
บทเรียนที่ 16 ประวัติศาสตร์โหราศาสตร์พระเวท ตอนที่ 7 ยุคมหาบัณฑิต และการฟื้นฟู ชโยติษะศาสตร์
แม้ว่าโลกจะหมุนเร็วขึ้นด้วยกระแสของ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการให้เหตุผลเชิงประจักษ์ แต่จิตใจของมนุษย์ยังคงเสาะแสวงหาคำตอบจาก "สิ่งที่ดวงดาวกระซิบ" เสมอมา ด้วยเหตุนี้ โหราศาสตร์พระเวท (Vedic Astrology – वैदिक ज्योतिष – ไวทิก โชติษ) จึงไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา หากแต่ได้ "ตื่นขึ้น" อีกครั้งอย่างมีพลังยิ่งกว่าในยุคใด ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางจิตวิญญาณของผู้คนในยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization)
ยุคโลกาภิวัตน์: เมื่อ โชติษะ ศาสตร์ ข้ามแดน
หลังสิ้นสุดยุคล่าอาณานิคม ในช่วงศตวรรษที่ 19 ถึง 20 องค์ความรู้ของอินเดียโบราณเริ่มถูกศึกษาอย่างจริงจังโดยนักปราชญ์ชาวตะวันตก งานเขียนและคัมภีร์ต่าง ๆ ได้รับการแปลจากภาษา สันสกฤต ออกเป็นภาษาสำคัญๆของโลก เช่น ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น การแปลครั้งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ โหราศาสตร์พระเวท ได้ก้าวข้ามขอบเขตทางภูมิศาสตร์ และเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในโลกตะวันตก
การฟื้นคืนด้านวิชาการและมหาบัณฑิตร่วมสมัย
ยุคนี้เป็นยุคแห่งการ ฟื้นฟูและตีพิมพ์ คัมภีร์โหราศาสตร์โบราณครั้งใหญ่ พร้อมคำแปลและคำอธิบายร่วมสมัยที่เข้าถึงง่ายขึ้น คัมภีร์ที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำและกลายเป็นรากฐานสำคัญในการศึกษาได้แก่:
- คัมภีร์พฤหัต ชาตกะ (बृहत् जातक – พฤหตฺ ชาตกะ)
- คัมภีร์ผผลทีปิกา (फलदीपिका – ผลทีปิกา)
- คัมภีร์ปริชาติ ชาตกะ (जातक पारिजात – ชาตกะ ปาริชาตะ)
- คัมภีร์ไชมินี สูตร (जैमिनि सूत्र – ไชมินี สูตฺร)
การตีพิมพ์เหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนและขยายความโดยเหล่า โหราจารย์มหาบัณฑิต ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคร่วมสมัยหลายท่าน ตัวอย่าง เช่น
- มหาเทวี ปาฐกะ (महादेवी पाठक) (เกิด ค.ศ. 1842) ผู้แต่งตำรา รูฑฺลาม ชาตกะ ตัตฺวะ (रुतलाम जातक तत्त्व) ซึ่งเน้นการวิเคราะห์ดวงชะตาแบบละเอียด ตามแบบฉบับของโหราศาสตร์พระเวท
- บี. สูรยะ นเรน ราว (बी सूर्य नरेन राव) (เกิด ค.ศ. 1856) ผู้เขียนคำอธิบายและบทวิจารณ์สำคัญในคัมภีร์หลักอย่าง พฤหัต ชาตกะ และ ไชมินี สูตร ซึ่งท่านได้อยู่ร่วมสมัยกับ รามะ ตยาลุ (राम दयालु) (เกิด ค.ศ. 1861) ผู้เขียนตำรา สังเกตะนิธิ ( संकेतनिधि)
- ปัณฑิต มเหศะ (पंडित महेश) (เกิด ค.ศ. 1874) แห่งแคว้นแคชเมียร์ ผู้สร้างสรรค์ตำรา เช่น รามะวีระ (रामवीर) และ โชติษ มหานิพันธ (ज्योतिष महानिबंध)
- ศฺรี บี. วี. รามัน (श्री बीवी रमन) (1912–1998) ท่านผู้นี้ถือเป็นผู้ที่ ฟื้นฟูโหราศาสตร์พระเวทสู่สากลอย่างเป็นระบบ โดยเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารอันทรงอิทธิพล "The Astrological Magazine" และเขียนตำราสำคัญมากมายที่กลายเป็นคู่มือมาตรฐานสำหรับโหรทั่วโลก เช่น How to Judge a Horoscope, Planetary Influences on Human Affairs และ Bhavārth Ratnākar
- เค. เอ็น. ราว (के एन राव) (เกิดปี 1931) ปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงด้าน ไชมินี โชติษะ และ ระบบทศา (दशा पद्धति – ทศา ปทฺธติ) ท่านเป็นผู้สอนที่สถาบัน ภารตวิทยาภวัน (भारतीय विद्या भवन – ภารต วิทฺยา ภวน) ในเดลี และได้เชื่อมโยงการวิเคราะห์ดวงดาวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองในยุคเนห์รู
