
กาลปุรุษ กุณฑลี - ราศีกับกายวิภาคของมนุษย์
ในการศึกษาโหราศาสตร์ พวกเรามักจะเคยเห็นรูปคนนอนแล้วก็เห็นสัดส่วนสรีระโค้งไปตามรูปจักราศี เพื่อต้องการที่จะอธิบายว่า จักรราศีสัมพันธ์กับกายวิภาคของมนุษย์เราอย่างไร แต่นั่นคือรูปแบบของโหรตะวันตก ส่วนโหราศาสตร์อินเดียหรือโหราศาสตร์ไทยก็มีรูปแบบ ราศี-กายวิภาค เช่นกันและไม่ได้ต่างกันเลย
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจักราศีของโหรตะวันตก(ระบบสายนะ) กับโหรอินเดียหรือโหรไทย(นิรายนะ) กลับไม่ตรงกันและเหลื่อมกันกว่า 24 องศา (ค่าอายนางศะ) ดังนั้น ราศีเมษ “ศีรษะ” ของระบบสายนะ ก็จะกลายเป็นราศีมีนหรือ”เท้า”ของระบบนิรายนะ แต่บทความต่อไปนี้ไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบความแตกต่างกันของ 2 ระบบ แต่ต้องการที่จะอธิบายเรื่องของจักราศีที่สัมพันธ์กับกายวิภาคของมนุษย์ ตามหลักโหราศาสตร์พระเวทอย่างเดียว ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีแนวคิดอย่างไรหรือมีปรัชญาอะไรแฝงอยู่
พวกเราเคยสงสัยกันบ้างไหมว่า จักรวาลเบื้องบน สามารถสะท้อนชะตาชีวิตของพวกเราได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็น ราศี นักษัตร ดาวเคราะห์ และพลังแสงสีจากจักรวาล ไม่ใช่แค่แต่ทำหน้าที่ส่องแสงสว่างอยู่บนท้องฟ้าเท่านั้น แต่กลับมีอิทธิพลต่อชะตาชีวิตของเรา แม้กระทั่งอารมณ์ การตัดสินใจ และแม้แต่ความพลิกผันเล็กๆ น้อยๆ ของโชคชะตาของเรา ล้วนตกอยู่ภายใต้อิทธิพลบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในจักรวาล
นั่นก็คืออิทธิพลของสิ่งที่เรียกว่า “กาลปุรุษ กุณฑลิ” หรือ “กายทิพย์จักรวาล” ซึ่งเป็นผู้เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างออกมา และเป็นแม่แบบ”บุรุษแห่งจักรวาล”ที่เป็น หัวใจสำคัญของโหราศาสตร์พระเวท
กาล ปุรุษ กุณฺฑลิ (काल पुरुष कुण्डली) หรือ ผังจักรวาล ของโหราศาสตร์พระเวท เป็น “แม่แบบ”ซึ่ง เรือนที่ 1 จะเริ่มต้นด้วย ราศีเมษ เสมอ และเรียงลำดับไปจนถึง ราศีมีน ในเรือนที่ 12 กล่าวง่าย ๆ โครงสร้างนี้ “ไม่เคยเปลี่ยน” ต่างจากดวงชะตากำเนิดของแต่ละบุคคลที่แปรเปลี่ยนไปตาม สถานที่ เวลา และสถานที่เกิด
กาล ปุรุษ กุณฺฑลิ หรือ ผังจักรวาล เกิดขึ้นเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง มิติแห่งเวลา และ ชีวิตในจักรวาล ดังที่คัมภีร์เวทกล่าวว่า (यथा पिण्डे तथा ब्रह्माण्डे– ยถา ปิณฺเฑ ตถา พฺรหมาณฺเฑ) “สิ่งที่ปรากฏในเรือนร่างมนุษย์ คือสิ่งเดียวกับที่เกิดในจักรวาล” ดังนั้นราศีจึงเปรียบเสมือน อวัยวะแห่งกายทิพย์ ของกาลปุรุษ และเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับทุกสรรพชีวิตในจักรวาล
