออกมาโดยตรงในกรอบความคิดมากกว่าก็ตาม ดังนั้นในการวิเคราะห์ดวงชะตาและจิตวิญญาณ ว่าด้วยความสัมพันธ์ของ อาตมัน (आत्मन्) และ พฺรหฺมัน (ब्रह्मन्) ในพื้นดวงชะตา ก็เพื่อการเข้าถึงความจริงสูงสุด
3.3 อายุรเวท "ธาตุ" ในอายุรเวท หมายถึง ตรีโทษ ซึ่งเป็นพลังงาน 3 รูปแบบที่ประกอบด้วยธาตุทั้ง 5 (ดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศธาตุ/ช่องว่าง) และควบคุมการทำงานของร่างกาย การที่ธาตุทั้งสามจะสมดุลกันถือเป็นพื้นฐานของสุขภาพที่ดี ธาตุทั้งสามในอายุรเวท (ตรีโทษ) ประกอบด้วย
1 วาตะ : ประกอบด้วยธาตุ ลม และ อากาศธาตุ (ช่องว่าง) ควบคุมการเคลื่อนไหวและระบบการไหลเวียนต่างๆ ของร่างกาย
2 ปิตตะ : ประกอบด้วยธาตุ ไฟ และ น้ำ ควบคุมอุณหภูมิ, การย่อยอาหาร, และการเผาผลาญพลังงาน
3 กผะ : ประกอบด้วยธาตุ ดิน และ น้ำ ควบคุมโครงสร้างและมวลสารของร่างกาย
การวินิจฉัย ดวงธาตุ ( दोष โทษะ) คือ วาตะ , ปิตตะ , กผะ ผ่านดาวเคราะห์ เช่น ดาวอังคารบ่งบอกถึงธาตุ ปิตตะ (ความร้อน) และ ดาวจันทร์บ่งบอกถึงธาตุ กผะ (น้ำ)
4. ความสนใจของโลกตะวันตก: การหวนคืนสู่อินเดีย
ความสนใจใน ชโยติษะศาสตร์ ของโลกตะวันตกได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีการสอนผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น Zoom, YouTube, และ Masterclass ตำราที่โด่งดัง เช่น Light on Life ของ Hart de Fouw และ Robert Svoboda ได้สะท้อนการนำ ชโยติษะ เข้าสู่กระแสหลักของ "ผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณ" (Spiritual Seekers) ทั่วโลก ซึ่งการเรียนการสอนเหล่านี้ได้เน้นย้ำถึงแก่นแท้ของโหราศาสตร์พระเวท ที่มีความแตกต่างจาก หราศาสตร์ตะวันตกอย่างชัดเจน
5. ปรากฏการณ์ใหม่: โหราศาสตร์ และ “การอยู่ร่วมกับปัจจุบันสมัย”
ในที่สุด โหราศาสตร์ที่แท้จริง ก็ไม่ใช่ศาสตร์แห่งคำทำนาย แต่เป็น ศาสตร์แห่งคำแนะนำ ที่ช่วยให้เรารู้วิธี "อยู่กับ กรรม" ได้อย่างมีปัญญา ผู้คนในศตวรรษที่ 21 จึงเริ่มใช้ ชโยติษะศาสตร์ เพื่อ:
1.แก้ไขดวงชะตา โดยใช้ฤกษ์ยามจาก วิชา มุหูรตะ (मुहूर्त ) เช่น การหา ฤกษ์ยามมงคล ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เช่น วิวาหะ มุหูรตะ ฤกษ์แต่งงาน, คฤหปฺรเวศะ – ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯซึ่งวัตถุประสงค์ในการใช้ฤกษ์ทั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขดวงชะตาเดิมจะร้ายกลายเป็นดี โดยใช้พลังงานมงคลจากนักษัตร ดาวเคราะห์ ดิถี ประกอบกันเป็นฤกษ์เพื่อเสริมดวงชะตาในการริเริ่มกิจกรรมสำคัญต่างๆ ทั้งนี้ฤกษ์จากยามจะต้องคำนวนจากดวงของเจ้าชะตาเท่านั้นจึงจะได้ผล
2.การวางแผนชีวิต: การวางแผนอาชีพการงานให้สอดคล้องกับดวงชะตา โหราจารย์ที่เชี่ยวชาญสามารถบอกเราได้ว่า เราถนัดทางด้านไหน ควรทำอาชีพอะไร และไม่ควรทำอาชีพอะไร ซึ่งหากได้คำปรึกษาที่แม่นยำแล้ว เราก็จะไม่หลงทาง หรือเสียเงิน เสียเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา
แต่หากเรารู้ก่อนว่าควรทำอะไร และเราลองทำดูแล้วปรากฏว่าได้ผลดีจริงและปราศจากอุปสรรคตามคำพยากรณ์ เราก็สามารถพัฒนาสร้างสรรค์งานนั้นให้ได้เต็มที่ ซึ่งบางคนเสียเวลาเสียเงินทองมากมายไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง จนสุดท้ายจึงมาค้นพบตัวเองแต่ก็สายไปแล้ว เพราะเหลือเวลาไม่มากพอที่จะทำงานให้ได้รับผลสำเร็จเต็มที่
