โหราศาสตร์ไทย
โหราศาสตร์ไทย
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 13872
สมพงษ์ธาตุ
ผู้ชาย |
ผู้หญิง |
คำทำนาย |
ธาตุน้ำ |
ธาตุน้ำ |
อยู่ด้วยกันจะเป็นสุขใจ |
ธาตุน้ำ |
ธาตุดิน |
อยู่ด้วยกันจะมีความรักกันมาก |
ธาตุน้ำ |
ธาตุไม้ |
ดีนัก บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ |
ธาตุน้ำ |
ธาตุดิน |
ดีนักจะมีบุตรด้วยกันและอายุยืนนาน |
ธาตุดิน |
ธาตุน้ำ |
อยู่ด้วยกันปี หนึ่งจะได้ดี จะมีผู้อุปถัมภ์ |
ธาตุดิน |
ธาตุไม้ |
อยู่ด้วยกันดี |
ธาตุดิน |
ธาตุไฟ |
จะได้ดีเมื่อปลายมือ และจะมีทรัพย์มาก |
ธาตุดิน |
ธาตุเหล็ก |
อยู่ด้วยกันจะมีบุตรมาก |
ไธาตุม้ |
ธาตุไม้ |
อยู่ด้วยกันลาภผลพอประมาณ |
ธาตุไม้ |
ธาตุน้ำ |
อยู่ด้วยดีนัก จะมีทรัพย์มาก แต่เลี้ยงลูกยาก |
ธาตุไม้ |
ธาตุดิน |
รักกันแต่ต้องห่างกัน |
ธาตุไม้ |
ธาตุไฟ |
ดีจะมีบุตรชายก่อน แต่มักจะเป็นกำพร้า |
ธาตุไม้ |
ธาตุเหล็ก |
อยู่ด้วยกันไม่นาน |
ธาตุไฟ |
ธาตุไฟ |
อาภัพจัง |
ธาตุไฟ |
ธาตุน้ำ |
เมื่อต้นมือมิสู้จะดีภายหลังจึงจะดี |
ธาตุไฟ |
ธาตุดิน |
อยู่ด้วยกันดี แต่ต้องแยกจากกันก่อน |
ธาตุไฟ |
ธาตุไม้ |
มิสู้ดีวิวาทเป็นปากเสียงกัน |
ธาตุไฟ |
ธาตุเหล็ก |
หาสมบัติมิได้เลย |
ธาตุเหล็ก |
ธาตุเหล็ก |
ดีนักจะอยู่เย็นเป็นสุข |
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 54107
ตำราพรหมชาติ
วันเดือนคู่มิตร ศัตรู
วันคู่มิตร
วันอาทิตย์ |
คู่มิตร |
วันพฤหัสบดี |
วันจันทร์ |
คู่มิตร |
วันพุธ |
วันศุกร์ |
คู่มิตร |
วันอังคาร |
วันราหู(พุธกลางคืน) |
คู่มิตร |
วันเสาร์ |
วันที่เป็นศัตรู
วันอาทิตย์ |
เป็นศัตรู |
วันอังคาร |
วันจันทร์ |
เป็นศัตรู |
วันพฤหัสบดี |
วันพุธ |
เป็นศัตรู |
วันพุธกลางคืน |
วันศุกร์ |
เป็นศัตรู |
วันเสาร์ |
เดือนที่เป็นมิตร
เดือน ๓ |
เป็นมิตร |
เดือน ๕ |
เดือน 6 |
เป็นมิตร |
เดือน 12 |
เดือน 4 |
เป็นมิตร |
เดือน 8 |
เดือน 7 |
เป็นมิตร |
เดือน 9 |
เดือน 1 |
เป็นมิตร |
เดือน 2 |
เดือน 10 |
เป็นมิตร |
เดือน 11 |
เดือนที่เป็นศัตรู
เดือน 5 |
เป็นศัตรู |
เดือน 11 |
เดือน 1 |
เป็นศัตรู |
เดือน 6 |
เดือน 2 |
เป็นศัตรู |
เดือน 7 |
เดือน 3 |
เป็นศัตรู |
เดือน 8 |
เดือน 4 |
เป็นศัตรู |
เดือน 10 |
เดือน 9 |
เป็นศัตรู |
เดือน 12 |
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 13719
ตำราดู ภริยา 7 ประเภท
(ผู้ชายควรศึกษาไว้)
คิดให้ดีก่อนแต่งกับ...ตำราดูภริยา 7 ประเภท
เชื่อว่าไม่ว่าหญิงหรือชาย ส่วนมากถ้าเลือกได้ก็คงอยากจะมี “คู่ครอง” ที่สามารถร่วมชีวิตกันได้อย่างยาวนาน แบบที่โบราณว่า “ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร” แม้ว่าระหว่างการครองคู่ร่วมกันนั้น ฝ่ายหญิงต้องเอาไม้เท้า กระบองกำราบฝ่ายชายที่แอบไปมีกิ๊กบ้าง แต่หากสามารถอยู่กันตลอดรอดฝั่งจนตายจากกันไปข้างหนึ่ง ก็ขึ้นชื่อว่าเป็น “คู่สร้างคู่สม” ที่เป็นชีวิตคู่ที่พึงปรารถนา
ชายและหญิงที่โคจรมาใช้ชีวิตร่วมกันนั้น บางคนก็อาจจะเป็นคู่สร้างคู่สมที่กลายเป็นมาคู่คิด คู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นคู่เวรคู่กรรม คู่กัด คู่แข่ง หรือบางครั้งก็เป็นเพียง คู่ขา ที่มาอยู่ด้วยกันเพียงครั้งคราวก็ได้ อย่างไรก็ดี คนโบราณเขาก็พูดถึง ผู้หญิงที่ชายจะได้มาเป็นคู่ครอง ว่ามีอยู่ 7 ประเภทด้วยกันคือ
1. วธกาภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงเพชฌฆาต คือ เมียที่ไม่ได้อยู่กินกันด้วยความพอใจ ดูหมิ่น และคิดทำลายสามี (เมียแบบนี้สงสัยเป็นประเภทถูกฉุด หรืออาจถูกบังคับให้แต่งมาก็ได้)
2. โจรีภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงโจร คือ เมียชนิดล้างผลาญทรัพย์สมบัติ (พวกที่ชอบขอเงินสามีซื้อเพชรราคาแพง จะเข้าข่ายไหมเนี่ย)
3. อัยยาภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงนาย คือ เมียที่เกียจคร้าน ไม่ใส่ใจการงาน ปากร้าย หยาบคาย ชอบข่มสามี หรือดุด่าสามีเป็นประจำ (ดูท่าจะเป็นลักษณะของเมียโดยทั่วไป)
4. มาตาภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงมารดา คือ เมียที่หวังดี คอยเป็นห่วงเป็นใย เอาใจใส่ สามีหาทรัพย์มาได้ก็เอาใจใส่คอยประหยัดรักษา (มีเมียแบบนี้ ก็ทำให้สามีสบายใจ)
5. ภคินีภริยา
คือ ภริยาเยี่ยงน้องสาว คือ เมียที่เคารพรักสามี ดังน้องรักพี่ มีใจอ่อนโยน รู้จักเกรงใจ มักคล้อยตามสามี (ประเภทนี้ไม่ค่อยมีปากมีเสียง สามีก็มักรักและเอ็นดู)
6. สขีภริยา
คือ ภริยาเยี่ยงสหาย คือ เมียที่เป็นเหมือนเพื่อน มีจิตภักดี เวลาพบสามีก็ร่าเริงยินดี วางตัวดี ประพฤติดี มีกิริยามารยาทงาม (เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจ แหม! ฟังเหมือนสโลแกนธนาคาร)
7. ทาสีภริยา
คือ ภริยาเยี่ยงทาส คือ เมียที่ยอมอยู่ใต้อำนาจสามี ถูกสามีตะคอกตบตี ก็อดทน ไม่แสดงความโกรธตอบ (เรียกว่ากลัวสามีหงอ แต่ประเภทนี้ก็ต้องระวัง หากเก็บกดมากๆ ระเบิดขึ้นมาเมื่อไร สามีตายได้ไม่รู้ตัว)
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 36143
ตำรับทำนายไฝ
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
สิทธิการิยะ ฯ เกจิอาจารย์เจ้าท่านผู้เข้าใจในลักษณะคนทั้งชายและหญิงท่านได้รวมหลักเกณฑ์พยากรณ์เกี่ยวกับลักษณะไฝและปานของคนเราที่มีทั้งให้คุณและให้โทษไว้มีอย่างนี้
(ก) ไฝมีลักษณะเป็นสีดำบ้าง แดงบ้าง นูนออกมาบ้าง แนบเนื้อบ้าง มีทั้งเม็ดโตเม็ดเล็ก อาจจะขึ้นที่ใดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่วนมากเป็นเครื่องหมายหรือนิมิตในทางดี
มีส่วนเสียต่อเจ้าของน้อยมากที่สุด
(ข) ปานมีลักษณะเป็นผื่นดำบ้าง แดงบ้าง มักมีลักษณะน่ารังเกียจให้โทษมากกว่าให้คุณต่อเจ้าของผู้มี ส่วนดีที่ว่าให้คุณมีน้อยมากแลฯ
1. ถ้ามีไฝขึ้นริมชายผม ไม่ว่าชายหรือหญิง ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเจ้าระเบียบ รักและเอาใจใส่ต่อตัวเองดี ชอบสะอาด สนใจตัวเองมาก ไม่สู้จะเอาใจใส่ต่อวงสังคม
2. ชายใดมีไฝที่ขอบผมหน้าผาก หรือบริเวณขอบหน้า ทายว่า ผู้นั้นจะเป็นคนดีมีวาสนา ถ้าไฝนั้นมีลักษณะขาวหม่น หรือสีแดง ทายว่า จะมีความสุขมีทรัพย์สินบริวารมาก
3. หญิงใดมีไฝ ดังกล่าว (2) ทายว่าจะมีความสุข จะได้คู่ครองที่เฉลียวฉลาด มีความสุขในการครองเรือน พร้อมพรั่งด้วยทรัพย์สินเงินทอง ข้าทาสบริวารมากนัก
4. ชายหญิงใด มีไฝที่ขมับขวา เม็ดไฝนูนดี ชายหญิงนั้น ทายว่า เป็นคนกำพร้า หรือเกิดมามิได้อยู่กับบิดามารดาถ้าไฝมีสีแดงปนดำ ทายว่า เมื่อน้อยเลี้ยงยาก
เมื่อโตขึ้นจะเป็นคนดีมีผู้อุปถัมภ์เลี้ยงดู มีเพื่อนฝูงที่ไว้วางใจช่วยเหลือได้จริง ๆ มาก
