
บทที่ 3 รากฐานของวิชา”โหราศาสตร์พระเวท“ทั้งระบบ ตอนที่ 6
สุริยวิถี (Ecliptic) และรากฐานของจักรราศี สุริยวิถีในคัมภีร์โหราศาสตร์พระเวท สุริยวิถี (Ecliptic)คือ เส้นทางการโคจรของดวงอาทิตย์อยู่บน “ทรงกลมฟ้า” และเมื่อดวงอาทิตย์เดินครบหนึ่งปี จะเกิดเส้นโค้งสมบูรณ์รอบโลกตามที่มนุษย์มองเห็น(จากโลก) นี่จึงเป็น “หัวใจ” ของศาสตร์ ชโยติษะศาสตร์ ทั้งระบบ เพราะชะตาชีวิตมนุษย์ในมิติของโหราศาสตร์พระเวท ชีวิตคนเราจะถูกผูกกับ “จังหวะและวัฏจักรของแสง” ก่อนสิ่งอื่นใด และคำว่า ชโยติษะ ก็แปลว่าแสงสว่าง
นักดาราศาสตร์หรือโหราจารย์สมัยโบราณท่านรู้อยู่แล้วว่า “ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล” ในมิติเชิงฟิสิกส์ และ”โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล”ในมิติเชิงจิตวิญาณ คัมภีร์ “สุริยะสิทธานตะ” ระบุชัดเจนว่า “ดวงอาทิตย์คือศูนย์กลางแห่งกาล และเป็นผู้ให้กำเนิดวัฎจักรของรอบปีทั้งมวล” (सूर्यसिद्धान्ते उक्तम् – สูรฺยสิทฺธานฺเต อุกฺตัม) ดังนั้น
สุริยวิถีจึงเป็นเส้นที่กำหนด ฤดูกาล เหตุการณ์สำคัญของธรรมชาติ การเกิดขึ้น–สลายไปของพลังดาวอื่น ๆ และยังเป็นเส้นที่นักโหราศาสตร์พระเวทใช้แบ่งออกเป็น “จักรราศี” ทั้ง 12 ราศี
ส่วนจุดตั้งต้นของจักรราศีในระบบนิรายณะ (Sidereal)ในระบบโหราศาสตร์พระเวท โดยมีทฤษฏีหลักว่าราศีเมษจะไม่เริ่มนับที่ฤดูกาล แต่เริ่มนับที่ตำแหน่งดาวฤกษ์อัศวินี ซึ่งก็คือนับเป็น 0 องศาหรือจุดเริ่มต้นของระบบนิรายณะ
จุดนี้สอดคล้องกับตำแหน่งของ Beta Arietis (ดาวฤกษ์ในกลุ่ม Aries) ไม่ใช่จุดวสันตวิษุวัตแบบโหราศาสตร์ตะวันตกนี่คือเหตุผลที่ราศีในโหราศาสตร์พระเวท “ไม่เคลื่อนตามฤดูกาล”แต่ผูกกับ ดาวฤกษ์จริงบนฟ้าจึงตรงกับกลไกของระบบของกรรมของมนุษย์มากกว่า
การแบ่งจักรราศี 12 ส่วน — หลักคณิตศาสตร์ของพระเวท
สุริยวิถี 360° แบ่งเป็น 12 ส่วน ส่วนละ 30° เรียกว่า ราศี (राशि) ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวเลขทางคณิตศาสตร์ แต่เป็นโครงสร้างจิต–พลังงานที่เป็นแม่แบบ หรือ อาร์คีไทป์ (Archetype)ของชีวิตมนุษย์ทุกคน
หมายเหตุ -คำว่า อาร์คีไทป์ (Archetype) แปลว่า ต้นแบบ หรือ แม่แบบ โดยหมายถึงรูปแบบดั้งเดิมหรือแบบจำลองที่ถูกคัดลอกหรือสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่เป็นต้นกำเนิด ในทางจิตวิทยา คำนี้ยังหมายถึง รูปแบบความคิดหรือสัญลักษณ์ที่สืบทอดจากจิตสำนึกร่วมของมนุษย์ ซึ่งพบเห็นได้ในตำนาน ศาสนา ความฝัน และวรรณกรรม
โดยระบบ 12 ราศีนี้ทำงานสัมพันธ์กับ วันเกิด เวลาเกิดสถานที่เกิดและตำแหน่งดาวอื่น ๆจึงใช้เป็นหัวใจสำคัญของการอ่านดวงชาตาแบบพระเวท
คุณลักษณะหลักของราศี
แต่ละราศีมี “คุณลักษณะหลัก” ที่มีลักษณะเชิงพลังงาน ได้แก่
