โหราศาสตร์ไทย
โหราศาสตร์ไทย
- รายละเอียด
- หมวด: โหราศาสตร์ไทย
- จำนวนผู้อ่าน: 15437
คัมภีร์มหาทักษา : ตำนานเทวดาเป็นมิตร - ศัตรูกัน
ก่อนที่ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงเทวดาที่เสวยอายุและเข้าแทรก ข้าพเจ้าจะขอกล่าวถึงตำนานความเป็นมาของเทวดา ที่เป็นมิตรและเป็นศัตรูกันเสียก่อน เพื่อให้ท่านทั้งหลายเข้าใจในปฐมเหตุว่า เป็นเพราะเหตุใด จึงได้เป็นมิตรและศัตรูกัน
ตำนานที่ ๑
ในกาลก่อนนั้น ตำนานได้กล่าวไว้ว่า ยังมีพระอาทิตย์ ๑ พระอินทร์ ๑ พญาครุฑ ๑ พญานาค ๑ พญาราชสีห์ ๑ ได้พร้อมกันประชุมปรึกษาหาลือกันว่า เราจงมาแบ่งส่วนฟ้า ป่าหิมพานต์ ภูเขา และมหาสมุทรกันเถิด พระราชาทั้ง ๕ องค์นั้น ก็ชวนกันไปยังสำนักพระราหู จึงว่ากับพระราหู เพื่อชักชวนพระราหูให้ร่วมความคิดด้วยที่จะแบ่งส่วนนั้น พระราหูก็ว่า เรานี้มิได้อยู่ในน้ำและบนบก เป็นสาธกนิทานแต่บรรพกาลของตำนาน เรื่องเทพยดาเป็นศัตรูกันมีดังนี้แล ครั้นเมื่อพระราชาทั้ง ๕ องค์ องค์หนึ่งองค์ใดมาพบกันเข้าแล้ว จึงเกิดเป็นวาทะแห่งกันและกันแล.
ต่อมาพระราชาทั้ง ๕ องค์ ก็ได้แบ่งเขตซึ่งกันและกันทั้ง ๓,๐๐๐ โยชน์ ส่วนพระอินทร์นั้น ก็ได้เขาพระสุเมรุราช พญาครุฑก็ได้เขาคีรีบรรพต พญานาคก็ได้มหาสมุทรทั้ง ๔ พญาราชสีห์ก็ได้ป่าหิมพานต์ พระอาทิตย์ก็ได้เบื้องบนอากาศ
ครั้นอยู่มา พญาครุฑเห็นพญานาคก็ไล่ พญานาคก็ได้หนีไปถึงพระราหู พระราหูก็ว่าแก่พญาครุฑว่า ทำไมท่านมาไล่พญานาคดังนี้ แล้วพระราหูก็ไล่ครุฑ ครุฑหนีไปถึงพระอินทร์ ในเวลาที่ไล่ครุฑไปนั้น พระราหูเหนื่อยนักหนา จึงลงไปสู่แม่น้ำมหาสมุทรใหญ่ แล้วพระอาทิตย์ก็ว่าแก่พระราหูว่า ดูก่อนท่านพระราหู เราชวนท่านวันนั้น ท่านว่าท่านไม่ร่วมความคิดที่จะแบ่งส่วนที่อยู่อาศัยกับใคร นี่ท่านมากินน้ำใยหรือ เมื่อพระอินทราธิราชได้ยินพระอาทิตย์พูดกับพระราหูดังนั้น ก็โกรธแก่พระราหู จึงทรงจักรขว้างไปต้องกายพระราหูขาดออกกึ่งกรัชกาย
เหตุมีมาดังนี้แล พระราหูกับพระอาทิตย์ มาถึงกันเมื่อใด ตัวจะเจ็บไข้แล อนึ่งจะได้รับความแค้นเคืองใจ จะพลัดพรากจากกันแล พระพฤหัสบดี ๕ พระอาทิตย์ ๑ ได้เป็นศัตรูกับพระราหูตั้งแต่วันนั้นมาแล
ตำนานที่ ๒
ปางเมื่อพระพฤหัส ๕ เป็นทิศาปาโมกข์ และพระอาทิตย์ ๑ เป็นศิษยานุศิษย์ จึงยกนางจันทร์ธิดาให้เป็นภริยาแก่พระอาทิตย์นั้น เมื่อพระอาทิตย์มีกิจไป ได้ฝากภริยานั้นไว้กับพระพฤหัส พระพฤหัสรำพึงว่า อันลูกสาวกูนี้ ประกอบไปด้วยรูปโฉมงดงาม เกลือกว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น ที่ยกให้พระอาทิตย์นั้นก็พ้นทุกข์ไปแล้ว บัดนี้พระอาทิตย์มาฝากไว้อีกเล่า จำกูจะต้องนิรมิตผอบใส่ไว้ให้พ้นอันตรายเถิด ครั้นนิรมิตเสร็จแล้ว ก็เอาผอบใส่นางไว้ พระอังคารรู้แยบคายเช่นนั้น ก็นิรมิตเป็นเพ็ชพระยาธร แอบเข้าไปในผอบ ลอบทำสังวาสด้วยนางจันทร์ตั้งแต่วันนั้น
ในกาลนั้นพระพฤหัสก็รู้ว่าเพ็ชพระยาธรเข้าไปทำชู้ด้วยนางจันทร์ตั้งแต่วันนั้น แล้วพระพฤหัสก็แต่งพานหมากเป็น ๒ ที่ มาสู่พระอาทิตย์ผู้เป็นบุตรเขยเพื่อเมื่อกลับมาจะได้เสวย ฝ่ายพระอาทิตย์ก็ประหลาดใจ จึงถามพระพฤหัสว่าดังนี้ “ ข้าแต่เจ้ากู เหตุการณ์ใดเล่า เจ้ากูจึงฝากพานหมากมาให้แก่ข้าไทเป็น ๒ ที่ ” พระพฤหัสว่า ตูนี้เป็นอาจารย์แห่งท่าน แต่ลูกทำนอกใจมิชอบใจแล มาตูจะบอกแต่ตามเป็นจริงว่า บัดนี้เพ็ชพระยาธรได้มาทำชู้ด้วยภริยาของท่านอยู่ในผอบนั้น พระอาทิตย์ก็เปิดผอบพบพระอังคาร ๆ จึงเอาพระขรรค์สับศรีษะบาดเจ็บนักหนา ดังนี้แล พระอาทิตย์กับพระอังคารจึงเป็นศัตรูกันแต่กาลนั้น ส่วนพระจันทร์บุตรสาวของพระพฤหัสก็มีความน้อยใจในบิดาว่า มิเข้าด้วยลูกเล่าและกลับส่อความลูกเอง ดังนี้ จำเดิมแต่นี้ไป กูกับบิดาจะเป็นศัตรูแก่กัน พระพฤหัสกับพระอาทิตย์เป็นมิตรกันแล ในขณะเมื่อพระอาทิตย์กับพระอังคารต่อสู้กันนั้น พระอังคารก็เอาพระขรรค์สับพระเศียรพระอาทิตย์ ๒ แห่ง พระเศียรของพระอาทิตย์ก็แตกออกไป พระอาทิตย์ก็ขว้างด้วยจักร ถูกบาทพระอังคาร แต่เท่านั้นแล
เหตุการณ์ดังนี้แล เมื่อ พระพฤหัสกับพระอาทิตย์ มาถึงกันเมื่อใด จะเป็นมิตรสหายแก่กัน และ พระพฤหัสกับพระจันทร์ มาถึงกันเมื่อใด ย่อมหลงด้วยรัก และจะไข้เจ็บหนัก มักเป็นด้วยญาติกาตนเอง และ พระอังคารกับพระพฤหัส มาถึงกันเมื่อใด ศัตรูย่อมข่มเหงตนแล
ตำนานที่ ๓
ปางเมื่อพระอังคารเป็นงู พระเสาร์เป็นเหยี่ยว เหยี่ยวเห็นงูก็จะกินแล พระศุกร์จึงตวาดเหยี่ยว เหยี่ยวก็ละงูเสีย พระอังคารจึงว่าแก่พระศุกร์ว่า “ ข้าแต่เจ้ากู แต่วันนี้ไปข้าพเจ้าและท่านจะเป็นมิตรแก่กันสืบไป ” พระอังคารกับพระศุกร์ มาถึงกันเมื่อใด ย่อมจะได้มิตรสหาย อายุจะยืน ส่วน พระเสาร์กับพระอังคาร มิได้ขึ้งโกรธกันนักหนา แต่ก็ว่ากับพระศุกร์ว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป เรากับท่านจะเป็นศัตรูกัน เมื่อ พระเสาร์กับพระศุกร์ มาถึงกันเมื่อใด คนมักจะเบียดเบียนแล
ตำนานที่ ๔
ปางเมื่อพระจันทร์ขาดแคลนลง ได้ไปกู้ทรัพย์พระราหูมาจึงเป็นหนี้อยู่ พระจันทร์ครั้นเมื่อเห็นพระราหู เกรงจะทวงหนี้ จึงไปซ่อนตัวเสีย แต่พระเสาร์ผู้เป็นลูกค้าของพระราหูไปพบกับพระจันทร์ แล้วรู้เรื่องว่าเป็นหนี้พระราหู จึงบอกตำแหน่งที่อยู่พระจันทร์แก่พระราหู พระราหูจึงมาเอาตัวพระจันทร์ไปเร่งทวงหนี้จนได้แล
ตำนานที่ ๕
ปางเมื่อพระพุธเป็นสุนัข วิ่งมาจะขบพระราหู ๆ ก็ไล่สุนัข สุนัขวิ่งไปหาพระจันทร์ ๆ ช่วยให้หนีรอดไปได้ ภายหลังพระจันทร์มาพบพระพุธจึงว่า แต่นี้ไปเราจะเป็นมิตรสหายแก่กัน ครั้งนี้เรารอดเพราะท่าน ด้วยเหตุนี้ เมื่อ พระจันทร์กับพระพุธ มาถึงกันเมื่อใด ก็จะได้มิตรสหายที่ดีงามแล
ตำนานที่ ๖
ปางเมื่อ พระศุกร์กับพระราหู มาถึงกันเมื่อใด หมาจะกัดตีนมือ เลือดจะตกจากตัวแล พระจันทร์กับพระราหู มาถึงกันเมื่อใด คนทั้งหลายจะดูหมิ่นแล พระเสาร์กับพระจันทร์ มาถึงกันเมื่อใด ข้าไทและคนทั้งหลายจะเอาโทษแก่ตน พระเสาร์กับพระราหู มาถึงกันเมื่อใด จะได้มิตรสหายอันดีแล
ตำนานที่ ๗
ปางเมื่อพระอังคารเป็นราชสีห์ กระดูกเนื้อเข้าไปติดคออยู่ พระอาทิตย์เป็นนกหัวขวาน ได้เจาะคอราชสีห์ ๆ เจ็บปวดนักหนา เพื่อเอาก้างออก เหตุนั้น พระอังคารมาถึงพระอาทิตย์ เมื่อใด ย่อมจะเจ็บปากเจ็บคอแล
ตำนานที่ ๘
ปางเมื่อพระพฤหัสบดี เป็นนกอีลุ้ม พระจันทร์เป็นเหยี่ยวจะเฉี่ยวเอา นกอีลุ้มโผเข้าไปในรอยมูลไถ เหยี่ยวนั้นได้โฉบถลาลงมา ก็ต้องมูลไถอกแตก เหตุดังนั้น เมื่อ พระจันทร์กับพระพฤหัสบดี มาถึงกันเมื่อใด จะเจ็บคอ เจ็บหน้าอก อย่าเดินทางไกล พระอังคารกับพระเสาร์ มาถึงกันเมื่อใด ก็ย่อมจะแค้นเคืองใจ อย่าได้เดินทางไกล ท่านจะทำโทษ ให้เร่งจำศีลภาวนาแล
ตำนานที่ ๙
ปางเมื่อพระเสาร์ เป็นไม้ตะเคียน พระอังคารเป็นพระยาโปริสาท เสี้ยนไม้ตะเคียนยอกเท้าพระยาโปริสาท ตั้งแต่นั้นมาก็ลำบากนักหนา เหตุการณ์ดังนั้นแล พระเสาร์กับพระอังคาร มาถึงกันเมื่อใด ย่อมจะเจ็บตีน เจ็บมือ ย่อมให้ขาดอาหารนักแล
ตำนานที่ ๑๐
ปางเมื่อพระอังคาร เป็นไม้แก่น พระราหูเป็นไฟป่าไหม้มา เหตุการณ์ดังนั้นแล พระราหูกับพระอังคาร มาถึงกันเมื่อใด ไฟจะไหม้เรือน แล
ตำนานที่ ๑๑
ปางเมื่อ พระพุธ เป็นพระยาฉัททันต์ พระอังคาร เป็นพรานโสอุดร เมื่อพระอังคารมาต้องเมื่อใด ย่อมจะให้เจ็บท้อง อย่ากินสัตว์ ๒ เท้า ๔ เท้า ให้บัญญัติตัวจงหนักเถิด พระเคราะห์มาต้อง จึงเป็นศัตรูกันแต่นั้นมาแล
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 15460
ตำรา นรลักษณ์ศาสตร์ (พระมหามณเฑียร)
(คัดจากคัมภีร์สมุดข่อยโบราณฉบับดั้งเดิม)
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
วันเสาร์ เดือนสี่ ขึ้น ห้าค่ำ จุลศักราชพันร้อยเจ็ดสิบ (1170) ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ.2350) ปีมะโรงนักษัตรสำเรทธิศก (นักษัตรสัมฤทธิศก) ข้าพระพุทธเจ้าจีนแส แปลตำราทายลักษณะจีนออกเป็นคำไทยทูลเกล้าฯ ถวายในตำราฉบับจีน ทำลายลักษณะนั้นแปลเป็นไทย ได้ความดังนี้ ปุถุชนชายหญิงทั้งหลาย บังเกิดมาย่อมมีลักษณะชั่วและดีได้ร้อยยี่สิบแห่ง เทพยดาผู้ตกแต่งตำรับนี้ จึงมีอุมาเปรียบไว้ในตำราว่า เที้ยนเท้ง ๆ แปลเป็นคำไทยได้ความว่า
หน้าผาก เหมือนท้องฟ้าอันสูงแลกว้าง
จมูกเหมือนจอมภูเขาอันใหญ่หลวง
จักขุทั้งสองอันสว่าง เหมือนพระจันทร์ พระอาทิตย์อันส่งสว่างโลก
ปากนั้นเหมือนมหาคงคา คือ ชเล (ทะเล) อันใหญ่กว้าง
คิ้วทั้งสองเหมือนแผ่นดิน
เส้นผม
หนวดเครา
เส้นผมสิ้นสารพางค์กาย เหมือนต้นไม้แลต้นหญ้าทั้งหลายอันบังเกิด
ในแผ่นดิน
ลำคอเหมือนขื่อเรือนอันทรงไว้ ซึ่งเครื่องบนเรือน คือลักษณะดีและร้ายอันบังเกิดปรากฏในดวงหน้าแห่งชายหญิงทั้งปวง จึงทำนายลักษณะอันบังเกิดใน
เที้ยนแท้ง ฯ แปลเป็นคำไทยว่า หน้าผาก คือแต่ไรริมผมถึงโขนงคิ้ว มีกระดูก ลำดับต่อกันได้แปดอัน ชื่อว่าหน้าผาก ถ้าหน้าผากกว้างใหญ่ หน้าผากสูงจะได้เป็นอำมาตย์แต่หนุ่ม
หน้าผากเสมองามดี ผู้นั้นจะมีปัญญามาก เฉลียวฉลาดยิ่งนัก
ใบเลงกุด ฯ แปลเป็นคำไทยว่า คิ้ว
ถ้าคิ้วเหินห่าง คิ้วสูง
เง่าจมูก มิได้หักเง้า จมูกสูง
กระดูกแก้มทั้งสองดูงาม
ดวงหน้ามีโฉมเต็มบริบูรณ์ มิได้เหี่ยวแห้ง มิได้บกพร่อง
ดวงหน้าสี่เหลี่ยม
ผู้ใดมีลักษณะปรากฏในดวงหน้าดังกล่าวมานี้ จะมีอำนาจดังราชสีห์ มีเดชะเป็นใหญ่กว่าพญาราชสีห์ มีเดชะเป็นใหญ่กว่าพญาประเทศราชทั้งปวง
ถ้าผู้หญิงมีลักษณะดังนี้ไซร้า จะได้เป็นนางพญาประกอบด้วยสมบัติบริวารมาก
ถ้าดวงหน้าใหญ่ หน้าผากน้อย หน้าผากแหลม ผู้นั้นมีทุกข์มาก
ถ้าหน้าบาง เห็นกระดูกหน้าเหนี่ยว ผู้นั้นมีปัญญาความคิดน้อย ทรัพย์น้อย จะเข็ญใจ
ถ้าหน้าผากบวม จมูกแบน จะเข็ญใจ
ถ้าเสมอ หน้าเต็ม มิได้บกพร่อง ผู้นั้นจะสมบูรณ์สมบัติมากฯ
ถ้าหน้าผากบางมีแต่หนังหุ้มไว้ ผู้นั้นอายุสามสิบปีจะตาย
ถ้าหน้าผากเป็นริ้วขวางจะตายมิดี
ถ้าหน้าผากตัวใหญ่อ้วนพี ผู้นั้นจะมีสุขมาก
ถ้าหน้าบวมมีเนื้อมาก ตัวผอม เนื้อน้อย ผู้นั้นโรคาพยาธิมาก
ถ้าผู้ใดหน้าซีด หน้าผอม หาโฉมมิได้ ดังหน้าผี เลี้ยงลูกยาก มักผิดพี่น้องเพื่อนฝูง คบกันมักพลันหน่าย
ท่านชังมาก ฯ
ถ้าหน้าเป็นจุดแดง ดำ ขาว หน้ากระด้าง หาโฉมมิได้ หน้าเป็นฝ้า ไฟ มักขึ้งโกรธ มักทะเลาะเพื่อนฝูงมิดีฯ
ถ้าหน้าบางทีเขียว บางทีซ้ำดำ ใจพานใจร้ายนัก หาความเมตตามิได้ฯ
อุ้มต้อ อุ้มสร้อยฯ แปลเป็นคำไทยว่า หูทั้งสองเสมอกัน ไม่สูงไม่ต่ำ ไม่เล็กไม่โต สมกับโฉมหน้า หูแดง ช่องหูกว้างลึก จะได้เป็นขุนนาง อายุยืนฯ
ผู้ใดหูแหลม หูเล็ก หนังบาง หูดำหูแดง หูนั้นจะเข็ญใจอายุสั้น
ถ้าหูขาวกว่าหน้า จะได้เป็นใหญ่ มีผู้นับถือทั้งแผ่นดิน
เถ่าตั้งซุยกิน ถ้าหูหนา หูใหญ่ หูยาน ยาวถึงบ่า จะมีวาสนามากฯ
ตะแนะ ซุ่ยขู ว่าหูลี่ถึงเนื้อ แห่งหูหนาดังตุ้มแก้ว จะมีบุญฯ
อนึ่ง หูคิ้วจ้าว คือ คิ้วขุนนาง ถ้าหูสูงกว่าคิ้วจึงดี ถ้าหูเล็กหาปัญญามิได้ ถ้าในช่องหูบางเล็ก อายุสั้นหาสิ่งสินยาก ในช่องหูกว้างและโตอายุยืน
ถ้าหูขาวเลื่อมประภัสสรดั่งแก้ว ผู้นั้นมีปัญญามาก
ถ้าหูกลม มีทรัพย์ อายุยืน
ใบหูแหลมทั้งบน ทั้งล่างใจร้าย
ยูซื้อ ว่าถ้าหูเหมือนหนู จะเข็ญใจ อายุสั้น
ถ้าหูเห็นดำ แห้ง ผู้นั้นจะสิ้นอายุปีนั้นแล้ว
ถ้าคิ้ว ยาว สูง นับเส้นได้ หว่างคิ้วกว้าง ผู้นั้นมีปัญญาฉลาด
ถ้าคิ้วสั้น ขนคิ้วเส้นใหญ่ ผู้นั้นจะตายด้วยเขี้ยวงาและอาวุธ
ถ้าคิ้วยาวกว่าตา จะมีทรัพย์สมบัติมาก ลูกไพร่จะได้เป็นนาย
ถ้าคิ้วสั้นไม่ถึงตา จะเข็ญใจ
