Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***


ภาพถ่าย 9 มี.ค. ลามะชาวมองโกเลียสูง 2.14 เมตร พยายามจะถ่ายรูป หลังจากร่วมพิธีในอารามลาเจีย ของมณฑลชิงไห่ (ภาพเอเอฟพี)

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - หนังสือพิมพ์กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์ในทิเบตเรียกร้อง (19 มี.ค.) ให้มีการคุมเข้มเหล่าลามะที่ออกเดินทางจาริกไปยังต่างถิ่น ไม่ว่าเพื่อการใด ๆ ตลอดจนแนวคิดเรื่องการกลับชาติมาเกิดที่ชาวทิเบตเชื่อฝังใจ

บทบรรณาธิการหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ทิเบต เดลี ระบุว่า เพื่อรักษาความมั่นคงในสังคมทิเบต เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์หู จิ่นเทาสั่งตรงลงมาจากการประชุมสภาผู้แทนประชาชนประจำปีนี้ ให้รัฐบาลทิเบตสร้างจิตสำนึกรักปิตุภูมิ โดยปลูกฝังผ่านการศึกษา ให้เดินหน้าทำโครงการ “9 มี” ในวัดวาอารามต่าง ๆ อัน ได้แก่ ภาพผู้นำสี่คน ( เหมา เจ๋อตง เติ้ง เสี่ยวผิง เจียง เจ๋อหมิน และหู จิ่นเทา) ธงประจำชาติจีน ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ห้องหนังสือ หนังสือพิมพ์ได้แก่ หรินหมินรื่อเป้า ซีจ้างรื่อเป้า


บทบรรณาธิการฯ ระบุว่า พวกเขาต้องพุ่งเป้าไปสู่การควบคุมลามะที่ออกจาริกหรือธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมปรับโครงสร้างสถาบันทางพุทธทิเบตให้เข้มแข็ง คุมเข้มการจัดการความคิดที่ว่าทะไลลามะกลับชาติมาเกิด ตลอดจนสร้างระบบการจัดการอารามในระยะยาวด้วย
“เพื่อควบคุม ให้เกิดความสมานฉันท์และมั่นคงในสังคม โดยออกกฎหมายคุมอย่างชัดเจน การออกกฎหมายคุมอารามช่วยให้สามารถรักษาระเบียบทางศาสนาไว้ได้ และมีความสำคัญต่อการคุมความมั่นคงทางสังคมด้วย”

การคุมเข้มวัดวาอารามนับแต่เกิดจลาจลในลาซา ศูนย์กลางทิเบตในเดือนมี.ค. 2551 ถูกบรรดานักวิจารณ์สังคายนากันยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงทั่วทิเบตและการจุดไฟเผาตัวกระทำอัตวินิบาตกรรม ประท้วงรัฐบาลจีน นับแต่ปี 2552 ชาวทิเบตไม่ว่าจะเป็นลามะ แม่ชี ประชาชนเกือบ 30 คนจุดไฟเผาตัว ส่วนใหญ่ในเมืองอาป้าและเขตปกครองตนเองกานจือ มณฑลเสฉวน แต่ขณะนี้กระแสเผาตัวกลับไปปะทุที่มณฑลชิงไห่ด้วย เหตุเหล่านี้ทำให้รัฐบาลในหลายเมืองต้องลงมาคุมกำลังรักษาความปลอดภัยอย่าง เข้มงวด สั่งห้ามนักข่าวลงพื้นที่ และยิ่งเป็นโอกาสให้รัฐบาลจีนคุมเข้มอารามได้มากขึ้นอีก


ในช่วงการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนที่ผ่านมา พาดม่า โชลิ่ง ประธานผู้แทนรัฐบาลภูมิภาคทิเบต ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รัฐอาจจะต้องไปประจำตามอารามอย่างถาวร ซึ่งขณะนี้ก็มีเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 21,000 นาย กระจายอยู่ใน 5,451 หมู่บ้านทั่วภูมิภาค

ทันเซ็น ลันด์อัพ รองผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐสังคมศึกษา แห่งศูนย์วิจัยทิเบตวิทยาของจีน เผยว่า การควบคุมลามะออกจาริกและความคิดเรื่องการกลับชาติมาเกิดนั้นมีความสำคัญ เพราะเหตุว่ารัฐบาลพิจารณาว่าเป็นปัญหาสังคมที่หนักหน่วงจนกลายเป็นเหตุให้ เกิดจลาจลในปี 2551 ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะเริ่มต้นในอีกปีข้างหน้า

“ลามะธุดงค์เหล่านี้เป็นพวก ลามะปลอม ไม่เคยศึกษาพุทธศาสนา และแสร้งเป็นนักบวชเพื่อหาเงิน” ทานเซ็น ลันด์อัพเผย “มีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่เป็นลามะจริง และเหตุที่ออกจากอารามก็ด้วยเงื่อนไขอายุหรืออาจมีเหตุผลอื่น”


ลันด์อัพเพิ่มเติมว่า “ในบรรดาลามานั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก แต่ไม่ได้ทำพิธีอย่างถูกต้องตามศาสนา ซึ่งสิ่งนี้กระทบต่อภาพลักษณ์ของผู้ที่เคร่งครัดต่อศาสนาอย่างแท้จริง”


ภายใต้นโยบายดังกล่าวนี้กำหนดให้ลามะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องต่ออารามที่สังกัดและรัฐบาล


ทันเซ็น ลันด์อัพ เผยว่า เขาเข้าใจว่านโยบายนี้จะจัดการกับลามะที่ผิดกฎหมาย และสำหรับลามะที่ไม่ถูกต้องแล้วนั้นรัฐบาลก็จะปรึกษากับผู้มีบทบาททางศาสนา ในท้องถิ่น ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2555 12:49 น.