- สฺวามี ยุกฺเตศวร (स्वामी युक्तेश्वर) ผู้เขียน “The Holy Science” ซึ่งเน้นการเชื่อมโยงโหราศาสตร์พระเวทเข้ากับการ ตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ และหลักการ ปรมาตฺมัน (परमात्मन्)
การวิจัยและการสอนในระดับสากล
องค์ความรู้ของ ชโยติษะศาสตร์ ได้รับการยกระดับสู่การศึกษาในระดับสากล โดยสถาบันอย่าง ICĀS (Indian Council of Astrological Sciences – भारतीय ज्योतिष विज्ञान परिषद्) ได้เปิดคอร์สเรียน โชติษะศาสตร์ ทั่วประเทศอินเดีย และที่สำคัญคือ มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มเปิดสาขาวิชา โชติษะศาสตร์ ให้เป็นวุฒิการศึกษาอย่างจริงจัง เช่น มหาวิทยาลัยฮินดูพาราณสี (BHU - Banaras Hindu University), มหาวิทยาลัยในเมืองติรุปติ (Tirupati) และมหาวิทยาลัยสันสกฤตเกรละ (Kerala Sanskrit University) ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือทางวิชาการของศาสตร์นี้
โหราศาสตร์ในโลกดิจิทัล: ดวงดาวบนหน้าจอ
คำกล่าวที่ว่า "ดวงดาวอยู่บนฟ้า แต่วันนี้เราศึกษามันได้ผ่านหน้าจอ" แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าโลกดิจิทัลได้อำนวยความสะดวกอย่างมหาศาลในการเข้าถึง ชโยติษะศาสตร์ นอกจากนี้ก็มีการพัฒนา ซอฟต์แวร์โหราศาสตร์พระเวท (Vedic Astrology Software) ชั้นนำหลายตัว เช่น Parashara’s Light, Jagannatha Hora (JHora) และ AstroSage ซอฟต์แวร์เหล่านี้ช่วยนักศึกษาและโหรในการ: คำนวณผูกดวงชะตาได้อย่างแม่นยำสูง วิเคราะห์ ทศา โดยละเอียด แปลผลเบื้องต้นให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ เว็บไซต์ระดับสากลจำนวนมาก เช่น AstroVed และ Drik Panchang ก็ได้แปลและเผยแพร่เนื้อหาโหราศาสตร์ให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย
ความนิยมในยุคปัจจุบัน: แผนที่ของจิตวิญญาณ
ในยุคปัจจุบัน ผู้คนทั่วโลกหันมาศึกษา โหราศาสตร์พระเวท หรือ "โหราศาสตร์เพื่อจิตวิญญาณ" มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำความเข้าใจหลักการเรื่อง กรรม ( कर्म ) และ ธรรมะ (धर्म ) ที่ฝังลึกอยู่ในศาสตร์นี้
โหราศาสตร์พระเวท ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงเครื่องทำนายอนาคตเท่านั้น แต่เป็น "แผนที่ของจิตวิญญาณ" ที่มีคุณค่าสูงในการให้ข้อมูลเชิงปัญญา ช่วยให้เรา รู้ว่าเราควรทำอะไร มากกว่าการบอกว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา
ในทัศนะของพระเวท ดาวเคราะห์ นั้นเปรียบดัง "ผู้สะท้อนการกระทำของกรรมเก่า" ไม่ใช่เพราะดาวเคราะห์ เป็นผู้กำหนดชะตากรรมของเรา แต่เพราะมันเพียงแต่ทำหน้าที่สะท้อนผลของกรรมที่เราได้เคยสร้างไว้แล้วในอดีตเท่านั้นเอง
ปัจฉิมบท
การศึกษาโชติษะศาสตร์ให้เป็น “พุทฺธิปัญญา” ท่านนักศึกษาทั้งหลายพึงระลึกไว้ว่า:โลกหมุนเร็วขึ้น... แต่ใจเราต้องนิ่ง ดวงดาวหมุนเวียน... แต่สัจธรรมยังคงอยู่ หากเราใช้ ชโยติษะ เป็นดั่ง "พุทฺธิปัญญา" คือปัญญาที่ตื่นรู้ มากกว่าการใช้ด้วย "ความกลัว" หรือ "ความงมงาย" แล้ว ศาสตร์นี้จะกลายเป็น "กระจกเงาแห่งกรรม" ที่ช่วยให้เรา เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง และ เติบโตบนทางธรรม ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
บทเรียนที่ 16: ประวัติศาสตร์โหราศาสตร์พระเวท ตอนที่ 7 ยุคมหาบัณฑิต และการฟื้นฟู ชโยติษะศาสตร์