ถ้าคิ้วตั้งราบกว่า ใจโจร
ถ้าขนคิ้วตำตา ผู้นั้นใจซื่อ ใจโง่ หาปัญญามิได้
ถ้าขนคิ้วต่อกันสองข้าง ผู้นั้นอาภัพญาติพี่น้อง
ถ้าขนคิ้วเส้นย้อนมาหัวคิ้ว ผู้นั้นใจชั่ว มิได้รู้คุณผู้มีคุณ คิดแต่จะทำร้ายท่าน
กระดูกคิ้วเป็นสันสูง ขึ้นมา ผู้นั้นเป็นผู้ร้าย
ถ้าคิ้วสูงถึงหน้าผาก จะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่
ถ้าขนคิ้วเล็กยาว ทายว่ามีพี่น้อง 4 หรือ 5 คนฯ
ถ้าหัวคิ้วไม่เสมอกัน ทายว่า มารดาตายก่อน
ถ้าขนคิ้วยาวถึงหมวกผม จะได้เป็นใจ๋เสี่ยง ฯ แปลว่า จัตุสดมภ์ฯ
ถ้าคิ้วสั้นไม่ปิดตา ไร้ญาติ อยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้าคิ้วดก ผมดก ทายว่า ได้ทุกข็มากกว่าความสุข
ทีนี้จะทำนายซึ่งลักษณะอันบังเกิดในจักษุ ทั้งสองต่อไป อันธรรมดาฟ้าและดิน ย่อมว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์ จึงได้สว่างแจ้งแท้จริง ปุถุชนชายหญิงอันเกิดมามีจักษุทั้งสอง จึงได้สว่างเป็นธรรมดา
ถ้าผู้ใดมีดวงจักษุทั้งสอง ที่ขาวก็ให้ขาวบริสุทธิ์ ที่ดำก็ให้ดำดั่งนิล ผู้นั้นจะมีทรัพย์สินสมบัติมาก มีบุตรชาย และหญิง ที่ได้พึ่งมีความสุข ลูกไพร่จะได้เป็นนายแลฯ
ถ้าผู้ใดมีดวงตาขาวมากกว่าตาดำ และตาเหลือง เป็นสีแดงอิฐเข้าถึงตาดำ และเป็นเม็ดขาวขึ้นที่ตาดำ และเป็นเส้นแดงแทงตาดำ และตาดำกับตาขาวไม่บริสุทธิ์ระคนกันเป็นสีต่าง ๆ ผู้นั้นมีสิ่งสินฉิบหายมีลูกและมีเมียจะตายจากกันฯ
ผู้ใดมีดวงตาสว่างแจ้ง จะดู จะเห็นสิ่งที่อันใดก็ประจักษ์ มิได้มีเฝ้าและหมองมัว ตาขาวตาดำ สุดจะมีทรัพย์ จะมีอายุยืน
ถ้าผู้ใดมีดวงตาไม่บริสุทธิ์ ดูสิ่งใดมิแจ้งประจักษ์แท้ไซร้ จะเข็ญใจหาสิ่งสินยาก อายุสั้น
ถ้าผู้ใดมีดวงตาดำและขาว เป็นเม็ดเป็นก้อนอยู่ มิได้เกลี้ยงและตาขาวมากกว่าตาดำ และตาดำมากกว่าตาขาว และมิได้บริสุทธิ์ จะดูสิ่งใดมิแจ้งประจักษ์แท้ไซร้ จะเข็ญใจหาสิ่งสินยาก อายุสั้น
ถ้าผู้ใดมีดวงตาดำและขาว ใส่งามบริสุทธิ์ ตาดั่งดวงตานาคราช ดั่งตาหงส์ ตาสิงโต ตาช้าง ตาราชสีห์ จะดูจะเห็นสิ่งใดก็เห็นแจ้งประจักษ์ มิฝ้ามัวจะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ประกอบด้วยสิ่งสินสมบัติ
ถ้าผู้ใดมีตากลมและตาหัน ตาแหลม ตาแดง ผู้นั้นจะเป็นโจรจะตายด้วยอาวุธและเขี้ยวงา
ถ้าผู้ใดมีตากลมดั่งตางู และหน่วยตา (ลูกตา) ดั่งตาไก่ ผู้นั้นจะเป็นโจรมักชูสาวมาก จะตายด้วยอาวุธและเขี้ยวงาดั่งเดียวฯ
ถ้าผู้ใดตาโต ตาเหลือง ตาสามเหลี่ยม ผู้นั้นใจร้าย ใจชั่วฯ
ถ้าดวงตานั้นดำดั่งน้ำรัก ผู้นั้นจะมีปัญญา
ถ้าเหมือนคันธนูโก่งแล้ว ผู้นั้นจะทำร้ายแก่ท่าน
ดวงตา หนังตา ไวกว้าง ผู้นั้นใจซื่อตรง ใจดีมีปัญญา
ถ้าดวงตาพองทะเล้นออกมา ดูดั่งหน้าตาห่อหุ้มมิได้ผู้นั้นจะตายด้วยยอาวุธและเขี้ยวงา
ถ้าหนังตาสูงกว่าหัวตา ใจกล้าจะเป็นทหารฯ
ถ้าตากว้างเป็นเหลี่ยมยาวมักต้องปาง
ถ้าตาเล็ก ตาสั้น ตาแป้น ผู้นั้นเป็นคนโฉดเขลา ปัญญาน้อยความคิดน้อยฯ
ถ้าขอบตาดังตาไก่ ดวงตาดังนกพิราบ ผู้นั้นอยู่มิได้เป็นที่มักเที่ยวเตร่ฯ
ถ้าแดงดังแสงไฟ ผู้นั้นมักมีถ้อยความมิขาด
ถ้าตาดำ เส้นตาเหลือง ผู้นั้นจะตายด้วยอาวุธฯ
ยินติ่ง แปลว่า ถ้าผู้ใดหว่างคิ้วกว้าง หน้าผากกว้าง และสูงคิ้วสองข้างสูงและคิ้วยาว และแก้มทั้งสองเสมอ จมูกมิได้หัก จมูกโตตรงขึ้นเสมอ หน้าผากผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย
ถ้าผู้ใดหว่างคิ้วต่ำ หน้าผากแหลม คิ้วทั้งสองชิดกันและคิ้วสั้น ผู้นั้นจะมีสิ่งใดก็คงย่อมเกิดอันตรายต่าง ๆ มิรู้วาย
ถ้าผู้ใดคิ้วกว้าง ดวงหน้าผึ่งผาย ผู้นั้นมีอำนาจมาก กว่าถ้อยคำมีผู้เชื่อฟัง จะได้เป็นอธิบดีผู้ใหญ่ฯ
ถ้าผู้ใดเป็นแสกเส้นเท่าเข็ม ขึ้นแต่หว่างคิ้วถึงหน้าผม ดังสับฟากผู้นั้นมักต้องราชทัณฑ์อาญาเป็นทุกข์มิรู้
วายฯ
ถ้าหน้าผากสี่เหลี่ยม หว่างคิ้วมีสัณฐานกลมและเต็มมิได้บกพร่อง ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาบดี แต่หนุ่มฯ
ถ้าผู้ใดหว่างคิ้วเป็นแสกเป็นบาดแผลเป็นปานเป็นไฝ มิได้ตรงแสกหน้าผู้นั้นทรัพย์สมบัติร้อน มีเมียมักจาก
อยู่ด้วยกันมิตลอดเฒ่าฯ
ผู้ใดจมูกโตเสมอถึงแสกหน้า มิได้เง้า มิได้หัก เพียงทั้งสองข้างเสมอมิได้พร่องเต็มบริบูรณ์ งานสมกับโฉมหน้า ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาบดี ประกอบด้วยทรัพย์สมบัติ
มีคำเทียบไว้ หน้าแห่งคนทั้งหลายเปรียบเหมือนภูเขาห้าแห่ง
หน้าผากคือจอมเขายอด 1
แก้มข้างซ้ายจอมเขายอด 1
แก้มข้างขวาจอมเขายอด 1
คาง คือ จอมเขายอด 1
จมูก คือ จอมเขายอด 1
ตั้งอยู่กลางเขาทั้ง 4 นั้น
จมูกนี้มีรากหยั่งลงไปถึงปอด ถึงและมีความสุขสบายอยู่ ปอดก็เปิดลมให้หายใจเป็นปรกติ
อนึ่ง จมูกเปรียบเสมือนคลังทรัพย์สิ่งสินสมบัติ ถ้าจมูกสูง จมูกยาว จมูกตรง จมูกมีเนื้อหนาจะมีทรัพย์
อนึ่ง ช่องจมูกทั้งสอง เหมือนประตูคลังสมบัติ ถ้าช่องจมูกหนามีทรัพย์ทำได้ไว้คงฯ
ถ้าจมูกตกต่ำ จมูกแหลม จมูกบาง ผู้นั้นตระหนี่
ถ้าเงาจมูกตรง หัวตานั้นต่ำและหัก ผู้นั้นแม้นบิดามารดาจะมีสิ่งสินเท่าใดก็ครองไว้มิได้
จมูกยาวถึงหน้าผากมิได้หัก จะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่
ถ้าจมูกต่ำ จมูกคอ อายุสั้น
ถ้าจมูกเป็นเส้นนางเสมอหน้าผาก หาเนื้อมิได้และท้าย กำด้น
ดวงตามัว ผู้นั้นเข็ญใจ ไร้ญาติอยู่แต่ผู้เดียว นัยหนึ่งอายุสั้น เนา
ถ้าผู้ใดลูกจมูกเขินและเห็นภายในช่องจมูก ผู้นั้นมักอาภัพภรรยา ถ้าหญิงก็ดุจเดียวกันฯ
อนึ่ง หน้าผากและจมูกและแก้มทั้ง 2 และลูกคางเรียกว่าจอมเข้า ทั้ง 5 ถ้าเต็มบริบูรณ์ด้วยเนื้อหนัง ดูงามพร้อมด้วยลักษณะทั้ง 5 ดั่งพรรณนานี้ ถ้าเมื่อน้อยไม่มีทรัพย์สมบัติต่ออายุ 30 ขึ้นไป จึงจะมีทรัพย์บริบูรณ์
ถ้าจมูกมากเนื้อ และสูงเสมอหน้าผากมิได้หัก เนื้อแก้มริมจมูกพ่วงผ่องใสงาม ผู้นั้นใจซื่อตรง ฉลาดในการจัดแลงที่บ้านเรือนและการทั้งปวง
ถ้าผู้ใดจมูกโต จมูกหนา จมูกแข็ง จะมีทรัพย์สมบัติมาก
ถ้าจมูกเหมือนสิงโต จะมีปัญญาความคิดมาก แต่ภายหลังจะมีสุขมากฯ
ถ้าจมูกเสมอหว่างคิ้วเต็มบริบูรณ์ จะได้เมียอันพึงใจ จะได้เป็นขุนนาง
ถ้าจมูกแหลม ผู้นั้นปัญญาน้อย จะเข็ญใจฯ
ถ้าจมูกแตก จมูกมีแผลทรัพย์สินมิคง เลี้ยงลูกยาก
ถ้าจมูกกลมมากเนื้อแก้มทั้งสองมีเนื้อบริบูรณ์เสมอกัน ผู้นั้นจะมีทรัพย์สมบัติมาก
ถ้าเงาจมูกและหว่างคิ้วมีกระดูกเสมอกัน และมิได้เง้ามิได้หัก ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาบดี แต่หนุ่ม จนสิ้นอายุฯ
ถ้าแก้มพร่อง หน้าผากแหลม หน้าผากสูง คางต่ำ จมูกสูง มิได้บริบูรณ์พร้อมกันทั้ง 5 นั้น ท่านว่าญาติพี่น้องมิได้พึ่ง จะได้ทรัพย์สิ่งสินสิ่งใดก็ครองไว้มิคงฯ
ถ้าจมูก เหลือง แดง ผู้นั้นจะหาทรัพย์สิ่งสินง่าย
ถ้าจมูกดำเหมือนเถ้าไฟถูกน้ำ มีสิ่งสินจะฉิบหาย จะตาย
ซุ่ยวุ่ย ต้อไถ้
ปากเหมือนโตชาล ภาษาไทยว่า ปากเหมือนชาลอันใหญ่โตและปากนี้จะได้
ทรัพย์ก็ดี จะเสียทรัพย์ก็ดีเพราะปาก และปากนี้เป็นประตูแห่งถ้อยความทั้งปวง ถ้าปากตรงปากเสมอ ผู้นั้นเจรจาซื่อตรง เจรจาน้อยฯ
ถ้าปากไม่ตรง ผู้นั้นพูดมากเป็นปากโจร เจรจาเท็จมาก
ถ้าปากเปิด ริมฝีปากมิได้หุ้มฟัน ผู้นั้นอายุสั้น
ถ้าปาก แหลมปากเล็ก ปากบาง ปากเบี้ยว ปากแป้นจะเข็ญใจเพราะอายุสั้น
ถ้าปาก เป็น 4 เหลี่ยมจะมีทรัพย์มาก จะได้เป็นเศรษฐีฯ
ถ้าริมฝีปากแดงเหมือนชาด มีปัญญาฉลาด มีความคิดมาก
ถ้าปากเหนือกระบือ มีปัญญา
ถ้าครีบปากหนา จะได้เป็นนายทาหาร
ถ้าฟันดั่งฟันสุนัข ปากเหมือนหนูผู้นั้นจะเป็นสองใจชั่วใจคดฯ
ถ้าริมฝีปากทั้งสองต่ำ ผู้นั้นท่านว่าดีแต่ต่อหน้า ลับหลังมิดี
ถ้าปากเหมือนปากเป่าไฟผู้นั้นมักใจน้อยโกรธ อาภัพลูก มิดี
ถ้าปากดั่งปากหนู ผู้นั้นจะเป็นโจรลักเอาแต่ของท่านผู้อื่นมาเลี้ยงชีพ
ถ้าปากเหมือนม้าจะเข็ญใจ แต่จะหาเลี้ยงชีพเลี้ยงปากก็ทั้งยากฯ
ถ้าปากกว้างกำมือใส่เข้าอมได้ ผู้นั้นจะได้เป็นสี่ยง ว่าจัตุสดมภ์ ฯ
ถ้าริมฝีปากเหมือนปากนาคราช เหลงและปาก
มีสัณฐานเหมือนปากหงส์ อย่าให้เอาเป็นเพื่อนฝูงมิซื่อตรง
ถ้าปากเหมือนปากอ่าง ผู้นั้นใจดี
ถ้าปากมีไฝดำ จะมีของกินอร่อยทุกสิ่ง
ถ้าปากกว้าง ลิ้นโต มีทรัพย์มาก
ถ้าปากกว้างลิ้นบาง มักพอใจร้องรำทำเพลง มักเล่นสนุก
ถ้าปากแดงหนวดขาวจะมีสุขต่อภายแก่
ยื่นตัง ภาษาไทยว่า ร่องฝีปากเบื้องบน ตรงขื่อจมูกลงมานั้น เปรียบดั่งร่องน้ำ ถ้าร่องน้ำนั้นแคบ น้ำไหลหนีสะดวก ถ้าร่องฝีปากริมขื่อจมูกลงมานั้น ลึกและยาว ผู้นั้นจะมีทรัพย์มาก อายุยืนฯ
ถ้าเป็นร่องตื้นเรียบเสมอเนื้อริมฝีปาก อายุสั้น
ถ้าร่องคด เจรจาเท็จมากฯ
ถ้าร่องตรง เจรจาซื่อตรงฯ
อนึ่งร่องจมูกและริมฝีปาก และแก้มทั้งสองเต็มเสมอ และคางเต็มบริบูรณ์ หนวด และคิ้วประกอบกัน และลักษณะอันบังเกิดในหน้าได้ประกอบกันดูงามไซร้ ผู้นั้นดีมากฯ
ถ้าร่องจมูกเล็กและแคบ ผู้นั้นจะเข็ญใจหาเลี้ยงปากมิได้
ถ้าผู้ใดจมูกเบื้องบนแคบ เบื้องต่ำกว้าง จะมีลูกหลานน้อยฯ
ถ้าร่องจมูกเบื้องบนแคบ เบื้องต่ำแคบกลางกว้าง ผู้นั้นมีลูกหรือหลานมักป่วยเจ็บมาก
ถ้าร่องจมูกเบื้องบนนั้น ลึกและกว้างจะมีลูกหลานมากดี
ถ้าร่องจมูกเบื้องต่ำนั้น ลึกและกว้างจะมีลูกหลานมากดีฯ
ถ้าร่องจมูกคดและสั้น จะเข็ญใจ อายุสั้น
ถ้าในร่องจมูกเป็นแสกถึงขื่อจมูก ผู้นั้นจะมีลูกมักเสียมาก เลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าในร่องจมูกเป็นแสกเส้นเท่าเข็มขึ้นถึงขื่อจมูก ผู้นั้นอาภัพลูกจะเข็ญใจ
ถ้าร่องจมูกเหมือนไม้ไผ่ผ่าสองฉะนั้น จะมีวาสนามาก ประกอบด้วยสมบัติมาก
ถ้าร่องจมูกแตกสองข้างแสกละเป็นครีบเป็นเส้นขึ้นมา ผู้นั้นเข็ญใจ ไร้ญาติอาภัพมิดี
ถ้าริมฝีปากตรง ริมปากหนา มิได้แหลม มิได้บาง และริมฝีปากแดงสดใจงาม และริมฝีปากมิได้ขาว หรือดำ และริมฝีปากเป็นเส้นแสกมาก และริมฝีปากเบื้องบน หรือต่ำ เสมอกัน ผู้นั้นใจดี ใจโอบอ้อมอารี ถึงผู้ใดจะกระทำผิดทำชอบประการใด ก็นิ่งคิดอยู่แต่ในใจ มิได้ออกปาก ใจละเอียดตรึกตรองมากฯ
ถ้าริมฝีปากทั้งสองงามพอดี ผู้นั้นมักซื่อตรง มักพอใจร่ำเรียนรู้วิชาฯ
ถ้าริมฝีปากทั้งสองบาง ผู้นั้นผากกล้ามุสา ว่ากล่าวถ้าคำมิจริงเท็จมากนัก
ถ้าริมฝีปากเบื้องบนยาวและหนา ผู้นั้นอายุยืน
ถ้าริมฝีปากต่ำยาวและหนา ผู้นั้นมักกิน
ถ้าริมฝีปากเหมือนริมฝีปากมังกร จะมีทรัพย์สมบัติมาก จะได้เห็นนางพระยาฯ
ถ้าริมฝีปากเหมือนแพะผู้นั้นเข็ญใจ จะขอทานกิน
ถ้าริมฝีปากแหลม จะเข็ญใจ หาสิ่งสินยากจะอดตาย
ถ้าริมฝีปากเบื้องต่ำปลิ้นออกมาจะอาภัพญาติพี่น้อง พ่อแม่ลูกเมียจะเข็ญใจอยู่ผู้เดียว
ถ้าริมฝีปากแสกเส้นมาก จะมีลูกฯ (เกีย)
ถ้าริมฝีปากหาเส้นมิได้ และเกลี้ยงอยู่ จะอาภัพลูก หาลูกมิได้
ถ้าริมฝีปากเหมือนปากนก ผู้นั้นหมอความพอใจวิวาทฯ
ถ้าริมฝีปากเหมือนถ้ำ ผู้นั้นถ้อยคำมั่นคงดี
ถ้าริมฝีปากเหมือนปากเป่าไฟ ผู้นั้นอาภัพลูกหลาน
ถ้าริมฝีปากปากแดงและบาง ผู้นั้นเจรจากลับกลอก เอาคำแน่นอนมิได้ฯ
ถ้าริมฝีปากมีสีแดงมาก จะได้เป็นขุนนาง ประกอบด้วยสิ่งสินมากฯ
ถ้าริมฝีปากเขียว มักป่วยเจ็บอายุสั้น
ถ้าริมฝีปากมัวดำ มักไข้ป่วยเจ็บมิวาย
ถ้าริมฝีปากแดงงาม จะมีทรัพย์สมบัติมาก มิง้องอนผู้ใดดีฯ
ถ้าริมฝีปากแดงอ่อน จะมีเมียงามฯ
ถ้าริมฝีปากเป็นเส้นเหมือนดอกไม้ จะมีทรัพย์ฯ
ถ้าริมฝีปากแตกริมปากดำ ผู้นั้นจะเข็ญใจฯ
ถ้าริมฝีปากยาวฟันสั้น ผู้นั้นอายุยืน
ถ้าริมฝีปากปิดลงไม่ตรง ผู้นั้นเจรจาไม่จริง เท็จมากฯ
คี ภาษาไทยว่า ฟัน และฟันนั้น จะใหญ่กว่ากระดูก และฟันนี้บังเกิดขึ้นด้วยโลหิต ถ้าโลหิตบริบูรณ์ฟันนั้นมิได้โยก มิได้คลอน