“กาลปุรุษ ” คำนี้มีความหมายลึกซึ้งมาก คำว่า "กาละ" หมายถึงเวลา และ "ปุรุษะ" หมายถึงสรรพสิ่งในจักรวาลหรือตัวตนที่แท้จริงของจักรวาล เมื่อนำมารวมกันแล้ว ก่อให้เกิดภาพลักษณ์เป็นกายทิพย์ของ”ปุรุษแห่งจักรวาล” ซึ่งสถิตอยู่เหนือกาลเวลา อยู่บนเทห์ฟากฟ้าและสัมพันธ์กับระบบจักรราศีทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ในดวงชะตากายทิพย์แห่งจักรวาลนี้ แสดงถึงราศีที่สัมพันธ์กับกายวิภาคของมนุษย์ เช่น ราศีเมษหมายถึงศีรษะ ราศีพฤษภหมายถึงลำคอ ราศีเมถุนหมายถึงแขน เรียงลำดับไปเรื่อยๆ ดังนี้ เป็นต้น
โดยแต่ละราศีสัมพันธ์กับส่วนใดส่วนหนึ่งของกายทิพย์ของ “กาลปุรุษ ” ส่วนเรือนชะตาทั้งสิบสองเรือนก็สะท้อนมิติต่างๆ ของตัวเราและสรรพชีวิต
และอะไรที่ทำให้ กายทิพย์จักรวาล หรือ“กาลปุรุษ กุณฑลิจักร” มีความสำคัญ ก็เพราะมันเป็นพลังของสากลจักรวาลอันยิ่งใหญ่อันไร้ขอบเขต แต่กลับละเอียดลึกซึ้งเชื่อมโยงเข้าถึงความเป็นตัวเราที่มีขนาดเท่าผลธุลี
แม้ว่าดวงชะตาของเราแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ “กาลปุรุษ กุณฑลิจักร” ก็ยังคงที่อยู่เสมอ และคอยชี้แนะเรา เพื่อการวางรากฐานสำหรับ การทำความเข้าใจอิทธิพลของดาวเคราะห์ บทเรียนแห่งกรรม และการเดินทางของชีวิต ผ่านความหมายของ “กาลปุรุษ กุณฑลิจักร”

“กาลปุรุษ”: กับโครงสร้างของสรรพชีวิต
ในคัมภีร์โหราศาสตร์พระเวท (ज्योतिष โชติษ) ได้กล่าวถึงมนุษย์จักรวาลผู้หนึ่ง มีนามว่า กาล ปุรุษ(काल पुरुष)
หมายถึง “กาลเวลาในรูปลักษณ์แห่งกายทิพย์” “กาละ” คือ กาลเวลา หรือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง
“ปุรุษะ” คือ ภาวะตัวตนแท้จริง หรือ อาตมัน ที่ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์
ความสำคัญ ของกาลปุรุษ กุณฑลี
“กาลปุรุษ กุณฑลีจักร” ไม่ใช่แค่แผนภูมิจักรราศีธรรมดาๆ แต่มันคือแกนหลักของโหราศาสตร์พระเวท โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญหลายประการ ดังนี้
1. รากฐานของโหราศาสตร์ แผนภูมิราศีจักรทุกแผนภูมิ หรือในทุก”วรรค” เช่น ราศี นวางศ์ ตรียางค์ ฯลฯล้วนตั้งอยู่บนหลักการของ”กาลปุรุษ กุณฑลีจักร” ซึ่งเป็นแบบแผนเพื่อทำความเข้าใจว่าราศีและดาวเคราะห์มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมมนุษย์อย่างไร
2. ความเชื่อมโยงระหว่างร่างกายและจักรราศี ราศีแต่ละราศีควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกายในกายทิพย์ของกาลปุรุษ ซึ่งจะช่วยให้นักโหราศาสตร์ สามารถพยากรณ์ ลักษณะรูปพรรณสัณฐานของอวัยวะต่างๆ ทั้งภายในภายนอกร่างกาย รวมถึงการพยากรณ์ โรคภัย ตำหนิ ความพิกลพิการ ฯลฯ ของอวัยวะต่างๆ และช่วยให้เข้าใจถึงกายวิภาคศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับโหราศาสตร์
3. บทเรียนแห่งกรรมและธรรมะ ความหมายของเรือนทั้ง12 เรือนของกุณฑลีจักร เป็นสัญลักษณ์ของแง่มุมต่างๆ ของชีวิต ตั้งแต่ความมั่งคั่งและความสัมพันธ์ไปจนถึงจิตวิญญาณ แผนภูมินี้สะท้อนการเดินทางของจิตวิญญาณ และช่วยให้เราเข้าใจกฏแห่งวัฏจักรของกรรมและจุดมุ่งหมายในชีวิต
