โหราศาสตร์ไทย
โหราศาสตร์ไทย
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 16302
เรื่องทั่วๆไป ลางบอกเหตุ
ห้ามใส่ชุดดำเยี่ยมคนป่วย ชุดสีดำเป็นสีที่คนโบราณถือนักถือหนาว่า เป็นสีแห่งความทุกข์โศก ใช้ใส่เฉพาะงานศพเท่านั้น หรือหากจะใช้แต่งกายสีดำ ก็ไม่ควรเป็นสีดำทั้งชุด
ควรเป็นครึ่งท่องใส่ผสมกับสีอื่นๆ ชุดสีดำ จึงไม่นิยมใส่เข้าไปในงานมงคลต่างๆ เช่นงานวันเกิด งาน แต่งงาน หรือแม้กระทั่งไป เยี่ยมผู้ป่วยก็เหมือนกัน เท่ากับว่า เป็นการแช่งหรือ
เดาเหตุการณ์ล่วงหน้าให้ผู้ป่วยนั้นตายเร็วขึ้น ทำให้จิตใจผู้ป่วยหดหู่และหมด กำลังใจ เกิดอาการทรุดลงได้ง่ายจึงไม่ให้ใช้สีดำ ควรเป็นสีที่สดใสและแสดง
ใบหน้าที่สดชื่นอีกด้วย
จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน จิ้งจกในปัจจุบันหาพบได้ง่ายกว่าตุ๊กแก มักจะเกาะอยู่ตามฝาผนัง ของบ้าน โดยปกติทั่วๆ ไป เรามักจะไม่ค่อยได้ยินเสียงจิ้งจกร้องมากนัก จะ
เป็นเพราะมีจำนวนน้อย หรือบางบ้านไม่มีให้เห็นเสียแล้ว หรือไม่ค่อยมีเวลาอยู่ บ้านมากนัก จึงไม่ได้ยินเสียงของมันตามคำเชื่อของคนโบราณกล่าวว่า หากจิ้งจกร้อทัก จะกี่ครั้งก็ตาม
ทว่าเสียงนั้นอยู่ด้านหลังหรือตรงศรีษะของคุณ ให้พยายามเลื่อนการเดินทาง เป็นเวลาอืน อาจจะเป็นภายในวันเดียวกันก็ได้ แต่ไม่ใช่เวลานั้น เพราะอาจทำให้ คุณได้รับอุบัติเหตุหรือไม่มีโชคลาภ แต่หากเสียงร้องทักอยู่ด้านหน้า หรือซ้าย มือ ให้เดินทางได้ จะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย จะได้พบโชค ลาภ หรือติดต่อธุรกิจเป็นผลสำเร็จ
ตุ๊กแกร้องกลางวัน มีเหตุร้าย ตามปกติแล้วตุ๊กแกที่อาศัยอยู่ในบ้าน มักจะร้องตอนกลางคืน แต่ ถ้าวันดีคืนดีเกิดร้องลางวันขึ้นมาไม่ว่าจะร้องกี่ครั้งก็ตาม ให้ถือว่า เป็นการ
บอกเหตุร้ายว่า กำลังจะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว หรือภายในบ้าน ซึ่งโดย ปกติแล้วตุ๊กแกจะไม่ค่อยร้องในช่วยกลางวันอยู่แล้ว ( กลางวันในที่นี้หมายถึงตั้งแต่เวลาเริ่มสว่างจนถึงมืดลง ) คนโบราณเชื่อว่าตุ๊กแกคือ ร่างที่วิญญาณของปู่ย่าตายายที่ตายไป แล้วมาอาศัยอยู่ คอยดูแลคุ้มครองเพื่อให้สัญญาณบอกเหตุแก่ลูกหลาน และ
จะไม่เคยเห็นตุ๊กแกทำร้ายใครเลย
นกแสกเกาะหลังคาบ้าน เกิดลางร้าย นกแสกเป็นนกที่ถือว่า ให้ความอัปมงคลเป็นอย่างยิ่ง ไม่แต่เฉพาะ คนไทยเท่านั้นที่ถือในเรื่องนี้ฝรั่งเองก็ถือเคล็ดนี้เช่นกัน ก็เพราะโดยธรรมชาติ ของนกแซกมักจะไม่มาปะปนอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคนให้เห็นนัก หากเมื่อใดมีนกแสกมาเกาะที่หลังคาบ้านใดแล้ว ก็มักจะมีอะไรไม่ดี แก่บ้านนั้น เช่น คนป่วยเอยคนเจ็บอยู่ก็อาจเสียชีวิตก็ได้ จึงมักจะมีคนนิยมแก้ เคล็ดให้ร้ายกลายเป็นดี ด้วยการนำเอาดอกไม้ ธูปเทียน สุรา บอกเล่าก็เพียง >พอแล้ว คนโบราณบางท่านที่เคร่งมากๆ ก็อาจเพิ่มด้วย ข้าวสาร ข้าวตอก ผ้าแดง ผ้าขาวและเงินทอง
นกถ่ายรดศรีษะ จะมีโชคคร้าย ปกติแล้วนกนี่มันก็บินไปทั่ว ถ้าไม่ใช่นกเลี้ยง จะชอบมาบินเกาะบน ท้องฟ้า ไม่ชอบมาอยู่กะคนเท่าไหร่และเมื่อใดที่คุณกำลังจะออกเดินทางแล้วจู่ๆ นกก็ถ่ายรดที่ศรีษะ คนโบราณว่าไว้ ให้หยุดการเดินทางทันที หรือเลื่อนกำหนด ออกไปวันรุ่งขึ้น ไม่เช่นนั้น อาจได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุได้ ในกรณีเดียวกัน หากอยู่ในบริเวณบ้าน นกบินมาถ่ายรดศีรษะซึ่ง โอกาสจะมีน้อยมาก แต่หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ให้เตรียมตัวรับเหตุการณ์ได้เลย เพราะจะต้องมีเรื่องเดือดร้อนใจ หรือเกิดเหตุร้ายกะตัวเองแน่นอน ระวังเด้อ....
เมื่อตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน บ้านใดที่มีต้นไม้มากๆนั้น จะมีที่ที่ตัวเงินตัวทองมักจะปรากฎให้เห็น ตามที่ดังกล่าว มักจะไม่คลานในที่โล่งแจ้ง และก็หาแหล่งที่มาไม่พบอีกด้วยว่ามา จากที่ใด เพราะในหมู่บ้านกลางเมืองก็ยังมีปรากฎให้เห็นบ้าง ลักษณะตัวเงินตัวทอง บางคนว่าคล้ายจระเข้ แต่มีหางยาวมาก มี ขนาดตั้งแต่ตัวเล็กๆ เท่าจิ้งเหลนจนไปถึงตัวโดมากๆเท่ากับลูกจระเข้เลยทีเดียว ปกติตัวเงินตัวทองนี้จะไม่ทำร้ายใคร แต่คนโบราณท่านว่าเป็นตัว อัปมงคลอยู่ดี จึงมีชื่อเรียกเสียเพราะแก้เคล็ด หากบ้านใดมีเข้ามาให้เห็น ท่านว่า ให้พูดแต่สิ่งดีๆ ไม่ให้ไล่ บางท่านก็ให้หาดอกไม้ธูปเทียนจุดบอกเล่า ให้กลายเป็นการนำเอาสิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน
กลางคืนได้ยินเสียงร้องเรียก ห้ามขานรับ
สำหรับบ้านในสมัยโบราณ ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้สะดวกเหมือนในปัจจุบัน ค่ำลงต่างคนก็ต่างดับตะเกียงปิดฟงปิดไฟกันเลย คนโบราณจึงว่าว่า หากปิดบง ปิดบ้านแล้วมีเสียงคนมาร้องเรียก ให้เงียบเสีย เพราะนั่นเป็นเสียงของดวง วิญญาณ อาจจะมาหลอกมาหลอนก็เป็นได้ แต่หากมองกันให้ลึกลงไปอีก อาจเป็นการป้องกันขโมยมาเข้าบ้านใน ยามวิกาลก็เป็นได้ เพราะขโมยอาจมาหลายรูปแบบ บางคนก็ว่า หากมีเสียงเรียก แล้วยังขานรับ จะทำให้วิญญาณนั้นเข้ามาหรือเข้ามาในบ้านได้
เลขนั้นสำคัญไฉน
เลขต่างๆ ตั้งแต่ 1 - 10 หรือแม้กระทั่งเลขเกิน 10 ก็ตามมีความเชื่อ ไปต่างๆกัน บ้างก็เหมือนกันแล้วแต่ความถูกโฉลกของแต่ละบุคคล นั่นเป็นความ เชื่อ เช่น บางคนไม่ชอบเลข 13 เพราะถือเป็นเลขของความโชคร้ายของฝรั่ง ซึ่ง จะสังเกตว่าตามตึกใหญ่สูงๆ ภายในลิฟต์จะไม่มีชั้น 13 เนื่องจากคนก่อสร้างหรือ สถาปนิกเป็นฝรั่งจ้า เค้าว่ากันว่าทะเบียนเลขรถเนี้ยะ
ผมหยิก หน้าก้อ คอต่อ คิ้วสั้น คบไม่ได้เด้อ คำกล่าวนี้ได้ยินมาน๊านนน นาน... .ซึ่งหากดูให้ครบลักษณะที่กล่าวมาก คนใดที่มีลักษณะผมหยิกๆ หน้าสั้นๆ หักๆ คอหาแทบไม่เจอ จะด้วยเพราะอ้วนหรือ เหตุใดก็ตาม ประกอบกับมีคิ้วก็สั้นๆ รวมดูแล้ว ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามอย่าดูแค่รูปกายภายนอก ให้ศึกษานิสัยใจคอด้วยจ๊ะ
ไทยเล็ก เจ็กดำ คบบ่ได้ จิงหรือ?
โบราณท่านว่าไว้ว่า คนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้คบยากเหลือเกิน หากเป็น คนไทยก็ต้องตัวไม่เล็กแคระแกรน เนื่องจากคนไทยในสมัยโบราณตัวใหญ่ทั้งผู้
หญิงและผู้ชาย หาคนตัวเล็กมีน้อยมาก และถ้าเป็นคนจีนก็ต้องตัวไม่ดำ "ไทยเล็ก เจ็กดำ" จึงติดปากมาจนทุกวันนี้ แต่หากจะพิจารณากันให้ ถ่องแท้ คงจะต้องดูที่นิสัยรวมไปด้วย นั่นเป็นเพียงแต่การสันนิษฐานเบื้องต้นให้ ได้ยินเท่านั้น ก็ลองใช้ดุลพินิจดูว่า จะเป็นจริงตามที่ท่านกล่าวมาไว้หรือไม่ ทั้งนี้ คำกล่าวที่ว่า ไม่ได้รวมหมายถึง การงานของเขาเหล่านั้น ท่านหมายแต่เพียงว่า มักจะมีนิสัยออกไปทางคนโกงเจ้าเล่ห์เพทุบาย เอาเปรียบประมาณนั้น
คนหลายเสียงคบไม่ได้
คนทั่วไปตามปกติแล้ว หากไม่มีเสียงธรรมดาแล้ว ก็อาจจะมีเสียง แหลมเล็ก หรือทุ้มใหญ่ไปเลย คนโบราณกล่าวไว้ว่า หากคนใดมีหลายเสียงในขณะ ที่พูดคุยตามปกตินั้น เป็นคนคบยาก เพราะเท่ากับว่า หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ แม้แต่เสียงของตัวเองยังบังคับให้อยู่ในระดับเดียวกันไม่ได้เลย ขณะพูดคุย เดี๋ยวทำเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงใหญ่ เสียงเล็กไปเรื่อย แต่คนในลักษณะนี้หายาก และในเมื่อหายาก ก็ดูจะยิ่งเพิ่มความขลังให้ ความเชื่อนี้แม่นยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเจอก็ให้ห่างๆ ไว้เป็นดี
คนหัวล้านมักเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์
คำกล่าวนี้ได้ต้นแบบมาจากขุนช้างในวรรณคดีนั่นเอง ขุนช้างเป็นคน เจ้าชู้ ชอบหญิงสาวที่มีรูปงาม จุดเด่นของเรื่องในวรรณคดี มีการแย่งหญิงสาวอัน
เป็นคนรักของขุนแผน โดนขุนช้างใช้เล่ห์ทุกวิถีทาง เพื่อหลอกให้คนรักของขุนแผน มาอยู่กับตน จึงถูกมองว่า ผู้ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับขุนช้างคือ หัวล้าน มีรูปร่างอ้วน ท้วม ขาวนั้น จะต้องมีนิสัยเช่นเดียวกับขุนช้างเสมอไปแต่ขุนช้างก็เป็นคนร่ำรวยมาก ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่แปลกว่า คนหัวล้านก็มักจะรวยเสียทุกคนเหมือนขุนช้างอีกด้วยซิ
มีปาน แสดงว่าเคยเกิดมาแล้ว
เด็กทารกคนใดที่เกิดมาแล้วมีปานหรือเรียกว่า มีตำหนิ ในส่วนใดส่วน หนึ่งของร่างกาย คนโบราณถือว่า ได้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง และถูกป้ายด้วยของ ทำ เป็นตำหนิเอาไว้ หากเป็นปานแดง ก็เชื่อกันว่า ถูกป้ายด้วยปูนแดงและหากเป็นปานดำ ก็เชื่อกันว่า ถูกป้ายด้วยถ่านเพราะถ้าหากมีบุญจริง อาจจะพบกันชาติหน้าและจำกันได้ โดยให้สังเกตจากตำหนิ แต่ในหลักความเป็นจริงแล้ว การเกิดปานไม่ว่าจะมีสีใดก็ตาม เป็นเพราะ ผิวหนังผิดปกตินั่นเอง
ห้ามปลูกต้นไม้ที่วัดปลูก
เชื่อกันว่า ต้นไม้ที่ขึ้นตามวัดหรือนำไปปลูกที่วัด เป็นของสูงและสมควรอยู่ ในวัดเท่านั้น ไม่ควรนำมาปลูกที่บ้าน จะทำให้บ้านนั้นตกอับ ไม่เจริญ เท่ากับเอาของสูง มาวางไม่ถูกที่ หากเกิดขึ้นเองโดยที่ไม่ได้นำมาปลูก ก็ให้ถอนออกเสีย หากจะให้ดี ก็ให้ นำไปไว้ที่วัดเสีย ต้นไม้ดังกล่าวอันได้แก่ ต้นโพธิ์ ต้นหวาย ต้นโมกข์ ต้นไทร ต้นนนทรีย์ ต้นตะเคียน เป็นต้น
แต่ทั้งนี้จะรวมถึงต้นไม้ที่ไม่เป็นสิริมงคลดวย เช่นต้นโศก ต้นระกำ ต้นยาง ที่มักนำมาทำโรงศพ ต้นสำโรงที่ดอกมีกลิ่นเหม็น ซึ่งเหล่านี้ดูไม่เป็นสิริมงคล จึงไม่นิยม นำมาปลูกในบริเวณบ้านกัน
ห้ามตัดผมวันพุธ
วันพุธห้ามตัดผม เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ห้ามกันนักห้ามกันหนาเชื่อกันว่า ตัดผม วันพุธจะทำให้เกิดอัปมงคลกับชีวิตทีเดียว จะเห็นได้ว่า ร้านตัดผมมักจะปิดร้านในวัน พุธกัน บ้างก็อ้างว่า ตัดผมในวันพุธหัวกุดท้ายเน่า ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ควรเชื่อเสียบ้าง ตัดในวันรุ่งขึ้นก็คงไม่นานเกินรอไป ได้ และก็ยังไม่ได้ยินเช่นกันว่า นิยมตัดผมกันในวันพุธ
ตาเขม่น
ฮิต ฮิต ฮิต เรื่องตาเขม่นตามความเป็นจริงแล้ว เขม่นได้หลายส่วนของ ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก แขน ขา หรือแม้กระทั่งตา ดังนั้นการเขม่นตาจะแบ่งออก เป็น 3 ช่วงคือ
หากเขม่นตาในช่วงเช้า - บ่าย คนโบราณกล่าวไว้ว่า หากเป็นข้างขวาจะมีโชค ลาภ ได้รับข่าวดี เรียกว่า จะสมหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่คอย และหากเขม่นที่ตาซ้าย ท่านว่าจะมีเคราะห์ โชคร้ายผิดหวังเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน เช่น มีการทะเลาะกัน เกิดขึ้น หรือจะต้องสูญเสียของรักบางอย่างไป ถ้าเขม่นตาไม่ว่าจะเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา ในช่วงเวลาเย็นถือว่ามีโชคมีลาภ จะได้พบญาติสนิทมิตรรักเดินทางมาหา แต่ถ้าเป็นในช่วงกลางคืน การเขม่นตาขวาจะได้ดี จะมีเคราะห์มีเหตุร้ายเกิด ขึ้น ตรงกันข้าม ถ้าหากเขม่นตาซ้ายจะมีโชคลาภจากเพื่อน จะสมหวังสิ่งที่รอคอย เรียกว่า ขวาร้าย-ซ้ายดี การเขม่นตานี้ เชื่อกันว่า เป็นลางบอกเหตุที่แม่นยำมาก ท่านให้ถือเวลาที่จะเกิด เหตุไม่ดีและร้ายภายใน 3 วันอย่างแน่นอน
เมื่อสัตว์ป่าเข้าบ้าน
เรื่องของสัตว์ป่านั้น ตามธรรมชาติแล้วสัตว์ป่าก็ควรที่จะอยู่ตามป่าตามเขาจึง จะถูกต้อง แต่หากเมื่อใดสัตว์เหล่านี้เป็นต้นว่า งูต่างๆ ชนิด หรือแม้กระทั่งเต่า คำโบราณ ถือนักว่า ผิดธรรมชาติและหากจะให้สัตว์จำพวกนี้อยู่ในบ้านก็คงอยู่ไม่ได้ ถือว่านำความ อัปมงคลมาสู่ครัวเรือน ท่านให้แก้เคล็ดด้วยการ จุดธูปเทียน ดอกไม้บอกเล่าและเชิญให้ ออกจากบ้าน พร้อมกับขอพรให้นำพาสิ่งดีงามมาให้ สัตว์ป่าที่เข้าบ้านนี้ ตามคำโบราณยังถือรายละเอียดอีกมากมายเกี่ยวกับว่า มา ทิศใดจะนำอะไรมาให้ ยกเว้น หากเป็นทางทิศตะวันตกและทิศเหนือจะได้รับโชคลาภ แต่ก็ นั่นแหละตอนที่สัตว์ป่าเหล่านี้คลานมาคงไม่มีใครรู้ มาทางใดมารู้อีกทีก็อยู่ในบ้านเสียแล้ว ดังนั้นทางที่ดีก็อย่ามาเลยดีก่าเนอะ
