โหราศาสตร์ไทย
โหราศาสตร์ไทย
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 9486
ตำราพรหมชาติ
อัญมณีวันเกิด
วันอาทิตย์ |
โกเมน - เพทาย |
วันจันทร์ |
มุกดา - เพชร |
วันอังคาร |
บุษราคัม |
วันพุธ |
มรกต - หยก |
วันพฤหัสบดี |
ไพฑรูย์ |
วันศุกร์ |
มุกดา - เพชร |
วันเสาร์ |
นิล - ทับทิม |
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 54941
ตำราพรหมชาติ
คนเกิดเดือนอ้าย
สิทธิการิยะ ผู้ใดเกิดเดือนอ้าย ๑ เป็นตนุ ผู้นั้นจะได้ทรัพย์สมบัติจากพี่น้อง มีพ่อแม่เป็นต้น ๒ เป็นกดุมภะ ผู้นั้นเป็นคนมีทรัพย์ เจรจาปากกว้าง ๓ เป็นสหัชชะ ผู้นั้นคบคนรูปร่างดำแดงจึงจะต้องโฉลก ๔ เป็นพันธุ ผู้นั้นจะได้ดีเพราะผู้อื่น เมื่อน้อยจะมีผู้นำไปเลี้ยง ๕ เป็นปุตตะ ผู้นั้นจะมีลูกเป็นผู้หญิงมีผิวขาวเหลือง เป็นผู้รู้หลักนักปราชญ์ เจรจาไพเราะ ถ้าเป็นชายจะมีน้ำใจกล้าหาญ พ่อแม่ญาติพี่น้องจะได้พึ่ง ๖ เป็นอริ ผู้นั้นจะมีศัตรูเป็นหญิงนมยาน ถ้าเป็นชายผมหยองตาเหลือง ๗ เป็นปัดตะนิ ผู้นั้นจะได้หญิงแม่ม่ายเป็นเมีย หรือมิฉะนั้น ก็จะได้หญิงที่มีอายุแก่กว่าอยู่ทางทิศอุดร หรือ หรดี เป็นคนสันทัด ใจร้ายแล
- คนที่เกิดในเดือนอ้าย เป็นคนที่บริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ แต่ไร้ญาติขาดผู้อุปถัมภ์ ต้องพึ่งตนเอง
- มีความมานะกล้าหาญ อดทน
- คบเพื่อนฝูงมีแต่ทางขาดทุนและนำความเดือดร้อนมาให้
- จะมีความสุขจากคู่ครอง
- เงินทองเก็บไม่ค่อยจะอยู่เพราะญาติคอยเบียดเบียน
- ประกอบอาชีพชนิดที่ใช้สมอง พอมีหวังร่ำรวย งานที่ใช้กำลังไม่ค่อยดี
คนเกิดเดือนยี่ ผู้ใดเกิดเดือนยี่ เป็นตนุ ผู้นั้นคบคนผิวขาวจึงจะดี ๕ เป็นพันธุ ผู้นั้นจะได้พึ่งญาติพี่น้อง และท่านผู้อื่น ๖ เป็นปุตตะ ผู้นั้นมีลูกหญิงก่อนจึงจะดี เมื่อคลอดนั้น บิดามารดาจะได้ลาภ ถ้าเป็นชายก่อนมิดี ๗ เป็นอริ ผู้นั้นมีศัตรู เป็นคนผิวเนื้อดำแดง ถ้าเป็นหญิงมีรูปร่างสูงโปร่ง ๗ ปัตตะนิ ผู้นั้นจะได้ภรรยามีรูปงาม ผิวเนื้อดำแดง อยู่ทางทิศบูรพา หรือทิศประจิม มักเป็นคนกลัวเมีย
- คนเกิดในเดือนยี่ เป็นคนมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ จะมีข้าทาสหญิงชาย
- หาความสบายใจได้จากมิตรสหาย
- มีทรัพย์สินเงินทองพอควร
- ชอบความสงบ ไม่ชอบนักเลงหรือการพนัน
- ไม่ค่อยมีมานะ
- ถ้ารับราชการหรือทำงานที่เกี่ยวกับปัญญาและความคิดดี จะมีชื่อเสียง
- การค้าปานกลาง งานใช้กำลังไม่ดีเลย
คนเกิดเดือนสาม ผู้ใดเกิดเดือนสาม ผู้นั้นจะตั้งตัวได้ด้วยลำแข้งของตนเอง และเมื่อกลางคนจะมีบุญวาสนา ๕ เป็นสหัชชะ ผู้นั้นคบคนผิวขาวเหลืองจึงจะต้องโฉลกดี ๖ เป็นพันธุ ผู้นั้นไปที่ใด ๆ ก็ดี จะมีผู้นิยมยินดีต้อนรับทุกแห่ง ๗ เป็นปุตตะ ผู้นั้นมีบุตรใจแข็ง ผิวดำ เป็นคนเฉลียวฉลาด แต่เมื่อน้อยเลี้ยงยาก ครั้นเติบใหญ่พ่อแม่จะเข็ญใจ ถ้ามีลูกหญิงก่อนมิสู้ดี ๑ เป็นอริ ผู้นั้นมีศัตรูมาก หรือมิฉะนั้นจะเป็นความ หรือเจ็บไข้ได้ทุกข์ต่าง ๆ มักจากที่อยู่ที่กิน ๒ เป็นปัตตะนิ จะได้รับสมบัติจากญาติ และจากบิดามารดา จะได้ภรรยาเป็นคนผิวขาวเหลือง รูปร่างบอบบาง อยู่ทางทิศบูรพา
- คนเกิดในเดือนสาม เป็นผู้มีบุญวาสนาปานกลาง แต่อ่านนิสัยยาก
- ถึงคราวดีก็ดีล้น ถึงคราวร้ายก็ร้ายเหลือทน
- จะได้คู่เป็นคนมีทรัพย์ แต่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน
- ควรประกอบอาชีพที่ใช้ปัญญาและไหวพริบ ดีกว่างานที่ใช้กำลัง
คนเกิดเดือนสี่ ผู้ใดเกิดเดือนสี่ ๔ เป็นตนุ ผู้นั้นผิวเนื้อดำแดง เก็บทรัพย์ได้ดี รู้จักการจ่ายทรัพย์ ๕ เป็นกดุมภะ ผู้นั้นมีบุญวาสนา เพราะด้วยตัวของตัวเอง ๖ เป็นสหัชชะ คบคนดำแดงจึงต้องโฉลก ๗ เป็นพันธุ มีญาติพี่น้องพึ่งไม่ได้เลย ๑ เป็นปุตตะ มีลูกชายก่อนจึงจะต้องโฉลก ๒ เป็นอริ มีศัตรูเป็นหญิง คอยตามเบียดเบียน ๓ เป็นปัตตะนิ จะได้ภรรยาผิวเนื้อดำแดง เป็นคนรู้หลักนักปราชญ์ มีความคิดดี รู้ทันคน มักจะเป็นบุตรกำพร้า แต่เป็นคนมีทรัพย์
- คนที่เกิดในเดือนสี่ เป็นผู้มีบุญอำนาจวาสนามาแต่กำเนิด จะได้เป็นที่พึ่งของพ่อแม่
- เป็นผู้ชอบการสมาคม
- ใฝ่ใจในการศึกษา
- ชอบตรงไปตรงมา เป็นคนมีมานะ อดทน กล้าหาญ
- การเจรจาไม่ค่อยอ่อนหวาน จึงไม่ค่อยเป็นที่ชอบของผู้ใหญ่
- เป็นคนมีกามารมณ์รุนแรง
- จะได้คู่ครองซึ่งเป็นคนปากร้ายสักหน่อย แต่จะมีบุตรได้เป็นที่พึ่ง
- อาชีพค้าขายดีกว่าอื่น
คนเกิดเดือนห้า ผู้ใดเกิดเดือนห้า ๕ เป็นตนุ ผู้นั้นผิวดำแดง ท้องใหญ่ นัยตาโต ๖ เป็นกดุมภะ ต่อไปกลางคนจะได้ดีกว่าคนทั้งปวง ๗ เป็นสหัชชะ คบคนผิวดำแดงจะดี ๑ เป็นพันธุ มีพี่น้องเผ่าพันธุ์มาก แต่พึ่งไม่ได้ เมื่อน้อยมีเข็ญใจ แต่ต่อไปภายหน้าจะมีบุญ ๒ เป็นปุตตะ มีลูกหญิงก่อนจึงจะดี จะมีบุญ ๓ เป็นอริ จะมีศัตรูเป็นชายผมหยองปากเบี้ยว ๔ เป็นปัตตะนิ จะได้ภรรยาเป็นคนผิวเหลือง มีปัญญา ใจบุญ ต่อไปภายหน้าจะมีบุญ
- คนที่เกิดในเดือนห้า เป็นคนอาภัพพลัดพรากจากบิดามารดาไปแต่เล็ก
- ทำคุณกับใครไม่ขึ้น และจะพึ่งญาติพี่น้องผู้ใดไม่ค่อยได้
- เป็นคนใจบุญ
- นิสัยเยือกเย็น ชอบระเบียบ
- จะได้คู่เป็นคนปากกล้า
- ถ้าชายจะเป็นผู้มีปัญญา ถ้าเป็นหญิงจะเป็นผู้มีทรัพย์
- จะเป็นผู้มีความสุขตั้งแต่วัยกลางคนเรื่อยไป
คนเกิดเดือนหก ผู้ใดเกิดเดือนหก ๖ เป็นตนุ เจรจาสามหาว ปากกล้า รูปร่างค่อนข้างสูง ๗ เป็นกดุมภะ เมื่อกลางคนจะเข็ญใจ ๑ เป็นสหัชชะ มักพอใจคบหาสมณชีพราหมณ์ ใจบุญ แต่มักอาภัพ ๒ เป็นพันธุ พึ่งญาติมิใคร่ได้ ๕ เป็นปุตตะ ถ้ามีลูกชายก่อนเป็นคนเข็ญใจ พึ่งมิใคร่ได้ มีลูกหญิงก่อนดี แต่เมื่อน้อยจะเลี้ยงยาก ๔ เป็นอริ จะมีศัตรูเป็นหญิงผิวดำแดง ที่หน้าผากเป็นแผลเป็น ๕ เป็นปัตตะนิ ได้ภรรยาเป็นคนสูงอายุ หรือมิฉะนั้นจะเป็นหญิงหม้าย มีผิวขาวเหลือง อยู่ทางทิศอาคเณย์
- คนเกิดในเดือนหก จะเป็นคนเจ้าแห่งความคิด
- ญาติมิตรคิดพึ่งใครไม่ใคร่ได้
- ทำความดีกับใครได้ผลร้าย
- เป็นคนชอบบ่น จู้จี้ โกรธง่าย หายเร็ว
- ใจบุญ และจะมีคู่เป็นคนรวยกว่า
- ให้ระวังคนสีเนื้อดำแดงจะเป็นศัตรู
- อาชีพที่ใช้ความคิดดี
คนเกิดเดือนเจ็ด ผู้ใดเกิดเดือนเจ็ด ๗เป็นตนุ มีผิวตัวแดง ผมหยักศก ๑ เป็นกดุมภะ เป็นคนมีทรัพย์ เจรจาปากกว้าง ๒ เป็นสหัชชะ คบเพื่อน เพื่อนมักรักใคร่เอ็นดู มักเป็นคนชอบเรียนวิชาความรู้ เป็นคนฉลาด มีพี่น้องพึ่งมิได้ มีแต่จะเบียดเบียนตน อาภัพพี่น้อง ๓ เป็นพันธุ ผู้นั้นเจรจาเป็นที่ชอบใจแก่คนทั้งหลาย ๔ เป็นปุตตะ มีบุตรหญิงก่อนจึงจะดี แต่ว่าเลี้ยงยาก ถ้ามีลูกชายก่อนมิสู้ดี ๕ เป็นอริ มีศัตรูเป็นหญิงผิวขาวเหลือง ถ้าเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ๖ เป็นปัตะนิ จะได้ภรรยารูปร่างสูง ผมสลวย อยู่ทางทิศอิสาน
- คนเกิดในเดือนเจ็ด เป็นผู้พลัดถิ่นต้องได้รับความลำบาก
- จะมีผู้ใหญ่ที่มียศถาบรรดาศักดิ์รับอุปการะเลี้ยงดู ให้ได้รับความสุข แต่ไม่ค่อยสบายใจนัก
- จะมีทรัพย์พอสมควร
- จะมีความสุขยิ่งในภายหน้าเพราะมิตรสหาย
- จะได้คู่ที่มีความซื่อ
คนเกิดเดือนแปด ผู้ใดเกิดเดือนแปด ๑ เป็นตนุ จะได้ทรัพย์สมบัติจากญาติพี่น้อง และจากพ่อแม่ ๒ เป็นกดุมภะ เป็นคนมีทรัพย์เจรจาปากกว้าง ๓ เป็นสหัชชะ คบคนผิวดำแดงจึงจะต้องโฉลก ๔ เป็นพันธุ จะได้ดีเพราะผู้อื่น เมื่อมีผู้ขอไปเลี้ยง ๕ เป็นปุตตะ ถ้ามีลูกหญิงก่อนมีผิวขาวเหลือง เป็นคนรู้หลักนักปราชญ์ เจรจาไพเราะ ถ้ามีลูกชายก่อน มีน้ำใจกล้าหาญ พ่อแม่พี่น้องจะได้พึ่ง ๖ เป็นอริ จะมีศัตรูเป็นหญิงนมยาน ถ้าเป็นชายผมหยอง นัยตาเหลือง ๗ เป็นปัตตะนิ จะได้หญิงหม้ายเป็นภรรยา หรือมิฉะนั้นก็จะเป็นหญิงที่มีอายุแก่กว่า อยู่ทางทิศอุดร หรือทิศหรดี เป็นคนใจร้าย
- คนเกิดในเดือนแปด เป็นผู้มีบุญวาสนามาแต่กำเนิด
- จะมียศถาบรรดาศักดิ์ ได้รับเกียรติยศและมีชื่อเสียงเป็นที่นับถือของคนทั่วไป
- เป็นผู้ที่อุดมไปด้วยทรัพย์สินและบริวาร แต่ญาติมิตรมักจะนำความเดือดร้อนมาให้เสมอ
- เป็นคนมีกามารมณ์ร้อนแรง จึงมักมีชู้มากหลายเมีย
- ได้คู่เป็นคนใจดุร้าย พูดจาไม่เรียบร้อย
- ถ้าเป็นหญิงไม่ค่อยดีนักมักอาภัพ ถ้าเป็นชายมักจะได้ดีมีเงิน
- อาชีพราชการดีกว่าอื่น
คนเกิดเดือนเก้า ผู้ใดเกิดเดือนเก้า ๒ เป็นตนุ จะมีขอเอาไปเลี้ยง ครั้นเติบใหญ่พี่น้องจะได้พึ่ง ๓ เป็นกดุมภะ เมื่อหนุ่มมีทรัพย์ ครั้นแก่ลงจะเข็ญใจ ๔ เป็นสหัชชะ คบคนผิวขาวจึงจะดี ๕ เป็นพันธุ จะได้พึ่งญาติพี่น้อง และท่านผู้อื่น ๖ เป็นปุตตะ มีลูกหญิงก่อนจึงจะดี เมื่อคลอดบิดามารดาจะได้ลาภ ถ้าเป็นชายก่อนมิดี ๗ เป็นอริ มีศัตรูเป็นคนผิวดำแดง ถ้าเป็นหญิงรูปร่างสูงโปร่ง ๑ เป็นปัตตานิ จะได้ภรรยามีรูปร่างงาม และผิวเนื้อดำแดง อยู่ทางทิศบูรพา หรือทิศปราจิม มักเป็นคนกลัวเมีย
- คนเกิดในเดือนเก้า มักเป็นคนรูปร่างสง่างาม สุภาพเรียบร้อย
- โอบอ้อมอารี มีเมตตา ชอบสมาคม เป็นที่พอใจของคนทั่วไป
- เป็นคนใจบุญรักความยุติธรรม แต่มีศัตรูคอยทำลายความสุขอยู่เสมอ
- จะได้คู่เป็นที่พึ่ง และมีทรัพย์พอให้ญาติพึ่งพาอาศัยได้
- อาชีพเกี่ยวแก่การเมืองหรือการแพทย์ดี
คนเกิดเดือนสิบ ผู้ใดเกิดเดือนสิบ ๓ เป็นตนุ เมื่อน้อยจะมีผู้ขอเอาไปเลี้ยง เป็นที่ชอบใจแก่สมณชีพราหมณ์ทั้งหลาย มักจะผิดด้วยเมียท่าน ๔ เป็นกดุมภะ จะตั้งตัวได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เมื่อกลางคนจะมีบุญวาสนา ๕ เป็นสหัชชะ คบคนผิวขาวเหลืองจึงจะต้องโฉลก ๑ เป็นพันธุ จะไปในที่ใด ๆ มักมีผู้ยินดีต้อนรับทุกแห่งหน ๗ เป็นปุตตะ จะมีบุตรชายคนใจแข็ง ผิวดำ มีความคิดเฉลียวฉลาด เมื่อน้อยเลี้ยงยาก ครั้นเติบใหญ่พ่อแม่จะเข็ญใจ ถ้ามีลูกหญิงก่อนมิสู้ดี ๑ เป็นอริ มีศัตรูมาก หรือมิฉะนั้นจะเป็นความ หรือเจ็บไข้ได้ทุกข์ต่าง ๆ และมักจะจากที่อยู่เดิม ๒ เป็นปัตตานิ จะได้ทรัพย์สมบัติจากญาติพี่น้อง และบิดามารดา จะได้ภรรยาเป็นคนผิวเหลือง รูปร่างบางอยู่ทางทิศบูรพา
- คนเกิดในเดือนสิบ เป็นคนทิฏฐิถือใจตนเองเป็นใหญ่
- พึ่งใครไม่ได้นอกจากพึ่งตนเอง
- มีความเพียรดี จะมีเกียรติยศและชื่อเสียงเพราะความมานะ
- จะได้คู่เป็นผู้ดีและมีผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ช่วยเหลืออยู่เสมอ
- นับว่าเป็นผู้ที่ไม่ค่อยมีความเดือดร้อนรัก
- แต่ถ้าเป็นหญิงมักอาภัพ
คนเกิดเดือนสิบเอ็ด ผู้ใดเกิดเดือนสิบเอ็ด ๔ เป็นตนุ ผู้นั้นผิวเนื้อดำแดงหรือขาว เป็นคนเก็บทรัพย์ได้ดี รู้จักใช้จ่ายทรัพย์ ๕ เป็นกดุมภะ จะมีบูญวาสนาก็เพราะตัวของตัวเอง ๖ เป็นสหัชชะ คบคนผิวเนื้อดำแดงจึงจะต้องโฉลก ๗ เป็นพันธุ พึ่งญาติพี่น้องไม่ได้เลย ๑ เป็นปุตตะ มีลูกชายก่อนจึงต้องโฉลก และบุตรนั้นจะมีบุญ พ่อแม่จะได้พึ่ง ถ้ามีลูกหญิงก่อนมิสู้ดี ๒ เป็นอริ จะได้ภรรยามีผิวเนื้อดำแดง เป็นคนรู้หลักนักปราชญ์ มีความคิด รู้ทันคน มักเป็นบุตรกำพร้า เป็นคนมีทรัพย์
- คนเกิดในเดือนสิบเอ็ด เป็นคนที่มีชีวิตโลดโผน
- ต้องตกทุกข์หลายครั้ง แล้วกลับมามั่งมีก็หลายหน
- เป็นคนชอบประดิษฐ์
- ทำตัวให้องอาจมีสมรรถภาพดีอยู่เสมอ จึงดูสง่าและมีเสน่ห์เป็นที่พอใจของผู้ใหญ่และเพศตรงข้าม
- เป็นคนมีความสัตย์ จึงได้รับความอุปการะช่วยเหลือจากคนทั่วไป
คนเกิดเดือนสิบสอง ผู้ใดเกิดเดือนสิบสอง ๕ เป็นตนุ มีผิวดำแดง ท้องใหญ่ นัยตาโต ๑ เป็นกดุมภะ ต่อไปกลางคนจะได้ดีกว่าคนทั้งปวง ๗ เป็นสหัชชะ คบคนผิวดำแดงจะดี ๑ เป็นพันธุ มีพี่น้องเผ่าพันธุ์มาก แต่พึ่งไม่ได้ เมื่อน้อยเข็ญใจ ต่อไปภายหน้าจะมีบุญวาสนา ๒ เป็นปุตตะ มีลูกหญิงก่อนจะมีบุญ ๓ เป็นอริ มีศัตรูเป็นชาย ผมหยอง ปากเบี้ยว ๔ เป็นปัตตะนิ จะได้ภรรยาเป็นคนผิวขาวเหลือง มีปัญญา ใจบุญ ต่อไปภายหน้า จะมีอำนาจวาสนาแล
- คนเกิดในเดือนสิบสอง จะเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ในวิทยาการหลายอย่าง
- ถ้าทำราชการจะได้เป็นใหญ่ มียศถาบรรดาศักดิ์ พร้อมด้วยทรัพย์สินและข้าทาสบริวาร
- นับว่าเป็นผู้มีอำนาจและวาสนาสูงกว่าตระกูลเดิม
จะได้คู่ครองเป็นคนเจ้าคารมปากกล้า
อัญมณี เดือนเกิด
เดือน 1 |
โกเมน |
เดือน 2 |
มุกดา |
เดือน 3 |
บุษราคัม |
เดือน 4 |
เพทาย |
เดือน 5 |
มรกต |
เดือน 6 |
เพชร |
เดือน 7 |
นิล |
เดือน 8 |
มรกต |
เดือน 9 |
โกเมน |
เดือน 10 |
ไพฑูรย์ |
เดือน 11 |
ไพฑูรย์ |
เดือน 12 |
มุกดา |
- รายละเอียด
- หมวด: โหราศาสตร์ไทย
- จำนวนผู้อ่าน: 24468
เทวดาเสวยอายุ (ของสำนักพิมพ์อำนาจสาส์น)
สิทธิการิยะ ถ้าต้องการจะทราบว่าเคราะห์ของตน จะดีหรือร้ายประการใด ท่านให้ดูเทวดาที่เสวย
อายุเกิดวันใด ให้นับเอาเทวดาองค์นั้น ประจำเสวยอายุก่อน แล้วนับไปตามเรียงกำลังของเทวดาที่เสวยอายุต่อ ๆ กันไปจนครบอายุของตนในปัจจุบัน การนับอายุนั้น จะนับแต่ชื่อปีไม่ได้ ต้องนับให้ครบปี ครบเดือนครบวัน เช่น คนเกิดปีฉลู เดือน 12 แรม 15 ค่ำ ต้องนับไปถึงปีขาล เดือน 12 แรม 15 ค่ำ จะเป็น 1 ปี ที่กล่าวคือทางจันทรคติในทางสุริยะคติก็เช่นเดียวกัน เช่นคนเกิดวันที่ 15 กันยายน 2476 ก็ต้องนับถึงวันที่ 15 กันยายน 2477 เป็น 1 ปีเต็ม ส่วนเศษเดือนเศษวันก็คำนวณให้ละเอียดตามกำหนดเวลาทีเทวดาเสวยอายุ เพื่อให้ทราบว่าขณะนี้เป็นเทวดาองค์ใดเสวยอายุและเทวดาองค์ใดเข้ามาแทรก จะดีร้ายประการใด และมีวิธีแก้ไขอย่างใด ดังจะได้อธิบายเพียงย่อ ๆ ดังต่อไปนี้
เทวดาเสวยอายุ และเทวดาแทรก พระอาทิตย์เสวยอายุ 6 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย
|
พระอาทิตย์เสวยตัวเอง พระจันทร์แทรกพระอาทิตย์ พระอังคารแทรกพระอาทิตย์
พระพุธแทรกพระอาทิตย์ พระเสาร์แทรกพระอาทิตย์ |
- - -
- - |
4 - 5
11 6 |
- - 10
10 20 |
- - -
- - |
เกิดความร้อนใจจะต้องจากที่อยู่ดุจพระเวสสันดร จะเกิดปากเสียงกับหญิง ชาย ระวังจะถูกล่อลวง จะเกิดความเจ็บไข้ภายใน 15 วัน พ้นจากนั้นแล้วจะได้ลาภ ให้เกรงอัคคีภัยคู่รักจะนอกใจ จะมีลาภ ของขาวเหลืองจากทิศต่างๆ จะเดือดร้อน ด้วยที่กินที่อยู่ |
พระพฤหัสบดีแทรกพระอาทิตย์ พระราหูแทรกพระอาทิตย์ พระศุกร์แทรกพระอาทิตย์
|
1 - 1 |
- 8 2 |
20 - - |
- - - |
จะได้พบมิตรและนำลาภมาให้ ตอนต้นจะได้ทุกข์ ตอนปลายจะได้ลาภ จะได้ลาภเงินทอง ถ้าไปทางทิศอุดรและทักษิณ จะมีลาภ |
รวม |
6 |
- |
- |
- |
|
ท่านที่มีอายุในระหว่างที่พระอาทิตย์เสวยอายุให้ท่องคาถา อุเทตยญฺจกฺขฺมาฯ ไปจนครบ 6 จบ ทุก ๆ คืน ตามคาถาพระประจำวันเกิด จะเกิดลาภผลสักการะเป็นสิริมงคลโชคชะตาชีวิตที่ไม่ดีก็จะได้บรรเทาเบาบาง ที่ดีอยู่แล้วก็จะดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
พระจันทร์เสวยอายุ 15 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย |
พระจันทร์เสวยตัวเอง
พระอังคารแทรกพระจันทร์ พระพุธแทรกพระจันทร์
พระเสาร์แทรกพระจันทร์ พระพฤหัสบดีแทรกพระจันทร์ พระราหูแทรกพระจันทร์ พระศุกร์แทรกพระจันทร์
พระอาทิตย์แทรกพระจันทร์ |
2
1 2
1 2 1 2
- |
1
1 4
4 7 8 11
10 |
-
10 10
20 20 - -
- |
-
- -
- - - -
- |
จะได้ลาภและได้คู่อันพึงใจอันมาจากทิศบูรพาและทิศทักษิณ จะเกิดความเสียทรัพย์สินเงินทอง จะได้ลาภ เพราะมิตรสหายมาแต่ทิศทักษิณและอุดร จะมีลาภ แต่เป็นทุกขลาภและจะเกิดศัตรู จะมีลาภและจะได้คู่รักอันสมใจคิด จะเสียทรัพย์ และเกิดเรื่อง เพราะผู้หญิง จะได้ลาภแก้วแหวน เงินทอง จะเกิดปากเสียงในครอบครัว ให้ระวังผู้ชายเนื้อดำแดงมาแต่ทิศอีสานและหรดีจะนำทุกข์มาให้และจะเสียทรัพย์เพราะบุตรภรรยา |
รวม |
15 |
- |
- |
- |
|
ท่านที่มีอายุระหว่างพระจันทร์เสวยอายุ ให้ท่องคาถา ยนฺทุนฺนิมิตฺตํฯ ไปจนครบ 15 จบ ตามกำลังเทวดาทุก ๆ คืน ตามคาถาพระประจำวันเกิด จะเกิดลาภยศสรรเสริญสุข และสิ่งอันปรารถนาในระยะเวลาพระจันทร์เสวยอายุอยู่นั้น ที่โชคร้ายก็จะกลับกลายเป็นโชคดี
พระอังคารเสวยอายุ 8 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย |
พระอังคารเสวยอายุตัวเอง พระพุธแทรกพระอังคาร พระเสาร์แทรกพระอังคาร พระพฤหัสบดีแทรกพระอังคาร
พระราหูแทรกพระอังคาร พระศุกร์แทรกพระอังคาร พระอาทิตย์แทรกพระอังคาร พระจันทร์แทรกพระอังคาร |
1 1 - 1
- 1 - 1 |
7 3 8 4
10 6 5 1 |
3 3 26 26
20 20 10 10 |
20 20 40 40
- - - - |
ศัตรูจะคิดทำร้ายอย่าบริโภคของมึนเมา จะได้ลาภเพราะมิตรสหายมาแต่ทิศทักษิณ อุดรและบูรพาแต่ให้ระวังสุขภาพจะเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย จะเกิดโรคเนื่องจากจักษุจะได้รับบาดเจ็บและถ้อยความ จะได้ลาภเงินทองให้เกรงผู้หญิงเนื้อขาวเหลือง ผู้ชายเนื้อดำแดงอยู่ทิศบุรพา อาคเนย์และปัจจิม ให้ระวังไฟ จะได้พบมิตรสหายที่กล้าหาญ จะได้ลาภจากมิตรสหายจากทิศอุดรและทิศอาคเนย์ |
รวม |
8 |
- |
- |
- |
|
ท่านที่มีอายุอยู่ในระหว่างพระอังคารเสวยอายุ ให้ท่านท่องบ่นคาถา ยสฺสานุภาวโตฯ ไปจนจบครบ 8 จบ ตามกำลังเทวดาที่เสวยอายุทุก ๆ คืน ตามคาถาพระประจำวันเกิด ท่านจะได้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย อุปัทวันตรายทั้งปวง
พระพุธเสวยอายุ 17 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย |
พระพุธเสวยอายุตัวเอง
พระเสาร์แทรกพระพุธ พระพฤหัสบดีแทรกพระพุธ
พระราหูแทรกพระพุธ
พระศุกร์แทรกพระพุธ
พระอาทิตย์แทรกพระพุธ พระจันทร์แทรกพระพุธ พระอังคารแทรกพระพุธ
|
2
1 2
1
3
-
2 1 |
8
6 11
10
3
11
4 3 |
3
26 26
20
20
10
10 3 |
20
40 40
-
-
-
- 20 |