5. ชายหญิงใด มีไฝที่ขมับซ้าย ทายว่า ชายหญิงนั้นเมื่อน้อยได้รับการเลี้ยงดูดีมาก จนหลงลืมความทุกข์ยากลำบาก เมื่อเติบโตมักจะลำบากหาคนช่วยเหลือได้ยากเหลือเกิน
6. ชายหญิงใด มีไฝที่หน้าผาก ระหว่างคิ้ว ทายว่า ผู้นั้นมักเอาแต่ใจตนเอง หมิ่นแคลนคนอื่น ฉลาด มีไหวพริบทันคน จะตั้งตัวได้ด้วยลำแข็งตนเอง แต่มักจะมีศัตรูมาก
7. ผู้ใด (ชาย-หญิง) มีไฝขึ้นชายผมด้านก้านคอ ทายว่า ผู้นั้นชอบสิ่งที่ละเอียดอ่อน มีระเบียบเรียบร้อย มีนิสัยอ่อนโยน แต่มักขี้อาย ไม่ชอบเปิดเผยตัวเองในวงสังคม
8. ผู้ใดมีไฝที่คิ้วขวา ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์รักสวยรักงาม เป็นที่ถูกตาต้องใจของต่างเพศ มีลักษณะเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา เจรจาพาทีไพเราะถูกใจคนทั่วไป
ถ้าไฝนั้นอยู่หัวคิ้ว ทายว่า เป็นคนมีอารมณ์ทางเพศรุนแรง ถ้าไปอยู่ปลายหรือหางคิ้วทายว่า มีนิสัยเหนียมอาย มีนิสัยเหนียมอาย แต่เก็บอารมณ์ไว้มิดชิดดีมาก
9. ผู้ใดมีไฝที่คิ้วซ้าย ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ มักมีเหตุทุกข์ใจไม่สบายอารมณ์อยู่เสมอ ๆ เจ้าทุกข์
ถ้าไฝนั้นอยู่หัวคิ้ว ทายว่า ดีมีหัวคิดทางการค้าขาย เป็นนักธุรกิจติดต่อเข้าสังคม เก่งทันคน แต่ถ้าไฝนั้นอยู่หางคิ้ว ทายว่า มีโอกาสร่ำรวยได้มากใช้เงินทองเก่ง ใจกว้าง
ไม่ค่อยมีความรอบคอบ ชอบสมาคมกับคนชั้นต่ำกว่าตน มักฉวยโอกาสกระทำความผิดเสี่ยงต่อการเลี่ยงข้อบทกฎหมาย
10. ผู้ใดมีไฝที่ก้านคอด้านหลัง ทายว่า ผู้นั้นมักเป็นคนอาภัพ หาเวลาเป็นของตัวเองได้ยาก แม้จะมั่งมีเงินทองของใช้บริวาร ก็ไม่ยั่งยืน มักจะเป็นโรคทางระบบสมอง
11. ผู้ใดมีไฝที่ขมับขวา ทายว่า ผู้นั้นจะมีหัวคิดริเริ่มดี ทำกิจการใด ๆ มีแต่ทางก้าวหน้า ร่ำรวย ทำราชการงานหลวงจะเป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชา
หรือได้เป็นที่ปรึกษาในวงราชการชั้นสูง แต่ท่านว่ารับอาสาผู้อื่นจนเกินไป โรคภัยมักจะเบียดเบียน คือโรคเกี่ยวกับระบบสมองหรืออัมพาต
12. ผู้ใดมีไฝที่ขมับซ้าย ทายว่า ผู้นั้นเป็นเจ้าความคิดสำหรับคนอื่นเมื่อถึงเวลาตัวเองแก้ปัญหาไม่ตก ทำคุณกับใครเหมือนไฟตกน้ำ มักเป็นคนอาภัพทางการเงิน มีงานทำดี
ก้าวหน้าช้าแต่แน่นอน
13. ผู้ใดมีไฝที่เปลือกตาขวา ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าเสน่ห์มีกโลบายทางเพศและกามารมณ์สูง รู้จักปรนเปรอและเอาใจเพศตรงข้ามดีมาก ใครสบตาเป็นต้องหลงรัก มีรสนิยมทางเพศสูงมาก
อนึ่ง ท่านว่า เป็นชายมักไม่สมหวังเกี่ยวกับความรัก จะหาความสุขทางครองเรือนได้ยาก เพราะเริ่มต้นดี นาน ๆ ไปจะหาใครแน่นอนด้วยไม่มีเลย ถ้าเป็นหญิงท่านว่าจะประพฤติตัวผิด
คู่ของหญิงอื่น มักมีชายมารับอุปการะไม่เดือดร้อน มักมากทางกามคุณการเงินดี
14. ผู้ใดมีไฝที่เปลือกตาซ้าย ทายว่า ผู้นั้นจะมีลาภทางการเงินและการงานจากเพศตรงข้าม ไว้ไฟทางด้านกามารมณ์ นิสัยปากว่ามือถึง โกรธง่าย หายเร็ว ชอบให้คนอื่นเอาอกเอาใจตน
อนึ่ง ท่านว่า เป็นชายมักไม่เลือกลูกสาวเขาเมียใคร มีรสนิยมทางเพศต่ำ มักชอบสมสู่กับหญิงทุกชั้น ถ้าเป็นหญิง ท่านมักเป็นหม้ายร้างคู่ มีเสน่ห์ทางเพศต่ำ
15. ผู้ใดมีไฝที่หางตาขวา ระหว่างเกือบหรือตรงร่องน้ำ ทายว่า ผู้นั้นมีนิสัยชอบสนุกสนาน ชอบเสี่ยงกับความรัก ๆ ใคร่ ๆ มักจะมีคู่ไม่จีรังยั่งยืนเป็นตัวเป็นตน มีวิถีชีวิตขึ้น ๆ เร็ว ตก ๆ วูบ
เงินทองไม่สู้จะขาดมือ อนึ่ง ท่านว่า เป็นชายมักจะมีแม่หม้ายทรงเครื่องให้ความช่วยเหลืออุปการะ จะสุขกาย สบายใจ แต่ทว่าลำบากใจนัก ถ้าเป็นหญิง ท่านว่า เมื่อน้อยจะสุขสบายใจ
จะลำบากหาที่พึ่งไม่ได้เมื่อวัยชรา ญาติกาวงศาจะทอดทิ้ง ไร้ญาติขาดมิตรที่จริงใจต่อตัวเอง
16. ผู้ใดมีไฝที่สะบักหลังทั้งขวาและซ้าย ทายว่า ผู้นั้นชอบทดลอง มีความสงสัยเกี่ยวกับกามารมณ์อยู่ตลอดเวลา มักมีเสน่ห์ในตัวเอง ไปไหนที่ใดมักมีผู้ให้ความอุปการะ นิสัยชอบ
สนุกสนาน ร่าเริง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ใจคอเป็นกันเองกับคนทั่วไป โดยเฉพาะกับเพศตรงข้าม ตลอดชีวิตมีทั้งดีไม่ดี ระคนปนกัน อนึ่ง ถ้าไฝนั้นขึ้นทางสะบักขวา
ท่านว่าไม่สู้ดี หากอยู่ทางซ้าย ท่านว่านอกจากจะเป็นดังกล่าวแล้ว ยังทำให้ผู้นั้นละนิสัยชั่ว ๆ ได้ เมื่อวัยกลางคนไปแล้ว จะเป็นคนมีสติระมัดระวังตัวเองมากขึ้น
17. ผู้ใดมีไฝที่ใต้ขอบตาขวา ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าเสน่ห์ เป็นที่หลงใหลของเพศตรงข้าม ตัวเองแม้จะมีใบหน้ายิ้มแย้ม ก็เก็บความระทมทุกข์ไว้มาก มักมีนิสัยเป็นคนขี้บ่น
พูดพล่อยเจ้าอารมณ์ไม่จริงจังกับใคร ๆ จะมีความเหนื่อยหน่ายในชะตาชีวิตเป็นครั้งคราว
18. ผู้ใดมีไฝที่ ขอบตาซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนอารมณ์ดี เปิดเผยเจรจาขวานผ่าซาก ไม่เกรงใจคน มีศัตรูในทางธุรกิจการงานมาก มักประสบอุปสรรคในการประกอบกิจการทั่ว ๆ ไป
มีนิสัยรักหมู่คณะดี แต่การกระทำใด ๆ ดุจเป็นการกระทำที่ปิดทองหลังพระ หาคนที่ไว้เนื้อเชื่อใจตนยากมาก
19. ผู้ใดมีไฝที่ ดั้งจมูก ทายว่าผู้นั้น นับว่าโชคดี มีวานาชะตาสูง จะพบกับความสุขสบายตลอดชีวิต มีสติปัญญาสามารถเอาตัวรอดได้เสมอ ๆ จะประกอบธุรกิจการงานใด ๆ มักก้าวหน้า
มีนิสัยรักเกียรติยศชื่อเสียง มีคุณธรรม ประจำใจสูง รักศิลปวิทยาที่ปัญญาชนทั่วไปเขาชอบระดับดี
อนึ่ง ถ้าไฝนั้นมีลักษณะแดง หรืออมชมพู ท่านว่า ยิ่งส่งเสริมฐานะเจ้าตัวให้ปรากฏมีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งขึ้น มักเป็นบุคคลที่มองเห็นการณ์ไกล
20. ผู้ใดมีไฝที่ ที่ปลายจมูก ทายว่าผู้นั้นเป็นคนผู้ประสบความสมบูรณ์พูนสุขที่สุขในชีวิต ไม่ว่าจะประกอบธุรกิจชนิดใด ๆ นับว่าเป็นการก้าวหน้าไปข้างหน้าเสมอ จะมีคู่ครองที่รักกันจริง ๆ
เมื่อวัยเริ่มต้น การครองเรือนมักพบปัญหาและอุปสรรค เพราะมีผู้อิจฉาริษยามาก เข้าวัยกลางคนไปแล้ว จะรุ่งเรืองมั่งมีสุขทุกประการ
21. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างจมูกด้านขวา ทายว่าผู้นั้นมีวาสนาดี มีความพากเพียรมานะพยามยามสูงส่ง ประกอบด้วยอุดมคติที่มีระเบียบ สติปัญญาหลักแหลม จะมีวิถีชีวิตที่ราบรื่น
ถ้าไฝเม็ดนี้อยู่ไม่สูงเกินไป ทายว่า จะเป็นขุนพลังเสน่ห์ต่อเจ้าของมากทีเดียว หากไฝดังกล่าวอยู่สูงและห่างจมูกมาทางโหนกแก้มขวา ท่านว่า แทนที่จะให้คุณกลับจะให้โทษ
กล่าวคือ จะทำให้เจ้าของมีความระทมทุกข์ มีจิตใจกังวลในกิจการงานที่คิดว่าทำอยู่ตลอดเวลา เป็นหญิงท่านว่า จะเป็นคนเจ้าน้ำตา
22. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างจมูกซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีโภคทรัพย์หรือได้รับมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ มีนิสัยใจคอรักความสงบ มีศีลธรรมประจำใจเสมอ ไม่ชอบเอาเปรียบผู้ใด