ห้ามเผาศพวันศุกร์
คนโบราณถือว่า "เผาศพในวันศุกร์ให้ทุกข์กับคนเป็น" และโดยปกติทั่วไปจะสังเกตว่า ไม่มีผู้ใดเผาศพในวันศุกร์ให้เห็นเลย เพราะเชื่อกันว่า วันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภ วันแห่งความร่มเย็นเป็นสุข เหมาะที่จะมีงานมงคลมากกว่างานเผาศพน๊ะ
หวีหัก โชคไม่ดี
คนโบราณเชื่อกันว่า ในขณะที่กำลังสางหรือหวีผมนั้น ไม่ว่าจะใช้หวีไม้หรือหวี พลาสติกก็ตามแต่ แล้วหวีเกิดหักคาผมในขณะที่ยังหวีอยู่นั้น ท่านให้เชื่อได้เลยว่า จะเกิด เรื่องไม่ตีตามมาอย่างแน่นอน เป็นต้นว่า อาจมีเรื่องทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น สูญเสียของรัก หรือมีเรื่องทุกข์ร้อนใจให้หงุดหงิดได้ การแก้เคล็ดด้วยการนำหวีนั้นทิ้งไปเลย ไม่ให้เก็บไว้ใช้หรือนำไปซ่อมมาใช้ใหม่ และจุดธูปบอกเล่าให้สิ่งร้ายกลายเป็นดีเรื่องหนักก็จะกลายเป็นเบาเสีย แต่ความเชื่อของคนโบราณเรื่องหวีหักนี้ อาจจะเกิดเรื่องที่ไม่รุนแรงนักก็ได้ แล้วแต่โชคชะตาและดวงในตอนนั้นด้วย
มีกลิ่นธูป หมายถึงวิญญาณ
ในยามวิกาลเสียงเงียบสงัด เมื่อใดได้กลิ่นธูปลอยมา โดยที่ไม่มีใครจุดธูปใน บริเวณนั้นๆ เลย คนโบราณเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของญาติสนิทภายใครอบครัวมาหา จะเป็นเพราะคิดถึง ห่วงใยกันหรือด้วยเหตุใดก็ตาม ท่านให้คนที่ได้กลิ่นธูปนั้น จุดธูป 1 ดอก ลอกเล่าให้ไปที่สงบๆ อย่ากังวลสิ่งใดที่จะทำให้วิญญาณไม่สงบสุขเลยบางคนอาจ ขอพรจากวิญญาณญาติสนิทนั้นให้ปกปักรักษา และให้โชคลาภด้วย แต่หากไม่มีญาติสนิทในระยะนั้นเสียชีวิต ก็เชื่อกันว่า อาจจะเป็นวิญญาณ พเนจรทั่วไป ก็ให้จุดธูปเช่นเดียวกันบอกเล่าว่า อย่ามารบกวนให้กลัว ให้ไปที่ชอบที่สงบ และนิยมใส่บาตรแผ่ส่วนกุศลให้ในวันรุ่งขึ้นด้วย
ผึ้งทำรังในบ้าน มีโชค
โดยธรรมชาติแล้ว ผึ้งมักนิยมทำรังตามต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นหนาแน่น และอยู่ในที่ สงบไม่พลุกพล่าน แต่เมื่อใดที่ผึ้งมาทำรังในบ้านจะเป็นชายคาบ้าน ใต้หลังคาบ้าน บางบ้าน มีผึ้งมาทำรังถึงห้องน้ำก็มี ท่านว่าไว้ว่า อย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาด จะทำให้เกิดความหายนะขึ้นกับครอบ ครัวเรือนนั้น เพราะผึ้งเป็นสัตว์นำโชค ให้ปล่อยผึ้งทำรังต่อไป เชื่อกันว่า ยิ่งรังใหญ่มาก เท่าใด ก็จะมีโชคลาภมากขึ้นเท่านั้น และควรจุดธูปเทียนบูชา รวมทั้งดอกไม้ เพื่อความเป็น สิริมงคลด้วย
ดูดวงจากต้นว่าน
คนที่ทำอาชีพค้าขาย หรือนักธุรกิจติดต่อกับผู้คน เพื่อการค้าต่างๆ คนโบราณ โดยเฉพาะในสมัยก่อน นิยมปลูกต้นว่านต่างๆชนิดแล้วแต่ และดูดวงชะตาตัวเองจากการ เจริญเติบโตของต้นว่าน นั้นๆว่า เติบโตงอกงามขึ้นหรือไม่ ชีวิตกำลังรุ่งเรืองและยิ่งต้น ว่านนั้นออกดอกออกผล ก็จะยิ่งทำให้ดวงชะตาพุ่งสูงมาก ท่านรีบจุดธูปขอพรให้ดวง ชะตาคงอยู่เช่นนั้น แต่หากต้นว่านที่ปลูก อยู่ๆเกิดหักงอ หรือเหี่ยวแห้งลงทุกวันๆ หรือ ปลูกมานานแล้วก็ไม่เกิดดอกออกผลเสียที ท่านให้เชื่อว่า ดวงกำลังตก การค้าขายก็กำลังแย่ ให้รีบทำบุญทำทาน หรือหาทางแก้ไขปรับปรุงการค้า หรือธุรกิจนั้นเสีย พร้อมกับบำรุงดูแล ต้นว่านนั้นด้วย
มือชนกันขณะกินข้าว จะมีแขกมาเยือน
ในสมัยโบราณ ไม่มีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกเหมือนปัจจุบันการโทรศัพท์ก็ยังไม่ มีใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใคร สักคนก็เป็นไปได้ยาก จะต้องพบกันแล้วนัดหมายในครั้งต่ไปกันเลย แต่คนโบราณใช้วิธีการสังเกตความเป็นไปได้ว่า ในขณะที่นั่งล้อมวงรับประทาน อาหารกันนั้น หากมี 2 คนในวงเอื้อมมือไปหยิบอาหารพร้อมกัน และชนกันที่กลางสำรับอาหาร เชื่อว่าจะต้องมีแขกมาเยือนกันถึงเรือนชานอย่างแน่นอน ไม่วันนี้ก็เป็นพรุ่งนี้ ก็จะมีการเตรียม ข้าวปลาอาหารรอต้อนรับ และก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป
ลางสังหรณ์ ลางบอกเหตุ
มากล่าวถึงเกี่ยวกับเรื่องลางสังหรณ์กันบ้าง คงต้องทำความเข้าใจกันก่อน เพราะบางครั้งอาจจะทำให้ หลงยึดติดไปกันใหญ่ ว่าอย่างไรเป็นลางสังหรณ์ ลางบอกเหตุ หรือว่าอย่างไรเป็นเรื่องคิดมาก ยกตัวอย่างเช่น หากท่านเป็นหวัดอยู่ ท่านจามออกมามันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร (หรือว่าได้กลิ่นน้ำหอม กลิ่นดอกไม้) ซึ่งก็จะไม่ถือว่าเป็นลางสังหรณ์ แต่ว่า หากอยู่ดีๆ แล้วจาม “โดยไม่มีสาเหตุ” นี่แหละถึงจะเป็น หรือว่าจะเป็นอย่าง เสื้อเกี่ยวกัน หากท่านแขวนเสื้อไว้ในตู้เสื้อผ้าเยอะๆ มันจะเกี่ยวกันบ้างจะแปลกตรงไหน แต่ว่าหากท่านเดินอยู่กลางตลาดที่ไม่ค่อยมีคน แล้วเสื้อเกี่ยวกันกับคนอื่น นั่นแหละคือลางสังหรณ์ ดังนั้นสรุปง่ายเลยว่าอะไรจะเป็นหรือไม่เป็นลางสังหรณ์ หรือลางบอกเหตุ ให้ดูที่ “สาเหตุที่มันไม่มี หรือว่าอยู่ดีๆมันก็เกิดแบบหาสาเหตุไม่ได้”
เวลาในการดู ลางบอกเหตุ ลางสังหรณ์ เราจะแบ่งเป็นช่วงๆทั้งหมดดังต่อไปนี้ ได้แก่
ยาม |
เวลา |
ยามจื้อ |
23.00 - 00.59 |
ยามทิ่ว |
01.00 - 02.59 |
ยามอิ๊ง |
03.00 - 04.59 |
ยามเบ้า |
05.00 – 06.59 |
ยามซิ้ง |
07.00 – 08.59 |
ยามจี๋ |
09.00 – 10.59 |
ยามโง่ว |
11.00 – 12.59 |
ยามบี่ |
13.00 – 14.59 |
ยามซิง |
15.00 – 16.59 |
ยามอิ้ว |
17.00 – 18.59 |
ยามสุก |
19.00 – 20.59 |
ยามไห |
21.00 – 22.59 |
1. หนังตากระตุก
ยาม |
ซ้าย |
ขวา |
ยามจื้อ |
มีผู้อุปถัมป์ |
มีลาภปาก |
ยามทิ่ว |
จะทุกข์ใจ |
มีคนคิดถึง |
ยามอิ๊ง |
แขกจากทางไกลมาหา |
มีข่าวมงคล |
ยามเบ้า |
แขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยม |
ปกติสุข |
ยามซิ้ง |
มิตรจากทางไกลมา |
มีลาภปาก |
ยามจี๋ |
มีลาภปาก |
มีปัญหาอุปสรรค |
ยามโง่ว |
มีลาภปาก |
มีข่าวร้าย |
ยามบี่ |
มีเรื่องมงคล |
มีเรื่องมงคล |
ยามซิง |
สูญเสียทรัพย์ |
มีเพศตรงข้ามคิดถึง |
ยามอิ้ว |
แขกมาเยี่ยม |
มีผู้มาจากแดนไกล |
ยามสุก |
มิตรจะมาหา |
ได้เดินทางไกล |
ยามไห |
เพื่อนเดินทางมาหา |
มีการทะเลาะ |
2. หูอื้อ
ยาม |
ซ้าย |
ขวา |
ยามจื้อ |
มีเพศตรงข้ามคิดถึง |
สูญเสียทรัพย์ |
ยามทิ่ว |
มีการทะเลาะ |
มีการฟ้องร้อง |
ยามอิ๊ง |
สูญเสียทรัพย์ |
จิตใจร้อนรุ่ม |
ยามเบ้า |
มีลาภปาก |
แขกมาเยี่ยม |
ยามซิ้ง |
เดินทางไกล |
มิตรมาเยี่ยม |
ยามจี๋ |
มีข่าวร้าย |
มีเรื่องมงคล |
ยามโง่ว |
ได้ข่าวคราว |
ญาติมาเยี่ยม |
ยามบี่ |
มีลาภปาก |
แขกทางไกลมาหา |
ยามซิง |
การเดินทาง |
ข่าวมงคล |
ยามอิ้ว |
สูญเสียทรัพย์ |
ศิริมงคลยิ่ง |
ยามสุก |
มีลาภปาก |
มิตรมาเยี่ยม |
ยามไห |
ศิริมงคล |
มีลาภปาก |
3. หูร้อน ใบหน้าร้อนผ่าว
ยาม |
หูร้อน |
ใบหน้าร้อนผ่าว |
ยามจื้อ |
มีเรื่องปรึกษา |
รับทรัพย์ ข่าวดี |
ยามทิ่ว |
มีข่าวมงคล |
มีเรื่องทุกข์ใจ |
ยามอิ๊ง |
สังสรรค์มีลาภปาก |
มีแขกจากแดนไกล |
ยามเบ้า |
มีแขกจากแดนไกล |
มีลาภปาก เพื่อนมาหา |
ยามซิ้ง |
เงินทองไหลมาเทมา |
พบเพื่อนเก่า |
ยามจี๋ |
สูญเสียทรัพย์ |
พบปะสังสรรค์ |
ยามโง่ว |
มีลาภปาก และข่าวมงคล |
ญาติมาหา |
ยามบี่ |
มีคนมาขอความช่วยเหลือ |
ทะเลาะเบาะแว้งวุ่นวาย |
ยามซิง |
มีการพบปะ และข่าวมงคล |
มีผู้อุปถัมป์ค้ำจุน |
ยามอิ้ว |
มีผู้มาเจรจาเรื่องมงคล |
มิตรจากแดนไกลมาหา |
ยามสุก |
มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง |
มีลาภปาก |
ยามไห |
การเกิดคดีความ |
มีการทะเลาะเบาะแว้ง |
4. เนื้อกระตุก จาม เสื้อเกี่ยวติดกัน
ยาม |
เนื้อกระตุก |
จาม |
เสื้อเกี่ยวติดกัน |
ยามจื้อ |
ผู้ใหญ่มาเยี่ยม |
สังสรรค์มีลาภปาก |
ชายมีลาภปาก หญิง เกี่ยวกับการแต่งงาน |
ยามทิ่ว |
ได้ทรัพย์ ข่าวมงคล |
มีคนคิดถึง มีคนมาขอความช่วยเหลือ |
มีเรื่องทุกข์ใจ มีเรื่องเสียทรัพย์ |
ยามอิ๊ง |
ข่าวร้ายต้องแก้ไขด่วนแล้วจะดี |
สังสรรค์มีลาภปาก |
ญาติมีกังวลมาหา ขอความช่วยเหลือ |
ยามเบ้า |
ได้รับทรัพย์ |
มีผู้มาติดต่อ มีข่าวมงคล |
มีคนนำข่าวร้ายมา |
ยามซิ้ง |
อาจมีข่าวร้าย |
มีลาภปากทั้งวัน |
สูญเสียทรัพย์ เจ็บไข้ได้ป่วย |
ยามจี๋ |
แขกมาเยี่ยม |
มีผู้อุปถัมป์มาติดต่อเรื่องเงินทอง |
มีเพศตรงข้ามคิดถึง |
ยามโง่ว |
เป็นศิริมงคล |
พบปะสังสรรค์ |
แขกจากทางไกลมาหา มีลาภ |
ยามบี่ |
มีข่าวมงคล รับทรัพย์ |
มีลาภปาก และศิริมงคล |
มีข่าวเลือดตกยางออกไม่ร้ายแรง |
ยามซิง |
มีการทะเลาะเบาะแว้ง |
มีฝันร้าย มีเหตุไม่ดี |
ศิริมงคล มีลาภดี |
ยามอิ้ว |
อาจเสียทรัพย์ กำลังมีภัย |
มีคนมาติดต่อธุระ |
มีคนมาหา ทำให้เสียทรัพย์ |
ยามสุก |
การเดินทางนั้นดีมาก |
มีคนคิดถึง |
รับทรัพย์ |
ยามไห |
ข่าวศิริมงคล |
มีเรื่องศิริมงคล |
พบญาติผู้ใหญ่ รับทรัพย์ |
- รายละเอียด
- หมวด: โหราศาสตร์ไทย
- จำนวนผู้อ่าน: 9585
ประกาศมหาสงกรานต์ปีพุทธศักราช ๒๕๕๓
ปีขาลโทศก จุลศักราช ๑๓๗๒ พุทธศักราช ๒๕๕๓ อธิกมาส ปกติวาร ปกติสุรทิน วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๓ เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ เวลา ๐๘.๓๘ น.
กาลโยคประจำปี ๒๕๕๓ (เริ่ม ๑๖ เมษายน ๒๕๕๓-๑๕ เมษายน ๒๕๕๔)
วันอังคารเป็นวันธงชัย วันพฤหัสบดีเป็นวันอธิบดี วันเสาร์เป็นวันโลกาวินาศ
นาง สงกรานต์มณฑาเทวี มัณฑาเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันพุธ ทัดดอกจำปา มีไพฑูรย์ (พลอยสีเหลืองแกมเขียว) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ นมและเนย อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ ขวาถือเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์คัสพะ (ลา)
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 11168
ตำราพรหมชาติ
ดูดวง : ชะตาประจำวันเกิด [ โหราศาสตร์มอญ ]
พระมหาจรูญ ญาณจารี
แปลจากคัมภีร์โลกสิทธิมอญ
คนเกิดวันอาทิตย์ ผู้ใดเกิดวันอาทิตย์ นามครุฑสิทธิธาตุหิน ทุกเพื่อนผินชอบทั่ว จิตกุศลยั่วยิ่งยง ทำคุณคงอับผล ดังตักชลรดตอไม้ห่อนเห็นได้ชุ่มชื่น เชื่อเขาอื่นเร็วนักภายหลังมักพิศวง ต่อใหญ่ยงยลสุข ในยี่สิบเอ็ดทุกข์โศกสนองเนืองหน้า ในยี่สิบห้าหนหนึ่งจักขุ่นขึ้งแค้นเคือง ถ้อยความเนืองเหนื่อยเหน็ด ยี่สิบเจ็ดจัดยก สี่สิบหกให้ระมัดเร่งบัญญัติปากตน พ้นนั้นผลลาภา ตราบชราเรืองจิต คนวันอาทิตย์นี้ ท่านกล่าวชี้บังคับ เบื้องพายัพอยู่สูญ เป็นทิศมูลโดยมี ชอบเชิงที่ไหล่ ทักษิณทิศศรี ปลูกมาลีสวนสถาน เบื้องทิศอีสานอายุสมไหว้พระเจดีย์ บูรพาบ่อธาร อาคเนย์ฐานยุ้งฉาง บ่าวไพร่ วางอุดร อาวุธหรดี เตาอัคคีครัวไฟทิศประจิม ใจจงรู้ จักเรืองยศยิ่งผู้อื่นโอ้ฤๅหัน
คนเกิดวันจันทร์ คนเกิดวันจันทร์แจ้งประจักษ์ นามพยัคฆ์เสือสีห์ ธาตุไม้ มีโวหาร มากทะยานยิ่ง รู้โกรธเร็วรู้เร็วหาย เพราะปากร้ายเหลือเข็ญ คนมักเป็นศัตรู สิบห้าดูโดยหมาย ร้อนใจร้ายเหลือการ เพราะคบพาลอาภัพ หาทรัพย์ได้ไม่ขาด แต่เรี่ยราดร่อยหาย ยี่สิบสามหมายเหมือนจิต จักสัมฤทธิ์เดชสวัสดิ์ ด้วยสมบัติเหลือล้น สามสิบพ้นพึงฟัง เร่งระวังมั่นหมาย เคราะห์ร้ายหลายโดยเลศ ห้าสิบเศษขึ้นไป จักสุขใจเจริญศรี ดังวาทีรำพัน คนวันจันทร์จงจำ ท่านแนะนำตำรา เบื้องบูรพาทักษิณ จงยลยินไหว้พระ อาคเนย์สระบ่อธาร ทิศอีสานสวนศรี เบื้องหรดีพวกบ่าวไพร่ วัวควาย อุดรยุ้งฉาง อาวุธวางตะวันตก พายัพวางครัวเพลิง จักรื่นเริงเรืองหล้า มิให้นฤตกต่ำช้า ตราบสิ้นเสียสกนธ์