ถ้าฟัน เป็นเหลี่ยมและฟันยาว ฟันโตเรียบเสมอไม่สูงไม่ต่ำฟันแน่นชิดกันผู้นั้นอายุยืน
ถ้าฟันแหลมฟันบางฟันห่างฟันสั้นฟันคดผู้นั้นอายุสั้น
ถ้าฟันโต ฟันตรง รากฟันแน่น ฟันเสมอ ริมปากตรงไม่เบี้ยว ผู้นั้นซื่อตรง คำนับ ผู้มีพระคุณ และใจศรัทธานับถือยำเกรงบิดามารดาดี
ถ้าฟันห่าง ฟันแตก ฟันสั้น ฟันแหลม ฟันแห้ง ฟันเหลือง ผู้นั้นเจรจากลับกลอกเจรจาเท็จมากมิดีฯ
ถ้าฟันโต ฟันชิด ฟันยาว ฟันเสมอ ฟันขาว ฟันแดง ฟันดำ ดูงามสดใส มิได้มีมลทิน บริสุทธิ์ และฟันรากลึกแน่น มิได้คลอน ผู้นั้นจะมีทรัพย์สิ่งสิน อายุยืน
ถ้าฟันโตและห่าง ฟันเล็ก และแหลม ฟันสั้นและบาง ฟันแตก แมงกิน และฟันดั่ง คราดชักหญ้า ผู้นั้นจะเข็ญใจ จะตายด้วยอาวุธเขี้ยวงามิดีฯ
อนึ่ง ให้พิจารณาดูหน้าฟันเบื้องบนและต่ำ สองซี่นั้น ถ้าแน่นและเสมอ และชิดกันและเป็นเหลี่ยมขาวบริสุทธิ์ มิได้ย้อมด้วยสิ่งใดไซร้ ผู้นั้นเจรจาสัตว์มั่นคง และเจราจาไพเราะ ประกอบด้วยของกินบริบูรณ์มิได้อดอยาก
ถ้าฟันเหลือง ฟันขาวแห้งไม่บริสุทธิ์ ฟันไม่ตรง จะเข็ญใจ เป็นคนโลเล มักเที่ยวเตร่ อยู่มิได้เป็นที่ฯ
ถ้าฟันเหมือนนาคราชถ้ามีลูกจะมีวาสนา จะได้พึ่งลูกฯ
ถ้าฟันเหมือนสิงโตจะได้เป็นใจ๋เสี่ยง ว่าจะได้เป็นเสนาผู้ใหญ่ดีฯ
ถ้าฟันไม่ตรง ผู้นั้นเป็นคนอาศัยศาลจ้าว เป็นคนไม่รู้บุญคุณผู้มีคุณ เป็นคน ท่านด่า พาลทะเลาะวิวาทมิดี
ถ้าฟันเหมือนฟันสุนัข ผู้นั้นโกหก เจรจาเอาความจริงมิได้
ถ้าฟันชิดกันและขาวบริสุทธิ์เหมือนเงิน ผู้นั้นซื่อตรง มักเรียนวิชาทุกอันฉลาดดี
ถ้าฟันห่าง ฟันแห้ง ฟันเหลือง ผู้นั้นจะเล่าเรียนสิ่งใดมิได้
ถ้าฟันดำเหมือนแก้วนิลใสแสดงาม จะมีสิ่งสินบริวารโภคสมบัติมากเทวดารักษา
ถ้าฟันขาวแห้งเหมือนกระดูกตาย ผู้นั้นจะยากจน หากินยาก ได้เช่นกินค่ำ มิใคร่จะทันกิน
ถ้าฟันเหลืองเหมือนใบไม้หล่นจากกิ่งไม้ ผู้นั้นเข็ญใจ หาเรือนมิได้ จะอาศัยป่าช้าผี
ถ้าฟันเหลืองบริสุทธิ์เหมือนแก้วเหลือง ผู้นั้นจะมีสมบัติไหลมาด้วยบุญจะได้สิ่งใด ก็ได้โดยง่ายสะดวกดี
ถ้าฟันเหมือนไม้ตาย จะเข็ญใจ หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ยากนักมิดี
ถ้าฟันนับซี่ได้สี่สิบ และฟันขาวบริสุทธิ์ และรากแน่น และชิด และเสมอกันได้คด มิได้โอน และฟันเรียบงามดี ผู้นั้นภาษาจีนว่า ฝุกโจ๊ ภาษาไทยว่า พระเจ้าหาผู้เสมอสองมิได้ฯ
ถ้าฟันนับได้สามสิบแปดซี่ และขาวเกลี้ยงเป็นเงางาม ผู้นั้นจะมีอานุภาพมาก กล้าหาญมีชัยในสงคราม จะได้ดีด้วยการณรงค์ ประกอบด้วยโภคสมบัติมาก
ถ้าฟันนับซี่ได้สามสิบสี่ซี่ จะมีวาสนามาก มีอายุยืน
ถ้าฟันนับได้สามสิบซี่ ผู้นั้นเป็นมัธยม จะมีทรัพย์สิ่งสินเครื่องใช้สอยทั้งปวง พอกิน พอใช้เป็นปานกลางฯ
ถ้าฟันนับได้สามสิบซี่ ถ้าขาวบริสุทธิ์เกลี้ยงงามดี จะได้เป็นขุนนางดีฯ
ถ้าฟันนับได้ยี่สิบแปดซี่ หาสิ่งสินยาก จะเข็ญใจ ถ้าแลขาวบริสุทธิ์จะมีทรัพย์สิ่งสินแต่อายุสั้นฯ
ถ้าฟันนับได้ยี่สิบสี่ซี่ ผู้นั้นคือผีเกิดเป็นคน จะเข็ญใจหนักฯ
จิ ภาษาไทยว่าลิ้น และลิ้นนี้เป็นที่รวมแห่งเส้นภายในใจและดับเครื่องภายในทั้งปวง เป็นรากแห่งลิ้น และลิ้นเป็นเหลี่ยมและลิ้นเสมอแดงงาม ลิ้นแหลมเหมือนกระบี่คมกล้า มีเส้นโลหิต จะมีทรัพย์สมบัติ จะมีวาสนาแลฯ
ถ้าลิ้น แคบและยาว ผู้นั้นเจรจากลับกลอก จะเป็นโจรฯ
ถ้าลิ้นสั้น ผู้นั้นเจรจาเขลาโฉด หาฉลาดเจรจามิได้ฯ
ถ้าลิ้นลิ้นบาง ผู้นั้นเจรจาเอาความมิได้ เจรจาเท็จมากฯ
ถ้าลิ้นแหลมลิ้นเล็ก ผู้นั้นกินของมิได้เลือก เห็นจะกินได้ก็กินฯ
ถ้าลิ้นขาวและดำ ผู้นั้นเป็นตระกูลทาสเลี้ยงช้างเลี้ยงม้าท่านฯ
ถ้าลิ้นแดง ลิ้นเหลี่ยม ลิ้นยาว ถ้ากระทั่งไอน้ำลายกระเด็นออกมาดั่งแก้ว ดีฯ
ถ้าลิ้นแดง ลิ้นเล็ก ลิ้นยาว จะมีปัญญาฉลาดใจแกล้วกล้าดีฯ
ถ้าลิ้นแดงใสสดงดงามดี และสายเส้นลิ้นงาม จะได้เป็นเสนาใน ใกล้ชิดแห่งพระยาฯ
ถ้าลิ้นคมมีสัณฐานดังคมกระบี่ ผู้นั้นจะมีทรัพย์สมบัติมาก จะได้เป็นอำมาตย์ฯ
ถ้าลิ้นยาวถึงจมูก จะได้เป็นจัตุสดมภ์ ผู้ใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากฯ
ถ้าลิ้นยาวถึงจมูก ถ้าจมูกแหลมจมูกบางมิดีฯ
ถ้าลิ้นแสกเส้นออกมาถึงปลายได้สามแสก จะมีเครื่องบริโภคมากฯ
ถ้าลิ้นเป็นไฝดำ จะมีเครื่องบริโภคมาก เทวดารักษาผู้นั้นฯ
ถ้าลิ้นเป็นไฝดำ ผู้นั้นจะตายด้วยเครื่องอาวุธเขี้ยวงามิดีแลฯ
ถ้าผู้ใดมักแลบ (ลิ้น) แปลบ ๆ เหมือนลิ้นงู ผู้นั้นใจชั่วมิดีฯ
ถ้าแลบทาริมฝีปากเป็นนิจ ผู้นั้นพอใจเที่ยวเตร่ พอใจอวดตัวชมว่างาม
ถ้าลิ้นเล็กลิ้นสั้น ผู้นั้นจะเข็ญใจฯ
ถ้าลิ้นโต ปากเล็ก ผู้นั้นจะพูดสิ่งใดมิสิ้นความฯ
ถ้าลิ้นเล็กปากโต ผู้นั้นเจรจาเบาเจรจาเร็วฯ
ถ้าลิ้นดั่งแต้มด้วยชาด ผู้นั้นมีทรัพย์สมบัติ จะมีวาสนาดีฯ
ถ้าลิ้นมีแผลดำ จะเข็ญใจฯ
ถ้าลิ้นแดงเหมือนโลหิต จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าลิ้นมีสีเหมือนเถ้าไฟถูกน้ำเปียก จะตายมิดีฯ
ถ้าลิ้นมีสีดั่งดอกบัว จะมีทรัพย์มาก ใจซื่อตรงดี
ถ้าลิ้นเขียวเหมือนดอกบัว จะมีปัญญา จะได้เป็นขุนนางดีฯ
ส่องเขียน ภาษาไทยว่า กระดูกหน้า คือกระดูกเบื้องต่ำ ใต้กระบอกตาทั้งสองข้างนั้น ถ้ากระดูกหน้าสูงขึ้นหว่างคิ้ว เต็ม สองตาดำบริสุทธิ์ ขาวบริสุทธิ์ เห็นงาม มีอำนาจมาก จะได้เป็นพระยาเอกราช มีผู้เกรงกลัวฯ
ถ้ากระดูกหน้าต่ำและแหลม ผู้นั้นจะหาทรัพย์สิ่งสินยากเข็ญใจฯ
ถ้ากระดูกหน้า สูง และจมูกมีเนื้อ แก้มทั้ง 2 พวงมีเนื้อ ผู้นั้นจะมีทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ แต่ท่วมกลางอายุเท่าสิ้นชีวิตเป็นสุขมากฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง สองแก้มต่ำ เนื้อแห้งไม่มีเนื้อ ผู้นั้นโฉดเขลา ภายแก่จะเข็ญใจ อาภัพพี่น้องลูกเมีย จะอยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง และหน้าแห้ง มีแต่หนังหาเนื้อมิได้ ผู้นั้นเมื่อกลางอายุ ทรัพย์สิ่งสินของพ่อแม่พี่น้องจะฉิบหายสิ้นฯ
ถ้าหน้า มีเนื้อบริบูรณ์และกระดูกหน้าต่ำราบกับเนื้อผู้นั้นเจรจาสิ่งใดท่านเชื่อแต่ต่อหน้า ลับหลังท่านมิเชื่ออาภัพฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง จมูกสูงมีเนื้อ แก้มทั้งสองมีเนื้อพวงผ่องใสงาม ผู้นั้นภายแก่จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้ากระดูกหน้า สูง และหนวดผมบาง ภายแก่เข็ญใจ จะอยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้ากระดูกหน้า ทั้งสองมีเนื้อสูงขึ้นเบื้องบน และตายาวหว่างคิ้วเต็ม
ดวงหน้าเสมอราบดั่งแผ่นดิน ผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลายดีนักฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง ตาโตไม่งาม คิ้วต่ำ หน้ายาวมิดีฯ
ถ้ากระดูกหน้า สูง จมูกต่ำ ทำได้ไว้มิคงฯ
ถ้าจมูกสูง กระดูกหน้างามรับจมูก มีเมตตามากฯ
ถ้าหมวดงามและเคราผมสองข้างดำงามสดผู้นั้นเป็นที่ชอบใจท้าวพญาท่านเมตตามาก
ถ้าผู้หญิงมีกระดูกหน้าทั้งสองงามมีเนื้อบริบูรณ์ ผู้นั้นการจัดแจงทั้งปวงดีกว่าผัวฯ
ถ้าหญิงใดมีกระดูกหน้าเบื้องต่ำแหลม หญิงนั้นผัวตามสามคนฯ
ถ้าหน้าสีเลือดขึ้นนวลงามดี ถ้าสีเหลืองถึงหูจะได้เป็นขุนนางฯ
ถ้ากระดูกหน้า เขียว จะเกิดวิวาทกับพี่น้องฯ
ถ้าสีขาวจะเป็นด้วยพี่น้อง ญาติ ฯ
ลั่นทง ว่าลูกจมูกเบื้องซ้าย เทงวุย ว่าลูกจมูกเบื้องขวา หวบแหลงว่าร่องน้ำตา เป็นร่องลงมา ริมลูกจมูกทั้งสองนั้น และร่องน้ำตานี้เป็นรากแห่งลูกจมูกทั้งสองฯ
ถ้าลูกจมูกทั้งสองดูงามเกลี้ยง ผู้นั้นจะมีวาสนาฯ
ถ้าร่องน้ำตาทั้งสองเป็นร่องลงมาถึงคางจะมีอายุยืน
ถ้าร่องน้ำตาเป็นร่องขาว จะได้เป็นขุนนาง
ถ้าลูกจมูกทั้งสองและร่องน้ำตาแตกเป็นบาดแผลผู้นั้นหากินยากจะได้สิ่งใดมักมีตำหนิ
ถ้าลูกจมูกทั้งสองดูเห็นเหมือนบวมจะเข็ญใจ
ถ้าเส้นร่องน้ำตาทั้งสอง มีสีใบมะม่วงอ่อน ท้าวพญาจะชุบเลี้ยงดี
ถ้าร่องน้ำตาเป็นสีเขียวและดำ จะเจ็บไข้มิดีฯ
ถ้าแก้มทั้งสองริมปากนั้นมีเส้นตามขวางแทงเข้าปาก ผู้นั้นจะสิ้นอายุฯ
ปีน ภาษาไทยว่า เคราผม ถ้าเคราผมดำงามหนาดีฯ
ถ้าเคราผมเหลือง เคราผมห่าง เคราผมงอมิดีฯ
ถ้าเคราผมลงมาเสมอลูกหา มีปัญญาฉลาดดีฯ
ถ้าเคราผมมากและผมดำงาม มีปัญญาดีฯ
ถ้าเคราผมงาม ขนคิ้วงาม มีปัญญามากดีฯ
ถ้าเคราผมสั้น ขนคิ้วงาม ผู้นั้นจะเข็ญใจ ภายแก่จะอยู่แต่ผู้เดียวหาที่พึ่งมิได้ฯ
ถ้าเคราผมมากและหนวดน้อย ผู้นั้นมิรู้ขาดทรัพย์ตราบเท่าสิ้นอายุฯ
ถ้าเคราผมน้อย หนวดมากผู้นั้นเป็นคนโลเลมิดีฯ
ถ้าแก้มทั้งสองหาขนมิได้ ผู้นั้นมักทุกข์มากฯ
ถ้าเคราผมและผมงามได้ลักษณะ ผู้นั้นจะมีวาสนามีเครื่องบริโภคมากฯ
ฟัด ภาษาไทยว่า ผม เปรียบว่าเส้นผมนี้เหมือนต้นไม้อันเกิดขึ้นบนจอมเขา ถ้าผมสั้น ผมเส้นเล็กงาม ผู้นั้นมีวาสนาฯ
ถ้าผมเส้นใหญ่ดำงามและผมยาว จะได้เป็นขุนนางฯ
ถ้าคนอ้วนพี ผมมาก จึงดีฯ
ถ้าคนเนื้อน้อยผอม ผมน้อยจึงดีฯ
ถ้าผมเส้นโต เส้นแข็งกระด้าง ผู้นั้นใจโทโสมาก ใจแข็ง อาภัพลูกเมียจะอยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้าผมมาก ผมหนาหนัก กลิ่นผมเหม็น จะเข็ญใจเป็นข้างท่านฯ
ถ้าผมแต่กระหม่อมถึงท้ายกำด้นสูง และกระด้าง ผู้นั้นใจชั่วฯ
ถ้าไม่มีเคราผม ผู้นั้นใจชั่วมิดี
ถ้าผมถึงคิ้ว ผู้นั้นมักจะเจ็บไข้มิดีฯ
ถ้าผมและเคราผมเส้นห่าง เส้นโต หากินยาก ทรัพย์มิคง ใจห่าง มักซื้อจ่ายฯ
ถ้าผมและเคราผมมิได้ชุ่มมัน แลดูแห้งผากอยู่ดั่งนี้ จะมีทุกข์มากตราบเท่าสิ้นอายุ
และเทวดาผู้เฒ่าตำรานี้ ตั้งตำราไว้ว่า ในแผ่นดินนี้ผู้ใดมีผมมาก ผมหนาหนักนั้น จะได้เป็นใจเสี่ยงแต่คนหนึ่งขึ้นไปนั้น มิได้มีเลย
ถ้าผู้ใดเมื่อเด็กเล็กอยู่นั้น ถ้าผมแดงมีอิฐดังนั้น ผู้นั้นพี่น้องจะตายฯ
ถ้าผู้ใดมีผมงาม มีหนวดงาม ผู้นั้นจะมีวาสนาจะมีอายุยืน จะเป็นสุขมากฯ
ถ้าผู้ใดอายุได้ยี่สิบปีนั้น เรียกว่าเด็ก ถ้าและมีหนวดและผมขาวและแห้งหามิได้ หาวาสนามิได้ อายุสั้นฯ
ถ้าผมหงอกขาว ดูหน้าเหมือนหน้าเด็กหนุ่ม ผู้นั้นเทวาดารักษาดีฯ
ถ้าผมแห้ง หน้าแห้ง จะเจ็บไข้ จะเป็นไข้ตายฯ
ถ้าผมชิดหู จะตายด้วยอดอาหารฯ
ถ้าเคราผมทั้งสองข้างงอ ผู้นั้นญาติและเมียอยู่ด้วยกันมิตลอดฯ
ถ้าผมแดงดั่งสีอิฐ จะเจ็บไข้มิรู้วายฯ
ถ้าผมเส้นงาม จะมีสุขมาก
ถ้าผมยาวผมบาง อาภัพลูกเมียพี่น้อง อยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้าผมยุ่งหยิก ใจคด ใจชั่ว ใจไม่ตรงฯ
ถ้ากลางเส้นผมเป็นสีแดง เหมือนอิฐ ผู้นั้นจะตายด้วยเขี้ยวงา และอายุธมิดีฯ
ถ้าผมตรงแสกหน้านั้นหนาและยุ่งเป็นขยุ้มอยู่ ผู้นั้นกำพร้าบิดามารดาฯ
ซิว ภาษาไทยว่า หนวด ถ้าหนวดงาม คิ้วงามคือเส้นดำ เป็นมันสดใส จะได้เป็นเสนาบดีฯ
ถ้าหนวดยาวเส้นอ่อน มิได้บาง มิได้หนา แลเห็นริมปากผู้นั้นจะได้เป็นกุ้ย ภาษาไทยว่า จะเป็นขุนนางดีฯ
ถ้าหนวดสั้น หนวดแข็ง และหนวดขึ้นลำคอ อายุสั้นมิดีฯ
ถ้าขนคิ้วที่หัวคิ้วสั้น ตั้งชันมิได้ตามกัน ผู้นั้นมีเมียมักจากกันฯ
ถ้าหนวดและเคราผมหนาติดันทั้งแก้ม คาง มีลูกตายฯ
ถ้าหนวดปากสองข้างและหนวดคาง และเคราผมมิได้ติดกัน และหนวดอ่อน หนวดยาว และงาม ผู้นั้นซื่อตรง นับถือตระกูล บิดามารดา และมีปัญญาฉลาดฯ
ถ้าหนวดยาว หนวดงอ หนวดอ่อนผู้นั้นจะมีปัญญาดีฯ
ถ้าหนวดแดงดั่งสีอิฐ ขนคิ้วเป็นสันดั่งคมกระบี่ กระดูกสั้นพร้อมยาว พร้อมดูงาม ประกอบกันและเสียงใหญ่ เสียงแจ่มแจ้ว ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาผู้ใหญ่
ถ้าหนวดขึ้นที่คอผู้นั้นจะฉิบหาย จะตายมิดีฯ