แม้ว่าโลกจะหมุนเร็วขึ้นด้วยกระแสของ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการให้เหตุผลเชิงประจักษ์ แต่จิตใจของมนุษย์ยังคงเสาะแสวงหาคำตอบจาก "สิ่งที่ดวงดาวกระซิบ" เสมอมา ด้วยเหตุนี้ โหราศาสตร์พระเวท (Vedic Astrology – वैदिक ज्योतिष – ไวทิก โชติษ) จึงไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา หากแต่ได้ "ตื่นขึ้น" อีกครั้งอย่างมีพลังยิ่งกว่าในยุคใด ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางจิตวิญญาณของผู้คนในยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization)
ยุคโลกาภิวัตน์: เมื่อ โชติษะ ศาสตร์ ข้ามแดน
หลังสิ้นสุดยุคล่าอาณานิคม ในช่วงศตวรรษที่ 19 ถึง 20 องค์ความรู้ของอินเดียโบราณเริ่มถูกศึกษาอย่างจริงจังโดยนักปราชญ์ชาวตะวันตก งานเขียนและคัมภีร์ต่าง ๆ ได้รับการแปลจากภาษา สันสกฤต ออกเป็นภาษาสำคัญๆของโลก เช่น ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น การแปลครั้งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ โหราศาสตร์พระเวท ได้ก้าวข้ามขอบเขตทางภูมิศาสตร์ และเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในโลกตะวันตก
การฟื้นคืนด้านวิชาการและมหาบัณฑิตร่วมสมัย
ยุคนี้เป็นยุคแห่งการ ฟื้นฟูและตีพิมพ์ คัมภีร์โหราศาสตร์โบราณครั้งใหญ่ พร้อมคำแปลและคำอธิบายร่วมสมัยที่เข้าถึงง่ายขึ้น คัมภีร์ที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำและกลายเป็นรากฐานสำคัญในการศึกษาได้แก่:
- คัมภีร์พฤหัต ชาตกะ (बृहत् जातक – พฤหตฺ ชาตกะ)
- คัมภีร์ผผลทีปิกา (फलदीपिका – ผลทีปิกา)
- คัมภีร์ปริชาติ ชาตกะ (जातक पारिजात – ชาตกะ ปาริชาตะ)
- คัมภีร์ไชมินี สูตร (जैमिनि सूत्र – ไชมินี สูตฺร)
การตีพิมพ์เหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนและขยายความโดยเหล่า โหราจารย์มหาบัณฑิต ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคร่วมสมัยหลายท่าน ตัวอย่าง เช่น
- มหาเทวี ปาฐกะ (महादेवी पाठक) (เกิด ค.ศ. 1842) ผู้แต่งตำรา รูฑฺลาม ชาตกะ ตัตฺวะ (रुतलाम जातक तत्त्व) ซึ่งเน้นการวิเคราะห์ดวงชะตาแบบละเอียด ตามแบบฉบับของโหราศาสตร์พระเวท
- บี. สูรยะ นเรน ราว (बी सूर्य नरेन राव) (เกิด ค.ศ. 1856) ผู้เขียนคำอธิบายและบทวิจารณ์สำคัญในคัมภีร์หลักอย่าง พฤหัต ชาตกะ และ ไชมินี สูตร ซึ่งท่านได้อยู่ร่วมสมัยกับ รามะ ตยาลุ (राम दयालु) (เกิด ค.ศ. 1861) ผู้เขียนตำรา สังเกตะนิธิ ( संकेतनिधि)
- ปัณฑิต มเหศะ (पंडित महेश) (เกิด ค.ศ. 1874) แห่งแคว้นแคชเมียร์ ผู้สร้างสรรค์ตำรา เช่น รามะวีระ (रामवीर) และ โชติษ มหานิพันธ (ज्योतिष महानिबंध)
- ศฺรี บี. วี. รามัน (श्री बीवी रमन) (1912–1998) ท่านผู้นี้ถือเป็นผู้ที่ ฟื้นฟูโหราศาสตร์พระเวทสู่สากลอย่างเป็นระบบ โดยเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารอันทรงอิทธิพล "The Astrological Magazine" และเขียนตำราสำคัญมากมายที่กลายเป็นคู่มือมาตรฐานสำหรับโหรทั่วโลก เช่น How to Judge a Horoscope, Planetary Influences on Human Affairs และ Bhavārth Ratnākar
- เค. เอ็น. ราว (के एन राव) (เกิดปี 1931) ปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงด้าน ไชมินี โชติษะ และ ระบบทศา (दशा पद्धति – ทศา ปทฺธติ) ท่านเป็นผู้สอนที่สถาบัน ภารตวิทยาภวัน (भारतीय विद्या भवन – ภารต วิทฺยา ภวน) ในเดลี และได้เชื่อมโยงการวิเคราะห์ดวงดาวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองในยุคเนห์รู