1) ธาตุประจำราศี หรือ มหาภูต 4 (महाभूत – มหาภูตะ) โดยมี 1.ธาตุไฟ (अग्नि – อัคนีธาตุ)2.ธาตุดิน (पृथ्वी – ปฐวีธาตุ) 3.ธาตลม (वायु – วาโยธาตุ) 4.ธาตน้ำ (जल – ชละหรืออาโปธาตุ) โดยมีหลักการที่ว่าธาตุทั้ง 4 คือองค์ประกอบของจักรวาล และของทุกๆสรรพสิ่ง แต่หากจะพิจารณาให้ลึกลงไปอีกก็จะกลายเป็น 5 ธาตุ หรือ ปัญจมหาภูตะ โดยเพิ่ม “อากาศธาตุ” หรือ”ช่องว่าง” เข้าไป เป็น 5 ธาตุ แต่ที่ไม่กล่าวเป็น 5 ธาตุนั้นก็เพราะ อากาศธาตุ นั้นแรกซึมเป็นช่องว่างในระหว่างธาตุทั้ง 4 อยู่แล้ว ดังนั้นอากาศธาตุก็มีหน้าไม่ให้ธาตุต่างๆมายึดกุมกันเป็นก้อน และทำหน้าที่แบ่งแยกธาตุทั้ง 4 ออกจากกัน
2) คุณะ 3 ประการคือ (गुण – คุณ) 1.สัตตวะ คุณะ มีคุณสมบัติ : ใส สงบ 2.รชะคุณะ มีคุณสมบัติ: เคลื่อนไหว กระตือรือร้น และ 3.ตมัสคุณะ มีคุณสมบัติ: หนัก เฉื่อย
3) คุณลักษณะประจำราศี
ในโหราศาสตร์พระเวทแบ่งคุณลักษณะประจำราศีออกเป็น 3 คุณลักษณ์ ตามอิทธิพลของราศี ดังนี้คือ1.จรราศี ซึ่งเป็นราศีในตำแหน่งจตุโกณ เช่น ราศีเมษ ราศีกรกฏ ราศีตุลย์ ราศีมังกร 2.สถิรราศี ซึ่งเป็นราศีในตำแหน่งราศีถัดมาจากจรราศี เช่น ราศีพฤษภ ราศีสิงห์ ราศีพิจิก ราศีกุมภ์ 3. และทวิภาวะราศี ซึ่งเป็นราศีในตำแหน่งถัดมาจากสถิรราศี ก็คือราศีมิถุน ราศีกันย์ ราศีธนู ราศีมีน เป็นต้น
แต่เมื่อนำธาตุทั้ง 4 มาผสานเข้ากับองค์ประกอบของราศีแล้ว ก็จะกลายเป็น 4 ธาตุ 12 ราศี เมื่อเป็นเช่นนี้ โบราณท่านก็แบ่งเป็น ธาตุร่วมกับคุณลักษณะ ก็จะกลายเป็น จรราศี เป็นราศี แม่ธาตุ สถิรราศี เป็นราศีกลางธาตุ และทวิภาวะราศี เป็นราศีปลายธาตุ
ตัวอย่างเช่น ราศีเมษ เป็นจรราศี จึงเป็นราศีต้นธาตุ(ไฟ) ราศีที่ตรีโกณก็คือ ราศีสิงห์ ซึ่งเป็นสถิรราศี จึงเป็น ราศีกลางธาตุ(ไฟ) และราศีที่เป็นทวิภาวะราศีธนู เป็น ราศีปลายธาตุ(ไฟ)
ความสัมพันธ์ 3 ชั้นระหว่าง สุริยวิถี–ราศี–นักษัตร
ความสัมพันธ์สามชั้นนี้คือหนึ่งในรากฐานของโหราศาสตร์พระเวท ดังนั้น (1)สุริยวิถี ก็คือเส้นทางเดินของแสง ซึ่งหมายถึงกาลเวลา (2) จักรราศี 12 ก็คือ โครงสร้างภาพใหญ่ของชีวิตและจิตใจของมนุษย์ (3) นักษัตร 27ก็คือโครงสร้างพลังงานที่ละเอียดและย่อยกว่า และนำมาขยายความของ 1และ 2 เนื่องจากการใช้ดาวนักษัตรหรือฤกษ์นำมาพยากรณ์นั้นมีมาก่อนที่จะมีราศี
เมื่อดาวเคราะดวงใดโคจรถึงส่วนใดๆ(กาลเวลา)ของเส้นสุริยวิถี พลังงานดาวดวงนั้นก็จะถูก “ครอบงำ” ด้วยคุณลักษณะของราศี ผสานกันกับ อิทธิพลของดาวฤกษ์ ก็จะกลายเป็นการแสดงผลกรรมที่มนุษย์ได้รับผ่านชีวิตจริง นี่แหละคือหัวใจของ “ชโยติษะศาสตร์”
ปรัชญาสางขยะ และรากฐานโครงสร้างจักรวาลและจิตวิญญาณในโหราศาสตร์พระเวท