จะได้ลาภแม้ตระกูลผู้ดีจะได้เป็นใหญ่ จะมีทรัพย์สมบัติและบริวารมาก จะเกิดความเพราะผู้หญิงเนื้อดำแดงและเสียของรัก ห้ามเดินทางไกล จะประสบอุบัติเหตุจะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่ คนจะใส่โทษ ให้ระวังไฟ จะจากที่อยู่ ให้ระวังของมึนเมา จะได้ลาภอันเป็นที่พึงพอใจ ผู้หญิงเนื้อขาวเหลืองหรือมิตรสหายจะนำมาให้ จะถูกใส่ความให้ย้ายสถานที่อยู่หรือที่นอนไปที่ทิศบูรพา จะได้ลูกเมียข้าวของเงินทอง ให้ระวังไฟจะเกิดถ้อยความถึงโรงศาล |
รวม |
17 |
- |
- |
- |
|
ท่านที่มีอายุอยู่ในระหว่างพระพุธเสวยอายุ ให้ท่องบ่นคาถา สุพฺพาสีวิสชาตีนํฯ ไปจนครบ 17 จบ ตามกำลังเทวดาที่เสวยอายุทุก ๆ คืน ตามคาถาประจำวันเกิดท่าน จะมีจิตใจผ่องใส ปรารถนาสิ่งใด ย่อมได้รับความสำเร็จทุกประการ
พระเสาร์เสวยอายุ 10 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย |
พระเสาร์เสวยอายุตัวเอง
พระพฤหัสบดีแทรกพระเสาร์
พระราหูแทรกพระเสาร์
พระศุกร์แทรกพระเสาร์
พระอาทิตย์แทรกพระเสาร์
พระจันทร์แทรกพระเสาร์
พระอังคารแทรกพระเสาร์ พระพุธแทรกพระเสาร์ |
-
1
1
1
-
1
- 1
|
11
9
9
10
6
4
8 9 |
3
3
10
10
20
20
26 26 |
20
20
-
-
-
-
40 40 |
จะเสียทรัพย์และของรัก ศัตรูจะทำร้ายจะเกิดความเพราะคนใกล้เคียง ห้ามการเดินทางไกล ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์จะให้ลาภ หน้าที่การงานจะดำเนินไปด้วยดี ให้ระวังของ มึนเมาและอบายมุขต่าง ๆ จะเกิดเรื่องเพราะปากของตนเอง ให้เกรงศัตรู 2 คน อยู่ทางทิศอุดรและหรดี จะเสียทรัพย์สินเงินทอง ห้ามเดินไปทางทิศหรดีและอีสาน จะได้ลาภเงินทองบุตรภรรยา แต่ต้องมีความเพียรมาก จะเสียทรัพย์ และผิดใจกันกับบุตร ภรรยา มิตรสหายและทำใจให้หนักแน่นไว้ จะเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย ศัตรูเป็นผู้หญิง เนื้อดำแดงอยู่ทางทิศพายัพ ห้ามเดินทางไปในป่า |
รวม |
10 |
- |
- |
- |
|
ท่านผู้ใดที่มีอายุอยู่ในระหว่างพระเสาร์เสวยอายุให้ท่องบ่นคาถา ยโตหํ ภคินิ ฯ ไป จนจบครบ 10 จบ ตามกำลังเทวดาที่เสวยอายุทุก ๆ คืน ตามคาถาพระประจำวัน ท่านจะประสบโชคลาภเป็นอเนกประการ โรคภัยไข้เจ็บไม่มีจิตใจมั่นคงหนักแน่น ประสบความสุขทุกเมื่อ
พระพฤหัสบดีเสวยอายุ 19 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย |
พระพฤหัสบดีเสวยอายุตัวเอง
พระราหูแทรกพระพฤหัสบดี พระศุกร์แทรกพระพฤหัสบดี
พระอาทิตย์แทรกพระพฤหัสบดี
พระจันทร์แทรกพระพฤหัสบดี
พระอังคารแทรกพระพฤหัสบดี
พระพุธแทรกพระพฤหัสบดี พระเสาร์แทรกพระพฤหัสบดี |
3
2 3
2
2
1
2 1 |
4
1 8
-
7
4
11 9 |
3
10 10
20
20
26
26 3 |
20
- -
-
-
40
40 20 |
สมณะ ชีพราหมณ์ ผู้ใหญ่ให้ลาภ จะได้ชื่อเสียง จะได้บุตรภรรยาข้าทาสชายหญิง จะเกิดพยาธิเจ็บท้อง จะเกิดอุบาทว์จัญไรที่รักจะเป็นศัตรูให้ระมัดระวัง ผู้ชายผมหยองท้องใหญ่ อยู่ทิศพายัพ ปัจฉิม และอาคเนย์ จะได้ลาภเงินทองของขาวเหลืองจากทิศอุดร ตอนต้นจะเจ็บไข้ได้ป่วย ตอนหลังจะมีลาภเพราะมิตรสหาย และผู้มีบรรดาศักดิ์ จะได้ลาภและเสียทรัพย์ ให้ระวังผู้หญิงขาวเหลืองจะนำทุกข์มาให้ จะเกิดถ้อยความขึ้นโรงศาลผู้ใหญ่จะให้โทษ จะถูกคนใส่ความ จะได้ลาภต่าง ๆ จะได้ชื่อเสียง จะเสียเงินเสียทอง เจ้านายจะทำโทษ ศัตรูเก่าจะนำความเดือดร้อนมาให้ |
รวม |
19 |
- |
- |
- |
|
ท่านผู้ใดที่มีอายุอยู่ในระหว่างพระพฤหัสบดีเสวยอายุให้ท่องบ่นคาถาปุเรนฺตมฺโพธิสมฺภาเรฯ ไปจนจบครบ 19 จบ ตามกำลังเทวดาที่เสวยอายุทุก ๆ คืน ตามถาคาพระประจำวัน ท่านจะได้รับแต่ความสุข จิตใจผ่องใส ปราศจากโรคาพยาธิบริบูรณ์มั่นคงไปด้วยทรัพย์สมบัติ
พระราหูเสวยอายุ 12 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย |
พระราหูเสวยอายุตัวเอง
พระศุกร์แทรกพระราหู
พระอาทิตย์แทรกพระราหู พระจันทร์แทรกพระราหู
พระอังคารแทรกพระราหู
พระพุธแทรกพระราหู
พระเสาร์แทรกพระราหู พระพฤหัสบดีแทรกพระราหู |
1
2
- -
-
-
1 2 |
4
4
8 1
10
10
1 1 |
-
-
- 8
20
20
10 10 |
-
-
- -
-
-
- - |
จะเกิดความทุกข์เจ็บไข้เลือดจะตกยางจะออก บิดามารดาจะตาย อย่าตามใจตนเอง จะได้ลาภอันพึงพอใจ จะเป็นปากเสียงกับคนบ้านใกล้เรือนเคียง จะเดือดร้อนที่อยู่อาศัย แต่ท่านผู้ใหญ่จะให้ลาภ ผู้หญิงจะให้ลาภ แต่ให้ระวังบริวารของตนจะหาความทุกข์ร้อนมาให้ จะเสียเงินเสียทอง เลือดจะตกยางจะออก ให้เกรงสัตว์มีพิษ จะได้ลาภเงินทองแต่ภายหลังศัตรูจะใส่โทษแก่ตนและเสียทรัพย์ ให้ระวังภายใน 10 วัน อย่าขึ้นต้นไม้ ภายหลังจะได้ลาภเงินทองเพราะมิตรสหาย ตอนต้นจะเจ็บป่วย แต่ตอนปลายจะได้ลาภ |
รวม |
12 |
- |
- |
- |
|
ท่านผู้ใดที่มีอายุอยู่ในระหว่างพระราหูเสวยอายุให้ท่องบ่นคาถาว่า กินนุสันตะระมาโน วะ ราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ กิฏฐะสีติ สัตตะธาเม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติฯ จนครบ 12 จบ ตามกำลังเทวดาที่เสวยอายุทุก ๆ คืน สำหรับผู้ที่พระราหูเสวยอายุนั้นจะต้องทำจิตใจมั่นคง อุตส่าห์บำเพ็ญบุญกุศลแล้วจะเกิดลาภผลในภายหลัง
พระศุกร์เสวยอายุ 21 ปี
ลำดับเทวดา |
ปี |
เดือน |
วัน |
นาที |
คำทำนาย |
พระศุกร์เสวยอายุตัวเอง
พระอาทิตย์แทรกพระศุกร์
พระจันทร์แทรกพระศุกร์
พระอังคารแทรกพระศุกร์
พระพุทธแทรกพระศุกร์
พระเสาร์แทรกพระศุกร์
พระพฤหัสบดีแทรกพระศุกร์
พระราหูแทรกพระศุกร์ |
4
1
2
1
3
1
3
2 |
1
2
11
6
3
11
8
3 |
-
-
-
20
20
10
10
- |
-
-
-
-
-
-
-
- |
จะได้ลาภผ้าผ่อนเงินทองจะอยู่เย็นเป็นสุข อย่ายุ่งด้วยเรื่องคนอื่นจะเดือดร้อน จะเจ็บไข้ได้ป่วยให้เกรงโทษทัณฑ์ เพราะมิตรสหาย ให้ระวังปากของตนเอง ผู้เฒ่า ผู้แก่อยู่ทิศบูรพาจะนำลาภมาให้หรือจะได้ลาภเพราะผู้หญิง จะได้ลาภเงินทองสิ่งของที่รักและบุตรภรรยา ถ้าทำราชการจะได้ชื่อเสียงและเลื่อนยศ จะได้ลาภเงินทอง ลาภนั้นมาแต่ทิศบูรพา ถ้าเจ็บไข้ ให้เปลี่ยนสถานที่อยู่ไปทิศบูรพา จะพลัดพรากจากของรักและจะจากที่อยู่อาศัย จะเสียข้าวของเงินทอง จะมีลาภจากผู้สูงอายุ จะได้ยศถาบรรดาศักดิ์ เกียรติยศชื่อเสียง จะเจ็บไข้จะเสียทรัพย์ให้เกรงศัตรูเนื้อดำแดง ตาเหลือก อยู่ทิศพายัพ และอาคเนย์ จะนำความทุกข์มาให้
|
รวม |
21 |
- |
- |
- |
|
ท่านผู้ใดอายุอยู่ในระหว่างพระศุกร์เสวยอายุให้ท่องบ่นคาถา อปฺปสนฺเนหิ นาถสฺสฯ ไปจนครบ 21 จบ ตามกำลังเทวดาเสวยอายุทุก ๆ คืน จะเกิดสวัสดิมงคลเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาร ธนสารทุก ๆ ประการ
อนึ่ง การบูชาเทวดานั้น นอกจากท่องบ่นคาถาประจำองค์เทวดาที่เสวยอายุตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น จะต้องท่องบ่นคาถาประจำองค์เทวดาที่แทรกนั้น ๆ อีกด้วย การท่องบ่นคาถาก็ให้ท่องบ่นตามกำลังเทวดาที่เสวยอายุและเทวดาที่กำลังแทรกอยู่และยังมีวิธีการบูชา เทวดาอยู่อย่างหนึ่งเรียกว่าวิธีรับและส่ง แต่ต้องรู้วัน เดือน ปีเกิด ข้างขึ้นหรือข้างแรมกับเวลาเกิดด้วย เพราะคนเราเมื่อเกิดพอคลอดออกมา จะต้องมีเทวดารักษาทันที เรียกว่า เทวดาเสวยตัวเอง และต่อมาท่านจึงเปลี่ยนให้เทวดาองค์อื่นช่วยรักษาแทนต่อไป นับเวลาที่หมดภาระของตนจึงเรียกว่าเทวดาแทรก ฉะนั้น การรับหรือการส่งต้องทำในเวลาเดียวกัน ถ้าจำเวลาที่เกิดไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องรับหรือส่ง เพราะไม่ได้ผลทั้งสองประการ ยังมีอยู่อีกวิธีหนึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่ารับส่งเทวดา คือถ้าท่านเกิดในวันใด ก็ให้สร้างพระพุทธรูปประจำวันให้กราบไหว้บูชา วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ได้กุศลสองอย่าง คือ ทำให้จิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง และทำให้จิตใจของเราเป็นบุญเป็นกุศลสดชื่นผ่องใส เมื่อจิตใจสดชื่นแล้ว ทำให้เกิดความสุขกายสบายใจอันเป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ทุกรูปทุกนาม
พระปฏิมากรประจำวันเกิดนั้น มีดังต่อไปนี้
1. เกิดวันอาทิตย์ พระพุทธปฏิมากร ปางถวายเนตร
2. เกิดวันจันทร์ พระพุทธปฏิมากร ปางห้ามญาติ
3. เกิดวันอังคาร พระพุทธปฏิมากร ปางไสยาสน์
4. เกิดวันพุธ พระพุทธปฏิมากร ปางอุ้มบาตร
5. เกิดวันพฤหัสบดี พระพุทธปฏิมากร ปางสมาธิ
6. เกิดวันศุกร์ พระพุทธปฏิมากร ปางรำพึง
7. เกิดวันเสาร์ พระพุทธปฏิมากร ปางนาคปรก
8. เกิดวันพุธ (กลางคืน) พระพุทธปฏิมากร ปางป่าเลไลย์
เมื่อภาวนาคาถาประจำเทวดาที่เสวยอายุ และเทวดาที่แทรกเสร็จแล้วประการสุดท้ายให้ท่องคาถาต่อไปนี้ “นะโม เม โรเค โข สัพพะเมวะนัง สัพพะ พุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ พระเคราะหะจะเทวะตา สุริยะจันทัง ปะมุญจะถะ สะสิภุมดม จะ เทวานัง พุทโธ ลาภัง ภะวิสสะติ ชีโว สุกกโร จะ มะหาลาภัง สัพพะทุกขัง วินาสสันติ” เป็นอันเสร็จพิธีบูชาเทวดาประจำคืนแต่ละคืน ถ้าท่านทำได้ทุก ๆ คืน เป็นนิจไปแล้วย่อมทำให้เกิดคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ไพศาล จะเจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญสุขทุก ๆ เมื่อแลฯ
- รายละเอียด
- หมวด: โหราศาสตร์ไทย
- จำนวนผู้อ่าน: 129109
ความหมายของดาว
ดาวอาทิตย์ (๑)
ดาวอาทิตย์ สัญญลักษณ์คือเลข ๑
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๑ ให้หมายถึง ดาวอาทิตย์
[ เทพเจ้าแห่งความร้อนแรง ]
อาทิตย์ (๑) ดาวบาปเคราะห์ (บางตำราว่าเป็นศุภเคราะห์)
อาทิตย์ (๑) ดาวประจำวันของคนเกิด วันอาทิตย์
อาทิตย์ (๑) จัดเป็นดาวเพศชาย ใช้เป็นตัวแทนเพื่อดูในเรื่องบิดาและเกียรติยศ ศักดิ์ศรี
อาทิตย์ (๑) คือ ร่างกาย ชีวิต ตัวตนของเจ้าชะตา
อาทิตย์ (๑) เป็นสัญญลักษณ์ของเกียรติยศ ชื่อเสียงและศักดิ์ศรี การต้องการมีน่ามีตาและความสง่าราศี
ความดื้อรั้น ทิฐิ ความเชื่อมั่นในตัวเอง การไม่ยอมฟังใครๆ
อาทิตย์ (๑) หมายถึง บิดา ผู้ชาย หัวหน้า ผู้มีอำนาจ ราชการ อิทธิพล มีพลังงาน ความริเริ่ม ความสร้างสรรค์
แสงสว่าง ความมุ่งหมายที่สูงส่ง ตาข้างขวา หัวใจ เพศชาย ธาตุไฟ
อาทิตย์ (๑) ของเจ้าชะตาตกอยู่ในเรือนอริ มักจะไม่ค่อยถูกกับบิดาของตน หรือมีเหตุให้ต้องพลัดพลากจากกัน
อาทิตย์ (๑) ตกเรือน มรณะ หรืออยู่ในเรือนวินาศ โบราณว่า เป็น "ดวงลูกกินพ่อ" ส่วนมากแล้วใครมีดวง
แบบนี้บิดามักจะอยู่ไม่ได้เช่นไม่เลิกกับมารดาก็มักต้องแยกกันอยู่หรือต้องพลัดพลากจากเจ้าชะตา
โบราณท่านแก้เคล็ดโดยยกให้เป็นลูกพระหรือเจ้าพ่อเจ้าแม่ หรือให้ญาติๆเลี้ยงแก้เคล็ดซึ่งวิธีนี้
โบราณนิยมมากเลยทีเดียว.
อาทิตย์ (๑) ดี :
หมายถึง ความใจกว้าง เอื้อเฟื่้อเผื่อแผ่ ความหยิ่งทระนงในเกียรติและศักดิ์ศรี ความภาคภูมิ
และความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีกำลังใจที่เด็จเดียวเข้มแข็ง มีจุดมุ่งหมายเป็นที่เชื่อถือได้ มี
ความ มีความคิดและการกระทำอันเป็นไปในลักษณะที่สร้างสรรค์ มีความสามารถและรับผิด
ชอบสูง ฯลฯ
อาทิตย์ (๑) เสีย :
ทำให้เป็นคนถือเนื้อถือตัว ตนเองสำคัญที่หนึ่ง ยกตนข่มท่าน มีลักษณะอีโก้หรือมักยกตน
เหนือกว่าผู้อื่น ไร้ความสามารถ ดีแต่คุยโอ้อวด ชอบเอิกเกริก ฉุยฉาย เข้าลักษณะโน้มเอียง
ไปในทางทำลายและหักล้าง เหิมเกริมและคุกคามผู้อื่น ชอบข่มขู่ ลักษณะขี้ขลาด ไม่มีความ
รับผิดชอบ ไม่กล้าได้กล้าเสีย ฯลฯ
ดาวอาทิตย์(๑) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีสิงห์)
ท่านว่าจะมีวาสนาทางด้านเกียรติยศ ตำแหน่งในเรื่องของข้าราชการพลเรือน ให้คุณในทาง
รูปสวย รวยทรัพย์ มีคนนับหน้าถือตา มีบารมี มีอำนาจเด็จขาดชนะศัตรู เป็นคนรักเกียรติยศ รักชื่อเสียง
ชอบความเป็นอิสระแก่ตัวเอง แต่ติดจะหนักออกไปในทางดื้อรั้น อวดดี มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงเิกินไป
คนที่มีดาวอาทิตย์(๑) เด่นถืงลัคนา (ลั)
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเกษตร ก็ให้ทำนายตามนี้ได้ แต่ก็ให้ลดความเชื่อมั่นในเรื่องความเป็นผู้มี
วาสนาลดลงไปบ้าง
สำหรับผู้ที่มีลัคนา(ลั) อยู่ในราศีสิงห์
ถ้าในราศีสิงห์ไม่มีดาวดวงอื่นๆเข้ามาอยู่ และดาวอาทิตย์(๑) ก็ไม่ได้ตกไปอยู่ในเรือนที่เสียคือ
เรือนอริ มรณะ วินาศ ก็ให้ทำนายอุปนิสัยโดยทั่วๆไปได้ตามตำแหน่งเกษตรนี้ได้เลย และอุปนิสัยจะเป็นคน
ใจร้อน ชอบวางท่าไว้อำนาจ ดูถูกเหยียดหยามคนได้ง่าย ถ้ามีใคมาดูถูกหรือทำให้รู้สึกเสียหน้าจะแสดงอาการ
ดูถูกเหยียดหยามตอกหน้ากลับทันที
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวอาทิตย์ (๑)
สถานที่ :
สถานที่สำคัญต่างๆ มีพระราชวัง ศาลากลางจังหวัด ทำเนียบรัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม
ต่างๆธนาคารชาติ อาคารสูงๆ ใหญ่โต โรงกษาปณ์ วัดวาอาราม สถาบันการเงิน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
สถานที่เล่นหุ้น หวย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โรงมหรสพ ร้านทอง ร้านกระจก ร้านแว่นตา
โรงผลิตไฟฟ้า ผลิตคอมพิวเตอร์ โรงงานกระจก ฯลฯ
บุคล :
ผู้มีอำนาจ มียศศักดิ์ เจ้านายใหญ่โต อาทิ พระราชา ประธานาธิบดี สุลต่าน เจ้าฟ้า นายกฯ
ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา รัฐมนตรี ผู้มีบรรดาศักดิ์ บิดา ข้าราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายจ้าง
ผู้จัดการ เจ้าของบ้าน เจ้าของกิจการ หัวหน้า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานสภาจังหวัด นายกเทศมนตรี
นายธนาคาร นายแพทย์ นักคอมพิวเตอร์ นักธุรกิจระดับแนวหน้า ผู้ที่มีความคิดริเริ่ม ฯลฯ
วิชาการ :
การศึกษาวิชานายร้อย นายเรือ นายเรืออากาศ ตำรวจ วิศวกรรมศาสตร์ ทางด้านอิเล็คทรอนิกส์
วิทยาการคอมพิวเตอร์ ศาสตร์ทางด้านการเจียรไนเพชรพลอย วิชาการทางช่างต่างๆ เช่น ช่างทอง
ช่างกาไหล่ ช่างกล ช่างไฟฟ้า ช่างกระจก ช่างก่อสร้าง การริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ฯลฯ
อาชีพ :
รับราชการ งานทางด้านเกี่ยวกับการเมือง การปกครอง หัวหน้า รัฐวิสาหกิจ งานที่มีเกียรติ บริษัทที่
มีชื่อเสียง ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า แว่นตา เครื่องใช้ไฟฟ้า งานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ๆ อาชีพที่เกี่ยวกับ
การก่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ฯลฯ
วัตถุ :
ไฟฟ้า ไฟ เครื่องราชฯ ทองคำ เพชรพลอย ทับทิม เครื่องหมายยศ รูปหล่อ-รูปแกะสลัก สิ่งประดิษฐ์
ที่สวยๆงามๆ ฯลฯ
รูปร่าง :
รูปร่างสันทัด ท่าทางองอาจ อกผายไหล่ผึ่ง ผมหยักศก ตาคม ฯลฯ
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
ใจร้อน เจ้าชู้ รักเกียรติ รักศักดิ์ศรี ดื้อรั้น โกรษง่ายหายเร็ว เฉลียวฉลาด ทะเยอทะยาน อวดดียะโส
ใจนักเลง เชื่อมั่นตัวเองสูง มีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ เร้าร้อนทางกามารมณ์ ใฝ่ฝันที่จะเจริญก้าวหน้า
ในชีวิตการงาน ฯลฯ
อวัยวะ :
หัวใจ เส้นโลหิตแดงใหญ่ ดวงตา เครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ ฯลฯ
สี :
สีแดงเลือดนก แดง โทนแดง ฯลฯ
พืช :
พืชที่มีดอกสีแดง แค็คตัส กระบองเพชร รากแก้ว ต้นไม้ที่ขึ้นในที่แล้ง ฯลฯ
ทิศ :
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ดาวจันทร์ (๒)
ดาวจันทร์์ สัญญลักษณ์คือเลข ๒
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๒ ให้หมายถึง ดาวจันทร์
จันทร์ (๒) ดาวศุภเคราะห์
จันทร์ (๒) ดาวประจำวันของคนเกิดวัน จันทร์
จันทร์ (๒) เป็นตัวแทนของสตรีเพศ หรือมารดา และความมีเสน่ห์น่ารัก การเอาใจผู้คน
จันทร์ (๒) คือ จิตใจ วิญญาณ ความรู้สึก อารมณ์ เยือกเย็น สุขุม เชื่องช้า เฉื่อยชา นิ่มๆ นุ่มนาล ผิวพรรณ
จันทร์ (๒) นางพญา หรือ ราชินี ที่มีความน่ารักอยู่ในตัวซึ่งทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกยกย่องประทับใจในอากัปกิริยา
ที่นุ่มนวนมีเสน่ห์
จันทร์ (๒) หมายถึง มารดา่ ผู้หญิง ความอ่อนไหว คล้อยตามง่าย จินตนาการ ความคิดความฝัน
ตาข้างซ้าย ของเหลว น้ำ น้ำเหลือง น้ำหล่อเลี้ยงร่างกาย เพศหญิง ธาตุน้ำ
จันทร์ (๒) ดี :
มีคุณสมบัติในทางสร้างสรรค์ ทำให้มีความรู้สึกที่ไวต่อการสัมผัส หรือเครื่อนไหวในทุกๆด้าน
การประทับใจความรู้สึกดีๆสูง มีจินตนาการ มีความเห็นอกเห็นใจ เข้ากับคนได้ทุกสภาวะ
มีสัญชาตญาณในการป้องกันและปกปักรักษา มีการผ่อนปรนอะลุ้มอล่วย มีความกรุณาปราณี
ความรู้สึกสัมผัสที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความทรงจำที่ดี มีการปรับปรุงที่ดีขึ้น ฯลฯ
จันทร์ (๒) เสีย :
ไม่มีความมั่นคง โลเล ไม่สามารถที่จะไว้วางใจได้ในทุกๆประการ มีความรู้สึกเศร้าหมอง
ขุ่นมัวเป็นอารมณ์ เร่าร้อน กระวนกระวาย ไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เจ้า
อารมณ์ ไม่จริงจังในทุกๆเรื่อง จู้จี้จุกจิก มีอคติ มีจิตใจอ่อนแอ หวั่นไหวผลัดวันประกันพรุ่ง
ชอบสร้างวิมานในอากาศ ฯลฯ
ดาวจันทร์(๒) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีกรกฏ)
เจ้าชะตาจะมีวาสนาดีทางด้านความนิ่มนวล สุภาพ อ่อนโยน มีเสน่ห์ กิริยาน่ารัก แต่งกายเรียบ
ร้อย สะอาดสะอ้าน เป็นที่เคารพรักของคนทั่วๆไป จะได้เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ชอบรับประทานอาหารของดีๆ