อนึ่ง หนวดริมปากเบื้องบน เรียกว่า ซือ หนวดริมปากเบื้องต่ำ เรียกว่า ซิว หนวดคาง เรียกว่า เนียม หนวดแก้มเรียกว่า โฮ ถ้าหนวดริมปากเบื้องบนงามจะมีอายุยืน จะมีทรัพย์ฯ
ถ้าริมปากเบื้องต่ำมีหนวด และเบื้องบนหาหนวดมิได้ จะเข็ญใจไร้ทรัพย์ อยู่ด้วยพี่น้องมิได้ มักเที่ยวเตร่ฯ
ถ้าร่องจมูกหาหนวดมิได้ ผู้นั้นเพื่อนฝูงไม่นับถือ ผู้นั้นไม่เชื่อใจคนฯ
ถ้าหนวดริมปากเบื้องบนไม่มี และผมหนักผมหนา อย่าได้เอาเป็นเพื่อนฝูงมิดีฯ
ถ้าหนวดงอ ขนคิ้วงอ จะเข็ญใจมิดีฯ
ถ้าหนวดยาว จมูกงามได้ลักษณะ หนวดทั้งเคราทั้งห้าแห่งงาม ผู้นั้นอายุยืนฯ
ถ้าหาหนวดเครามิได้ ปากเหมือนสตรีและเสียงไม่ดี ผู้นั้นอาภัพลูก ถ้าเสียงดีจะมีลูกฯ
ถ้าหนวดยาว หน้าผอม หน้าเล็ก จะได้เป็นเสนา ใกล้ชิดในกรุงดีฯ
ถ้าหนวดงามดี หน้าแบน ผู้นั้นเป็นคนโลเลมักเที่ยวฯ
ถ้าหนวดริมปากเบื้องต่ำงอกขึ้นก่อนหนวดริมปากบน จะเข็ญใจมิดีฯ
ถ้าขนจมูกยาวถึงริมปากเบื้องต่ำ ผู้นั้นมีทุกข์มากฯ
ถ้าหนวดริมปากงอนขึ้นติดกัน หนวดริมปากเบื้องต่ำรุงรังอยู่ดังนั้น ทรัพย์มิตรครองทรัพย์มิได้ จะเข็ญใจฯ
ถ้าหนวดแข็งดังคมกระบี่ และงามจะได้เป็นนายทหารฯ
ถ้าหนวดเหมือนยุงปัด จะเที่ยวหาใส่ปากเลี้ยงชีวิตด้วยกำลังตนฯ
ถ้าหนวดเส้นเล็ก เป็นฝอยลมปลิวอยู่ ผู้นั้นภายแก่จะยากจนฯ
อำ ภาษาไทยว่า คอ เหมือนขื่อเรือนอันทรงไว้ซึ่งเครื่องแห่งเรือน คือศีรษะนั้น ถ้าตัวอ้วนพีมากเนื้อบริบูรณ์ลำคอสั้นจึงดีฯ
ถ้าตัวผอมลำตัวยาวจึงดีฯ
ถ้าคอไม่สมตัวจะเข็ญใจ มิฉะนั้นอายุสั้นมิดีฯ
ถ้าคอโตหนัก และคอยาวดังคอห่าน และคอสั้นคอเล็ก ไม่สมตัวมิดีฯ
ถ้าคอสั้นเป็นเหลี่ยม ผู้นั้นจะมีทรัพย์อายุยืนฯ
ถ้าคอเล็กและยาวหนัก ผู้นั้นจะเข็ญใจหนักฯ
ถ้าคอแข็ง จะเหลียวซ้ายและขวามิได้ ผู้นั้นอายุนั้นพลันตายฯ
ถ้าคอมีหนวดปิดคอ ผู้นั้นจะตายมิดีฯ
ถ้าคอริมท้ายผมตกเป็นบั้ง มีเนื้อมาก จะมีทรัพย์อายุยืนฯ
ถ้าคอไม่ตรง ผู้นั้นจะเข็ญใจฯ
ถ้ามีแต้มดำ แต้มขาว เป็นกระ ผู้นั้นใจตรง จะมีทรัพย์ฯ
ถ้าคอเหมือนคองู ผู้นั้นใจร้ายฯ
ถ้าคองามประกอบด้วยดวงหน้างาม ผู้นั้นจะได้เป็นขุนนางมีสมบัติมากฯ
ถ้าคอเล็กหนังคอบาง จะกลืนสิ่งใดก็เห็นเข้าไป ผู้นั้นจะเข็ญใจ จะขอทานกินกลางตลอดมิดีฯ
ถ้าบ่าเสมอหนา ถ้าแลนั่งอยู่เป็นปกติ พิศดูบ่าเสมอและราบบ่าหนาดี
ถ้าบ่าซ้ายสูงกว่าบ่าขวา ชอบค้าขายดี
ถ้าบ่าขวาสูงกว่าบ่าซ้าย มีทรัพย์สิ่งใดไว้มิคงฯ
ถ้าไหล่ทั้งสองกว้าง หนาเป็นเหลี่ยม จะทำสิ่งใดก็ดี ทำได้ทุกอัน
ถ้าบ่ากว้างและแหลม ภายแก่จะได้ยากฯ
ถ้าไหล่ลู่ดูเหมือนหนาว ผู้นั้นจะหาที่อยู่มิได้ฯ
ปวย ภาษาไทยว่า หลัง ถ้าหลังราบ หลังหนา เสมอเต็ม หลังยาว หลังกว้างดีฯ ถ้าหลงสั้น หลังบา หลังเป็นร่องดีฯ
ปวยยกหกดู ภาษาไทยว่า ถ้าหลังก็เหมือนหลังเต่า จะได้เป็นขุนนาง แต่หนุ่ม ถ้าหลังหนา เอวกลม จะได้เป็นอธิบดีอำนาจมาก ถ้ามิได้เป็นอธิบดีจะมีทรัพย์สมบัติมากฯ
ถ้าหลังโกงหลังค่อมและอกสูง จะเข็ญใจ จะมีอายุสั้นฯ
ถ้าหลังหนาล่ำเป็นก้อนเนื้อ ผู้นั้นจะบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ
ถ้ากระดูกหลังต่ำ หลังร่องจะเข็ญใจฯ
ถ้าหลังโกง บั้นเอวบาง บั้นเอวแข็งเนื้อหลังน้อย ผู้นั้นอาภัพพี่น้องลูกหลานฯ
ถ้าหลังหนา หลังเต็ม หลังกว้าง จะมีทรัพย์สมบัติ จะมีวาสนาฯ
ถ้าหลังหนา อกบาง ภายแก่จะเข็ญใจ หาที่พึ่งมิได้ อยู่แต่ผู้เดียว
ถ้ากระดูกหลังที่หว่างไหล่สองข้างนั้น กระดูกหลังต่ำ ผู้นั้นเป็นคนโลเล อายุสั้นฯ
ถ้าหญิงใดหลังกลม จะได้เป็นเมียขุนนางดี
ถ้าผู้ใดหลังตะพาบปิดน้ำ อกเหมือนนอกเต่าจะเข็ญใจผู้นั้นมักพอใจเล่นชู้ฯ
ถ้าหลังราบเสมอ ผู้นั้นจะได้เป็นเสนา ตราบเท่าลูกหลานดีฯ
เฮง ภาษาไทยว่า อก ถ้าอกกว้าง อกเสมอ อกหนา อกยาว สีงามผู้นั้นใจกล้าหาญ มีปัญญาฉลาด จะมีวาสนามาก จะมีทรัพย์สมบัติมาก จะมีบริวารมาก มีญาติพี่น้องมาก จะมีสุขมากฯ
ถ้าอกบาง หัวอกแหลม อกแคบ อกเล็ก ผิวเนื้ออกดำ ผู้นั้นใจไม่ตรง เจรจากลับกลอก ใจน้อยมักขึ้งโกรธ ใจเบาหาปัญญามิได้ จะเข็ญใจ ไร้ทรัพย์ อายุสั้นฯ
ถ้าอกกว้าง ตัวอ้วนพี มีเนื้อบริบูรณ์สมบัติดีงามนั้น ผู้นั้นจะได้เห็นใหญ่กว่าคนทั้งหลายฯ
ถ้าอกกว้างหว่างอกหนาเสมอดังกระดานเต็มบริบูรณ์จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าอกบางไม่มีเนื้อ เห็นแต่หนังหุ้มกระดูก ผู้นั้นหากินยามมิดีฯ
ถ้าอกแคบ อกยาว หัวอกฟก จะเข็ญใจ อายุสั้นมิดีฯ
ถ้าอกเหมือนอกไก่ หลังแอ่นเหมือนหลังเป็ด ผู้นั้นปัญญาความคิดน้อย อายุส้นฯ
ถ้านอกสั้นกว่าหน้า จะเข็ญใจ อยู่แต่ตัวผู้เดียวฯ
ถ้าอกต่ำ อกร่อง ผู้นั้นหากินยากฯ
ถ้าอกมีขน ผู้นั้นจะมีทรัพย์ฯ
ถ้าเนื้ออกหยาบ ผู้นั้นโมโหมาก ใจร้ายมุทะลุ หาอัธยาศัยมิได้ฯ
นี ภาษาไทยว่า นม ถ้านม ฐานนมกว้าง นมโต วงนมแดง หัวนมดำ นมตรง ผู้นั้นจะมีทรัพย์ มีวาสนา มีปัญญาฉลาฯ
ถ้านมเล็ก นมปักธรณี วงนมขาว นมไม่ตรงผู้นั้นพึ่งผู้ใดมิได้ จะเข็ญใจ อายุสั้นฯ
ถ้านมกว้าง ผู้นั้นใจกว้าง ใจเย็น ใจช้าฯ
ถ้านมแคบ อกแคบ ผู้นั้นโฉดเขลา ความคิดน้อย
ถ้าหัวนมโตและดำ ผู้นั้นมีปัญญามากฯ
ถ้าหัวนมเล็ก ผู้นั้นกำลังน้อย มักหัวหอบ เลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าหัวนมคดงอ ผู้นั้นเลี้ยงลูกหลานยากฯ
ถ้าหัวนมยาว เลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าหัวนมชัน เลี้ยงลูกง่ายฯ
ถ้าหัวนมโตเป็นเหลี่ยม มีลูกมีปัญญา มีวาสนา จะได้พึ่งลูกดั่งได้แก้วฯ
ถ้าหัวนมขาวและเหลือง จะเลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าหัวนมแดงดั่งสีอิฐ มีลูกหลานจะมีวาสนา มีปัญญาดีฯ
ถ้านมแห้งเหี่ยว จะหาเลี้ยงปากไม่พอฯ
ถ้าหัวนมโต มีเนื้อ จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าหัวนมมีขน ผู้นั้นใจซื่อใจเบา ความคิดน้อยฯ
ถ้าหัวนมเป็นไฝดำ ลูกจะมีวาสนา จะได้พึ่งลูกฯ
ปากกวุยชุกแชกจือไฮ้ ภาษาไทยว่า ท้อง เปรียบว่าท้องเหมือนชเลอันใหญ่ ถ้าท้องกลมและยาว ผู้นั้นมีปัญญา คิดอ่านสิ่งใดก็วิตถารกว้างขวางฯ
ถ้าท้องผิวหนังขาว สายเลือดท้องแดงงามดีฯ ถ้าท้องเป็นเหลี่ยม สะดือลึกและหนังสะดือเบื้องต่ำกว่าเบื้องบน และเมื่อนั่งอยู่ปกติ สะดือขังน้ำมิได้บ้าง ผู้นั้นมีปัญญาฉลาด เรียนหนังสือดีฯ
ถ้าท้องมีเส้นวงเป็นก้นหอย ผู้นั้นคือเทวดาฯ
ถ้าท้องใหญ่และหาขนมิได้ ผู้นั้นอย่าได้คิดเป็นขุนนางเลยฯ
ถ้าท้องเบื้องต่ำนั้นใหญ่ เบื้องต้นนั้นน้อย ผู้นั้นจะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าท้องหนาท้องแข็ง จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าท้องเล็กท้องบาง มิดี หากินยากฯ
ถ้าท้องเบื้องบนแหลม เบื้องต่ำเล็ก ท้องแห้ง จะเข็ญใจฯ
ถ้าสะดือจุ่น สะดือสูง อายุสั้นฯ
ถ้าท้องตะโพกเล็กตะโพกโต หาทรัพย์สินยากฯ
ถ้าขนทั้งตัวกระด้างแข็ง ผู้นั้นมีลูกเมียพี่น้อง อยู่ด้วยกันดีตลอด
ใจ๋ ภาษาไทยว่า สะดือฯ ถ้าสะดือห่าง สะดือลึก ผู้นั้นใจกล้าหาญ จะมีวาสนาฯ
ถ้าสะดือ ตื้นและแคบ ผู้นั้นโฉดเขลาปัญญาน้อย จะเข็ญใจฯ
ถ้าสะดือ ต่ำมีทุกข์มากฯ
ถ้าสะดือ สูงมักขึ้งโกรธ รู้สิ่งใดก็รู้ไม่ตลอดฯ
ถ้าสะดือ โตและกว้าง ผู้นั้นมีผู้นับถือมาก ฯ
ถ้าสะดือ เล็กและแหลม จะเข็ญใจ อายุสั้นฯ
ถ้าสะดือ มีไฝดำ ชื่อว่าอุ้มแก้ม ผู้นั้นจะมีทรัพย์บริโภคมาก จะมีวาสนาฯ
ถ้าสะดือ ลึก สะดือหว่าง สะดือเหลี่ยม สะดือตรงมีเนื้อมาก จะมีวาสนาฯ
ถ้าหลังเสมอหลังเต็ม หลังเหลี่ยม และบั้นเอวหนาแข็งและมีเนื้อล่ำมากนี้ ผู้นั้นจะหาทรัพย์ง่ายอายุยืนฯ
ถ้าหนังบั้นเอวแห้งหาเส้นมิได้ เหมือนเปลือกไม้แห้ง ผู้นั้นจะเป็นไข้ตายฯ
ผู้ใดมีวาสนา มีบั้นเอวตรง บั้นเอวแข็ง บั้นเอวเป็นเหลี่ยมฯ
ถ้าผู้ใดหาวาสนามิได้นั้น บั้นเอวต่ำ เอวแบน เล็กแคบฯ
ถ้าหลังมีลักษณะ บั้นเอวไม่มีลักษณะ ผู้นั้นดีแต่หนุ่ม ครั้นท่ามกลางอายุทรามไปฯ
ถ้าบั้นเอวมีลักษณะและหลังนั้นไม่มีลักษณะ ผู้นั้นเมื่อหนุ่มทราบเมื่อแก่อุดมฯ
ถ้าหลังและบั้นเอว มีลักษณะประกอบดูงาม ผู้นั้นจะมีวาสนา มีอายุยืนฯ
ถ้าบั้นเอวเป็นเหลี่ยม ผู้นั้นใจกว้างโอบอ้อมฯ
ถ้าบั้นเอวนน้อยตะโพกใหญ่ เมื่อหนุ่มเข็ญใจ ภายแก่อุดมฯ
ถ้าบั้นเอวใหญ่หนา ตะโพกเล็ก เมื่อน้อย เมื่อหนุ่มอุดม ภายแก่จะเข็ญใจฯ
ไสตุน ภาษาไทยว่า สะโพก ถ้าหนุ่มและตะโพกลีบลึก จะหาทรัพย์สินยาก ครองสมบัติบิดามารดามิได้จะจากที่ไปอยู่ที่อื่น ๆ
ถ้าผู้ใดตะโพกหาเนื้อมิได้ แต่หนุ่มตาบเท่าถึงแก่ ผู้นั้นเลี้ยงลูกยาก มีเมียมักตาย มักเที่ยวไปต่างประเทศอยู่มิได้เป็นที่ ไปปลูกตัวที่อื่น ๆ
ถ้าตัวโตผอมตะโพกลีบ เมื่อน้อยจะเรียนสิ่งใดนั้นได้น้อย ลืมหลงเสียมากฯ
ถ้าตัวตะโพกหาเนื้อมิได้ และตะโพกลีบเล็ก ผู้นั้นมีเมียเลี้ยงลูกยาก มิได้จะเข็ญใจฯ
ถ้าตะโพกโต ท้องโต จะหาทรัพย์ได้ง่าย ๆ
ถ้าผู้หญิงใดตะโพกโต มิดีฯ
ถ้าตะโพกแหลม มักผิดปากกันกับบิดาและบุตรมักมิชอบกันฯ
ถ้าลำตัวยาว ตะโพกลีบ เนื้อน้อย หาทรัพย์สินยาก จะเข็ญใจ
ชิด ภาษาไทยว่า หัวเข่า ถ้าหัวเข่ากลมดั่งถังและโต ผู้นั้นมิได้เป็นถ้อยความ แต่หนุ่มตราบเท่าสิ้นอายุฯ
ถ้าต้นขาโตและเข่าแหลม มักเป็นถ้อยเป็นความมิรู้วายเลยฯ
ถ้าต้นขาเล็ก เข่าโตเหมือนขานกยาง ผู้นั้นจะเข็ญใจ เป็นคนโลเลฯ
ถ้าเข่าเล็กและอ้วน ดั่งหากระดูกไม่ได้นั้น จะตายแต่หนุ่มฯ
ถ้าหัวเขาเป็นเอ็นมาก ผู้นั้นเข็ญใจมักเที่ยวหาเลี้ยงชีวิตฯ
ถ้าขามีขน ผู้นั้นไม่ถูกเนื้อความ มหันตานุโทษ ไม่ต้องโบยตีฯ
ถ้าขนต้นขาสั้น ขนแข็งเส้นโต ผู้นั้นมักต้องโบยตีมาก ๆ
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 15564
ตำราพรหมชาติ
แก้วนพรัตน์ (แก้ว 9 ประการ)
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
สิทธิการิยะ เกจิอาจารย์เจ้ากล่าวไว้ว่าบรรดาแก้วนพรัตน์หรือเนาวรัตน์ หรือนวรัตน์นั้น ผู้ใดมีไว้ประดับกาย ท่านว่าย่อมมีสิริมงคล แต่ทว่าจะมีประดับทุกคนไปไม่ได้ เพราะแต่ละอย่างชนิดราคาแพงมาก และบางชนิดให้ทั้งคุณและโทษกับผู้เป็นเจ้าของด้วย ทางโหราศาสตร์จึงวางหลักไว้ว่า ท่านผู้เกิดวันเดือน ปีนั้น ๆ ควรมีหรือประดับแก้วชนิดใดจึงจะเป็นสิริมงคลกับตัวและคุ้มครอบครัวได้
ขอกล่าวถึงลักษณะวัน เดือน ปี ที่ควรมีหรือใช้แก้วชนิดใดเป็นเครื่องประดับเรือนกาย อย่างนี้
แก้วกับวันเกิด
คนเกิดวันอาทิตย์ ควรประดับหรือมี แก้วโกเมน เพทาย
คนเกิดวันจันทร์ “ แก้วมุกดา หรือเพชร
คนเกิดวันอังคาร “ แก้วบุษราคัม
คนเกิดวันพุธ “ แก้วมรกต
คนเกิดวันพฤหัสบดี “ แก้วไพฑูรย์
คนเกิดวันศุกร์ “ แก้วเพชรหรือมุกดา
คนเกิดวันเสาร์ “ แก้วนิลหรือทับทิม
เดือน 5 ควรประกอบด้วย แก้วมรกต
เดือน 6 “ แก้วเพชร
เดือน 7 “ แก้วนิล
เดือน 8 “ แก้วมรกต
เดือน 9 “ แก้วโกเมน
เดือน 10 “ แก้วไพฑูรย์
เดือน 11 “ แก้วบุษราคัม
เดือน 12 “ แก้วมุกดา
เดือน 1 (อ้าย) “ แก้วโกเมน
เดือน 2 (ยี่) “ แก้วมุกดา
เดือน 3 “ แก้วมุกดา
เดือน 4 “ แก้วเพทาย
แก้วกับปีเกิด
ปีชวด ควรประดับด้วย แก้วโกเมน
ปีฉลู “ แก้วมุกดา
ปีขาล “ แก้วเพทาย
ปีเถาะ “ แก้วไพฑูรย์หรือมรกต
ปีมะโรง “ แก้วไพฑูรย์
ปีมะเส็ง “ แก้วเพชร
ปีมะเมีย “ แก้วนิล
ปีมะแม “ แก้วมุกดา
ปีวอก “ แก้วบุษราคัม
ปีระกา “ แก้วโกเมน
ปีจอ “ แก้วมรกต
ปีกุน “ แก้วไพฑูรย์
ลักษณะสีของแก้ว 9 ประการ
แก้วนพรัตน์ คือ แก้ว 9 ประการ คือ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา ไพฑูรย์ รวม 9 ชนิด
1. เพชร ที่เราทราบกันว่าแก้ววิเชียร นั่นเอง มีสีขาวเป็นประกายแวววาว เมื่อถูกแสงไฟหรือแสงแดด ราคาแพงมาก คุณลักษณะแข็งที่สุด ถึงกับนำมาใช้กับคนว่า คนใจเพชร เป็นต้น