คนเกิดวันอังคาร โดยนามขนานสีหราช ธาตุเหล็กดีโดยใจ เป็นฝีไฝพักตรา ชอบคันธาทางทหาร ที่ถิ่นฐานสถิตหลายมากมิตรสหายแห่งหน ทำคุณคนบ่ห่อนเห็น มันมักเป็นเปล่าไป เก็บทรัพย์ ไม่คง พวกเผ่าพงศ์พันธุ์ญาติ อย่าควรมาตรหมายพึ่ง แต่คนหนึ่งฤๅมี ได้ดิบได้ดีด้วยตน เมื่อสิบห้าชนม์ยลเศร้า ยี่สิบห้าเข้าครั้งหนึ่ง โรครุมรึงร้อนแรง สามสิบแสดงโดยดี ในยี่สิบปีลงมาร้อนอุราแรงเร้า แสนโศกเศร้าเสียสุขแลรานทุกข์ทุกวัน พ้นนั้นสรรพสุขถึง จงคำนึงถึงตำนาน อีสานอาคเนย์นี้ ชี้ช่องไว้พระ บูรพะอุทยาน อุดรธารนทีเบื้องหรดียุ้งฉาง วางบ่าว ไพร่วัวควายจงมั่นหมายประจิม เครื่องศัตราพายัพ ครัวบังคับเขตไว้ เบื้องทักษิณไซร้ สุขพ้นโภยภัย
คนเกิดวันพุธ นามสุนัข ธาตุเถ้า สามสิบเจ็ดเข้าขวบปี โรคราวีมีทุกข์ ถ้อยความรุกรุมให้ หาทรัพย์ได้ไม่คง วิริยะยงยิ่งผู้ มักรอบรู้สรรพการ ทำคุณท่านอาภัพ มักสูญลับลอยเปล่า สถานเก่านิราศครรไล ไปเนาว์ในที่อื่น สำราญชื่นรมยา ถ้อยวาจาอาจหาญ ห่อนวิจารณ์หยุดยั้ง ใหญ่มั่นคงสมบัติ เสวยสุขสวัสดิ์เป็นเปรมปรีดิ์ ห้าสิบแปดชี้ไว้ จักเป็นไข้โภยภัย อนึ่ง อาจารย์บัญชา ตามตำราบัญญัติ คนวันพุธพึงจำโดยดังบังคับ อุดรกับบูรพาไว้ปฏิมาเจดีย์ ทั้งสวนศรีอาคเนย์ ครัวเพลิงไว้อีสาน สระบ่อธารหรดี ยุ้งสาลีปัจฉิมา ไว้ศัตราทักษิณ โดยดังยินอย่างอ้าง บ่าวไพร่วัวควาย ข้างพายัพไว้จงจำ
คนเกิดวันพฤหัสบดี ผู้ใดเกิดมาในทิวาวันพฤหัส ธาตุน้ำ ชัดนามหนู โมโหดูดุจนาค ปัญญามากรอบรู้ เป็นเผ่าผู้เพียรเรียนการขีดเขียนเชี่ยวชาญ ปากโวหารรอบรู้ ชอบใจสตรีสมณะ แม้เสนหะคบหา ได้ลาภาเรืองผล เมื่อชนม์ดล เข้ายี่สิบห้าเศร้าโศกศัลย์ คนเกิดวันพฤหัสจงจำอรรถวาที ไว้เจดีย์รูปพระ ทิศประจิมะอุตตรา เบื้องบูรพาอาวุธ สระขุดพายัพ สวนบังคับเขตไซร้ ไว้หรดีดังคำ ยุ้งฉางทิศทักษิณ โคทาสาอีสาน อาคเนย์ฐานครัวไฟ จักเจริญใจสุขพร้อม ดุจได้ป้อมปราการ มินิราศ ร้างแรมไกล
คนเกิดวันศุกร์ ชนใดเอากำเนิดเกิดในวันศุกรา นามมนุสา ธาตุลม จิตนิยมทะยานนัก มักอึกอักโวหาร ปากสามานไม่น้อย โกรธเร็วฤๅคิด หาทรัพย์ติดตนน้อยแล้วเสียย่อยสิ้นไป ยี่สิบห้า พลันได้มิตรเป็นคู่คิดชมชื่น เพราะเขาอื่นได้ร้อน สี่สิบซ้อนชูศรี หกสิบปีทีหนึ่ง ยศศักดิ์พึงพูลผล คนวันศุกร์สืบสาย ทิศประจิมะ-ทักษิณ ไหว้พระเจติยะ สระวารินอีสาน อุตตระฐานศัตรา เบื้องบูรพา ยุ้งฉาง วางบ่าวไพร่ วัว ควาย ฝ่ายอาคเนย์ โดยมีทิศหรดีครัวเพลิง จักสำเริงฤทธิ์ซ้อง ดุจได้วิเชียรป้อง ปิดป้องภัยยันต์
คนเกิดวันเสาร์ ผู้ใดเกิดวันเสาร์ นามนาคา ธาตุไฟ ใจดุร้ายโกรธแรงปานเพลิง โชติแสงฉัน ศรัทธาหาญเหิมกล้า มิตรมากหน้าเนืองนอง เก็บเงินทองมั่นดี แรกหัวที พ่อแม่บังเกิดก่อร้างกัน ภายหลังผันผ่อนดี ตำหนิ ฝี ไฝ ปาน เกิดกันดารซ้ายขวา จักจมชลาสาครเรศ สุนัขเศวตขบคั้น หนหนึ่งนั้นเหมือนหมาย ถ้าเป็นชายบรรพชิต หญิงสมจิตสามี ยี่สิบห้าปีได้มิตร ภิรมย์จิตพิศมัย สามสิบปีได้วิวาท ถ้อยความพาดรุกร้น สี่สิบปีพ้นเพิ่มสวัสดิ์ ทิพยสมบัติบานใจ คนผู้เกิดในวันเสาร์ จงจำเอาอรรถตามตำราโบราณ อาคเนย์ฐานหรดี ไว้ชิดศรีบูชิต ทิศอุดรทำสวน ประจิมควรขุดสระ เบื้องบูรพาครัวไฟ ในอีสานทิศไว้ศัตราเตรียมตั้ง โคกระบือ บ่าวไพร่รั้ง จัดไว้ทางทักษิณ
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราทำนายฝัน
- จำนวนผู้อ่าน: 14206
ตำราพรหมชาติ
ทำนายฝันมอญ [ โหราศาสตร์มอญ ]
พระมหาจรูญ ญาณจารี
แปลจากคัมภีร์โลกสิทธิมอญ
เหตุแห่งความฝันมี 3 ประการ คือ
1. ถ้าฝันในปฐมยาม จะมีสาเหตุมาจากอาหาร ทำให้ธาตุกำเริบ ฝันนั้นไม่เป็นจริง
2. ถ้าฝันในมัชฌิมยาม จะมีสาเหตุมาจากเทวดาทำให้ฝัน ฝันนั้นเป็นจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง
3. ถ้าฝันในเวลารุ่งเช้า จะมีสาเหตุมาจากนิมิตเห็น ฝันนั้นเป็นจริง
ฝันในรอบสัปดาห์
ฝันวันอาทิตย์ จะตกแก่ผู้อื่น
ฝันวันจันทร์ จะตกแก่บริวารและมิตรสหาย
ฝันวันอังคาร จะตกแก่พ่อแม่
ฝันวันพุธ จะตกแก่วงศ์ญาติ
ฝันวันพฤหัสบดี จะตกแก่ครูบาอาจารย์
ฝันวันศุกร์ จะตกแก่สัตว์เลี้ยง
ฝันวันเสาร์ จะตกแก่ตัว
ฝันดี
1. ฝันว่าได้ดื่มน้ำจากหม้อคณโฑทอง จะได้รับบำเหน็จจากเจ้านาย
2. ฝันว่าตัวเองเจริญรุ่งเรืองขึ้น จะได้เครืองประดับและทรัพย์สมบัติชิ้นใหญ่จากญาติ
3. ฝันว่าหลุมหรือสระตื้นเขินขึ้น ลูกเต้าจะเป็นหม้าย
4. ฝันว่าปรนนิบัติพระสงฆ์ จะพ้นจากความทุกข์ยาก
5. ฝันว่าดื่มน้ำปัสสาวะ จะได้ลาภจากที่ไกล
6. ฝันว่าตัวเองเน่าเหม็น ผู้อื่นจะศรัทธาสรรเสริญ
7. ฝันว่าดีดพิณ ซอ จะเข้ เช้าขึ้นจะได้ลาภ ยศ มากกว่าผู้อื่น
8. ฝันว่าควั่นเทียน เด็ดดอกไม้ เป็นหญิงจะได้สามีดี เป็นชายจะได้เมียสาว
9. ฝันว่ากินห้องน้ำ จะได้เป็นใหญ่
10. ฝันว่ากัดกินมือเท้า จะได้เป็นนายคน
11. ฝันว่าใส่รองเท้า กางร่ม ขึ้นเสลี่ยง จะต้องเดินทางไกล
12. ฝันว่าเอาเทียน ข้าวตอก บูชาพระ จะมีบารมี(อิทธิพล)
13. ฝันว่าป่วย จะมีความสุข
14. ฝันว่าเทวดามีฤทธิ์เดช จะเป็นผู้มีความประพฤติดี
15. ฝันว่าขุดหลุมหรือสระ จะเป็นได้เป็นพ่อค้า
16. ฝันว่านั่งบนถาด จะได้ญาติทั้งหลาย
17. ฝันเห็นฝั่ง จะได้เป็นเจ้านายคน
ฝันไม่ดี
1. ฝันเห็นคนร่างดำทะมึน ดื่มเลือดตัวเอง คดีความเก่า ๆ จะฟื้นคืน
2. ฝันเห็นการบูชายัญ ในขณะที่เผาตัวเอง ไฟไม่ไหม้ จะเป็นโรคเรื้อรัง
3. ฝันว่าน้ำกับน้ำมันปนกัน คนอายุน้อยกว่าจะพูดจาข่มเหงเรา
4. ฝันว่าบูชายัญ จะต้องไปไกลจากญาติพี่น้อง
5. ฝันว่าจมน้ำ โรควิกลจริตกำเริบ
6. ฝันเห็นดอกไม้สีแดง จะเป็นโรคลม
7. ฝันว่าห่มผ้าแดง ทัดดอกไม้สีแดง ไล้ทาจันท์แดง จะเจ็บป่วย ถ้าไม่เจ็บป่วย จะทะเลาะวิวาทกัน
8. ฝันเห็นหญิงร่างดำทะมึนมาจากทิศใต้ มันดึงตัวเราไปทางทิศเหนือ จะเป็นโรคเกี่ยวกับเลือดและดี จะป่วยหนักแล
9. ฝันว่าขึ้นต้นพิกุล ต้นปีบ ต้นมะตูม ครบ 6 เดือนป่วยแล
10 ฝันว่าขึ้นบนคน บนเสาหมาก บนศพแห้ง ครบ 10 เดือนป่วยแล
11. ฝันว่าลงหลุมมืด ครบ 3 เดือนป่วยแล
12. ฝันว่าชายร่างทะมึน มันดึงตัวเราไปทางทิศเหนือ 7 วันข้างหน้า ตาย
13. ฝันเห็นหญิงเล็บมือแหลม ตาแดง มันรัดตัวเรา จะเป็นโรคกรรมแล
14. ฝันเห็นหญิง ตัวมันสีทอง ห่มผ้าสีทอง ทัดดอกไม้สีทอง มาขัดสีตัว โรคกรรมหายแล
15. ฝันเห็นงูเห่าใหญ่ จะเกิดเรื่อง
16. ฝันเห็นผมรกรุงรัง ทัดดอกไม้สีดำ จะเป็นคดีความ
17. ฝันว่านอนคลุมผ้าสีแดง จะเป็นคดีความ
18. ฝันเห็นงูใหญ่ บริวารชายหญิงจะวิวาทกัน ไม่ก็ตัวเองเป็นปากเป็นเสียง
19. ฝันว่าฟันหลุด พ่อ แม่ สามี ภรรยา ญาติพี่น้องคนใดคนหนึ่งตาย
20. ฝันว่าขัดตัวด้วยน้ำมันงา ต้องภัยแล
21. ฝันว่าตกจากต้นไม้ บ้านที่อยู่ หลังช้าง หลังม้า ต้องเสื่อมจากยศศักดิ์
22. ฝันว่างูพิษกัด จะเกิดเรื่อง
23. ฝันว่าท้องเสีย สิ่งของต้องออกจากตัวเรา ภายหลังได้ลาภ
24. ฝันว่ารื้อผึ้ง ผึ้งต่อยเอา จะมีเรื่องกับทางราชการ
25. ฝันเห็นลิง จะพบคนไม่ดี
26. ฝันเห็นเต่าตะพาบน้ำ จะเกิดปากเสียง
27. ฝันว่าควายขวิด จะมีศัตรู
28. ฝันว่าชายร่างทะมึนดึงตัวไปทางทิศเหนือ อาจตาย ถ้าไม่ตายต้องหมดสิ่งของ
29. ฝันว่ารื้อต่อ ต่อต่อย จะเกิดปากเสียง
30. ฝันเห็นผีร้าย ต้องจากที่ไปไกลแล
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 15363
ตำรายามสามตามอญ [ โหราศาสตร์มอญ ]
พระมหาจรูญ ญาณจารี
แปลเรียบเรียงจากคัมภีร์โลกสิทธิมอญ
ถ้าเป็นข้างขึ้นให้นับเริ่มแต่อาทิตย์เวียนมาจันทร์และอังคารตามลำดับ
ถ้าเป็นข้างแรมให้นับเริ่มแต่จันทร์เวียนมาอังคารและอาทิตย์ตามลำดับ แล้วให้ทายไปดังนี้
---------------
ถ้าเขาถามว่า ผู้ลักไปเป็นชายหรือหญิง ตกอาทิตย์เป็นเด็กผู้ชาย ตกจันทร์เป็นหญิง ตกอังคารเป็นชาย
ถามถึงสัตว์สี่เท้าหรือสองเท้าที่หายไปจะได้คืนหรือไม่ ตกอาทิตย์จะได้คืนโดยเร็วพลัน ตกจันทร์จะได้คืนแต่นานมาก ตกอังคารไม่ได้คืน
ถามถึงทิศที่เอาไปซ่อนไว้ ตกอาทิตย์อยู่ทิศเหนือกับทิศอีสาน ตกจันทร์อยู่ทิศตะวันออกกับทิศใต้ ตกอังคารอยู่ทิศตะวันตกกับทิศพายัพ
ถามลักษณะคนที่ลักไป ตกอาทิตย์คนในเรือนลักไปซ่อนไว้ ตกจันทร์หญิงผิวขาวลักไป ตกอังคารผู้ใหญ่ลักไป
ถ้าเขาถามว่า คนป่วยจะหายหรือป่วย ตกอาทิตย์ต้องตายแน่ ตกจันทร์ต่อนานจึงหาย อังคารจะหายป่วยโดยง่าย
ถ้าเขาถามว่า คลอดง่ายหรือยาก ตกอาทิตย์คลอดง่าย ตกจันทร์ต่อนานจึงจะคลอด ตกอังคารคลอดยากแล
ถ้าเขาถามว่า ลูกเป็นหญิงหรือชาย ตกอาทิตย์เป็นชาย ตกจันทร์เป็นหญิง ตกอังคารเป็นชาย
ถ้าเขาถามว่า หลงไปทางไหน ตกอาทิตย์ทางขวา ตกจันทร์ไปข้างหน้า ตกอังคารไปทางซ้าย
ถ้าเขาถามว่า ใครทำให้เกิดโทษ ตกอาทิตย์ผีเจ้าป่า ตกจันทร์ผีเรือน ตกอังคารผีตายโหงและผีพราย
ถ้าเขาถามว่า โทษเกิดจากสิ่งใด ตกอาทิตย์เพราะหลุมและบ่อน้ำ ตกจันทร์เพราะแก้วแหวน ตกอังคารเป็นเพราะตอไม้หรือยอดไม้ไผ่
ถ้าเขาถามว่า จะทำการได้หรือไม่ ตกอาทิตย์ได้แน่นอน ตกจันทร์ได้แต่ยากลำบาก ตกอังคารได้อย่างง่ายดาย
ถ้าเขาถามว่า เห็นหรือไม่เห็น ตกอาทิตย์เห็นแล ตกจันทร์เห็นระหว่างทาง ตกอังคารเห็นในเรือนแล
ถ้าเขาถามว่า จะมาหรือไม่มา ตกอาทิตย์ไม่มา ตกจันทร์มาถึงครึ่งทาง ตกอังคารจะมาถึงแน่
ถ้าเขาถามว่า ผู้ใดจะมา ตกอาทิตย์ตัวพระยามาเอง ตกจันทร์ส่งราชบุตรและเสนามา ตกอังคารตัวพระยามาเอง
ถ้าเขาถามว่า เดินทางมาเมื่อไร ตกอาทิตย์ยังมาไม่ถึง ตกจันทร์เริ่มเคลื่อนจากที่ ตกอังคารจะมาถึงโดยเร็ว
ถ้าเขาถามว่า เดินทางจะเป็นอย่างไร ตกอาทิตย์พบศัตรูแต่พอต้านทาน ไหว ตกจันทร์ศัตรูไม่กล้าสู้เรา ตกอังคารศัตรูเก่งกล้ากว่าเรา
ถ้าเขาถามว่า เห็นศึกหรือไม่ ตกอาทิตย์ไม่เห็น ตกจันทร์เห็นกลางทาง ตกอังคารเห็นโดยพลัน
ถ้าเขาถามกองทัพจะชนะหรือแพ้ ตกอาทิตย์เราแพ้เขา ตกจันทร์ไพร่พลเขามากสู้เขาไม่ได้ ตกอังคารเขาแพ้เราแล
ถ้าเขาถามว่า ไปสู่ขอหญิงสาวเป็นอย่างไร ตกอาทิตย์หญิงนั้นไม่ดี ตกจันทร์หญิงนั้นวิวาทกล้า ตกอังคารหญิงนั้นดี
ถ้าเขาถามว่า จะกลับมาหรือไม่ ตกอาทิตย์ไม่ได้กลับ ตกจันทร์ถูกจับตัวไว้ ตกอังคารกลับมายังไม่ถึง
ถ้าเขาถามว่า ตายหรือไม่ตาย ตกอาทิตย์ตายในเวลานั้น ตกจันทร์ตายในเวลาเย็น ตกอังคารหายแล
ถ้าเขาถามว่า อาการป่วยเป็นอย่างไร ตกอาทิตย์โยคีรักษา ตกจันทร์หญิงรักษาผิดวิธี ตกอังคารเหนื่อยใจแล
ถ้าเขาถามว่า ให้ของผู้อื่นไปเป็นประการใด ตกอาทิตย์ให้หนึ่งได้ร้อย ตกจันทร์ให้เสียของเปล่า ตกอังคารเหมือนทิ้งน้ำเสีย
ถ้าเขาถามว่า ปลูกบ้านเป็นอย่างไร ตกอาทิตย์ไม่ดี ตกจันทร์ดี ตกอังคารปานกลาง
ถ้าเขาถามว่า จะจับได้หรือไม่ ตกอาทิตย์จะจับได้แต่ต้นทาง ตกจันทร์จับได้แน่นอน ตกอังคารจับได้แล้วปล่อยทิ้งเสีย
ถ้าเขาถามว่า ถูกจับเป็นเชลยเมื่อไรจะกลับ ตกอาทิตย์กลับมาแล้วไปอีก ตกจันทร์กลับมาครึ่งทางแล้ว ตกอังคารสามวันมาถึง
ถ้าเขาถามว่า น้ำมีหรือไม่ ตกอาทิตย์ไม่มี ตกจันทร์มีดื่มจนอิ่มหน่ำ ตกอังคารน้ำเขาใส่ยาพิษไว้
ถ้าเขาถามว่า เรือที่นำมาเป็นเช่นไร ตกอาทิตย์มีตำหนิที่หัวเรือหรือเคยถูกไฟไหม้ ตกจันทร์ ท้องกว้างไม่ได้ส่วน ตกอังคารมีตำหนิที่แอกหัวท้าย
ถ้าเขาถามว่า จะคลอดเมื่อไร ตกอาทิตย์ช่วงเช้าถึงสาย ตกจันทร์ช่วงสายถึงเย็น ตกอังคารช่วงเย็นถึงเช้า
ถ้าเขาถามว่า ค้าขายเป็นอย่างไร ตกอาทิตย์ทุนหาย ตกจันทร์พอทุนคืน ตกอังคารมีกำไร
ถ้าเขาถามว่า ข่าวเป็นจริงหรือไม่ ตกอาทิตย์ไม่จริง ตกจันทร์ค่อนข้างจะไม่จริง ตกอังคารเป็นจริง
ถ้าเขาถามว่า ไถ่ทาสชายหญิงซื้อโคกระบือเป็นอย่างไร ตกอาทิตย์ทำได้ ตกจันทร์ปานกลาง ตกอังคารของชำรุดเสียหาย
ถ้าเขาถามว่า แต่งงานกันเป็นเป็นอย่างไร ตกอาทิตย์ชายตายก่อน ตกจันทร์หญิงตายก่อน ตกอังคารอยู่กันจนแก่เฒ่า
ถ้าเขาถามว่า จัดงานดีหรือไม่ประการใด ตกอาทิตย์จัดงานดี ตกจันทร์จัดงานพอประมาณ ตกอังคารจัดงานไม่ดี
ถ้าเขาถามว่า ศึกจะมาหรือไม่ ตกอาทิตย์ไม่มา ตกจันทร์มาถึงครึ่งทางแล้วกลับไป ตกอังคารมาถึงแล้ว
ถ้าเขาถามว่า ผู้ใดจะมา ตกอาทิตย์มาแต่ไพร่พล ตกจันทร์มาแต่ท้าวพระยา ตกอังคารกษัตริย์มาเอง
ถ้าเขาถามว่า ข่าวดีหรือร้าย ตกอาทิตย์เป็นแค่เพียงข่าว ตกจันทร์เป็น ข่าวร้ายตกอังคารเป็นข่าวศัตรู
ถ้าเขาถามว่า ศึกจะมาเดือนใด ตกอาทิตย์เดือน ๕,๖,๗.๘ ตกจันทร์เดือน ๙,๑๐, ๑๑,๑๒ ตกอังคารเดือน ๑,๒,๓,๔