คนที่มีดาวจันทร์(๒) เด่น ถึงลัคนา (ลั)
แม้ว่าจะไม่ใช่ตำแหน่งเกษตรก็ตาม จะทำให้เจ้าชะตามีจริตสามารถทำให้เห็นความนิ่ม
นวล น่ารักเป็นที่สนใจของเพศตรงข้าม มีความสามารถเข้าพระเข้านางไหด้เป็นอย่างดี หรือเจ้าชู้นั้นแหละ
ถ้าดาวจันทร์ไม่ถึงลัคนา(ลั) หรือได้ตำแหน่งเสื่อม มักจะเอาใจใครไม่เป็น ไม่มีเสน่ห์ ไม่นิ่มนวล
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวจันทร์์ (๒)
สถานที่ :
ท่าเรือ แพปลา น้ำ บ่อน้ำ คลอง ทะเลสาบ ทะเล แพปลา มหาสมุทร โรงนำ้แข็ง โรงทำน้ำประปา
น้ำดื่ม น้ำอัดลม น้ำหอม โรงพยาบาล ร้านค้า โรงงานผลิตสุรา ตลาด สถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ ห้องอาบน้ำ-
สาธารณะ เขื่อนชลประทาน สถานที่แสดงแฟชั่น ร้านเสริมสวย ร้านขายเครื่องสำอาง โรงงานผลิตเครื่อง
สำอางค์ ผลิตแว่นตา ร้านจำหน่ายแว่นตา โรงเรียนเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า ฯลฯ
บุคคล :
นักประพันธ์ที่ชอบเขียนเรื่องทางกามารมณ์รักๆใคร่ๆ เพศหญิง มารดา สมเด็จพระราชินี
เชื้อพระวงศ์ที่เป็นสุภาพสตรี สตรีสูงศักดิ์ นางพยาบาล แพทย์หญิง เภสัชฯ นักท่องเที่ยว คุณหญิงคุณนาย
สาวใช้ ช่างเสื้อ ช่างเสริมสวย คนเดินเรือ กะลาสีเรือ ชาวประมง นางแบบ เลขานุการิณี ช่างศิลป์
นักร้อง ดาราภาพยนต์ นักดนตรีนาฏศิลป์ พี่เลี้ยง นางงาม สาวฉันทนาที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะโรงงานทอผ้า โรงงานทอกระสอบ ช่างเสื้อหญิง ฯลฯ
วิชาการ :
วิชาพยาบาลศาสตร์ แพทย์-เภสัชศาสตร์ พาณิชย์ราชนาวี โรงเรียนนายเรือ วิชาการโรงแรม
อักษรศาสตร์ พฤกษศาสตร์ ชีววิทยา อุทกศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี บริหารธุรกิจ วิทยาลัยนาฏศิลป์ ฯลฯ
อาชีพ :
งานที่เกี่ยวกับการบริการ ต้อนรับ แอร์โฮสเตส แอร์บัส งานโรงพยาบาล เภสัชฯ ปฐมพยาบาล เกี่ยวกับน้ำ
งานสังคมสงเคราะห์ งานเลี้ยงเด็ก เกี่ยวกับเสื้อผ้า งานประดิษฐ์เย็บปักถักร้อย งานแม่บ้าน งานดูแลความ
สะอาด-เรียบร้อบ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม งานประมง ร้านค้าสัตว์น้ำ อาหารทะเล เกี่ยวกับน้ำแข็ง น้ำฝน การผลิต
เครื่องดื่ม - อาหาร ชูเปอร์มาเก็ต ขายของช่ำ ขายขนม การนวดแผนโบราณ ฯลฯ
วัตถุ :
ไข่มุก เครื่องแก้ว เครื้องกระเบื้องต่างๆ ภาชนะสำหรับใส่ของเหลว ของแปลกแปลกใหม่ๆ เงิน
เครื่องเงิน โอปอ ฯลฯ
รูปร่าง :
ผอมขาวบาง ผิวเนื้อขาวเหลือง ดวงหน้าขาวกลม ศรีษะค่อนข้างโตเล็กน้อย ฯลฯ
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
เป็นคนเชื่อง่ายดั่งกับน้ำที่เปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่ใส่ หูเบา ใจเย็น รักสวยรักงาม ร่าเริง
ชอบแต่งตัว รักงานบ้านงานเรือน รักครอบครัว โกรษง่ายหายเร็ว จู้จี้ขี้บ่น เจ้าแง่แสนงอน เมตตากรุณา
เห็นอกเห็นใจคน ชอบความสงบ ชอบดนตรีนาฏศิลป์ วรรณคดี ชอบเดินทางท่องเที่ยว ชอบการเปลี่ยนแปลง
ไม่ชอบจำเจ บางคนก็จับจด หยิบโหย่ง ใจรวนเร กระตุ้งกระติ้ง เล่นหูเล่นตา ถ้าจันทร์เสีย แสดงว่าใจคอ
คับแคบ กระด้าง ขาดความเมตตากรุณา โหดเหี้ยม เห็นแก่ได้ ฯลฯ
อวัยวะ :
ใบหน้า นัยน์ตา แขน ไหล่ มือ อก เต้านม น้ำนม มดลูก ท้อง ต่อมต่างๆในร่างกาย กระเพาะอาหาร
ลำไส้ เครื่องย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ฯลฯ
สี :
สีไข่ไก่ สีขาวนวล โทนขาว ฯลฯ
ทิศ :
ทิศตะวันออก
ดาวอังคาร (๓)
ดาวอังคาร สัญญลักษณ์คือเลข ๓
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๓ ให้หมายถึง ดาวอังคาร
อังคาร (๓) ดาวบาปเคราะห์
อังคาร (๓) ดาวประจำวันของคนเกิดวัน อังคาร
อังคาร (๓) แสดงออกไปทางรุนแรง เอะอะปึงปัง โผงผาง ใช้กำลัง โมโห เร้าร้อน ความเดือดร้อน
อังคาร (๓) คือ ความขยัน กล้าหาญ อดทน โทษะร้าย โมโหง่าย ใจร้อน ชอบใช้กำลัง การใช้กำลัง
การร่วมกิจกรรม ความคึกคักกระฉับกระเฉง กล้า-บ้า-ดีเดือด อุบัติเหตุ ฯลฯ
อังคาร (๓) โลหิต การสูบฉีดโลหิต
อังคาร (๓) การทะเลาะ การปะทะ การกระแทก
อังคาร (๓) การกระทำที่แสดงออกไปในทางรวดเร็วทันทีทันใดไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านดีและทางด้านเสีย
อังคาร (๓) หมายถึง ชายหนุ่ม ผู้ใช้กำลัง นายช่าง ทันตแพทย์ ของแข็ง กระดูก เพศชาย ธาตุลม เลข 3
อังคาร (๓) ดี :
การกระทำสิ่งใดๆด้วยความกระตือรือร้น กล้าหาญชาญชัย ไม่กลัวใครทั้งสินมีลักษณะ
เสี่ยงภัย บุกเบิก มีความเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อใคร มีความทะเยอทะยาน มีลักษณะเป็น
มหกรรม เชื่อมั่นในตัวเอง ขยันขันแข็ง ตัดสินใจเด็จขาด ฉับพลัน มีลักษณะของการต่อ
สู้ แข่งขัน โน้มน้าวชักนำ เผชิญภัย ฯลฯ
อังคาร (๓) เสีย :
มีลักษณะข่มขู่ โอหังบังอาจ กักขฬะและหยาบช้า นักเลง เกเร ชอบใช้กำลัง ห้ามใจไม่
อยู่ ไม่มีความอดทน กามราคะรุนแรง เร้าร้อนกระวนกระวาย พร้อมที่จะคิดทำด้วยความ
รู้ึสึึกชั่วๆ เร้าร้อน ถือตนเป็นใหญ่ ดือด้าน ไม่เรียบร้อย ชอบการโต้เถียง ถือตนเองเหนือ
กว่า ผู้อื่น หุนหันพลันแล่น ไม่ต้องการความร่วมมือ ตื่นเต้น ชอบก่อเรื่อง ฯลฯ
ดาวอังคาร(๓) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีเมษหรือพิจิก)
จะมีวาสนาดีในเรื่องความกล้าหาญ ขยัน สุขภาพดี แข็งแรง ให้คุณในด้านยศศักดิ์โดยเฉพาะ
ตำแหน่งหน้าที่ในราชการทหารหรือตำรวจที่ต้องอาศัยความกล้าหาญเป็นสำคัญ โบราณท่านว่าดาวอังคารได้
ตำแหน่งเกษตร จะมีเทือกสวนไร่นา เป็นพ่อค้าที่ดีเพราะตัดสินใจได้รวดเร็วและถูกต้อง แต่จะติดไปในทาง
ใจร้อน โมโหร้ายแต่ก็หายเร็ว ดีในด้านพละกำลัง แต่ขาดความนิ่มนวล หงุดหงิด ตกใจง่าย ดาวอังคารจัดเป็น
ดาวฝ่ายบู๊เปรียบเสมือนนัักรบในระดับแม่ทัพนายกอง มีความคิดอ่านที่จะเอาชนะศัตรูด้วยเล่ห์กล เพทุบาย
การชอบใช้พละกำลังเป็นเครื่องตัดสิน
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวอังคาร (๓)
สถานที่ :
โรงงานถลุงเหล็ก โรงกลึง โรงหล่อ อู่ซ่อมรถยนต์ โรงงานผลิตประกอบรถ โรงงานสร้างเครื่องจักรกล
อู่ต่อเรือ ค่ายทหาร ครังเก็บอาวุธ สถานที่เผาอิฐเผาถ่าน โรงโม่หิน เตาไฟ ตึกศัลยกรรม ทะเลทราย ป้อมปืน
ป้อมปราการ โรงงานฆ่าสัตว์ สถานีตำรวจ สนามรบ บ่อนไก่ชน กระทรวงกลาโหม สถานีตำรวจ กรมกองทหาร ฯลฯ
บุคคล :
ทหาร ตำรวจ พัศดีเรือนจำ นักปกครอง สรรพกร สรรพสามิต ศุลกากร บุคคลที่มีอำนาจในการ
ปราบปราม ตำรวจเทศกิจ แม่ทัพ นายกองของทหารบก บุคคลในเครื่องแบบ วิศวกร โรงงานอุตสาหกรรม
ช่างเครื่องยนต์กลไก ช่างเหล็ก เพชฌฆาต นักเลงอันธพาล นักผจญภัย คนฆ่าสัตว์ แพทย์ที่ทำศัลยกรรม
ทันตแพทย์ ช่างตัดผม นักเคมีวิทยา ฯลฯ
วิชาการ :
วิชาการทหารสงครามจิตวิทยา โรงเรียนศุลการักษ์ วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ โรงเรียน
ช่างกล โรงเรียนพลและนายร้อย ตำรวจ นายร้อยทหาร วิชาการที่เกี่ยวกับต่อสู้ ฯลฯ
อาชีพ :
งานเกี่ยวกับช่างเทคนิคต่างๆ เช่น ช่างยนต์ ช่างกล ช่างเชื่อม - โลหะ ค้าอาวุธ หรือของมีคม
เกี่ยวกับรถ เครื่องอะไหล่ เครื่องเหล็ก เครื่องจักร นาฬิกา พนักงานขับรถ หรือ ขายรถ ช่างฟิต นักมวย
หรือผู้ที่ชอบต่อสู้หรือผจญภัย ตำรวจ ทหาร พัศดี นายอำเภอ คนคุ้มกัน งานประเภทตัด-ต่อต่างๆ เช่น
ตัดผม ฯลฯ
วัตถุ :
อาวุธ ขีปนาวุธ ของมีคมทุกชนิด อิฐ หิน ปูน ทราย เพชร โกเมน ถ่าน ลูกระเบิด ลูกกระสุน ยานพาหนะ ฯลฯ
รูปร่าง :
ดำแดง สันทัด(แบบมะขามข้อเดียว) ผมหยิกหยักโศก ตาโต ลำคอสั้น ใบหน้าออกกลม ฯลฯ
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
ดาวอังคารดี บุคคลที่มีความขยันหมันเพียร มานะ อดทน กล้าหาญเด็ดเดี่ยว รักการต่อสู้อย่างลูกผู้ชาย
ดาวอังคารเสีย ขี้หงุดหงิด โกรษง่าย มีทิฐิมานะ อิจฉาริษยา ก้าวร้าว เจ้าแง่แสนงอน โทษะจริตสูง ขาดความยั้งคิด
ทำตัวเป็นนักเลง อันธพาลชอบตีรันฟันแทง ทรยศหักหลัง พูดจาขวานผ่าซากแบบมะนาวไม่มีน้ำ หูเบา ชอบยกยอ
ปอปั้น ดุร้าย ฯลฯ
อวัยวะ :
จมูก ศรีษะ มดลูก ต่อมลูกหมาก ม้าม ดี ไต ลำไส้ สมอง ฯลฯ
สี :
สีแดงเข้ม หรือโทน สีชมพู ฯลฯ
ทิศ :
ทิศตะวันออกเฉียงใต้
ดาวพุธ (๔)
ดาวพุธ สัญญลักษณ์คือเลข ๔
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๔ ให้หมายถึง ดาวพุธ
พุธ (๔) ดาวศุภเคราะห์
พุธ (๔) ดาวประจำวันของคนเกิดวัน พุธ
พุธ (๔) ดาวสัญลักษณ์ของนักธุรกิจ การค้าการขาย การพูดการเจรจา การเขียน การแก้ปัญหาด้วยความรวดเร็ว
ความคล่องแคล้วว่องไวในการตัดสินใจ รอบรู้ในกิจการงานต่างๆ เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
พุธ (๔) คือ สมอง ความคิด ทักษะ การพูดการเจรจา การติดต่อ-สื่อสาร คมนาคม คนหนุ่ม-สาว ประสาทสัมผัส
การเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดยั้ง ช่วงต่อ การเปิด-ปิด การประสาน การเข้าถึงกลุ่ม ธรรมชาติ ธาตุน้ำ เลข 4
พุธ (๔) ความหลักแหลม ในการพูดและการแก้ปัญหา ความรู้ทางด้านประสบการณ์ คนช่างสังเกตุ การวิเคราะห์
และการคิดหาเหตุหาผลด้วยตนเอง
พุธ (๔) ความรู้ที่แสวงหาจากการศึกษาด้วยตนเอง ความรู้ที่เกิดจากลักษณะการสังเกตุ การจดจำมากกว่าจากตำรา
ไหวพริบที่ฉลาดเฉียบแหลม
(คนที่ไม่ได้รับการศึกษาจากสถาบันการศึกษาแต่เก่งส่วนมากมักจะมีดาวพูธที่ทรงคุณภาพนั้นเอง)
พุธ (๔) ดี :
ชอบแสวงหาความรู้ ชอบสอดรู้สอดเห็น มีคุณสมบัติในการวิเคราะห์วิจารณ์ เฉลียวฉลาด มีฝีมือ
มีความขยันหมั่นเพียร มีความสามารถในการติดต่อสื่อสาร เจ้าสำนวนโวหาร มีความทรงจำที่ดี
มีความสามารถในทางวิชาการและในทางเทคนิก คล่องแคร่วว่องไว มีความสามารถในการรับเอา
มีความเข้าใจได้ง่าย ฉลาดแหลมคม รู้เท่าทันคน การรู้จังจังหวะ การเข้าถึง ฯลฯ
พุธ (๔) เสีย :
ลุกลี้ลุกลน มีอาการทางประสาท พล่อยๆ คดในข้องอในกระดุก ยุ่งยากวุ่นวายไม่เข้าเรื่อง
ไม่ยี่หระต่อทุกๆเรื่อง งุ่มงาม ขี้ลืม ไม่สามารถจะตัดสินใจได้ ไม่อยู่ในฐานะที่จะไว้วางใจได้
ตื่นเต้น โวยวายไม่เข้าเรื่อง ไม่มีความแน่นอน เจ้าทุกข์ โกหก หลอกลวง พูดไม่มีคุณภาพ
เชื่อถือไม่ได้ การไม่รู้จังจังหวะ การเข้าถึงที่ผิดจังหวะอยู่เืองๆ ปากปีจอฯลฯ
ดาวพุธ(๔) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีเมถุนหรือกันย์)
เจ้าชะตาจะมีวาสนาดีทางด้านการพูดการเจรจามีหลักมีเกรณฑ์ที่ดี ไหวพริบการคิดการเขียน
การประสัมพันธ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงเหมาะที่จะเป็นนักธุรกิจ การค้าการขาย เป็นผู้ที่มีปฏิภาณดี มีความรอบรู้
ที่เกิดจากประสบการณ์ เป็นคนมีทรัพย์มากเต็มไปด้วยศิลปะ ฉลาดในทางแก้ปัญหาที่เป็นในรู้แบบผู้รอบรู้
ที่มากด้วยประสบการณ์
ดาวพุธ(๔) เด่นถึงลัคนา (ลั) จะทำให้เป็นนักเขียน นักประพันธ์ที่มีสำนวนเป็นที่ถูกใจผู้อ่าน เป็นที่นิยมยกย่อง
ในความเฉียบแหลมเจ้าสำนวนโวหาร ดาวพุธเด่นจึงถือได้ว่ามีวาสนาในด้านธุรกิจและจะบริหารงานด้วย
ประสบการณ์เป็นสำคัญ
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวพุธ (๔)
สถานที่ :
สถานศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย สถาบันการสอนประเภทต่างๆ โรงพิมพ์สำนักพิมพ์
ร้านขายหนังสือ ทุกประเภท ร้านขายเครื่องมือสือสาร โทรศัพท์ โทรเลข ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข
กระทรวงศึกษาธิการ ทบวงมหาวิทยาลัย กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานการท่องเที่ยว สถานีวิทยุกระจายเสียง
สถานีโทรทัศน์ ห้องสมุด กองทะเบียน ยานพาหนะ กรมการขนส่ง กระทรวงคมนาคม สำนักงานออกหนังสือ
เดินทาง กระทรวงการต่าง ประเทศ สนามกีฬา โรงมหรสพ สำนักงานทนายความ ร้านขายของชำ
บริษัทประกันภัย ฯลฯ
บุคคล :
นักการทูต นักการเขียน นักวาดเขียน นักเขียนแบบ นักพูด นักปรัชญาเมธี นายไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่การ-
สือสาร นักจัดรายการ ช่างพิมพ์ ช่างเรียง นักขายประกัน นายหน้า นายทหารคนสนิท พ่อสื่อ-แม่ชัก แคชเชียร์
เจ้าหน้าที่ธุรการ คนถ่ายเอกสาร นักร้อง นักโฆษณาประชาสำพันธ์ นักหนังสือพิมพ์ พนักงานต้อนรับ ครู ล่าม
ทนายความ นักข่าว พิธีกร ฯลฯ
วิชาการ :
รัฐศาสตร์การทูต นิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ บรรณารักษ์ศาสตร์ อักษรศาสตร์ การตลาด วาทศาสตร์
นิติศาสตร์ อังกฤษธุรกิจ วิชาการโรงแรม การประชาสัมพันธ์ คณะประกันภัย ดุริยางค์ศาสตร์ พาณิชยศาสตร์
ครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ บริหารธุรกิจ การตลาด ฯลฯ
อาชีพ :
งานเกี่ยวกับการพูด การติดต่อ นายหน้า นักขายประกัน ครู เลขา การบัญชี งานการพิมพ์ การประชาสัมพันธ์
นักสืบ เซลส์แมน โฆษกพิธีกร นักธุรกิจ ค้าขาย งานเกี่ยวหนังสือ ร้านถ่ายเอกสาร ธุรกิจโฆษณางานสื่อสารต่างๆ
ร้านถ่ายรูป กิจการเกี่ยวกับข่นส่ง กิจการทัวร์ นำเที่ยว ทูต แปลภาษา บรรณาธิการ ห้องสมุด ฯลฯ
วัตถุ :
เครือข่าย การสื่อสาร ไม่ว่าจะเกี่ยวกับอินเตอร์เนต โทรคมนาคม โทรเลข โทรศัพย์ ตำรับตำราทุกชนิด
จดหมาย หนังสือเดินทาง โทรทัศน์ วิทยุ จานดาวเทียม หนังสือพิมพ์ โทรสาร อีเมล์ เว็บไซต์ ฯลฯ
รูปร่าง :
เล็กบางติดท้วมนิดหน่อย จัดว่าเป็นคนร่างเล็ก ผิวเนื้อขาวเหลือง หรือ สองสี ฯลฯ
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
มีศรัธาจริต จึงมักเชื่อคนง่าย ชอบในทางธรรมารมณ์ อารมณ์อ่อนไหวง่าย ช่างพูดช่างเจรจา ร่าเริงแจ่มใส
มีอารมณ์ทางสุนทรี ชอบเสียงเพลง ชอบงานประเภทเบาๆ ปัญญาหลักแหลม
หากดาวพุธเสีย ก็จะกลายเป็นคน นิสัยปลิ้นปล้อน หลอกลวง พูดจากระโชกโฮกฮากแบบมะนาวไม่มีน้ำ
พูดไม่เข้าหูคน เข้าวงสนทนาที่ไหนก็บ่อน แตกที่นั้น ฯลฯ
อวัยวะ :
ปาก ลิ้น ปอด ประสาท ระบบหายใจ หลอดลม หลอดเสียง สมอง มือ แขน ฯลฯ
สี :
สีเขียว หรือ สีแสด ฯลฯ
ทิศ :
ทิศใต้
ดาวพฤหัส (๕)
ดาวพฤหัส สัญญลักษณ์คือเลข ๕
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๕ให้หมายถึง ดาวพฤหัส
พฤหัสบดี (๕) ดาวศุภเคราะห์
พฤหัสบดี (๕) ดาวประจำวันเกิดของคนเกิดวัน พฤหัสบดี
พฤหัสบดี (๕) ดาวคุณธรรม ความรู้ สติปัญญา เหตุผล เกี่ยวกับศาสนา ผู้ใหญ่
พฤหัสบดี (๕) เป็นดาวที่ใหญ่ที่สุด มีน้ำหนักมากที่สุด และเป็นหัวหน้าฝ่ายดาวศุภเคราะห์ทั้งหมด
พฤหัสบดี (๕) คือ ปัญญา เงินทอง ความโอบอ้อมอารีย์ ความสุข ความร่ำรวย ธาตุดิน เลข 5
พฤหัสบดี (๕) สัญญลักษณ์ของวาสนาสูง มีมาตรฐานชีวิตที่ดี สงบเรียบร้อยของชีวิตที่ไม่ต้องต่อสู้ดิ้นรนมาก
พฤหัสบดี (๕) แผ่อิทธิพลถึง ลั จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกคอยคุ้มครองตัวทำให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์
ต่างๆได้ เหตุการณ์ร้ายๆมักไม่ค่อยเกิดขึ้นกับชีวิต หรือที่เรียกว่ามีดวงคลาดแคล้ว มักมีความสุข
สบายง่าย
พฤหัสบดี (๕) ดี :
รู้จักจังหวะและรอคอยโอกาศที่ดี เข้าได้ทุกที่ พอใจที่จะสมาคม การกระทำแสดงออกที่
พอเหมาะพอควร มีอุดมคติ มีความก้ามหน้าและพัฒนาตัวเองไม่หยุด มีน้ำใจดีต่อผู้อื่น
เผื่อแผ่้ ใจบุญสุนทาน โอบอ้อมอารี จริงใจ เมตตาปราณี ยุติธรรม เป็นที่เชื่อถือต่อผู้อื่น
มองโลกในแง่ดี ร่าเริงเบิกบาน มีหิริ-โอตัปปะ มีวิญญาณของการปกป้อง ใจกว้าง เยือก-
เย็น เอาจริงเอาจัง มีเหตุมีผล ฯลฯ
พฤหัส (๕) เสีย :
สุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือย ไม่สงบ เร้าร้อนลุกลน หลอกลวง ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่คำนึงถึง
ตัวบทกฎหมาย หรือไม่คำนึงถึงหลักการ คิดทำอะไรเกิดความเป็นจริง มารยาไถย
ถือตัวเองเท่านั้นที่ถูกต้อง เสแสร้งแกล้งทำ เพ้อฝัน ใช้ความเที่ยงธรรมในทางที่ผิด
เสเพล ชอบอวดโอ้ ไม่มีความซื่อสัตย์ ปล่อยตัว แสวงหาความสำเร็จในสังคมแบบเจ้า
บุญทุ่ม ทำบุญเอาหน้า ฯลฯ
ดาวพฤหัีส (๕) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีธนูหรือมีน)
เจ้าชะตาจะมีวาสนาดีในเรื่องการศึกษาหาความรู้ เป็นผู้ที่มีสติปัญญา เหมาะกับการค้นคว้า
จากตำราเน้นหนักไปในทางทฤษฎี(มากกว่าทางประสบการณ์) เข้าถึงศาสนาได้ง่าย มีสติ สุขุมรอบคอบ
เป็นคนที่มีเหตุผล
ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่งเกษตร หรือเด่นและถึงลัคนา(ลั)
ท่านว่าจะมีทรัพย์มากกว่าคนทั้งปวง มีลักษณะเป็นผู้ใหญ่ สามารถเป็นที่ปรึกษาให้แก่ผู้คนได้
ชอบความสงบ รักความยุติธรรม มีความเกรงกลัวต่อบาป มีคุณธรรม ใช้สติใคร่ควรปัญหามากไปจนบางครั้งดู
เหมือนกับว่าไม่มีความเฉียบแหลมการแก้ปัญหาจึงออกจะช้าๆ (ไม่เหมือนพวกที่มีดาวพุธเด่น)
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวพฤหัส (๕)
สถานที่ :
สถานที่ที่เกี่ยวกันศาสนา เช่น โบสถ์ วิหาร มัสยิด ศาลเจ้า ศาลพระภูมิ พระพรหม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ศาลสถิต ยุติธรรม รัฐสภา สำนักสงฆ์ โรงพยาบาล โรงเรียน สถาบันการศึกษาต่างๆ ฯลฯ
บุคคล :
นักบวชในศาสนาต่างๆ นักสอนศาสนา ครูบาอาจารย์ ทนายความ ผู้พิพากษา จ่าศาล นิติกร แพทย์
โหราจารย์ องคมนตรี ราชองครักษ์ นักปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้สำเร็จราชการ สมาชิกรัฐสภา นักการเมือง-
ทั้งระดับ ท้องถิ่นและระดับชาติ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พัสดีเรือนจำ นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