2. ทับทิม เป็นพลอยสีแดง มีมากในจังหวัดจันทบุรี ราคาพอประมาณหาซื้อได้ทั่วไป
3. มรกต เป็นแก้วสีเขียวใบไม้ หายาก ราคาจึงค่อนข้างแพง นิยมนำมาแกะพระพุทธรูปบูชา และทำสร้อยคอ หัวแหวน
4. บุษราคัม เป็นพลอยสีเหลือง น้ำทองคำ มีประกายเล็กน้อย นิยมทำหัวแหวน และสร้อยข้อมือสตรี ราคาพอประมาณ หาซื้อได้ทั่วไป
5. โกเมน เป็นพลอย สีแดงเข้มค่อนข้างดำ สีแก่กว่าทับทิม ค่อนข้างหายาก ราคาไม่สู้แพง คนนิยมนำมาทำเครื่องประดับน้อย
6. นิล เป็นพลอยสีดำ หรือสีขาบ ดำสนิทแข็งดุจหิน มีมากทางจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ราคาพอปานกลาง นิยมใช้ในหมู่ผู้ชายหนุ่ม ๆ ส่วนสตรีนิยมในจำพวกคุณนาย คุณหญิงที่ต้อง
ไปงานศพบ่อย ๆ
7. มุกดา เป็นแก้วไข่มุก สีขาวนวลหมอก ๆ คล้ายไข่มุก แก้วชนิดนี้ของจริงหายากมาก มักจะใช้ไข่มุกของญี่ปุ่นแทน ราคาค่อนข้างแพงระวังของปลอมมีมากเพราะของจริงหายากนั้นเอง
8. เพทาย เป็นพลอยสีแดงสลัว ๆ ขุ่น ๆ มัว ๆ ระวังจะหลงผิดคิดไปว่าใช่ อาจจะเป็นโกเมน หายากเช่นเดียวกัน ราคาพอประมาณ
9. ไพฑูรย์ เป็นพลอยสีเขียว มีน้ำเป็นรุ้งกลอกไปมา บางท่านเรียกว่า “เพชรตาแมว” หรือ “แก้วสีไม้ไผ่” ก็เรียกว่า ราคาค่อนข้างแพงมาก เพราะหายากมีคนนิยมใช้เท่า ๆ กับ
มรกต
คติโบราณาจารย์ ท่านผูกเป็นโคลงกลอนสอดคล้องกัน เพื่อจดจำง่าย ๆ อย่างนี้
เพชร (1) มณีแดง 2
เขียวใสแสงมรกต 3
เหลืองใสสดบุษราคัม 4
แดงแก่ก่ำโกเมนเอก 5
สีหมอกเมฆนิลกาฬ 6
มุกดาหารสีหมอกมัว 7
แดงสลัวเพทาย 8
สังวาลสายไพฑูรย์ 9
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 8772
การเลือกคู่ตามธาตุ
ชาวราศีมังกร |
22 ธ.ค. - 19 ม.ค. |
คุณเป็นคนธาตุดิน |
ชาวราศีกุมภ์ |
20 ม.ค. - 18 ก.พ. |
คุณเป็นคนธาตุลม |
ชาวราศีมีน |
19 ก.พ. - 20 มี.ค. |
คุณเป็นคนธาตุน้ำ |
ชาวราศีเมษ |
21 มี.ค. - 19 เม.ย. |
คุณเป็นคนธาตุไฟ |
ชาวราศีพฤษภ |
20 เม.ย. - 20 พ.ค. |
คุณเป็นคนธาตุดิน |
ชาวราศีเมถุน |
21 พ.ค. - 21 มิ.ย. |
คุณเป็นคนธาตุลม |
ชาวราศีกรกฎ |
22 มิ.ย. - 22 ก.ค. |
คุณเป็นคนธาตุน้ำ |
ชาวราศีสิงห์ |
23 ก.ค. - 23 ส.ค. |
คุณเป็นคนธาตุไฟ |
ชาวราศีกันย์ |
21 ส.ค. - 22 ก.ย. |
คุณเป็นคนธาตุดิน |
ชาวราศีตุลย์ |
23 ก.ย. - 23 ต.ค. |
คุณเป็นคนธาตุลม |
ชาวราศีพิจิก |
24 ต.ค. - 21 พ.ย. |
คุณเป็นคนธาตุน้ำ |
ชาวราศีธนู |
22 พ.ย. - 21 ธ.ค. |
คุณเป็นคนธาตุไฟ |
ธาตุดินกับธาตุดิน
ลักษณะพิเศษโดยธรรมชาติที่มีต่อความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่คือความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยระเบียบแบบแผน มีความชอบพอมั่นคงดี แต่ไม่ค่อยแสดงออกและมักไม่ค่อยมีจินตนาการถึงความสวยความงามและความรัก ความรักของคนธาตุดินทั้งคู่นั้นจะเกิดขึ้นภายหลังเมื่อมาอยู่ใกล้ชิดกันแล้ว อาจต้องทำงานหนักร่วมกัน และประสบความสำเร็จในการทำงานเสียก่อนจึงจะเกิดความรักใคร่สนิทสนมกันขึ้นตามมา
ธาตุดินกับธาตุน้ำ
เป็นธาตุต่างกันที่มีการหลอมรวมกันได้ดี ต่างคนต่างมีความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ เรามองง่ายๆ ก็คือว่าถ้าปราศจากน้ำ ดินก็จะเพราะปลูกไม่ได้ และน้ำก็จะทำให้ดินรู้สึกชุ่มชื้น และยิ่งเพิ่มความเยือกเย็นในขณะที่มีปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีอีกด้วย ธาตุดินนั้นสามารถช่วยคนธาตุน้ำในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นคู่ของคนธาตุดินกับธาตุน้ำจังเป็นความสดชื่น เต็มไปด้วยพลังจากธรรมชาติ
ธาตุดินกับธาตุลม
ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะว่าแต่ละคนมักจะยึดความคิดเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ คนธาตุดินนั้นอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ถ้าอยู่ด้วยกันจะพบความแห้งแล้ง เพราะมีความแตกต่างกันมากเกินกว่าจะยอมรับกันได้ หากเป็นคู่อยู่ร่วมกันแล้วจะหวังถึงความสุขสมบูรณ์ไม่ได้ง่ายๆ คนธาตุดินกับธาตุลมควรคบหาเป็นเพื่อนร่วมหมู่คณะ จะเป็นผลดีต่อความเจริญก้าวหน้าในองค์กรเสียมากกว่า
ธาตุดินกับธาตุไฟ
ชีวิตของคนทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันได้เพราะความกระตือรือร้น มีผลประโยชน์เป็นรากฐานที่ดีที่สุด คนธาตุไฟร้อนรนและมีจินตนาการมากมายไม่สิ้นสุด ในขณะที่คนธาตุดินจะสามารถควบคุมสิ่งเหล่านั้นให้อยู่ในความถูกต้องด้วยอารมณ์เยือกเย็น ลักษณะดีของคนทั้งคู่คือความอบอุ่น ธาตุดินสามาระกลมกลืนได้ในธาตุไฟ ความสัมพันธ์ตึงสมดุลและมีความสมบูรณ์ พูดได้ว่าเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดี
ธาตุน้ำกับธาตุน้ำ
การครองคู่ของคนธาตุน้ำทั้งสองนั้นเหมือนกันหมุนอยู่เป็นวงกลม ยามมีปัญหาก็ไม่สามารถหาทาง ออกให้แต่ละฝ่ายได้ เป็นคู่ที่ยึดถือจิตใจความรุ้สึกของตัวเองเป็นใหญ่ มีอารมณ์อ่อนไหวและมีลักษณะนิสัยไม่เสแสร้งรักชอบอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้นเป็นธรรมชาติของตัวเองจริงๆ แต่ในทางกลับกัน คนทั้งคู่มีความสามารถอย่างยิ่งในการทำทุกอย่างหเป็นที่สุดของความเครียดและเป็นเหมือนบททดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจอยู่ตลอดเวลา หากอยากเป็นคู่อยู่ด้วยกันก็ต้องพยายามนึกถึงความรักที่มีต่อกันให้มากๆ
ธาตุน้ำกับธาตุลม
วันเวลาจะสามาระพิสูจน์การฝ่าฟันมรสุมและความรุสนแรงของชีวิตคู่ของคนธาตุน้ำและธาตุลมได้ หัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันคือ ความรัก เวลาที่จะมีให้กัน และเมื่ออยู่ร่วมกันวันเวลาจะสามารถพิสูจน์ ธาตุน้ำคือเวลาที่จะมีให้กัน บางด้านคนคู่นี้ก็จะเต็มไปด้วยความเหลงไหล พูดจาน้ำลายแตกฟอง สนุกสนานเกินไปและไม่ค่อยจริงจังกับการทำมาหาเงินมากนัก แต่เมื่อยอยู่ร่วมกันคนธาตุน้ำจะมีความสามรรถที่จะถ่ายเทหลอมรวมให้คนธาตุลมมีชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ และถือเป็นคู่ที่ค้ำจุนซึ่งกันและกันได้ดี
ธาตุน้ำกับธาตุไฟ
คนธาตุไฟจะสามารถกระตุ้นให้คนธาตุน้ำเกิดความกระตือรือร้นมีไฟและมีพลังชีวิตเพิ่มขึ้นได้ ความสัมพันธ์ของคนคู่นี้เป็นความถูกต้อง น้ำจะช่วยปรับเปลี่ยนให้ความร้อนจากไฟนั้นลดลง เป็นการถ่ายเทพลังงานของคนสองคนที่มาอยู่รวมกันให้เกิดพลังแห่งการสร้างสรรค์และความสำเร็จได้ดี แม้ว่าคนธาตุน้ำจะเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ผันผวนเข้าใจยาก แต่คนธาตุไฟจะทำให้เกิดการประคับประคองที่ดีขึ้นและช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ในที่สุด
ธาตุลมกับธาตุลม
ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเทศะ คนธาตุลมมักเป็นคนใช้สมอง สติปัญญาเป็นสิ่งเร้าในการทำงาน แต่จะต้องการมากในเรื่องความอิสระในการใช้ชีวิตและความใจกว้างของแต่ละฝ่าย คนธาตุลมทั้งคู่จะสนุกสนานมากกับการเดินทาง เขาหรือเธอจะรักในความตื่นเต้นแปลกใหม่และเรื่องราวสัพเพเหระ กระจุกกระจิก ยากที่อารมณ์แปรปรวนเปลี่ยนแปลงต่างฝ่ายก็ต่างเออออเห็นพ้องต้องกัน แม้คนรอบข้างไม่เข้าใจแต่ทั้งสองคนจะเข้าใจในกันและกันพอประมาณ
ธาตุลมกับธาตุไฟ
ชีวิตของคนคู่นี้จะมีแต่ความตื่นเต้น จะมีความกระตือรือร้นเป็นแรงกระตุ้นสิ่งที่ดีคือคนธาตุลมจะมีความเย็นในขณะที่ธาตุไฟมีแต่ความเร่าร้อน แต่ก็ต้องระวังหากวันไหนไฟโหมแล้วลมยิ่งกระพือแล้วล่ะก็การเผาไหม้จะยิ่งลุกลามใหญ่โตได้ อารมณ์แบบนี้เหมาะกับการร่วมทีมกันต่อสู้กับศัตรูคู่แข่ง ถ้ามาใช้ในการอยู่ร่วมกันจะไม่ดีนัก แต่อย่างไรเสียความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในคือความเข้ากันได้ และหากมีความรักเป็นตัวช่วยด้วยแล้วล่ะก็จะมีความสุขดี
ธาตุไฟกับธาตุไฟ
คนธาตุไฟสองคนเมื่ออยู่ร่วมกันจะทำให้เกิดพลังมหาศาล ความสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องแปลกประหลาดน่าตื่นเต้น โดยธรรมชาติแล้วคนธาตุไฟจะอบอุ่น และกระตือรือร้นในการครองคู่มาก ลักษณะเฉพาะบุคคลขอธาตุไฟคือ มักมีทั้งรัก โลภ โกรธ หลง จึงจำเป็นต้องพยายามอย่างยิ่ง ที่คนธาตุไฟกับธาตุไฟจะไม่เผาไหม้กันเอง เมื่อมีปัญหาและต้องการหาทางออก หากรู้จักเปิดเผยและทำตัวเป็นมิตรกับคู่ธาตุไฟของตัวเองแล้วล่ะก็ถือว่าสามารถเป็นคู่ที่จะมีการยอมรับนับถือกันได้
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 29521
ตำรานาคสมพงษ์
หากจะดูว่า ชาย-หญิง คู่ใดจะอยู่เป็นผัวเมียกันผาสุกมั่งมีราบรื่นหรือไม่ ให้ดูตำราดวงนาคสมพงศ์นี้
นาคแต่ละตัว แบ่งเป็น ๓ ตอน คือ หัว กลาง และหาง แต่ละตอนมีวงกลมประจำอยู่ ๒ วง
ฝ่ายชายให้นับเริ่มจาก หัวนาค (เลข ๑) ไปทาง หางนาค (เลข ๑๒) โดยนับปีชวดเป็นปีแรก นับไปเรื่อยๆ จนถึงปีเกิดของตัวเองจึงหยุดนับ
ผู้ชายให้นับเริ่มตั้งแต่หัวนาค (เลข ๑) ไปหางนาค (เลข ๑๒) นับไปจนถึงปีที่ตัวเองเกิด เช่น คนเกิดปีมะแม ก็ให้นับ ๑ ปีชวด ๒ ปีฉลู ๓ ปีขาล ๔ ปีเถาะ ๕ มะโรง ๖ มะเส็ง ๗ มะเมีย ๘ มะแม แล้วหยุด ก็ตกกลางตัวนาคตัวที่ ๒ พอดี
ฝ่ายหญิงให้นับจาก หางนาค (เลข ๑๒) ย้อนกลับไปทาง หัวนาค (เลข ๑) นับปีชวดเป็นปีแรกเช่นเดียวกัน นับย้อนกลับมาจนถึงปีเกิดของตัวเองจึงหยุด ผู้หญิงให้นับเริ่มจากหางนาค (เลข ๑๒) ไปหัวนาค (เลข ๑) นับไปจนถึงปีที่ตัวเองเกิด เช่น คนเกิดปีมะโรง ก็ให้นับ ๑๒ ปีชวด ๑๑ ปีฉลู ๑๐ ปีขาล ๙ ปีเถาะ ๘ มะโรง แล้วหยุด ก็ตกกลางตัวนาคตัวที่ ๒ พอดี
ส่วนคำทำนายจะถือเอาตามที่ ชาย-หญิง ตกส่วนไหนของนาคตัวใด
๑. ชายหญิงตกที่หัวนาคตัวเดียวกัน ทายว่า ดีนักแล ชายหญิงนั้นจะอยู่กินร่วมสุขร่วมทุกข์กันตราบเท่าอายุขัยวัยชรา มีความสุขกายสบายใจยิ่งนัก
๒. ชายหญิงที่ตกหัวนาคแต่เป็นนาคคนละตัว ทายว่า แม้จะแต่งงานกันด้วยความรักใคร่อย่างยิ่งมักจะหย่าร้างกัน หรือจะต้องเป็นหม้ายฝ้ายหนึ่งในไม่ช้าแล
๓. ชายหญิงที่ตกหางนาคตัวเดียวกัน ทายว่า จะอยู่กินกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ทำมาหาเลี้ยงชีพกันด้วยความรักใคร่ปรองดองกัน แม้จะสุขจะทุกข์ก็ไม่ทอดทิ้งกัน
๔. ชายหญิงตกที่ตกหางแต่เป็นนาคคนละตัว ทายว่า มักจะหย่าร้างกัน ไม่ดีเลย อยู่ด้วยกันมีแต่ความทะเลาะกัน
๕. ชายหญิงที่ตกกลางตัวนาคตัวเดียวกัน ทายว่า ดีจะมีทรัพย์สินเงินทองโภคสมบัติ อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
๖. ชายหญิงตกกลางตัวนาค แต่เป็นนาคคนละตัวกัน ทายว่า จะอยู่กินกันไม่ทันก้นหม้อข้าวดำ จะต้องจากกันไป
๗. ถ้าฝ่ายหนึ่งตกที่หัวนาคอีกฝ่ายหนึ่งตกที่หางนาค ซึ่งเป็นนาคตัวเดียวกัน ทายว่า เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ปานกลาง
๘. ชายหญิงที่ตกกลางนาคร่วมจุดเดียวกัน ทายว่า คู่นั้นจะรักใคร่สมานสามัคคีกันดีนัก แต่จะลำบากมากกว่าสุข
๙. ชายหญิงฝ่ายหนึ่งตกที่หัวนาค หรือตกที่กลางตัวหรือตกที่หางนาค หรือร่วมจุดเดียวกันแห่งใดแห่งหนึ่งดังกล่าว ทายว่า คู่นั้นจะตกทุกข์ได้ยาก ลำบาก เดือดร้อนใจ ไม่ดีเท่าใดนัก
อีกนัยหนึ่ง ถ้าชายหญิงไล่เลียงดูแล้วปรากฏว่าตกจุดใดก็ตาม แต่เมื่อโยงออกมา กลับมาร่วมจุดที่โภคทรัพย์คือ ตกเงิน ทายว่า ดี ตกทอง ทายว่าดีมาก ตกแกลบ ทายว่าจะยากจน ตกทราย ทายว่าจะเข็ญใจ
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 13876
สมพงษ์ธาตุ
ผู้ชาย |
ผู้หญิง |
คำทำนาย |
ธาตุน้ำ |
ธาตุน้ำ |
อยู่ด้วยกันจะเป็นสุขใจ |