จะเป็นคนประสบโชคลาภอยู่เสมอ ๆ แต่ถ้าไฝนั้นอยู่ห่างจากจมูกไม่สู้ดี จะให้ผลตรงกันข้ามทีเดียว
23. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณแก้วขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์ใครเห็นใครรักอยากทักทายปราศรัยด้วย มักจะเป็นภัยแก่เจ้าตัวเพราะจะมากคู่หลายชู้
ถ้าเป็นชาย ท่านว่า จะเป็นหม้าย มีเมียหลายคน มักมากในกามารมณ์ มักยากจน เงินทองของใช้ จะต้องพึ่งเมีย ตัวเองจะเหน็ดเหนื่อยต้องใช้กำลังแรงหาเลี้ยงชีพ หากเป็นหญิง ท่านว่า
มักแพ้ตัว ตกเป็นพุ่มหม้ายหลายครั้งไม่ยั่งยืนนาน แต่จะมีทรัพย์สินเงินทองมากเป็นหม้ายก็หม้ายทรงเครื่อง เป็นที่หมายปองของชายทั่วไปชั่วครั้งคราว
24. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณแก้มซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีอำนาจวาสนา ชะตาชีวิตสูงส่งรุ่งเรืองกว่าใคร ๆ ในสกุลเดียวกัน ชอบคบหาสมาคมกับต่างชาติ ต่างภาษา รักความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย ปากหวานก้นเปรี้ยวคบใครไม่ได้นาน มักจะเบื่อเขาก่อนเสมอ ๆ มีรสนิยมทางกามารมณ์ขึ้นรุนแรงมาก
ถ้าไฝมีสีแดงหรือชมพู ท่านว่า จะมีความขยันขันแข็ง มานะอดทน ค่อนข้างมีนิสัยเจ้าชู้สักหน่อย ถ้าไฝมีลักษณะเนื้อนูนเด่นมองเห็นชัดเจน มากท่านว่าจะมีความเฉลียวฉลาดไหวพริบ
ทันคนทั่วไป ทำมาค้าขายหรือรับราชการจะก้าวหน้ารวดเร็ว เสียอย่างเดียว คือ มีความรักไม่จีรังยั่งยืน
25. ผู้ใดมีไฝที่ โหนกแก้วขวา ทายว่าผู้นั้นจะมีนิสัยเห็นแก่ตัวมาก มีคู่เงินทองหรือสมบัติ เขามักเอาเปรียบคนโดยหวังร่ำรวยทางทุจริต มักประกอบมิจฉาชีพโดยไม่มีความยั้งคิด
ไฝเม็ดนี้ ท่านว่า เจ้าตัวไม่ควรเอาไว้ ควรทำลายเสียจึงจะดี
26. ผู้ใดมีไฝที่ โหนกแก้วซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีคนอุปถัมภ์ค้ำชู เกิดที่นี่ไปได้ดีมีหลักฐานที่อื่น ใจกว้างชอบทำบุญให้ทานไม่หวังผลตอบแทน
27. ผู้ใดมีไฝที่ข้างหูขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นนักธุรกิจที่ก้าวหน้า มีหูตา มองเห็นการณ์ไกร รู้สภาพบ้านเมืองเรื่องค้าขาย หรือไหวตัวทางเศรษฐกิจทันตลาดโลก หากมีคู่ครองมากคน มีความสุขกายไร้ความสุขใจ
28. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างหูซ้าย (ด้านหน้า) ทายว่าผู้นั้นจะเป็นนักธุรกิจที่ก้าวหน้า มีหูตา มองเห็นการณ์ไกล รู้สภาพบ้านเมือง เรื่องค้าขาย หรือไหวตัวทางเศรษฐกิจทันตลาดโลก หากจะมีคู่ครองมากคน มีความสุขกายไร้ความสุขใจ
29. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างหูขวา (ด้านหลัง) ทายว่าผู้นั้นมีนิสัยเย่อหยิ่ง จองหอง เชื่อความสามารถตนเองเกินไป มีสติปัญญาจริง แต่มักมีศัตรูมาก
30. ผู้ใดมีไฝที่ข้างหูซ้าย (ด้านหลัง) ทายว่าผู้นั้นเป็นคนหันหลังให้กับสังคม เอาแต่ธุรกิจของตนเองอย่างเดียว มักประสบความร่ำรวยหลายครั้ง ล่มจมหลายหนเช่นเดียวกันเป็น
คนเจ้าอารมณ์หึงหวงเป็นที่หนึ่ง เอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่
31. ผู้ใดมีไฝที่ ริมฝีปากบน (ทั้งขวาและซ้าย) ทายว่าผู้นั้น จัดว่าเป็นผู้ประสบโชค วาสนาชะตาสูงมาก จะพบคู่ครองเป็นที่พึ่งพาอาศัยได้ดี เจ้าตัวมักเป็นคนช่างพูด เจ้าคารมคมคาย
เจรจาพาทีดึงดูดจิตใจเพศตรงข้าม ใครเห็นใครรักทักทาย มีเงินมีทองใช้ฟุ่มเฟือยไม่สู้จะมัธยัสถ์
อนึ่ง ท่านว่า ถ้าเป็นชาย มักเจ้าชู้ประตูดิน จิตใจไม่ค่อยซื่อตรงต่อเพศตรงข้าม ง่ายนัก ชอบแต่งตัวเป็นสุภาพบุรุษเสมอ แม้กระเป๋าจะไม่มีเงินเลยก็ตาม ถ้าเป็นหญิง ท่านว่า
เป็นคนมักง่าย ใจร้อน ชอบให้คนเอาใจตัวเอง จะพบชายในขณะเดียวกันหลายคน เป็นนักประชาสัมพันธ์ก้าวหน้าดีมาก
32. ผู้ใดมีไฝที่ ริมฝีปากล่าง (ทั้งซ้ายและขวา) ทายว่าผู้นั้นเสมือนมีบาปเคราะห์ มาเกิดบนเส้นทางชีวิตเป็นชายมักมีสติปัญญาไม่ทันคน นิสัยฉุนเฉียว จู้จี้ โมโหร้าย ไม่มีเหตุผล
เป็นหญิงมักใจง่าย ประสบชะตากรรมที่ไม่สู้จะดี ผู้ใดมีไฝดังกล่าวควรทำลายเสีย จึงจะดี
33. ผู้ใดมีไฝที่ ที่ริมคางขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคน เจ้าอารมณ์คมคาย มีสติปัญญาสามารถหลายอย่าง จะเป็นคนประสบโชคดีในการทำงานเสมอ ๆ จะมีเกียรติยศมีชื่อเสียง มักจะได้เป็น
ที่ปรึกษาข้าราชการงานเมือง หรือที่ปรึกษาทางธุรกิจติดต่อ
34. ผู้ใดมีไฝที่ ริมคางซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนช่างพูด เจรจาพาทีพล่อย ๆ ไม่ค่อยมีเหตุผล รักใครรักจริงหลงงามงาย ทำงานอะไรได้ทุกอย่าง แต่จะเอาดีมีระเบียบไม่ค่อยจะได้
หากว่ามีความมานะอดทนดี ไม่ชอบให้ใครเขามาดูหมิ่นฝีมือ
35. ผู้ใดมีไฝที่ ไหล่ขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคนชอบอาสาเจ้านายดี มีสติปัญญา สามารถมาก แต่ใช้กับคนอื่นเท่านั้น แก้ปัญหาชีวิตตัวเองไม่ได้ ทำราชการงานหลวงก้าวหน้า
ทำงานส่วนตัวไม่เจริญ
36. ผู้ใดมีไฝที่ ไหล่ซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีสติปัญญาไหวพริบทันคนทั่วไป ทำงานราชการไม่ดี เพราะตัดสินใจตัวเองไม่ได้ ทำงานส่วนตัวจะก้าวหน้า เพราะมีความพินิจพิเคราะห์
สุขุมรอบคอบทันการณ์ จะมีทรัพย์สินเงินทองของใช้มาก เกี่ยวกับเรื่องความรัก นับว่าเป็นคนมีความสามารถเอาอกเอาใจเพศตรงข้าม (ดีกว่าข้อ 35) จะประสบชีวิตการครองเรือน
37. ผู้ใดมีไฝที่ ใต้คาง ทายว่าผู้นั้นเป็นคนชอบทำอะไรลึก ๆ ลับ ๆ เจ้าเล่ห์ กโลบายมากทีเดียว เป็นสมณะชีพราหมณ์จะเป็นที่เคารพนับถือ มีชื่อเสียงมาก เป็นชายไม่สู้จะดี จะประสบความ
เร่าร้อนในการประกอบอาชีพ เลี้ยงตัวเองมาก หากเป็นหญิงท่านว่า เป็นที่ถูกอกถูกใจสามีมาก เพราะรักสงบมีระเบียบเรียบร้อย พูดแต่น้อยมีความหมายมาก
38. ผู้ใดมีไฝที่คอหอย (ลูกกระเดือก) ทายว่าผู้นั้นจะมีข้าวของเงินทองมาก อาการการกินไม่ขาดบ้านจะเป็นคนเยือกเย็นมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใจกุศล รักงานศิลปะ สิ่งที่ละเอียดประณีต
สติปัญญาอยู่ในระดับปานกลาง จิตใจอารี มีหลักศีลธรรมสูงต่อสังคมทั่วไป แต่มักมีโรคภัยทางหลอมลมเบียดเบียน
39. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณไหปลาร้าขวา ทายว่าผู้นั้นมีเครื่องหมายทางอัปมงคล ไม่ค่อยประสบโชคทางการครองเรือนครองรักนัก จะต้องเหน็ดเหนื่อยในการทำมาหาเลี้ยงชีพมักจะเป็นคนมี
นิสัยบึกบึนขยันในการทำงาน แต่มักไม่ค่อยพอเก็บเพียงเท่าพอกินเท่านั้นเอง จะมีความสุขเข้าวัยชรา
40. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณไหปลาร้าซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ มักมากทางกามารมณ์ มีปมด้อยไม่ค่อยจะเชื่อใครง่าย ๆ คารมคมคายให้เพศตรงข้ามเชื่อได้ง่าย เป็นนักคิดนักเขียน