ถ้าเขาถามว่า ศึกจะมาวันใด ตกอาทิตย์ วันพุธพฤหัสและศุกร์ ตกจันทร์ วันจันทร์และอังคาร ตกอังคาร วันอาทิตย์และวันเสาร์
ถ้าเขาถามว่า จันทรคราสเวลาใด ตกอาทิตย์ตอนเช้า ตกจันทร์ก่อนเที่ยงคืน ตกอังคารหลังเที่ยงคืน
ถ้าเขาถามว่า เกิดทางทิศใด ตกอาทิตย์ทิศอีสาน ตกจันทร์ทิศตะวันออกและอาคเนย์ ตกอังคารทิศหรดี
ถ้าเขาถามว่า กลืนหมดดวงหรือไม่ ตกอาทิตย์หมด ตกจันทร์กลืนหนึ่งส่วนเหลือสามส่วน ตกอังคารเหลือแต่ขอบ
ถ้าเขาถามว่า ถ่ายออกหรือคายออกอย่างไร ตกอาทิตย์ถ่ายออกด้านข้าง ตกจันทร์นานกว่าจะคายออกหมด ตกอังคารถ่ายออกจากด้านใน
ตำราสัตตวาร
ถ้าเขาถามว่า ของหายอยู่ที่ใดและใครลักไป
อาทิตย์ว่าอยู่ที่ดิน
จันทร์ว่า อยู่ซอกประตู
อังคารว่าอยู่ในน้ำ
พุธว่าอยู่ในหม้อ
พฤหัสบดีซ่อนไว้ในสวน
ศุกร์ว่าอยู่ข้างบน
เสาร์ว่าอยู่ห่างชั่วระยะบ้านหลังหนึ่ง
อาทิตย์ว่าชายลักไป
จันทร์ว่าหญิงสาวลักไป
อังคารว่าชายหนุ่มลักไป
พุธว่าหญิงลักไป
พฤหัสบดีว่าบริวารนักบวชลักไป
ศุกร์ว่าผู้เฒ่าผมหงอกลักไป
เสาร์ว่าหญิงลักไปแล
ตำรายามวันเกาะสี
ม ร
ฑ ว
ท่านให้ทำตาราง ๔ ตา แล้วจารึกอักษร ๔ ตัว นี้ คือ ม ร ฑ ว ให้ผู้ที่มาถามจับเอาอักษรตัวหนึ่ง
ถ้าจับได้อักษรตัว ม ได้เมื่อพระเจ้าโจรณีพ่ายแพ้ต่อมโหสถในการสงครามทุกคราวไป ถ้าทวงถามถึงหนี้สินไม่มีทางได้คืน ถ้าถามถึงอาการป่วยไข้ คนป่วยไม่ถึงตาย ถามถึงของหาย อยู่ทางทิศตะวันตก ถามถึงการปลูกบ้าน บ้านนั้นอยู่แล้วตายแล และจะสูญสิ้นสิ่งของทุกประการ
ถ้าจับได้อักษรตัว ร ได้เมื่อพระเจ้ากลิงคะราชชนะในการทำสงครามและในคดีความ มีโอกาสต้องเดินทางไกล จะมีภัยอันตรายจากสัตว์ ๔ เท้าและ ๒ เท้า ให้กู้เงินจะไม่ได้คืน บ่าวไพร่วัวควายจะหนีหาย แต่ภายใน ๓ ปีจะได้เป็นเจ้าคนนายคน
ถ้าจับได้อักษรตัว ฑ ได้เมื่อวรรณฤๅษีจำพรรษาในป่าพบพระนาง มหาเทวีแล้วฌานสมาบัติเสื่อมไปในท่ามกลางอากาศ สัตว์ ๔ เท้า ๒ เท้า ยังไม่ถึงคราวตายก็มาด่วนตายสิ้น ถ้าเขาถามถึงคู่สามีภรรยา มีฝ่ายหนึ่ง ทำให้เสียหาย พวกบ่าวไพร่หนีไปทางทิศหรดี ถ้าสิ่งของหาย ทายว่าอยู่บนบ้าน ถามว่าตายหรือไม่แล เป็นหญิงตาย เป็นชายมิตายแล
ถ้าจับได้อักษรตัว ว คนยากคนจนได้วัวได้ควาย ลูกเจ้าลูกนาย ได้คานหามได้ช้างได้ม้า เหล่าทาสบริวารพ้นความเป็นทาสจวบจนสิ้นกาลอวสานแห่ง อายุขัยแล
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 26738
ตำราพรหมชาติ
หลักเกณฑ์การตั้งชื่อ
การตั้งชื่อ – นามสกุล เป็นเรื่องจำเป็นอย่างหนึ่งในปัจจุบันนี้ คือ ทุกคนต้องมีชื่อ ทว่าชื่อนั้นจะต้องซ้ำกับใคร อย่างไร ยังมีความสำคัญน้อยกว่านามสกุลซ้ำของใครไม่ได้ นอกจากตระกูลนั้นเขาอนุญาตหรือสืบสายโลหิตกันโดยตรงหรือทางอ้อม เช่น การสมรส หญิงจำต้องใช้นามสกุลสามี อย่างนี้เป็นต้น ก็เรื่องเล่าเรามีปัญญาความคิด การตั้งชื่อ นามสกุลทั้งที เอาเป็นของเราเองก็ได้ เพื่อให้ทราบหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตั้งชื่อบุตรหลาน ของท่านเอง เพื่อให้เป็นศรีแก่ตัวผู้นั้นเอง และสกุลวงศ์ของตน จึงใคร่ขอแนะนำวิธีการเลือกคำตามลักษณะวันที่ดีต่อไปนี้
ทักษาของอักษรตามวัน
สิทธิการิยะ ผู้ใดเพื่อให้ชื่อมีความหมาย เป็นสิริมงคล ถูกเกณฑ์ตามหลักโหราจารย์ ผู้นั้นพึงยึดหลักเกณฑ์อักษรที่ก่อให้เกิดสวัสดิมงคลนาม ตามทักษาวันทั้งหลายที่ตนเกิดไว้ มีดังนี้
1. วันอาทิตย์ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
2. วันจันทร์ ก ข ค ฆ ง
3. อังคาร จ ฉ ช ซ ฌ ญ
4. วันพุธ (กลางวัน) ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ฌ
5. วันพฤหัสบดี บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
6. วันศุกร์ ศ ษ ส ห ฬ ฮ
7. วันเสาร์ ด ต ถ ท ธ น
8. วันพุธ (กลางคืน) ย ร ล ว
ตามเกณฑ์ ทักษาดังกล่าวนี้ อักษรประจำวันทั้งหลาย จึงเป็นเกณฑ์ตายตัว อย่งนี้
1. วันอาทิตย์ หมวดสระ คือ อะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอ โอ
2. วันจันทร์ หมวด ก “ ก ข ค ฆ ง
3. วันอังคาร หมวด จ “ จ ฉ ช ซ ฌ ญ
4. วันพุธ หมวด ฎ “ ฎ ฏ ฐ ฑ ฬ ณ
5. วันพฤหัสบดี หมวด ป “ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
6. วันศุกร์ เศษวรรค “ ศ ษ ส ห ฬ ฮ
7. วันเสาร์ หมวด ด “ ด ต ถ ท ธ น
8. วันพุธ (กลางคืน) เศษวรรค “ ย ร ล ว
หลักการนับวันตามทักษา ให้นับเวียนขวาเสมอ ทั้งชาย หญิง กล่าวคือ คนเกิดวันอาทิตย์ ให้นับตั้งแต่ วันอาทิตย์ไป คือ ใช้วันของตนนั้นว่า บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี ข้อสังเกต วันตามทักษานี้จะไม่เรียงกันอย่างวันในรอบสัปดาห์ที่เรารู้จักกันดีแล้ว เวลานับต้องดูทักษา จะเห็นได้ว่า ถึงวันพุธ (กลางวัน) แล้วจะนับเสาร์แล้วก็พฤหัสบดี พุธ (กลางคืน) แล้วไปหาศุกร์เป็นวันสุดท้าย อนึ่ง ท่านเกิดวันอะไร วันนั้นก็เป็นบริวารของท่าน ตามแผนภูมิ เพื่อสะดวกแก่การนับใคร่ขอนำมาแสดงไว้อย่างนี้
เกิดวัน บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี
1. อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ พฤหัส ราหู ศุกร์
2. จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ พฤหัส ราหู ศุกร์ อาทิตย์
3. อังคาร พุธ เสาร์ พฤหัส ราหู ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์
4. พุธ เสาร์ พฤหัส ราหู ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร
5. พฤหัส ราหู ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์
6. ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ พฤหัส ราหู
7. เสาร์ พฤหัส รู ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ
8. ราหู ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ พฤหัส
หมายเหตุ ราหู หมายถึง คนเกิดวันพุธ (กลางคืน) ซึ่งโหราศาสตร์แยกจากวันพุธ (กลางวัน) ไว้ต่างหาก
ความหมายทักษา
บริวาร หมายถึง บุตร สามี ภรรยา ข้าทาส ชายหญิง รวมทั้งคนที่เราต้องการให้ความอุปการะภายในครอบครัวเราทุกคนด้วย
อายุ หมายถึง ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนวิถีทางแห่งการดำเนินชีวิตของเรา
เดช หมายถึง อำนาจวาสนา เกียรติยศ ชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่การงาน ตลอดจนการศึกษาเล่าเรียนความรักใคร่ เกรงกลัว
ศรี หมายถึง หลักทรัพย์สิน เงินทอง ของใช้สอย สิริมงคล โชคลาภ ที่ได้มาเป็นสิ่งของต้องใช้จ่ายและที่จะได้ในภายหน้า
มูละ หมายถึง หลักทรัพย์เดิมที่ไดรับเป็นมรดกตกทอดมาถึงตน และมีอยู่ในปีปัจจุบัน ตลอดฐานะญาติพี่น้องของเรา
อุสาหะ หมายถึง ความขยันหมั่นเพียร การทำงาน ผลสำเร็จจากงาน รวมถึงการมีหัวคิดริเริ่มและทิฐิมานะ
มนตรี หมายถึง ผู้อุปถัมภ์ค้ำชูเรา อันอาจจะได้แก่ บิดามารดา อุปัชฌาย์ อาจารย์ ครู เจ้านายและผู้ให้ความช่วยเหลือเราทุกคน
กาลกิณี หมายถึง ความชั่วร้าย ศัตรู คู่อาฆาต คนไม่ถูกกัน ความไม่ดีงามต่าง ๆ รวมทั้งอุปสรรคนานาประการที่มาในทางเลว
ดังนั้น การตั้งชื่อจึงจำต้องเลือกเอาเฉพาะอักษรที่ดีเป็นสิริมงคล นามแก่ตัวเราเท่านั้น โดยเฉพาะตัวอักษร กาลกิณี ให้เว้นเด็ดขาด ท่านว่าไม่ดีเลย ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กันมากก็เฉพาะอักษรที่เป็น เดช ศรี และมนตรี กล่าวคือ ใช้อักษรในหมวดที่ 3 นั้น ปะปนกัน ตั้งเป็นชื่อ และชื่อนั้นก็ควรจะมีความหมายและได้ความ มิใช่เอาอักษรโน้นปนอักษรนี้ แต่พอแปลดูไม่ได้เรื่องราวอะไร ชื่อปัจจุบันนี้ปรากฏว่านิยมใช้ภาษาบาลี สันสกฤตเป็นส่วนมาก ดังนั้นจึงมีมากกว่า 1 พยางค์เสมอ บางคนชื่อยาวตั้ง 5 พยางค์ก็มี โดยมากมักเป็นสตรี
เพื่อความสะดวกของท่านจะตั้งชื่อ ขอบอกกล่าวไว้เลยว่า อักษรหมวดไหนไม่ควรใช้สำหรับผู้เกิดวันอะไร ต่อไปนี้
คนเกิดวัน อาทิตย์ ไม่ควรใช้อักษร ศ ษ ส ห ฬ
“ จันทร์ “ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
“ อังคาร “ ก ข ค ฆ ง
“ พุธ (กลางวัน) “ จ ฉ ช ฌ ญ
“ พฤหัสบดี “ ด ต ถ ท ธ น
“ ศุกร์ “ ย ร ล ว
“ เสาร์ “ ฏ ฎ ฐ ฑ ฒ ณ
“ พุธ (กลางคืน) “ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
เท่าที่สังเกต ชื่อที่หาคำยากได้แก่ คนเกิดวันจันทร์เท่านั้น เพราะชื่อคนเกิดวันนี้ จะใช้อักษรที่ใช้พยัญชนะล้วน ๆ ไม่มีสารปะปนด้วยเลย เรามักจะเห็นชื่อคนที่เกิด วันจันทร์ ควรตั้งชื่อทำนองนี้
สมพร สมพล พชร (อ่านว่า พด – ชะ – ร) แปลว่า เพชร) กมล นพพร นคร กนก กนกวรรณ นภดล วรรณ กมลพรรณ มงคล วรเดช พยงค์ ทศพร ขจร ขจรยศ สงวน สงบ วรกมล พรหม สมมนต์ ฯลฯ
ตามที่ยกตัวอย่างชื่อสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์มานี้แสดงว่า พอมีหามาตั้งชื่อได้บ้าง แต่ไม่มากเหมือนผู้เกิดวันอื่น ๆ สำหรับ การันต์ ในชื่อว่า “ณงค์” นั้นก็พอยอมให้ใช้ได้ เพราะถือว่า การันต์ ไม่ใช่จำพวกอักษรที่เป็นสระโดยตรงอนุโลมใช้กันได้
สมมุติท่านจะตั้งชื่อใครคนหนึ่ง เช่น คนเกิดวันอังคาร อักษรที่ไม่ควรใช้ เพราะเป็นกาลกิณี ได้แก่ อักษรหมวด ก ได้แก่ ข ค ฆ ง พอทราบอย่างนี้ ก็หาอักษรที่เป็น เดช ศรี มนตรีต่อไป
อักษรที่เป็นเดช สำหรับผู้เกิดวันอังคาร ได้แก่ ด ต ถ ท ธ น เป็นศรี ได้แก่ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม เป็นมนตรี
ได้แก้ สระทั้งหมด ดังนั้น สมมุติว่าให้ชื่อผู้นั้นว่า “โพธิ์” แยกดูจะได้อย่างนี้ สระโอ สระอิ และการันต์ เป็นมนตรีทั้งหมด พยัญชนะ พ เป็นศรี พยัญชนะ ธ เป็นเดช ดังนั้นชื่อนี้ก็ใช้ได้ เพราะพร้อมด้วยอักษรที่มีทั้งเดช ศรี มนตรี ทั้ง 3 ประการที่คนชอบหาตั้งกันในปัจจุบันนี้ ชื่ออื่น ๆ เมื่อท่านเลือกพอใจแล้ว ก็ขอให้คิดแยกดูตามตัวอย่าง ดังกล่าว แล้วนั้นพอใจแล้ว ก็ขอให้แยกตามตัวอย่างดังกล่าวนั้นเถิด
อนึ่ง ไม่ว่าบุตรหลานท่านจะเกิดในวันอะไร พึงเลือกรายชื่อเรียงลำดับอักษรที่นำมากล่าวไว้ดังต่อไปนี้
ผู้เกิดวันอาทิตย์ หมวดสระ (อ) อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
(ชาย) อดิศักดิ์ อนุชิต อดิสร
อนุพงศ์ อดิเรก (ดิเรก) อโนชา
อนันต์ อาจินต์ อนุกูล
อานนท์ อุทัย อุเทน
อภิเดช อภิรักษ์ อมรเทพ
อเนกพงศ์ อนุสรณ์ อุกกฤษฎ์
อุดมศักดิ์ อุดมพงษ์
(หญิง) อรอนงค์ อรพรรณ อมรศรี
อรพินท์ อมรรัตน์ อรวรรณ
อรทัย อังคณา อนงค์นาถ
อัจฉรา อัปษรศรี อุบล
อารีรัตน์ อุดมลักษณ์ อุไรศรี
อุไรวรรณ อุษณา อุษา
อุษณี อาภาศรี อาภัสรา
ผู้เกิดวันจันทร์ หมวด ก ก ข ค ฆ ง
(ชาย) กนก กอบชัย กนกศักดิ์
เกษม กมล กัมพล
กรีฑา เกียติ กัมปนาท
เกียรติศักดิ์ กำจร เกรียงไกร
กำแหง โกฎล กอบเดช
โกเมนทร์ โกวิท กิตติ
เกริกชัย ไกรสร กิตติ
เกริกชัย ไกรสร เกริกฤทธิ์
เกรียงเดช
(หญิง) กนกวรรณ กองคำ กนกศรี
กรองกาญจน์ กมลศรี กัลยาณี
กมลมาลย์ กิ่งแก้ว กรองแก้ว
กิ่งกาญจน์ กรองทอง โกสุม
กาญจนา กุสุมา เกษมศรี
เกศินี เกษมณี เกศนนก
อักษร ข
ชาย หญิง
ขจรเกียรติ ขจรศักดิ์ ขนิษฐา ขวัญเรือน
ขจรพงศ์ ขวัญชัย ขวัญชีวา ขวัญแก้ว
ขุนณรงค์ ขุนแผน ไขศรี ขันทอง
ขุนทอง
อักษร ค
ชาย หญิง
คำรณ คำรบ เครือวัลย์ คะนึงนิจ
คำแหง คำนวณ คมคาย คัมภีรพรรณ
ครรชิต ครรชิตพล คุณากร คะนึงครวญ
คัมภีร์ โคจร โคมแก้ว คำหอม
อักษร ง
ชาย หญิง
งาม งามพงศ์ งามจิต เงินยวง
งามพันธ์ เงิน งามเนตร งามพรรณ
งามพร้อม งามพิศ
ผู้เกิดวันอังคาร หมวด จ จ ฉ ช ซ ฌ ญ
อักษร จ.
ชาย หญิง
จรูญ เจริญ จงกล จงกลนี
จรัส จตุรพ จรัสศรี เจริญพงศ์
จักรพงศ์ จักรพันธ์ เจริญศรี จันทร์ฉาย
เจนณรงค์ จิระพงศ์ จันทิมา จิราวรรณ
จิรศักดิ์ จิรายุ เจือจันทร์ จุไรวรรณ
จุฑา เจตน์ จุฑามาศ จำลองลักษณ์
จำรุญ จารุวรรณ
อักษร ฉ.
ชาย หญิง
ฉลาด เฉลียว ฉลวย ฉวีวรรณ
เฉลิม โฉลก ฉันทนา เฉลิมขวัญ
เฉลิมพล เฉลิมพงศ์ เฉลิมศรี โฉมฉาย
ฉลอง เฉียบ โฉมศรี ไฉไล
อักษร ช.