ธาตุน้ำ |
ธาตุดิน |
อยู่ด้วยกันจะมีความรักกันมาก |
ธาตุน้ำ |
ธาตุไม้ |
ดีนัก บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ |
ธาตุน้ำ |
ธาตุดิน |
ดีนักจะมีบุตรด้วยกันและอายุยืนนาน |
ธาตุดิน |
ธาตุน้ำ |
อยู่ด้วยกันปี หนึ่งจะได้ดี จะมีผู้อุปถัมภ์ |
ธาตุดิน |
ธาตุไม้ |
อยู่ด้วยกันดี |
ธาตุดิน |
ธาตุไฟ |
จะได้ดีเมื่อปลายมือ และจะมีทรัพย์มาก |
ธาตุดิน |
ธาตุเหล็ก |
อยู่ด้วยกันจะมีบุตรมาก |
ไธาตุม้ |
ธาตุไม้ |
อยู่ด้วยกันลาภผลพอประมาณ |
ธาตุไม้ |
ธาตุน้ำ |
อยู่ด้วยดีนัก จะมีทรัพย์มาก แต่เลี้ยงลูกยาก |
ธาตุไม้ |
ธาตุดิน |
รักกันแต่ต้องห่างกัน |
ธาตุไม้ |
ธาตุไฟ |
ดีจะมีบุตรชายก่อน แต่มักจะเป็นกำพร้า |
ธาตุไม้ |
ธาตุเหล็ก |
อยู่ด้วยกันไม่นาน |
ธาตุไฟ |
ธาตุไฟ |
อาภัพจัง |
ธาตุไฟ |
ธาตุน้ำ |
เมื่อต้นมือมิสู้จะดีภายหลังจึงจะดี |
ธาตุไฟ |
ธาตุดิน |
อยู่ด้วยกันดี แต่ต้องแยกจากกันก่อน |
ธาตุไฟ |
ธาตุไม้ |
มิสู้ดีวิวาทเป็นปากเสียงกัน |
ธาตุไฟ |
ธาตุเหล็ก |
หาสมบัติมิได้เลย |
ธาตุเหล็ก |
ธาตุเหล็ก |
ดีนักจะอยู่เย็นเป็นสุข |
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 54114
ตำราพรหมชาติ
วันเดือนคู่มิตร ศัตรู
วันคู่มิตร
วันอาทิตย์ |
คู่มิตร |
วันพฤหัสบดี |
วันจันทร์ |
คู่มิตร |
วันพุธ |
วันศุกร์ |
คู่มิตร |
วันอังคาร |
วันราหู(พุธกลางคืน) |
คู่มิตร |
วันเสาร์ |
วันที่เป็นศัตรู
วันอาทิตย์ |
เป็นศัตรู |
วันอังคาร |
วันจันทร์ |
เป็นศัตรู |
วันพฤหัสบดี |
วันพุธ |
เป็นศัตรู |
วันพุธกลางคืน |
วันศุกร์ |
เป็นศัตรู |
วันเสาร์ |
เดือนที่เป็นมิตร
เดือน ๓ |
เป็นมิตร |
เดือน ๕ |
เดือน 6 |
เป็นมิตร |
เดือน 12 |
เดือน 4 |
เป็นมิตร |
เดือน 8 |
เดือน 7 |
เป็นมิตร |
เดือน 9 |
เดือน 1 |
เป็นมิตร |
เดือน 2 |
เดือน 10 |
เป็นมิตร |
เดือน 11 |
เดือนที่เป็นศัตรู
เดือน 5 |
เป็นศัตรู |
เดือน 11 |
เดือน 1 |
เป็นศัตรู |
เดือน 6 |
เดือน 2 |
เป็นศัตรู |
เดือน 7 |
เดือน 3 |
เป็นศัตรู |
เดือน 8 |
เดือน 4 |
เป็นศัตรู |
เดือน 10 |
เดือน 9 |
เป็นศัตรู |
เดือน 12 |
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 13722
ตำราดู ภริยา 7 ประเภท
(ผู้ชายควรศึกษาไว้)
คิดให้ดีก่อนแต่งกับ...ตำราดูภริยา 7 ประเภท
เชื่อว่าไม่ว่าหญิงหรือชาย ส่วนมากถ้าเลือกได้ก็คงอยากจะมี “คู่ครอง” ที่สามารถร่วมชีวิตกันได้อย่างยาวนาน แบบที่โบราณว่า “ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร” แม้ว่าระหว่างการครองคู่ร่วมกันนั้น ฝ่ายหญิงต้องเอาไม้เท้า กระบองกำราบฝ่ายชายที่แอบไปมีกิ๊กบ้าง แต่หากสามารถอยู่กันตลอดรอดฝั่งจนตายจากกันไปข้างหนึ่ง ก็ขึ้นชื่อว่าเป็น “คู่สร้างคู่สม” ที่เป็นชีวิตคู่ที่พึงปรารถนา
ชายและหญิงที่โคจรมาใช้ชีวิตร่วมกันนั้น บางคนก็อาจจะเป็นคู่สร้างคู่สมที่กลายเป็นมาคู่คิด คู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นคู่เวรคู่กรรม คู่กัด คู่แข่ง หรือบางครั้งก็เป็นเพียง คู่ขา ที่มาอยู่ด้วยกันเพียงครั้งคราวก็ได้ อย่างไรก็ดี คนโบราณเขาก็พูดถึง ผู้หญิงที่ชายจะได้มาเป็นคู่ครอง ว่ามีอยู่ 7 ประเภทด้วยกันคือ
1. วธกาภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงเพชฌฆาต คือ เมียที่ไม่ได้อยู่กินกันด้วยความพอใจ ดูหมิ่น และคิดทำลายสามี (เมียแบบนี้สงสัยเป็นประเภทถูกฉุด หรืออาจถูกบังคับให้แต่งมาก็ได้)
2. โจรีภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงโจร คือ เมียชนิดล้างผลาญทรัพย์สมบัติ (พวกที่ชอบขอเงินสามีซื้อเพชรราคาแพง จะเข้าข่ายไหมเนี่ย)
3. อัยยาภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงนาย คือ เมียที่เกียจคร้าน ไม่ใส่ใจการงาน ปากร้าย หยาบคาย ชอบข่มสามี หรือดุด่าสามีเป็นประจำ (ดูท่าจะเป็นลักษณะของเมียโดยทั่วไป)
4. มาตาภริยา
หมายถึง ภริยาเยี่ยงมารดา คือ เมียที่หวังดี คอยเป็นห่วงเป็นใย เอาใจใส่ สามีหาทรัพย์มาได้ก็เอาใจใส่คอยประหยัดรักษา (มีเมียแบบนี้ ก็ทำให้สามีสบายใจ)
5. ภคินีภริยา
คือ ภริยาเยี่ยงน้องสาว คือ เมียที่เคารพรักสามี ดังน้องรักพี่ มีใจอ่อนโยน รู้จักเกรงใจ มักคล้อยตามสามี (ประเภทนี้ไม่ค่อยมีปากมีเสียง สามีก็มักรักและเอ็นดู)
6. สขีภริยา
คือ ภริยาเยี่ยงสหาย คือ เมียที่เป็นเหมือนเพื่อน มีจิตภักดี เวลาพบสามีก็ร่าเริงยินดี วางตัวดี ประพฤติดี มีกิริยามารยาทงาม (เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจ แหม! ฟังเหมือนสโลแกนธนาคาร)
7. ทาสีภริยา
คือ ภริยาเยี่ยงทาส คือ เมียที่ยอมอยู่ใต้อำนาจสามี ถูกสามีตะคอกตบตี ก็อดทน ไม่แสดงความโกรธตอบ (เรียกว่ากลัวสามีหงอ แต่ประเภทนี้ก็ต้องระวัง หากเก็บกดมากๆ ระเบิดขึ้นมาเมื่อไร สามีตายได้ไม่รู้ตัว)
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 36152
ตำรับทำนายไฝ
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
สิทธิการิยะ ฯ เกจิอาจารย์เจ้าท่านผู้เข้าใจในลักษณะคนทั้งชายและหญิงท่านได้รวมหลักเกณฑ์พยากรณ์เกี่ยวกับลักษณะไฝและปานของคนเราที่มีทั้งให้คุณและให้โทษไว้มีอย่างนี้
(ก) ไฝมีลักษณะเป็นสีดำบ้าง แดงบ้าง นูนออกมาบ้าง แนบเนื้อบ้าง มีทั้งเม็ดโตเม็ดเล็ก อาจจะขึ้นที่ใดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่วนมากเป็นเครื่องหมายหรือนิมิตในทางดี
มีส่วนเสียต่อเจ้าของน้อยมากที่สุด
(ข) ปานมีลักษณะเป็นผื่นดำบ้าง แดงบ้าง มักมีลักษณะน่ารังเกียจให้โทษมากกว่าให้คุณต่อเจ้าของผู้มี ส่วนดีที่ว่าให้คุณมีน้อยมากแลฯ
1. ถ้ามีไฝขึ้นริมชายผม ไม่ว่าชายหรือหญิง ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเจ้าระเบียบ รักและเอาใจใส่ต่อตัวเองดี ชอบสะอาด สนใจตัวเองมาก ไม่สู้จะเอาใจใส่ต่อวงสังคม
2. ชายใดมีไฝที่ขอบผมหน้าผาก หรือบริเวณขอบหน้า ทายว่า ผู้นั้นจะเป็นคนดีมีวาสนา ถ้าไฝนั้นมีลักษณะขาวหม่น หรือสีแดง ทายว่า จะมีความสุขมีทรัพย์สินบริวารมาก
3. หญิงใดมีไฝ ดังกล่าว (2) ทายว่าจะมีความสุข จะได้คู่ครองที่เฉลียวฉลาด มีความสุขในการครองเรือน พร้อมพรั่งด้วยทรัพย์สินเงินทอง ข้าทาสบริวารมากนัก
4. ชายหญิงใด มีไฝที่ขมับขวา เม็ดไฝนูนดี ชายหญิงนั้น ทายว่า เป็นคนกำพร้า หรือเกิดมามิได้อยู่กับบิดามารดาถ้าไฝมีสีแดงปนดำ ทายว่า เมื่อน้อยเลี้ยงยาก
เมื่อโตขึ้นจะเป็นคนดีมีผู้อุปถัมภ์เลี้ยงดู มีเพื่อนฝูงที่ไว้วางใจช่วยเหลือได้จริง ๆ มาก
5. ชายหญิงใด มีไฝที่ขมับซ้าย ทายว่า ชายหญิงนั้นเมื่อน้อยได้รับการเลี้ยงดูดีมาก จนหลงลืมความทุกข์ยากลำบาก เมื่อเติบโตมักจะลำบากหาคนช่วยเหลือได้ยากเหลือเกิน
6. ชายหญิงใด มีไฝที่หน้าผาก ระหว่างคิ้ว ทายว่า ผู้นั้นมักเอาแต่ใจตนเอง หมิ่นแคลนคนอื่น ฉลาด มีไหวพริบทันคน จะตั้งตัวได้ด้วยลำแข็งตนเอง แต่มักจะมีศัตรูมาก
7. ผู้ใด (ชาย-หญิง) มีไฝขึ้นชายผมด้านก้านคอ ทายว่า ผู้นั้นชอบสิ่งที่ละเอียดอ่อน มีระเบียบเรียบร้อย มีนิสัยอ่อนโยน แต่มักขี้อาย ไม่ชอบเปิดเผยตัวเองในวงสังคม
8. ผู้ใดมีไฝที่คิ้วขวา ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์รักสวยรักงาม เป็นที่ถูกตาต้องใจของต่างเพศ มีลักษณะเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา เจรจาพาทีไพเราะถูกใจคนทั่วไป
ถ้าไฝนั้นอยู่หัวคิ้ว ทายว่า เป็นคนมีอารมณ์ทางเพศรุนแรง ถ้าไปอยู่ปลายหรือหางคิ้วทายว่า มีนิสัยเหนียมอาย มีนิสัยเหนียมอาย แต่เก็บอารมณ์ไว้มิดชิดดีมาก
9. ผู้ใดมีไฝที่คิ้วซ้าย ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ มักมีเหตุทุกข์ใจไม่สบายอารมณ์อยู่เสมอ ๆ เจ้าทุกข์
ถ้าไฝนั้นอยู่หัวคิ้ว ทายว่า ดีมีหัวคิดทางการค้าขาย เป็นนักธุรกิจติดต่อเข้าสังคม เก่งทันคน แต่ถ้าไฝนั้นอยู่หางคิ้ว ทายว่า มีโอกาสร่ำรวยได้มากใช้เงินทองเก่ง ใจกว้าง
ไม่ค่อยมีความรอบคอบ ชอบสมาคมกับคนชั้นต่ำกว่าตน มักฉวยโอกาสกระทำความผิดเสี่ยงต่อการเลี่ยงข้อบทกฎหมาย
10. ผู้ใดมีไฝที่ก้านคอด้านหลัง ทายว่า ผู้นั้นมักเป็นคนอาภัพ หาเวลาเป็นของตัวเองได้ยาก แม้จะมั่งมีเงินทองของใช้บริวาร ก็ไม่ยั่งยืน มักจะเป็นโรคทางระบบสมอง
11. ผู้ใดมีไฝที่ขมับขวา ทายว่า ผู้นั้นจะมีหัวคิดริเริ่มดี ทำกิจการใด ๆ มีแต่ทางก้าวหน้า ร่ำรวย ทำราชการงานหลวงจะเป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชา
หรือได้เป็นที่ปรึกษาในวงราชการชั้นสูง แต่ท่านว่ารับอาสาผู้อื่นจนเกินไป โรคภัยมักจะเบียดเบียน คือโรคเกี่ยวกับระบบสมองหรืออัมพาต
12. ผู้ใดมีไฝที่ขมับซ้าย ทายว่า ผู้นั้นเป็นเจ้าความคิดสำหรับคนอื่นเมื่อถึงเวลาตัวเองแก้ปัญหาไม่ตก ทำคุณกับใครเหมือนไฟตกน้ำ มักเป็นคนอาภัพทางการเงิน มีงานทำดี
ก้าวหน้าช้าแต่แน่นอน
13. ผู้ใดมีไฝที่เปลือกตาขวา ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าเสน่ห์มีกโลบายทางเพศและกามารมณ์สูง รู้จักปรนเปรอและเอาใจเพศตรงข้ามดีมาก ใครสบตาเป็นต้องหลงรัก มีรสนิยมทางเพศสูงมาก
อนึ่ง ท่านว่า เป็นชายมักไม่สมหวังเกี่ยวกับความรัก จะหาความสุขทางครองเรือนได้ยาก เพราะเริ่มต้นดี นาน ๆ ไปจะหาใครแน่นอนด้วยไม่มีเลย ถ้าเป็นหญิงท่านว่าจะประพฤติตัวผิด
คู่ของหญิงอื่น มักมีชายมารับอุปการะไม่เดือดร้อน มักมากทางกามคุณการเงินดี
14. ผู้ใดมีไฝที่เปลือกตาซ้าย ทายว่า ผู้นั้นจะมีลาภทางการเงินและการงานจากเพศตรงข้าม ไว้ไฟทางด้านกามารมณ์ นิสัยปากว่ามือถึง โกรธง่าย หายเร็ว ชอบให้คนอื่นเอาอกเอาใจตน
อนึ่ง ท่านว่า เป็นชายมักไม่เลือกลูกสาวเขาเมียใคร มีรสนิยมทางเพศต่ำ มักชอบสมสู่กับหญิงทุกชั้น ถ้าเป็นหญิง ท่านมักเป็นหม้ายร้างคู่ มีเสน่ห์ทางเพศต่ำ
15. ผู้ใดมีไฝที่หางตาขวา ระหว่างเกือบหรือตรงร่องน้ำ ทายว่า ผู้นั้นมีนิสัยชอบสนุกสนาน ชอบเสี่ยงกับความรัก ๆ ใคร่ ๆ มักจะมีคู่ไม่จีรังยั่งยืนเป็นตัวเป็นตน มีวิถีชีวิตขึ้น ๆ เร็ว ตก ๆ วูบ
เงินทองไม่สู้จะขาดมือ อนึ่ง ท่านว่า เป็นชายมักจะมีแม่หม้ายทรงเครื่องให้ความช่วยเหลืออุปการะ จะสุขกาย สบายใจ แต่ทว่าลำบากใจนัก ถ้าเป็นหญิง ท่านว่า เมื่อน้อยจะสุขสบายใจ
จะลำบากหาที่พึ่งไม่ได้เมื่อวัยชรา ญาติกาวงศาจะทอดทิ้ง ไร้ญาติขาดมิตรที่จริงใจต่อตัวเอง
16. ผู้ใดมีไฝที่สะบักหลังทั้งขวาและซ้าย ทายว่า ผู้นั้นชอบทดลอง มีความสงสัยเกี่ยวกับกามารมณ์อยู่ตลอดเวลา มักมีเสน่ห์ในตัวเอง ไปไหนที่ใดมักมีผู้ให้ความอุปการะ นิสัยชอบ
สนุกสนาน ร่าเริง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ใจคอเป็นกันเองกับคนทั่วไป โดยเฉพาะกับเพศตรงข้าม ตลอดชีวิตมีทั้งดีไม่ดี ระคนปนกัน อนึ่ง ถ้าไฝนั้นขึ้นทางสะบักขวา
ท่านว่าไม่สู้ดี หากอยู่ทางซ้าย ท่านว่านอกจากจะเป็นดังกล่าวแล้ว ยังทำให้ผู้นั้นละนิสัยชั่ว ๆ ได้ เมื่อวัยกลางคนไปแล้ว จะเป็นคนมีสติระมัดระวังตัวเองมากขึ้น
17. ผู้ใดมีไฝที่ใต้ขอบตาขวา ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าเสน่ห์ เป็นที่หลงใหลของเพศตรงข้าม ตัวเองแม้จะมีใบหน้ายิ้มแย้ม ก็เก็บความระทมทุกข์ไว้มาก มักมีนิสัยเป็นคนขี้บ่น
พูดพล่อยเจ้าอารมณ์ไม่จริงจังกับใคร ๆ จะมีความเหนื่อยหน่ายในชะตาชีวิตเป็นครั้งคราว
18. ผู้ใดมีไฝที่ ขอบตาซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนอารมณ์ดี เปิดเผยเจรจาขวานผ่าซาก ไม่เกรงใจคน มีศัตรูในทางธุรกิจการงานมาก มักประสบอุปสรรคในการประกอบกิจการทั่ว ๆ ไป