ขายฝันดี ประกอบการค้าขายด้วยตัวเอง ไม่ก้าวหน้า ทำราชการพอประมาณตน สำหรับหญิงดีมากในทุก ๆ ทาง
41. ผู้ใดมีไฝที่กลางสันหลัง ทายว่าผู้นั้นไม่ค่อยจะมีความอดทนต่อการทำอะไร นาน ๆ มักชอบอยู่อย่างสงบสิ่ง ใช้ความคิดความอ่านบนเตียงนอนมากกว่า บุคคลชนิดนี้
มักลำบากแต่วัยเด็ก ๆ พอย่างเข้ากลางคนแล้ว จะเป็นคนมั่งมีเงินทองของใช้เหลือเฟือจะประสบความสุขในการครองเรือน
42. ผู้ใดมีไฝที่ รักแร้ ทายว่าผู้นั้นมักมีความกังวลใจเกี่ยวกับชีวิตในอดีตและปัจจุบัน ที่ตราตรึงให้คิดอยู่เสมอในทางอกุศลนิสัยมักจะเชื่อคนได้ง่าย
ถ้าเป็นชาย ทายว่า จะเป็นคนมีสติปัญญาดี เสียทีเป็นคนอารมณ์ร้อน กามารมณ์รุนแรง ขี้หึง ถ้าเป็นหญิงท่านว่าสติปัญญาไฝ่ต่ำ ไม่รักญาติมิตรของตนเองจะมากคู่หลายผัว
หากขาดการศึกษาจะถึงกับคิดฆ่าตัวเอง
43. ผู้ใดมีไฝที่ หัวไหล่ขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีความคิดริเริ่ม เป็นหัวหน้าคน งานทั่วไปดี ทำราชการจะก้าวหน้าไปรวดเร็ว มักจะอาภัพเกี่ยวกับคู่ครองและการครองเรือน
44. ผู้ใดมีไฝที่ หัวไหล่ซ้าย ทายว่าผู้นั้นทำกิจการอะไรด้วยตนเอง ไม่ค่อยจะก้าวหน้า ถ้ารู้จักใช้คนจะประสบความสำเร็จสมหวัง จะประสบความสำเร็จในการครองเรือน มีบริวารมาก
45. ผู้ใดมีไฝที่ ราวนมขวา ทายว่าผู้นั้น ไม่สู้จะมีความคิดเป็นของตัวเอง มักจะไม่แน่ใจหรือไว้วางใจใครแม้กับตัวเอง ลังเลใจในงานทุกอย่าง ทำงานต้องมีพี่เลี้ยงหรือผู้นำจึงจะ
ก้าวหน้า โอกาสที่จะเป็นหัวหน้าคนนั้นยาก
46. ผู้ใดมีไฝที่ เหนือราวนมซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีจิตใจมั่นคง เชื่อมั่นในแนวความคิดของตัวเอง จะประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจการงานทุกอย่าง จะได้เดินทางไกล ไปติดต่อกับ
ชาวต่างประเทศ หรือเกิดที่นี่ไปได้ดีมีหลักฐานมั่นคงที่อื่น
47. ผู้ใดมีไฝที่ใต้ราวนมขวา ทายว่าผู้นั้นมีความรู้สึกนึกคิดทางกามารมณ์รุนแรง รักใคร่พอใจในท่าทีต่าง ๆ ของเพศตรงข้ามมักมากชู้หลายคู่ครอง
48. ผู้ใดมีไฝที่ ใต้ราวนมซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในการครองเรือน จะมีคู่ที่มีรสนิยมต้องใจมาก ดำเนินกิจการใด ๆ ก็จะก้าวหน้า มีทรัพย์สมบัติบริวารมาก
49. ผู้ใดมีไฝที่ ตรงกลางระหว่างราวนม ทายว่าผู้นั้นเป็นคนอาภัพญาติพี่น้อง หรือทายว่า จะเป็นคนกำพร้ามาแต่เยาว์วัย เมื่อเข้าวัยหนุ่มสาวจะมีความสุขในการครองเรือน วัยชราจะ
มีข้าทาสบริวารลูกหลานมาก
50. ผู้ใดมีไฝที่ กลางสันหลัง จริง ๆ ทายว่าผู้นั้นเสมือนมีตราบาปประทับอยู่บนเส้นทางชีวิต ท่านวาไม่ควรเอาไว้ให้เร่งเอาออกเสีย
51. ผู้ใดมีไฝที่ กลางหลังซีกด้านขวา ทายว่าผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักธุรกิจ การค้า ให้ระวังเรื่องโรคภัยไข้เจ็บอันเนื่องมาจากปอด
52. ผู้ใดมีไฝที่ กลางหลังซีกด้านซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะทำอะไรมักจะนั่งคอยเอาได้เลย มีผลสำเร็จมากกว่าพลาดหวัง
53. ผู้ใดมีไฝที่ หน้าท้องส่วนบน ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเห็นแก่ได้ เห็นแก่กิน มักจะมีร่างใหญ่ท้องพลุ้ย ยิ่งอาภัพหนัก ถ้ามีร่างกายผอมบางถึงจะดี แต่ท่านให้เร่งระวังบริวาร จะคิดไม่ซื่อ
จะแพ้คู่ครอง ทางโรคภัยไข้เจ็บ เกี่ยวกับลำไส้และบริเวณท้อง
54. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณท้องน้อย ทายว่าผู้นั้นจะมีความรู้สึกทางเพศลึกซึ้ง เอาใจต่างเพศในเรื่องกามกิจดีถูกใจมาก ถ้าเป็นชายจะประสบความสำเร็จในการเป็นหัวหน้าคุมซ่อง
หากเป็นหญิงจะต้องเป็นทาสชายชู้ไปตลอดวัยกลางคนจะเข้าเกณฑ์ดีมีความสบายเมื่อวัยชรา
55. ผู้ใดมีไฝที่ สะบักหรือชายโครงด้านขวา ทายว่าผู้นั้น จะประสบความก้าวหน้าในเรื่องการเป็นนายหน้า หรือนักประชาสัมพันธ์ จะมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ
56. ผู้ใดมีไฝที่ สบักหรือชายโครงด้านซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเด่นมีชื่อเสียงในวงสังคม จะประสบความสำเร็จในธุรกิจติดต่อการค้ากับชาวต่างประเทศมีรสนิยมทางเพศสูง รุนแรง
57. ผู้ใดมีไฝที่ เอวด้านหลัง ทายว่าผู้นั้นเป็นคน เก็บความลับได้ดีมาก และมักไม่ชอบให้ใครละเมิดสิทธิส่วนตัวของตัว มีความรู้สึกทางเพศนิ่มนวล
58. ผู้ใดมีไฝที่ รอบสะเอาด้านหน้า ทายว่าผู้นั้นมีความรู้สึกทางเพศนิ่มนวลเป็น 2 เท่า ของคนทั่วไป รักใครจริงจัง ปากว่ามือถึง บทบาทเข้าพระเข้านางเป็นเลิศ
59. ผู้ใดมีไฝที่ ที่ก้นกบ ทายว่าผู้นั้นมักหมกมุ่นอยู่ในกามารมณ์ รสนิยมทางเพศ รุนแรงมาก ไม่ค่อยรู้จักอิ่มในการประกอบกามกิจ
ท่านว่า ถ้าเป็นชายจะประสบความสำเร็จในทางเป็นนักการพนันนักเลงผู้หญิงไม่จริงใจกับใคร ๆ เท่าใดนัก หากเป็นหญิง ท่านว่าเป็นคนที่มัวเมาในรสนิยมเก่า ๆ หัวโบราณ
60. ผู้ใดมีไฝที่เนินสวรรค์หญิง หรือโคนของลับ (ชาย) ทายว่าผู้นั้นมีความต้องการความอ่อนโยนละมุนละไมในรสนิยมทางเพศ พิถีพิถันในการงานและหื่นกระหายในความรักมากที่สุด
มักประทับใจเพศตรงข้ามที่บึกบึนหรือเอาบางร่างน้อย
61. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อศอกขวา ทายว่าผู้นั้นชอบอาสาเจ้านาย มักไม่อยู่นิ่ง ทำงานเอาเป็นเอาตาย ผลที่ตอบแทนน้อยแต่ใจชอบ มักประสบความเลวร้ายในการครองรักครองเรือน
62. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อศอกซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเฉื่อยชาในการงาน ไม่ชอบเป็นหัวหน้าใคร มักตามใจคนอื่นเขาว่าอะไรตามใจทั้งสิ้น มักไม่เป็นตัวของตัวเอง
ถ้าเป็นชาย ท่านว่า มักเกรงใจคน มีเมียรักเกรงกลัวเมีย หากเป็นหญิงมักหึงหวง อิจฉาริษยา เกรงว่าผัวตนจะไปชอบพอกับหญิงอื่น
63. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อมือขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคน ประสบความสำเร็จในการเป็นนักประพันธ์ ปากกาทอง หรือไม่จะเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ นักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก
64. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อมือซ้าย ทายว่าผู้นั้นมักมีนิสัยซื่อตรงต่อเวลา เจรจาพาทีมักใจอย่างหนึ่งปากอย่างหนึ่'แต่รักพวกพ้องพี่น้องตัวเอง
65. ผู้ใดมีไฝที่ ตะโพกขวา ทายว่าผู้นั้นมักจะเป็นคนตายด้านจากกามารมณ์ รังเกียจสังคม และไม่ยอมเข้าใจใคร ๆ ที่ร่วมงานกับตน มีความเห็นแก่ตัวมาก เข้ากับญาติพี่น้องไม่ค่อยได้
66. ผู้ใดมีไฝที่ ตะโพกซ้าย ทายว่าผู้นั้นท่าทางเป็นกันเองกับทุก ๆ คน แต่ต่างเพศ มักคิดว่าเป็นคนใจง่าย แท้ที่จริงเป็นคนเลือกคน ไม่ใช่คนที่ใคร ๆ จะชักพาให้หลงคารมหรือ
รักได้ง่าย ๆ เลย