บางคนสงสัยว่าทำไมต้องเรียนรู้ปรัชญาก่อนเรียนโหราศาสตร์ เพราะก่อนที่เราจะล่วงรู้ถึงอิทธิพลของดวงดาว ราศี นักษัตร ที่ขับเคลื่อนและส่งอิทธิพลต่อ วิถีชีวิตมนุษย์ เราจำต้องทำความเข้าใจ "โครงสร้างพื้นฐาน" ของจักรวาลเสียก่อน
โหราศาสตร์พระเวท หรือ ชโยติษศาสตร์ (Jyotisha Shastra) นั้น มิใช่ศาสตร์ที่ลอยอยู่โดดเดี่ยว แต่หยั่งรากลึกอยู่บนฐานคติทางปรัชญาอินเดียโบราณ
หนึ่งในระบบปรัชญาที่เป็นหัวใจสำคัญในการอธิบายการก่อกำเนิดของสรรพสิ่ง ทั้งรูปธรรมและนามธรรม คือ "ปรัชญาสางขยะ" (Samkhya Philosophy) หากปราศจากความเข้าใจในระบบนี้ การศึกษากลไกของดวงดาวก็จะเป็นเพียงการท่องจำเปลือกนอก มิอาจเข้าถึงแก่นแท้ว่าพลังงานเหล่านั้นทำงานสัมพันธ์กับจิตและกายของเราอย่างไร
1. ทวิลักษณ์แห่งความจริง: ปุรุษะ และ ประกฤติ
ปรัชญาสางขยะตั้งอยู่บนพื้นฐานของทวิภาษนิยม (Dualism) ซึ่งอธิบายว่า ความจริงแท้ของจักรวาลประกอบด้วย 2 หลักการที่เป็นนิรันดรและแยกขาดจากกัน คือ:
1.1 ปุรุษะ คือ จิตบริสุทธิ์, ผู้รู้, ผู้ดู, เป็นนามธรรมที่ละเอียดอ่อนสูงสุด ปุรุษะเป็นสภาวะที่นิ่งเฉย ไม่มีการกระทำ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นเพียง "ประจักษ์พยาน" ต่อปรากฏการณ์ต่างๆ (ในทางโหราศาสตร์ นี่คือแก่นแท้ของดวงวิญญาณ หรือ อาตมัน ที่อยู่เหนืออิทธิพลของกรรม)
1.2 ประกฤติ คือ วัตถุธาตุต้นกำเนิด, ธรรมชาติ, หรือปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้โลกปรากฏขึ้น ประกฤติเป็น "นิตยะ" (นิรันดร) มีความละเอียดอ่อนแผ่ซ่านอยู่ทั่วไป มีพลังมหาศาล และที่สำคัญคือ "เป็นต้นเหตุแห่งการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงทั้งปวง" สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมาจากประกฤติเรียกว่า "วิการ" และธรรมชาติของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า "สัตตวะ"
แต่โหราศาสตร์พระเวทสนใจการทำงานของ "ประกฤติ" เป็นหลัก เพราะชีวิตที่เราเวียนว่ายตายเกิด ประสบสุขและทุกข์ ล้วนเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้อำนาจของประกฤติทั้งสิ้น ส่วนปุรุษะนั้นคือเป้าหมายสูงสุดแห่งการหลุดพ้น (โมกษะ)
2. องค์ประกอบของประกฤติ: การทับซ้อนของวัตถุและจิต
จุดเด่นที่น่าสนใจยิ่งของปรัชญาสางขยะ คือการนิยาม "วัตถุ" (ประกฤติ) ที่ครอบคลุมทั้งสสารและสิ่งที่ดูเหมือนนามธรรม นี่คือรากฐานที่ทำให้โหราศาสตร์สามารถเชื่อมโยงร่างกายเข้ากับจิตใจได้ ประกฤติประกอบไปด้วย 8 ส่วนหลัก ได้แก่:
2.1ธาตุทั้งห้า (ปัญจมหาภูตะ): ได้แก่ ปฐวี ธาตุดิน ,ชละ ธาตุน้ำ ,วาโย ธาตุลม ,อัคนี ธาตุไฟ , และ อากาศธาตุ (หรือช่องว่าง)