มีนิสัยรักหมู่คณะดี แต่การกระทำใด ๆ ดุจเป็นการกระทำที่ปิดทองหลังพระ หาคนที่ไว้เนื้อเชื่อใจตนยากมาก
19. ผู้ใดมีไฝที่ ดั้งจมูก ทายว่าผู้นั้น นับว่าโชคดี มีวานาชะตาสูง จะพบกับความสุขสบายตลอดชีวิต มีสติปัญญาสามารถเอาตัวรอดได้เสมอ ๆ จะประกอบธุรกิจการงานใด ๆ มักก้าวหน้า
มีนิสัยรักเกียรติยศชื่อเสียง มีคุณธรรม ประจำใจสูง รักศิลปวิทยาที่ปัญญาชนทั่วไปเขาชอบระดับดี
อนึ่ง ถ้าไฝนั้นมีลักษณะแดง หรืออมชมพู ท่านว่า ยิ่งส่งเสริมฐานะเจ้าตัวให้ปรากฏมีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งขึ้น มักเป็นบุคคลที่มองเห็นการณ์ไกล
20. ผู้ใดมีไฝที่ ที่ปลายจมูก ทายว่าผู้นั้นเป็นคนผู้ประสบความสมบูรณ์พูนสุขที่สุขในชีวิต ไม่ว่าจะประกอบธุรกิจชนิดใด ๆ นับว่าเป็นการก้าวหน้าไปข้างหน้าเสมอ จะมีคู่ครองที่รักกันจริง ๆ
เมื่อวัยเริ่มต้น การครองเรือนมักพบปัญหาและอุปสรรค เพราะมีผู้อิจฉาริษยามาก เข้าวัยกลางคนไปแล้ว จะรุ่งเรืองมั่งมีสุขทุกประการ
21. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างจมูกด้านขวา ทายว่าผู้นั้นมีวาสนาดี มีความพากเพียรมานะพยามยามสูงส่ง ประกอบด้วยอุดมคติที่มีระเบียบ สติปัญญาหลักแหลม จะมีวิถีชีวิตที่ราบรื่น
ถ้าไฝเม็ดนี้อยู่ไม่สูงเกินไป ทายว่า จะเป็นขุนพลังเสน่ห์ต่อเจ้าของมากทีเดียว หากไฝดังกล่าวอยู่สูงและห่างจมูกมาทางโหนกแก้มขวา ท่านว่า แทนที่จะให้คุณกลับจะให้โทษ
กล่าวคือ จะทำให้เจ้าของมีความระทมทุกข์ มีจิตใจกังวลในกิจการงานที่คิดว่าทำอยู่ตลอดเวลา เป็นหญิงท่านว่า จะเป็นคนเจ้าน้ำตา
22. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างจมูกซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีโภคทรัพย์หรือได้รับมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ มีนิสัยใจคอรักความสงบ มีศีลธรรมประจำใจเสมอ ไม่ชอบเอาเปรียบผู้ใด
จะเป็นคนประสบโชคลาภอยู่เสมอ ๆ แต่ถ้าไฝนั้นอยู่ห่างจากจมูกไม่สู้ดี จะให้ผลตรงกันข้ามทีเดียว
23. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณแก้วขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์ใครเห็นใครรักอยากทักทายปราศรัยด้วย มักจะเป็นภัยแก่เจ้าตัวเพราะจะมากคู่หลายชู้
ถ้าเป็นชาย ท่านว่า จะเป็นหม้าย มีเมียหลายคน มักมากในกามารมณ์ มักยากจน เงินทองของใช้ จะต้องพึ่งเมีย ตัวเองจะเหน็ดเหนื่อยต้องใช้กำลังแรงหาเลี้ยงชีพ หากเป็นหญิง ท่านว่า
มักแพ้ตัว ตกเป็นพุ่มหม้ายหลายครั้งไม่ยั่งยืนนาน แต่จะมีทรัพย์สินเงินทองมากเป็นหม้ายก็หม้ายทรงเครื่อง เป็นที่หมายปองของชายทั่วไปชั่วครั้งคราว
24. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณแก้มซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีอำนาจวาสนา ชะตาชีวิตสูงส่งรุ่งเรืองกว่าใคร ๆ ในสกุลเดียวกัน ชอบคบหาสมาคมกับต่างชาติ ต่างภาษา รักความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย ปากหวานก้นเปรี้ยวคบใครไม่ได้นาน มักจะเบื่อเขาก่อนเสมอ ๆ มีรสนิยมทางกามารมณ์ขึ้นรุนแรงมาก
ถ้าไฝมีสีแดงหรือชมพู ท่านว่า จะมีความขยันขันแข็ง มานะอดทน ค่อนข้างมีนิสัยเจ้าชู้สักหน่อย ถ้าไฝมีลักษณะเนื้อนูนเด่นมองเห็นชัดเจน มากท่านว่าจะมีความเฉลียวฉลาดไหวพริบ
ทันคนทั่วไป ทำมาค้าขายหรือรับราชการจะก้าวหน้ารวดเร็ว เสียอย่างเดียว คือ มีความรักไม่จีรังยั่งยืน
25. ผู้ใดมีไฝที่ โหนกแก้วขวา ทายว่าผู้นั้นจะมีนิสัยเห็นแก่ตัวมาก มีคู่เงินทองหรือสมบัติ เขามักเอาเปรียบคนโดยหวังร่ำรวยทางทุจริต มักประกอบมิจฉาชีพโดยไม่มีความยั้งคิด
ไฝเม็ดนี้ ท่านว่า เจ้าตัวไม่ควรเอาไว้ ควรทำลายเสียจึงจะดี
26. ผู้ใดมีไฝที่ โหนกแก้วซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีคนอุปถัมภ์ค้ำชู เกิดที่นี่ไปได้ดีมีหลักฐานที่อื่น ใจกว้างชอบทำบุญให้ทานไม่หวังผลตอบแทน
27. ผู้ใดมีไฝที่ข้างหูขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นนักธุรกิจที่ก้าวหน้า มีหูตา มองเห็นการณ์ไกร รู้สภาพบ้านเมืองเรื่องค้าขาย หรือไหวตัวทางเศรษฐกิจทันตลาดโลก หากมีคู่ครองมากคน มีความสุขกายไร้ความสุขใจ
28. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างหูซ้าย (ด้านหน้า) ทายว่าผู้นั้นจะเป็นนักธุรกิจที่ก้าวหน้า มีหูตา มองเห็นการณ์ไกล รู้สภาพบ้านเมือง เรื่องค้าขาย หรือไหวตัวทางเศรษฐกิจทันตลาดโลก หากจะมีคู่ครองมากคน มีความสุขกายไร้ความสุขใจ
29. ผู้ใดมีไฝที่ ข้างหูขวา (ด้านหลัง) ทายว่าผู้นั้นมีนิสัยเย่อหยิ่ง จองหอง เชื่อความสามารถตนเองเกินไป มีสติปัญญาจริง แต่มักมีศัตรูมาก
30. ผู้ใดมีไฝที่ข้างหูซ้าย (ด้านหลัง) ทายว่าผู้นั้นเป็นคนหันหลังให้กับสังคม เอาแต่ธุรกิจของตนเองอย่างเดียว มักประสบความร่ำรวยหลายครั้ง ล่มจมหลายหนเช่นเดียวกันเป็น
คนเจ้าอารมณ์หึงหวงเป็นที่หนึ่ง เอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่
31. ผู้ใดมีไฝที่ ริมฝีปากบน (ทั้งขวาและซ้าย) ทายว่าผู้นั้น จัดว่าเป็นผู้ประสบโชค วาสนาชะตาสูงมาก จะพบคู่ครองเป็นที่พึ่งพาอาศัยได้ดี เจ้าตัวมักเป็นคนช่างพูด เจ้าคารมคมคาย
เจรจาพาทีดึงดูดจิตใจเพศตรงข้าม ใครเห็นใครรักทักทาย มีเงินมีทองใช้ฟุ่มเฟือยไม่สู้จะมัธยัสถ์
อนึ่ง ท่านว่า ถ้าเป็นชาย มักเจ้าชู้ประตูดิน จิตใจไม่ค่อยซื่อตรงต่อเพศตรงข้าม ง่ายนัก ชอบแต่งตัวเป็นสุภาพบุรุษเสมอ แม้กระเป๋าจะไม่มีเงินเลยก็ตาม ถ้าเป็นหญิง ท่านว่า
เป็นคนมักง่าย ใจร้อน ชอบให้คนเอาใจตัวเอง จะพบชายในขณะเดียวกันหลายคน เป็นนักประชาสัมพันธ์ก้าวหน้าดีมาก
32. ผู้ใดมีไฝที่ ริมฝีปากล่าง (ทั้งซ้ายและขวา) ทายว่าผู้นั้นเสมือนมีบาปเคราะห์ มาเกิดบนเส้นทางชีวิตเป็นชายมักมีสติปัญญาไม่ทันคน นิสัยฉุนเฉียว จู้จี้ โมโหร้าย ไม่มีเหตุผล
เป็นหญิงมักใจง่าย ประสบชะตากรรมที่ไม่สู้จะดี ผู้ใดมีไฝดังกล่าวควรทำลายเสีย จึงจะดี
33. ผู้ใดมีไฝที่ ที่ริมคางขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคน เจ้าอารมณ์คมคาย มีสติปัญญาสามารถหลายอย่าง จะเป็นคนประสบโชคดีในการทำงานเสมอ ๆ จะมีเกียรติยศมีชื่อเสียง มักจะได้เป็น
ที่ปรึกษาข้าราชการงานเมือง หรือที่ปรึกษาทางธุรกิจติดต่อ
34. ผู้ใดมีไฝที่ ริมคางซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนช่างพูด เจรจาพาทีพล่อย ๆ ไม่ค่อยมีเหตุผล รักใครรักจริงหลงงามงาย ทำงานอะไรได้ทุกอย่าง แต่จะเอาดีมีระเบียบไม่ค่อยจะได้
หากว่ามีความมานะอดทนดี ไม่ชอบให้ใครเขามาดูหมิ่นฝีมือ
35. ผู้ใดมีไฝที่ ไหล่ขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคนชอบอาสาเจ้านายดี มีสติปัญญา สามารถมาก แต่ใช้กับคนอื่นเท่านั้น แก้ปัญหาชีวิตตัวเองไม่ได้ ทำราชการงานหลวงก้าวหน้า
ทำงานส่วนตัวไม่เจริญ
36. ผู้ใดมีไฝที่ ไหล่ซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีสติปัญญาไหวพริบทันคนทั่วไป ทำงานราชการไม่ดี เพราะตัดสินใจตัวเองไม่ได้ ทำงานส่วนตัวจะก้าวหน้า เพราะมีความพินิจพิเคราะห์
สุขุมรอบคอบทันการณ์ จะมีทรัพย์สินเงินทองของใช้มาก เกี่ยวกับเรื่องความรัก นับว่าเป็นคนมีความสามารถเอาอกเอาใจเพศตรงข้าม (ดีกว่าข้อ 35) จะประสบชีวิตการครองเรือน
37. ผู้ใดมีไฝที่ ใต้คาง ทายว่าผู้นั้นเป็นคนชอบทำอะไรลึก ๆ ลับ ๆ เจ้าเล่ห์ กโลบายมากทีเดียว เป็นสมณะชีพราหมณ์จะเป็นที่เคารพนับถือ มีชื่อเสียงมาก เป็นชายไม่สู้จะดี จะประสบความ
เร่าร้อนในการประกอบอาชีพ เลี้ยงตัวเองมาก หากเป็นหญิงท่านว่า เป็นที่ถูกอกถูกใจสามีมาก เพราะรักสงบมีระเบียบเรียบร้อย พูดแต่น้อยมีความหมายมาก
38. ผู้ใดมีไฝที่คอหอย (ลูกกระเดือก) ทายว่าผู้นั้นจะมีข้าวของเงินทองมาก อาการการกินไม่ขาดบ้านจะเป็นคนเยือกเย็นมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใจกุศล รักงานศิลปะ สิ่งที่ละเอียดประณีต
สติปัญญาอยู่ในระดับปานกลาง จิตใจอารี มีหลักศีลธรรมสูงต่อสังคมทั่วไป แต่มักมีโรคภัยทางหลอมลมเบียดเบียน
39. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณไหปลาร้าขวา ทายว่าผู้นั้นมีเครื่องหมายทางอัปมงคล ไม่ค่อยประสบโชคทางการครองเรือนครองรักนัก จะต้องเหน็ดเหนื่อยในการทำมาหาเลี้ยงชีพมักจะเป็นคนมี
นิสัยบึกบึนขยันในการทำงาน แต่มักไม่ค่อยพอเก็บเพียงเท่าพอกินเท่านั้นเอง จะมีความสุขเข้าวัยชรา
40. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณไหปลาร้าซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ มักมากทางกามารมณ์ มีปมด้อยไม่ค่อยจะเชื่อใครง่าย ๆ คารมคมคายให้เพศตรงข้ามเชื่อได้ง่าย เป็นนักคิดนักเขียน
ขายฝันดี ประกอบการค้าขายด้วยตัวเอง ไม่ก้าวหน้า ทำราชการพอประมาณตน สำหรับหญิงดีมากในทุก ๆ ทาง
41. ผู้ใดมีไฝที่กลางสันหลัง ทายว่าผู้นั้นไม่ค่อยจะมีความอดทนต่อการทำอะไร นาน ๆ มักชอบอยู่อย่างสงบสิ่ง ใช้ความคิดความอ่านบนเตียงนอนมากกว่า บุคคลชนิดนี้
มักลำบากแต่วัยเด็ก ๆ พอย่างเข้ากลางคนแล้ว จะเป็นคนมั่งมีเงินทองของใช้เหลือเฟือจะประสบความสุขในการครองเรือน
42. ผู้ใดมีไฝที่ รักแร้ ทายว่าผู้นั้นมักมีความกังวลใจเกี่ยวกับชีวิตในอดีตและปัจจุบัน ที่ตราตรึงให้คิดอยู่เสมอในทางอกุศลนิสัยมักจะเชื่อคนได้ง่าย
ถ้าเป็นชาย ทายว่า จะเป็นคนมีสติปัญญาดี เสียทีเป็นคนอารมณ์ร้อน กามารมณ์รุนแรง ขี้หึง ถ้าเป็นหญิงท่านว่าสติปัญญาไฝ่ต่ำ ไม่รักญาติมิตรของตนเองจะมากคู่หลายผัว
หากขาดการศึกษาจะถึงกับคิดฆ่าตัวเอง
43. ผู้ใดมีไฝที่ หัวไหล่ขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคนมีความคิดริเริ่ม เป็นหัวหน้าคน งานทั่วไปดี ทำราชการจะก้าวหน้าไปรวดเร็ว มักจะอาภัพเกี่ยวกับคู่ครองและการครองเรือน
44. ผู้ใดมีไฝที่ หัวไหล่ซ้าย ทายว่าผู้นั้นทำกิจการอะไรด้วยตนเอง ไม่ค่อยจะก้าวหน้า ถ้ารู้จักใช้คนจะประสบความสำเร็จสมหวัง จะประสบความสำเร็จในการครองเรือน มีบริวารมาก
45. ผู้ใดมีไฝที่ ราวนมขวา ทายว่าผู้นั้น ไม่สู้จะมีความคิดเป็นของตัวเอง มักจะไม่แน่ใจหรือไว้วางใจใครแม้กับตัวเอง ลังเลใจในงานทุกอย่าง ทำงานต้องมีพี่เลี้ยงหรือผู้นำจึงจะ
ก้าวหน้า โอกาสที่จะเป็นหัวหน้าคนนั้นยาก
46. ผู้ใดมีไฝที่ เหนือราวนมซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีจิตใจมั่นคง เชื่อมั่นในแนวความคิดของตัวเอง จะประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจการงานทุกอย่าง จะได้เดินทางไกล ไปติดต่อกับ
ชาวต่างประเทศ หรือเกิดที่นี่ไปได้ดีมีหลักฐานมั่นคงที่อื่น
47. ผู้ใดมีไฝที่ใต้ราวนมขวา ทายว่าผู้นั้นมีความรู้สึกนึกคิดทางกามารมณ์รุนแรง รักใคร่พอใจในท่าทีต่าง ๆ ของเพศตรงข้ามมักมากชู้หลายคู่ครอง
48. ผู้ใดมีไฝที่ ใต้ราวนมซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในการครองเรือน จะมีคู่ที่มีรสนิยมต้องใจมาก ดำเนินกิจการใด ๆ ก็จะก้าวหน้า มีทรัพย์สมบัติบริวารมาก
49. ผู้ใดมีไฝที่ ตรงกลางระหว่างราวนม ทายว่าผู้นั้นเป็นคนอาภัพญาติพี่น้อง หรือทายว่า จะเป็นคนกำพร้ามาแต่เยาว์วัย เมื่อเข้าวัยหนุ่มสาวจะมีความสุขในการครองเรือน วัยชราจะ
มีข้าทาสบริวารลูกหลานมาก
50. ผู้ใดมีไฝที่ กลางสันหลัง จริง ๆ ทายว่าผู้นั้นเสมือนมีตราบาปประทับอยู่บนเส้นทางชีวิต ท่านวาไม่ควรเอาไว้ให้เร่งเอาออกเสีย