วิชาการ :
จะเน้นไปทางด้านวิชาการเมือง การปกครอง รัฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์ ครุศาสตร์ โหราศาสตร์
วิทยาศาสตร์ แพทย์ศาสตร์์ นิติศาสตร์ ศาสนาศาสตร์ ฯลฯ
อาชีพ :
ครูบาอาจารย์ งานที่ปรึกษา ทนายความ ผู้พิพากษา แพทย์ - พยาบาล งานผู้นำทั่วไป งานบริหารระดับสูง
งาน ที่เกี่ยวกับการศาสนา สังฆภัณฑ์ นักบวช นักพยากรณ์ ร้านขายยา คลินิก โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า
ธนาคาร ไฟแน้นซ์ ก่อสร้างใหญ่โต การเมือง ฯลฯ
วัตถุ :
เครื่องจักรกล รถยนต์ ศาลพระภูมิ เครื่องปันดินเผา ที่ดิน สัญญา เช็ค โฉนด เครื่องเวชภัณฑ์ เครื่องยา
แบบเรียน น้ำมันเครื่อง อะไหล่รถยนต์ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ พระพุทธรูป เทวรูป เหรียญตรา คัมภีร์ทางศาสนา
สมุนไพร ฯลฯ
รูปร่าง :
สูงใหญ่สมส่วน ออกจะท้วมๆ ผิวดีออกขาวเหลือง หน้าผากสูงหรือผมบาง มีตำหนิหรือไฝปานบนใบหน้า ฯลฯ
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
เป็นคนช่างคิด ชอบสอน สุขุมรอบครอบ สติปัญญาว่องไว การมีปฎิภานไหงพริบ ความเฉียบแหลมทางปัญญา
ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ตรงไปตรงมา ใจดี มีเมตรากรุณา ฯลฯ
อวัยวะ :
ตะโพก โคนขา ต้นขา เท้า หู กระเพาะอาหาร หัวใจ ตับ กล้ามเนื้อ ลำไส เส้นโลหิต ช่องหู ฯลฯ
สี :
สีเหลือง ม่วง แดงแกมเหลือง (แสด)
อัญมณี :
พลอยสีเหลือง บุษราคัม ฯลฯ
ทิศ :
ตะวันตก
ดาวศุกร์ (๖)
ดาวศุกร์ สัญญลักษณ์คือเลข ๖
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๖ให้หมายถึง ดาวศุกร์
ศุกร์ (๖) ดาวศุภเคราะห์
ศุกร์ (๖) ดาวประจำวันของคนเกิดวัน ศุกร์ ธาตุน้ำ เลข 6
ศุกร์ (๖) สัญลักษณ์ด้านการเงิน การธนาคาร เศรษฐศาสตร์ ศิลปะ สภาพจิตใจ
ศุกร์ (๖) คือ ควางาม ความสุข ความพอใจ ความปราถนา กิเลส ความอยาก แฟชั่นต่างๆ การดนตรี
ศุกร์ (๖) หมายถึง หญิงสาว การยั่วกิเลส ตันหาราคะ สิ่งที่พอใจ งานบรรเทิงเริงรมณ์ สังสรรค์ สนุกสนาน
ศุกร์ (๖) ความรัก เพศตรงข้าม อารมณ์เพศ ความสวยความงาม ความมีรสนิยมในค้านศิลปะ ความเจ้าชู้
ศุกร์ (๖) ขุนคลังประจำตัว ทรัพย์สิน เงินทอง เครื่องประดับ เครื่องอำนวยความบันเทิงต่างๆ
ศุกร์ (๖) เจ้าน้ำตา การน้อยเนื้อต่ำใจ ขี้น้อยใจ ขี้งอน ร้องไห้ง่าย ความสงสาร ใจอ่อน
ศุกร์ (๖) ศิลปะ การออกแบบตกแต่ง ทุกสาขาวิชา รวมทั้งการปรุงอาหารแบบร้านอาหาร เสื้อผ้าสำเร็จรูป ฯลฯ
ศุกร์ (๖) ดี :
การร่วมมือ ความรู้สึกทางด้านศิลปะ มีชีวิตชีวา อ่อนโยน กรุณาปราณี เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
มีมนุษยธรรม มีอุดมคติ ไม่มีรอยด่างและมนทิน สุภาพอ่อนโยน มีไมตรีจิต ฉลาด ไหวพริบ
ไม่ขัดแย้ง รักสวยรักงาม สุนทรีย์ ฯลฯ
ศุกร์ (๖) เสีย :
ไม่มีลักษณะให้ความร่วมมือ ปล่อยตามใจตัวเอง เกียจคล้าน ไม่มีศิลธรรม ไม่มีระเบียบวินัย
หยาบช้า ปราศจากความคิดความอ่านที่ดีื มีความรู้สึกทางกามารมณ์แรงจัด ขาดไหวพริบ
กระด้างกระเดื่อง ไม่มีแก่นสารสาระ ไม่มีอารมณ์ศิปปะ ฯลฯ
ดาวศุกร์(๖) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีพฤศภหรือตุลย์)
เจ้าชะตาจะเป็นผู้ที่มีวาสนาดีในด้านศิลปะ-ศิลปิน ความมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นคนขี้สงสาร
ใจอ่อนง่าย จะเจริญมากมายด้วยทรัพย์สินเงินทอง สมบัติต่างๆ เพราะดาวศุกร์หมายถึงการเงิน การธนาคาร
เศรษฐศาสตร์ การอาชีพที่เกี่ยวกับความสวยความงาม งานศิลปะบริสุทธิ์และศิลปะประยุกต์ทุกประเภท
ถ้าดาวศุกร์เด่นและถึงลัคนา(ลั) จะทรงคุณภาพทางด้านความรัก ความมีเสน่ห์ในด้านกามคุณ มีศิลปะใน
เรื่องเพศและมีรสนิยมเก่งในทางงานศิลปะ ถ้าไม่มีดาวพฤหัสบดีช่วยเหนี่ยวรั้งบ้างแล้วอาจจะกลายเป็น
คนชอบร่าเริงถึงขั้นเจ้าสำราญไปเลยก็ว่าได้
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวศุกร์ี (๖)
สถานที่ :
โรงมหรสพ โรงภาพยนต์ บาร์ ไนต์คลับ ผับ คาเฟ่ คาราโอเกะ อาบอบนวด สถามเริงรมณ์ต่างๆ
สถานที่เต้นรำ โรงแรมม่านรูด ซ่อง โสเภณี สวนสนุก ร้านขายเครื่องสำอาง ขายของหอม ขายเสื้อผ้าอาภรณ์
ร้านกิ๊ฟช็อพ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนสาธารณะ โรงละคร สถานที่ตกแต่งผม เสริมสวย ตกแต่งใบหน้า
ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ สถานที่เบิกจ่ายเงินสด สโมสร ร้านถ่ายรูป ฯลฯ
บุคคล :
นักประพันธ์ นักร้อง นักแสดง นักดนตรี ดารา หญิงบริการ คู่มั้น คนรัก ช่างตกแต่ง ช่างตัดผม ช่างตัดเสื้อ
ช่างเสริมสวย โสเภณี พนักงานธนาคาร คนใกล้ขิด นักประดิษฐ์ ช่างเจียรไน หญิงบริการ คุณหญิงคุณนาย นายแบบ
นางแบบ ช่างถ่ายรูป ฯลฯ
วิชาการ :
วิชาการนาฏศิลป์ ศิลปกรรม ดนตรี มัณฑนศิลป์ การโรงแรม บริหารธุรกิจ การบัญชี การเงิน การคลัง
การ ธนาคาร โบราณคดี โรงเรียนดุริยางค์ศิลป์ ฯลฯ
อาชีพ :
งานเกี่ยวกับการเงิน - การคลัง การธนาคาร สถาปนิก งานออกแบบ ดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้า งานเกี่ยว
กับศิลปะ ศิลปิน นักแสดง นายแบบ-นางแบบช่าง งานดีไซเนอร ช่างเสริมสวย ช่างตัดเย็บ ขายเครื่องประดับฯลฯ
ขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ร้านซีดี-วีดีโอ ร้านถ่ายรูป ด้านเครื่องบันเทิงต่างๆ ร้านอาหารเครื่องสำอาง กิป๊ซอพ ร้านขาย
ดอกไม้ สิ่งสวยๆงามๆ ร้านขายวัสดุตกแต่ง ขายสี ช่างทาสี ช่างเจียรไน ขายเพชรนิลจินดาต่างๆ อุปกรณ์ที่ทำให้
เกิดความสุขต่างๆ ขายรถ-ยานยนต์สวยๆมีราคา โรงแรม นางโลม ฯลฯ
วัตถุ :
เครื่องประดับสวยๆงามๆ เงินสด ทองคำ เครื่องประดับ เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ เครี่องสำอาง
เสื้อผ้า อาภรณ์ เครื่อง เจียรไนเพชรพลอย เครื่องมือช่างทำทองรูปพรรณ พืชผัก ข้าวสาร ผลไม้ รถที่ยี่ห้อดังๆ
รถที่สวยงาม ฯลฯ
รูปร่าง :
รูปร่างสูงโปร่ง ขาวท้วม ใบหน้ากลมรูปไข่ ท่าทางสะโอดสะอง น่าตาดี ออกจะหยิ่งๆ ฯลฯ
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
คนน่ารักน่าใคร่ จริตจะก้าน ใฝ่ฝันเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ มีความต้องการทางเพศสูง ทะเยอทะยาน
รักสวยรักงาม ชอบแต่งเนื้อแต่งตัว เล่นหูเล่นตาเก่ง เห็นเงินเป็นพระเจ้า มีความปราถนาเงินทองทรัพย์สมบัติ
อย่างแรง ชอบหาความสุขทางใจ อารมณ์สุนทรี ชอบสังคม ราคะจริตเบิกบาน อารมณ์แจ่มใส ฯลฯ
อวัยวะ :
คาง คอหอย อวัยวะสืบพันธุ์ ไต บั้นเอว ฐานนม เอ็น เส้นเอ็น น้ำอสุจิ รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ
มดลูก ฯลฯ
สี :
สีฟ้าอ่อน สีน้ำเงิน สีที่เย็นตา ฯลฯ
อัญมณี :
พลอยสีฟ้าหรือน้ำเงิน ฯลฯ
ทิศ :
ทิศเหนือ
ดาวเสาร์ (๗)
ดาวเสาร์ สัญญลักษณ์คือเลข ๗
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๗ ให้หมายถึง ดาวเสาร์
เสาร์ (๗) ดาวบาปเคราะห์
เสาร์ (๗) ดาวประจำวันของคนเกิดวัน เสาร์
เสาร์ (๗) ผู้สูงอายุ ธาตุไฟ สีดำ-สีม่วง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เลข 7
เสาร์ (๗) ความทุกข์ ความจำกัด ความโดดเดี่ยว หน่วงเหนี่ยว ล่าช้า สภาพเก่าๆ ภาระหนัก ทุกข์กาย เศร้า
ที่สูง สูงๆ ยาวๆ นานๆจนเกินไป ไกลห่าง แก้ปัญหาไม่ตก ยาวนาน ไม่จบไม่สิ้น ความอึมครึมน่าเบื่อ
เสาร์ (๗) ความทรหดอดทน หนักเอาเบาสู้ เข้มแข็ง มีความมานะพยายามสูงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ จริงจัง ระเบียบ
เสาร์ (๗) วิตกกังวล อารมณ์ขุ่นมัว อมทุกข์ เก็บกด กินแหน่งแครงใจ ช่างจดช่างจำ เจ้าคิดเจ้าแค้นอาฆาตพยาบาทสูง
ความกตัญญูรู้คุณคน
เสาร์ (๗) งานเกี่ยวกับต้องใช้ระยะเวลายาวนาน งานหนักๆ เหนื่อย เสี่ยงอันตราย งานที่ต้องใช้ทักษะการเอาตัวรอดสูง
เกษตรกร กรรมกร เกี่ยวกับที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ หิน แร่ อิฐ หิน ปูน ทราย การเกษตร โรงงานอุตสาหกรรม
ค้าของเก่า ของเสีย ของพัง เหล็กสนิม ฯลฯ
เสาร์ (๗) ดี :
ไว้วางใจในตัวเอง ความมีระเบียบวินัยและเคร่งครัด เอาจริงเอาจัง ความอดทน ความระมัดระวัง
รอบคอบ ความสามารถในการบริหาร การจัดตั้ง ความเด็จขาด ความแน่นอน เด็ขเดี่ยวแน่วแน่
มีแผ่นที่แน่นอน ธำรงรักษาและแบกรับเอาไว้ มีความวิริยะอุตสาหะ มีสติ ซื่อตรง มั่นคง รับผิดชอบ
ในภาระหน้าที่ มีความคิดอนุรักษ์นิยม มีหิริ-โอตัปปะ กระเหม็ดกระแหม่ มีความอดทน การบังคับ
ควมคุมตัวเองสูง มีเหตุมีผล ฯลฯ
เสาร์ (๗)เสีย :
ไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้ ถือเอาความคิดตนเป็นใหญ่ ระแวงสงสัย มีเงื่อนงำ ซ่อนเร้น หวาดระแวง
มองทุกสิ่งในแง่ร้าย เศร้าโศก ระทมทุกข์ เก็บกด หมองหม่น ช่้างคิดช่างวิจารณ์ในทางที่ผิดๆ
ดื้อรั้น นอกรีตนอกรอย กังวล หวาดหวั่น ขี้อาย เ็ป็นโรคประสาท จิตใจคับแคบ ไม่มีน้ำจิตน้ำใจ
ไร้สมรรถภาพ โกรษง่าย ใจน้อย บ้าสมบัติ ใจดำ เลือดเย็น ความเย็นชา ฯลฯ
ดาวเสาร์ (๗) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีมังกรหรือกุมภ์)
เจ้าชะตาจะเป็นผู้มีวาสนาในด้านความอดทน ความกล้าหาญ เด็จขาด พิชิตความเหนื่อยยากทุก
รูปแบบ ผู้ที่มีดาวเสาร์เด่น จึงเหมาะสมกับงานทางด้านเกษตรกรรม กิจการเหมืองแร่ งานทางด้านเครื่องกล
โรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้ที่มีทรัพย์สมบัติมากโดยเฉพาะที่ดินที่ทำการเกษตร
ดาวเสาร์(๗) เด่นและึถึงลัคนา(ลั)
จะให้คุณทางด้านความกล้าหาญ เป็นนักต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่ง อดทนแบบ เด็จเดี่ยว เหมาะสม
อย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องต่อสู้ มีน้ำใจแบบคนบึกบึน กล้าหาญแบบนักต่อสู้ที่ทรหดอดทนมาก เก็บความโกรษ
ได้ดีเยี่ยม ช่างจดช่างจำ มีใจอาฆาตรอโอกาศที่จะแก้แค้นเรียกว่ารอสิบปีก็ไม่สายนั้นแหละ ข้อเสียก็คือ มี
อุปนิสัยเป็นคนขี้กังวล ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวเสาร์์ี (๗)
สถานที่ :
หมายถึง เรือกสวน ไร่นา ป่าละเมาะ ที่ดิน โคลน ยุ้งฉาน โรงสี เหมืองแร่ โกดัง โรงงาน ฟาร์ม
โรงโม่หิน โรงเก็บพัสดุ โรงงานอุตสาหกรรมการเกษคร บ้านร้าง ที่ทิ้งขยะมูลฝอย หุบเขา ปราสาท
โบราณสถานต่าง ๆ ที่ทำการด้านเกษตรทุกชนิด ห้องพัก เรือนพัก กรรมกร เรือนจำ ห้องขังบนสถานีตำรวจ
อู่ต่อเรือ ป่าช้า ที่เก็บของเน่าเสีย โรงงานทำปลา ทำปุ๋ย ฯลฯ
บุคคล :
หมายถึงกรรมการคนขายเครื่องเหล็ก เครื่องก่อสร้งช่างบักกรี พัสดีเรือนจำ พ่อค้าขายเนื้อ ขายหมู
ขายไก่ ข่างซ่อมนาฬิกา เกษตรกร นายเหมือง โรงเลื่อย คนงานโรงเลื่อย ช่างยนต์ นักอุตสาหกรรม นักธุรกิจที่ดิน
เจ้าของโรงงานอุตสหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมการเกษตร ช่างสำรวจ ตำรวจ ผู้ร้าย คนงาน
ภรรโรง สัปเหร่อ คนขายถ่าน คนขนส่ง ช่างอ๊อก ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง แพทย์แผนโบราณ หมอเวทมนตร์
นักบวชในลัทธิต่าง ๆ คนขนขยะมูลฝอย พนักงานขับรถไฟ ขับรถเมล์ รถบรรทุก ช่างอิฐ ช่างปั้น ทหาร ฯลฯ
วิชาการ :
วิชาการทางด้านเกษตรศาสตร์ วิศวกรรม เหมืองแร่ ธรณีวิทยา ช่างประเภทต่าง ๆ วิศวกรรมศาสตร์
เกษตรกรรม วิศวกรรม โรงงาน วิศวกรรมเครื่องกล ศาสนศาสตร์ ฯลฯ
อาชีพ :
งานการเกษตร งานป่าไม้ งานเกี่ยวกับธรณีวิทยา งานเกี่ยวกันดิน - ที่ดิน เหมืองแร่ ก่อสร้าง งานเกี่ยวกับ
โรงงาน อุตสาหกรรม งานเกี่ยวพันกับเครื่องจักร์หนัก งานของเก่า ตลาดสด หาบเร่ งานรปภ. ตำรวจ ทหาร กรรมกร
งานลากเข็น สัปเหร่อ โรงสี โรงเลื่อย ฯลฯ
วัตถุ :
หมายถึง แร่ธาตุ พืชผลไม้ ไม้ดอกไม้ผล ป่าไม้ ที่ดิน ปั๊มน้ำมัน รถยนต์ เรือ เหล็ก เหมือง อู่ซ่อมรถ เครื่องปั้น
ดินเผา หลุมศพ หีบศพ โบราณวัตถุเก่าๆ รางรถไฟ กระดูก สนิมเหล็ก อาวุธไร้คม ไม้เสาตก ฯลฯ
รูปร่าง :
สันทัดไม่สูงไม่ต่ำ ผิวค่อนข้างดำคล้ำ ฟันไม่สวย ผมหยิกหยักศก (สังเกต ลักษณะคนงานกรรมกรที่หำงาน
หนักๆ ) ขี้เหล่ ทื่อๆ ใบหน้าแสดงถึงโหนกแก้มหรือเคล้าโครงกระดูกข้อนข้างชัดเจนฯลฯ
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
จุกจิกจู้จี้ เจ้าระเบียบ รักสันโดษ พิถีพิถัน ละเอียดรอบคอบ ลึกลับ ชอบอยู่คนเดียว อิจฉาริษยา อาฆาตคน
เจ้าทุกข์ วิตกกังวล อมทุกข์ ไม่ชอบบังคับ หึงหวง ชอบช่วยเหลือคน เอาจริงเอาจัง มักใหญ่ใฝ่สูงฯลฯ
อวัยวะ :
กระดูก ขน ผิวหนัง ประสาท ท่อน้ำกาม ม้าม ต้นขาถึงปลายเท้า หัวเข่า ผม ทวารหนัก ฯลฯ
สี :
สีเทา น้ำตาลเข้ม สีดำ สีคราม ฯลฯ
อัญมณี :
นิล
ทิศ :
ตะวันตกเฉียงใต้
ราหู (๘)
ราหู สัญญลักษณ์คือเลข ๘
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๘ ให้หมายถึง ราหู
[ เทพเจ้าแห่งความเจ้าเล่ห์ ]
ราหู (๘) ไม่ใช่ดาว แต่เป็นจุดคราส (ในทางดาราศาสตร์หมายถึงการโคจรเข้ามามีระยะเชิงมุมบังเงา
ของกันและกันระหว่างอาทิตย์ จันทร์ โลก )ให้สังกัดฝ่ายดาวบาปเคราะห์
ราหู (๘) บางตำราใช้เป็นดาวประจำวันของคนเกิดวัน พุธกลางคืน บางตำราก็ไม่ใช้
ราหู (๘) คือการสื่อสารสัมพันธ์ ความลุ่มหลง การสมาคม ซ่อนเร้น การจัดฉาก สวมหน้ากากใส่กัน
ราหู (๘) หมายถึง คนรู้จักทั่วๆไป การเข้าไปพัวพัน คลุกคลี ในคนหมู่มากโดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกัน
ราหู (๘) หลุ่มหลงมัวเมาสิ่งต่างๆได้ง่าย เจ้าเล่ห์เพทุบาย เข้าหาสิ่งผิดกฎหมายง่าย เก่งในทาง ความคิด
ที่จะเอาชนะด้วยเล่ห์เหลี่ยมในแบบฉบับคมเฉียนคม หลอกลวง มีกลอุบายต่างๆ แนบเนียน
แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง รวดเร็ว ฉลาดแกมโกง สับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง ปลอมแปลง ลอกเลียนแบบ
น้ำมัน การพนันทุกชนิด เอเย่นตัวแทนต่างๆ ของหมักของดองต่างๆ
ราหู (๘) เป็นคนเจ้าอารมณ์ เปลี่ยนใจง่ายและเอาใจยาก ดูใจใหญ(่แต่เพื่อหวังได้ผลกลับคืนมา)
ราหู (๘) เสื่อม มักออกไปในทางลุ่มหลงมัวเมาไปในทางสิ่งเสพติด สุรายาเมา อบายมุขหรือหญิงแพศยา
ฉลาดแกมโกง เจ้าเล่ห์เพทุบาย จนถึงขั้นปลิ้นปล้อนหลอกลวงได้ง่ายมาก
ราหู(๘) ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร (อยู่ในราศีกุมภ์)
จะมีวาสนาไปในทางไหวพริบแบบเหลี่ยมนักเลง มีปฏิภานไปในทางรู้เท่าทันกลโกงของผู้อื่นได้ดีมาก
มีเสน่ห์สำหรับคนทุกชั้นทุกวัยทุกระดับ คบคนได้ง่าย ปรับตัวได้ดี มักจะมีความโชคลาภได้ง่ายๆ มีความสามารถ
เข้าถึงเล่ห์เหลี่ยมกลโกงต่างๆได้ง่าย ผู้นำำพวกนักเลงอันธพาลจะต้องมีราหู(๘)เด่นถึงลัคนา(ลั)
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ราหู (๘)
สถานที่ :
ร้านขายของมึนเมา บ่อนการพนัน โรงงานสุรา โรงงานยาสูบ โรงงานทำปุ๋ย โรงนำชาที่มีหญิงขายบริการ
แหล่งชุมนุมพวกอันธพาน โรงภาพยนต์ ช่องโสเภณี ป่า ที่รกร้าง ศาลเจ้า - วัดร้าง สถานที่ซ่อนเร้น ฯลฯ
บุคคล :
พวกต่างชาติ นักเลง นักค้ายาเสพติด นักค้าของเถื่อน ผู้ผลิตของปลอม - ของเถื่อน ทหารเรือ ทหารอากาศ
หมอเวทมนตร์ นักพนัน นักปั่นหุ้น ดารา เจ้าของร้านถ่ายรูป ฯลฯ
วิชาการ :
โรงเรียนจ่า นายเรือ สืบสวนสอบสวน วิชาไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ วิชาเกี่ยวกับการลอกเลีียนแบบ
เกี่ยวกับอากาศ ฯลฯ
อาชีพ :
เอเย่นหรือตัวแทนสินค้าต่างๆ นักวางแผนงาน คุมงาน งานกลางคืน นักสืบ งานตรวจสอบ สรรพกร
งานศุลการักษ์ งานสรรพสามิตงานสืบสวน สอบสวน งานต่างประเทศ งานเกี่ยวกับการลุ่มหลงมัวเมาต่างๆ
บ่อนการพนัน สลากกินแบ่งรัฐบาล หุ้น ร้ายขายสุรายาเมาต่างๆ ปั๊มน้ำมัน ประเภททำงานใต้ดินหลบๆซ่อนๆ
งานแอร์โฮสเตรท งานเกี่ยวกับทางอากาศ งานประเภทของหมักของดอง ฯลฯ
วัตถุ :
ยางพารา ยางรถยนต์ น้ำมัน กรด ขยะมูลฝอย ดินฝุ่น ทองสัมฤทธ์ มูลสัตว์ เอ็กซเรย์ แก็ส เงา รูปภาพ
ภาพยนตร์ แผ่นซีดี วีดีโอ แผ่นเสียง เหล้า ฝิ่น กัญชา น้ำ เสีย ของผิดกฎหมาย ฯลฯ
รูปร่าง :
อ้วนขาวหรือดำ รูปร่างสูงใหญ่ พุงใหญ่ ท้วมๆ ปากกว้าง ริมฝีปากหนา หน้าผากกว้าง หัวล้านตาโตโปน
เส้นผมจะหยิกสลวย(ผมหยักศก) เมื่อแก่ตัวผมจะบาง จนศีรษะล้าน พูดเสียงดังฟังชัด อ้วนๆสั้นๆ รูปร่างคล้ายหม้อน้ำ
พุงพุ้ยเมื่อแก่ตัว ฯลฯ (โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
เชื่อคนง่าย คิดอะไรง่ายๆ ขาดสติ ขาดความรับผิดชอบ มัวเมา เกเร เอาแต่ใจตัวเอง มักใหญ่ไฝ่สูง
เจ้าอารมณ์ เห็นแก่ได้ ตระหนี่ถี่เหนียว ใจกว้างเพื่อหวังผล พูดจา ก้าวร้าว เอะอะโวยวาย ขี้เหล้า มัวเมาใน
สุรานารี ชอบการเสี่ยงโชค ชอบค้าสิ่งผิดกฎหมาย เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ฯลฯ
อวัยวะ :
ตะโพก ก้น น่อง หน้าแข้ง ข้อเท้า ม้าม ถุงน้ำดี น้ำย่อย มดลูก ประจำเดือน ฯลฯ
สี :
สีหมอก เมฆดำคล้ำ ฯลฯ
อัญมณี :
พลอยสีดำมัว
ทิศ :
ตะวันตกเฉียงเหนือ
เกตุ (๙)
เกตุู สัญญลักษณ์คือเลข ๙
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๙ ให้หมายถึง เกตุ
[ เทพเจ้าแห่งความปั่นป่วนวุ่นวาย ]
เกตุ (๙) ให้สังกัดฝ่ายดาวบาปเคราะห์
เกตุ (๙) คือ ทางสายกลาง ธรรมะ วิญญาณ ศาสนา สมาธิ ปรัชญา ปัญญา
เกตุ (๙) เป็นได้ทั้งบวกและลบ หมายถึง เกต(๙)ุสามารถเสริมดีหรือเสริมร้ายได้อย่างมากมาย
เกตุ (๙) หมายถึงคนทรง พระสงฆ์ ผีสาง พลังลึกลับ ไม่มีตัวตน ธาตุอากาศ ทิศศูนย์กลาง สีใส เลข 9