ชาย หญิง
ชนะ ชะลอ ชวนชื่น ชวนชม
ชัยยันต์ ไชยวัฒน์ ชวนพิศ ชวาลา
ชมพู ชวาล, โชติ ช่อผกา ชื่นกมล
ชูศักดิ์ ชูเกียรติ ชื่นจิต ชูศรี
ชัยวัฒน์ ชำนาญ โชติมณี ชุมสาย
ชิตพล ชาญณรงค์ ชุติมา
ผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน) อักษร ฎ.ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ
ชาย ณัฐิวุฒิ ณรงค์ศักดิ์ ฐากูร
ณรงค์ ณรงค์ฤทธิ์ ฐานันดร
หญิง ฐิติมา ฐาปนี
ผู้เกิดวันเสาร์หมวด ต.ด ต ถ ท ธ น
ชาย หญิง
ดวง ดนัย ดรุณี ดวงใจ
ดรุณ ดำเกิง ดวงเดือน ดวงกมล
ดำรง ดิเรก ดารารัตน์ เดือนฉาย
เดชฤทธิ์ ดิลก ดุษฎี เตือนใจ
เติมพงศ์ เดิมศักดิ์ เตือนจิต เติมศรี
ถนัดกิจ ถนอม ถนัดศรี ถนอมศรี
ถาวร ถวัลย์ ถนอมพรรณ ถนิมรักษ์
เถลิง ถวิล เฉลิงศรี ถวิลจิต
ทศพล ทักษิณ ทศพร ทัศนีย์
ทวีศักดิ์ ทินกร เทียมแข ทิพยรัตน์
เทียนชัย ธานี เทียนทอง ธัญญลักษณ์
ธานินทร์ ขวัญชัย ธิดา ธาร
ธีรศักดิ์ เธียร ธิติมา ธิดารัตน์
ธาดา นคร ธารารัตน์ นงคราญ
นภดล นันทน์ นงนุช นงเยาว์
นิคม นิกร นงลักษณ์ เนาวรัตน์
นิตย์ เนตร นลินี นวลอนงค์
นิเวศน์ นิพนธ์ นันทนา นิตยา
นิรันดร นิโลบล
ผู้เกิดวันพฤหัสบดี หมวด บ.บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
ชาย หญิง
บัญชา บำรุง บัวแก้ว บานชื่น
บรรจบ บันลือ บุหงา บุญลือ
บัลลังก์ บุศย์ บุษยมาศ เบญจรงค์
บัญชร บรรเจิด เบญจมาศ เบญจวรรณ
บรรเทา บัณฑิต บุษยรังสี บัวลอย
บุญญฤทธิ์ บุญส่ง บัวโรย บุษบา
บัญญัติ บันเทิง เบญจกานี ใบเงิน
บัญชา ประถม ใบทอง ปฐมาวดี
ปฐม ประจวบ ปทุม ปทุมวดี
ประจักษ์ ปราจีน ประสาคร ปิยธิดา
ประมวล ประภาส ปรียา เปรมกมล
ประสาร ประเสริฐ เปรมจิต เปรมใจ
ประสงค์ ประสิทธิ์ เปลวใจ เปี่ยมสุข
ปรีดี ปรีชา ผกามาส ผกาวดี
แผน แผ้ว ผ่องศรี ผ่องอำไพ
ผดุงพล ผดุงพงษ์ ผุสดี พจมาลย์
พจน์ โพยม พรพิมล พิไลวรรณ
พรหม พัฒน์ พิกุลแก้ว พิกุลทอง
พิชัย พิบูล เพราพิลาส พวงผกา
พิเชษฐ์ พิษณุ พงศ์ผกา พิสมัย
พิทักษ์ พิพัฒน์ เพลินพิศ พูนศรี
พงศ์ศิริ ทิพย์ เพชรา ทิพยา
พิสิทธิ์ ไพบูลย์ พิจิตรา พุทธรักษา
ไพโรจน์ ไพศาล ไพรวรรณ ไพจิตรา
เพทาย ภักดี ภาณุมาส ภัทรา
ภาณุพงศ์ ภิญโญ ภัศรา ภารดี
ภาสกร มงคล ภัทรศรี มัณฑนา
มนตรี มานัส มลิวัลย์ มลุลี
มนูญ มาโนช มัทรี มารยาท
เมธี ไมตรี มาลินี มารศรี
มาโนชญ์ มานิตร แม้นมาศ มัลลิกา
ผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน) หมวด เศษวรรค ย ร ล ว
ชาย หญิง
เย็น ยอด ยุพา ยุพิน
เยี่ยม ยุติ ยุพดี เยาวมาลย์
ยุทธ์ ยศ เยาวเรศ เยาวลักษณ์
ยงยุทธ์ โยธิน เย็นฤดี เย็นจิตร
โยธา ระบือ ระพีพรรณ รสสุคนธ์
รักษ์ รัตน์ เรณู รื่นฤดี
ระพี ราหุล รำไพ รำไพพรรณ
โรม เหรียญ รัตนา รัตนาภรณ์
โรจน์ ฤทธิ์ รังสินี รุ่งรัตน์
เริงชัย โรจน์ศักดิ์ รุ่งนภา รุ่งเพชร
เลิศ เลอพงศ์ ลลิดา ลักษมี
เลอศักดิ์ หล่อ ลักขณา ลาวัลย์
เลื่อน ล้อมพงศ์ ลินจง ลัดดา
วงศ์ วสันต์ วงศ์เดือน วันเพ็ญ
วิกรม วิวัฒน์ วิไลวรรณ วิจิตรา
วิชัย วิชิต วิสาขา วิมาลา
วิรุฬห์ วิสุทธิ์ วรรณา วรรณี
วิทยา วิรวรรณ
ผู้เกิดวันศุกร์ หมวด เศษวรรค ศ ษ ส ห
ชาย หญิง
สกล สกุล สะคราญ สไบทอง
สงกรานต์ สงบ สไบทิพย์ สมจิต
สงวน สง่า สมพร ศรีสมร
สถิต สมบูรณ์ ศรีสุดา ศศิโสม
สมศักดิ์ สมาน ศศิฉาย ศศิธร
สมาธิ สมาบัติ ศรีวรรณ ศรีสง่า
สมัย สรศักดิ์ สมประสงค์ สร้อย
สันติ เสถียร สุภาวดี เสาวคนธ์
ศรีรัตน์ สนิท เสาวลักษณ์ สิริมา
สุพจน์ สุรินทร์ โสภิดา แสง
สุริยา สุวรรณ เสริมศรี ส่องศรี
สุมิตร สุเมธ แสงแข โสภา
สุภัทร หอมหวน ศรีไสล หัทยา
หิรัญ เหม เหมวรรณ หงศ์เหม
หาญ เหมดี
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 13985
ตำรา เศษพระจอมเกล้า
ตำราเศษพระจอมเกล้าฯของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
ใช้ทำนายดวงชะตาทั้งชายและหญิงดังนี้
ให้เอา วัน- เดือน -ปี ที่เกิดบวกเข้าด้วยกัน ถ้ามีผลลัพธ์มากกว่า 10 ให้เอา 10 ลบออก เหลือเศษไม่เกิน 10 หรือ เท่ากับ 10 แล้วอ่าน คำทำนายตามเศษของผลลัพธ์ที่ได้ ดังต่อไปนี้
เศษ 1 เสาเรือนไฟไหม้ ชะตาใครทั้งชายหญิง ไร้เรือนที่พักพิง ที่พึ่งพักพำนักเนา จะ ร่อนเร่ระเหระหน เร่งเจียมตนอย่าดูเบา เพราะว่าชะตาเรา โทษประกอบจึงเกิดกรรม
เศษ 2 จะครองไข้ มีโรงร้ายสิงประจำ หยูกยาจะพาทำ บ่อถูกแท้จนแก่ตัว
เศษ 3 ความสบาย มีข้าควาย และเกวียนวัว พอสมสกุลตัว เข้าที่ทายสถานกลาง
เศษ 4 มีข้าครอก อเนกนอกคณานาง อุปถัมภ์ล้ำสำอาค์ บ่ไข้ชุกบ่ทุกข์เป็น
เศษ 5 ชะตากลับ ทุนทรัพย์แลแสนเข็ญ ภายหลังชะตาเป็น ทุนทรัพย์นับหมื่นพัน
เศษ 6 จะยกญาติ เป็นเชื้อชาติประเสริฐสรรพ์ เงินตรายศฐาพลัน ทุนทรัพย์ลำดับมี
เศษ 7 ชั้นผ้าขาด จะนุ่งห่มก็เต็มที พักตราย่อมราคี ระคายยับทั้งทรัพย์สิน
เศษ 8 นั้นเปรื่องยศ จะปรากฏกระเดื่องดิน ทรัพย์ศฤงคารสถานถิ่น ทั้งอำนาจแลวาสนา
เศษ 9 กินข้าวกลางตลาด เสมอชาติสุนัข ถึงจะมีวาสนา ต้องประกอบทำการงาน แม้นตระกูลทลิทก ถึงต่ำตกก็บ่นาน ดังนักเลงสุราบาน พอขวนขวายใส่ท้องตน
เศษ 10 เหมือนนกแขกเต้า ทำรวงรังระวังฝน แสวงดีย่อมมีผล อย่าคลอเคล้ากับเหล่าพาล เหมือนปักษีอันมีปัก รู้หลบหลีกธนูพราน ถ้าประมาทจะเสียการ จะชอกช้ำระกำกาย ฯ
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 73635
พยากรณ์ 12 ราศี แบบตำราพรหมชาติ...ของไทยโบราณ
สิทธิการิยะ ถ้าประสงค์จะดูว่า ปีนี้เคราะห์ท่านจะดี หรือ ร้ายประการใด ท่านให้นับอายุแบบโหร คือ อายุปีที่เต็มบริบูรณ์ (โดยตัดปีที่ย่างออกเสีย แล้วจึงนับ) ถ้าเป็นผู้ชาย ให้นับขึ้นต้นที่เจดีย์ เป็นหนึ่ง เวียนไปหาฉัตรเงิน เป็นสอง และ คอขาด เป็นสาม ตามลำดับ ถ้าเป็นผู้หญิง ให้นับขึ้นต้นที่เจดีย์ เป็นหนึ่ง เวียนไปหา นาคราช เป็นสอง และ แม่มด เป็นสาม ตามลำดับ จนครบอายุเต็มพอดี แล้วให้ดูตามคำพยากรณ์ หรือ คำทำนาย ดังต่อไปนี้
1. ถ้าตก เจดีย์ ท่านว่า ปีนั้นจะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข จะมีสุขกายสบายใจ จะได้ทำบุญกุศลในศาสนา ปรารถนาสิ่งใด ย่อมได้สมใจนึกแล
ถ้าตกเจดีย์ ในปีนั้นชะตาดีนัก จะมีโชคลาภ ได้ทรัพย์สินเงินทอง ของขวัญ อันพึงพอใจ จะมีความสุขกายสบายใจ ถ้าเป็นโสด ก็จะได้พบเนื้อคู่ เป็นความก็จะชนะ
2. ถ้าตก ฉัตรเงิน ท่านว่า ปีนั้นจะมีลาภผลเงินทอง ใช้พอสบายไม่เดือดร้อนกายในครอบครัว ไปทางทิศใด จะมีคนอุปถัมภ์ค้ำชูพอประมาณแล
ถ้าตกฉัตรเงิน ชะตาปีนั้นดี จะมีความสุข และจะได้ลาภ แต่ไม่มากนัก จะมีคนช่วยเหลือ ไม่เดือดร้อน คิดการงานอะไร จะสำเร็จสมความปรารถนา
3. ถ้าตก คอขาด ท่านว่า ปีนั้น จะประสบความร้อนอกร้อนใจ จะมีคดีความถึงโรงถึงศาล ทำให้ต้องเสียเงินทองของรัก ไม่มีเวลาประกอบอาชีพ ทำมาหากินอย่างปกติสุข ไม่ดีเลย
ถ้าตกศีรษะขาด โชคชะตาปีนั้น จัดว่าร้าย จะเสียเงิน เสียทอง ของรัก ให้ระวังอันตรายจะมีผู้คิดร้าย ญาติพี่น้องจะทำให้เดือดร้อน คิดอะไรจะมีอุปสรรค อาจจะเป็นความขึ้นโรงขึ้นศาลได้
4. ถ้าตก เรือนหลวง ท่านว่า ปีนั้นจะมีดีมีความสุขกายสบายใจ จะมีที่พึ่งพิงในความอนุเคราะห์ในเรื่องความเป็นอยู่ เป็นข้าราชการจะได้เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ดีแล
ถ้าตกเรือนหลวง ชะตาในปีนั้น จะได้เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ หรือตำแหน่งหน้าที่การงาน จะได้ลาภเงินทอง จะมีผู้ใหญ่ช่วยอุปถัมภ์ ถ้าค้าขายก็จะร่ำรวย
5. ถ้าตก ปราสาท ท่านว่าปีนั้นว่าจะมีความสุขอย่างยิ่ง จะประสบโชคลาภมากมายในชีวิต คิดสิ่งใดจะได้สมปรารถนา ดีนักแล
ถ้าตกปราสาท ชะตาในปีนั้น จะสุขกายสบายใจ จะมีโชคลาภ คิดสิ่งใดจะสมประสงค์ จะมีอำนาจในหน้าที่การงานดี จะได้ลาภโดยไม่นึกฝัน แม้ศัตรูก็จะพ่ายแพ้ไป
6. ถ้าตก ราหู ท่านว่าปีนั้นจะเดือดร้อนใจอาจจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทเป็นคดีความ จะมีคนมาคอยยุแหย่ให้วุ่นวาย หรือ หาเรื่องราวให้เราต้องเดือนร้อน จะมีปวดหัวตัวร้อนเป็นประจำ ไม่ดีแล
ถ้าตกราหู เกณฑ์ชะตาปีนั้น จัดว่าเคราะห์ร้ายมาก จะได้รับแต่ความเดือดร้อน จะเกิดการเจ็บไข้ ระวังจะได้รับอันตราย จะมีศัตรูคอยคิดร้าย จะเสียเงินเสียทอง ให้ทำบุญสุนทานเสียบ้าง จะเป็นทางช่วยให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้าง
7. ถ้าตก ฉัตรทอง ท่านว่า ปีนั้นจะมีเกียรติยศปรากฏในฝูงชนทั่วไป ไปสารทิศใดๆจะมีคนคอยอุปถัมภ์ค้ำชู ไม่เดือนร้อนเลย ดีนักแล
ถ้าตกฉัตรทอง ในปีนั้นจะมีแต่ความสุข ความสบายใจ จะได้ประสบโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง ถ้าทำราชการ ก็จะได้ยศถาบรรดาศักดิ์ หรือเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน ถ้าค้าขายก็จะร่ำรวย จะมีแต่ความสุข ความเจริญ ในปีนี้ดีมาก
8. ถ้าตก เทวดาขี่เต่า ท่านว่า ปีนั้นค่อนข้างดี จะมีคนคอยช่วยเหลือในหน้าที่การงาน แต่ระวังบริวารจะนำความเดือดร้อนมาให้ ดีปานกลางแล
ถ้าตกเทวดาขี่เต่า ชะตาในปีนั้น จะมีความสุขพอประมาณ เงินทองพอจับจ่ายใช้สอย แต่ไม่ถึงกับเดือดร้อน จะทำอะไรควรคิดให้รอบคอบ บริวารจะทำให้เดือดร้อน จะยุ่งยากใจในเรื่องการงาน
9. ถ้าตก คนต้องขื่อคา ท่านว่า ปีนั้นถึงคราวเคราะห์หามยามร้ายจะมีเรื่องวุ่นวายในบ้านและครอบครัวและตนเอง จะถูกจองจำหรือไม่มีความสุขกายสบายใจเลย
ถ้าตกคนต้องขื่อคา ชะตาท่านปีนั้นเคราะห์ร้าย อาจจะต้องเป็นความขึ้นโรงขึ้นศาล จะมีแต่เรื่องทำให้ร้อนใจ ไม่มีความสุขกายสบายใจ จะต้องเสียเงินเสียทอง อย่าเดินทางไกล อาจจะได้รับอันตรายได้
10. ถ้าตก พ่อหมอ ท่านว่า ปีนั้นจะมีคนมาขอความช่วยเหลือรับอาสาเจ้านายจะได้ดี แต่จะมีความสุขไม่มากนัก จะทุกข์กายทุกข์ใจพอประมาณ ดีปานกลางแล
ถ้าตกพ่อหมอ ในปีนั้น ชะตานับว่าพอปานกลาง ไม่ดีและไม่เลวนัก ทุกข์สุขมีพอประมาณ จะไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไร สุขสบายพอควร จะมีคนคอยช่วยเหลือในด้านการงาน
11. ถ้าตก แม่มด ท่านว่า ปีนั้นจะมีคนนำลาภมาให้ แต่ต้องแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือจากเจ้าชาตา มีความสบายใจพอประมาณแต่จะเหนื่อยใจ ดีปานกลางแล
ถ้าตกแม่มด ชะตาปีนั้น จะมีผู้คอยให้ความช่วยเหลือ จะมีเรื่องหนักใจในสิ่งที่เดือดร้อนอยู่บ้าง แต่ก็จะแก้ไขไปได้ จะมีผู้ใหญ่เชื่อถือและรักใคร่ดี ชะตาในปีนี้นับว่าพอสมควร จะมีลาภก็เพียงเล็กน้อย
12. ถ้าตก นาคราช ท่านว่า ปีนั้นจะมีอำนาจวาสนา ชะตากำลังดี มีคนมาอ่อนน้อมยอมเป็นคนรับใช้ จะได้ลาภจากบริวารและผู้ใหญ่ แต่ให้ระวังคำพูดและอารมณ์ให้มาก ดีปานกลางแล
ถ้าตกนาคราช ในปีนั้น ชะตาจัดว่าร้าย ให้ระวังตัว จะเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย จะมีความเดือดร้อนใจเสมอ และจะมีผู้คอยคิดร้าย ให้ระวังอันตราย จงตั้งจิตนำกุศลหันเข้าหาทางธรรมบ้าง จะช่วยให้ดีขึ้น
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราทำนายฝัน
- จำนวนผู้อ่าน: 22571
ตำราทำนายฝัน
สิทธิการิยะ เกจิอาจารย์ท่านรจนาไว้ ได้ถือสืบต่อกันมาเรื่อง นิติฝันของคนเราว่าจะเกิดขึ้นได้ อย่างไร
ถ้าฝันวัน อาทิตย์ นิมิตนั้นได้แก่ ปวงประชา
“ จันทร์ “ ญาติ
“ อังคาร “ บิดามารดา
“ พุธ “ บุตร ภริยา
“ พฤหัสบดี “ ครูอาจารย์
“ ศุกร์ “ เพื่อนฝูง
“ เสาร์ “ ตัวเอง
นิมิตฝัน
1. ถ้าฝันเห็น มูตรคูถ หรือถูกของเน่าเหม็นเปรอะ เปื้อนกาย ทายว่าจะได้ลาภเงินทอง
2. ถ้าฝันเห็น ได้นุ่งผ้าใหม่ จะได้ดีมีสุข ชนะศัตรู
3. ถ้าฝันว่า ทอดแห ตกปลา และได้มา มักจะเสียของรัก
4. ถ้าฝันว่า นาคเกี้ยวมือ เท้า จะมีคนช่วยเหลือเรา
5. ฝันว่า ได้แหวน และสวมนิ้วมือ จะได้เนื้อคู่ที่ถูกใจ ถ้ามีสามีภรรยาแล้ว ท่านว่าจะมีบุตรสุดที่รัก
6. ฝันว่า ได้กินอาหาร ร่วมกับ พ่อ แม่ ลูก เมีย ทายว่าจะได้ลาภผลเป็นที่ถูกใจ ยิ่งนัก
7. ฝันว่า เก็บผลไม้ได้ ทายวาจะได้ของที่รัก ถูกอกถูกใจ
8. ฝันว่า ถูกจับเข้าคุกตะรางหรือถูกใส่ความ ทายว่าจะได้เปลี่ยนงานหรือมีหน้าที่สูง ๆ ขึ้นไป
9. ฝันว่า ถูกตัดเท้า ตัดมือ ใส่ขื่อคา ทายว่าจะได้เลื่อนยศ
10. ฝันว่า ได้เต่าหรือเห็นเต่า ทายว่าจะได้มีคนรับใช้
11. ฝันว่า ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่ม ทายว่า จะได้คนช่วยเหลือ
12. ฝันว่า ไฟไหม้เรือนตน ทายว่า จะเดือนร้อนที่อยู่ ถ้าไฟไหม้เรือนผู้อื่นทายว่า ตนจะอยู่เย็นเป็นสุข
13. ฝันว่า เหาะเหินเดินอากาศได้ ทายว่าจะได้อะไรสมใจนึก
14. ฝันว่า มีเด็กเล็ก ๆ มานอนเต็มบ้านเรือน ทายว่าจะได้ข้าทาสบริวาร และจะได้เป็นเจ้าคนนายคน
15. ฝันว่า นุ่งผ้าสีแดง ทายว่า จะเกิดทุกข์ใจ มีศัตรูปองร้าย