อนึ่ง ถ้าไฝต่ำลงไปทางก้นย้อยไม่ว่าขวาหรือซ้าย ท่านว่า มีความรู้สึกทางเพศเร็ว ภายนอกรู้สึกเป็นคนสงบเสงี่ยมเจียมตัว แท้ที่จริงลับตากลับเป็นไวไฟที่สุด
67. ผู้ใดมีไฝที่ แคมขวา (หญิง) ทายว่า มีเสน่ห์ ไฟฟ้าแรงสูง หื่นกระหายในกามารมณ์มาก จะผูกมัดใจต่างเพศได้ดีมาก ความรักจะทำให้รู้สึกชื่นบานสำราญใจ มักมีชายในดวงใจมากคน
68. ผู้ใดมีไฝที่ ที่แคบซ้าย (หญิง) ทายว่า จะเป็นหญิงมีอิทธิพลต่อต่างเพศมากที่สุด พูดอะไรไม่มีชายกล้าหึงกับตนได้เลย มักเป็นคนมีนิสัยขี้บ่น ชอบยั่วใจชายในทางวาจาแบบทีเล่นทีจริง
69. ผู้ใดมีไฝที่ ตรงของลับ (ชาย) หรือปลายเนินสวรรค์หรือติดริมแคม (หญิง) ทายว่าผู้นั้นจะพบหรือมีประสบการณ์ทางเพศมาก ชอบศึกษาหาความรู้ ชอบทดลอง
มักชอบชู้มากกว่าเมียหรือผัวของตัวเอง เป็นชายมักชอบใจแม่หม้าย เป็นหญิงมักชอบเป็นเมียลับ เมียเก็บของชาย
70. ผู้ใดมีไฝที่ ท้องแขนขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคน มีอำนาจวาสนา จะมีความผาสุกในชีวิต จะพบคู่ครองที่มีความจงรักภักดี มักมีนิสัยเป็นคนมีธรรมประจำใจ สุภาพต่อคนทุกชั้น
71. ผู้ใดมีไฝที่ ท้องแขนซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีความขยันหมั่นเพียร ชอบแสวงหาความรู้วิทยาการใหม่ ๆ อยู่เสมอ ท่านว่า มักจะได้รับมรดกจากบิดามารดา
72. ผู้ใดมีไฝที่ หลังมือขวา ทายว่าผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในการสร้างตัวเอง มีลาภยศ ความสุขพร้อมมูลมากับเวลาเกิดเลยทีเดียว
73. ผู้ใดมีไฝที่ หลังมือซ้าย ทายว่าผู้นั้นมักจะอาภัพคนที่เอาใจช่วยเหลือ ควรจะถือคติที่ว่า ช่วยตัวเองก่อนแล้วพระเจ้าจะช่วยท่าน หรือคติทางพุทธศาสนาข้อที่ว่า
ตนเป็นที่พึ่งของตนเป็นดีที่สุด
74. ผู้ใดมีไฝที่ กลางฝ่ามือ (ทั้งซ้าย – ขวา) ทายว่าผู้นั้นเป็นคนประสบความสำเร็จทุก ๆ อย่างจะประสบทั้งเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน เงินทอง ข้าทาสบริวาร สติปัญญา
รอบครอบทันคนทั่วไป
75. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณขาอ่อนไม่ว่าด้านหน้าหรือด้านหลัง ทายว่าผู้นั้นปิดความลับไว้ไม่ค่อยอยู่ ชอบเจรจาขวานผ่าซากโกหกใครเดี๋ยวก็ถูกเขาจับได้ ชอบสนุกเฮฮา เข้ากับคนได้ทุกชั้น
เกิดที่นี่มักไปอยู่ที่อื่น ชอบท่องเที่ยว ไม่มีทิศทางที่แน่นอน
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 21130
ปลูกต้นไม้บริเวณบ้าน ตามหลักโหราศาสตร์
สิทธิการิยะ ผู้ใดจะสร้างบ้านให้อยู่เย็นเป็นมงคลกับตนเอง ให้ปลูกต้นไม้ดังนี้
ทิศตะวันออก ปลูกไม้ไผ่หรือต้นกุ่มหรือต้นมะพร้าว ไข้ร้ายมิพบพาน
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ปลูกต้นสารภีหรือต้นยอกันจัญไรดีนัก
ทิศใต้ ปลูกต้นมะม่วงหรือต้นมะพลับอายุยืนดี
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกต้นพิกุล ราชพฤษ์ ขนุน สะเดากันโทษดีแท้
ทิศตะวันตก ปลูกต้นมะขาม มะยมกันผีกันขึ้นความ
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ปลูกต้นมะกรูดรูดผีสางนางไม้
ทิศเหนือ ปลูกต้นพุดทราหรือต้นหัวว่านกันอาคม มีมนต์คุณ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปลุกต้นทุเรียนและขุดบ่อคงไว้กันศตรูมีชัย
ผู้ใดทำได้ดังนี้ คนจะเกรงขาม ทรัพย์สินจะมาตาม อยู่เย็นเป็นสุขสำราญดีนักแล
ต้นไม้ควรปลูก
บ้านไทยโบราณไม่มีการถมที่ปรับที่ทำสนามหญ้า แต่ปล่อยพื้นดินเอาไว้ตามธรรมชาติเพราะรู้ว่าถึงหน้าน้ำ น้ำจะหลาก เพราะฉะนั้นต้นไม้ที่อยู่ล้อมบ้าน จึงนิยมไม้ยืนต้น แข็งแกร่งไม่ตายง่ายๆ แค่น้ำผ่านมาไม่กี่วันแล้วผ่านไปต้นไม้ก็อยู่ได้ตามปกติรากไม่เน่า
ปู่ย่าตายายของเรานิยมมีไม้ยืนต้นล้อมบ้าน ดูครึ้มเย็นสบาย บังแดดได้ในยามบ่าย ช่วยปรับอากาศบนตัวเรือนไปด้วยในตัว และสำคัญกว่านี้คือท่านไม่ปลูกต้นไม้เอาไว้ประดับเนื้อที่เฉยๆเท่านั้น แต่ถือประโยชน์จากต้นไม้ด้วย เพราะคนไทยอาศัยของกินจากธรรมชาติรอบตัว ผลไม้ ใบไม้ แม้แต่ดอกไม้ ล้วนเป็นได้ทั้งอาหารและยา ทุกอย่างที่ปลูกไว้จึงไม่มีการปลูกไว้เปล่าๆ แต่ถ้าอยากดูให้สบายตาสบายใจ ก็ดูพวกไม้กระถางออกดอกสวยๆหอมๆอยู่บนชานเรือนเท่านั้นพอ
ก็เพราะอย่างนี้ละค่ะ จึงเกิดมีตำราปลูกต้นไม้มงคลหลังจากปลูกเรือนใหม่ ตำราไทยระบุไว้ละเอียดลออ ทั้งไม้ชนิดห้ามปลูกและไม้ชนิดส่งเสริมให้ปลูก
ต้นไม้ห้ามปลูกคือต้นโพ ต้นไทร ต้นตาล ต้นมะกอก ต้นสำโรง ต้นมะงั่ว ต้นหวายและต้นสลัดได ถือกันเคร่งครัดขนาดว่าที่ดินตรงไหนมีต้นไม้เหล่านี้ขึ้นอยู่ ให้ฟันทิ้งให้หมดก่อนปลูกเรือน
ต้นโพ ต้นไทร ห้ามปลูกนั้นพอเข้าใจ เพราะเป็นไม้ใหญ่รากชอนไชใต้ดินออกไปกว้างมาก อาจจะทำเสาเรือนทรุดหรือพังไปก็ได้ถ้าปลูกไว้ใกล้เรือน
ต้นตาล ไม่แน่ใจว่าทำไมห้ามปลูกในบริเวณบ้าน แต่ไม่ห้ามถ้าอยู่ตามทุ่งนาตามไร่ อาจจะเป็นเพราะต้นตาลสูงชะลูดขึ้นไปมาก ถูกฟ้าผ่าได้ง่าย จึงเกรงอันตรายกับคนในบ้านก็เป็นได้
ต้นระกำ กับสลัดได ห้ามปลูกเพราะถือเคล็ดเรื่องชื่อ ระกำปลูกแล้วกลัวเจ้าของจะชอกช้ำระกำใจ
สลัดไดก็มีคำหน้าเหมือนสลัดทิ้ง ไม่เป็นมงคลอีก
ส่วนหวายไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะมันเป็นซุ้มรกเรื้อไม่น่าปลูกหรือเป็นเพราะโบราณใช้หวายเฆี่ยนคนเป็นการทำโทษ จึงถือไม่ให้ปลูกใกล้บ้าน
ส่วนมะกอก สำโรง มะงั่ว จนใจแปลไม่ออกว่าไม่ดีตรงไหน มะกอกพอรู้จัก แต่สำโรงกับมะงั่วไม่เคยเห็นค่ะ
หมดเรื่องไม้ไม่เป็นมงคลแล้ว ต่อไปก็ถึงต้นไม้ที่ส่งเสริมให้ปลูก ถือเป็นไม้มงคล มีดังนี้ค่ะ
ทิศตะวันออก ปลูกไผ่ กุ่ม และมะพร้าว
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ปลูกต้นยอและสารภี
ทิศใต้ ปลูกมะม่วง มะพลับ
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกสะเดา ขนุน และพิกุล
ทิศตะวันตก ปลูกมะขาม มะยม
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ปลูกมะกรูด
ทิศเหนือ ปลูกพุดซา และหัวว่านต่างๆ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกทุเรียนและขุดบ่อ
เหตุผลก็คงมีหลายอย่างด้วยกัน อย่างมะขาม มะยม ขนุน ปลูกเพื่อเอาเคล็ดจากชื่อว่าเป็นสิริมงคล มะขามก็ทำให้คนภายนอกเกรงขาม มะยมคือให้เจ้าของบ้านเป็นที่นิยม ขนุนก็คือหนุนให้เฟื่องฟู ยอก็คือยกให้ดีขึ้น ไผ่นี่คงจะเป็นเพราะแตกลูกแตกหน่อออกไปมากถือว่าอุดมสมบูรณ์ และใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง มะพร้าวกินได้ทั้งเนื้อและน้ำ และคั้นกะทิ เป็นส่วนประกอบขาดไม่ได้ไม่ว่าอาหารคาวหรือหวาน สะเดาเป็นทั้งยาและอาหาร มะม่วง มะกรูด พุดซา มะพลับ ทุเรียน เอาไว้กินได้ทั้งนั้น หัวว่านต่างๆคงจะใช้ผสมเป็นเครื่องยา ส่วนการขุดบ่อก็เพื่ออาศัยน้ำกินน้ำใช้ อยู่ทางเหนือตัวเรือน น้ำจะได้สะอาด ถ้าอยู่ลงมาทางใต้น้ำจะสกปรกจากน้ำเสียที่ไหลลงจากบ้านซึมมาตามพื้นดิน