เกตุ (๙) อีกทางหนึ่งคือ ของเก่า ของโบราณ พระเครื่อง นักเล่นของเก่า การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง
หรือทำของขึ้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือของโบราณวัตถุจะเข้ามาอยู่กับเจ้าชะตาได้ง่าย
เกตุ (๙) หมายถึง ผู้เฒ่ารุ่นลายคลาม การสักยันต์ของขลังตามร่างกาย นักปลุกเสกต่างๆ เกตุถึง ลั มักเป็นที่
พอใจหรือได้รับความเมตตาจาก ผู้เฒ่า ผู้สูงอายุ นักบวช พระสงฆ์องค์เจ้า
เกตุ (๙) หมายถึงอายุยืน ถ้าเกตุ(๙)ถึง ลั โบราณว่าจะไม่ตายโหง แต่ถ้าเกตุ(๙)ตกอยู่เรือนอริและวินาศ มักมี
ปัญหาเรื่องสุขภาพ อยู่มรณะ มักล่อแหลมต่ออุบัติเหตุ ให้สังเกตุ ถ้าเกตุ(๙)อยู่อริและเป็นเรือนกาลกิณี
ให้ระวังอุบัติเหตุที่ทำให้ผู้อื่นถึงกับเสียชีวิตได้
เกตุ (๙) เป็นสัญญลักษณ์ของความเกิน หรือความเกินพอดี เกินปกติ ความแปลกๆ รวมถึงบรรยากาศแตกต่าง
เกตุ (๙) เป็นดาวแห่งความคิดริเริ่มแปลกๆ การดัดแปลงที่ทันสมัย ชอบเด่น-แปลกแหวกแนว แต่ก็เป็นดาวแห่ง
การละทิ้งการกระทำกลางคัน(เหตุนี้เองจึงควรเตรียมบุคคลมาสานต่อความคิดหรือการกระทำต่างๆ)
เกตุ (๙) แผ่อิทธิพลถึง ลั มักทำชอบทำตัวเด่นกว่ากลุ่มผู้คน ถ้าใครทำอะไรไม่ได้แล้วเจ้าชะตาจะต้องอาสาทำ
ให้ได้ และมักจะทำได้เสียด้วยหรือต้องให้ได้ในสิ่งนั้นๆ เหตุนี้เองเลยทำให้รู้สึกเด่นกว่าคนอื่นๆ
เกตุ (๙) ทำให้ชอบของแปลกใหม่ที่ไม่เป็นธรรมชาติ หรือชอบวิตถาร พวกกระเทยหรือรักร่วมเพศก็
ตกอยู่ในอำนาจอิทธิพลของ เกตุ เหมือนกัน
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ เกตุ (๙)
สถานที่ :
โบราณสถานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา วัดร้าง โบสถ์ร้าง เทวาลัย ภูเขา เนินดิน เจดีย์ พระปรางค์ต่างๆ
สถานี วิทยุ สถานีโทรทัศน์ สถานที่ส่งกระแสคลื่นต่างๆ ตำหนักคนทรงเจ้าเข้าผี ฯลฯ
บุคคล :
ผู้สูงอายุ นักบวช นักแสวงบุญ นักท่องเที่ยว ช่างทุกประเภท คนวิกลจริต คนใบ้ คนทรง หมอดูทุกประเภท
นักจารกรรม นักธุดงค์ นักแสวงโชค นักประดิษฐ์ หญิงมีครรภ์ คนหลังค่อม หญิงโสเภณี หญิงไฮโซ ฯลฯ
วิชาการ :
โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ ดาราศาสตร์ วิชาอิเล็คทรอนิค สาสนศาสตร์ ฯลฯ
อาชีพ :
งานที่เกี่ยวพันกับนักบวช เครื่องสังฆภัณฑ์ งานเกี่ยวกับรูปปั้นโปราณ งานเกี่ยวกับสิ่งลึกลับ งานเกี่ยวกับของเก่า
ของโบราณ นักวางแผน นักประดิษฐ์คิดค้น งานเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ กิจการต่างประเทศ กิจการเกี่ยวกับศาสนา
งานเกี่ยวกับศิลปะแปลกแหวกแนว ศิลปะประยุกต์ การตกแต่งที่เกี่ยวกับรสนิยมของสังคม งานแฟชั่นแปลกๆใหม่ๆ
งานเกี่ยวกับอารมณ์ศิลปินระดับสูง ที่คนทั่วๆไปตามไม่ทัน งานค้นคว้า งานทดลอง งานเล่นแร่แปรธาตุ วิทยาศาสตร์
วัตถุ :
เครื่องรางของขลังต่างๆ พระเครื่อง ลูกประคำ เจดีย์ โบสถ์ วิหาร จอมปลวก คลื่นวิทยุ ฯลฯ กระแสจิต โทรศัพท์
เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องรับสัญญาณต่างๆ ฯลฯ
รูปร่าง :
ค่อนข้างจะผอมหนิดหน่อย บางคนก็ท้วมนิดๆ สูงโปร่ง ร่างกายมีบางส่วนมีตำหนิ ที่มองเห็นได้ค่อนข้างชัด
(โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง)
นิสัย :
คนที่มีความฉลาด ไหวพริบ รู้ทันคน คนมุทะลุ บาบิ่น หากมีอาการจิตหรือประสาทหลอน อาจมีนิสัยขี้ระแวงสงสัย
เจ้าปัญหา ทำอะไรต้องทำให้ได้ต้องเด่นแต่แปลกพอถึงจุดสูงสุดจะทิ่งหรือวางมือง่าย ฯลฯ
อวัยวะ :
ลมหายใจ หลอดลม ปอด ไขข้อ ตา กระดูก กระแสจิต ฯลฯ
สี :
อุลกมณี
ทิศ :
ทิศตะวันตก
ดาวมฤตยู (๐)
ดาวมฤตยู สัญญลักษณ์คือเลข ๐
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๐ ให้หมายถึง ดาวมฤตยู
มฤตยู (๐) ดาวบาปเคราะห์
มฤตยู (๐) คือ ความแปลกประหลาด มหัศจรรย์ น่าตื่นเต้น ตกใจ สิ่งใหม่ๆ ทันสมัย แปลกแหวกแนว กระทันหัน
มฤตยู (๐) เป็นสัญญลักษณ์ ของความไม่ครบถ้วน ขาด หมด ความหงุดหงิด โกรษง่าย ภัยอาเภท ลี้ลับซับซ่อน
มฤตยู (๐) หมายถึงนักวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ ปฎิวัติ การเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันจาก
หน้ามือเป็นหลังมือ ธาตุสุญกาศ เลข 0
มฤตยู (๐) แผ่อิทธิพลถึง ลั มักอาภัพ ต้องเหนื่อยยากตรากตรำลำบาก มักมีชีวิตที่ต้องช่วงใช้ผู้อื่น ชีวิตส่วนตัว
มักลุ่มๆดอนๆ บางครั้งรุ่งโรจน์บางครั้งตกต่ำไม่คงทน ปฎิภาณไหวพริบจะแก่กว่าอายุจริง ชอบครบ
คนที่อายุมากกว่าตน มีญานวิเศษมีลางสังหรณ์และพลังจิตสูง
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวมฤตยูุ (๐)
สถานที่ :
ต่างประเทศ ต่างแดน ต่างจังหวัด บนยานพาหะนะ สถานที่ๆมีความเคลื่อนไหว กระทรวงการต่างประเทศ
ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า
บุคคล : นักวิจัย นักค้นคว้า นักสืบ นักปฎิวัติ พวกที่เกเรไม่เชื่อฟัง เอาแต่ใจตัวเอง
วิชาการ :
คอมพิวเตอร์ สำรวจ ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ การประดิษฐ์ การค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ แปลกๆ เช่นเทคโนโลยี
แผนใหม่ การริเริ่มสร้างสรรเพื่อให้ก้าวหน้าให้ทันกับโลคยุคใหม่ มือถือ ดาวเทียม
อาชีพ :
นักวิทยุ นักบิน นักประดิษฐ์ ช่างแกะสลัก งานทางด้านคอมพิวเตอร์ งานด้านอิเล็คทรอนิค งานที่เกี่ยวกับคลื่น
สัณญาณ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ จิตศาสตร์ โบราณคดี นักโหราศาสตร์ นักสืบ พนักงานสืบสวน งานเชิงวิจัย ค้นคว้าต่างๆ
ด้านการเก็บข้อมูล ข่าวสาร
วัตถุ :
มักจะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไฟ สิ่งที่ไม่ค่อยสมบูรณ์
รูปร่าง : โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง
นิสัย :
มักเป็นคนเคร่งขรึม ชอบเก็บตัว ๙่อนคม มีความคิดลึกซึ่้ง ไม่ชอบความพลุกพล่านวุ่นวาย ช่างติ มีนิสัย
ละเอียดถี่ถ้วนมีลางสังหรณ์สูง มีญานวิเศษ สามารถล่วงรู้ปัญหาของผู้อื่นได้ดีทีเดียว อ่านจิตใจคนเก่งทำนาย
เหตุการณ์ได้ถูกต้องเจ้าอารมรณ์ ขี้หงุดหงิด โกรธง่าย ชอบเป็นผู้นำ ผู้ริเริ่มก่อการ นักปฎิวัติ คิดก้าวหน้าตลอด
ชอบประดิษฐ์คิดค้นมั่นคงในลัทธิ ช่างติ แก้ไข เอาแต่ใจตัวชอบคบ คนสูงอายุ มีความสามารถประหลาดๆมาก
มาย ชอบศาสตร์ลี้ลับ
อวัยวะ : ทวารหนัก
สี :
สีรุ้ง สีหลากหลาย
ทิศ :
ทิศไม่มี (ทั่วทุกทิศ)
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 9241
การสะเดาะเคราะห์
การทำบุญใส่บาตรให้เทวดาประจำดาวนพเคราะห์แต่ละองค์ ซึ่งขึ้นอยู่กับดวงชะตาในขณะนั้นว่าพระเคราะห์ใดกำลังให้โทษในดวงชะตา ก็จะมีการทำบุญ เพื่อขอให้เทวดาประจำนพเคราะห์ที่กำลังให้โทษนั้น งดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดขึ้นกับดวงชะตาไว้ ซึ่งวิธีการนี้เป็นที่นิยมของชาวบ้านเพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ซึ่งโดยทั่วไปมี หลักการทำบุญตามกำลัง และลักษณะของเทวดาประจำดาวนพเคราะห์แต่ละดวง เช่น อาทิตย์ มีกำลัง 6, พระจันทร์ มีกำลัง 15, อังคาร 8, พุธ 17, พฤหัส 19, ศุกร์ 21, เสาร์ 10, ราหู 12 และมีวิธีการเมื่อพระเคราห์แต่ละดวงให้โทษดังนี้คือ
- พระอาทิตย์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันอาทิตย์ 6 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 6 ดอก เทียน 6 เล่ม ดอกไม้สีแดง 6 ดอก อาหารรสเผ็ดร้อน ขนมสีแดง และให้ใส่ยาธาตุน้ำแดงด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาช่อนในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 6 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำพระอาทิตย์และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
- พระจันทร์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันจันทร์15 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 15 ดอก เทียน 15 เล่ม ดอกไม้สีขาวหรือสีนวล 15 ดอก อาหารรสเค็ม ขนมสีขาวหรือสีนวล และให้ใส่ยาธาตุน้ำขาว ด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาช่อนในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 15 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำพระจันทร์และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
- พระอังคาร ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันอังคาร 8 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 8 ดอก เทียน 8 เล่ม ดอกไม้สีแดงหรือสีชมพู 8 ดอก อาหารรสเผ็ด ขนมสีแดง และให้ใส่ยาแดงสำหรับใส่แผลสดลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาดุกในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 8 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวอังคาร และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
- พระพุธ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันพุธ 17 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 17 ดอก เทียน 17 เล่ม ดอกไม้ที่มีสีผสมกันหลายสีในดอกเดียวกัน 17 ดอก อาหารมีหลายรสในชนิดเดียวกัน เปรี้ยว-เค็ม-หวาน-เผ็ด ขนมสีเขียว และให้ใส่ยาเขียวสำหรับแก้ไข หรือยาแก้ไอ้ลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาหมอไทยในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 17 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตร และทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวพุธ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
- พระพฤหัส ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันพฤหัส 19 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 19 ดอก เทียน 19 เล่ม ดอกไม้สีเหลือง 19 ดอก อาหารรสจืด ขนมสีเหลือง และให้ใส่ยาหอม ลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาหมอไทย หรือปลาช่อนในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 19 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวพฤหัส และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
- พระศุกร์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันศุกร์ 21 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 21 ดอก เทียน 21 เล่ม ดอกไม้สีขาวหรือสีฟ้า 21 ดอก อาหารรสหวาน ขนมสีขาวหรือสีฟ้า และให้ใส่ยาแก้ไอที่มีรสหวานลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาช่อน หรือปลาหมอไทยในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 21 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวศุกร์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
- พระเสาร์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันเสาร์ 10 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 10 ดอก เทียน 10 เล่ม ดอกไม้สีม่วงแดง 10 ดอก อาหารรสเปรี้ยว ขนมสีม่วงแดง หรือสีน้ำตาล และให้ใส่ยาถ่ายพยาธิ หรือยาที่ใช้รักษาแผลเน่าเปื่อยลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาไหล หรือปลาดุกในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 10 ตัว หากซื้อปลาไหลอย่าซื้อตัวใหญ่เพราะมักจะมีเบ็ดอยู่ในคอ ให้เลือกซื้อตัวเล็กๆ เท่านิ้วก้อย ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวเสาร์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
- พระราหู ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันพุธ 12 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 12 ดอก เทียน 12 เล่ม ดอกไม้สีม่วงแดง 12 ดอก อาหารสีดำเช่นไข่พะโล้ เป็ดพะโล้ ขนมสีม่วง หรือสีดำ และให้ใส่ยาถ่ายพยาธิ หรือยาแก้เมาคลื่นลมลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาไหล หรือปลาดุกในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 10 ตัว หากซื้อปลาไหลอย่าซื้อตัวใหญ่เพราะมักจะมีเบ็ดอยู่ในคอ ให้เลือกซื้อตัวเล็กๆ เท่านิ้วก้อย ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ พระราหู และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'
ในการใช้กำลังดาวเคราห์นั้นอาจประยุกต์ไปในแบบต่างๆ ตามความรุนแรงของเหตุการณ์ เช่น การบวชพระตามกำลังดาวเคราห์ เช่นพระอาทิตย์บวชพระ 6 รูป เสร็จแล้ว อุทิศส่วนกศุลให้เทวดาประจำดาวอาทิตย์ กับเจ้ากรรมนายเวร เพื่อขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วยเป็นต้น ซึ่งวิธีนี้เป็นการแก้กรณีหนักที่สุดของดวงชะตา ยิ่งลูกหลานหรือคนใกล้ชิดร่วมบวชให้ด้วยยิ่งดีจะได้ผลมากขึ้น
ในบางทีก็ใช้สร้างพระประจำวันต่างๆ การหล่อพระ สร้างพระจากไม้ หิน ดิน หรือวัตถุต่างๆ ถวายวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลเช่นกัน
ถ้าหากการให้โทษที่เกิดจากเสาร์ หรือราหู ที่เกิดขึ้นในราศีธาตุดิน หรือธาตุน้ำ วิธีป้องกันดวงชะตาอีกอย่างหนึ่งคือการสร้างส้วมถ่ายทุกข์ หรือสุขาถวายวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศล
กรณีดวงเดิมมีเสาร์กุมลัคนาในราศีมีน เมื่อดาวพฤหัสเข้ามาทับ ยังมีวิธีอีกอย่างหนึ่งคือ การนำเศียรพระเก่าๆ ที่ถูกทำลายมาหล่อเป็นพระองค์พระขึ้นมาใหม่ถวายวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศล
ยังมีการแก้ดวงชะตาด้วยวิธีการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงอำนาจของดาวเคราะห์ แต่วิธีนี้ต้องระวังเพราะหากเดินทางไปผิดทิศทาง แทนที่จะเป็นการแก้ไข กลับจะทำให้เหตุการณ์หนักรุนแรงยิ่งขึ้น ทางที่ดีต้องปรึกษานักโหราศาสตร์ อย่านึกคิดเอาเองเป็นอันขาด
นอกจากนั้นก็ยังมีบทสวดมนต์พระปริตร โดยเฉพาะจันทรปริตร สุริยปริตร และบทสวดมนต์เพื่อบูชาเทวดาประจำดาวเคราห์ เพื่อคุ้มครองตนเองให้ปลอดภัยจากเจ้ากรรมนายเวร
ส่วนวิธีการอื่นๆ ที่ใช้ในการแก้ดวงชะตา และสะเดาะเคราะห์ก็ใช้หลัก การป้องกันพร้อมกับความไม่ประมาท และหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่กำลังจะอุบัติขึ้น เช่น
- หากรู้ว่ากำลังจะมีปากเสียง ระยะนั้นก็ให้หลีกเลี่ยง อย่าไปต่อว่าใคร การพูดจาในระยะนั้นก็ต้องระวังการใช้คำพูดให้ดี ใครชวนทะเลาะก็พยายามพูดจาดีๆ ด้วยความสุภาพและใจเย็น ค่อยๆ พูดผ่อนปรนปัญหาต่างๆ ลงมา
- หากรู้ว่ากำลังจะมีอุบัติเหตุ การเดินทางต่างๆ ก็ต้องเพิ่มความรอบคอบ ระมัดระวังให้ มากยิ่งขึ้น ตรวจเช็คสภาพยานพาหนะให้ดีก่อนเดินทาง รวมทั้งศึกษาเส้นทางคมนาคมให้ดี เพื่อที่หากมีปัญหาเกิดขึ้นมาจะได้รู้ว่า ที่ไหนมีใครช่วยได้บ้าง ในเรื่องต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าประมาท เพราะหากประมาทแล้ว ความรุนแรงย่อมเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ ตรงกันข้ามหากท่านตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ความรุนแรงต่างๆ ย่อมลดลงมาก หรือไม่เกิดขึ้นเลย
- หากรู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน ก็ต้องระมัดระวังรอบคอบในการใช้เงินตั้งแต่ปัญหาเรื่องการเงินยังไม่เกิดขึ้น มิใช่ว่าเกิดปัญหาแล้ว หรือเข้าไปในช่วงเวลาที่ทำนายแล้วจึงค่อยระวังการใช้เงิน เพราะที่ถูกต้องคือต้องเตรียมตัวเตรียมเงินสำรองจ่ายไว้ ให้พอ ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามปกติ รวมทั้งมีเงินเหลือเผื่อไว้ สำหรับแก้ปัญหาที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นมาด้วย อย่างน้อย 50 % ของรายจ่ายปกติประจำเดือน และหากคำทำนายช่วงเวลาที่จะเกิดความยุ่งยากด้านการเงินยิ่งยาวเท่าไร ยิ่งต้องเตรียมเงินไว้แก้ปัญหาให้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำนายจะสอนท่านเองว่า ควรจะเตรียมเงินไว้ขนาดไหน เพราะขนาดของปัญหาแต่ละคนมักไม่เท่ากัน และต่างก็มีวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
หากรู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ก็ต้องใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพให้ดี ระมัดระวังในเรื่อง อาหารการกิน การนอนหลับพักผ่อน การออกกำลังกาย การรักษาอารมณ์ให้ปกติ ทำจิตใจให้แจ่มใส
- รายละเอียด
- หมวด: โหราศาสตร์ไทย
- จำนวนผู้อ่าน: 15431
คัมภีร์มหาทักษา : ตำนานเทวดาเป็นมิตร - ศัตรูกัน
ก่อนที่ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงเทวดาที่เสวยอายุและเข้าแทรก ข้าพเจ้าจะขอกล่าวถึงตำนานความเป็นมาของเทวดา ที่เป็นมิตรและเป็นศัตรูกันเสียก่อน เพื่อให้ท่านทั้งหลายเข้าใจในปฐมเหตุว่า เป็นเพราะเหตุใด จึงได้เป็นมิตรและศัตรูกัน
ตำนานที่ ๑
ในกาลก่อนนั้น ตำนานได้กล่าวไว้ว่า ยังมีพระอาทิตย์ ๑ พระอินทร์ ๑ พญาครุฑ ๑ พญานาค ๑ พญาราชสีห์ ๑ ได้พร้อมกันประชุมปรึกษาหาลือกันว่า เราจงมาแบ่งส่วนฟ้า ป่าหิมพานต์ ภูเขา และมหาสมุทรกันเถิด พระราชาทั้ง ๕ องค์นั้น ก็ชวนกันไปยังสำนักพระราหู จึงว่ากับพระราหู เพื่อชักชวนพระราหูให้ร่วมความคิดด้วยที่จะแบ่งส่วนนั้น พระราหูก็ว่า เรานี้มิได้อยู่ในน้ำและบนบก เป็นสาธกนิทานแต่บรรพกาลของตำนาน เรื่องเทพยดาเป็นศัตรูกันมีดังนี้แล ครั้นเมื่อพระราชาทั้ง ๕ องค์ องค์หนึ่งองค์ใดมาพบกันเข้าแล้ว จึงเกิดเป็นวาทะแห่งกันและกันแล.