2.2 อหังการ (Ego) คือ ความสำนึกในตัวตน การยึดมั่นถือมั่นว่า "นี่คือฉัน" "นี่คือของฉัน" สิ่งนี้สำคัญยิ่ง เพราะมันคือตัวการที่ทำให้เรารับรู้รูปลักษณ์ของเราและแบ่งแยกตัวเองออกจากสิ่งอื่น (เช่น การจำตัวเองได้ในกระจก) ในทางโหราศาสตร์ อหังการคือจุดเริ่มของการสร้างกรรม
2.3 พุทธิ คือ ปัญญา, การรับรู้, ความฉลาด, หรืออำนาจในการตัดสินใจ สางขยะมองว่าพุทธิเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุ ใครมีพุทธิมากย่อมมีอำนาจเหนือสิ่งที่มีพุทธิต่ำกว่า
2.4 มนัส คือ จิต หรือ ใจ เป็นศูนย์กลางรับข้อมูลจากอินทรีย์ (ประสาทสัมผัส) และเชื่อมโยงไปยังพุทธิและอหังการ
การเชื่อมโยงสู่โหราศาสตร์ โปรดสังเกตว่า สางขยะนับเอา อหังการ, พุทธิ, และ มนัส ซึ่งเป็นนามธรรม เข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งของ "วัตถุ" (ประกฤติ) ด้วย นี่คือคำอธิบายว่าเหตุใดอิทธิพลของดวงดาว (ซึ่งเป็นพลังงานเชิงฟิสิกส์/วัตถุ) จึงสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจ, ความคิด, และการตัดสินใจของเราได้โดยตรง เพราะในมุมมองนี้ จิตก็คือรูปแบบหนึ่งของวัตถุที่ละเอียดอ่อนนั่นเอง
เมื่อประกฤติเหล่านี้ทำงานร่วมกัน จึงก่อให้เกิด "วิการ" หรือผลลัพธ์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงวัตถุเครื่องเร้าอารมณ์ (วิษยะ) และอินทรีย์ต่างๆ ในร่างกายเรา เช่น การสัมผัส, การกระทำ, และความรู้สึกนึกคิด
3. คุณะทั้งสาม (ไตรคุณ) พลังงานขับเคลื่อนจักรวาล
ประกฤติมิได้อยู่นิ่ง แต่มีพลวัตขับเคลื่อนด้วยองค์ประกอบภายใน 3 ประการ ที่เรียกว่า "คุณะ" ซึ่งเป็นรากฐานของพลังงานในโหราศาสตร์:
3.1 สัตตวะคุณะ คือ ธรรมชาติแห่งความสว่างไสว เบิกบาน สงบ สมดุล มีสีขาวเป็นสัญลักษณ์ เป็นต้นกำเนิดแห่งปัญญาและความสุข
3.2 รชะคุณะ คือ ธรรมชาติแห่งพลังงาม การเคลื่อนไหว ความกระตือรือร้น แรงปรารถนา มีสีแดงเป็นสัญลักษณ์ รชะคือตัวกระตุ้นให้เกิดกรรม และโดยธรรมชาติของมันนำไปสู่ความทุกข์และความไม่สงบ
3.3 ตมัสคุณะ คือ ธรรมชาติแห่งความหนักอึ้ง เฉื่อยชา มืดมน ความหลงผิด มีสีดำเป็นสัญลักษณ์ เป็นพลังที่ฉุดรั้งและครอบงำให้จมอยู่กับที่
พลวัตของคุณะ: ท่านอิศวรกฤษณะกล่าวไว้ในคัมภีร์สางขยการิกาว่า "สัตตวะ เบิกบาน สุกใส; รชะ กระตุ้นตื่น และ เคลื่อนไหว; ตมะ หนักอึ้ง ครอบงำ และ มืดมน คุณะทั้ง 3 นี้ส่องนำชีวิตดุจโคมไฟ"
คุณะทั้งสามมีลักษณะขัดแย้งกัน แต่ดำรงอยู่ร่วมกันเสมอและแผ่เข้าไปในทุกสรรพสิ่ง เปรียบเสมือนไส้ตะเกียง, น้ำมัน, และไฟ ที่มีลักษณะต่างกัน เช่น น้ำมันทำให้ไส้ตะเกียงเปียก และไฟเป็นผู้เผาผลาญ แต่ต้องอาศัยซึ่งกันและกันจึงเกิดเป็นเปลวไฟ (แสงสว่าง) ขึ้นได้ ทั้งๆที่ไส้ตะเกียง, น้ำมัน, และไฟ ต่างก็เผาผลาญทำลายซึ่งกันและกัน
นัยยะทางโหราศาสตร์และจิตวิญญาณ