16. ฝันว่า นุ่งผ้าสีม่วง – ชมพู จะพบเนื้อคู่ที่พึงใจ
17. ฝันว่า เห็นเทวดา ทายว่า จะถูกเพื่อนฝูงใส่ความ
18. ฝันว่า เห็นผี ยักษ์มาราวี ทายว่า จะถูกฟ้องร้องถึงโรงศาล
19. ฝันว่า เห็นหญิงสาวสวยถือไฟเข้ามาหา ทายว่า จะได้ภรรยาถูกอกถูกใจยิ่งนัก ถ้าเป็นหญิงจะได้สามีที่มีอำนาจ
20. ฝันว่า สวดมนต์หรือได้ฟังพระสวด ทายว่าจะหมดเคราะห์ที่เคยทำมา
21. ฝันว่า เดินกางร่มกลางแดด ทายว่า จะได้ทรัพย์สินเงินทอง ควรเสี่ยงโชคทางการพนัน
22. ฝันว่า เข้าวัดฟังเทศน์ ทายว่า จะสุขสบายใจยิ่งนัก
23. ฝันว่า เห็นพระพุทธรูป จะมีอำนาจ ศัตรูพ่ายแพ้
24. ฝันว่า เห็นครูอาจารย์ ทายว่า นึกอะไรจะสมประสงค์
25. ฝันว่า เห็นบิดามารดา แม้ยังอยู่หรือสิ้นไปแล้ว ทายว่าจะรู้สึกกังวลใจ ไม่ใคร่ดีให้ทำบุญตักบาตร ตรวจน้ำส่งไปให้จึงจะดี
26. ฝันว่า เป่าแตร หรือปี่ ทายว่า จะมีอำนาจวาสนาใคร ๆ แซ่ซร้องสรรเสริญ
27. ฝันว่า ฟ้าผ่าตน ทายว่า จะเดือดร้อนเพราะผู้ใหญ่
28. ฝันว่างูเกี้ยวแขนพันขา ทายว่า จะพบเนื้อคู่ในเร็ววัน
29. ฝันว่า ถูกงูพิษมากไล่ตามกัด ทายว่า จะได้คู่ครองต้องอารมณ์
30. ฝันว่า ขึ้นบ้านใหม่ ทายว่า จะได้เลื่อนยศตำแหน่งการงาน
31. ฝันว่า นั่งเรือข้ามน้ำ ทายว่าจะมีศัตรูคอยปองร้ายแต่ทำอะไรไม่ได้
32. ฝันว่า ขึ้นเครื่องบิน ทายว่า จะได้การเดินทางไกล และได้ลาภ
33. ฝันว่า เห็นเครื่องบินตก ทายว่า ญาติมิตรสนิทจะเสียชีวิต
34. ฝันว่า ฟันซีกหน้า ๆ หัก ทายว่า ญาติพี่น้องจะเสียชีวิต
35. ฝันว่า ฟันกรามหัก ทายว่า พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่จะเสียชีวิต
36. ฝันว่า ถูกเขาฆ่าฟันตน ทายว่า จะได้ลาภชนะศัตรู
37. ฝันว่า เก็บเงินทองได้ไม่รู้จักหมด ทายว่า สิ่งคิดจะสมปรารถนา
38. ฝันว่า ขี้ช้างม้าวัว ควาย ทายว่า จะได้ลาภอยู่เย็นเป็นสุข
39. ฝันว่า เสือ ช้าง หมีไล่ ทายว่า จะถูกศัตรูกลั่นแกล้งปองร้าย
40. ฝันว่า นั่งเรือหรือรถแต่เกิดล่มหรืออุบัติเหตุ ทายว่า จะเสียของรักชอบใจ หรืออาจจะทำให้มีลางร้าย ไม่ควรคิดเดินทางระยะนั้น
41. ฝันว่า ได้กอดเพศสมสู่กัน ทายว่า จะเกิดทุกข์ร้อนใจกังวลใจ
42. ฝันว่า เห็นพระสงฆ์ ทายว่า จะสุขกายสบายใจ แต่ไม่ได้ลาภ
43. ฝันว่า ได้ดื่มกินสุราอาหารเหลือเฟือ ทายว่า จะป่วยไข้ไม่สบายตน
44. ฝันว่า นั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ทายว่า จะเป็นหัวหน้าคนทั้งปวง
45. ฝันว่า ถูกเขามัดตน ทายว่า จะเกิดคดีฟ้องร้องถึงโรงศาล
46. ฝันว่า ร้องไห้ ทายว่า จะมีเรื่องขุนใจแต่ต่อไปจะได้ลาภ
47. ฝันว่า เดือนหงาย ทายว่า คู่ครองจะนอกใจ
48. ฝันว่า เดือนมืด ทายว่า จะผิดใจกับคู่ครองคนรัก
49. ฝันว่า เรือนตนพังทลาย ทายว่า คู่ครองจะแยกหรือตายจากไป
50. ฝันว่า ได้เด็ดหรือตัดดอกไม้ ทายว่า จะได้เนื้อคู่ที่พึงพอใจ
51. ฝันว่า ฟันหัก ทายว่า จะเจ็บไข้และได้รับข่าวร้าย
52. ฝันว่า ได้ลูกหรือคลอดลูก ทายว่า จะได้ลาภ โชควาสนากำลังดี
53. ฝันว่า ตกกร้าทำนา ทายว่า จะเสียของรัก ลำบากกายใจ
54. ฝันว่า ได้บวช เป็นพระเณร ทายว่า จะได้ดีมีวาสนาแต่อับโชคลาภ
55. ฝันว่า ได้เดินทาง ทายว่า จะเดือดร้อนเรื่องหน้าที่การงาน
56. ฝันว่า เห็นสุนัข ทายว่า จะมีเพื่อนฝูงจุนเจือไม่ลำบาก
57. ฝันว่า เห็นแมว ทายว่า จะเสียเงินทองช่วยเหลือคนอื่น
58. ฝันว่า ทะเลาะกับพี่ ๆ น้อง ๆทายว่า ญาติพี่น้องที่คิดถึงตนมา
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราทำนายฝัน
- จำนวนผู้อ่าน: 27845
ตำราทำนายฝันตาม คัมภีร์สารัตถสังคหะ
บุคคลย่อมฝันด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ ฝันเห็นด้วยธาตุโขภะ ประการ ๑ ฝันเห็นด้วยเหตุอนุภูติ ประการ ๑ ฝันเห็นด้วยเทวตูปสังหรณ์ ประการ ๑ ฝันเห็นด้วยเหตุ บุพพนิมิต ประการ ๑
ฝันเห็นด้วยธาตุโขภะ คือธาตุอันใดอันหนึ่งในกายกำเริบ ทำให้กายและจิตไม่สบาย ครั้นหลับลงจึงฝันพิกลไปต่าง ๆ ให้สะดุ้งตกใจ ให้เห็นปรากฏประดุจตกจากภูเขา ให้เห็นประดุจดังว่าบุคคลจับเอาตัวซัดขว้างไปในอากาศ ให้เห็นปรากฏประดุจดังว่า พาลมมฤคราชเนื้อแลช้าง และโจรเป็นต้นไล่คุกคาม ให้สะดุ้งตกใจ
ฝันเห็นด้วยเหตุอนุภูติ คือตนได้เสวยซึ่งอารมย์อันใดอันหนึ่งมาก่อน จิตนั้นประหวัดไปถึงอารมณ์นั้น จึงให้ฝัน เป็นต้นว่าได้เห็นได้ฟัง สิ่งใด ๆ ครั้นหลับลงจึงได้ฝันเห็นสิ่งอันนั้น
ฝันเห็นด้วยเหตุเทวตูปสังหรณ์ คือ เทวดาปรารถนาจะให้ประโยชน์ แลมิให้เป็นประโยชน์ ประมวลมาซึ่งอารมณ์ต่าง ๆ จึงดลใจให้ฝัน
ฝันเห็นด้วยเหตุบุพพนิมิต คืออำนาจแห่งกุศล อกุศลเข้าดลใจ ให้ฝันเห็นบุพพนิมิต เพื่อจะให้รู้ว่าดีแลร้าย ดุจหนึ่งพระนางสิริมหามายา ทรงสุบินนิมิตในกาล เมื่อทรงตั้งพระครรภ์พระราชโอรส แลพระมหาบุรุษเจ้าทรงพระสุบินในการที่จะได้ตรัสแก่พระโพธิญาณ และพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบิน ๑๖ ข้อ เพื่อจักให้รู้จักเหตุอันจักให้ปรากฏไปในอนาคตกาล ฝันดังนี้เป็นลักษณะบุพพนิมิต
ฝันด้วยเหตุโขภะ และอนุภูตนั้นมิได้จริง จะทำนายว่าดีร้ายนั้นไม่ได้ และฝันเห็นด้วยเทวตูปสังหรณ์ ก็จริงบ้างไม่จริงบ้าง บางทีเทวดาปรารถนาเพื่อจะให้เป็นประโยชน์ จึงมาดลใจให้ฝันเช่นนั้นก็มี บางทีเทวดาโกรธปรารถนาจะให้ฉิบหายด้วยอุบายของตน จึงดลใจให้ฝันเช่นนั้นก็มี
ฝันเห็นด้วยเหตุบุพพนิมิต นั้นจริงแท้ บุคคลจะฝันนั้น หลับสนิทก็มิได้ฝัน ตื่นอยู่ก็มิได้ฝัน และฝันนั้นในกาลเมื่อกปินิทรา คือหลับดังหลับวานร หลับ ๆ ตื่น ๆ ไม่หลับสนิท จิตนั้นขึ้นจากภวังค์ แล้ว ๆ เล่า ๆ จึงฝัน อนึ่ง บุคคลฝันในเวลากลางวัน แลปฐมยาม แลมัชฌิมยาม ฝันนั้นมิได้แน่ ถ้าฝันในปัจฉิมยามใกล้รุ่งไปจนถึงเวลาเบิกอรุณ เวลานั้นโอชารสาหาร ที่ตนบริโภคไว้นั้นซาบซ่านไปในกาย แต่งจิตแลกายให้สบายแล้ว แลฝันนั้นจริงเที่ยงแท้ ถ้าฝันดีคงจะได้ดี ถ้าฝันร้าย คงจะได้ร้าย
และลักษณะบุคคลที่ฝันดีนั้น คือฝันว่า ได้พบท้าวมหาพรหม แลพระอินทร์ แลเทพยดา ทำนายว่าเป็นมงคล เป็นความฝันอันประเสริฐ บุคคลนั้นจะกอร์ปไปด้วยความสุขเป็นอันมาก
ตำราทำนายฝัน
ฝันวันอาทิตย์ ได้แก่คนทั้งหลาย
ฝันวันจันทร์ ได้แก่วงศ์ญาติ
ฝันวันอังคาร ได้แก่พ่อแม่พี่น้อง
ฝันวันพุธ ได้แก่บุตรภรรยา
ฝันวันพฤหัสบดี ได้แก่ครูบาอาจารย์
ฝันวันศุกร์ ได้แก่สัตว์เลี้ยง
ฝันวันเสาร์ ได้แก่ตัวเราเอง
ฝันว่า มูตรคูถนั้นต้องตัว คนเมามัว หนึ่งพบอสุภเน่าพอง จะได้ลาภเนืองนอง ตำหรับกล่าวสนอง กำหนดไว้อย่าได้สงกา
ฝันว่านุ่งห่มภูษา จักสุขเกษมปรีดา ไม่มีใครบุกรุกรานแล
ฝันว่าทอดแหในน่าน หนึ่งตกเบ็ดหาญ หาปลาในท้องนที จะคิดสิ่งใดก็ดี ห่อนคลาดแคล้วศรีสวัสดิ์สมมนัสปอง แล
ฝันว่านาคเดี่ยวกรกรอง ตัวกล้าอย่าหมอง ย่อมมีที่คุ้มรักษา แล
ฝันว่าได้แหวน จักได้บุตรา แลกินกับพี่น้องตน กินกับพ่อแม่พึงยล จักได้ศุภผล อยู่สุขสมจิตคิดปอง แล
ฝันว่าสวมแหวนทอง แม้หญิงลำพอง เปลี่ยวเปล่าจักได้สามี ถ้ามีคู่ชมสมศรี จักได้บุตรีบุตรา อันพึงพอใจ ถ้าชายจะได้ครองหญิง เมียมิ่งพิสมัย วงพักตร์น่าชม
ฝันว่านุ่งห่มพอสมควร สาวจักนิยม มายามายวนใส่ใจ แล
ฝันว่าตัดตีนสินมือขาดไป จำขื่อคาใส่ ตรากตรำกระทำตรึงตรา ถ้าขุนจักได้เป็นพระยา ฟื้นไพร่ประชา ก็จักได้ดี แล
ฝันเห็นว่าเต่าจักมี ผู้คนทาสี เมียมิ่งและม้าคชา อีกทั้งบุตรี บุตรา พรากจากเคหา มาสู่บารมีสมปอง แล
ฝันว่าได้ม้าลำพอง ท่านหมายใจปอง จะยกตนให้ได้เป็นพระยา แล
ฝันว่าดื่มชลธารา จักได้ทาสา มาเลี้ยงเป็นเมียแห่งตน แล
ฝันว่าไฟไหม้เรือนร้อนรน เร่งขวนขวายแก้ไข ที่น้ำไหลริน จักบรรเทามลทิน โทษทุกข์จักผิน กลับให้มีโชคชัย แล
ฝันว่าเหินกลางนภาลัย จักนึกสิ่งไร สำเร็จ สัมฤทธิ์ผล แล
ฝันว่าลูกอ่อนนอนเต็มเรือน จักได้ข้าคนมาสู่ แต่ล้วนดี ๆ แล
ฝันว่านุ่งแดง แสงสี เร่งเกรงไพรี ระมัดระวังกาย แล
ฝันว่านุ่งห่มพัสตร์ จะอยู่ปรีดา ไม่มีใครรุกราน แล
ฝันว่าเห็นท้าวมัฆวาน หนึ่งท้าวพรหมมาร หนึ่งเห็นพระจันทรา เร่งให้ระมัดกายา เกรงภัยพาธา ระมัดตัวจงดี แล
ฝันว่าพระยายมราวี มักมีมิดี จะมีผู้ดีเกลียดชังตน แล
ฝันว่านอนบนพื้นเบื้องบน ตีนหนึ่งตกชล เศียรหนึ่งตกน้ำ ให้แก้ที่ต้นพฤกษา อันใหญ่โสภานานไปจะได้เมียงาม แล
ฝันว่าได้นางพระยานงราม แม้ว่าใครถาม ว่าอย่าบอกบรรยาย ให้แก้กลางหาดทราย นัยหนึ่งอุบายว่า แก้กับต้นไม้ใหญ่ จึงจะดีแล
ฝันว่าสาวพรหมจารี ถือประทีปเทียนศรี สะอาดเข้ามาเรือนตน จักมียศยิ่งกว่าชน ท่านจะเลื่อนตนขึ้นให้ถึงพระยา แม้นว่าหญิงโสภา จักได้ภัสดา อันเสพเนื้อพึงใจแล
ฝันว่าสวดพระพุทธมนต์สิ่งใด จักเปลื้องปลอดภัย บาปกรรมบ่มาบีทาแล
ฝันว่ากางกรดบังแสงสุริยา และกางร่มจะผาสุก ประเสริฐโภคี ทำขวัญตัวจงดี ลาภจักพูนมีอนันต์หลากเหลือตาแล
ฝันว่าเข้าในวิหารและกุฎีนานา นิวาสสาวกสงฆ์ แห่งพระสัมพุทธพงษ์ จักเปลื้องทุกข์ปลง และว่าจะเรืองเดชาแล
ถ้าฝันเห็นรูปพระปฎิมา หนึ่งพระจุฬามณีแลองค์พระเจดีย์ อย่าได้เจรจาพาทีกับใครก็กี จะเรืองอุดมเดชาแล
ถ้าฝันเห็นอาจารย์ทิศา หนึ่งพรหมจารี แม้นึกสิ่งใด จะได้สมดังนึกแล
ฝันว่าเหาะเลื่อนลอยลม ลินลาสนิยม มาโดยอากาศเวหา เร่งให้ทำขวัญกายา จักยิ่งยศปรากฎไปทั่วทุกนรชน แม้ว่าใครมาผจญประจญ จะแพ้ฤทธิรณ ขยาดหวาดเสียกำลังแล
ฝันว่าฟ้าผ่าต้องกายา เร่งให้บูชาน้ำเต้า แตงกวาจึงจะดี เงินทองจักพูนมี ถอยทุกข์อัปรีย์ อุบัติกำจัดไกลแล
ฝันว่านั่งใต้ร่มไทร จักได้เป็นใหญ่ยิ่งยศ ปรากฎแก่ตนแล
ฝันว่าเชิญรูปพระทศพล ไว้ในตำบล ถิ่นฐานนิวาสอาราม ทายว่าจักได้เมียงาม ลาภจักไหลหลามมาสุ๋สำนักแห่งตนแล
ฝันว่าขึ้นเรือนใหม่พึงยล จักดีแก่ตน อย่าแหนงระแวงวิญญาณแล
ฝันว่าข้ามพ้นชลธาร หนึ่งได้ไต่สะพาน ลุไปได้ดังจำนง ผู้นั้นจักมีอานิสงส์ เป็นที่ดำรง ระงับแก่ฝูงประชาชนแล
ฝันว่าเขาฆ่าชีวา จักมีเดชานุภาพในหมู่ไพรินแล
อีกตำรา ท่านกล่าวว่า
ต้นเหตุของความฝัน(เพราะเหตุใดคนเราถึงฝัน) 4 ประการ
1. บุรพนิมิต ความฝันเกิดจากเรื่องราวในอดีตมาปรากฏให้คนนั้นฝันไป
มักเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงมาปรากฏบอกลางหรือโชคลาภ
2. จิตนิวรณ์ ความฝันเกิดเพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝันอย่างนี้เป็นเพราะ
อารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ผูกพันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา
เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่ หรือได้
พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม
ธาตุไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ
3. เทพสังหรณ์ ความฝันเกิด ขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝันเช่นนี้เป็นเพราะเทวดา
ผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธรรมะได้ดลบันดาลให้ผู้ฝันเกิดความฝันไป
เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้าย
เรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือน ผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน
4. ธาตุโขภะ ความฝันเกิดเพราะกินมาก นอนมาก จนท้องไส้อืด ท้องขึ้นท้องเฟ้อ
ให้เวลานอนหลับไม่สนิทจึงฝันไปไร้สาระไม่มีมูลความจริง หรือให้ประโยชน์แต่อย่างใด
ทำนายฝันตามวัน
ฝันวันอาทิตย์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่คนทั้งหลาย (คนอื่นๆ)
ฝันวันจันทร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่วงศ์ญาติของท่าน
ฝันวันอังคาร ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ พ่อแม่พี่น้องของท่านเอง
ฝันวันพุธ ท่านฝันคืนวันพุธ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ บุตรและภรรยาหรือสามีของท่าน
ฝันวันพฤหัสบดี ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ ครู อาจารย์ และมิตรสหายของท่าน
ฝันวันศุกร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ สัตว์เลี้ยงของท่าน
ฝันวันเสาร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ ตัวท่านเอง
ฝันเวลากลางวัน
ไม่จำเป็นต้องเชื่อฝันกลางวัน(ความฝันที่นิยมถือเป็นความจริงได้ ต้องฝันเวลากลางคืน)
ฝันเวลาหัวคํ่า หรือเวลาสองยาม
เป็นฝันที่ไม่อาจเป็นจริงไปได้ เพราะว่าท้องไส้ไม่ปกติ ทำให้ความฝันวุ่น จิตใจวุ่น
แต่ถ้าหลับสนิทบางทีก็จริง
ฝันตอนดึก ประมาณ 4 ทุ่ม ถึงตี 2
เป็นความฝันที่จะปรากฏเป็นความจริงขึ้นมา ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน หรือสองเดือนแน่ๆ
ฝันยามใกล้รุ่ง ตอนตี 2 ถึงสว่าง
เป็นความฝันที่จะเกิดขึ้นเป็นความจริงในเวลา 3 วัน หรือไม่เกิน 15 วัน
เคล็ดแก้ฝันร้าย
หากฝันร้ายจะทำอย่างไรดี?