ต่อมาพระราชาทั้ง ๕ องค์ ก็ได้แบ่งเขตซึ่งกันและกันทั้ง ๓,๐๐๐ โยชน์ ส่วนพระอินทร์นั้น ก็ได้เขาพระสุเมรุราช พญาครุฑก็ได้เขาคีรีบรรพต พญานาคก็ได้มหาสมุทรทั้ง ๔ พญาราชสีห์ก็ได้ป่าหิมพานต์ พระอาทิตย์ก็ได้เบื้องบนอากาศ
ครั้นอยู่มา พญาครุฑเห็นพญานาคก็ไล่ พญานาคก็ได้หนีไปถึงพระราหู พระราหูก็ว่าแก่พญาครุฑว่า ทำไมท่านมาไล่พญานาคดังนี้ แล้วพระราหูก็ไล่ครุฑ ครุฑหนีไปถึงพระอินทร์ ในเวลาที่ไล่ครุฑไปนั้น พระราหูเหนื่อยนักหนา จึงลงไปสู่แม่น้ำมหาสมุทรใหญ่ แล้วพระอาทิตย์ก็ว่าแก่พระราหูว่า ดูก่อนท่านพระราหู เราชวนท่านวันนั้น ท่านว่าท่านไม่ร่วมความคิดที่จะแบ่งส่วนที่อยู่อาศัยกับใคร นี่ท่านมากินน้ำใยหรือ เมื่อพระอินทราธิราชได้ยินพระอาทิตย์พูดกับพระราหูดังนั้น ก็โกรธแก่พระราหู จึงทรงจักรขว้างไปต้องกายพระราหูขาดออกกึ่งกรัชกาย
เหตุมีมาดังนี้แล พระราหูกับพระอาทิตย์ มาถึงกันเมื่อใด ตัวจะเจ็บไข้แล อนึ่งจะได้รับความแค้นเคืองใจ จะพลัดพรากจากกันแล พระพฤหัสบดี ๕ พระอาทิตย์ ๑ ได้เป็นศัตรูกับพระราหูตั้งแต่วันนั้นมาแล
ตำนานที่ ๒
ปางเมื่อพระพฤหัส ๕ เป็นทิศาปาโมกข์ และพระอาทิตย์ ๑ เป็นศิษยานุศิษย์ จึงยกนางจันทร์ธิดาให้เป็นภริยาแก่พระอาทิตย์นั้น เมื่อพระอาทิตย์มีกิจไป ได้ฝากภริยานั้นไว้กับพระพฤหัส พระพฤหัสรำพึงว่า อันลูกสาวกูนี้ ประกอบไปด้วยรูปโฉมงดงาม เกลือกว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น ที่ยกให้พระอาทิตย์นั้นก็พ้นทุกข์ไปแล้ว บัดนี้พระอาทิตย์มาฝากไว้อีกเล่า จำกูจะต้องนิรมิตผอบใส่ไว้ให้พ้นอันตรายเถิด ครั้นนิรมิตเสร็จแล้ว ก็เอาผอบใส่นางไว้ พระอังคารรู้แยบคายเช่นนั้น ก็นิรมิตเป็นเพ็ชพระยาธร แอบเข้าไปในผอบ ลอบทำสังวาสด้วยนางจันทร์ตั้งแต่วันนั้น
ในกาลนั้นพระพฤหัสก็รู้ว่าเพ็ชพระยาธรเข้าไปทำชู้ด้วยนางจันทร์ตั้งแต่วันนั้น แล้วพระพฤหัสก็แต่งพานหมากเป็น ๒ ที่ มาสู่พระอาทิตย์ผู้เป็นบุตรเขยเพื่อเมื่อกลับมาจะได้เสวย ฝ่ายพระอาทิตย์ก็ประหลาดใจ จึงถามพระพฤหัสว่าดังนี้ “ ข้าแต่เจ้ากู เหตุการณ์ใดเล่า เจ้ากูจึงฝากพานหมากมาให้แก่ข้าไทเป็น ๒ ที่ ” พระพฤหัสว่า ตูนี้เป็นอาจารย์แห่งท่าน แต่ลูกทำนอกใจมิชอบใจแล มาตูจะบอกแต่ตามเป็นจริงว่า บัดนี้เพ็ชพระยาธรได้มาทำชู้ด้วยภริยาของท่านอยู่ในผอบนั้น พระอาทิตย์ก็เปิดผอบพบพระอังคาร ๆ จึงเอาพระขรรค์สับศรีษะบาดเจ็บนักหนา ดังนี้แล พระอาทิตย์กับพระอังคารจึงเป็นศัตรูกันแต่กาลนั้น ส่วนพระจันทร์บุตรสาวของพระพฤหัสก็มีความน้อยใจในบิดาว่า มิเข้าด้วยลูกเล่าและกลับส่อความลูกเอง ดังนี้ จำเดิมแต่นี้ไป กูกับบิดาจะเป็นศัตรูแก่กัน พระพฤหัสกับพระอาทิตย์เป็นมิตรกันแล ในขณะเมื่อพระอาทิตย์กับพระอังคารต่อสู้กันนั้น พระอังคารก็เอาพระขรรค์สับพระเศียรพระอาทิตย์ ๒ แห่ง พระเศียรของพระอาทิตย์ก็แตกออกไป พระอาทิตย์ก็ขว้างด้วยจักร ถูกบาทพระอังคาร แต่เท่านั้นแล
เหตุการณ์ดังนี้แล เมื่อ พระพฤหัสกับพระอาทิตย์ มาถึงกันเมื่อใด จะเป็นมิตรสหายแก่กัน และ พระพฤหัสกับพระจันทร์ มาถึงกันเมื่อใด ย่อมหลงด้วยรัก และจะไข้เจ็บหนัก มักเป็นด้วยญาติกาตนเอง และ พระอังคารกับพระพฤหัส มาถึงกันเมื่อใด ศัตรูย่อมข่มเหงตนแล
ตำนานที่ ๓
ปางเมื่อพระอังคารเป็นงู พระเสาร์เป็นเหยี่ยว เหยี่ยวเห็นงูก็จะกินแล พระศุกร์จึงตวาดเหยี่ยว เหยี่ยวก็ละงูเสีย พระอังคารจึงว่าแก่พระศุกร์ว่า “ ข้าแต่เจ้ากู แต่วันนี้ไปข้าพเจ้าและท่านจะเป็นมิตรแก่กันสืบไป ” พระอังคารกับพระศุกร์ มาถึงกันเมื่อใด ย่อมจะได้มิตรสหาย อายุจะยืน ส่วน พระเสาร์กับพระอังคาร มิได้ขึ้งโกรธกันนักหนา แต่ก็ว่ากับพระศุกร์ว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป เรากับท่านจะเป็นศัตรูกัน เมื่อ พระเสาร์กับพระศุกร์ มาถึงกันเมื่อใด คนมักจะเบียดเบียนแล
ตำนานที่ ๔
ปางเมื่อพระจันทร์ขาดแคลนลง ได้ไปกู้ทรัพย์พระราหูมาจึงเป็นหนี้อยู่ พระจันทร์ครั้นเมื่อเห็นพระราหู เกรงจะทวงหนี้ จึงไปซ่อนตัวเสีย แต่พระเสาร์ผู้เป็นลูกค้าของพระราหูไปพบกับพระจันทร์ แล้วรู้เรื่องว่าเป็นหนี้พระราหู จึงบอกตำแหน่งที่อยู่พระจันทร์แก่พระราหู พระราหูจึงมาเอาตัวพระจันทร์ไปเร่งทวงหนี้จนได้แล
ตำนานที่ ๕
ปางเมื่อพระพุธเป็นสุนัข วิ่งมาจะขบพระราหู ๆ ก็ไล่สุนัข สุนัขวิ่งไปหาพระจันทร์ ๆ ช่วยให้หนีรอดไปได้ ภายหลังพระจันทร์มาพบพระพุธจึงว่า แต่นี้ไปเราจะเป็นมิตรสหายแก่กัน ครั้งนี้เรารอดเพราะท่าน ด้วยเหตุนี้ เมื่อ พระจันทร์กับพระพุธ มาถึงกันเมื่อใด ก็จะได้มิตรสหายที่ดีงามแล
ตำนานที่ ๖
ปางเมื่อ พระศุกร์กับพระราหู มาถึงกันเมื่อใด หมาจะกัดตีนมือ เลือดจะตกจากตัวแล พระจันทร์กับพระราหู มาถึงกันเมื่อใด คนทั้งหลายจะดูหมิ่นแล พระเสาร์กับพระจันทร์ มาถึงกันเมื่อใด ข้าไทและคนทั้งหลายจะเอาโทษแก่ตน พระเสาร์กับพระราหู มาถึงกันเมื่อใด จะได้มิตรสหายอันดีแล
ตำนานที่ ๗
ปางเมื่อพระอังคารเป็นราชสีห์ กระดูกเนื้อเข้าไปติดคออยู่ พระอาทิตย์เป็นนกหัวขวาน ได้เจาะคอราชสีห์ ๆ เจ็บปวดนักหนา เพื่อเอาก้างออก เหตุนั้น พระอังคารมาถึงพระอาทิตย์ เมื่อใด ย่อมจะเจ็บปากเจ็บคอแล
ตำนานที่ ๘
ปางเมื่อพระพฤหัสบดี เป็นนกอีลุ้ม พระจันทร์เป็นเหยี่ยวจะเฉี่ยวเอา นกอีลุ้มโผเข้าไปในรอยมูลไถ เหยี่ยวนั้นได้โฉบถลาลงมา ก็ต้องมูลไถอกแตก เหตุดังนั้น เมื่อ พระจันทร์กับพระพฤหัสบดี มาถึงกันเมื่อใด จะเจ็บคอ เจ็บหน้าอก อย่าเดินทางไกล พระอังคารกับพระเสาร์ มาถึงกันเมื่อใด ก็ย่อมจะแค้นเคืองใจ อย่าได้เดินทางไกล ท่านจะทำโทษ ให้เร่งจำศีลภาวนาแล
ตำนานที่ ๙
ปางเมื่อพระเสาร์ เป็นไม้ตะเคียน พระอังคารเป็นพระยาโปริสาท เสี้ยนไม้ตะเคียนยอกเท้าพระยาโปริสาท ตั้งแต่นั้นมาก็ลำบากนักหนา เหตุการณ์ดังนั้นแล พระเสาร์กับพระอังคาร มาถึงกันเมื่อใด ย่อมจะเจ็บตีน เจ็บมือ ย่อมให้ขาดอาหารนักแล
ตำนานที่ ๑๐
ปางเมื่อพระอังคาร เป็นไม้แก่น พระราหูเป็นไฟป่าไหม้มา เหตุการณ์ดังนั้นแล พระราหูกับพระอังคาร มาถึงกันเมื่อใด ไฟจะไหม้เรือน แล
ตำนานที่ ๑๑
ปางเมื่อ พระพุธ เป็นพระยาฉัททันต์ พระอังคาร เป็นพรานโสอุดร เมื่อพระอังคารมาต้องเมื่อใด ย่อมจะให้เจ็บท้อง อย่ากินสัตว์ ๒ เท้า ๔ เท้า ให้บัญญัติตัวจงหนักเถิด พระเคราะห์มาต้อง จึงเป็นศัตรูกันแต่นั้นมาแล
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 15455
ตำรา นรลักษณ์ศาสตร์ (พระมหามณเฑียร)
(คัดจากคัมภีร์สมุดข่อยโบราณฉบับดั้งเดิม)
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
วันเสาร์ เดือนสี่ ขึ้น ห้าค่ำ จุลศักราชพันร้อยเจ็ดสิบ (1170) ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ.2350) ปีมะโรงนักษัตรสำเรทธิศก (นักษัตรสัมฤทธิศก) ข้าพระพุทธเจ้าจีนแส แปลตำราทายลักษณะจีนออกเป็นคำไทยทูลเกล้าฯ ถวายในตำราฉบับจีน ทำลายลักษณะนั้นแปลเป็นไทย ได้ความดังนี้ ปุถุชนชายหญิงทั้งหลาย บังเกิดมาย่อมมีลักษณะชั่วและดีได้ร้อยยี่สิบแห่ง เทพยดาผู้ตกแต่งตำรับนี้ จึงมีอุมาเปรียบไว้ในตำราว่า เที้ยนเท้ง ๆ แปลเป็นคำไทยได้ความว่า
หน้าผาก เหมือนท้องฟ้าอันสูงแลกว้าง
จมูกเหมือนจอมภูเขาอันใหญ่หลวง
จักขุทั้งสองอันสว่าง เหมือนพระจันทร์ พระอาทิตย์อันส่งสว่างโลก
ปากนั้นเหมือนมหาคงคา คือ ชเล (ทะเล) อันใหญ่กว้าง
คิ้วทั้งสองเหมือนแผ่นดิน
เส้นผม
หนวดเครา
เส้นผมสิ้นสารพางค์กาย เหมือนต้นไม้แลต้นหญ้าทั้งหลายอันบังเกิด
ในแผ่นดิน
ลำคอเหมือนขื่อเรือนอันทรงไว้ ซึ่งเครื่องบนเรือน คือลักษณะดีและร้ายอันบังเกิดปรากฏในดวงหน้าแห่งชายหญิงทั้งปวง จึงทำนายลักษณะอันบังเกิดใน
เที้ยนแท้ง ฯ แปลเป็นคำไทยว่า หน้าผาก คือแต่ไรริมผมถึงโขนงคิ้ว มีกระดูก ลำดับต่อกันได้แปดอัน ชื่อว่าหน้าผาก ถ้าหน้าผากกว้างใหญ่ หน้าผากสูงจะได้เป็นอำมาตย์แต่หนุ่ม
หน้าผากเสมองามดี ผู้นั้นจะมีปัญญามาก เฉลียวฉลาดยิ่งนัก
ใบเลงกุด ฯ แปลเป็นคำไทยว่า คิ้ว
ถ้าคิ้วเหินห่าง คิ้วสูง
เง่าจมูก มิได้หักเง้า จมูกสูง
กระดูกแก้มทั้งสองดูงาม
ดวงหน้ามีโฉมเต็มบริบูรณ์ มิได้เหี่ยวแห้ง มิได้บกพร่อง
ดวงหน้าสี่เหลี่ยม
ผู้ใดมีลักษณะปรากฏในดวงหน้าดังกล่าวมานี้ จะมีอำนาจดังราชสีห์ มีเดชะเป็นใหญ่กว่าพญาราชสีห์ มีเดชะเป็นใหญ่กว่าพญาประเทศราชทั้งปวง
ถ้าผู้หญิงมีลักษณะดังนี้ไซร้า จะได้เป็นนางพญาประกอบด้วยสมบัติบริวารมาก
ถ้าดวงหน้าใหญ่ หน้าผากน้อย หน้าผากแหลม ผู้นั้นมีทุกข์มาก
ถ้าหน้าบาง เห็นกระดูกหน้าเหนี่ยว ผู้นั้นมีปัญญาความคิดน้อย ทรัพย์น้อย จะเข็ญใจ
ถ้าหน้าผากบวม จมูกแบน จะเข็ญใจ
ถ้าเสมอ หน้าเต็ม มิได้บกพร่อง ผู้นั้นจะสมบูรณ์สมบัติมากฯ
ถ้าหน้าผากบางมีแต่หนังหุ้มไว้ ผู้นั้นอายุสามสิบปีจะตาย
ถ้าหน้าผากเป็นริ้วขวางจะตายมิดี
ถ้าหน้าผากตัวใหญ่อ้วนพี ผู้นั้นจะมีสุขมาก
ถ้าหน้าบวมมีเนื้อมาก ตัวผอม เนื้อน้อย ผู้นั้นโรคาพยาธิมาก
ถ้าผู้ใดหน้าซีด หน้าผอม หาโฉมมิได้ ดังหน้าผี เลี้ยงลูกยาก มักผิดพี่น้องเพื่อนฝูง คบกันมักพลันหน่าย
ท่านชังมาก ฯ
ถ้าหน้าเป็นจุดแดง ดำ ขาว หน้ากระด้าง หาโฉมมิได้ หน้าเป็นฝ้า ไฟ มักขึ้งโกรธ มักทะเลาะเพื่อนฝูงมิดีฯ
ถ้าหน้าบางทีเขียว บางทีซ้ำดำ ใจพานใจร้ายนัก หาความเมตตามิได้ฯ
อุ้มต้อ อุ้มสร้อยฯ แปลเป็นคำไทยว่า หูทั้งสองเสมอกัน ไม่สูงไม่ต่ำ ไม่เล็กไม่โต สมกับโฉมหน้า หูแดง ช่องหูกว้างลึก จะได้เป็นขุนนาง อายุยืนฯ
ผู้ใดหูแหลม หูเล็ก หนังบาง หูดำหูแดง หูนั้นจะเข็ญใจอายุสั้น
ถ้าหูขาวกว่าหน้า จะได้เป็นใหญ่ มีผู้นับถือทั้งแผ่นดิน
เถ่าตั้งซุยกิน ถ้าหูหนา หูใหญ่ หูยาน ยาวถึงบ่า จะมีวาสนามากฯ
ตะแนะ ซุ่ยขู ว่าหูลี่ถึงเนื้อ แห่งหูหนาดังตุ้มแก้ว จะมีบุญฯ
อนึ่ง หูคิ้วจ้าว คือ คิ้วขุนนาง ถ้าหูสูงกว่าคิ้วจึงดี ถ้าหูเล็กหาปัญญามิได้ ถ้าในช่องหูบางเล็ก อายุสั้นหาสิ่งสินยาก ในช่องหูกว้างและโตอายุยืน
ถ้าหูขาวเลื่อมประภัสสรดั่งแก้ว ผู้นั้นมีปัญญามาก
ถ้าหูกลม มีทรัพย์ อายุยืน
ใบหูแหลมทั้งบน ทั้งล่างใจร้าย
ยูซื้อ ว่าถ้าหูเหมือนหนู จะเข็ญใจ อายุสั้น
ถ้าหูเห็นดำ แห้ง ผู้นั้นจะสิ้นอายุปีนั้นแล้ว
ถ้าคิ้ว ยาว สูง นับเส้นได้ หว่างคิ้วกว้าง ผู้นั้นมีปัญญาฉลาด
ถ้าคิ้วสั้น ขนคิ้วเส้นใหญ่ ผู้นั้นจะตายด้วยเขี้ยวงาและอาวุธ
ถ้าคิ้วยาวกว่าตา จะมีทรัพย์สมบัติมาก ลูกไพร่จะได้เป็นนาย
ถ้าคิ้วสั้นไม่ถึงตา จะเข็ญใจ
ถ้าคิ้วตั้งราบกว่า ใจโจร
ถ้าขนคิ้วตำตา ผู้นั้นใจซื่อ ใจโง่ หาปัญญามิได้
ถ้าขนคิ้วต่อกันสองข้าง ผู้นั้นอาภัพญาติพี่น้อง
ถ้าขนคิ้วเส้นย้อนมาหัวคิ้ว ผู้นั้นใจชั่ว มิได้รู้คุณผู้มีคุณ คิดแต่จะทำร้ายท่าน
กระดูกคิ้วเป็นสันสูง ขึ้นมา ผู้นั้นเป็นผู้ร้าย
ถ้าคิ้วสูงถึงหน้าผาก จะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่
ถ้าขนคิ้วเล็กยาว ทายว่ามีพี่น้อง 4 หรือ 5 คนฯ
ถ้าหัวคิ้วไม่เสมอกัน ทายว่า มารดาตายก่อน
ถ้าขนคิ้วยาวถึงหมวกผม จะได้เป็นใจ๋เสี่ยง ฯ แปลว่า จัตุสดมภ์ฯ
ถ้าคิ้วสั้นไม่ปิดตา ไร้ญาติ อยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้าคิ้วดก ผมดก ทายว่า ได้ทุกข็มากกว่าความสุข
ทีนี้จะทำนายซึ่งลักษณะอันบังเกิดในจักษุ ทั้งสองต่อไป อันธรรมดาฟ้าและดิน ย่อมว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์ จึงได้สว่างแจ้งแท้จริง ปุถุชนชายหญิงอันเกิดมามีจักษุทั้งสอง จึงได้สว่างเป็นธรรมดา
ถ้าผู้ใดมีดวงจักษุทั้งสอง ที่ขาวก็ให้ขาวบริสุทธิ์ ที่ดำก็ให้ดำดั่งนิล ผู้นั้นจะมีทรัพย์สินสมบัติมาก มีบุตรชาย และหญิง ที่ได้พึ่งมีความสุข ลูกไพร่จะได้เป็นนายแลฯ
ถ้าผู้ใดมีดวงตาขาวมากกว่าตาดำ และตาเหลือง เป็นสีแดงอิฐเข้าถึงตาดำ และเป็นเม็ดขาวขึ้นที่ตาดำ และเป็นเส้นแดงแทงตาดำ และตาดำกับตาขาวไม่บริสุทธิ์ระคนกันเป็นสีต่าง ๆ ผู้นั้นมีสิ่งสินฉิบหายมีลูกและมีเมียจะตายจากกันฯ
ผู้ใดมีดวงตาสว่างแจ้ง จะดู จะเห็นสิ่งที่อันใดก็ประจักษ์ มิได้มีเฝ้าและหมองมัว ตาขาวตาดำ สุดจะมีทรัพย์ จะมีอายุยืน
ถ้าผู้ใดมีดวงตาไม่บริสุทธิ์ ดูสิ่งใดมิแจ้งประจักษ์แท้ไซร้ จะเข็ญใจหาสิ่งสินยาก อายุสั้น
ถ้าผู้ใดมีดวงตาดำและขาว เป็นเม็ดเป็นก้อนอยู่ มิได้เกลี้ยงและตาขาวมากกว่าตาดำ และตาดำมากกว่าตาขาว และมิได้บริสุทธิ์ จะดูสิ่งใดมิแจ้งประจักษ์แท้ไซร้ จะเข็ญใจหาสิ่งสินยาก อายุสั้น
ถ้าผู้ใดมีดวงตาดำและขาว ใส่งามบริสุทธิ์ ตาดั่งดวงตานาคราช ดั่งตาหงส์ ตาสิงโต ตาช้าง ตาราชสีห์ จะดูจะเห็นสิ่งใดก็เห็นแจ้งประจักษ์ มิฝ้ามัวจะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ประกอบด้วยสิ่งสินสมบัติ
ถ้าผู้ใดมีตากลมและตาหัน ตาแหลม ตาแดง ผู้นั้นจะเป็นโจรจะตายด้วยอาวุธและเขี้ยวงา
ถ้าผู้ใดมีตากลมดั่งตางู และหน่วยตา (ลูกตา) ดั่งตาไก่ ผู้นั้นจะเป็นโจรมักชูสาวมาก จะตายด้วยอาวุธและเขี้ยวงาดั่งเดียวฯ
ถ้าผู้ใดตาโต ตาเหลือง ตาสามเหลี่ยม ผู้นั้นใจร้าย ใจชั่วฯ
ถ้าดวงตานั้นดำดั่งน้ำรัก ผู้นั้นจะมีปัญญา
ถ้าเหมือนคันธนูโก่งแล้ว ผู้นั้นจะทำร้ายแก่ท่าน
ดวงตา หนังตา ไวกว้าง ผู้นั้นใจซื่อตรง ใจดีมีปัญญา
ถ้าดวงตาพองทะเล้นออกมา ดูดั่งหน้าตาห่อหุ้มมิได้ผู้นั้นจะตายด้วยยอาวุธและเขี้ยวงา
ถ้าหนังตาสูงกว่าหัวตา ใจกล้าจะเป็นทหารฯ
ถ้าตากว้างเป็นเหลี่ยมยาวมักต้องปาง
ถ้าตาเล็ก ตาสั้น ตาแป้น ผู้นั้นเป็นคนโฉดเขลา ปัญญาน้อยความคิดน้อยฯ
ถ้าขอบตาดังตาไก่ ดวงตาดังนกพิราบ ผู้นั้นอยู่มิได้เป็นที่มักเที่ยวเตร่ฯ
ถ้าแดงดังแสงไฟ ผู้นั้นมักมีถ้อยความมิขาด
ถ้าตาดำ เส้นตาเหลือง ผู้นั้นจะตายด้วยอาวุธฯ
ยินติ่ง แปลว่า ถ้าผู้ใดหว่างคิ้วกว้าง หน้าผากกว้าง และสูงคิ้วสองข้างสูงและคิ้วยาว และแก้มทั้งสองเสมอ จมูกมิได้หัก จมูกโตตรงขึ้นเสมอ หน้าผากผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย
ถ้าผู้ใดหว่างคิ้วต่ำ หน้าผากแหลม คิ้วทั้งสองชิดกันและคิ้วสั้น ผู้นั้นจะมีสิ่งใดก็คงย่อมเกิดอันตรายต่าง ๆ มิรู้วาย
ถ้าผู้ใดคิ้วกว้าง ดวงหน้าผึ่งผาย ผู้นั้นมีอำนาจมาก กว่าถ้อยคำมีผู้เชื่อฟัง จะได้เป็นอธิบดีผู้ใหญ่ฯ
ถ้าผู้ใดเป็นแสกเส้นเท่าเข็ม ขึ้นแต่หว่างคิ้วถึงหน้าผม ดังสับฟากผู้นั้นมักต้องราชทัณฑ์อาญาเป็นทุกข์มิรู้
วายฯ
ถ้าหน้าผากสี่เหลี่ยม หว่างคิ้วมีสัณฐานกลมและเต็มมิได้บกพร่อง ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาบดี แต่หนุ่มฯ
ถ้าผู้ใดหว่างคิ้วเป็นแสกเป็นบาดแผลเป็นปานเป็นไฝ มิได้ตรงแสกหน้าผู้นั้นทรัพย์สมบัติร้อน มีเมียมักจาก
อยู่ด้วยกันมิตลอดเฒ่าฯ
ผู้ใดจมูกโตเสมอถึงแสกหน้า มิได้เง้า มิได้หัก เพียงทั้งสองข้างเสมอมิได้พร่องเต็มบริบูรณ์ งานสมกับโฉมหน้า ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาบดี ประกอบด้วยทรัพย์สมบัติ
มีคำเทียบไว้ หน้าแห่งคนทั้งหลายเปรียบเหมือนภูเขาห้าแห่ง
หน้าผากคือจอมเขายอด 1
แก้มข้างซ้ายจอมเขายอด 1
แก้มข้างขวาจอมเขายอด 1
คาง คือ จอมเขายอด 1
จมูก คือ จอมเขายอด 1
ตั้งอยู่กลางเขาทั้ง 4 นั้น
จมูกนี้มีรากหยั่งลงไปถึงปอด ถึงและมีความสุขสบายอยู่ ปอดก็เปิดลมให้หายใจเป็นปรกติ
อนึ่ง จมูกเปรียบเสมือนคลังทรัพย์สิ่งสินสมบัติ ถ้าจมูกสูง จมูกยาว จมูกตรง จมูกมีเนื้อหนาจะมีทรัพย์
อนึ่ง ช่องจมูกทั้งสอง เหมือนประตูคลังสมบัติ ถ้าช่องจมูกหนามีทรัพย์ทำได้ไว้คงฯ
ถ้าจมูกตกต่ำ จมูกแหลม จมูกบาง ผู้นั้นตระหนี่
ถ้าเงาจมูกตรง หัวตานั้นต่ำและหัก ผู้นั้นแม้นบิดามารดาจะมีสิ่งสินเท่าใดก็ครองไว้มิได้
จมูกยาวถึงหน้าผากมิได้หัก จะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่
ถ้าจมูกต่ำ จมูกคอ อายุสั้น
ถ้าจมูกเป็นเส้นนางเสมอหน้าผาก หาเนื้อมิได้และท้าย กำด้น
ดวงตามัว ผู้นั้นเข็ญใจ ไร้ญาติอยู่แต่ผู้เดียว นัยหนึ่งอายุสั้น เนา
ถ้าผู้ใดลูกจมูกเขินและเห็นภายในช่องจมูก ผู้นั้นมักอาภัพภรรยา ถ้าหญิงก็ดุจเดียวกันฯ
อนึ่ง หน้าผากและจมูกและแก้มทั้ง 2 และลูกคางเรียกว่าจอมเข้า ทั้ง 5 ถ้าเต็มบริบูรณ์ด้วยเนื้อหนัง ดูงามพร้อมด้วยลักษณะทั้ง 5 ดั่งพรรณนานี้ ถ้าเมื่อน้อยไม่มีทรัพย์สมบัติต่ออายุ 30 ขึ้นไป จึงจะมีทรัพย์บริบูรณ์
ถ้าจมูกมากเนื้อ และสูงเสมอหน้าผากมิได้หัก เนื้อแก้มริมจมูกพ่วงผ่องใสงาม ผู้นั้นใจซื่อตรง ฉลาดในการจัดแลงที่บ้านเรือนและการทั้งปวง
ถ้าผู้ใดจมูกโต จมูกหนา จมูกแข็ง จะมีทรัพย์สมบัติมาก
ถ้าจมูกเหมือนสิงโต จะมีปัญญาความคิดมาก แต่ภายหลังจะมีสุขมากฯ
ถ้าจมูกเสมอหว่างคิ้วเต็มบริบูรณ์ จะได้เมียอันพึงใจ จะได้เป็นขุนนาง
ถ้าจมูกแหลม ผู้นั้นปัญญาน้อย จะเข็ญใจฯ
ถ้าจมูกแตก จมูกมีแผลทรัพย์สินมิคง เลี้ยงลูกยาก
ถ้าจมูกกลมมากเนื้อแก้มทั้งสองมีเนื้อบริบูรณ์เสมอกัน ผู้นั้นจะมีทรัพย์สมบัติมาก
ถ้าเงาจมูกและหว่างคิ้วมีกระดูกเสมอกัน และมิได้เง้ามิได้หัก ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาบดี แต่หนุ่ม จนสิ้นอายุฯ
