Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

ความหมายของฤกษ์ทั้ง ๙

หลายๆ ท่านเมื่อได้รับใบฤกษ์จากอาศรม มักจะอีเมล์กลับมาถามบ่อย ๆว่าฤกษ์ต่าง ๆที่อยู่ในใบฤกษ์ คืออะไร ดีอย่างไร ซึ่งตอนนี้จะได้อธิบายพอให้เข้าใจง่ายๆดังนี้ (สำหรับดวงชาตาให้ดูที่จันทร์เสวยฤกษ์อะไรในดวงชาตาเป็นหลัก) ซึ่งฤกษ์ทั้ง 9 นี้คำนวณมากจากดาวฤกษ์ 27 นักษัตร กรุณาอ่าน ดวงชาตาภายใต้อิทธิพลของ 27 นักษัตร

ซึ่งสามารถใช้ทำนายดวงชะตาได้แบบคร่าวๆเท่านั้น และมีผลแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ว่าเห็นดวงเราจันทร์หรือลัคนาเป็นโจโรฤกษ์ก็ตกใจ  หรือเป็นราชาฤกษ์แล้วก็ดีใจ ว่าดวงดี แบบนี้ไม่ใช่นะครับ เพราะข้อมูลดวงชะตาและฤกษ์นี้มีไว้สำหรับให้โหรใช้ประกอบการทำนายผสมกับเงื่อนไขอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งการทำนายดวงชะตาของโหร จะประกอบด้วยหลักใหญ่ๆดังนี้

( 1.)ลัคนา (2.) ดาวเคราะห์ทั้ง 9 (3.)ราศีทั้ง 12 ราศี (4.)นักษัตรฤกษ์ทั้ง 27 นักษัตร (5.) ตรียางค์ทั้ง 24 ตรียางค์ (6.) นวางศ์ทั้ง 108 ลูกนวางศ์ (7.)วันทั้ง 7 ในสัปดาห์ (8.) ดิถีขึ้น-แรม (9.)เรือนชะตาทั้ง 12 เรือน ฯลฯ

ซึ่งทั้งหมดนี้โหรต้องนำมาคำนวณทั้งหมด เช่น  คำนวณองศาลิปดา กำลังของดาวเคราะห์และเรือนชาตา (ษัฑพละ)องศาระยะเชิงมุม โยคเกณฑ์ดี-ร้ายต่างๆ ดาวคู่มิตร คู่ศัตรู การส่งเสริมและหักล้างกันของดาวเคราะห์ต่างๆ อีกทั้งต้องคำนวณทั้งดาวในพื้นดวงเดิมและดาวจรในขณะนั้นๆ แล้วจึงออกคำทำนายหรือพยากรณ์ดวงชะตา หากเป็นฤกษ์ยามก็ต้องคำนวณ “กฎเกณฑ์การให้ฤกษ์”เพิ่มเข้าไปอีกและต้องสมพงศ์กับดวงชะตาของเจ้าการและประเภทของงานที่จะต้องใช้ฤกษ์

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเป็นโหร ไม่ใช่เรื่อง่ายๆ อีกทั้งต้องเรียนศึกษาและมีประสบการณ์มากกว่า 10-20 ปี จึงจะพอเชื่อถือได้ ไม่เหมือนปัจจุบันไปเรียนวิชาโหรแค่ 6 เดือนก็ออกมาตั้งตนเป็นอาจารย์แล้ว

1. ทลิทโทฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ชนมะ (นักษัตรที่ ๑,๑๐,๑๙)

ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้ขอ มีดาวเกตุเป็นดาวเจ้าฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการเริ่มต้นของสิ่งต่าง ๆ เพราะเป็นฤกษ์อันดับแรกของจักราศี และเป็นฤกษ์ประเภทบูรณะฤกษ์ หรือฤกษ์เต็มครบทั้ง ๔ บาทฤกษ์ ถือว่าจะให้ความราบรื่น ปราศจากอุปสรรคขัดขวาง จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น  การขอหมั้น ขอแต่งงาน ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ การทำการใด ๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา มีความเมตตา เกิดเสน่ห์ มหานิยม คนนิยมชมชอบ เปิดร้านขายของ  สมัครงาน ทำการใด ๆ ที่ริเริ่มใหม่ คนที่ไม่รู้โหราศาสตร์มักไปแปลผิดๆว่าเป็นฤกษ์ยาจก ขอทาน คนเข็ญใจ ซึ่งไม่ถูกต้อง หากเป็นฤกษ์ขอทานแล้ว โบราณจะใช้ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์สู่ขอลูกสาวชาวบ้านได้อย่างไร ใครจะยกลูกสาวให้ยาจกคนเข็ญใจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ความจริงฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ที่ให้คนเมตตา รักใคร่ ขออะไรก็ได้ แม้แต่ลูกสาวของคนอื่นซึ่งถือว่ามีค่ามากที่สุดของครอบครัวนั้น ๆ ฤกษ์ นี้มีดาว เกตุ (๙) เป็นดาวเจ้าฤกษ์ จะให้คุณแก่ดวงฤกษ์ตามลักษณะและความหมายด้านดีของดาวเกตุ (เกตุนี้เป็นเกตุ คำนวณแบบอินเดีย ไม่ใช่ดาวเกตุแบบไทย)

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนที่มีเสน่ห์มีคนรักใคร่นิยมชมชอบ เป็นคนที่ชอบริเริ่มอะไรใหม่ๆ ชอบงานท้าทาย เป็นคนมีความสามารถสูง อาชีพเด่นคือ ค้าขาย ครู รับราชการ นักวิจัย งานเกี่ยวกับฟ้า อิเลคทรอนิกส์ ฯลฯ มีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ชีวิตบั้นปลายจะมีความสุขมาก

2. มหัทธโนฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่าสมบัติ

มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่าง ๆ ทุกอย่าง เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจด้านบัญชี  การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน เปิดร้านค้าต่าง ร้านแลกเงิน ร้านขายทอง  ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคลที่ต้องการความร่ำรวยมีเงินทอง ทรัพย์สินมากมาย  ฤกษ์นี้มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ก็จะเด่นในเรื่องความรัก เพศสัมพันธ์ กิจการสถานบันเทิง ดนตรี ศิลปะ เสื้อผ้า ของแต่งกาย การตกต่าง งานออกแบบ ร้านอาหาร ธุรกิจด้านความงาม ร้านเสริมสวย ก็จะเด่นมากขึ้นไปอีก

สำหรับคนที่เกิดเสวยฤกษ์นี้ จะมีรูปร่างหน้าตาดี มีวาทศิลป์ เด่นในเรื่องงานทางด้านศิลปะ การออกแบบ ตกแต่ง ตนตรี มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข ไม่ค่อยมีทุกข์ร้อน มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย

3. โจโรฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า วิบัติ

โจโรฤกษ์ แปลว่าผู้ช่วงชิง (ไม่ใช่แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย) ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีดาวอาทิตย์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์"  คือ ฤกษ์ไม่เต็มบาท มักไม่ใช้เป็นฤกษ์มงคล แต่เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ข่มขวัญ บีบบังคับ ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจและผลประโยชน์ งานเสี่ยงๆ ในระยะสั้นๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบแบบใช้กำลัง  ในบางกรณีหากต้องการ ช่วงชิงแข่งขัน ในการธุรกิจ การกีฬา การเอาชนะในทุกรูปแบบ ก็มักจะใช้ฤกษ์นี้ เป็นฤกษ์ประกอบการ แต่โหรมักไม่ให้ฤกษ์นี้แก่ใครง่ายๆ นอกจากจะเป็นเรื่องที่สำคัญต่อบ้านเมือง เช่นการให้ฤกษ์ทำการปฏิวัติ รัฐประหาร  ก็มักใช้ฤกษ์นี้

สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนที่มีอำนาจในตัวเอง มีความสามารถในด้านการแข่งขัน การช่วงชิงเอาชนะ อาชีพเด่นคือ นักธุรกิจ นักกีฬา งานที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ นักการทหาร นักปกครอง และคนที่รวยมาก ๆระดับประเทศก็มักเกิดฤกษ์นี้แต่ก็ต้องมีชีวิตในบางช่วงที่ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย คนเกิดในฤกษ์นี้มักเด่นในด้านชื่อเสียงและทรัพย์สิน

4. ภูมิปาโลฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า เกษม

ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน มีดาวจันทร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่าง ๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร งานเกี่ยวกับที่ดิน น้ำ หรือต้องการมวลชนมาก ๆ เมตตามหานิยม ธุรกิจการเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้าง ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท  เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทำได้หมด ฤกษ์นี้มีดาวจันทร์ครองเป็นเจ้าฤกษ์ ดังนั้น ธุรกิจที่ข้องกับดาวจันทร์ก็คือ ธุรกิจทางน้ำ สื่อสารมวลชน ความงาม โฆษณาประชาสัมพันธ์ ก็จะเด่นมากขึ้น

สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนที่มีอำนาจในตัวเอง มียศศักดิ์และฐานะดี มีธุรกิจเป็นของตนเอง จิตใจเมตตากรุณา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อาชีพเด่นในทางนักปกครอง นักการเมือง นักแสดง หรือ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็จะดี

5. เทศาตรีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรัตยุระ

เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า ข้ามท้องถิ่น หรือ สามแผ่นดิน ผู้ท่องเที่ยว (คนแปลผิดเป็น ฤกษ์หญิงแพศยา)  บางคราเรียกว่า "เวสิโยฤกษ์"  หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า มีดาวอังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศี พฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มกรกับกุมภ์ เป็น  ภินทฤกษ์ ความหมายจริงของฤกษ์นี้ก็คือ “ฤกษ์สามถิ่น(ประเทศ)” เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการติดต่อการค้าระหว่างถิ่น งานด้านต่างประเทศ ต่างชาติ ภาษาต่างประเทศ กิจการทัวร์ ธุรกิจนำเข้า ส่งออก  ธุรกิจเกี่ยวกับความสนุกสนานชักชวนคนเข้าออกมากหรือธุรกิจที่ไม่จำกัดชนชั้น วรรณะ ไม่จำกัดคนรวย คนจน ทุกคนสามารถมาใช้ได้เสมอกันหมด  เช่น เปิดโรงมหรสพ ร้านอาหาร สถานเริงรมย์ โรงแรม โรงหนัง ตลาดและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพเดินทาง นวดแผนโบราณ กิจการแพทย์ โรงพยาบาล และอาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ ฤกษ์นี้มีดาว อังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์ กิจการที่เป็นด้านอุตสาหกรรม เครื่องยนต์กลไก การซ่อมแซม อุตสาหกรรมเหล็ก โลหะ เครื่องจักร การก่อสร้าง ยานยนต์ก็จะมีผลดีเป็นพิเศษ

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย เรียนรู้ได้หลายภาษา มีเสน่ห์แรง มักได้ทำงานเกี่ยวกับการเดินทาง หรือเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ มีทรัพย์สินที่ดินบ้านช่องมากมายหลายแห่ง แต่ชีวิตในบางช่วงก็ต้องตกระกำลำบากหรือต้องย้ายถิ่นฐานบ้านช่องอยู่เสมอๆ   หากอยู่ต่างถิ่นก็จะเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยดีกว่าถิ่นกำเนิดของตัวเอง คนเกิดในฤกษ์นี้มักเด่นในด้านชื่อเสียง มีใจเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวใคร

6. เทวีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า สาธะกะ

เทวี ฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และ การสมความปรารถนา มีดาวราหูเป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานที่ต้องการความหรูหรา มีชื่อเสียง มีพลังฤกษ์ที่นุ่มนวลอ่อนช้อยดุจเทวี การเจรจาสู่ขอ งานแสดง งานนิทรรศการ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าสาวและเข้าห้องหอ การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า  สารพัดงานมงคลทั้งปวงสามารถใช้ฤกษ์นี้ได้

ฤกษ์นี้มีดาว ราหูเป็นเจ้าฤกษ์ แสดงถึงความลุ่มหลง หลงใหล มีเสน่ห์ และให้คุณเป็นพิเศษแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกับ ต่างชาติ ต่างภาษา ร้านอาหาร บาร์ไนต์คลับ สุรายาเมา  และบ่อนการพนัน

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนาดี ทำอะไรมักมีคนคอยช่วยเหลือ มีชีวิตที่สงบสุขและสุขสบาย ไม่เดือดร้อน แต่มักชอบลุ่มหลงอะไรง่ายๆ มีชื่อเสียงดี อาชีพเด่นก็คือ นักแสดง กิจการเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม อัญมณี เสื้อผ้า เครื่องประดับ ฯลฯ

7. เพชฌฆาตฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า นิธนะ

เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลว่า  ผู้ทำการตัด การแบ่ง  ไม่ใช่เพชฌฆาต ที่ไว้ฆ่าคน สมัยก่อนการลงโทษโดยการประหารชีวิตด้วยการตัดคอ มีผู้ทำการลงโทษก็เรียกว่า เพชฌฆาต ทำให้คนเข้าใจสับสน  ซึ่งศัพท์คำนี้แปลว่า “ผู้ตัด” เฉยๆ  ส่วน เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลความว่า “ฤกษ์แห่งการตัด” ไม่เกี่ยวกับการฆ่าแต่อย่างใด  มีดาวพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ตัดขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า "ตรินิเอก"  คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลโดยทั่วไป เป็น ฉินทฤกษ์ แต่เป็นฤกษ์ดีหมาะสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่าง ๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด  ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ การบวชเรียน การบำเพ็ญเพียรทางจิต การนั่งสมาธิภาวนา การศึกษาศาสตร์ลี้ลับ  ศึกษาโหราศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ ฯลฯ หรือบาทีก็เป็นฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ประดิษฐานรูปเคารพเพื่อให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์  ฤกษ์นี้มีดาวพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ก็จะให้คุณโดดเด่นทางด้านการศึกษา และการศาสนา การปฏิบัติทางจิตภาวนาเป็นพิเศษ

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนจิตใจดี มีศีลธรรม เคร่งในศาสนา เรียนรู้สิ่งต่าง ๆได้เร็ว เป็นคนเฉียบขาด ซื่อตรง ซื่อสัตย์ เกลียดชังการคดโกง  มีความกตัญญูรู้คุณ ไม่หวั่นไหวเกรงกลัวต่อสิ่งใด มีคนเคารพนับถือมาก มีการศึกษาในระดับสูงๆ อาชีพเด่น ก็คือ ครูอาจารย์ อนุศาสนาจารย์ ผู้คงแก่เรียน แพทย์ หมอ พยาบาล เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญในเครื่องจักรยนต์ กลไกต่าง ๆ

8. ราชาฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า มิตระ

ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่หกว่าฤกษ์ทั้งปวง ที่เหมาะสำหรับ  งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม  การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ แสวงหาอำนาจ บารมี การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน เปิดร้าน และกิจการงานมงคลทั้งปวง  มีบอกว่าฤกษ์นี้สามัญชนใช้ไม่ได้ อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริง และไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ คำว่าราชาฤกษ์ แปลว่า ฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าฤกษ์ทั้งหลาย เป็นราชาแห่งฤกษ์ไม่ใช่ฤกษ์ใช้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน ใคร ๆก็ใช้ได้ไม่จำกัดชนชั้นวรรณะใดใด ฤกษ์ นี้มีดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ แสดงว่าเป็นฤกษ์ที่จะให้ความมั่นคงยืนนานมากที่สุด และหากเป็นกิจการที่ข้องกับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โรงงานผลิต การก่อสร้าง งานเชิงสาธารณะ งานราชการ รัฐวิสาหกิจ ก็จะให้ผลดีมากเป็นพิเศษ

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนา บารมีสูง  ปรารถนาสิ่งใดก็มักได้มาอย่างง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมากมาย เป็นเจ้าของกิจการที่ใหญ่โต มีบริวารดี ลูกน้องเชื่อฟัง มีคนคอยช่วยเหลือมิได้ขาด

9. สมโณฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรมมิตระ

สมโณฤกษ์ แปลว่า ความสุข ความสงบ  นักบวช นักสอนศาสนา มีดาวพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ ทำพิธีกรรมทางศาสนา และ ทางนักบวช เช่น การทำขวัญนาค การอุปสมบท หล่อพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ารับการศึกษา และ การกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ  ตั้งศาล ผูกข้อมือ สู่ขวัญ โกนผมไฟ ฤกษ์นี้มีดาวพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ กิจการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การสื่อสาร ขนส่งมวลชน กิจการที่เกี่ยวกับงานด้านเอกสาร สัมมนา งานวิจัย จะให้ผลดีเป็นพิเศษ

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจ มีวาทะปฏิภาณดี เฉลียวฉลาด เรียนรู้เร็ว มีการศึกษาสูง มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ ชอบศึกษาปรัชญา ศาสนา สิ่งลี้ลับ ชอบทำบุญกุศล มีจิตวิทยาสูงมากในการจูงใจคน 



*****************************************