หากคุณฝันร้ายหรือฝันไม่เป็นมงคล ให้ท่องหรือภาวนาคาถานี้ แล้วเรื่องร้ายๆ จะกลับกลายเป็นดีหรือเรื่องร้ายๆ จะบรรเทาเบาบางลง
ให้ท่อง
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ความฝันที่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือกับฐานะและสมบัติของตนเอง ในตำราทำนายฝัน มักทำนายไว้ตรงข้ามเสมอ เช่นฝันว่าเป็นเศรษฐี ทายว่าจะยากจนลง หรือฝันว่าได้เงิน มักจะเสียเงิน ฝันว่าถูกตัดศีรษะหรือถูกแทงไส้ไหล กลับถือว่าเป็นฝันดีจะได้ลาภหรือหมดเคราะห์
โดยเหตุนี้ การที่จะถือว่า ฝันชนิดใดเป็นฝันร้ายหรือฝันชนิดใดเป็นฝันดี จึงไม่อาจจะกำหนดแน่นอนในทันทีที่ตื่นจากฝันได้ แต่ส่วนมากการ “ฝันร้าย” ในฝัน เช่น ฝันร้องไห้ หรือฝันถูกตัดหัว ซึ่งในคำทำนายว่า จะมีลาภดังที่กล่าวมานี้ ผู้ที่ฝันมักจะเป็นทุกข์กังวล เกรงว่าการฝันของตนจะฝันเป็นร้าย เพราะจิตใจตื่นตระหนกตั้งแต่อยู่ในความฝันแล้ว แต่แท้จริงจากคำทำนายกลับปรากฏว่าเป็นนิมิตบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะได้รับโชค ซึ่งแปลว่า “ฝันดี” นั่นเอง
ไทยเรามีวิธีแก้ฝันอยู่อย่างหนึ่งซึ่งแตกต่างกับคนต่างชาติ หรือฝรั่ง คือใช้วิธีเอาความฝันของตนไปเล่าให้ใครคนใดคนหนึ่งฟัง จะเป็น “ฝันดี” หรือ “ฝันร้าย” ก็ตาม คนที่รับฟังจากเรานั่นแหละจะเป็นคน “แก้ฝัน” ให้เราเอง คือพอเราเล่าจบ เขาก็จะต้องให้พรว่า “ฝันดีจะมีลาภ” ผู้ที่ฝันหรือไปให้เขาแก้ฝันจะต้องยกมือไหว้แล้วตอบว่า “สมพรปากเถิด” วิธีนี้คนเก่าๆ หรือคนไทยในชนบทยังนิยมใช้เป็น “เคล็ด” แก้ฝันของตนเองอยู่จนถึงทุกวันนี้ส่วนมาก เพราะถือว่าเมื่อให้อีกคนเป็นผู้แก้ฝันแล้ว ถ้าเป็นฝันร้ายก็จะกลายเป็นดี ถ้าฝันดีจะดียิ่งขึ้น
แต่วิธีการหรือ “ เคล็ด” ในการแก้ฝันที่ถือตามตำนานหรือความเข้าใจของตนเอง เท่าที่ได้รับคำบอกเล่าว่าเป็น “ฝันร้าย”นั้น ไทยเราก็มีวิธีแก้อยู่อย่างวิจิตรพิสดารเหมือนกันและถือเป็น “ประเพณี” กันมานมนานแล้วทีเดียว ซึ่งถ้าหากคุณๆ ผู้สนใจจะลองนำไปใช้ดูบ้าง ก็คงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอะไรนักเพราะอย่างน้อยก็เป็นการ “ ปลอบจิตใจ” ของตนเอง หรือ “ผู้ฝัน” ได้อย่างหนึ่งเหมือนกัน และวิธีการแก้ฝันนี้ เมื่อพิเคราะห์ดูแล้วก็มีเหตุอันควรนับเนื่องเข้าในข่ายของการ “หักกลบลบล้าง” อยู่ได้บ้างเหมือนกัน ดังที่จะได้กล่าว
เช่นฝันเห็น “ไฟ” หรือ “ไฟไหม้” ซึ่งตามคำทำนายก็ว่าจะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจนัก ตำราเคล็ด ในการแก้ฝันของโบราณ ก็แนะนำให้ไปแก้กับ “แม่น้ำ” หรือ “คงคา” หรือใช้ “น้ำ” เป็น “เคล็ด” ในการดับ “ไฟ” เสีย ก็จะทำให้เรื่องราว หรือเหตุการณ์ร้าย ที่จะเกิดล่วงหน้า มีอันบันเทาลงไป
และคนโบราณก็คือว่า “เคล็ด” วิธีนี้ดีที่สุด ในการแก้ฝันชนิดนี้ แต่ถ้าจะให้ดีขึ้นไปกว่านั้น คนโบราณ หรือเจ้าตำรับคำทำนายฝัน เขาแนะว่า เมื่อสะดุ้งตกใจตื่นจากฝันร้าย ไม่เฉพาะแต่จะฝันเรื่องไฟอย่างเดียว แม้ฝันอื่นๆ ก็ตาม ที่ทำให้ตกอกตกใจนั้น ให้รีบลุกขึ้นนั่งกราบหมอน รำลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเสียสามครั้ง แล้วสวดมนต์ภาวนาเท่าที่สามรถจะสวดได้ ทำนองขอคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ให้ช่วยปกปักรักษาและขจัดเหตุร้ายต่างๆ ที่จะเกิดแก่ตัวเราให้หมดสิ้นไป
ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดถ้าเราสามารถจะปฏิบัติตามได้ และการสวดมนต์นี้ ก็ควรจะสวดทุกคืนก่อนนอนด้วยยิ่งดี
อย่างไรก็ตาม มีเคล็ดหรือวิธีแก้ฝันหลักใหญ่ๆ อยู่บางประการของตำรับโบราณ ที่จะนำมากล่าวเป็นส่วนประกอบได้บ้างในที่นี้ นอกเหนือจากการสวดมนต์ภาวนา ขอคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่คุ้มครองแล้ว…คือ
- ถ้าฝันว่า ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ทำนายว่าจะมีเคราะห์ ต้องไปแก้กับหญิงมีครรภ์ หรือ คนมีท้อง (คือเล่าให้หญิงนั้นฟัง แล้วหญิงนั้นกล่าวเป็นทำนองว่า “ฝันดี” จะมีลาภ ดังที่กล่าว)
- ถ้าฝันว่าถูกสุนัขกัด ทำนายว่า จะเดือดร้อนเพราะศัตรูต้องไปแก้กับภิกษุในวัด
- ถ้าฝันว่าเห็นไฟไหม้ ทำนายว่าจะเดือดเนื้อร้อนใจต้องไปแก้กับน้ำ หรือเอาน้ำในแม่น้ำลำคลองล้างหน้าตนเอง ในตอนตื่นนอนแต่เช้ามืด แล้วกล่าวขอพรจากพระแม่คงคา ให้ช่วยคุ้มครองปกป้องอันตราย
- ถ้าฝันว่าเต้นรำ หรือร้องรำ จะเสียของรักต้องไปแก้ฝันที่ใต้ถุนเรือน บอกกล่าวกับผีเหย้าผีเรือน
- ถ้าฝันว่า ได้หมู หรือขี่หมู จะเดือดร้อน ต้องไปแก้ฝันกลางแม่น้ำหรือลำคลอง
- ถ้าฝันว่า ใส่แว่นตา จะผิดหวังในการงานต่างๆ ต้องไปแก้ฝันกับคนชั้นครูบาอาจารย์ หรือผู้มีความรู้สูง
- ถ้าฝันว่า ตกส้วมอุจจาระ มีแต่ขี้อย่างเดียว ทายว่าจะเสียชื่อเสียง ต้องไปแก้ฝันบนกลางสะพาน
- ถ้าฝันว่า ได้เงินทอง ทายว่า จะเดือดร้อนเรื่องการเงิน ต้องไปโปรยข้าวลงกลางดิน เรียกไก่หรือหมูหมามากินเสียก่อน แล้วจึงแก้ฝัน
- ถ้าฝันว่า ตกเหว,ตกบ่อ ทำนายว่าฝันร้าย ต้องนอนคว่ำหน้าเอาคางเกยธรณีประตูแล้วแก้ฝัน
- ถ้าฝันว่าขี่ม้า หรือวัวควาย แล้วตกจากหลังม้าหรือวัวควาย ทายว่าจะเดือดร้อน ต้องไปแก้ฝันตรงกลางสามแยก หรือสี่แยก โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกแล้วแก้ฝัน
- ถ้าฝันว่า ว่ายน้ำข้ามฝั่งไม่สำเร็จ ทายว่าจะลำบากหรือผิดหวัง ต้องไปแก้ฝันกับพระพุทธรูปหรือพระบูชา
- ถ้าฝันว่า นั่งเรือไปแล้วเรือล่ม จะได้รับเคราะห์หนักต้องไปแก้ฝันใต้ต้นไม้ใหญ่ๆ
- ถ้าฝันว่า มีเด็กอื่นมาดูดนมเรา ทายว่าจะได้รับการเจ็บป่วย ต้องไปแก้ฝันกับคนสูงอายุ หรือญาติผู้ใหญ่ในบ้าน
- ถ้าฝันว่า เดินเข้าไปในถ้ำมืด จะทะเลาะวิวาทหรือเสียคนรัก ต้องไปแก้ฝันกับพระอาทิตย์ หรือกลางแดด
- ถ้าฝันว่ากระโดดจากทีสูงลงมาที่ต่ำ ทายว่า จะเสียผลงานต้องไปแก้ฝันกับเสาเรือนในบ้าน หรือเสาวิหารโบสถ์
- ถ้าฝันว่า ได้ดมกลิ่นหอมของดอกไม้ จะมีอันตรายต้องแก้ฝันบนที่นอน
- ถ้าฝันว่า ถูกโซ่รัดคอหรือคล้องคอ จะได้รับเคราะห์ต้องไปแก้ฝันกับแม่ธรณีประตู
- ถ้าฝันว่าลุยโคลน หรือ ย่ำโคลน ทายว่าจะไม่สบายต้องไปแก้ฝันกับต้นไม้ใหญ่ๆ
ที่ยกกล่าวมานี้ เป็นเพียงเคล็ดหรือวิธีการแก้ฝัน ตามคำบอกเล่า ของคนแก่คนเฒ่าสูงอายุในสมัยก่อนๆ ตกทอดกันมา จะถือเป็นเรื่องจริงจังหรือไม่ก็ตาม ก็ขอให้อยู่ในการพิจารณาของท่าน แต่วิธีที่ดีที่สุด คือการแก้ฝันด้วยการสวดมนต์ภาวนา ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือสวดตามบทสวดมนต์แก้ฝัน ดังที่กล่าวมาแล้ว
อิทธิพลตัวเลขกับความฝัน
ความฝัน ของคนเราที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต เช่นมนุษย์หรือสัตว์ หรือกับสิ่งของต่างๆ ตามตำราทำนายฝันส่วน มาก ที่ให้ความหมายของสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวเลข มักจะมีส่วนใกล้เคียงกันอยู่มาก ซึ่งอาจเกิดจากการสังเกต หรือ พิจารณาเอาจากลักษณะรูปร่าง หรือจุดเด่น หรือลำดับของตัวอักษรของสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาเป็นหลักเกณฑ์ โดย ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์มานานหลายชั่วอายุคนแล้วก็ได้ จึงสามารถให้ความเชื่อถือต่อการทดลองเปรียบเทียบ ในลักษณะที่เรียกว่า ใกล้เคียงหรือมีส่วนตรงกับเป้าหมายได้เป็นส่วนมาก
เหตุนี้ ผู้เป็นเจ้าของตำรับเดิม จึงได้พยายามถอดเอาสิ่งที่ฝันถึงเหล่านี้ออกมาเป็น “เลข” โดยถือเอาว่าเป็น “อิทธิพล” อย่างหนึ่งของตัวเลข ที่บันดาลให้เป็นไปในมโนภาพแห่งความฝันของคนเรา ซึ่งแม้จะยึดถือเป็น หลักเกณฑ์ตายตัวหรือ “แม่นยำ” ที่เดียวนักไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าจะมีส่วนใกล้เคียงกันอยู่บ้าง
จึงขอให้ผู้อ่านที่สนใจลองใช้ความสังเกต หรือลองหัดพิจารณาดูเองบ้าง หากจะผิดพลาดไปจากคำทำนาย ก็ขอให้ถือว่าเป็นส่วนประกอบในการหาความสนุกหย่อนใจ หรือเป็นเครื่องบันเทิงใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็แล้วกัน
หลักคำทำนายและการใช้วิธีสังเกตจากตำรับโบร่ำโบราณเดิมมีดังนี้
ถ้าฝันเห็น กษัตริย์,พระราชินี,ประมุข,คนแก่หง่อมสูงอายุ,บิดามารดา,พระพุทธรูปบูชา, พระประธานในโบสถ์, พระแก้วมรกต,ฯลฯ มักจะเป็นเลข 9 (เฉพาะองค์พระราชินีนั้น ถ้าในฝันมีองค์พระราชายืนประทับเคียงข้าง ให้ถือเป็น 8 และองค์กษัตริย์เป็น 9 ฉะนั้น เลขนี้จะต้องเป็นเลข 2 ตัว คือ 98 หรืออาจจะเป็น 29 ก็ได้)
ถ้าฝันเห็น ไก่,หนู ฯลฯ มักเป็นเลข 1 (ถือเอาว่า ก. ไก่ เป็นพยัญชนะตัวแรก และหนูเป็นปีแรกของงปีเกิด หรือปี 12 นักษัตร คือชวดแปลว่าหนู)
ถ้าฝันเห็น เสาเรือนโดดเดี่ยว,ไม้ไผ่, ดินสอ, ก้านธูป, หรือสิ่งที่เรียวยาว เช่น เส้นเชือกขึงตรง, เส้นหมี่ หรือ เสาธง (ไม่มีธง) ก้านไม้ขีด, ไม้บรรทัด,ไม้เรียว, บุหรี่, มักจะเป็นเลข 1
ถ้าฝันเห็นคนตาย,ศพ หรือโลงศพ มักจะเป็นเลข 4 ( ในทางอิทธิพลของตัวเลขนี้ว่าเลข 0 แทน 4 หรือ 4 แทน 0 ได้ ฉะนั้นจึงเป็น 4 หรือ 0 ได้)
แต่ถ้าฝันเห็นคนที่ตายไปแล้วเป็นคนแปลกหน้าและเป็น “ผี”ในฝัน มักเป็นเลข 6 (ซึ่งแปลความหมายว่า “ผีหรอก” คือ”ผีโกหก” คำว่าหลอกหรือโกหกจึงเท่ากับ 6)
ถ้าฝันเห็น หีบ ห่อ, กระเป๋าเดินทาง, โต๊ะ,เก้าอี้, เตียงนอน,วิทยุ หรือ สมุดหนังสือ หรือวัตถุสิ่งของที่มีรูปสี่เหลี่ยม มักจะเป็นเลข 4
ถ้าฝันเห็นกระแสน้ำ หรือ น้ำ มักเป็นเลข 2 (ถือเอาลำดับจากธาตุทั้ง 4 คือ 1. ดิน 2. น้ำ 3. ลม 4. ไฟ เพราะฉะนั้น ถ้าฝันเห็นดิน ก็มักตรงกับเลข 1 หรือฝันเห็น ไฟ ก็มักตรงกับเลข 4)
ถ้าฝันเห็นแว่นตา, ถันนมผู้หญิงทั้งสองข้าง ปาก คน, เป็ด, คนกอดอก, ห่วง 2 ห่วงคล้องกัน ฯลฯ มักเป็นเลข 8 (คือถือเอาตามลักษณะ และอักษร เช่น แว่นตามีวงกลม 2 วงต่อเนื่องกัน หรือนมสองข้าง ส่วนคำว่าปากและเป็ด ถือเอาตัว อักษร ป. เป็นความหมายของคำว่าแปด)
ถ้าฝันเห็น นก มักเป็นเลข 6 ทั้งนี้ไม่ถือตามตัวอักษร น. เป็น 1 แต่ถือเอาการออกเสียง “นก” ใกล้เคียงกับ หก หรือ ถือว่านก คือ “วิหค” ก็ได้
ถ้าฝันเห็นเรือ มักเป็นเลข 5 (ตามความสังเกตว่า ร. เรือ มีลักษณะคล้ายตัวเลขอารบิคเลข 5 ก็ได้)
ถ้าฝันเห็นผู้หญิงในวัยสาวถึงวัยกลางคน มักเป็นเลข 5 แต่ถ้าฝันเห็นหญิงคนท้องมักเป็นเลข 6 หญิงแก่ชรา หรือมารดา มักเป็นเลข 9
ถ้าฝันเห็น พลับพลา, บ้านเรือน , อาคาร, หรือหลังคาบ้าน มักเป็นเลข 7
ถ้าฝันเห็น วงแหวน,กำไลมือ, หลุมหรือบ่อหรือวัตถุที่มีลักษณะเป็นวงกลม หรือกลอง มักเป็นเลข 0 (บางตำราว่าแหวนมักจะตรงกับเลข 6 ซึ่งอาจถือเอาคำว่า ว. แหวน มีลักษณะคล้ายเลข 6 ของไทยก็ได้)
ถ้าฝันเห็น สามง่าม,คราด,ส้อม,ช้อน,คทา, รถสามล้อ, จั่วหลังคา มักเป็นเลข 3
ถ้าฝันเห็น จิ้งจก, ตุ๊กแก, จรวด, เจว็ดศาล, จอบ มักเป็น เลข 7 (ถือเอาตามตัวอักษร จ. อยู่ในคำว่าเจ็ด ส่วนตุ๊กแก นั้นถือเอาไม้ตรี มีลักษณะเป็นเลข 7 ของไทย)
ถ้าฝันเห็น วัวควาย ,สุนัข, เรือ หรือสัตว์ 4 เท้า ส่วนมากมักเป็นเลข 4 แต่ให้สังเกตว่า ถ้าเป็นสัตว์ที่อยู่ใน 12 นักษัตรของปีเกิด คือปีชวด-ปีกุน ให้ถือ ชวด (หนู) 1, ฉลู(วัว)2, ขาล(เสือ)3, เถาะ(กระต่าย) 4, มะโรง (งูใหญ่) 5, มะเส็ง(งูเล็ก) 6, มะเมีย(ม้า)7, มะแม(แพะ) 8, และวอก(ลิง)9, ส่วนระกา (ไก่) เป็น 1 หรือ 10, จอ(สุนัข) เป็น 11 หรือ 4, กุน(หมู) เป็น 12 หรือ 4
ถ้าฝันเห็น แก้วน้ำ, แก้ว,เพชรพลอยมีค่ามักเป็น เลข 9
ถ้าฝันเห็น เบ็ดตกปลา, (ตัวเบ็ด) ไม้เท้าถือ(มีหัวโค้งงอ เหมือนรูปตัว j ) คันร่ม หรือสะพานโค้งมักเป็นเลข 6
ถ้าฝันเห็นกางเกง, เสื้อ. ตะเกียบทั้งคู่, รางรถไฟ และรองเท้า(ทั้งคู่) มักจะเป็นเลข 2 (ถือเอาว่าสิ่งเหล่านี้มีเลขเป็นคู่คือ 2 เช่น กางเกงมี 2 ขา หรือรองเท้าต้องมีคู่หรือ 2 ข้าง)
ถ้าฝันเห็นงูใหญ่ หรือพญานาค (ตามที่เข้าใจในฝัน) มักจะเป็นเลข 5 ถือเอาลำดับในปีเกิด 12 นักษัตร ถ้าฝันเห็นงู ุเล็กๆ หรืองูธรรมดาทั่วไป มักเป็นเลข 6 (ถือปี 12 นักษัตรเช่นเดียวกัน)
ถ้าฝันเห็นมือหรือเท้า มักเป็นเลข 5 (ถือเอาว่ามี 5 นิ้ว) แต่ถ้าฝันเห็นแขน หรือขา มักเป็น 2 (ถือเอาว่ามนุษย์เรามี 2 แขน 2 ขา) แต่ถ้าฝันเห็นมือ ในลักษณะกำแน่นหรือกำหมัด หรือกำปั้น มักเป็นเลข 6 หรือ 9 และถ้าฝันเห็น “มือจับ” เช่นจับปลา จับสิ่งของ ถือเอาลักษณะของการ”จับ” เป็นเลข 7 เช่นจับปลา ก็ จะต้องเป็น 87 หรือ 78 เพราะปลา เข้าในลักษณะของเลข 8
ถ้าฝันเห็นว่าวจุฬา มักเป็นเลข 5 เพราะมีปลายทั้ง 5 คล้ายดาว แต่ถ้าเป็นว่าวปักเป้า ว่าวอีรุ้ม มักเป็นเลข 4 เพราะ เป็น 4 มุม
ถ้าฝันเห็นบันได มักเป็นเลขคี่ คือ 3, 5,7,9 เพราะบันไดส่วนมาก จะต้องสร้างขั้นบันไดให้เป็นเลขคี่ ฉะนั้นถ้าฝัน สังเกตระยะความสูงหรือขั้นบันไดได้ ก็อาจจะมีความหมายเป็นเลขคี่เลขใดเลขหนึ่งได้ใกล้ชิด)
ถ้าฝันเห็น ภูเขาสูงใหญ่ มักเป็นเลข 9
ถ้าฝันเห็นจอมปลวกหรือตัวปลวก มักเป็นเลข 8
ถ้าฝันเห็นอุจจาระ หรือ “ขี้” มักเป็นเลขคี่( แต่ต้องสังเกตว่า จำนวนของก้อนขี้นั้นมากหรือน้อย แล้วตีความหมายให้ใกล้เคียงเช่น จำนวน 2 ก้อน ก็อยู่ในราวเลข 1, หรือ 3 แต่ถ้ามากก็ตีความหมายเป็น 5 หรือ 7 ได้ อย่างให้ถึง 9)
