Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

15.Zodiac Signs and Body Parts

 

โหราศาสตร์คัมภีร์พระเวทนั้น มีความละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก และเป็นองค์ความรู้ที่สัมพันธ์กับศาสตร์อื่นๆ และผสมผสานกับปรัชญาอันลึกซึ้ง ซึ่งเชื่อมโยงกับมนุษย์และจักรวาลเข้าด้วยกัน

ในบทนี้เราจะได้มาทำความรู้จักกับ ราศีที่สัมพันธ์กายวิภาคศาตร์ ซึ่งคัมภีร์ได้ถือเอา "กาละบุรุษ" มาอธิบายความเชื่อมโยงกายวิภาคกับราศีต่างๆเข้าด้วยกันคำว่า"กาละบุรุษ" หมายเอา ร่างกายของชายผู้หนึ่งซึ่งมีขนาดครอบคลุมไปทั้งจักรวาลซึ่งมีความเป็นอมตะและสถิตคงอยู่ชั่วนิรันดร์  โดยมีพระวิษณุเป็นตัวแทนของ กาละบุรุษ

ในจักรวาลอันกว้าใหญ่ไพศาล โดยมี ราศี12 ราศีเป็นเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆในกายวิภาคของ"กาลละบุรุษ"  เช่น ราศีเมษนับเป็นราศีแรกในวงล้อจักราศีซึ่งเป็นตัวแทนกายวิภาคในส่วน"ศีรษะ"ของ "กาลละบุรุษ" และราศีต่อๆไปก็เช่นกัน 

เมื่อนักโหราศาสตร์รู้ตำแหน่งของดาวเคราะห์ในราศีต่างๆ นักโหราศาสตร์สามารถที่จะรู้ได้ว่าอวัยวะส่วนใดของร่างกายที่อ่อนแอ หรือมีกำลัง อีกทั้งสามารถรู้ได้ถึงสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ ที่จะเกิดขึ้นตามส่วนๆต่างๆของร่างกาย

กาละบุรุษราศีนี้อาจจะนำไปปรับใช้กับลัคนาของแต่ละคนซึ่งไม่จำกัดว่าต้องเป็นราศี แต่ใช้เรือนชาตาเป็นตัวกำหนด เช่น เจ้าชาตาลัคนาสถิตราศีกรกฏ ดังนั้น ราศีกรกฏจึงหมายถึงส่วนศีรษะของเจ้าชาตา และก็นับเรือนต่างๆเป็นลำดับๆไป

ราศีเมษ

นับเป็นราศีแรกของจักรราศี โดยมีดาวอังคารเป็นเกษตรเจ้าราศี ราศีเมษบ่งชี้ถึง ผิวหน้า, กะโหลก, โรคที่เกี่ยวกับตา, หัวกะโหลก, การถูกแดดเผา, หัว, สมอง, ผม, หน้าผากและต่อมใต้สมอง

นอกจากนี้ก็ยังบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าชาตา โดยการวิเคราะห์อิทธิพลของโยคเกณฑ์ต่างๆ ของดาวเคราะห์ที่สัมพันธ์กับราศี  ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าใจบุคลิกภาพและสุขภาพของเจ้าชาตาว่าเข้มแข็ง หรืออ่อนแอ หากราศีนี้ถูกดาวบาปเคราะห์เบียนให้โทษเจ้าชาตาอาจไม่แข็งแรง หรืออาจมีปัญหากับอวัยวะดังที่ได้กล่าวแล้ว  แต่หากราศีเมษนี้เป็นลัคนาของเจ้าชาตาด้วย บุคคลนั้นจะมีผิวสีแดง มีโรคประจำตัวคืออาการปวดศีรษะ และมีการบาดเจ็บเล็กๆน้อย เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ราศีพฤษภ

นับเป็นราศีลำดับที่ 2 ของจักราศี ซึ่งบ่งบอกถึงใบหน้า, จมูก, คอ, ปาก, ลิ้น, ฟัน, ดวงตา, กระดูกใบหน้า, คอด้านบน,  กล่องเสียง, หลอดลม, กล่องเสียง, คอและต่อมทอนซิล เป็นต้น เมื่อราศีนี้บ่งบอกถึงอวัยวะต่างๆบนใบหน้า หากเมื่อมีดาวเคราะห์ให้โทษสถิตย์อยู่ในราศีนี้ จะบ่งบอกว่าเจ้าชาตามีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับฟันและดวงตา 

ราศีมิถุน

เป็นราศีลำดับที่ 3ของจักราศี เป็นสัญลักษณ์บ่งถึง ช่วงคอ,ไหล่,แขน,มือ,หู,กระดูกต้นคอ,ต่อมไทรอยด์,ระบบทางเดินหายใจและระบบประสาท ฯลฯ หากมีดาวร้ายมีโยคเกณฑ์ถึงราศีนี้ หรือสถิตย์ในราศีนี้ เจ้าชาตาจะปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ เช่น โรคหืดหอบ นอนกรน ปัญหาการหยุดหายใจในขณะหลับ

ราศีมิถุนหากเป็นเรือนที่ 3 ของชาตาใดใด ซึ่งเรือนที่ 3 นี้เป็นตัวแทนแห่งความกล้าหาญ และการสื่อสารทุกชนิด หากมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารเราสามารถดูได้จากเรือนที่ 3 นี้ เช่น อาการหูหนวก หูไม่ได้ยินเสียง