3. การปฏิบัติสมาธิ: โหราศาสตร์มีการเลือกเฟ้นฤกษ์ยามหรือช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการทำสมาธิ (Meditation) โดยเฉพาะ เพื่อให้นักปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้เร็วขึ้น ย่นระยะเวลาในการปฏิบัติ ทั้งนี้เราต้องรู้จักอิทธิพลของดวงดาวและช่วงเวลา ที่จะส่งผลดีในด้านการทำสมาธิ ทำให้จิตใจปราศจากนิวรณ์ต่างๆ ทำให้สงบตั้งมั่นได้ง่าย จนถึงขั้นได้ฌาน โดยช่วงเวลาดังกล่าวมักจะหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ดาวจันทร์(จิตใจ)ปลอดหรือจากปราศจากอิทธิพลจากดาวเคราะห์ที่จะมาทำลายการรวมรวมสมาธิจิต
4. การให้อภัยตนเอง: เมื่อได้เรียนรู้โหราศาสตร์เราจึงจะรู้จักและเข้าใจ กฎแห่งกรรม หรือ “กรรมเก่า” เพื่อนำไปสู่การปลดปล่อยและให้อภัยตนเอง เมื่อเราได้รู้จักเหตุต้นผลกรรม ที่สะท้อนผลของกรรมที่ส่งมาจากดาวเคราะห์ต่างๆ เราก็จะได้ตระเตรียมจิตใจให้พร้อมที่รับมือกับโชคและเคราะห์ที่จะเกิดขึ้น หากเมื่อได้โชคก็อย่าหลงระเริงดีใจ หากเป็นเคราะห์ก็อย่าไปเสียใจ ก็จะได้ทำใจได้ว่า กรรมตัวนี้เราได้เสวยกรรมแล้ว กรรมก็ย่อมหมดไปไม่กลับมาอีก และตั้งอกตั้งใจประพฤติธรรม ไม่ทำชั่วใดใดอีกเพราะได้เห็นกรรมนั้นได้สนองผลแล้ว จึงเชื่อในกฎแห่งกรรม
สารธรรมบทสุดท้าย: แสงแห่งปัญญา
อาจารย์ขอให้คำมั่นแก่ท่านนักศึกษาทุกท่านว่าโหราศาสตร์พระเวทจะไม่มีวันล้าสมัย ตราบใดที่ยังมีมนุษย์คนหนึ่งยืนอยู่กลางคืนมืด แล้วเงยหน้ามองฟ้า... ไม่ใช่เพื่อ "รู้อนาคต" แต่เพื่อถามคำถามสำคัญที่สุดในชีวิตว่า... "เราคือใครในจักรวาลนี้?" ชโยติษะศาสตร์ หรือ ศาสตร์แห่งแสงสว่าง นี้ ไม่ได้ทำให้ท่านหลุดพ้นจาก กรรม ได้ในทันที หากแต่ทำให้ท่าน มอง กรรม ด้วยแสงแห่งปัญญา และเดินทางบนเส้นทางแห่งชีวิตอย่างผู้มี สติ และ ศรัทธา
*******************************
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดยอาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo)
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*****************************
{ "tool_uses": [ { "recipient_name": "functions.execute_python", "parameters": { "code": "keywords = [\n "โหราศาสตร์พระเวท", "ชโยติษะศาสตร์", "โหราศาสตร์อินเดีย", "โหราศาสตร์ยุคใหม่", "ปัญญาประดิษฐ์กับโหราศาสตร์", "AI ในโหราศาสตร์", "กรรมและดวงชะตา", "เวทานตะ", "โยคะและดวงดาว", "ปรัชญาฮินดู", "มหาทศา", "ราชาโยค", "กรรมโยค", "ปรัชญาทไวตะ", "อทไวตะ", "พฤหัสและเสาร์", "ดวงชะตาและจิตวิญญาณ", "จิตบำบัดโหราศาสตร์", "จิตวิญญาณแห่งดวงดาว", "โหราศาสตร์และจิตบำบัด", "AI Spirituality", "Psycho-Astrology", "โหราศาสตร์ตะวันตกเทียบโหราศาสตร์พระเวท", "การเยียวยาด้วยโหราศาสตร์", "แสงแห่งปัญญา", "ฤกษ์ยามมงคล", "มุหูรตะ", "การวางแผนชีวิตด้วยดวงชะตา", "โหราศาสตร์และสมาธิ", "กฎแห่งกรรม", "ณภัทร ศรีจักรนารท", "Astro Neemo", "อาศรมศรีจักรนารท"\n]\n\n# รวมเข้าด้วยกันด้วย ", "\njoined_keywords = ','.join(keywords)\n\n# Tag\n tags = [\n "โหราศาสตร์พระเวท", "ชโยติษะศาสตร์", "AI", "ปัญญาประดิษฐ์", "จักรวาลวิทยา", "เวทานตะ", "โยคะ", "อายุรเวท", "โหราศาสตร์และจิตวิญญาณ", "ปรัชญาฮินดู", "ทไวตะ", "อทไวตะ", "การเยียวยา", "Meditation", "Spirituality", "กรรม", "ดวงชะตา", "ฤกษ์ยาม", "ศตวรรษที่21", "VedicAstrology", "ณภัทร ศรีจักรนารท", "Astro Neemo", "อาศรมศรีจักรนารท"\n ]\n\njoined_tags = ','.join(tags)\n\nprint(joined_keywords)\nprint(joined_tags)" } } ] }