4. อิทธิพลของดาวเคราะห์กับโลก กาลปุรุษ กุณฑลี มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาการโคจรของดาวเคราะห์และผลกระทบต่อชีวิต ดวงชะตา ของแต่ละบุคคล และปรากฏการณ์ต่างๆบนโลก

กายวิภาค ของกาลปุรุษ กุณฑลี
กายทิพย์ของกาลปุรุษ ถูกจำลองเป็นแบบจำลองบน จักรราศี และ ดวงชะตากำเนิด (जन्मकुण्डली ชนมกุณฺฑลิ)โดยจักรราศีทั้ง 12 ราศี คือ อวัยวะแห่งกายทิพย์ ของกาลปุรุษ และในแง่มุมที่น่าอัศจรรย์ที่สุดของกาลปุรุษ กุณฑลี คือการเชื่อมโยงร่างกายมนุษย์เข้ากับราศีต่างๆ อย่างคล้องจองกันราวกับบทกวี ที่แต่ละราศีสัมพันธ์กับส่วนใดส่วนหนึ่งของจักรวาล:
1. ราศีเมษ (ศีรษะ) ในฐานะศีรษะของกาลปุรุษ ราศีเมษเป็นตัวแทนของความเป็นผู้นำ ความกล้าหาญ และประกายแห่งชีวิต ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการริเริ่มและบุกเบิกเส้นทางใหม่ๆ
2. ราศีพฤษภ (ลำคอ) ราศีพฤษภควบคุมลำคอ เป็นสัญลักษณ์ของการสื่อสาร ความรู้สึก และสิ่งที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือความสัมพันธ์
3. ราศีเมถุน (แขนและไหล่) ราศีเมถุนถูกควบคุมโดยดาวพุธ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวและปฏิสัมพันธ์ ซึ่งความหมายของแขนและไหล่ หมายถึง ความเป็นคู่ ความอยากรู้อยากเห็น และสติปัญญา
4. ราศีกรกฎ (หน้าอกและหัวใจ) ราศีกรกฎควบคุมหน้าอกและหัวใจ ทำให้เป็นศูนย์กลางของอารมณ์และความสัมพันธ์ในครอบครัว ราศีนี้ให้การดูแล ปกป้อง และมีอ่อนไหวอย่างมารดาที่มีต่อบุตร
5. ราศีสิงห์ (กระเพาะอาหารและช่องท้อง) ราศีสิงห์ควบคุมกระเพาะอาหารและช่องท้อง ซึ่งเป็นที่ที่ความมั่นใจและความคิดสร้างสรรค์ตั้งอยู่ ซึ่งราศีมีดาวอาทิตย์เป็นเจ้าเรือน จึงเป็นเสมือนธาตุไฟหรือในท้องของเรา สร้างพลังขับเคลื่อน สร้างความทะเยอทะยานและการแสดงออกอย่างมั่นใจในตัวเอง หากพลังธาตุไฟอ่อนความมั่นใจในตัวเอง และความทะเยอทะยาน ฯลฯ ก็จะลดลง
6. ราศีกันย์ (ช่องท้องและลำไส้) เป็นควบคุมระบบย่อยอาหาร ราศีกันย์เป็นสัญลักษณ์ของความแม่นยำ ความรอบคอบ และความสามารถในการย่อยและประมวลผล ทั้งอาหารและความคิด
7. ราศีตุลย์ (ช่องท้องส่วนล่างและไต) ราศีตุลย์ สัญลักษณ์แห่งความสมดุล ควบคุมไตและช่องท้องส่วนล่าง สะท้อนถึงความสามัคคี ความสัมพันธ์ และความสมดุล
8. ราศีพิจิก (อวัยวะสืบพันธุ์) ราศีพิจิกควบคุมอวัยวะสืบพันธุ์ และเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง ความหลงใหล และความลึกลับของชีวิต และความตาย
9. ราศีธนู (ต้นขา) ราศีธนูควบคุมต้นขา เป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหว การสำรวจ และการแสวงหาความรู้ขั้นสูงและจิตวิญญาณ