ราศีกรกฏ

นับเป็นราศีลำดับที่ 4 ของจักรราศี ซึ่งราศีนี้มีดาวจันทร์เป็นเกษตรเจ้าเรือน ซึ่งบ่งบอกถึง ซี่โครง, หัวใจ, หน้าอก, เลือด, ปอดและเต้านม ซึ่งราศีนี้มีความสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับด้านจิตวิทยาของเจ้าชาตา  ซึ่งบ่งบอกถึงความสุขและความทุกข์ภายในใจ ดังนั้นหากราศีนี้ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายใดใดจากดาวบาปเคราะห์ก็อาจบ่งบอกถึงความไม่พอใจในชีวิตของเจ้าชาตา

ราศีสิงห์

เป็นราศีลำดับที่ 5ของจักราศี ซึ่งมีดาวอาทิตย์เป็นเกษตรเจ้าราศี ราศีนี้โดยทั่วไปหมายถึงท้องส่วนบน ช่วงใต้ราวนมลงมา , กระเพาะอาหาร, ถุงน้ำดี, ตับอ่อน, ม้าม, ลิ้นปี่, ลำไส้ใหญ่, กระดูกสันหลังและไขสันหลัง และราศีนี้ยังเกี่ยวข้องกับความสามารถในการคลอดบุตรอีกด้วย

ราศีกันย์

เป็นราศีลำดับที่ 6 แห่งจักราศี ซึ่งมีดาวพุธเป็นเกษตรเจ้าเรือน ราศีนี้หมายถึงบั้นเอว, สะดือ, ช่องท้องส่วนล่าง, ไต, ลำไส้เล็ก, ส่วนบนของลำไส้ใหญ่, ตับ, การทำงานของลำไส้และไส้ติ่ง หากดางพุธเกษตรเจ้าราศีอยู่ลักษณะเป็นอัสตะหรือดาวดับเพราะรัศมีของอาทิตย์ (อยู่ภายใน 14 องศาหน้าหลังกับดาวอาทิตย์ขณะโคจรปกติ และภายใน 12 องศาขณะพักร) เจ้าชาตามักจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะ การย่อยอาหารและทางเดินอาหาร

ราศีตุลย์

เป็นราศีลำดับที่ 7ของจักราศี ซึ่งมีดาวศุกร์เป็นเกษตรเจ้าเรือน ราศีนี้บ่งชี้ถึงอวัยวะสืบพันธุ์ ,อุ้งเชิงกราน, บริเวณเอว, ลำไส้ใหญ่, กระเพาะปัสสาวะ, รังไข่, มดลูก, ปากมดลูก, อัณฑะและต่อมลูกหมากเป็นต้น

ราศีพิจิก

เป็นราศีลำดับที่ 8 ของจักราศี ซึ่งมีดาวอังคารเป็นเกษตรเจ้าราศี ราศีนี้บ่งบอกถึงความลึกลับ ซ่อนเร้น หากเรือนที่ 8 ของชาตาใดใดถูกโยคเกณฑ์ร้าย หรือถูกเบียน เจ้าชาตาอาจมีปัญหาบางอย่างซึ่งอาจไม่สามารถวินิจฉัยได้ ราศีนี้จึงหมายถึงถุงอัณฑะ, ทวารหนัก, อวัยวะเพศ(ภายนอก), อวัยวะขับถ่าย, กระดูกเชิงกราน, ฯลฯ

ราศีธนู

เป็นราศีลำดับที่ 9 ของจักรราศีซึ่งมีดาวพฤหัสบดีเป็นเกษตรเจ้าราศี และเป็นตัวแทนบ่งบอกถึง ต้นขา, ขาซ้าย, กระดูกต้นขา, ไขกระดูก, สะโพก, ข้อต่อสะโพกและเส้นเลือดแดง และราศีนี้ทำหน้าที่ส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงทั่วทั้งร่างกาย อาการป่วยเป็นอัมพาตจะแสดงให้เห็นได้จากราศีนี้

ราศีมังกร

เป็นราศีลำดับที่ 10 มีดาวเสาร์เป็นเกษตรเจ้าเรือน ราศีนี้ควบคุมหัวเข่า,กระดูกสะบัก,ข้อต่อและกระดูกทั่วทั้งร่างกาย  หากดาวเสาร์ถูกเบียนอาจบ่งบอกถึงปัญหาบางอย่างกับกระดูก เมื่อดาวเสาร์อ่อนกำลังผู้นั้นจะมีอาการปวดข้อ ถ้าดาวเสาร์สถิตย์ในเรือนที่ 6 แสดงว่าเจ้าชาตาจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง

ราศีกุมภ์

เป็นราศีลำดับที่ 11มีดาวเสาร์เป็นเกษตรเจ้าเรือนเช่นกับราศีมังกร ราศีนี้ควบคุมข้อเท้า,ขาขวา,หูซ้ายและแขนซ้าย และเป็นราศีแห่งการรู้แจ้งหรือโมกษะ  ดังนั้นราศีนี้ยังบ่งบอกถึงความสามารถในการรู้สภาวะจิตของบุคคล และหากดาวเสาร์อ่อนกำลังแสดงว่าเจ้าชาตาจะได้รับบาดเจ็บที่ขาหรือหัวเข่า

ราศีมีน

เป็นราศีลำดับที่ 12 เป็นราศีสุดท้ายของจักรราศี มีดาวพฤหัสเป็นเกษตรเจ้าเรือนและเป็นราศีแห่งการรู้แจ้งหรือโมกษะ   และยังเป็นเรือนแห่งจิตวิญญาณ การหลุดพ้น และความรู้เชิงนามธรรม ราศีนี้ควบคุม ดวงตาข้างซ้ายร,ะบบน้ำเหลืองและเท้า หากดาวพฤหัสบดีถูกเบียน เจ้าชาตาจะมีปัญหาที่เท้า