การศึกษาโหราศาสตร์พระเวท คือการศึกษาการทำงานของ "ประกฤติ" และ "คุณะทั้งสาม" ที่แสดงออกผ่านโครงสร้างของจักรราศีและดวงดาว
1.ทุกสิ่งคือประกฤติ: ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ, เก้าอี้, สัตว์, มนุษย์, รวมถึงสภาวะจิตใจของเรา (อหังการ, พุทธิ, มนัส) ล้วนประกอบด้วยคุณะทั้งสามในสัดส่วนที่ต่างกัน
2.รากฐานการพยากรณ์: เมื่อเราพยากรณ์ดวงชะตา เรากำลังวิเคราะห์ว่าพลังงานจากดวงดาว (ซึ่งเป็นพาหนะของคุณะต่างๆ) เข้ามากระทบกับ "อหังการ" และ "มนัส" ของเจ้าชะตาอย่างไร ก่อให้เกิดความคิด การกระทำ (กรรม) และวิบากกรรมรูปแบบใด
3.เป้าหมายแห่งการหลุดพ้น: ปรัชญาสางขยะสอนให้เรารู้เท่าทันว่า สภาวะสุข ทุกข์ การเกิด การตาย ล้วนเป็นเพียงการ "ร่ายรำ" ของประกฤติและคุณะทั้งสาม ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของ "ปุรุษะ" (จิตบริสุทธิ์) โหราศาสตร์จึงเป็นเครื่องมือให้เราเห็นกลไกเหล่านี้ เพื่อที่สุดท้ายแล้ว เราจะสามารถแยก "ผู้รู้" (ปุรุษะ) ออกจาก "สิ่งที่ถูกรู้" (ประกฤติ) และก้าวสู่อิสรภาพที่แท้จริงได้
ขอให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณาหลักการนี้ให้ลึกซึ้ง เพราะนี่คือกุญแจดอกแรกที่จะไขความลับแห่งจักรวาลและตัวตนของเราเอง
--------------------------------------------------------------------------------------------

โครงสร้างพลังงานของราศีทั้ง 12 ราศี
จากคำอธิบายราศีและปรัชญาสางขยะข้างต้น เราก็จะได้มาลงรายละเอียด คุณลักษณะ โครงสร้าง และพลังงานของราศีทั้ง 12 ราศี โดยมี 1.ธาตุ (ภูตะ) 2.คุณะ (ไตรคุณ)3.คุณลักษณะ คุณเป็นจรราศี/เป็นสถิรราศี/เป็นทวิภาวะราศี) 4.เจ้าราศี (หรือเกษตรประจำราศี) 5.อิทธิพลที่มีต่อจิตใจทั้งด้านบวกและด้านลบ
1) ราศีเมษ เป็นราศีธาตุไฟ (ต้นธาตุ) คุณะ คือ ตมัสคุณะ คุณลักษณะเป็นจรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวอังคาร อิทธิพลด้านบวกหมายถึง การริเริ่ม การเริ่มต้น, ความกล้าหาญ, ความกล้าที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ อิทธิพลด้านลบ หมายถึง ใจร้อน, หุนหัน พลันแล่นและขาดความอดทน
2) ราศีพฤษภ เป็นราศีธาตุดิน (กลางธาตุ) คุณะ คือ รชะคุณะ คุณลักษณะเป็นสถิรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวศุกร์ อิทธิพลด้านบวก หมายถึง ความมั่นคง มั่งคั่ง ทรัพย์สิน ความสุขทางวัตถุ อิทธิพลด้านลบ หมายถึง ดื้อ เฉื่อย ขี้หวง หลงไหลในด้านวัตถุ
3) ราศีมิถุน เป็นราศีธาตุลม (ปลายธาตุ) คุณะ คือ รชะคุณะ คุณลักษณะเป็นทวิภาวะราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวพุธ อิทธิพลด้านบวก หมายถึง สติปัญญาดี การสื่อสารที่ชัดเจน ความไร้อุปสรรค อิทธิพลด้านลบ หมายถึง ความฟุ้งซ่าน ไม่แน่ไม่นอน จิตใจรวนเร และการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไป
4) ราศีกรกฎ เป็นราศีธาตุน้ำ (ต้นธาตุ) คุณะ คือ สัตตวะคุณะ คุณลักษณะเป็นจรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวจันทร์ อิทธิพลด้านบวก หมายถึง จิตใจดี อารมณ์ดี มีครอบครัวที่ดี อิทธิพลด้านลบ หมายถึง ความไหวหวั่น อ่อนไหวเกินควร
5) ราศีสิงห์ เป็นราศีธาตุไฟ (กลางธาตุ) คุณะ คือ สัตตวะคุณะ ลักษณะ: เป็นสถิรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวอาทิตย์ อิทธิพลด้านบวก หมายถึง ภาวะผู้นำ, ศักดิ์ศรี, การสร้างสรรค์ อิทธิพลด้านลบ หมายถึงอัตตา, ดื้อรั้น, ต้องการการยอมรับ
6) ราศีกันย์ เป็นราศีธาตุดิน (ปลายธาตุ) คุณะ คือ รชะคุณะ ลักษณะ: เป็นทวิภาวะราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวพุธ อิทธิพลด้านบวก หมายถึงวิเคราะห์, งานละเอียด, อิทธิพลด้านลบ หมายถึง วิจารณ์มากเกินพอดี, กังวล
7) ราศีตุล เป็นราศีธาตุลม (ต้นธาตุ) คุณะ คือ รชะคุณะ ลักษณะ: เป็นจรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวศุกร์ อิทธิพลด้านบวก หมายถึง ความสมดุล, ศิลปะ, อิทธิพลด้านลบ หมายถึง ลังเล หวั่นไหวตามคนอื่น
8) ราศีพิจิก เป็นราศีธาตุน้ำ (กลางธาตุ) คุณะ คือ ตมัสคุณะ ลักษณะ: เป็นสถิรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวอังคาร อิทธิพลด้านบวก หมายถึง ลึก ลับ เข้มแข็ง อิทธิพลด้านลบ หมายถึง โมโหร้าย โรแมนติกแบบจมลึก
9) ราศีธนู เป็นราศีธาตุไฟ (ปลายธาตุ) คุณะ คือ สัตตวะคุณะ ลักษณะ: เป็นทวิภาวะราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวพฤหัส อิทธิพลด้านบวก หมายถึงปรัชญา, การศึกษา, อิทธิพลด้านลบ หมายถึง พูดตรงเกินพอดี, มองโลกในแง่ดีเกินจริง
10) ราศีมังกร เป็นราศีธาตุดิน (ต้นธาตุ) คุณะ คือ ตมัสคุณะ ลักษณะ: เป็นจรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวเสาร์ อิทธิพลด้านบวก หมายถึง ความอดทน, หน้าที่, การทำงานหนัก อิทธิพลด้านลบ หมายถึง เข้มงวด, เก็บกด
11) ราศีกุมภ์ เป็นราศีธาตุลม (กลางธาตุ) คุณะ คือ ตมัสคุณะ ลักษณะ: เป็นสถิรราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวเสาร์ อิทธิพลด้านบวก หมายถึงความคิดใหม่ อุดมการณ์ อิทธิพลด้านลบ หมายถึง ต่อต้าน ขัดแย้ง ไม่ตามใคร
12) ราศีมีน เป็นราศีธาตุน้ำ (ปลายธาตุ) คุณะ คือ สัตตวะคุณะ ลักษณะ: เป็นทวิภาวะราศี ดาวเจ้าราศีหรือดาวเกษตรประจำราศี คือ ดาวพฤหัส อิทธิพลด้านบวก หมายถึง เมตตา จิตวิญญาณ อิทธิพลด้านลบ หมายถึง หนีปัญหา เหนื่อยง่าย
คุณะทั้งสามในจักรราศี