51. ผู้ใดมีไฝที่ กลางหลังซีกด้านขวา ทายว่าผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักธุรกิจ การค้า ให้ระวังเรื่องโรคภัยไข้เจ็บอันเนื่องมาจากปอด
52. ผู้ใดมีไฝที่ กลางหลังซีกด้านซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะทำอะไรมักจะนั่งคอยเอาได้เลย มีผลสำเร็จมากกว่าพลาดหวัง
53. ผู้ใดมีไฝที่ หน้าท้องส่วนบน ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเห็นแก่ได้ เห็นแก่กิน มักจะมีร่างใหญ่ท้องพลุ้ย ยิ่งอาภัพหนัก ถ้ามีร่างกายผอมบางถึงจะดี แต่ท่านให้เร่งระวังบริวาร จะคิดไม่ซื่อ
จะแพ้คู่ครอง ทางโรคภัยไข้เจ็บ เกี่ยวกับลำไส้และบริเวณท้อง
54. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณท้องน้อย ทายว่าผู้นั้นจะมีความรู้สึกทางเพศลึกซึ้ง เอาใจต่างเพศในเรื่องกามกิจดีถูกใจมาก ถ้าเป็นชายจะประสบความสำเร็จในการเป็นหัวหน้าคุมซ่อง
หากเป็นหญิงจะต้องเป็นทาสชายชู้ไปตลอดวัยกลางคนจะเข้าเกณฑ์ดีมีความสบายเมื่อวัยชรา
55. ผู้ใดมีไฝที่ สะบักหรือชายโครงด้านขวา ทายว่าผู้นั้น จะประสบความก้าวหน้าในเรื่องการเป็นนายหน้า หรือนักประชาสัมพันธ์ จะมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ
56. ผู้ใดมีไฝที่ สบักหรือชายโครงด้านซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเด่นมีชื่อเสียงในวงสังคม จะประสบความสำเร็จในธุรกิจติดต่อการค้ากับชาวต่างประเทศมีรสนิยมทางเพศสูง รุนแรง
57. ผู้ใดมีไฝที่ เอวด้านหลัง ทายว่าผู้นั้นเป็นคน เก็บความลับได้ดีมาก และมักไม่ชอบให้ใครละเมิดสิทธิส่วนตัวของตัว มีความรู้สึกทางเพศนิ่มนวล
58. ผู้ใดมีไฝที่ รอบสะเอาด้านหน้า ทายว่าผู้นั้นมีความรู้สึกทางเพศนิ่มนวลเป็น 2 เท่า ของคนทั่วไป รักใครจริงจัง ปากว่ามือถึง บทบาทเข้าพระเข้านางเป็นเลิศ
59. ผู้ใดมีไฝที่ ที่ก้นกบ ทายว่าผู้นั้นมักหมกมุ่นอยู่ในกามารมณ์ รสนิยมทางเพศ รุนแรงมาก ไม่ค่อยรู้จักอิ่มในการประกอบกามกิจ
ท่านว่า ถ้าเป็นชายจะประสบความสำเร็จในทางเป็นนักการพนันนักเลงผู้หญิงไม่จริงใจกับใคร ๆ เท่าใดนัก หากเป็นหญิง ท่านว่าเป็นคนที่มัวเมาในรสนิยมเก่า ๆ หัวโบราณ
60. ผู้ใดมีไฝที่เนินสวรรค์หญิง หรือโคนของลับ (ชาย) ทายว่าผู้นั้นมีความต้องการความอ่อนโยนละมุนละไมในรสนิยมทางเพศ พิถีพิถันในการงานและหื่นกระหายในความรักมากที่สุด
มักประทับใจเพศตรงข้ามที่บึกบึนหรือเอาบางร่างน้อย
61. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อศอกขวา ทายว่าผู้นั้นชอบอาสาเจ้านาย มักไม่อยู่นิ่ง ทำงานเอาเป็นเอาตาย ผลที่ตอบแทนน้อยแต่ใจชอบ มักประสบความเลวร้ายในการครองรักครองเรือน
62. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อศอกซ้าย ทายว่าผู้นั้นเป็นคนเฉื่อยชาในการงาน ไม่ชอบเป็นหัวหน้าใคร มักตามใจคนอื่นเขาว่าอะไรตามใจทั้งสิ้น มักไม่เป็นตัวของตัวเอง
ถ้าเป็นชาย ท่านว่า มักเกรงใจคน มีเมียรักเกรงกลัวเมีย หากเป็นหญิงมักหึงหวง อิจฉาริษยา เกรงว่าผัวตนจะไปชอบพอกับหญิงอื่น
63. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อมือขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคน ประสบความสำเร็จในการเป็นนักประพันธ์ ปากกาทอง หรือไม่จะเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ นักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก
64. ผู้ใดมีไฝที่ ข้อมือซ้าย ทายว่าผู้นั้นมักมีนิสัยซื่อตรงต่อเวลา เจรจาพาทีมักใจอย่างหนึ่งปากอย่างหนึ่'แต่รักพวกพ้องพี่น้องตัวเอง
65. ผู้ใดมีไฝที่ ตะโพกขวา ทายว่าผู้นั้นมักจะเป็นคนตายด้านจากกามารมณ์ รังเกียจสังคม และไม่ยอมเข้าใจใคร ๆ ที่ร่วมงานกับตน มีความเห็นแก่ตัวมาก เข้ากับญาติพี่น้องไม่ค่อยได้
66. ผู้ใดมีไฝที่ ตะโพกซ้าย ทายว่าผู้นั้นท่าทางเป็นกันเองกับทุก ๆ คน แต่ต่างเพศ มักคิดว่าเป็นคนใจง่าย แท้ที่จริงเป็นคนเลือกคน ไม่ใช่คนที่ใคร ๆ จะชักพาให้หลงคารมหรือ
รักได้ง่าย ๆ เลย
อนึ่ง ถ้าไฝต่ำลงไปทางก้นย้อยไม่ว่าขวาหรือซ้าย ท่านว่า มีความรู้สึกทางเพศเร็ว ภายนอกรู้สึกเป็นคนสงบเสงี่ยมเจียมตัว แท้ที่จริงลับตากลับเป็นไวไฟที่สุด
67. ผู้ใดมีไฝที่ แคมขวา (หญิง) ทายว่า มีเสน่ห์ ไฟฟ้าแรงสูง หื่นกระหายในกามารมณ์มาก จะผูกมัดใจต่างเพศได้ดีมาก ความรักจะทำให้รู้สึกชื่นบานสำราญใจ มักมีชายในดวงใจมากคน
68. ผู้ใดมีไฝที่ ที่แคบซ้าย (หญิง) ทายว่า จะเป็นหญิงมีอิทธิพลต่อต่างเพศมากที่สุด พูดอะไรไม่มีชายกล้าหึงกับตนได้เลย มักเป็นคนมีนิสัยขี้บ่น ชอบยั่วใจชายในทางวาจาแบบทีเล่นทีจริง
69. ผู้ใดมีไฝที่ ตรงของลับ (ชาย) หรือปลายเนินสวรรค์หรือติดริมแคม (หญิง) ทายว่าผู้นั้นจะพบหรือมีประสบการณ์ทางเพศมาก ชอบศึกษาหาความรู้ ชอบทดลอง
มักชอบชู้มากกว่าเมียหรือผัวของตัวเอง เป็นชายมักชอบใจแม่หม้าย เป็นหญิงมักชอบเป็นเมียลับ เมียเก็บของชาย
70. ผู้ใดมีไฝที่ ท้องแขนขวา ทายว่าผู้นั้นเป็นคน มีอำนาจวาสนา จะมีความผาสุกในชีวิต จะพบคู่ครองที่มีความจงรักภักดี มักมีนิสัยเป็นคนมีธรรมประจำใจ สุภาพต่อคนทุกชั้น
71. ผู้ใดมีไฝที่ ท้องแขนซ้าย ทายว่าผู้นั้นจะมีความขยันหมั่นเพียร ชอบแสวงหาความรู้วิทยาการใหม่ ๆ อยู่เสมอ ท่านว่า มักจะได้รับมรดกจากบิดามารดา
72. ผู้ใดมีไฝที่ หลังมือขวา ทายว่าผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในการสร้างตัวเอง มีลาภยศ ความสุขพร้อมมูลมากับเวลาเกิดเลยทีเดียว
73. ผู้ใดมีไฝที่ หลังมือซ้าย ทายว่าผู้นั้นมักจะอาภัพคนที่เอาใจช่วยเหลือ ควรจะถือคติที่ว่า ช่วยตัวเองก่อนแล้วพระเจ้าจะช่วยท่าน หรือคติทางพุทธศาสนาข้อที่ว่า
ตนเป็นที่พึ่งของตนเป็นดีที่สุด
74. ผู้ใดมีไฝที่ กลางฝ่ามือ (ทั้งซ้าย – ขวา) ทายว่าผู้นั้นเป็นคนประสบความสำเร็จทุก ๆ อย่างจะประสบทั้งเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน เงินทอง ข้าทาสบริวาร สติปัญญา
รอบครอบทันคนทั่วไป
75. ผู้ใดมีไฝที่ บริเวณขาอ่อนไม่ว่าด้านหน้าหรือด้านหลัง ทายว่าผู้นั้นปิดความลับไว้ไม่ค่อยอยู่ ชอบเจรจาขวานผ่าซากโกหกใครเดี๋ยวก็ถูกเขาจับได้ ชอบสนุกเฮฮา เข้ากับคนได้ทุกชั้น
เกิดที่นี่มักไปอยู่ที่อื่น ชอบท่องเที่ยว ไม่มีทิศทางที่แน่นอน
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 21131
ปลูกต้นไม้บริเวณบ้าน ตามหลักโหราศาสตร์
สิทธิการิยะ ผู้ใดจะสร้างบ้านให้อยู่เย็นเป็นมงคลกับตนเอง ให้ปลูกต้นไม้ดังนี้
ทิศตะวันออก ปลูกไม้ไผ่หรือต้นกุ่มหรือต้นมะพร้าว ไข้ร้ายมิพบพาน
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ปลูกต้นสารภีหรือต้นยอกันจัญไรดีนัก
ทิศใต้ ปลูกต้นมะม่วงหรือต้นมะพลับอายุยืนดี
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกต้นพิกุล ราชพฤษ์ ขนุน สะเดากันโทษดีแท้
ทิศตะวันตก ปลูกต้นมะขาม มะยมกันผีกันขึ้นความ
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ปลูกต้นมะกรูดรูดผีสางนางไม้
ทิศเหนือ ปลูกต้นพุดทราหรือต้นหัวว่านกันอาคม มีมนต์คุณ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปลุกต้นทุเรียนและขุดบ่อคงไว้กันศตรูมีชัย
ผู้ใดทำได้ดังนี้ คนจะเกรงขาม ทรัพย์สินจะมาตาม อยู่เย็นเป็นสุขสำราญดีนักแล
ต้นไม้ควรปลูก
บ้านไทยโบราณไม่มีการถมที่ปรับที่ทำสนามหญ้า แต่ปล่อยพื้นดินเอาไว้ตามธรรมชาติเพราะรู้ว่าถึงหน้าน้ำ น้ำจะหลาก เพราะฉะนั้นต้นไม้ที่อยู่ล้อมบ้าน จึงนิยมไม้ยืนต้น แข็งแกร่งไม่ตายง่ายๆ แค่น้ำผ่านมาไม่กี่วันแล้วผ่านไปต้นไม้ก็อยู่ได้ตามปกติรากไม่เน่า
ปู่ย่าตายายของเรานิยมมีไม้ยืนต้นล้อมบ้าน ดูครึ้มเย็นสบาย บังแดดได้ในยามบ่าย ช่วยปรับอากาศบนตัวเรือนไปด้วยในตัว และสำคัญกว่านี้คือท่านไม่ปลูกต้นไม้เอาไว้ประดับเนื้อที่เฉยๆเท่านั้น แต่ถือประโยชน์จากต้นไม้ด้วย เพราะคนไทยอาศัยของกินจากธรรมชาติรอบตัว ผลไม้ ใบไม้ แม้แต่ดอกไม้ ล้วนเป็นได้ทั้งอาหารและยา ทุกอย่างที่ปลูกไว้จึงไม่มีการปลูกไว้เปล่าๆ แต่ถ้าอยากดูให้สบายตาสบายใจ ก็ดูพวกไม้กระถางออกดอกสวยๆหอมๆอยู่บนชานเรือนเท่านั้นพอ
ก็เพราะอย่างนี้ละค่ะ จึงเกิดมีตำราปลูกต้นไม้มงคลหลังจากปลูกเรือนใหม่ ตำราไทยระบุไว้ละเอียดลออ ทั้งไม้ชนิดห้ามปลูกและไม้ชนิดส่งเสริมให้ปลูก
ต้นไม้ห้ามปลูกคือต้นโพ ต้นไทร ต้นตาล ต้นมะกอก ต้นสำโรง ต้นมะงั่ว ต้นหวายและต้นสลัดได ถือกันเคร่งครัดขนาดว่าที่ดินตรงไหนมีต้นไม้เหล่านี้ขึ้นอยู่ ให้ฟันทิ้งให้หมดก่อนปลูกเรือน
ต้นโพ ต้นไทร ห้ามปลูกนั้นพอเข้าใจ เพราะเป็นไม้ใหญ่รากชอนไชใต้ดินออกไปกว้างมาก อาจจะทำเสาเรือนทรุดหรือพังไปก็ได้ถ้าปลูกไว้ใกล้เรือน
ต้นตาล ไม่แน่ใจว่าทำไมห้ามปลูกในบริเวณบ้าน แต่ไม่ห้ามถ้าอยู่ตามทุ่งนาตามไร่ อาจจะเป็นเพราะต้นตาลสูงชะลูดขึ้นไปมาก ถูกฟ้าผ่าได้ง่าย จึงเกรงอันตรายกับคนในบ้านก็เป็นได้
ต้นระกำ กับสลัดได ห้ามปลูกเพราะถือเคล็ดเรื่องชื่อ ระกำปลูกแล้วกลัวเจ้าของจะชอกช้ำระกำใจ
สลัดไดก็มีคำหน้าเหมือนสลัดทิ้ง ไม่เป็นมงคลอีก
ส่วนหวายไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะมันเป็นซุ้มรกเรื้อไม่น่าปลูกหรือเป็นเพราะโบราณใช้หวายเฆี่ยนคนเป็นการทำโทษ จึงถือไม่ให้ปลูกใกล้บ้าน
ส่วนมะกอก สำโรง มะงั่ว จนใจแปลไม่ออกว่าไม่ดีตรงไหน มะกอกพอรู้จัก แต่สำโรงกับมะงั่วไม่เคยเห็นค่ะ
หมดเรื่องไม้ไม่เป็นมงคลแล้ว ต่อไปก็ถึงต้นไม้ที่ส่งเสริมให้ปลูก ถือเป็นไม้มงคล มีดังนี้ค่ะ
ทิศตะวันออก ปลูกไผ่ กุ่ม และมะพร้าว
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ปลูกต้นยอและสารภี
ทิศใต้ ปลูกมะม่วง มะพลับ
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกสะเดา ขนุน และพิกุล
ทิศตะวันตก ปลูกมะขาม มะยม
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ปลูกมะกรูด
ทิศเหนือ ปลูกพุดซา และหัวว่านต่างๆ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกทุเรียนและขุดบ่อ
เหตุผลก็คงมีหลายอย่างด้วยกัน อย่างมะขาม มะยม ขนุน ปลูกเพื่อเอาเคล็ดจากชื่อว่าเป็นสิริมงคล มะขามก็ทำให้คนภายนอกเกรงขาม มะยมคือให้เจ้าของบ้านเป็นที่นิยม ขนุนก็คือหนุนให้เฟื่องฟู ยอก็คือยกให้ดีขึ้น ไผ่นี่คงจะเป็นเพราะแตกลูกแตกหน่อออกไปมากถือว่าอุดมสมบูรณ์ และใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง มะพร้าวกินได้ทั้งเนื้อและน้ำ และคั้นกะทิ เป็นส่วนประกอบขาดไม่ได้ไม่ว่าอาหารคาวหรือหวาน สะเดาเป็นทั้งยาและอาหาร มะม่วง มะกรูด พุดซา มะพลับ ทุเรียน เอาไว้กินได้ทั้งนั้น หัวว่านต่างๆคงจะใช้ผสมเป็นเครื่องยา ส่วนการขุดบ่อก็เพื่ออาศัยน้ำกินน้ำใช้ อยู่ทางเหนือตัวเรือน น้ำจะได้สะอาด ถ้าอยู่ลงมาทางใต้น้ำจะสกปรกจากน้ำเสียที่ไหลลงจากบ้านซึมมาตามพื้นดิน
มะม่วง มะยม มะขาม ไผ่ ยังหาปลูกได้ไม่ยาก ใครปลูกบ้านใหม่ลองหามาบ้างก็ดีนะคะ
ทิศที่ปลูกไม้เป็นมงคล สิทธิการิยะ ถ้าผู้ใดปรารถนาจะปลูกต้นไม้ให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้เกิดสิริมงคล ท่านให้ปลูกต้นไม้ต่อไปนี้ ในทิศต่าง ๆ ดังนี้
ทิศบูรพา ให้ปลูกต้นไผ่ ต้นกุ่ม และต้นมะพร้าว ทิศอาคเณย์ ปลูกต้นยอ และสารภี ทิศทักษิณ ให้ปลูกต้นมะม่วง และต้นพลับ ทิศหรดี ท่านให้ปลูกต้นชัยพฤกษ์ ต้นขนุน ต้นพิกุล ทิศประจิม ให้ปลูกต้นมะขาม มะยม ทิศพายัพ ให้ปลูกต้นมะกรูด ทิศอุดรให้ปลูกต้น พุดซา และหัวว่านต่าง ๆ ทิศอิสาน ให้ปลูกต้นทุเรียน และขุดบ่อลงไว้ ผู้ใดทำได้ดังกล่าวนี้จะอยู่เย็นเป็นสุข จะเกิดทรัพย์สินเงินทอง ดีนัก