มะม่วง มะยม มะขาม ไผ่ ยังหาปลูกได้ไม่ยาก ใครปลูกบ้านใหม่ลองหามาบ้างก็ดีนะคะ
ทิศที่ปลูกไม้เป็นมงคล สิทธิการิยะ ถ้าผู้ใดปรารถนาจะปลูกต้นไม้ให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้เกิดสิริมงคล ท่านให้ปลูกต้นไม้ต่อไปนี้ ในทิศต่าง ๆ ดังนี้
ทิศบูรพา ให้ปลูกต้นไผ่ ต้นกุ่ม และต้นมะพร้าว ทิศอาคเณย์ ปลูกต้นยอ และสารภี ทิศทักษิณ ให้ปลูกต้นมะม่วง และต้นพลับ ทิศหรดี ท่านให้ปลูกต้นชัยพฤกษ์ ต้นขนุน ต้นพิกุล ทิศประจิม ให้ปลูกต้นมะขาม มะยม ทิศพายัพ ให้ปลูกต้นมะกรูด ทิศอุดรให้ปลูกต้น พุดซา และหัวว่านต่าง ๆ ทิศอิสาน ให้ปลูกต้นทุเรียน และขุดบ่อลงไว้ ผู้ใดทำได้ดังกล่าวนี้จะอยู่เย็นเป็นสุข จะเกิดทรัพย์สินเงินทอง ดีนัก
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 22533
ลักษณะของเบญจกัลยานี
ลักษณะของเบญจกัลยานีอธิบายตามความคิดเห็นของท่านผู้รู้แต่โบราณว่า
ผมงาม หมายถึง เรือนผมเป็นเงางามดุจกับหางนกยูง
ทรงผมสตรีแต่ก่อนคงจะนิยมดัดปลายงอน ท่านจึงพรรณนาว่า เมื่อปล่อยย้อยยาวถึงชายผ้านุ่ง แล้วกลับมีปลายงอนขึ้นตั้งอยู่ สมัยนี้เห็นจะกำหนดตามนี้ไม่สำเร็จ จะให้ดำเป็นเงางามหรืองอนขึ้นหรุบลงทำไม่ยาก ถึงไม่มีผมจะงามเลย ก็หาผมปลอมใส่ได้งามทันใจในพริบตา
เนื้องาม หมายถึง ริมฝีปากงาม เช่นกับผลตำลึง
คงหมายความว่ามีสีแดงดุจผลตำลึงสุก สาวยุคนี้อย่าว่าแต่สีผลตำลึงสุกเลย จะให้เป็นสีผลอะไรก็ได้ สีทาปากทำไว้พร้อมเสร็จ สีมะละกอ สีลิ้นจี่ หรือสีทับทิมออกคล้ำ ออกม่วง ออกเหลือง มีให้เลือกตามใจชอบ
กระดูกงามหมายถึง มีฟันขาวเรียบดุจสังข์ที่ขัดดีแล้ว
ฝรั่งไม่เคยเห็นสังข์และไม่รู้ค่า จึงเปลี่ยนให้เป็นไข่มุกแทนฟันเป็นอย่างเดียวที่ขัดสีปานใด ก็ไม่อาจขาวเงางามเรียบได้ถ้าสุขภาพฟันไม่มีเป็นปฐม ยาเคลือบฟันให้ขาวพอใช้ได้ชั่วครั้งชั่วคราว
ผิวงาม คือละเอียดอ่อน
สีผิวไม่สำคัญ ผิวดำก็สวยได้ ถ้าเกลี้ยงเกลามีเลือดฝาดสมบูรณ์
วัยงาม หมายถึง เนื้อหนังเต่งตึงอยู่จนแก่
ตำนานเรื่องนางวิสาขา ผู้สร้างปุพพรามปราสาทถวายเป็นวัดครั้งพุทธกาลชมนางวิสาขาว่าวัยงามนักหนา นางมีบุตรชาย 10 บุตรหญิง 10 บุตรชายหญิงมีบุตรชายหญิงอีกคนละ 10 ตลอดชีวิตของนางมีบุตรหลายถึง 8,420 คน นางวิสาขาไปที่ใด บุตรหลานห้อมล้อมไปเป็นหมู่ ผู้คนดูไม่ออกว่าคนไหนคือนางวิสาขา เพราะเห็นเป็นหนุ่มเป็นสาวเสมอเหมือนกันหมด นางวิสาขามีอายุยืนถึง 120 ปี และเป็นลูกสาวเศรษฐี ได้กินอิ่ม นอนหลับเต็มที่ ประกอบกับใจบุญด้วย จึงงามทั้งกายใจ
ความงาม 5 ประการนั้น ต้องการรากฐานจากธรรมชาติ งาม 4 ประการแรก ทำให้เกิดความงามประการสุดท้าย จะให้งามนอกต้องทำให้งามในได้ก่อน
ดูลักษณะหญิงที่ควรคบ
1. หญิงที่นอนไว นุ่งห่มเรียบร้อย มือเท่าเหยียดตรง ตื่นนอน หน้าสดชื่น แก้มอิ่มใสเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล อิ่มเอิบ เส้นผมดำเป็นมันเงางาม เล็บงาม ดวงหน้าได้รูปคิ้วปากจมูกรับกัน เนื้อแก้มเต็มอิ่ม ริมฝีปากตึง ฟันขาวแวววาว พูดพร้อมรอยยิ้ม ตามีแววสุกใส
เป็นลักษณะมงคลของหญิงที่จะมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต พบแต่ความสุขสบาย จิตใจดี เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป สุภาพอ่อนโยน ไม่ขี้อิจฉา ไม่ผูกใจเจ็บอาฆาต รู้จักให้อภัย ใจบุญสุนทาน
2. หญิงที่หน้าอ่อนกว่าวัย ผิวละมุน ใบหน้าเปล่งปลั่งสดชื่น ตีนผมเสมอหน้าคือยาวจรดหางตา สายเลือดฝาดระเรื่อทั่วไปหน้าแขนขา ริมฝีปากเต็มอิ่ม ตาเป็นประกาย นุ่งห่มเรียบร้อยไม่รุ่มร่าม เจรจาไพเราะ อ่อนโยน ระงับโทสะ กินน้อยระวังสุขภาพทรวดทรง
เป็นลักษณะของศรีสำหรับครอบครัว เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ดูแลลูกหลานอบรมประพฤติดี พาให้ก้าวหน้าทั้งตัวเองและผู้เป็นสามี ครอบครัวสุขสบาย มิขาดบกพร่อง
3. หญิงในยามหลับนอนหายใจระรวยอ่อน กลิ่นปากกลิ่นกายหอมเหมือนกลิ่นกายเด็กอ่อน ร่างกายอวบสวยได้ทรวดทรงสัดส่วน ทรวงอกตึงเต่ง หัวนมเล็กสีน้ำตาลอ่อน เนื้ออกเต็มสมบูรณ์ เท้าเล็กมือเล็กนิ้วเรียวดุจลำเทียน ข้อเท้าเล็กมือกำรอบ ผิวพรรณผ่องใสหน้าอ่อน อิ่มเอิบ ตาซื่อ ฟันสวย ลิ้นแดง เส้นผมดำและเอียดสนิท พูดเสียงเพราะ ทอดจังหวะเดินและพูด อบร่ำด้วย
ตำราดูสาว
ตำรานี้ ผู้แก่ผู้เฒ่า-ผู้มีประสบการณ์เขาเล่ากันต่อๆมา อย่างที่เคยบอกว่าเป็นตำราวัดเส้าหลินพันปีก่อน สมัยนี้หญิงกล้ากว่าแต่ก่อนมาก บางข้ออาจจะไม่ถูก ก็พอกล้อมแกล้มไป ประยุกต์ดู(ใช้)กันเอาเองนะจ๊ะ อย่าไปซีเรียสมากนัก สาวซิงๆ ก็อาจจะผิดจากตำรานี้ไปบ้าง.
สาวใดที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ จะมีลักษณะกิริยาท่าทาง 10 ประการดังนี้
เมื่อถูกชายจ้องมอง จะไม่กล้าสบตา จะหลบตา ถึงจะชอบชายนั้นอยู่ก็จะเพียงแอบชำเลืองมอง.
เวลาคุยกับผู้ชาย จะเหนียมอาย ไม่กล้าต่อปากต่อคำ ไม่มองตรงๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา ถามคำตอบคำ.
หากชายเข้าใกล้ในรัศมี ½ - 1 เมตร จะขยับหนีทันที.
ถ้าชายแอบจับมือหรือกอด จะดึงมือออกหรือผลักชายออกอย่างแรง ถ้าไม่ปล่อยก็จะดึงจนสุดแรง.
เวลาเดินผ่านผู้ชาย จะเดินตัวลีบ กระมิดกระเมี้ยน และพยายามเดินห่างๆ.
กิริยาท่าทางจะเหมือนเด็กมากกว่าจะเป็นผู้ใหญ่ ชอบกระเซ้าเย้าแหย่ เล่นแบบเด็กๆ.
ชอบดึงเสื้อและกระโปรง กลัวว่าจะโป๊ ยิ่งเวลาแต่งตัวตามแฟชั่น(โป๊)จะคอยดึงคอยจับตลอดเวลา.
เวลานั่งจะหนีบขาไว้ชิดกัน ยิ่งเวลามีคนมองยิ่งหนีบแน่น.
เวลาเดินจะช้าๆค่อยๆ เดินตรง ไม่ค่อยแกว่งแขนหรือส่ายไปมา.
เวลาก้มตัวจะเอามือปิดอกเสื้อหรือดึงกระโปรงไว้(ถ้าใส่กระโปรงสั้น).
สาวใดที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เมื่อมีเพศสัมพันธ์จะมีอาการ 10 ประการดังนี้
จะสวมเสื้อผ้ามิดชิดและนอนหันหลังให้ชาย
จะแข็งขืนเมื่อถูกชายกอด
จะดึงมือชายออกเมื่อถูกชายพยายามถอดเสื้อผ้า
จะเอามือปิดอกหรือ *** ไว้และหนีบขาไว้แน่น
จะผลักชายออกเมื่อชายกอดหรือขึ้นทับ
จะไม่กระดุกกระดิก,ไม่ตอบสนองใดๆ ปล่อยให้ชาย *** ฝ่ายเดียว
จะไม่ให้เปิดไฟสว่าง
จะไม่ส่งเสียงร้อง อย่างมากก็ครางนิดๆ
จะเจ็บไม่มากก็น้อย
เมื่อชายเสร็จและจากออก สาวจะรีบเอาผ้าปิดและนอนเฉยไม่เข้าห้องน้ำในทันที
ฟิตหรือไม่นั้น ชี้ชัดไม่ได้ว่าเคยผ่านหรือไม่ เพราะกล้ามเนื้อบางคนไม่แข็งแรงและของชายเล็ก
สาวใดเนื้อตัวแข็ง เนื้อแน่น แข็งแรง กล้ามเนื้อจะแข็งแรง *** จะฟิต ถึงจะมีลูกแล้ว *** ก็ฟิต
สาวใดใบหน้าอวบอูม หน้ามีเนื้อ *** ก็อวบอูม ใหญ่ มีเนื้อ.
สาวใดใบหน้าแหลม เป็นกระดูก ไม่มีเนื้อ *** ก็ลีบ เป็นกระดูก ไม่มีเนื้อ.
สาวใดหน้าแบนๆใหญ่ ๆ *** ก็จะแบนๆ ใหญ่ๆ.
สาวใดหน้าเล็กๆแต่ไม่มีกระดูก *** ก็จะเล็กๆน่ารัก ไม่มีกระดูกเช่นกัน.