10. ราศีมังกร (หัวเข่า) ราศีมังกรควบคุมหัวเข่า เป็นสัญลักษณ์ของโครงสร้าง วินัย และความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของชีวิต รวมถึงความสามารถในการงาน
11. ราศีกุมภ์ (น่องและข้อเท้า) ราศีกุมภ์ควบคุมน่องและข้อเท้า สะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรม ความก้าวหน้า และอุดมคติ
12. ราศีมีน (เท้า) ราศีมีนควบคุมเท้า ซึ่งเป็นรากฐานของร่างกาย เป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ สัญชาตญาณ และการเดินทางสู่การหลุดพ้นอย่างสูงสุด(โมกษะ)
ความหมายของเรือนชะตา ในกาลปุรุษ กุณฑลี
เรือนสิบสองในกาลปุรุษ กุณฑลี ทำหน้าที่เป็นแผนที่นำทางสำหรับมิติต่างๆ ของชีวิต นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ของความสำคัญของเรือนเหล่านี้:
1. เรือนที่ 1 (ลัคนา/ลัคนา) เรือนที่ 1 เชื่อมโยงกับราศีเมษ แสดงถึงอัตลักษณ์ส่วนบุคคล รูปลักษณ์ภายนอก และความมีชีวิตชีวาโดยรวม
2. เรือนที่ 2 เรือนนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของราศีพฤษภ เกี่ยวข้องกับความมั่งคั่ง วาจา และครอบครัว
3. เรือนที่ 3 เชื่อมโยงกับราศีเมถุน แสดงถึงการสื่อสาร พี่น้อง และการเดินทางระยะสั้น
4. เรือนที่ 4 เรือนนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของราศีกรกฎ เป็นสัญลักษณ์ของบ้าน แม่ และความมั่นคงทางอารมณ์
5. เรือนที่ 5 เชื่อมโยงกับราศีสิงห์ แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ เด็กๆ และการแสวงหาความรู้
6. เรือนที่ 6 อยู่ภายใต้อิทธิพลของราศีกันย์ เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การงาน และความท้าทาย
7. เรือนที่ 7 เชื่อมโยงกับราศีตุลย์ หมายถึงการแต่งงาน ความสัมพันธ์ และสัญญา
8. เรือนที่ 8 เรือนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของราศีพิจิก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลง มรดก และเรื่องราวที่ซ่อนเร้น
9. เรือนที่ 9 เชื่อมโยงกับราศีธนู สะท้อนถึงจิตวิญญาณ การเรียนรู้ขั้นสูง และการเดินทางไกล
10. เรือนที่ 10 เรือนนี้เชื่อมโยงกับราศีมังกร แสดงถึงอาชีพ ชื่อเสียง และสถานะทางสังคม
11. เรือนที่ 11 เชื่อมโยงกับราศีกุมภ์ เกี่ยวข้องกับความปรารถนา มิตรภาพ และผลประโยชน์
12. เรือนที่ 12 เชื่อมโยงกับราศีมีน เป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ ความโดดเดี่ยว และการปลดปล่อย
การประยุกต์ใช้ กาลปุรุษ กุณฑลี ในโหราศาสตร์
1. การทำนายสุขภาพ นักโหราศาสตร์ใช้ กาลปุรุษ กุณฑลี เพื่อทำนายปัญหาสุขภาพโดยการเชื่อมโยงราศีกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น ดาวเคราะห์ร้ายในราศีเมษอาจบ่งบอกถึงอาการปวดหัวหรือปัญหาเกี่ยวกับศีรษะ