ในตอนก่อนหน้านี้ เราได้ทำความเข้าใจรากฐานแห่ง "ปรัชญาสางขยะ" และพลังงานขับเคลื่อนจักรวาลทั้งสาม หรือ "ไตรคุณ" (ตรีคุณะ) อันได้แก่ สัตตวะ, รชะ, และ ตมัส ไปแล้ว
ตอนนี้ เราจะนำองค์ความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยพิจารณาว่าพลังงานธรรมชาติ หรือ "คุณะ" (inherent nature) เหล่านี้ แฝงฝังอยู่ในโครงสร้างของจักรราศีทั้ง 12 อย่างไร การเข้าใจเรื่องนี้คือกุญแจสำคัญที่จะไขความลับว่า เหตุใดราศีแต่ละกลุ่มจึงมีแรงขับเคลื่อนภายในและแนวโน้มทางพฤติกรรมที่แตกต่างกัน
การจำแนกราศีตามไตรคุณ
โหราศาสตร์พระเวทจำแนกอิทธิพลของไตรคุณที่ส่งผลต่อราศีต่างๆ ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก โดยพิจารณาจากดาวเคราะห์ที่เป็นเกษตรเจ้าเรือน ดังนี้:
1. สัตตวะราศี กลุ่มราศีที่มีธรรมชาติแห่งความสว่างไสว เบิกบาน และปัญญา ได้แก่ราศีที่อยู่ภายใต้การปกครองของดาวเคราะห์ฝ่ายศุภเคราะห์ อันมีแสงสว่างและปัญญาบริสุทธิ์ คือ ดวงอาทิตย์ (อาทิตย์), ดวงจันทร์ (จันทร์), และดาวพฤหัสบดี (คุรุ) ราศีในกลุ่มนี้ได้แก่ ราศีกรกฎ , ราศีสิงห์ , ราศีธนู , และราศีมีน
อิทธิพลทางจิตวิญญาณ: ราศีกลุ่มนี้สัมพันธ์โดยตรงกับกระบวนการคิดและการกระทำในระดับสูงทางจิตวิญญาณ ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนในการแสวงหาภูมิปัญญาและความจริงอันสูงสุด มักโน้มเอียงไปในทางปฏิบัติสมาธิ, การเพ่งพินิจ, การเคารพบูชาต่อพระเจ้าหรือธรรมชาติ มีความคิดที่เป็นสากล และมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น แสดงถึงความบริสุทธิ์และการเป็นผู้คงแก่เรียนหรือผู้มีปัญญา
2. รชะราศี กลุ่มราศีที่มีธรรมชาติแห่งพลังแห่งการเคลื่อนไหว และแรงปรารถนา ได้แก่ราศีที่อยู่ภายใต้การปกครองของดาวเคราะห์ที่เน้นการปฏิสัมพันธ์ การสื่อสาร และความสุขทางโลก คือ ดาวพุธ (พุธ) และดาวศุกร์ (ศุกร์)
ราศีในกลุ่มนี้ได้แก่ ราศีพฤษภ, ราศีมิถุน , ราศีกันย์ , และราศีตุล
อิทธิพลทางโลก: ราศีกลุ่มนี้สัมพันธ์กับพลังแห่งการกระทำและการผจญภัย ถูกขับเคลื่อนด้วยตัณหา ราคะ และแรงปรารถนา และมีพลังงานเหลือล้นในการแสวงหาอำนาจ, ทรัพย์สินเงินทอง, และชื่อเสียงเกียรติยศ เป็นกลุ่มราศีที่มีความทะเยอทะยานและมุ่งเน้นไปที่วัตถุนิยม ซึ่งเป็นคู่ตรงข้ามกับแนวทางจิตวิญญาณ
3. ตมัสราศี กลุ่มราศีที่มีธรรมชาติแห่ง ความหนักหน่วง ความเฉื่อยชา อืออาด และความมืดมน ได้แก่ราศีที่อยู่ภายใต้การปกครองของดาวเคราะห์ฝ่ายบาปเคราะห์ ที่มีพลังงานรุนแรงและพลังกดดัน คือ ดาวอังคาร และดาวเสาร์ ราศีในกลุ่มนี้ได้แก่ ราศีเมษ , ราศีพิจิก , ราศีมังกร , และราศีกุมภ์
อิทธิพลทางสัญชาตญาณ: ราศีกลุ่มนี้สัมพันธ์กับการตอบสนองต่อผัสสะทางอายตนะ มักแสวงหาความพึงพอใจในระดับสัญชาตญาณพื้นฐาน เช่น การหลงใหลในสิ่งมึนเมา สารเสพติด หรืออาหารที่หนักและหยาบ แสวงหาความสุขในกามารมณ์