สาวใดก้นงอนเหมือนเป็ด *** จะคล้อยต่ำไปด้านหลัง
สรุปคือ สาวใดมีใบหน้าแบบใด *** ก็เป็นแบบนั้น
สาวที่ลักษณะเป็นเลิศคือ ใบหน้าอวบอูม มีเนื้อแน่นแข็ง สะโพกใหญ่ผาย หน้าท้องเรียบ
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 12220
ตำราพรหมชาติ
ลักษณะบุรุษโทษ 18 ประการ
ผู้ใดมีลักษณะชั่วอย่างใดอย่างหนึ่งในร่างกาย ท่านว่าผู้นั้นยังเป็นลักษณะมหาบุรุษไม่ครบ
ยังขาดความสมบรูณ์ในลักษณะบุรุษที่ปกติทั่วไป
- มีข้อเท้าทั้งสองใหญ่และคด
- เล็บมือและเล็บเท้าทั้งหมดคุคหงิกงอ
- นมทั้งคู่หย่อนยานลงไปไม่เท่ากัน
- ริมฝีปากบนยาวยื่นกว่าริมฝีปากล่าง
- น้ำลายไหลอยู่ตลอดเวลา
- ฟันเขี้ยวงอกดุจเขี้ยวหมูป่า
- จมูกหักและแฟบลง
- ท้องป่องเป็นกระเพาะดุจหม้อน้ำ
- เส้นหลังไหล่คดโง้งงอ
- กระบอกตาลึกข้างหนึ่ง
- หนวดเคราเป็นเส้นแข็งดุจเส้นลวด
- ผมสีเหลืองดังใบลานแห้ง
- ตามร่างกายมีเส้นเอ็นขึ้นทั่วไปเห็นได้ชัดเจน
- มีจุด ไฝ ฝ้า ปานดำด่าง ทั่วร่างกาย
- มีลูกนัยน์ตาเหลืองเหล่ เหลืองดุจแมวกราว
- มีร่างกายคดโค้งทั้งเอวทั้งไหล่
- มีเท้าโกง 1 ข้าง และไม่เท่ากัน
- ตามร่างกายมีขนขึ้นแข็งดุจแปลงขนหลังหมูป่า
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 12606
หนูร้อง สัตว์วิ่งผ่านหน้า จิ้งจกและคนจาม
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
หนูร้อง
สิทธิการิยะ จะกล่าวตำรา มูสิกพาลา
และร้องระเริงอลวน
กลางวันกลางคืนเป็นกล ในสถานตำบล
ผู้ใด จะบอกร้ายดี
จงฟังเสียงกลเสียงกลี ทายตามคัมภีร์
ถ้าเสียงร้องจก ๆ คง ๆ
จะได้ลาภแท้เที่ยงตรง ชอบจิตประสงค์
เจ้าของอันสิ่งสมใจ
หนึ่งร้องขิก ๆ เรือนใด ให้เกรงความภัย
หนึ่งร้องขุด ๆ มิดี
อันตรายแก่เราจักมี รกมัดอินทรีย์
หนึ่งร้องจีด ๆ เล่นนา
จะได้กินอาหารโอชา กินมัจฉมังสา
หนึ่งร้องเสียสุด ๆ ฟัง
ท่านจะกล่าวโทษด้วยหวัง หนึ่งร้องเสียงดัง
เขียด ๆ ให้เกรงความพาล
ข้อใหญ่บำบัดอย่าหาญ ทายตามเหตุการณ์
ตามที่ตำรามามี
สัตว์วิ่งผ่านหน้าเมื่อเดินทาง
เมื่อจะเดินทางออกจากบ้าน หรืออยู่ระหว่างเดินทาง มีสัตว์ป่าวิ่งผ่านหน้าท่านให้ถือลางอย่างนี้
1. สัตว์วิ่งผ่านหน้า จากขวามาซ้าย ไม่ดี ไม่ควรคิดเดินทางต่อไป
2. สัตว์วิ่งจากซ้ายไปขวา ดีเดินทางไปจะมีโชคลาภ
3. สัตว์วิ่งนำหน้าไป ดีมาก จะชนะศัตรูหมู่ปัจจามิตรทั้งปวง
4. สัตว์วิ่งจาหน้าเลยไปข้างหลัง ให้หยุดพักชั่วครู่ก่อน จึงเดินทางต่อไป จะมีลาภ
5. สัตว์วิ่งมาชนด้านหลัง ให้รีบไป จะปลอดภัย
6. สัตว์วิ่งมาชนด้านหน้า ให้หลีกลงข้างทางก่อน จึงเดินทางต่อไปจะได้ลาภสมใจนึก
7. สัตว์วิ่งมาชนด้านขวา ให้เดินไปช้า ๆ หรือพักแรมระหว่างทางก่อนจะมีลาภ
8. สัตว์มาชนด้านซ้าย ให้เอ่ยปากฟาดเคราะห์กับแม่ธรณีก่อนเดินทางต่อไป จะมีเทวดาคุ้มกันภยันตรายได้
9. สัตว์มาชนโดยไม่ทราบทิศทาง ให้บริกรรมแต่คำดี ฟาดเคราะห์กับต้นไม้ใหญ่ ก่อนเดินทางไป จะมีลาภ ได้สิ่งที่ปรารถนาทุกประการแล
จิ้งจกทักและคนจาม
สิทธิการิยะ จะขอกล่าว ตำรับเก่าเฉลิมศรี
โดยศาสตร์คัมภีร์ จิ้งจกทักและคนจาม
ข้างหน้าเร่งเร็วไป จะมีชัยอย่าได้ขาม
จิ้งจกทักและคนจาม อยู่เบื้องหลังอย่าลีลา
แม้ไปอย่าได้ทุกข์ ศัตรูพบจะริษยา
ใครห่อนฟังวาจา นุศาสน์สอนจะโศกใจ
จิ้งจกจามข้างเบื้องซ้าย ผู้ใดไปจะมีชัย
สิ่งสรรพโพยภัย จะพบน้อมประนอมมา
คนจามและจิ้งจก มาจกจามอยู่เบื้องขวา
ผู้ใดใครจะลินลา ผู้นั้นแท้จะทุกข์ทน
จิ้งจกทักและคนจาม อยู่เบื้องบนจะเดินหน
ผู้ใดไปจะเสียคน จะขาดคอด้วยคนพาล
จิ้งจกไต่ขึ้นบนเท้า ถ้าดำเนินทุราสถาน
จะเรืองชโยชาญ ตปะสิทธิ์ส่งศรี
อธิบาย จิ้งจกทัก คนจาม แยกเป็นหัวข้อได้อย่างนี้
1. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างหน้า ทายว่า ให้รีบไป จะมีลาภ ประสบโชค
2. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างหลังทายว่า ไม่ควรไป จะประสบทุกข์หรือได้รับความผิดหวัง
3. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างขวา ทายว่า เร่งทำอะไร ๆ ตามที่คิดไว้เถิด ดีมาก จะมีโชคลาภ
4. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างซ้าย ทายว่า อย่างเดินทางไกลจะประสบความเดือดร้อน
5. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างเบื้องบน ทายว่าจะเดินทางไกลจะประสบความเดือดร้อน
6. จิ้งจกทักหรือคนจาม อยู่บนทางเท้า ทายว่า จะเดินทางไกลไปไหนมาไหนก็ดี จะมีโชคลาภ ชนะศัตรูทั้งปวงแล
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 21511
ตำราดูของหายสัตว์หาย
ของหายวันอาทิตย์ ให้หาทางทิศตะวันออก อยู่ในที่ลับ ผู้ชายดำแดงเอาไปไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะได้คืนยาก ตามหาจริงๆจึงจะได้เกิน 3 วันมิได้แล
ของหายวันจันทร์ ให้เสาะหาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้คนผิวขาวเอาไปไว้ เพราะคนในเรือนเอาให้ไม่ค่อยมีหวังจะได้คืน
ของหายวันอังคาร ของนั้นมีที่ประตูบ้าน ประตูเรือน ให้รีบหายังจักได้คืนอยู่ คนผิวดำเอาไปซุกซ่อนไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้หรือไม่ก็มีที่ตินเตียงนอนหรือกันประตูเรือน ( หลังบ้าน)
ของหายวันพุธที่อยู่ที่นอนนั้นไม่เสียไม่หายจักได้คืนด้วยง่ายแล
ของหายวันพฤหัสบดี มีที่ใกล้ประตูบ้านประตูเรือนให้รีบหายังจักได้ไม่เสียแล
ของหายวันศุกร์ ให้หาตามใกล้ๆลานป่า ตีนผ่าตีนเสา ตีนเตียงในหลุมไม่เสียแล
ของหายวันเสาร์ ของยังมีอยู่ในที่นอนนั้น หรือที่ขุมที่รู บ่อน้ำ บวกน้ำ รีบหาหน่อย ยังจักได้ไม่เสียแล
ตำรานี้ใช้ได้ผลแต่ดูที่วันหายให้แน่ๆ เถิดดีนักแล
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 12574
สกุณลักษณศาสตร์ (ตำราว่าด้วยลักษณะนกที่ควรเลี้ยงในบ้าน)
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์ โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
สิทธิ การิยะฯ จักกล่าวถึงนกเลี้ยงภายในบ้านที่เรานิยมกัน มีหลายชนิด แต่ในที่นี้จักกล่าวถึงเฉพาะนกเขาเท่านั้น โบราณบรรพบุรุษ กล่าวคือ ชั้นปู่ย่าตายาย ท่านมักห้ามมิให้ลูก ๆ หลาน ๆ เลี้ยงนกเขา เพราะฟังชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ใช่นกเรา บรรพบุรุษท่านถือว่า เมื่อมีทรัพย์สินเงินทองใด ๆ มันจะอยู่ไม่จีรังยั่งยืนภายในบ้านเมือง แต่ทว่าพอที่นักเล่นนกเขาจะพยายามเลือกสรรหานกประเภทนี้มาเลี้ยงไว้ภายใน บ้านเรือนได้ โดยเลือกเอาเฉพาะนกเขาที่มีลักษณะดี มีสีสันเป็นสิริมงคลเท่านั้น นกเขาในบ้านเมืองไทย ของเราถ้าแบ่งประเภทอย่างหยาบ ๆ จะได้ 4 ชนิด กล่าวคือ
1. นกเขาแขก หรือ นกเขาเทศ นกเขาชนิดนี้ จะสังเกตได้ง่าย เพราะมีรูปร่างขนาดใหญ่กว่านกเอี้ยงทั่วไป มีขนสีเทาอ่อนข้างน้ำตาลอ่อน ที่คอมีลายคาดำเบื้องบนลงมาครึ่งทาง หน้าอกมีขนสีขาวอมเทา ขาที่ลำแข็งมีสีแดง นิ้วแดง แต่เล็บสีดำ ปากจะเป็นงอนยาวแนบสนิทกัน ตรงปลายงุ้มเล็กน้อย
2. นกเขาเขียว มีรูปร่าง ถ้าโตเต็มที่ จะขนาดใหญ่ กว่านกเขาแขกเล็กน้อย ขนตามลำตัวเหมือนกับนกแขก แต่ทว่าสีขาวอมน้ำตาลแซมดำมากกว่า เฉพาะขนปีกทั้ง 2 ข้างแซมสีเขียวเหมือนนกแก้ว ปากเหมือนกับชนิดแรกแข้งแดง นิ้วดำเหมือน ๆ กัน เป็นนกที่สวยงามกว่าชนิดอื่น ๆ
