Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***


สำหรับโหร นักพยากกรณ์มักจะต้องประสบพบเจอคำถามอยู่เนืองๆ เรื่องของพ่อแม่ว่าจะเป็นอย่างไร หรือการดูดวงชาตาของบุคคลทั่วไปก็ต้องนำดวงดาที่แสดงถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด มาพิจารณาร่วมด้วยเสมอๆ ในหลายครั้งหลายคราวที่ผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์จะต้องเจอปัญหาการวินิจฉัยว่า ดาวอะไรที่แสดงตนเป็นพ่อ-แม่ในดวงชาตา เพราะในหลายตำราให้หลักการไว้แตกต่างกัน เป็นต้นว่า ดาวอาทิตย์แทนพ่อ ดาวจันทร์แทนแม่ หรือดาวเจ้าเรือนที่ 10 เป็นพ่อและดาวเรือนที่ 4เป็นแม่ แต่ตำราบางตำราก็กลับบอกว่า ดาวเจ้าเรือนที่ 9 เป็นพ่อไปเสียอีก และบางทีก็มีเงือนไขว่าเจ้าชาตาเกิดกลางวันหรือกลางคืน

ในที่นี้จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในการพิจารณาดาวเคราะห์เหล่านี้ เพื่อประโยชน์แก่ผู้สนใจ
1.ดาวอาทิตย์แทนค่าบิดา ดาวจันทร์แทนค่ามารดา -กฏเกณฑ์นี้ถือเป็นหลักมาตรฐานทั่วไปทั้งโหราศาสตร์ตะวันออกและตะวันตก โดยถืออาทิตย์เป็นดาวประธาน เป็นดาวเพศชายให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งปวง และดาวคู่ของอาทิตย์ก็คือดาวจันทร์แสดงถึงเพศแม่ รวมความก็คือ บิดา-มารดาของสรรพสิ่ง แต่สำหรับการวินิฉัยในดวงชาตาบุคคลทั่วไปมักจะใช้ไม่ได้เต็มร้อย แต่จะให้ผลแสดงถึงบิดามารดาได้เต็มที่ สำหรับดวงกาลชาตา ดวงเมือง ดวงที่กล่าวถึงบุคคลที่ 3 และดวงที่กล่าวถึงกลุ่มบุคคล กลุ่มฝูงชน และบรรพบุรุษ เช่น ดวงพ่อแม่ของเด็ก 3 คนนี้จะอาภัพแม่เพราะดาวจันทร์ดับ หรือ บรรพบุรุษของคนตระกูลนี้มีอำนาจมากเพราะดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่งมหาอุจน์ กฏนี้ใช้ได้ดีสำหรับการพิจารณาทั่วไป และเป็นการกธรรมชาติแทนค่าพ่อแม่ในโหราศาสตร์ประราสาระ

2.สำหรับบุคคลที่เกิดกลางวัน ดาวอาทิตย์แทนค่าบิดา ดาวศุกร์แทนค่ามารดา ส่วนผู้ที่เกิดในเวลากลางคืน ดาวเสาร์แทนค่าบิดา ดาวจันทร์แทนค่ามารดา กฏนี้เป็นกฏเกณฑ์หลักในโหราศาสตร์ภารตะ ซึ่งใช้ในการวินิจฉัยประกอบ โดยเรียกว่าดาวการก (อ่านว่า การะกะ) แปลว่าดาวตัวแทน (ในสิ่งที่กำหนด) สำหรับบุคคลที่เกิดกลางวันดาวอาทิตย์เป็นการกสำหรับบิดา ดาวศุกร์เป็นการกสำหรับมารดา หลักเกณฑ์นี้มากจากหลักกาละพละในระบบษัฑพละ โดยแบ่งกำลังของดาวเคราะห์เพศชาย-หญิงตามกลางวัน-กลางคืน เรียกว่า ทิวาราตรีพละ โดยถือว่า ดาวอาทิตย์(ชาย) ดาวพฤหัส(ชาย) ดาวศุกร์(หญิง) มีกำลังมากที่สุดในเวลากลางวัน ส่วนดาวจันทร์(หญิง) เสาร์(ชาย) อังคาร(ชาย)มีกำลังสูงสุดในเวลากลางคืน แต่ทำไม่จึงไม่ใช้ดาวพฤหัส และอังคารด้วย คำตอบก็คือ ดาวพฤหัสเป็นบุตรการก หรือดาวที่แสดงตนเป็น บุตร ส่วนดาวอังคารเป็น ภราตุการก หรือดาวที่แสดงตนเป็น พี่น้อง(ชาย) ดังนั้นหากจะดูเรื่องบุตร หรือพี่น้อง ก็ต้องดูดาวเหล่านี้ กฏเกณฑ์นี้ใช้ได้ผลดีในดวงชาตาทั่วไป และในกาลชาตา

3.เจ้าเรือนที่ 10 เป็นบิดา และเจ้าเรือนที่ 4 เป็นมารดา กฏเกณฑ์นี้สำหรับการวินิฉัยดวงชาตาที่มีการคำนวนสมผุสลัคน์โดยถูกต้องและใช้ ภวจักรประกอบ ซึ่งได้ผลดีทั้งดวงเดิมดวงจร และกาลชาตา

4.แต่บางกฏระบุว่าเจ้าเรือนที่ 9หรือเรือนครู เป็นบิดา (เจ้าเรือนที่ 4 เป็นมารดา) กฏนี้ใช้ได้สำหรับครอบครัวใหญ่ ในสมัยโบราณ ที่ถือว่าบิดาเป็นครูคนแรกของบุตร เพราะนับจากเรือนที่ 9 ไปยังเรือนที่ 1 (ลัคนา) ก็เท่ากับลัคนาเป็นปุตตะ(บุตร) ของเรือนที่ 9

5.มาตรุการก กฏนี้มีในเฉพาะโหราศาสตร์ภารตะระบบไชมิณี ถือว่าดาวที่เสวยองศาเป็นลำดับที่ 5 ในดวงชาตาเป็นการกแสดงถึงมารดาของเจ้าชาตา

สรุปดาวที่แสดงตนแทนบิดา-มารดาของเจ้าชาตาถึงแม่ว่าจะมีหลายนัยหลายทรรศนะ แต่ก็สามารถผสมผสานใช้ร่วมกันได้ เพราะโหราศาสตร์ คือศิลปะ ขึ้นอยู่กับว่านักพยากรณ์จะนำไปใช้อย่างไร