มุมในด้านมืด: เมื่อพลังงานนี้แสดงออกในทางลบ อาจเกี่ยวข้องกับการบูชาภูตผี ปิศาจ หรือการฝึกฝนทางตันตระสายดำ มีความชื่นชอบในศาสตร์ลี้ลับ และอาจนำพลังอำนาจไปใช้ในทางที่ผิด มีธรรมชาติที่อาจโหดร้าย และถูกครอบงำด้วยอวิชชา (ความไม่รู้)
บทสรุป ขอให้ท่านผู้อ่านพึงระลึกไว้เสมอว่า การจำแนกนี้เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐานของพลังงานในแต่ละราศี มิได้หมายความว่าบุคคลที่เกิดในราศีนั้นๆ จะต้องเป็นไปตามคุณะเหล่านั้นทั้งหมด เพราะในความเป็นจริง การแสดงออกของบุคคลยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาวเคราะห์อื่นๆ ในดวงชะตา และระดับการพัฒนาทางจิตวิญญาณของแต่ละบุคคลด้วย การเข้าใจ "ไตรคุณ" ในจักรราศี คือการเข้าใจ "แนวโน้มพื้นฐาน" ของสนามพลังงานที่เจ้าชะตาจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องและบริหารจัดการในภพชาตินี้
และหากเราเข้าใจพลังงานของราศีทั้ง 3 ระดับนี้ การตีความหมายของราศี และความหมายของดาวเคราะห์ก็จะไม่ยากอีกต่อไป
--------------------------------------------------------------------------
***ประกาศ***
อาศรมศรีจักรนารท โดยอาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo) ได้เริ่มเปิดสอน"โหราศาสตร์ภารตะ"หรือ"โหราศาสตร์พระเวท" ฟรี!!! ทางออนไลน์แล้ว
1.Facebook: กลุ่มโหราศาสตร์พระเวท https://www.facebook.com/groups/VedicAstrologyThailand
2.Website: https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/vedic-astrology-lesson.html
3.TikTok : astroneemo
*******************************
สนใจดูดวงชะตาด้วย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) กับ อาจารย์ ณภัทร (AstroNeemo)
กรุณาคลิ๊กลิงก์นี้ครับ https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-20-37/211067-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0.html
*******************************
บริการของเรา
ดูฤกษ์ออกรถ ดูฤกษ์ยกเสาเอก ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ดูฤกษ์เปิดกิจการใหม่ ดูฤกษ์จดทะเบียนบริษัท ดูฤกษ์แต่งงานพิธีไทย-ฤกษ์จดทะเบียนสมรส ดูฤกษ์เปลี่ยนชื่อ ดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ดูฤกษ์เข้าทำงานใหม่ ดูฤกษ์ลาสิกขาบท ดูฤกษ์โกนผมไฟ ดูฤกษ์ผ่าคลอด ดูฤกษ์มงคลอื่นๆ
ดูฮวงจุ้ย-แก้ฮวงจุ้ย คำนวนดวงพิชัยสงคราม-เสริมดวง-แก้ดวง ดูดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์พระเวท(โหรภารตะ)
กดติดตาม เพื่ออ่านบทความใหม่ๆ ผ่าน Facebook ของอาจารย์
*******************************