- สฺวามี ยุกฺเตศวร (स्वामी युक्तेश्वर) ผู้เขียน “The Holy Science” ซึ่งเน้นการเชื่อมโยงโหราศาสตร์พระเวทเข้ากับการ ตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ และหลักการ ปรมาตฺมัน (परमात्मन्)
การวิจัยและการสอนในระดับสากล
องค์ความรู้ของ ชโยติษะศาสตร์ ได้รับการยกระดับสู่การศึกษาในระดับสากล โดยสถาบันอย่าง ICĀS (Indian Council of Astrological Sciences – भारतीय ज्योतिष विज्ञान परिषद्) ได้เปิดคอร์สเรียน โชติษะศาสตร์ ทั่วประเทศอินเดีย และที่สำคัญคือ มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มเปิดสาขาวิชา โชติษะศาสตร์ ให้เป็นวุฒิการศึกษาอย่างจริงจัง เช่น มหาวิทยาลัยฮินดูพาราณสี (BHU - Banaras Hindu University), มหาวิทยาลัยในเมืองติรุปติ (Tirupati) และมหาวิทยาลัยสันสกฤตเกรละ (Kerala Sanskrit University) ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือทางวิชาการของศาสตร์นี้
โหราศาสตร์ในโลกดิจิทัล: ดวงดาวบนหน้าจอ
คำกล่าวที่ว่า "ดวงดาวอยู่บนฟ้า แต่วันนี้เราศึกษามันได้ผ่านหน้าจอ" แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าโลกดิจิทัลได้อำนวยความสะดวกอย่างมหาศาลในการเข้าถึง ชโยติษะศาสตร์
นอกจากนี้ก็มีการพัฒนา ซอฟต์แวร์โหราศาสตร์พระเวท (Vedic Astrology Software) ชั้นนำหลายตัว เช่น Parashara’s Light, Jagannatha Hora (JHora) และ AstroSage
ซอฟต์แวร์เหล่านี้ช่วยนักศึกษาและโหรในการ: คำนวณผูกดวงชะตาได้อย่างแม่นยำสูง วิเคราะห์ ทศา โดยละเอียด แปลผลเบื้องต้นให้โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ เว็บไซต์ระดับสากลจำนวนมาก เช่น AstroVed และ Drik Panchang ก็ได้แปลและเผยแพร่เนื้อหาโหราศาสตร์ให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย
ความนิยมในยุคปัจจุบัน: แผนที่ของจิตวิญญาณ
ในยุคปัจจุบัน ผู้คนทั่วโลกหันมาศึกษา โหราศาสตร์พระเวท หรือ "โหราศาสตร์เพื่อจิตวิญญาณ" มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำความเข้าใจหลักการเรื่อง กรรม ( कर्म ) และ ธรรมะ (धर्म ) ที่ฝังลึกอยู่ในศาสตร์นี้
โหราศาสตร์พระเวท ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงเครื่องทำนายอนาคตเท่านั้น แต่เป็น "แผนที่ของจิตวิญญาณ" ที่มีคุณค่าสูงในการให้ข้อมูลเชิงปัญญา ช่วยให้เรา รู้ว่าเราควรทำอะไร มากกว่าการบอกว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา
ในทัศนะของพระเวท ดาวเคราะห์ นั้นเปรียบดัง "ผู้สะท้อนการกระทำของกรรมเก่า" ไม่ใช่เพราะดาวเคราะห์ เป็นผู้กำหนดชะตากรรมของเรา แต่เพราะมันเพียงแต่ทำหน้าที่สะท้อนผลของกรรมที่เราได้เคยสร้างไว้แล้วในอดีตเท่านั้นเอง
ปัจฉิมบท
การศึกษาโชติษะศาสตร์ให้เป็น “พุทฺธิปัญญา” ท่านนักศึกษาทั้งหลายพึงระลึกไว้ว่า:
โลกหมุนเร็วขึ้น... แต่ใจเราต้องนิ่ง ดวงดาวหมุนเวียน... แต่สัจธรรมยังคงอยู่ หากเราใช้ ชโยติษะ เป็นดั่ง "พุทฺธิปัญญา" คือปัญญาที่ตื่นรู้ มากกว่าการใช้ด้วย "ความกลัว" หรือ "ความงมงาย" แล้ว ศาสตร์นี้จะกลายเป็น "กระจกเงาแห่งกรรม" ที่ช่วยให้เรา เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง และ เติบโตบนทางธรรม ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
*******************************
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดยอาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo)
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