ถ้าแก้มพร่อง หน้าผากแหลม หน้าผากสูง คางต่ำ จมูกสูง มิได้บริบูรณ์พร้อมกันทั้ง 5 นั้น ท่านว่าญาติพี่น้องมิได้พึ่ง จะได้ทรัพย์สิ่งสินสิ่งใดก็ครองไว้มิคงฯ
ถ้าจมูก เหลือง แดง ผู้นั้นจะหาทรัพย์สิ่งสินง่าย
ถ้าจมูกดำเหมือนเถ้าไฟถูกน้ำ มีสิ่งสินจะฉิบหาย จะตาย
ซุ่ยวุ่ย ต้อไถ้
ปากเหมือนโตชาล ภาษาไทยว่า ปากเหมือนชาลอันใหญ่โตและปากนี้จะได้
ทรัพย์ก็ดี จะเสียทรัพย์ก็ดีเพราะปาก และปากนี้เป็นประตูแห่งถ้อยความทั้งปวง ถ้าปากตรงปากเสมอ ผู้นั้นเจรจาซื่อตรง เจรจาน้อยฯ
ถ้าปากไม่ตรง ผู้นั้นพูดมากเป็นปากโจร เจรจาเท็จมาก
ถ้าปากเปิด ริมฝีปากมิได้หุ้มฟัน ผู้นั้นอายุสั้น
ถ้าปาก แหลมปากเล็ก ปากบาง ปากเบี้ยว ปากแป้นจะเข็ญใจเพราะอายุสั้น
ถ้าปาก เป็น 4 เหลี่ยมจะมีทรัพย์มาก จะได้เป็นเศรษฐีฯ
ถ้าริมฝีปากแดงเหมือนชาด มีปัญญาฉลาด มีความคิดมาก
ถ้าปากเหนือกระบือ มีปัญญา
ถ้าครีบปากหนา จะได้เป็นนายทาหาร
ถ้าฟันดั่งฟันสุนัข ปากเหมือนหนูผู้นั้นจะเป็นสองใจชั่วใจคดฯ
ถ้าริมฝีปากทั้งสองต่ำ ผู้นั้นท่านว่าดีแต่ต่อหน้า ลับหลังมิดี
ถ้าปากเหมือนปากเป่าไฟผู้นั้นมักใจน้อยโกรธ อาภัพลูก มิดี
ถ้าปากดั่งปากหนู ผู้นั้นจะเป็นโจรลักเอาแต่ของท่านผู้อื่นมาเลี้ยงชีพ
ถ้าปากเหมือนม้าจะเข็ญใจ แต่จะหาเลี้ยงชีพเลี้ยงปากก็ทั้งยากฯ
ถ้าปากกว้างกำมือใส่เข้าอมได้ ผู้นั้นจะได้เป็นสี่ยง ว่าจัตุสดมภ์ ฯ
ถ้าริมฝีปากเหมือนปากนาคราช เหลงและปาก
มีสัณฐานเหมือนปากหงส์ อย่าให้เอาเป็นเพื่อนฝูงมิซื่อตรง
ถ้าปากเหมือนปากอ่าง ผู้นั้นใจดี
ถ้าปากมีไฝดำ จะมีของกินอร่อยทุกสิ่ง
ถ้าปากกว้าง ลิ้นโต มีทรัพย์มาก
ถ้าปากกว้างลิ้นบาง มักพอใจร้องรำทำเพลง มักเล่นสนุก
ถ้าปากแดงหนวดขาวจะมีสุขต่อภายแก่
ยื่นตัง ภาษาไทยว่า ร่องฝีปากเบื้องบน ตรงขื่อจมูกลงมานั้น เปรียบดั่งร่องน้ำ ถ้าร่องน้ำนั้นแคบ น้ำไหลหนีสะดวก ถ้าร่องฝีปากริมขื่อจมูกลงมานั้น ลึกและยาว ผู้นั้นจะมีทรัพย์มาก อายุยืนฯ
ถ้าเป็นร่องตื้นเรียบเสมอเนื้อริมฝีปาก อายุสั้น
ถ้าร่องคด เจรจาเท็จมากฯ
ถ้าร่องตรง เจรจาซื่อตรงฯ
อนึ่งร่องจมูกและริมฝีปาก และแก้มทั้งสองเต็มเสมอ และคางเต็มบริบูรณ์ หนวด และคิ้วประกอบกัน และลักษณะอันบังเกิดในหน้าได้ประกอบกันดูงามไซร้ ผู้นั้นดีมากฯ
ถ้าร่องจมูกเล็กและแคบ ผู้นั้นจะเข็ญใจหาเลี้ยงปากมิได้
ถ้าผู้ใดจมูกเบื้องบนแคบ เบื้องต่ำกว้าง จะมีลูกหลานน้อยฯ
ถ้าร่องจมูกเบื้องบนแคบ เบื้องต่ำแคบกลางกว้าง ผู้นั้นมีลูกหรือหลานมักป่วยเจ็บมาก
ถ้าร่องจมูกเบื้องบนนั้น ลึกและกว้างจะมีลูกหลานมากดี
ถ้าร่องจมูกเบื้องต่ำนั้น ลึกและกว้างจะมีลูกหลานมากดีฯ
ถ้าร่องจมูกคดและสั้น จะเข็ญใจ อายุสั้น
ถ้าในร่องจมูกเป็นแสกถึงขื่อจมูก ผู้นั้นจะมีลูกมักเสียมาก เลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าในร่องจมูกเป็นแสกเส้นเท่าเข็มขึ้นถึงขื่อจมูก ผู้นั้นอาภัพลูกจะเข็ญใจ
ถ้าร่องจมูกเหมือนไม้ไผ่ผ่าสองฉะนั้น จะมีวาสนามาก ประกอบด้วยสมบัติมาก
ถ้าร่องจมูกแตกสองข้างแสกละเป็นครีบเป็นเส้นขึ้นมา ผู้นั้นเข็ญใจ ไร้ญาติอาภัพมิดี
ถ้าริมฝีปากตรง ริมปากหนา มิได้แหลม มิได้บาง และริมฝีปากแดงสดใจงาม และริมฝีปากมิได้ขาว หรือดำ และริมฝีปากเป็นเส้นแสกมาก และริมฝีปากเบื้องบน หรือต่ำ เสมอกัน ผู้นั้นใจดี ใจโอบอ้อมอารี ถึงผู้ใดจะกระทำผิดทำชอบประการใด ก็นิ่งคิดอยู่แต่ในใจ มิได้ออกปาก ใจละเอียดตรึกตรองมากฯ
ถ้าริมฝีปากทั้งสองงามพอดี ผู้นั้นมักซื่อตรง มักพอใจร่ำเรียนรู้วิชาฯ
ถ้าริมฝีปากทั้งสองบาง ผู้นั้นผากกล้ามุสา ว่ากล่าวถ้าคำมิจริงเท็จมากนัก
ถ้าริมฝีปากเบื้องบนยาวและหนา ผู้นั้นอายุยืน
ถ้าริมฝีปากต่ำยาวและหนา ผู้นั้นมักกิน
ถ้าริมฝีปากเหมือนริมฝีปากมังกร จะมีทรัพย์สมบัติมาก จะได้เห็นนางพระยาฯ
ถ้าริมฝีปากเหมือนแพะผู้นั้นเข็ญใจ จะขอทานกิน
ถ้าริมฝีปากแหลม จะเข็ญใจ หาสิ่งสินยากจะอดตาย
ถ้าริมฝีปากเบื้องต่ำปลิ้นออกมาจะอาภัพญาติพี่น้อง พ่อแม่ลูกเมียจะเข็ญใจอยู่ผู้เดียว
ถ้าริมฝีปากแสกเส้นมาก จะมีลูกฯ (เกีย)
ถ้าริมฝีปากหาเส้นมิได้ และเกลี้ยงอยู่ จะอาภัพลูก หาลูกมิได้
ถ้าริมฝีปากเหมือนปากนก ผู้นั้นหมอความพอใจวิวาทฯ
ถ้าริมฝีปากเหมือนถ้ำ ผู้นั้นถ้อยคำมั่นคงดี
ถ้าริมฝีปากเหมือนปากเป่าไฟ ผู้นั้นอาภัพลูกหลาน
ถ้าริมฝีปากปากแดงและบาง ผู้นั้นเจรจากลับกลอก เอาคำแน่นอนมิได้ฯ
ถ้าริมฝีปากมีสีแดงมาก จะได้เป็นขุนนาง ประกอบด้วยสิ่งสินมากฯ
ถ้าริมฝีปากเขียว มักป่วยเจ็บอายุสั้น
ถ้าริมฝีปากมัวดำ มักไข้ป่วยเจ็บมิวาย
ถ้าริมฝีปากแดงงาม จะมีทรัพย์สมบัติมาก มิง้องอนผู้ใดดีฯ
ถ้าริมฝีปากแดงอ่อน จะมีเมียงามฯ
ถ้าริมฝีปากเป็นเส้นเหมือนดอกไม้ จะมีทรัพย์ฯ
ถ้าริมฝีปากแตกริมปากดำ ผู้นั้นจะเข็ญใจฯ
ถ้าริมฝีปากยาวฟันสั้น ผู้นั้นอายุยืน
ถ้าริมฝีปากปิดลงไม่ตรง ผู้นั้นเจรจาไม่จริง เท็จมากฯ
คี ภาษาไทยว่า ฟัน และฟันนั้น จะใหญ่กว่ากระดูก และฟันนี้บังเกิดขึ้นด้วยโลหิต ถ้าโลหิตบริบูรณ์ฟันนั้นมิได้โยก มิได้คลอน
ถ้าฟัน เป็นเหลี่ยมและฟันยาว ฟันโตเรียบเสมอไม่สูงไม่ต่ำฟันแน่นชิดกันผู้นั้นอายุยืน
ถ้าฟันแหลมฟันบางฟันห่างฟันสั้นฟันคดผู้นั้นอายุสั้น
ถ้าฟันโต ฟันตรง รากฟันแน่น ฟันเสมอ ริมปากตรงไม่เบี้ยว ผู้นั้นซื่อตรง คำนับ ผู้มีพระคุณ และใจศรัทธานับถือยำเกรงบิดามารดาดี
ถ้าฟันห่าง ฟันแตก ฟันสั้น ฟันแหลม ฟันแห้ง ฟันเหลือง ผู้นั้นเจรจากลับกลอกเจรจาเท็จมากมิดีฯ
ถ้าฟันโต ฟันชิด ฟันยาว ฟันเสมอ ฟันขาว ฟันแดง ฟันดำ ดูงามสดใส มิได้มีมลทิน บริสุทธิ์ และฟันรากลึกแน่น มิได้คลอน ผู้นั้นจะมีทรัพย์สิ่งสิน อายุยืน
ถ้าฟันโตและห่าง ฟันเล็ก และแหลม ฟันสั้นและบาง ฟันแตก แมงกิน และฟันดั่ง คราดชักหญ้า ผู้นั้นจะเข็ญใจ จะตายด้วยอาวุธเขี้ยวงามิดีฯ
อนึ่ง ให้พิจารณาดูหน้าฟันเบื้องบนและต่ำ สองซี่นั้น ถ้าแน่นและเสมอ และชิดกันและเป็นเหลี่ยมขาวบริสุทธิ์ มิได้ย้อมด้วยสิ่งใดไซร้ ผู้นั้นเจรจาสัตว์มั่นคง และเจราจาไพเราะ ประกอบด้วยของกินบริบูรณ์มิได้อดอยาก
ถ้าฟันเหลือง ฟันขาวแห้งไม่บริสุทธิ์ ฟันไม่ตรง จะเข็ญใจ เป็นคนโลเล มักเที่ยวเตร่ อยู่มิได้เป็นที่ฯ
ถ้าฟันเหมือนนาคราชถ้ามีลูกจะมีวาสนา จะได้พึ่งลูกฯ
ถ้าฟันเหมือนสิงโตจะได้เป็นใจ๋เสี่ยง ว่าจะได้เป็นเสนาผู้ใหญ่ดีฯ
ถ้าฟันไม่ตรง ผู้นั้นเป็นคนอาศัยศาลจ้าว เป็นคนไม่รู้บุญคุณผู้มีคุณ เป็นคน ท่านด่า พาลทะเลาะวิวาทมิดี
ถ้าฟันเหมือนฟันสุนัข ผู้นั้นโกหก เจรจาเอาความจริงมิได้
ถ้าฟันชิดกันและขาวบริสุทธิ์เหมือนเงิน ผู้นั้นซื่อตรง มักเรียนวิชาทุกอันฉลาดดี
ถ้าฟันห่าง ฟันแห้ง ฟันเหลือง ผู้นั้นจะเล่าเรียนสิ่งใดมิได้
ถ้าฟันดำเหมือนแก้วนิลใสแสดงาม จะมีสิ่งสินบริวารโภคสมบัติมากเทวดารักษา
ถ้าฟันขาวแห้งเหมือนกระดูกตาย ผู้นั้นจะยากจน หากินยาก ได้เช่นกินค่ำ มิใคร่จะทันกิน
ถ้าฟันเหลืองเหมือนใบไม้หล่นจากกิ่งไม้ ผู้นั้นเข็ญใจ หาเรือนมิได้ จะอาศัยป่าช้าผี
ถ้าฟันเหลืองบริสุทธิ์เหมือนแก้วเหลือง ผู้นั้นจะมีสมบัติไหลมาด้วยบุญจะได้สิ่งใด ก็ได้โดยง่ายสะดวกดี
ถ้าฟันเหมือนไม้ตาย จะเข็ญใจ หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ยากนักมิดี
ถ้าฟันนับซี่ได้สี่สิบ และฟันขาวบริสุทธิ์ และรากแน่น และชิด และเสมอกันได้คด มิได้โอน และฟันเรียบงามดี ผู้นั้นภาษาจีนว่า ฝุกโจ๊ ภาษาไทยว่า พระเจ้าหาผู้เสมอสองมิได้ฯ
ถ้าฟันนับได้สามสิบแปดซี่ และขาวเกลี้ยงเป็นเงางาม ผู้นั้นจะมีอานุภาพมาก กล้าหาญมีชัยในสงคราม จะได้ดีด้วยการณรงค์ ประกอบด้วยโภคสมบัติมาก
ถ้าฟันนับซี่ได้สามสิบสี่ซี่ จะมีวาสนามาก มีอายุยืน
ถ้าฟันนับได้สามสิบซี่ ผู้นั้นเป็นมัธยม จะมีทรัพย์สิ่งสินเครื่องใช้สอยทั้งปวง พอกิน พอใช้เป็นปานกลางฯ
ถ้าฟันนับได้สามสิบซี่ ถ้าขาวบริสุทธิ์เกลี้ยงงามดี จะได้เป็นขุนนางดีฯ
ถ้าฟันนับได้ยี่สิบแปดซี่ หาสิ่งสินยาก จะเข็ญใจ ถ้าแลขาวบริสุทธิ์จะมีทรัพย์สิ่งสินแต่อายุสั้นฯ
ถ้าฟันนับได้ยี่สิบสี่ซี่ ผู้นั้นคือผีเกิดเป็นคน จะเข็ญใจหนักฯ
จิ ภาษาไทยว่าลิ้น และลิ้นนี้เป็นที่รวมแห่งเส้นภายในใจและดับเครื่องภายในทั้งปวง เป็นรากแห่งลิ้น และลิ้นเป็นเหลี่ยมและลิ้นเสมอแดงงาม ลิ้นแหลมเหมือนกระบี่คมกล้า มีเส้นโลหิต จะมีทรัพย์สมบัติ จะมีวาสนาแลฯ
ถ้าลิ้น แคบและยาว ผู้นั้นเจรจากลับกลอก จะเป็นโจรฯ
ถ้าลิ้นสั้น ผู้นั้นเจรจาเขลาโฉด หาฉลาดเจรจามิได้ฯ
ถ้าลิ้นลิ้นบาง ผู้นั้นเจรจาเอาความมิได้ เจรจาเท็จมากฯ
ถ้าลิ้นแหลมลิ้นเล็ก ผู้นั้นกินของมิได้เลือก เห็นจะกินได้ก็กินฯ
ถ้าลิ้นขาวและดำ ผู้นั้นเป็นตระกูลทาสเลี้ยงช้างเลี้ยงม้าท่านฯ
ถ้าลิ้นแดง ลิ้นเหลี่ยม ลิ้นยาว ถ้ากระทั่งไอน้ำลายกระเด็นออกมาดั่งแก้ว ดีฯ
ถ้าลิ้นแดง ลิ้นเล็ก ลิ้นยาว จะมีปัญญาฉลาดใจแกล้วกล้าดีฯ
ถ้าลิ้นแดงใสสดงดงามดี และสายเส้นลิ้นงาม จะได้เป็นเสนาใน ใกล้ชิดแห่งพระยาฯ
ถ้าลิ้นคมมีสัณฐานดังคมกระบี่ ผู้นั้นจะมีทรัพย์สมบัติมาก จะได้เป็นอำมาตย์ฯ
ถ้าลิ้นยาวถึงจมูก จะได้เป็นจัตุสดมภ์ ผู้ใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากฯ
ถ้าลิ้นยาวถึงจมูก ถ้าจมูกแหลมจมูกบางมิดีฯ
ถ้าลิ้นแสกเส้นออกมาถึงปลายได้สามแสก จะมีเครื่องบริโภคมากฯ
ถ้าลิ้นเป็นไฝดำ จะมีเครื่องบริโภคมาก เทวดารักษาผู้นั้นฯ
ถ้าลิ้นเป็นไฝดำ ผู้นั้นจะตายด้วยเครื่องอาวุธเขี้ยวงามิดีแลฯ
ถ้าผู้ใดมักแลบ (ลิ้น) แปลบ ๆ เหมือนลิ้นงู ผู้นั้นใจชั่วมิดีฯ
ถ้าแลบทาริมฝีปากเป็นนิจ ผู้นั้นพอใจเที่ยวเตร่ พอใจอวดตัวชมว่างาม
ถ้าลิ้นเล็กลิ้นสั้น ผู้นั้นจะเข็ญใจฯ
ถ้าลิ้นโต ปากเล็ก ผู้นั้นจะพูดสิ่งใดมิสิ้นความฯ
ถ้าลิ้นเล็กปากโต ผู้นั้นเจรจาเบาเจรจาเร็วฯ
ถ้าลิ้นดั่งแต้มด้วยชาด ผู้นั้นมีทรัพย์สมบัติ จะมีวาสนาดีฯ
ถ้าลิ้นมีแผลดำ จะเข็ญใจฯ
ถ้าลิ้นแดงเหมือนโลหิต จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าลิ้นมีสีเหมือนเถ้าไฟถูกน้ำเปียก จะตายมิดีฯ
ถ้าลิ้นมีสีดั่งดอกบัว จะมีทรัพย์มาก ใจซื่อตรงดี
ถ้าลิ้นเขียวเหมือนดอกบัว จะมีปัญญา จะได้เป็นขุนนางดีฯ
ส่องเขียน ภาษาไทยว่า กระดูกหน้า คือกระดูกเบื้องต่ำ ใต้กระบอกตาทั้งสองข้างนั้น ถ้ากระดูกหน้าสูงขึ้นหว่างคิ้ว เต็ม สองตาดำบริสุทธิ์ ขาวบริสุทธิ์ เห็นงาม มีอำนาจมาก จะได้เป็นพระยาเอกราช มีผู้เกรงกลัวฯ
ถ้ากระดูกหน้าต่ำและแหลม ผู้นั้นจะหาทรัพย์สิ่งสินยากเข็ญใจฯ
ถ้ากระดูกหน้า สูง และจมูกมีเนื้อ แก้มทั้ง 2 พวงมีเนื้อ ผู้นั้นจะมีทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ แต่ท่วมกลางอายุเท่าสิ้นชีวิตเป็นสุขมากฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง สองแก้มต่ำ เนื้อแห้งไม่มีเนื้อ ผู้นั้นโฉดเขลา ภายแก่จะเข็ญใจ อาภัพพี่น้องลูกเมีย จะอยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง และหน้าแห้ง มีแต่หนังหาเนื้อมิได้ ผู้นั้นเมื่อกลางอายุ ทรัพย์สิ่งสินของพ่อแม่พี่น้องจะฉิบหายสิ้นฯ
ถ้าหน้า มีเนื้อบริบูรณ์และกระดูกหน้าต่ำราบกับเนื้อผู้นั้นเจรจาสิ่งใดท่านเชื่อแต่ต่อหน้า ลับหลังท่านมิเชื่ออาภัพฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง จมูกสูงมีเนื้อ แก้มทั้งสองมีเนื้อพวงผ่องใสงาม ผู้นั้นภายแก่จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้ากระดูกหน้า สูง และหนวดผมบาง ภายแก่เข็ญใจ จะอยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้ากระดูกหน้า ทั้งสองมีเนื้อสูงขึ้นเบื้องบน และตายาวหว่างคิ้วเต็ม
ดวงหน้าเสมอราบดั่งแผ่นดิน ผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลายดีนักฯ
ถ้ากระดูกหน้าสูง ตาโตไม่งาม คิ้วต่ำ หน้ายาวมิดีฯ
ถ้ากระดูกหน้า สูง จมูกต่ำ ทำได้ไว้มิคงฯ
ถ้าจมูกสูง กระดูกหน้างามรับจมูก มีเมตตามากฯ
ถ้าหมวดงามและเคราผมสองข้างดำงามสดผู้นั้นเป็นที่ชอบใจท้าวพญาท่านเมตตามาก
ถ้าผู้หญิงมีกระดูกหน้าทั้งสองงามมีเนื้อบริบูรณ์ ผู้นั้นการจัดแจงทั้งปวงดีกว่าผัวฯ
ถ้าหญิงใดมีกระดูกหน้าเบื้องต่ำแหลม หญิงนั้นผัวตามสามคนฯ
ถ้าหน้าสีเลือดขึ้นนวลงามดี ถ้าสีเหลืองถึงหูจะได้เป็นขุนนางฯ
ถ้ากระดูกหน้า เขียว จะเกิดวิวาทกับพี่น้องฯ
ถ้าสีขาวจะเป็นด้วยพี่น้อง ญาติ ฯ
ลั่นทง ว่าลูกจมูกเบื้องซ้าย เทงวุย ว่าลูกจมูกเบื้องขวา หวบแหลงว่าร่องน้ำตา เป็นร่องลงมา ริมลูกจมูกทั้งสองนั้น และร่องน้ำตานี้เป็นรากแห่งลูกจมูกทั้งสองฯ
ถ้าลูกจมูกทั้งสองดูงามเกลี้ยง ผู้นั้นจะมีวาสนาฯ
ถ้าร่องน้ำตาทั้งสองเป็นร่องลงมาถึงคางจะมีอายุยืน
ถ้าร่องน้ำตาเป็นร่องขาว จะได้เป็นขุนนาง
ถ้าลูกจมูกทั้งสองและร่องน้ำตาแตกเป็นบาดแผลผู้นั้นหากินยากจะได้สิ่งใดมักมีตำหนิ
ถ้าลูกจมูกทั้งสองดูเห็นเหมือนบวมจะเข็ญใจ
ถ้าเส้นร่องน้ำตาทั้งสอง มีสีใบมะม่วงอ่อน ท้าวพญาจะชุบเลี้ยงดี
ถ้าร่องน้ำตาเป็นสีเขียวและดำ จะเจ็บไข้มิดีฯ
ถ้าแก้มทั้งสองริมปากนั้นมีเส้นตามขวางแทงเข้าปาก ผู้นั้นจะสิ้นอายุฯ
ปีน ภาษาไทยว่า เคราผม ถ้าเคราผมดำงามหนาดีฯ
ถ้าเคราผมเหลือง เคราผมห่าง เคราผมงอมิดีฯ
ถ้าเคราผมลงมาเสมอลูกหา มีปัญญาฉลาดดีฯ
ถ้าเคราผมมากและผมดำงาม มีปัญญาดีฯ
ถ้าเคราผมงาม ขนคิ้วงาม มีปัญญามากดีฯ
ถ้าเคราผมสั้น ขนคิ้วงาม ผู้นั้นจะเข็ญใจ ภายแก่จะอยู่แต่ผู้เดียวหาที่พึ่งมิได้ฯ
ถ้าเคราผมมากและหนวดน้อย ผู้นั้นมิรู้ขาดทรัพย์ตราบเท่าสิ้นอายุฯ
ถ้าเคราผมน้อย หนวดมากผู้นั้นเป็นคนโลเลมิดีฯ
ถ้าแก้มทั้งสองหาขนมิได้ ผู้นั้นมักทุกข์มากฯ
ถ้าเคราผมและผมงามได้ลักษณะ ผู้นั้นจะมีวาสนามีเครื่องบริโภคมากฯ
ฟัด ภาษาไทยว่า ผม เปรียบว่าเส้นผมนี้เหมือนต้นไม้อันเกิดขึ้นบนจอมเขา ถ้าผมสั้น ผมเส้นเล็กงาม ผู้นั้นมีวาสนาฯ
ถ้าผมเส้นใหญ่ดำงามและผมยาว จะได้เป็นขุนนางฯ
ถ้าคนอ้วนพี ผมมาก จึงดีฯ
ถ้าคนเนื้อน้อยผอม ผมน้อยจึงดีฯ
ถ้าผมเส้นโต เส้นแข็งกระด้าง ผู้นั้นใจโทโสมาก ใจแข็ง อาภัพลูกเมียจะอยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้าผมมาก ผมหนาหนัก กลิ่นผมเหม็น จะเข็ญใจเป็นข้างท่านฯ
ถ้าผมแต่กระหม่อมถึงท้ายกำด้นสูง และกระด้าง ผู้นั้นใจชั่วฯ
ถ้าไม่มีเคราผม ผู้นั้นใจชั่วมิดี
ถ้าผมถึงคิ้ว ผู้นั้นมักจะเจ็บไข้มิดีฯ
ถ้าผมและเคราผมเส้นห่าง เส้นโต หากินยาก ทรัพย์มิคง ใจห่าง มักซื้อจ่ายฯ
ถ้าผมและเคราผมมิได้ชุ่มมัน แลดูแห้งผากอยู่ดั่งนี้ จะมีทุกข์มากตราบเท่าสิ้นอายุ
และเทวดาผู้เฒ่าตำรานี้ ตั้งตำราไว้ว่า ในแผ่นดินนี้ผู้ใดมีผมมาก ผมหนาหนักนั้น จะได้เป็นใจเสี่ยงแต่คนหนึ่งขึ้นไปนั้น มิได้มีเลย
ถ้าผู้ใดเมื่อเด็กเล็กอยู่นั้น ถ้าผมแดงมีอิฐดังนั้น ผู้นั้นพี่น้องจะตายฯ
ถ้าผู้ใดมีผมงาม มีหนวดงาม ผู้นั้นจะมีวาสนาจะมีอายุยืน จะเป็นสุขมากฯ
ถ้าผู้ใดอายุได้ยี่สิบปีนั้น เรียกว่าเด็ก ถ้าและมีหนวดและผมขาวและแห้งหามิได้ หาวาสนามิได้ อายุสั้นฯ
ถ้าผมหงอกขาว ดูหน้าเหมือนหน้าเด็กหนุ่ม ผู้นั้นเทวาดารักษาดีฯ
ถ้าผมแห้ง หน้าแห้ง จะเจ็บไข้ จะเป็นไข้ตายฯ
ถ้าผมชิดหู จะตายด้วยอดอาหารฯ
ถ้าเคราผมทั้งสองข้างงอ ผู้นั้นญาติและเมียอยู่ด้วยกันมิตลอดฯ
ถ้าผมแดงดั่งสีอิฐ จะเจ็บไข้มิรู้วายฯ
ถ้าผมเส้นงาม จะมีสุขมาก
ถ้าผมยาวผมบาง อาภัพลูกเมียพี่น้อง อยู่แต่ผู้เดียวฯ
ถ้าผมยุ่งหยิก ใจคด ใจชั่ว ใจไม่ตรงฯ
ถ้ากลางเส้นผมเป็นสีแดง เหมือนอิฐ ผู้นั้นจะตายด้วยเขี้ยวงา และอายุธมิดีฯ
ถ้าผมตรงแสกหน้านั้นหนาและยุ่งเป็นขยุ้มอยู่ ผู้นั้นกำพร้าบิดามารดาฯ
ซิว ภาษาไทยว่า หนวด ถ้าหนวดงาม คิ้วงามคือเส้นดำ เป็นมันสดใส จะได้เป็นเสนาบดีฯ
ถ้าหนวดยาวเส้นอ่อน มิได้บาง มิได้หนา แลเห็นริมปากผู้นั้นจะได้เป็นกุ้ย ภาษาไทยว่า จะเป็นขุนนางดีฯ
ถ้าหนวดสั้น หนวดแข็ง และหนวดขึ้นลำคอ อายุสั้นมิดีฯ
ถ้าขนคิ้วที่หัวคิ้วสั้น ตั้งชันมิได้ตามกัน ผู้นั้นมีเมียมักจากกันฯ
ถ้าหนวดและเคราผมหนาติดันทั้งแก้ม คาง มีลูกตายฯ
ถ้าหนวดปากสองข้างและหนวดคาง และเคราผมมิได้ติดกัน และหนวดอ่อน หนวดยาว และงาม ผู้นั้นซื่อตรง นับถือตระกูล บิดามารดา และมีปัญญาฉลาดฯ
ถ้าหนวดยาว หนวดงอ หนวดอ่อนผู้นั้นจะมีปัญญาดีฯ
ถ้าหนวดแดงดั่งสีอิฐ ขนคิ้วเป็นสันดั่งคมกระบี่ กระดูกสั้นพร้อมยาว พร้อมดูงาม ประกอบกันและเสียงใหญ่ เสียงแจ่มแจ้ว ผู้นั้นจะได้เป็นเสนาผู้ใหญ่
ถ้าหนวดขึ้นที่คอผู้นั้นจะฉิบหาย จะตายมิดีฯ
อนึ่ง หนวดริมปากเบื้องบน เรียกว่า ซือ หนวดริมปากเบื้องต่ำ เรียกว่า ซิว หนวดคาง เรียกว่า เนียม หนวดแก้มเรียกว่า โฮ ถ้าหนวดริมปากเบื้องบนงามจะมีอายุยืน จะมีทรัพย์ฯ
ถ้าริมปากเบื้องต่ำมีหนวด และเบื้องบนหาหนวดมิได้ จะเข็ญใจไร้ทรัพย์ อยู่ด้วยพี่น้องมิได้ มักเที่ยวเตร่ฯ
ถ้าร่องจมูกหาหนวดมิได้ ผู้นั้นเพื่อนฝูงไม่นับถือ ผู้นั้นไม่เชื่อใจคนฯ
ถ้าหนวดริมปากเบื้องบนไม่มี และผมหนักผมหนา อย่าได้เอาเป็นเพื่อนฝูงมิดีฯ
ถ้าหนวดงอ ขนคิ้วงอ จะเข็ญใจมิดีฯ
ถ้าหนวดยาว จมูกงามได้ลักษณะ หนวดทั้งเคราทั้งห้าแห่งงาม ผู้นั้นอายุยืนฯ