ถ้าฝันเห็น หมวก, มงกุฎ,ชฎา,ธงปักปลายยอด มักเป็นเลข 9 (คือ ถือว่าเป็นของอยู่สูง)
ถ้าฝันเห็น กุ้ง มักเป็น 9 ถ้าฝันเห็นรวมกับปลาก็ต้องตีความหมายว่า 98
ถ้าฝันเห็น เต่า, ตะพาบ มักเป็น เลข 4 บางตำราว่าเลข 3 คือถือว่าตัวอักษร ต.ใกล้เคียงกับเลข 3 ของไทย
ที่ยกมานี้ เป็นแนวทางตัวอย่างของอิทธิพลตัวเลขแทนสิ่งต่างๆ ในฝัน ตามเหตุผลของเจ้าของตำรับ เดิมแต่โบราณกาลมา ซึ่งท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามที ก็ลองพิจารณาสังเกตเอาตามที่ท่านฝันดูสัก 2-3 ครั้ง บางทีจะ ช่วยให้ท่านมีประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ขึ้นบ้าง
ต่อไปนี้เป็นสรุปความฝันที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเลขต่างๆ โดยสังเขปให้ท่านพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
เลข 1 ได้แก่ฝันเห็น ไก่, หนู, เสาเรือน, ดินสอ, ปากกา,ไม่ไผ่, ก้านธูป,บุหรี่,หนอน,ดิน,เส้นผม,เส้นเชือก,เทียนไข, มดเล็กๆ,ปิ่นปักผม,สายสร้อย,กบ,ดอกบัว ฯลฯ
เลข 2 ได้แก่ฝันเห็น น้ำ, ตะเกียบ, กางเกง,เสื้อ,รองเท้า,รางรถไฟ,ช้อนส้อม,ข้าวสาร,ขวด,วัว(ฉลู),ผีเสื้อ, ถนนหนทาง,ขื่อคา,เลือด,ตุ้มหู,แขน,ขา ฯลฯ
เลข 3 ได้แก่ฝันเห็น สามง่าม, คราดส้อม, (ไม่รวมช้อน),คทา,จั่วหลังคา,ทางสามแยกหรือสามแพร่ง,ธงสามเหลี่ยม, เต่า,ตะพาบน้ำ,รถสามล้อ,สามขา,พัดลม,ลม,เสือ(ขาล),เกาฑัณท์หรือธนู,สามเณร,เตาไฟ,ซี่ฟัน ฯลฯ
เลข 4 ได้แก่ฝันเห็น คนตาย,โลงศพ,หีบห่อ, กระเป๋าเดินทาง, ลังไม้,สมุด, หนังสือ, กระจก , สัตว์สี่เท้าบางชนิด(สุนัข,เสือ,กระต่าย,วัว,ควาย,ลา,แมว,ฯลฯ) รถยนต์ , เครื่องบิน,ผ้าเช็ดหน้า,มุ้ง, ว่าวปักเป้า,ไพ่ป๊อก,จอภาพยนต์,หน้าต่าง ฯลฯ
เลข 5 ได้แก่ฝันเห็น งูใหญ่(มะโรง),พญานาค, ผู้หญิง,เรือ,ศีรษะคน,ว่าวจุฬา,รั้วบ้าน,ดวงดาว,เมฆหมอก,ห่าน, ดอกไม้(หอม),มือ,เท้า ฯลฯ
เลข 6 ได้แก่ฝันเห็น ไม้เท้า,เบ็ดตกปลา,คันร่ม,หวี,ผีหลอก,ขวาน,ดาบ,งู(มะเส็ง),กระบวย,ลูกเต๋า(หกเหลี่ยม), สะพานโค้ง,ระฆัง,นก(วิหค)กุญแจ,ต้นไม้,หมวก,ฯลฯ
เลข 7 ได้แก่ฝันเห็น ตุ๊กแก,จิ้งจก,จอบ,จรวด,เจว็ด,ศาล,แจกัน,มีดพร้า,จิ้งหรีด,จักจั่น,เจดีย์,อาคารบ้านเรือน, หลังคา,ม้า(มะเมีย)ฯลฯ
เลข 8 ได้แก่ฝันเห็น แว่นตา,นมผู้หญิง,ห่วง 2 ห่วงคล้องกัน,คนกอดอก,เป็ด,พระสงฆ์,ญาติผู้ใหญ่,ปีบน้ำ,แมงมุม, โบสถ์, แพะ(มะแม),แมลงป่อง,ปลวก, จอมปลวก,ปราสาท,พระปราง,โซ่ตรวน,ปากคน,ปลิง ฯลฯ
เลข 9 ได้แก่ฝันเห็น กษัตริย์,บิดามารดา,พระพุทธรูป,พระแก้วมรกต,พระปฐมเจดีย์,ภูเขา,ภูเขาทอง,ลิง(วอก), ยักษ์,กำแพงใหญ่ๆ,เทวดา,กุ้ง,กบ,ช้าง,ต้นไม้ใหญ่,ฉัตร ฯลฯ
เลข 0 ได้แก่ฝันเห็น ห่วง,แหวน,กำไลข้อมือ,นาฬิกาข้อมือ,ถังน้ำ,พระอาทิตย์,พระจันทร์,คนตาย,หลุม,บ่อ,ล้อรถ, ชามจาน,กระป๋องกลม,กลอง,โถส้วม,ฆ้อง,ผลไม้ลูกกลมๆ,กระดุม,ถาด ฯลฯ
ทำนายฝันสัตว์ต่างๆ ตรงกับเลข
มังกรบิน 95 |
หงส์ 53 |
กิเลน 52 |
นกยูง 65 |
นกอินทรี 91 |
เสือโคร่ง 58 |
นกกระเรียน57 |
เสือดาว 87 |
ช้าง 77 |
ห่านฟ้า 69 |
กวางดาว 79 |
นกขมิ้น 96 |
นกนางแอ่น 74 |
วัว,วัวกระทิง 88 |
เป็ดแมนดาริน 78 |
แพะ 62 |
ลิง 93 |
นกกระทา 70 |
หมูป่า 84 |
นกพิราบ 66 |
นกกระจาบ 90 |
แมว 61 |
ค้างคาว 68 |
สุนัขจิ้งจอก 63 |
สุนัขป่า 94 |
นกกระจอก 60 |
กระต่าย,งู 86 |
คางคก,กบ 73 |
ตะขาบ 83 |
ปลาวาฬ 59 |
แมงมุม 67 |
จระเข้ 55 |
สิงโต 89 |
ปลาฉลาม 56 |
จักจั่น 80 |
นกกระเรียน 08 |
นกกาเหว่า 82 |
จิ้งหรีด 97 |
หอยขม,โข่ง 98 |
เสือโคร่ง 07 |
ม้า 54 |
ปลาเงิน-ทอง 71 |
กุ้งก้ามกราม 45 |
ปลาวาฬ 37 |
กา(อีกา) 72 |
แมวน้ำ(นาค) 81 |
นกกระจอก 32 |
แพะ 19 |
สุนัขขาว 85 |
กุ้ง,กุ้งนาง 51 |
แมว 27 |
สุนัขจิ้งจอก 29 |
ไก่,ไก่ขัน 99 |
ปู 64 |
ปลาฉลาม 41 |
ปู 46 |
หนู 75 |
ผีเสื้อ 92 |
หงส์ 02 |
จระเข้ 39 |
แมลงปอ 76 |
ผึ้ง 00 |
กิเลน 03 |
ม้า 15 |
นกยูง 04 |
นกพิราบ 24 |
แมงมุม 38 |
ค้างคาว 28 |
ห่านฟ้า 12 |
นกกระทา 22 |
ปลาเงิน-ทอง 43 |
กา(อีกา) 20 |
คางคก,กบ 34 |
นกนางแอ่น 16 |
หนู 35 |
แมลงปอ 40 |
ช้าง 11 |
เป็ด 18 |
กวาง 13 |
จักจั่น 49 |
แมวน้ำ(นาค) 44 |
นกกาเหว่า 10 |
ตะขาบ 36 |
หมูป่า 23 |
สุนัข 25 |
กระต่าย,งู 33 |
เสือดาว 09 |
วัว,วัวกระทิง 17 |
สิงโต 05 |
นกกระจาบ 26 |
นกอินทรี 06 |
ผีเสื้อ 47 |
ลิง 21 |
สุนัขป่า 31 |
มังกรบิน 01 |
นกขมิ้น 14 |
จิ้งหรีด 42 |
หอยขม,โข่ง 50 |
ไก่.ไก่ขัน 30 |
ผึ้ง 48 |
เหตุนี้ ผู้เป็นเจ้าของตำรับเดิม จึงได้พยายามถอดเอาสิ่งที่ฝันถึงเหล่านี้ออกมาเป็น “เลข”
โดยถือเอาว่าเป็น
“อิทธิพล” อย่างหนึ่งของตัวเลข ที่บันดาลให้เป็นไปในมโนภาพแห่งความฝันของคนเรา ซึ่งแม้
จะยึดถือเป็น
หลักเกณฑ์ตายตัวหรือ “แม่นยำ” ที่เดียวนักไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าจะมีส่วนใกล้เคียงกันอยู่บ้าง
จึงขอให้ผู้อ่านที่สนใจลองใช้ความสังเกต หรือลองหัดพิจารณาดูเองบ้าง หากจะผิดพลาดไป
จากคำทำนาย
ก็ขอให้ถือว่าเป็นส่วนประกอบในการหาความสนุกหย่อนใจ หรือเป็นเครื่องบันเทิงใจอย่างใด
อย่างหนึ่งก็แล้วกัน
หลักคำทำนายและการใช้วิธีสังเกตจากตำรับโบร่ำโบราณเดิมมีดังนี้
ถ้าฝันเห็น กษัตริย์,พระราชินี,ประมุข,คนแก่หง่อมสูงอายุ,บิดามารดา,พระพุทธรูปบูชา, พระประธานในโบสถ์,
พระแก้วมรกต,ฯลฯ มักจะเป็นเลข 9 (เฉพาะองค์พระราชินีนั้น ถ้าในฝันมีองค์พระราชายืนประทับเคียงข้าง
ให้ถือเป็น 8 และองค์กษัตริย์เป็น 9 ฉะนั้น เลขนี้จะต้องเป็นเลข 2 ตัว คือ 98 หรืออาจจะเป็น 29 ก็ได้)
ถ้าฝันเห็น ไก่,หนู ฯลฯ มักเป็นเลข 1 (ถือเอาว่า ก. ไก่ เป็นพยัญชนะตัวแรก และหนูเป็นปีแรกของงปีเกิด หรือปี
12 นักษัตร คือชวดแปลว่าหนู)
ถ้าฝันเห็น เสาเรือนโดดเดี่ยว,ไม้ไผ่, ดินสอ, ก้านธูป, หรือสิ่งที่เรียวยาว เช่น เส้นเชือกขึงตรง, เส้นหมี่ หรือ
เสาธง (ไม่มีธง) ก้านไม้ขีด, ไม้บรรทัด,ไม้เรียว, บุหรี่, มักจะเป็นเลข 1
ถ้าฝันเห็นคนตาย,ศพ หรือโลงศพ มักจะเป็นเลข 4 ( ในทางอิทธิพลของตัวเลขนี้ว่าเลข 0 แทน 4 หรือ 4 แทน
0 ได้ ฉะนั้นจึงเป็น 4 หรือ 0 ได้)
แต่ถ้าฝันเห็นคนที่ตายไปแล้วเป็นคนแปลกหน้าและเป็น “ผี”ในฝัน มักเป็นเลข 6 (ซึ่งแปลความหมายว่า “ผีหรอก”
คือ”ผีโกหก” คำว่าหลอกหรือโกหกจึงเท่ากับ 6)
ถ้าฝันเห็น หีบ ห่อ, กระเป๋าเดินทาง, โต๊ะ,เก้าอี้, เตียงนอน,วิทยุ หรือ สมุดหนังสือ หรือวัตถุสิ่งของที่มีรูปสี่เหลี่ยม
มักจะเป็นเลข 4
ถ้าฝันเห็นกระแสน้ำ หรือ น้ำ มักเป็นเลข 2 (ถือเอาลำดับจากธาตุทั้ง 4 คือ 1. ดิน 2. น้ำ 3. ลม 4. ไฟ เพราะฉะนั้น
ถ้าฝันเห็นดิน ก็มักตรงกับเลข 1 หรือฝันเห็น ไฟ ก็มักตรงกับเลข 4)
ถ้าฝันเห็นแว่นตา, ถันนมผู้หญิงทั้งสองข้าง ปาก คน, เป็ด, คนกอดอก, ห่วง 2 ห่วงคล้องกัน ฯลฯ มักเป็นเลข 8
(คือถือเอาตามลักษณะ และอักษร เช่น แว่นตามีวงกลม 2 วงต่อเนื่องกัน หรือนมสองข้าง ส่วนคำว่าปากและเป็ด
ถือเอาตัว อักษร ป. เป็นความหมายของคำว่าแปด)
ถ้าฝันเห็น นก มักเป็นเลข 6 ทั้งนี้ไม่ถือตามตัวอักษร น. เป็น 1 แต่ถือเอาการออกเสียง “นก” ใกล้เคียงกับ หก หรือ
ถือว่านก คือ “วิหค” ก็ได้
ถ้าฝันเห็นเรือ มักเป็นเลข 5 (ตามความสังเกตว่า ร. เรือ มีลักษณะคล้ายตัวเลขอารบิคเลข 5 ก็ได้)
ถ้าฝันเห็นผู้หญิงในวัยสาวถึงวัยกลางคน มักเป็นเลข 5 แต่ถ้าฝันเห็นหญิงคนท้องมักเป็นเลข 6 หญิงแก่ชรา
หรือมารดา มักเป็นเลข 9
ถ้าฝันเห็น พลับพลา, บ้านเรือน , อาคาร, หรือหลังคาบ้าน มักเป็นเลข 7
ถ้าฝันเห็น วงแหวน,กำไลมือ, หลุมหรือบ่อหรือวัตถุที่มีลักษณะเป็นวงกลม หรือกลอง มักเป็นเลข 0 (บางตำราว่า
แหวนมักจะตรงกับเลข 6 ซึ่งอาจถือเอาคำว่า ว. แหวน มีลักษณะคล้ายเลข 6 ของไทยก็ได้)
ถ้าฝันเห็น สามง่าม,คราด,ส้อม,ช้อน,คทา, รถสามล้อ, จั่วหลังคา มักเป็นเลข 3
ถ้าฝันเห็น จิ้งจก, ตุ๊กแก, จรวด, เจว็ดศาล, จอบ มักเป็น เลข 7 (ถือเอาตามตัวอักษร จ. อยู่ในคำว่าเจ็ด ส่วนตุ๊กแก
นั้นถือเอาไม้ตรี มีลักษณะเป็นเลข 7 ของไทย)
ถ้าฝันเห็น วัวควาย ,สุนัข, เรือ หรือสัตว์ 4 เท้า ส่วนมากมักเป็นเลข 4 แต่ให้สังเกตว่า ถ้าเป็นสัตว์ที่อยู่ใน 12
5, มะเส็ง(งูเล็ก) 6, มะเมีย(ม้า)7, มะแม(แพะ) 8, และวอก(ลิง)9, ส่วนระกา (ไก่) เป็น 1 หรือ 10, จอ(สุนัข) เป็น
11 หรือ 4, กุน(หมู) เป็น 12 หรือ 4
ถ้าฝันเห็น แก้วน้ำ, แก้ว,เพชรพลอยมีค่ามักเป็น เลข 9
ถ้าฝันเห็น เบ็ดตกปลา, (ตัวเบ็ด) ไม้เท้าถือ(มีหัวโค้งงอ เหมือนรูปตัว j ) คันร่ม หรือสะพานโค้งมักเป็นเลข 6
ถ้าฝันเห็นกางเกง, เสื้อ. ตะเกียบทั้งคู่, รางรถไฟ และรองเท้า(ทั้งคู่) มักจะเป็นเลข 2 (ถือเอาว่าสิ่งเหล่านี้มีเลขเป็น
คู่คือ 2 เช่น กางเกงมี 2 ขา หรือรองเท้าต้องมีคู่หรือ 2 ข้าง)
ถ้าฝันเห็นงูใหญ่ หรือพญานาค (ตามที่เข้าใจในฝัน) มักจะเป็นเลข 5 ถือเอาลำดับในปีเกิด 12 นักษัตร ถ้าฝันเห็นงู
ุเล็กๆ หรืองูธรรมดาทั่วไป มักเป็นเลข 6 (ถือปี 12 นักษัตรเช่นเดียวกัน)
ถ้าฝันเห็นมือหรือเท้า มักเป็นเลข 5 (ถือเอาว่ามี 5 นิ้ว) แต่ถ้าฝันเห็นแขน หรือขา มักเป็น 2 (ถือเอาว่ามนุษย์เรามี 2 แขน 2 ขา) แต่ถ้าฝันเห็นมือ ในลักษณะกำแน่นหรือกำหมัด หรือกำปั้น มักเป็นเลข 6 หรือ 9 และถ้าฝันเห็น “มือจับ”
เช่นจับปลา จับสิ่งของ ถือเอาลักษณะของการ”จับ” เป็นเลข 7 เช่นจับปลา ก็ จะต้องเป็น 87 หรือ 78 เพราะปลา
เข้าในลักษณะของเลข 8
ถ้าฝันเห็นว่าวจุฬา มักเป็นเลข 5 เพราะมีปลายทั้ง 5 คล้ายดาว แต่ถ้าเป็นว่าวปักเป้า ว่าวอีรุ้ม มักเป็นเลข 4 เพราะ
เป็น 4 มุม
ถ้าฝันเห็นบันได มักเป็นเลขคี่ คือ 3, 5,7,9 เพราะบันไดส่วนมาก จะต้องสร้างขั้นบันไดให้เป็นเลขคี่ ฉะนั้นถ้าฝัน
สังเกตระยะความสูงหรือขั้นบันไดได้ ก็อาจจะมีความหมายเป็นเลขคี่เลขใดเลขหนึ่งได้ใกล้ชิด)
ถ้าฝันเห็น ภูเขาสูงใหญ่ มักเป็นเลข 9
ถ้าฝันเห็นจอมปลวกหรือตัวปลวก มักเป็นเลข 8
ถ้าฝันเห็นอุจจาระ หรือ “ขี้” มักเป็นเลขคี่( แต่ต้องสังเกตว่า จำนวนของก้อนขี้นั้นมากหรือน้อย แล้วตีความหมาย
ให้ใกล้เคียงเช่น จำนวน 2 ก้อน ก็อยู่ในราวเลข 1, หรือ 3 แต่ถ้ามากก็ตีความหมายเป็น 5 หรือ 7 ได้ อย่างให้ถึง 9)
ถ้าฝันเห็น หมวก, มงกุฎ,ชฎา,ธงปักปลายยอด มักเป็นเลข 9 (คือ ถือว่าเป็นของอยู่สูง)
ถ้าฝันเห็น กุ้ง มักเป็น 9 ถ้าฝันเห็นรวมกับปลาก็ต้องตีความหมายว่า 98
ถ้าฝันเห็น เต่า, ตะพาบ มักเป็น เลข 4 บางตำราว่าเลข 3 คือถือว่าตัวอักษร ต.ใกล้เคียงกับเลข 3 ของไทย
ที่ยกมานี้ เป็นแนวทางตัวอย่างของอิทธิพลตัวเลขแทนสิ่งต่างๆ ในฝัน ตามเหตุผลของเจ้าของตำรับ
เดิมแต่โบราณกาลมา ซึ่งท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามที ก็ลองพิจารณาสังเกตเอาตามที่ท่านฝันดูสัก 2-3 ครั้ง บางทีจะ
ช่วยให้ท่านมีประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ขึ้นบ้าง
ต่อไปนี้เป็นสรุปความฝันที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเลขต่างๆ โดยสังเขปให้ท่านพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
เลข 1 ได้แก่ฝันเห็น ไก่, หนู, เสาเรือน, ดินสอ, ปากกา,ไม่ไผ่, ก้านธูป,บุหรี่,หนอน,ดิน,เส้นผม,เส้นเชือก,เทียนไข, มดเล็กๆ,ปิ่นปักผม,สายสร้อย,กบ,ดอกบัว ฯลฯ
เลข 2 ได้แก่ฝันเห็น น้ำ, ตะเกียบ, กางเกง,เสื้อ,รองเท้า,รางรถไฟ,ช้อนส้อม,ข้าวสาร,ขวด,วัว(ฉลู),ผีเสื้อ, ถนนหนทาง,ขื่อคา,เลือด,ตุ้มหู,แขน,ขา ฯลฯ
เลข 3 ได้แก่ฝันเห็น สามง่าม, คราดส้อม, (ไม่รวมช้อน),คทา,จั่วหลังคา,ทางสามแยกหรือสามแพร่ง,ธงสามเหลี่ยม, เต่า,ตะพาบน้ำ,รถสามล้อ,สามขา,พัดลม,ลม,เสือ(ขาล),เกาฑัณท์หรือธนู,สามเณร,เตาไฟ,ซี่ฟัน ฯลฯ
เลข 4 ได้แก่ฝันเห็น คนตาย,โลงศพ,หีบห่อ, กระเป๋าเดินทาง, ลังไม้,สมุด, หนังสือ, กระจก , สัตว์สี่เท้าบางชนิด(สุนัข,เสือ,กระต่าย,วัว,ควาย,ลา,แมว,ฯลฯ) รถยนต์ , เครื่องบิน,ผ้าเช็ดหน้า,มุ้ง, ว่าวปักเป้า,ไพ่ป๊อก,จอภาพยนต์,หน้าต่าง ฯลฯ
เลข 5 ได้แก่ฝันเห็น งูใหญ่(มะโรง),พญานาค, ผู้หญิง,เรือ,ศีรษะคน,ว่าวจุฬา,รั้วบ้าน,ดวงดาว,เมฆหมอก,ห่าน, ดอกไม้(หอม),มือ,เท้า ฯลฯ
เลข 6 ได้แก่ฝันเห็น ไม้เท้า,เบ็ดตกปลา,คันร่ม,หวี,ผีหลอก,ขวาน,ดาบ,งู(มะเส็ง),กระบวย,ลูกเต๋า(หกเหลี่ยม), สะพานโค้ง,ระฆัง,นก(วิหค)กุญแจ,ต้นไม้,หมวก,ฯลฯ
เลข 7 ได้แก่ฝันเห็น ตุ๊กแก,จิ้งจก,จอบ,จรวด,เจว็ด,ศาล,แจกัน,มีดพร้า,จิ้งหรีด,จักจั่น,เจดีย์,อาคารบ้านเรือน, หลังคา,ม้า(มะเมีย)ฯลฯ
เลข 8 ได้แก่ฝันเห็น แว่นตา,นมผู้หญิง,ห่วง 2 ห่วงคล้องกัน,คนกอดอก,เป็ด,พระสงฆ์,ญาติผู้ใหญ่,ปีบน้ำ
,แมงมุม, โบสถ์, แพะ(มะแม),แมลงป่อง,ปลวก, จอมปลวก,ปราสาท,พระปราง,โซ่ตรวน,ปากคน,ปลิง ฯลฯ
(วอก), ยักษ์,กำแพงใหญ่ๆ,เทวดา,กุ้ง,กบ,ช้าง,ต้นไม้ใหญ่,ฉัตร ฯลฯ
(วอก), ยักษ์,กำแพงใหญ่ๆ,เทวดา,กุ้ง,กบ,ช้าง,ต้นไม้ใหญ่,ฉัตร ฯลฯ
เลข 0 ได้แก่ฝันเห็น ห่วง,แหวน,กำไลข้อมือ,นาฬิกาข้อมือ,ถังน้ำ,พระอาทิตย์,พระจันทร์,คนตาย,หลุม,
บ่อ,ล้อรถ, ชามจาน,กระป๋องกลม,กลอง,โถส้วม,ฆ้อง,ผลไม้ลูกกลมๆ,กระดุม,ถาด ฯลฯ