3. นกเขาใหญ่ มีรูปร่างขนาดเดียวกันกับนกเขาแขก มีขนที่อกและคอขาว ถัดลงไปที่ปีกมีสีขาว และจุดสีดำโดยทั่วไป ขนปีมีแซมสีดำบ้าง เทาแก่บ้าง แข้งดำ นิ้วดำ ลำตัวและท้องสีขาวอมเทา
4. นกเขาชวา เป็นพันธุ์นกเขาที่มีรูปร่างเล็กกว่า 3 ชนิด ดังกล่าวแล้วนั้น ขนหน้าอก คอและท้องเป็นสีเทา ปลายขนมีจุดสีดำอ่อน ๆ ที่คอด้านหลัง มีปลายชนสีดำบ้างเล็กน้อย นอกนั้นเหมือนกับนกเขาใหญ่ แต่ต่างกันตรงที่แข้ง
สีเทาเกร็ดดำ นิ้วเล็บสีเทาไม่ถึงกับดำเลยทีเดียว
เมื่อ ทราบประเภทของนกเขาต่าง ๆ นั้นแล้ว ขอกล่าวถึงนกเขาที่นักเล่นนกนิยมเลี้ยงกันมีเพียง 2 ชนิดเท่านั้น คือ นกเขาใหญ่ กับนกเขาชวา ดังนั้น จึงใคร่ขอกล่าวถึงรูปพรรณลักษณะของนกเขาทั้งสองนี้โดยลำดับไป
ว่าลักษณะอย่างไรให้คุณโทษอย่างไรบ้าง ดังต่อไปนี้
นกเขาใหญ่
1. ถ้าแข้งสีแดงจัด และมีเล็บขาวสะอาด ท่านว่า เลี้ยงไว้ในบ้านเรือนสามารถป้องกันอัคคีภัยได้ดีนักแล
2. ถ้าสร้อยคอขาวคาดจุดดำจำนวนมาก ท่านว่า เป็นนกนำโชคมาให้เจ้าของจะทำให้ได้ลาภเงินทอง ของใช้จากคนอื่นเสมอ ๆ
3. ถ้าเกร็ดที่หน้าแข็งมีครบ 9 คู่ หรือ 18 เกร็ดเรียงสลับกันโดยลำดับท่านว่าดีปานกลาง
4. ถ้าเล็บดุด คือสลับกันเล็กบ้างใหญ่บ้างเหมือนแข้งไก่ชน ท่านว่าเป็นลักษณะของนกเขาที่ให้คุณ จะเป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไป เจ้าของจะมีอำนาจวาสนามีบริวารมาก
5. ถ้าฟังเสียงร้องเสียงคู่สำเนียงฟังคล้ายกับว่า กรุก กรู ติดต่อกัน 3 ครั้ง 9 ครั้ง โดยไม่หยุดพักเลย ท่านว่าเป็นนกเขาค่าควรเมือง จะให้ลาภแก่เจ้าของทุกประการ ดีนักแล
6. ถ้าเสียงขันเสียงคู ออกสำเนียงคล้ายกับว่า กวัก กรู กวัก กรู หลาย ๆ ครั้ง ยิ่งครบ 5 หรือ 9 ครั้งยิ่งดี ท่านว่า เจ้าของและครอบครัวจะประสบโชคทางการเงินไหลมา เทามา ทรัพย์สินเนืองนอง ไม่อดอยากเลย คำคุณเจ้าของ
และบริวารในครอบครัวดีนัก
7. ถ้าเสียงขันเสียงคู ฟังว่าคล้ายกับเสียงภาชนะแตก หรือคล้ายเสียงคนสะอึก หรือจาม ท่านว่า ไม่ดี ไม่ควรเลี้ยงไว้ ให้รีบปล่อยไปเสีย มิฉะนั้นจะนำความหายนะมาให้ในไม่ช้าแล
8. ถ้าเสียงขันเสียงคูฟังนิ่มนวลเป็นเสียงเดียวกัน และอ่อนหวานเวลาขันทำท่าคล้ายเอาศีรษะกวักเข้ามาด้วย ท่านว่าเป็นลักษณะวิเศษ จะนำโชคลาภเกียรติยศชื่อเสียงมาให้เจ้าของ และบริวารดีนักควรเอาเงินทองใส่ในภาชนะน้ำ
ให้นกดังกล่าวดื่มกินเถิดจะได้ลาภภายใน 3 วัน 7 วันแน่แท้เลย
9. ถ้านกเขาใหญ่ตัวใด มีขนตรงหัวมีลวดลายคล้ายองค์พระพุทธรูป ที่ปีกมีลวดลายคล้ายตัวนะ กลางหลังมีคล้ายตัวโม ขนที่คอมีคล้ายตัว พุทกลางหลังมีคล้ายตัว ธา และที่หางมีคล้ายตัวยะ ริมขอบตามทั้ง 2 ข้าง มีคล้าย
ขน อุณาโลม ท่านว่า นกเขาตัวนั้นหาค่ามิได้ ค่าควรเมืองยิ่งนัก ถ้าได้พบเห็นราคาเท่าไรก็ขอให้ซื้อมา แล้วทำกรงทาสีทองให้อยู่เถิด เจ้าของจะร่ำรวยภายใน 3 วัน 7 วัน จะทำราชการค้าขายหรือประกอบกิจการใด ๆ
ท่านว่าเจริญก้าวหน้า มีกำไรทุกอย่าง ดีนักแล
10. ถ้านกเขาใหญ่ ตัวใด ขับคูออกเสียงเป็นจังหวะ “กรุก กรู ๆ ๆ เจ้าหัวกู ๆ ๆ กรู ๆ “ ทำนองคล้ายกันนี้ ท่านว่านกตัวนั้นเป็นนกอุดมโชคเจ้าของจะทำมาค้าขึ้น ประกอบกิจการงานใด จะรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป ไปสารทิศใด ๆ
จะมีคนอุปถัมภ์ค้ำชู ไม่อดอยากเลย ดีนักแล
11. ถ้าเวลาขันหรือคู นกตัวใดหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ท่านว่า จะปกป้องภยันตรายให้กับเจ้าของมันดีนัก ศัตรูคิดปองร้ายมิได้เลย ดีนักแล
12. ถ้าเวลาขันหรือคู นกหันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ท่านว่าไม่ดี ไม่ควรเลี้ยงไว้ เพราะจะทำให้เจ้าของอับโชค สิ้นอำนาจ หมดวาสนาชะตาตก
13. ถ้านกเขาตัวใด มีขนคอปนจุดสีดำรอบคอ มองเห็นได้ชัดเจนดี ท่านว่านกตัวนั้นจะให้คุณ ถึงแม่ว่าเจ้าของจะยากจน ก็จะร่ำรวยในไม่ช้า จะมีลาภผลเกิดขึ้นมาโดยเร็ว อย่างประหลาดใจทีเดียว ค้าขายไม่น่าจะร่ำรวยก็ร่ำรวย
เป็นข้าราชการก็จะได้ยศได้ขั้นเงินเดือนมากกว่าใคร ๆ ในรุ่นเดียวกันดีนักแล
14. ถ้านกเขาตัวใด เวลาขันหรือเวลาถ่ายมูล มีกลิ่นเหม็นท่านว่าเป็นนกอัปลักษณ์ อย่าได้เลี้ยงไว้ภายในบ้านเลยเด็ดขาด
15. ถ้านกตัวใดมีขนออกที่ริมฝีปากทั้งสองข้าง ท่านว่าเป็นนกนำลาภมาให้เลี้ยงไว้เถิดจะให้ผู้เลี้ยงประสบโชคดีเสมอ ๆ ดีนักแล
16. ถ้านกตัวใด กลางหลังมีลวดลายเส้นแมลงผีเสื้อ หรือหน้ายักษ์ ท่านว่า อย่าได้จับต้องหรือเลี้ยงนกตัวนั้นไว้เลย จะทำให้เสื่อมลาภเสื่อมยศทรัพย์สินภายในบ้านจะหายนะไม่ดีเลย
17. ถ้านกตัวใดมีหางสั้น และยังมีขนหางไม่ครบ 10 เส้น ท่านว่าเป็นนกขัดลาภอย่านำเลี้ยงไว้ในบ้านเลยไม่ดีเลย
18. ถ้านกตัวใดมีขนหรือลวดลายคล้ายนกกระจอก หรือมีขนหางสั้นกว่าลำตัวมันท่านว่า เป็นนกอัปลักษณ์ ชาติชั่วจัณฑาลไม่ดีเลย หากนำมาเลี้ยงไว้ในบ้านจะทำให้บริวารประพฤติผิดศีลธรรมเลย
19. ถ้านกตัวใดมีขนปีกสั้น ปกคลุมตัวไม่มิดชิด ท่านว่า เป็นนกอัปลักษณ์ จะนำความหายนะและความชั่วร้ายมาให้ ถ้าขืนเลี้ยงไว้เจ้าของจะต้องประสบอุบัติเหตุ เกิดจัญไรกับตัวและบริวาร ไม่ดีเลย
20. ถ้านกตัวใดริมฝีปากบน ล่าง เวลาปกติไม่แนบสนิทกัน ท่านว่า เป็นนกอัปลักษณ์ไม่ควรจะเลี้ยงไว้ เพราะจะทำให้เจ้าของสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง เป็นคดีความมีแต่ทางเสียเงินถ่ายเดียว
นกเขาชวา
1. ถ้านกเขาชวาตัวใดมีแข้งดำดุจสีนิล ท่านว่า เป็นนกนำลาภมาให้ ควรเลี้ยงไว้จะทำให้เจ้าของประสบความสุขความเจริญ ดีแล
2. ถ้าแข้งดำดุจนิลและเกร็ดแข้งคุดเหมือนไก่ชน ท่านว่า เจ้าของชนะศัตรูไม่เคย เจ็บไข้ ต้องโรคาพยาธิเลย ดีแล
3. นกตัวใดมีแข้งแดง ขนปีกดำสลับขาว ท้องหน้าดำ ท่านว่า เป็นนกเขาค่าควรเมืองคุ้มไฟ คุ้มอันตราย ให้เจ้าของได้ ดีนักแล
4. ถ้านกตัวใดริมขอบตาขาว นัยน์ตาดำสนิท ท่านว่า เป็นนกให้อำนาจวาสนาแก่เจ้าของแล
5. นกตัวใดแข้งมีเกร็ด 9 คู่ ท่านว่า เป็นนกนำโชคมาให้เจ้าของมั่งมีศรีสุข ดีนัก
6. นกตัวใดเป็นนกผสมระหว่างนกเขาเขียวกับนกเขาชวา มีปีกแซมขนเขียวกระเรียวงาม ท่านว่า เป็นนกป้องกันภยันตราย มีค่าควรเมือง ทำมาค้าขาย ดีนัก
7. นกตัวใดมีหางยาว โผล่ออกมาเส้นเดียว ท่านว่า เป็นนักนักการพนัน นกการค้า ใครเลี้ยงไว้จะมีลาภ ยศ ชื่อเสียง ดีนัก
8. นกตัวใดขันหรือคูมีเสียงคู่ กรุก กรู ๆ กรู-กรู ยาวถึง 3 ถึง 8 ครั้งติดต่อกัน ท่านว่า เป็นนกเจ้าพระยา ใครเลี้ยงไว้จะเจริญรุ่งเรือง มีความสุขปราศจากโรคาพยาธิดีนักแล
9. นกตัวใดขันเสียแตก ขันแล้วหยุด หยุดแล้วขันไม่เป็นเวลา ท่านว่าเป็นนกกาลี ไม่ควรเลี้ยงไว้ในบ้านเลย
10. นกตัวใดขันเป็นยาม เช่น ตอนเช้า ตอนเที่ยง และบ่าย ค่ำ ท่านว่า เป็นนกมหาเศรษฐี เสียงร้องจะนำโชคลาภมาให้เจ้าของเลี้ยงไวดีนักแล
นอกจากนี้ ถ้านกเขาชวา มีลักษณะเข้าตำราตามแบบนกเขาใหญ่ ท่านว่าดีนัก ปราศจกโทษให้คุณอนันต์ดีนักแลฯ
จบตำรา ลักษณะนกเขาเพียงเท่านี้