2. การทำความเข้าใจรูปแบบชีวิต “ดวงชะตา” หรือในภาษาโหราศาสตร์พระเวทเรียกว่า”กุณฑลี” ทำหน้าที่เป็นแนวทางในการทำความเข้าใจรูปแบบชีวิต ความท้าทาย และโอกาสต่างๆ ของบุคคลโดยอิงจากตำแหน่งของดาวเคราะห์
3. พยากรณ์แนวโน้มโลกในระดับมหภาค กาลปุรุษ กุณฑลี ช่วยทำนายเหตุการณ์และแนวโน้มของโลก เหตุการณ์บ้านเมือง หรือดวงเมือง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ภูมิกาศ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งเป็นพื้นฐานของโหราศาสตร์ดวงเมือง
4. การวิเคราะห์ทศาและการโคจร แผนภูมินี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทศา (ช่วงเวลาดาวเสวยอายุ) และความสัมพันธ์กับโคจรของดาวเคราะห์(ดาวจร) เพื่อพิจารณาอิทธิพลที่มีต่อเรือนชะตาและแง่มุมต่างๆ ของชีวิต
5. พิจารณาคู่สมพงศ์ ดวงชะตา หรือ กุณฑลี มักถูกนำไปการวิเคราะห์ความเข้ากันได้ในเรื่องความสัมพันธ์ ความปรองดอง ความรักใคร่ ความสมพงศ์กัน ไม่ว่าทางดีหรือร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาดวงคู่สมรส และพยากรณ์ชีวิตสมรส
มิติทางจิตวิญญาณของกาลปุรุษ กุณฑลี
ในระดับจิตวิญญาณ กาลปุรุษ กุณฑลี เตือนเราถึงการออกแบบอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล สอนให้เรามองชีวิตเป็นชุดของเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงถึงกัน โดยที่ทุกความท้าทายล้วนมีจุดมุ่งหมาย ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความทุกข์ ก็ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างจักรวาลที่ยิ่งใหญ่
และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้ตระหนักว่า เราไม่ได้เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยว แต่เป็นเพียงภาพสะท้อนของจักรวาล กาลปุรุษ กุณฑลี สั่งสอนให้เราปรับตัวให้เข้ากับจังหวะของจักรวาลนี้ เพื่อการเจริญเติบโต ความสมดุล และการหลุดพ้นในระดับสูงสุด
บทสรุป กาลปุรุษ กุณฑลี เป็นมากกว่าแค่แผนผังดวงชะตา แต่เป็นประตูสู่การทำความเข้าใจความลึกลับของชีวิต เป็นสะพานเชื่อมระหว่างประสบการณ์ของมนุษย์และจักรวาลอันกว้างใหญ่ เตือนเราถึงสถานะของเราในกฎเกณฑ์ของจักรวาล ไม่ว่าเรากำลังเผชิญกับความท้าทายในชีวิตหรือแสวงหาการเติบโตทางจิตวิญญาณ กุณฑลี นี้เปรียบเสมือนคู่มือที่อยู่เหนือกาลเวลา
อ่านเพิ่มเติม เจาะลึกราศีจักร ตอน 16 ราศีกายวิภาค
*******************************
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดยอาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.ความรู้พื้นฐาน-โหราศาสตร์พระเวท : https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-29-18.html
3.บทเรียน-โหราศาสตร์พระเวท : https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo)
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