ถ้าหาหนวดเครามิได้ ปากเหมือนสตรีและเสียงไม่ดี ผู้นั้นอาภัพลูก ถ้าเสียงดีจะมีลูกฯ
ถ้าหนวดยาว หน้าผอม หน้าเล็ก จะได้เป็นเสนา ใกล้ชิดในกรุงดีฯ
ถ้าหนวดงามดี หน้าแบน ผู้นั้นเป็นคนโลเลมักเที่ยวฯ
ถ้าหนวดริมปากเบื้องต่ำงอกขึ้นก่อนหนวดริมปากบน จะเข็ญใจมิดีฯ
ถ้าขนจมูกยาวถึงริมปากเบื้องต่ำ ผู้นั้นมีทุกข์มากฯ
ถ้าหนวดริมปากงอนขึ้นติดกัน หนวดริมปากเบื้องต่ำรุงรังอยู่ดังนั้น ทรัพย์มิตรครองทรัพย์มิได้ จะเข็ญใจฯ
ถ้าหนวดแข็งดังคมกระบี่ และงามจะได้เป็นนายทหารฯ
ถ้าหนวดเหมือนยุงปัด จะเที่ยวหาใส่ปากเลี้ยงชีวิตด้วยกำลังตนฯ
ถ้าหนวดเส้นเล็ก เป็นฝอยลมปลิวอยู่ ผู้นั้นภายแก่จะยากจนฯ
อำ ภาษาไทยว่า คอ เหมือนขื่อเรือนอันทรงไว้ซึ่งเครื่องแห่งเรือน คือศีรษะนั้น ถ้าตัวอ้วนพีมากเนื้อบริบูรณ์ลำคอสั้นจึงดีฯ
ถ้าตัวผอมลำตัวยาวจึงดีฯ
ถ้าคอไม่สมตัวจะเข็ญใจ มิฉะนั้นอายุสั้นมิดีฯ
ถ้าคอโตหนัก และคอยาวดังคอห่าน และคอสั้นคอเล็ก ไม่สมตัวมิดีฯ
ถ้าคอสั้นเป็นเหลี่ยม ผู้นั้นจะมีทรัพย์อายุยืนฯ
ถ้าคอเล็กและยาวหนัก ผู้นั้นจะเข็ญใจหนักฯ
ถ้าคอแข็ง จะเหลียวซ้ายและขวามิได้ ผู้นั้นอายุนั้นพลันตายฯ
ถ้าคอมีหนวดปิดคอ ผู้นั้นจะตายมิดีฯ
ถ้าคอริมท้ายผมตกเป็นบั้ง มีเนื้อมาก จะมีทรัพย์อายุยืนฯ
ถ้าคอไม่ตรง ผู้นั้นจะเข็ญใจฯ
ถ้ามีแต้มดำ แต้มขาว เป็นกระ ผู้นั้นใจตรง จะมีทรัพย์ฯ
ถ้าคอเหมือนคองู ผู้นั้นใจร้ายฯ
ถ้าคองามประกอบด้วยดวงหน้างาม ผู้นั้นจะได้เป็นขุนนางมีสมบัติมากฯ
ถ้าคอเล็กหนังคอบาง จะกลืนสิ่งใดก็เห็นเข้าไป ผู้นั้นจะเข็ญใจ จะขอทานกินกลางตลอดมิดีฯ
ถ้าบ่าเสมอหนา ถ้าแลนั่งอยู่เป็นปกติ พิศดูบ่าเสมอและราบบ่าหนาดี
ถ้าบ่าซ้ายสูงกว่าบ่าขวา ชอบค้าขายดี
ถ้าบ่าขวาสูงกว่าบ่าซ้าย มีทรัพย์สิ่งใดไว้มิคงฯ
ถ้าไหล่ทั้งสองกว้าง หนาเป็นเหลี่ยม จะทำสิ่งใดก็ดี ทำได้ทุกอัน
ถ้าบ่ากว้างและแหลม ภายแก่จะได้ยากฯ
ถ้าไหล่ลู่ดูเหมือนหนาว ผู้นั้นจะหาที่อยู่มิได้ฯ
ปวย ภาษาไทยว่า หลัง ถ้าหลังราบ หลังหนา เสมอเต็ม หลังยาว หลังกว้างดีฯ ถ้าหลงสั้น หลังบา หลังเป็นร่องดีฯ
ปวยยกหกดู ภาษาไทยว่า ถ้าหลังก็เหมือนหลังเต่า จะได้เป็นขุนนาง แต่หนุ่ม ถ้าหลังหนา เอวกลม จะได้เป็นอธิบดีอำนาจมาก ถ้ามิได้เป็นอธิบดีจะมีทรัพย์สมบัติมากฯ
ถ้าหลังโกงหลังค่อมและอกสูง จะเข็ญใจ จะมีอายุสั้นฯ
ถ้าหลังหนาล่ำเป็นก้อนเนื้อ ผู้นั้นจะบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ
ถ้ากระดูกหลังต่ำ หลังร่องจะเข็ญใจฯ
ถ้าหลังโกง บั้นเอวบาง บั้นเอวแข็งเนื้อหลังน้อย ผู้นั้นอาภัพพี่น้องลูกหลานฯ
ถ้าหลังหนา หลังเต็ม หลังกว้าง จะมีทรัพย์สมบัติ จะมีวาสนาฯ
ถ้าหลังหนา อกบาง ภายแก่จะเข็ญใจ หาที่พึ่งมิได้ อยู่แต่ผู้เดียว
ถ้ากระดูกหลังที่หว่างไหล่สองข้างนั้น กระดูกหลังต่ำ ผู้นั้นเป็นคนโลเล อายุสั้นฯ
ถ้าหญิงใดหลังกลม จะได้เป็นเมียขุนนางดี
ถ้าผู้ใดหลังตะพาบปิดน้ำ อกเหมือนนอกเต่าจะเข็ญใจผู้นั้นมักพอใจเล่นชู้ฯ
ถ้าหลังราบเสมอ ผู้นั้นจะได้เป็นเสนา ตราบเท่าลูกหลานดีฯ
เฮง ภาษาไทยว่า อก ถ้าอกกว้าง อกเสมอ อกหนา อกยาว สีงามผู้นั้นใจกล้าหาญ มีปัญญาฉลาด จะมีวาสนามาก จะมีทรัพย์สมบัติมาก จะมีบริวารมาก มีญาติพี่น้องมาก จะมีสุขมากฯ
ถ้าอกบาง หัวอกแหลม อกแคบ อกเล็ก ผิวเนื้ออกดำ ผู้นั้นใจไม่ตรง เจรจากลับกลอก ใจน้อยมักขึ้งโกรธ ใจเบาหาปัญญามิได้ จะเข็ญใจ ไร้ทรัพย์ อายุสั้นฯ
ถ้าอกกว้าง ตัวอ้วนพี มีเนื้อบริบูรณ์สมบัติดีงามนั้น ผู้นั้นจะได้เห็นใหญ่กว่าคนทั้งหลายฯ
ถ้าอกกว้างหว่างอกหนาเสมอดังกระดานเต็มบริบูรณ์จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าอกบางไม่มีเนื้อ เห็นแต่หนังหุ้มกระดูก ผู้นั้นหากินยามมิดีฯ
ถ้าอกแคบ อกยาว หัวอกฟก จะเข็ญใจ อายุสั้นมิดีฯ
ถ้าอกเหมือนอกไก่ หลังแอ่นเหมือนหลังเป็ด ผู้นั้นปัญญาความคิดน้อย อายุส้นฯ
ถ้านอกสั้นกว่าหน้า จะเข็ญใจ อยู่แต่ตัวผู้เดียวฯ
ถ้าอกต่ำ อกร่อง ผู้นั้นหากินยากฯ
ถ้าอกมีขน ผู้นั้นจะมีทรัพย์ฯ
ถ้าเนื้ออกหยาบ ผู้นั้นโมโหมาก ใจร้ายมุทะลุ หาอัธยาศัยมิได้ฯ
นี ภาษาไทยว่า นม ถ้านม ฐานนมกว้าง นมโต วงนมแดง หัวนมดำ นมตรง ผู้นั้นจะมีทรัพย์ มีวาสนา มีปัญญาฉลาฯ
ถ้านมเล็ก นมปักธรณี วงนมขาว นมไม่ตรงผู้นั้นพึ่งผู้ใดมิได้ จะเข็ญใจ อายุสั้นฯ
ถ้านมกว้าง ผู้นั้นใจกว้าง ใจเย็น ใจช้าฯ
ถ้านมแคบ อกแคบ ผู้นั้นโฉดเขลา ความคิดน้อย
ถ้าหัวนมโตและดำ ผู้นั้นมีปัญญามากฯ
ถ้าหัวนมเล็ก ผู้นั้นกำลังน้อย มักหัวหอบ เลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าหัวนมคดงอ ผู้นั้นเลี้ยงลูกหลานยากฯ
ถ้าหัวนมยาว เลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าหัวนมชัน เลี้ยงลูกง่ายฯ
ถ้าหัวนมโตเป็นเหลี่ยม มีลูกมีปัญญา มีวาสนา จะได้พึ่งลูกดั่งได้แก้วฯ
ถ้าหัวนมขาวและเหลือง จะเลี้ยงลูกยากฯ
ถ้าหัวนมแดงดั่งสีอิฐ มีลูกหลานจะมีวาสนา มีปัญญาดีฯ
ถ้านมแห้งเหี่ยว จะหาเลี้ยงปากไม่พอฯ
ถ้าหัวนมโต มีเนื้อ จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าหัวนมมีขน ผู้นั้นใจซื่อใจเบา ความคิดน้อยฯ
ถ้าหัวนมเป็นไฝดำ ลูกจะมีวาสนา จะได้พึ่งลูกฯ
ปากกวุยชุกแชกจือไฮ้ ภาษาไทยว่า ท้อง เปรียบว่าท้องเหมือนชเลอันใหญ่ ถ้าท้องกลมและยาว ผู้นั้นมีปัญญา คิดอ่านสิ่งใดก็วิตถารกว้างขวางฯ
ถ้าท้องผิวหนังขาว สายเลือดท้องแดงงามดีฯ ถ้าท้องเป็นเหลี่ยม สะดือลึกและหนังสะดือเบื้องต่ำกว่าเบื้องบน และเมื่อนั่งอยู่ปกติ สะดือขังน้ำมิได้บ้าง ผู้นั้นมีปัญญาฉลาด เรียนหนังสือดีฯ
ถ้าท้องมีเส้นวงเป็นก้นหอย ผู้นั้นคือเทวดาฯ
ถ้าท้องใหญ่และหาขนมิได้ ผู้นั้นอย่าได้คิดเป็นขุนนางเลยฯ
ถ้าท้องเบื้องต่ำนั้นใหญ่ เบื้องต้นนั้นน้อย ผู้นั้นจะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าท้องหนาท้องแข็ง จะมีทรัพย์มากฯ
ถ้าท้องเล็กท้องบาง มิดี หากินยากฯ
ถ้าท้องเบื้องบนแหลม เบื้องต่ำเล็ก ท้องแห้ง จะเข็ญใจฯ
ถ้าสะดือจุ่น สะดือสูง อายุสั้นฯ
ถ้าท้องตะโพกเล็กตะโพกโต หาทรัพย์สินยากฯ
ถ้าขนทั้งตัวกระด้างแข็ง ผู้นั้นมีลูกเมียพี่น้อง อยู่ด้วยกันดีตลอด
ใจ๋ ภาษาไทยว่า สะดือฯ ถ้าสะดือห่าง สะดือลึก ผู้นั้นใจกล้าหาญ จะมีวาสนาฯ
ถ้าสะดือ ตื้นและแคบ ผู้นั้นโฉดเขลาปัญญาน้อย จะเข็ญใจฯ
ถ้าสะดือ ต่ำมีทุกข์มากฯ
ถ้าสะดือ สูงมักขึ้งโกรธ รู้สิ่งใดก็รู้ไม่ตลอดฯ
ถ้าสะดือ โตและกว้าง ผู้นั้นมีผู้นับถือมาก ฯ
ถ้าสะดือ เล็กและแหลม จะเข็ญใจ อายุสั้นฯ
ถ้าสะดือ มีไฝดำ ชื่อว่าอุ้มแก้ม ผู้นั้นจะมีทรัพย์บริโภคมาก จะมีวาสนาฯ
ถ้าสะดือ ลึก สะดือหว่าง สะดือเหลี่ยม สะดือตรงมีเนื้อมาก จะมีวาสนาฯ
ถ้าหลังเสมอหลังเต็ม หลังเหลี่ยม และบั้นเอวหนาแข็งและมีเนื้อล่ำมากนี้ ผู้นั้นจะหาทรัพย์ง่ายอายุยืนฯ
ถ้าหนังบั้นเอวแห้งหาเส้นมิได้ เหมือนเปลือกไม้แห้ง ผู้นั้นจะเป็นไข้ตายฯ
ผู้ใดมีวาสนา มีบั้นเอวตรง บั้นเอวแข็ง บั้นเอวเป็นเหลี่ยมฯ
ถ้าผู้ใดหาวาสนามิได้นั้น บั้นเอวต่ำ เอวแบน เล็กแคบฯ
ถ้าหลังมีลักษณะ บั้นเอวไม่มีลักษณะ ผู้นั้นดีแต่หนุ่ม ครั้นท่ามกลางอายุทรามไปฯ
ถ้าบั้นเอวมีลักษณะและหลังนั้นไม่มีลักษณะ ผู้นั้นเมื่อหนุ่มทราบเมื่อแก่อุดมฯ
ถ้าหลังและบั้นเอว มีลักษณะประกอบดูงาม ผู้นั้นจะมีวาสนา มีอายุยืนฯ
ถ้าบั้นเอวเป็นเหลี่ยม ผู้นั้นใจกว้างโอบอ้อมฯ
ถ้าบั้นเอวนน้อยตะโพกใหญ่ เมื่อหนุ่มเข็ญใจ ภายแก่อุดมฯ
ถ้าบั้นเอวใหญ่หนา ตะโพกเล็ก เมื่อน้อย เมื่อหนุ่มอุดม ภายแก่จะเข็ญใจฯ
ไสตุน ภาษาไทยว่า สะโพก ถ้าหนุ่มและตะโพกลีบลึก จะหาทรัพย์สินยาก ครองสมบัติบิดามารดามิได้จะจากที่ไปอยู่ที่อื่น ๆ
ถ้าผู้ใดตะโพกหาเนื้อมิได้ แต่หนุ่มตาบเท่าถึงแก่ ผู้นั้นเลี้ยงลูกยาก มีเมียมักตาย มักเที่ยวไปต่างประเทศอยู่มิได้เป็นที่ ไปปลูกตัวที่อื่น ๆ
ถ้าตัวโตผอมตะโพกลีบ เมื่อน้อยจะเรียนสิ่งใดนั้นได้น้อย ลืมหลงเสียมากฯ
ถ้าตัวตะโพกหาเนื้อมิได้ และตะโพกลีบเล็ก ผู้นั้นมีเมียเลี้ยงลูกยาก มิได้จะเข็ญใจฯ
ถ้าตะโพกโต ท้องโต จะหาทรัพย์ได้ง่าย ๆ
ถ้าผู้หญิงใดตะโพกโต มิดีฯ
ถ้าตะโพกแหลม มักผิดปากกันกับบิดาและบุตรมักมิชอบกันฯ
ถ้าลำตัวยาว ตะโพกลีบ เนื้อน้อย หาทรัพย์สินยาก จะเข็ญใจ
ชิด ภาษาไทยว่า หัวเข่า ถ้าหัวเข่ากลมดั่งถังและโต ผู้นั้นมิได้เป็นถ้อยความ แต่หนุ่มตราบเท่าสิ้นอายุฯ
ถ้าต้นขาโตและเข่าแหลม มักเป็นถ้อยเป็นความมิรู้วายเลยฯ
ถ้าต้นขาเล็ก เข่าโตเหมือนขานกยาง ผู้นั้นจะเข็ญใจ เป็นคนโลเลฯ
ถ้าเข่าเล็กและอ้วน ดั่งหากระดูกไม่ได้นั้น จะตายแต่หนุ่มฯ
ถ้าหัวเขาเป็นเอ็นมาก ผู้นั้นเข็ญใจมักเที่ยวหาเลี้ยงชีวิตฯ
ถ้าขามีขน ผู้นั้นไม่ถูกเนื้อความ มหันตานุโทษ ไม่ต้องโบยตีฯ
ถ้าขนต้นขาสั้น ขนแข็งเส้นโต ผู้นั้นมักต้องโบยตีมาก ๆ
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 15558
ตำราพรหมชาติ
แก้วนพรัตน์ (แก้ว 9 ประการ)
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
สิทธิการิยะ เกจิอาจารย์เจ้ากล่าวไว้ว่าบรรดาแก้วนพรัตน์หรือเนาวรัตน์ หรือนวรัตน์นั้น ผู้ใดมีไว้ประดับกาย ท่านว่าย่อมมีสิริมงคล แต่ทว่าจะมีประดับทุกคนไปไม่ได้ เพราะแต่ละอย่างชนิดราคาแพงมาก และบางชนิดให้ทั้งคุณและโทษกับผู้เป็นเจ้าของด้วย ทางโหราศาสตร์จึงวางหลักไว้ว่า ท่านผู้เกิดวันเดือน ปีนั้น ๆ ควรมีหรือประดับแก้วชนิดใดจึงจะเป็นสิริมงคลกับตัวและคุ้มครอบครัวได้
ขอกล่าวถึงลักษณะวัน เดือน ปี ที่ควรมีหรือใช้แก้วชนิดใดเป็นเครื่องประดับเรือนกาย อย่างนี้
แก้วกับวันเกิด
คนเกิดวันอาทิตย์ ควรประดับหรือมี แก้วโกเมน เพทาย
คนเกิดวันจันทร์ “ แก้วมุกดา หรือเพชร
คนเกิดวันอังคาร “ แก้วบุษราคัม
คนเกิดวันพุธ “ แก้วมรกต
คนเกิดวันพฤหัสบดี “ แก้วไพฑูรย์
คนเกิดวันศุกร์ “ แก้วเพชรหรือมุกดา
คนเกิดวันเสาร์ “ แก้วนิลหรือทับทิม
เดือน 5 ควรประกอบด้วย แก้วมรกต
เดือน 6 “ แก้วเพชร
เดือน 7 “ แก้วนิล
เดือน 8 “ แก้วมรกต
เดือน 9 “ แก้วโกเมน
เดือน 10 “ แก้วไพฑูรย์
เดือน 11 “ แก้วบุษราคัม
เดือน 12 “ แก้วมุกดา
เดือน 1 (อ้าย) “ แก้วโกเมน
เดือน 2 (ยี่) “ แก้วมุกดา
เดือน 3 “ แก้วมุกดา
เดือน 4 “ แก้วเพทาย
แก้วกับปีเกิด
ปีชวด ควรประดับด้วย แก้วโกเมน
ปีฉลู “ แก้วมุกดา
ปีขาล “ แก้วเพทาย
ปีเถาะ “ แก้วไพฑูรย์หรือมรกต
ปีมะโรง “ แก้วไพฑูรย์
ปีมะเส็ง “ แก้วเพชร
ปีมะเมีย “ แก้วนิล
ปีมะแม “ แก้วมุกดา
ปีวอก “ แก้วบุษราคัม
ปีระกา “ แก้วโกเมน
ปีจอ “ แก้วมรกต
ปีกุน “ แก้วไพฑูรย์
ลักษณะสีของแก้ว 9 ประการ
แก้วนพรัตน์ คือ แก้ว 9 ประการ คือ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา ไพฑูรย์ รวม 9 ชนิด
1. เพชร ที่เราทราบกันว่าแก้ววิเชียร นั่นเอง มีสีขาวเป็นประกายแวววาว เมื่อถูกแสงไฟหรือแสงแดด ราคาแพงมาก คุณลักษณะแข็งที่สุด ถึงกับนำมาใช้กับคนว่า คนใจเพชร เป็นต้น
2. ทับทิม เป็นพลอยสีแดง มีมากในจังหวัดจันทบุรี ราคาพอประมาณหาซื้อได้ทั่วไป
3. มรกต เป็นแก้วสีเขียวใบไม้ หายาก ราคาจึงค่อนข้างแพง นิยมนำมาแกะพระพุทธรูปบูชา และทำสร้อยคอ หัวแหวน
4. บุษราคัม เป็นพลอยสีเหลือง น้ำทองคำ มีประกายเล็กน้อย นิยมทำหัวแหวน และสร้อยข้อมือสตรี ราคาพอประมาณ หาซื้อได้ทั่วไป
5. โกเมน เป็นพลอย สีแดงเข้มค่อนข้างดำ สีแก่กว่าทับทิม ค่อนข้างหายาก ราคาไม่สู้แพง คนนิยมนำมาทำเครื่องประดับน้อย
6. นิล เป็นพลอยสีดำ หรือสีขาบ ดำสนิทแข็งดุจหิน มีมากทางจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ราคาพอปานกลาง นิยมใช้ในหมู่ผู้ชายหนุ่ม ๆ ส่วนสตรีนิยมในจำพวกคุณนาย คุณหญิงที่ต้อง
ไปงานศพบ่อย ๆ
7. มุกดา เป็นแก้วไข่มุก สีขาวนวลหมอก ๆ คล้ายไข่มุก แก้วชนิดนี้ของจริงหายากมาก มักจะใช้ไข่มุกของญี่ปุ่นแทน ราคาค่อนข้างแพงระวังของปลอมมีมากเพราะของจริงหายากนั้นเอง
8. เพทาย เป็นพลอยสีแดงสลัว ๆ ขุ่น ๆ มัว ๆ ระวังจะหลงผิดคิดไปว่าใช่ อาจจะเป็นโกเมน หายากเช่นเดียวกัน ราคาพอประมาณ
9. ไพฑูรย์ เป็นพลอยสีเขียว มีน้ำเป็นรุ้งกลอกไปมา บางท่านเรียกว่า “เพชรตาแมว” หรือ “แก้วสีไม้ไผ่” ก็เรียกว่า ราคาค่อนข้างแพงมาก เพราะหายากมีคนนิยมใช้เท่า ๆ กับ
มรกต
คติโบราณาจารย์ ท่านผูกเป็นโคลงกลอนสอดคล้องกัน เพื่อจดจำง่าย ๆ อย่างนี้
เพชร (1) มณีแดง 2
เขียวใสแสงมรกต 3
เหลืองใสสดบุษราคัม 4
แดงแก่ก่ำโกเมนเอก 5
สีหมอกเมฆนิลกาฬ 6
มุกดาหารสีหมอกมัว 7
แดงสลัวเพทาย 8
สังวาลสายไพฑูรย์ 9
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 8767
การเลือกคู่ตามธาตุ
ชาวราศีมังกร |
22 ธ.ค. - 19 ม.ค. |
คุณเป็นคนธาตุดิน |
ชาวราศีกุมภ์ |
20 ม.ค. - 18 ก.พ. |
คุณเป็นคนธาตุลม |
ชาวราศีมีน |
19 ก.พ. - 20 มี.ค. |
คุณเป็นคนธาตุน้ำ |
ชาวราศีเมษ |
21 มี.ค. - 19 เม.ย. |
คุณเป็นคนธาตุไฟ |
ชาวราศีพฤษภ |
20 เม.ย. - 20 พ.ค. |
คุณเป็นคนธาตุดิน |
ชาวราศีเมถุน |
21 พ.ค. - 21 มิ.ย. |
คุณเป็นคนธาตุลม |
ชาวราศีกรกฎ |
22 มิ.ย. - 22 ก.ค. |
คุณเป็นคนธาตุน้ำ |
ชาวราศีสิงห์ |
23 ก.ค. - 23 ส.ค. |
คุณเป็นคนธาตุไฟ |
ชาวราศีกันย์ |
21 ส.ค. - 22 ก.ย. |
คุณเป็นคนธาตุดิน |
ชาวราศีตุลย์ |
23 ก.ย. - 23 ต.ค. |
คุณเป็นคนธาตุลม |
ชาวราศีพิจิก |
24 ต.ค. - 21 พ.ย. |
คุณเป็นคนธาตุน้ำ |
ชาวราศีธนู |
22 พ.ย. - 21 ธ.ค. |
คุณเป็นคนธาตุไฟ |
ธาตุดินกับธาตุดิน
ลักษณะพิเศษโดยธรรมชาติที่มีต่อความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่คือความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยระเบียบแบบแผน มีความชอบพอมั่นคงดี แต่ไม่ค่อยแสดงออกและมักไม่ค่อยมีจินตนาการถึงความสวยความงามและความรัก ความรักของคนธาตุดินทั้งคู่นั้นจะเกิดขึ้นภายหลังเมื่อมาอยู่ใกล้ชิดกันแล้ว อาจต้องทำงานหนักร่วมกัน และประสบความสำเร็จในการทำงานเสียก่อนจึงจะเกิดความรักใคร่สนิทสนมกันขึ้นตามมา
ธาตุดินกับธาตุน้ำ
เป็นธาตุต่างกันที่มีการหลอมรวมกันได้ดี ต่างคนต่างมีความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ เรามองง่ายๆ ก็คือว่าถ้าปราศจากน้ำ ดินก็จะเพราะปลูกไม่ได้ และน้ำก็จะทำให้ดินรู้สึกชุ่มชื้น และยิ่งเพิ่มความเยือกเย็นในขณะที่มีปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีอีกด้วย ธาตุดินนั้นสามารถช่วยคนธาตุน้ำในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นคู่ของคนธาตุดินกับธาตุน้ำจังเป็นความสดชื่น เต็มไปด้วยพลังจากธรรมชาติ
ธาตุดินกับธาตุลม
ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะว่าแต่ละคนมักจะยึดความคิดเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ คนธาตุดินนั้นอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ถ้าอยู่ด้วยกันจะพบความแห้งแล้ง เพราะมีความแตกต่างกันมากเกินกว่าจะยอมรับกันได้ หากเป็นคู่อยู่ร่วมกันแล้วจะหวังถึงความสุขสมบูรณ์ไม่ได้ง่ายๆ คนธาตุดินกับธาตุลมควรคบหาเป็นเพื่อนร่วมหมู่คณะ จะเป็นผลดีต่อความเจริญก้าวหน้าในองค์กรเสียมากกว่า
ธาตุดินกับธาตุไฟ
ชีวิตของคนทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันได้เพราะความกระตือรือร้น มีผลประโยชน์เป็นรากฐานที่ดีที่สุด คนธาตุไฟร้อนรนและมีจินตนาการมากมายไม่สิ้นสุด ในขณะที่คนธาตุดินจะสามารถควบคุมสิ่งเหล่านั้นให้อยู่ในความถูกต้องด้วยอารมณ์เยือกเย็น ลักษณะดีของคนทั้งคู่คือความอบอุ่น ธาตุดินสามาระกลมกลืนได้ในธาตุไฟ ความสัมพันธ์ตึงสมดุลและมีความสมบูรณ์ พูดได้ว่าเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดี
ธาตุน้ำกับธาตุน้ำ
การครองคู่ของคนธาตุน้ำทั้งสองนั้นเหมือนกันหมุนอยู่เป็นวงกลม ยามมีปัญหาก็ไม่สามารถหาทาง ออกให้แต่ละฝ่ายได้ เป็นคู่ที่ยึดถือจิตใจความรุ้สึกของตัวเองเป็นใหญ่ มีอารมณ์อ่อนไหวและมีลักษณะนิสัยไม่เสแสร้งรักชอบอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้นเป็นธรรมชาติของตัวเองจริงๆ แต่ในทางกลับกัน คนทั้งคู่มีความสามารถอย่างยิ่งในการทำทุกอย่างหเป็นที่สุดของความเครียดและเป็นเหมือนบททดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจอยู่ตลอดเวลา หากอยากเป็นคู่อยู่ด้วยกันก็ต้องพยายามนึกถึงความรักที่มีต่อกันให้มากๆ
ธาตุน้ำกับธาตุลม
วันเวลาจะสามาระพิสูจน์การฝ่าฟันมรสุมและความรุสนแรงของชีวิตคู่ของคนธาตุน้ำและธาตุลมได้ หัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันคือ ความรัก เวลาที่จะมีให้กัน และเมื่ออยู่ร่วมกันวันเวลาจะสามารถพิสูจน์ ธาตุน้ำคือเวลาที่จะมีให้กัน บางด้านคนคู่นี้ก็จะเต็มไปด้วยความเหลงไหล พูดจาน้ำลายแตกฟอง สนุกสนานเกินไปและไม่ค่อยจริงจังกับการทำมาหาเงินมากนัก แต่เมื่อยอยู่ร่วมกันคนธาตุน้ำจะมีความสามรรถที่จะถ่ายเทหลอมรวมให้คนธาตุลมมีชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ และถือเป็นคู่ที่ค้ำจุนซึ่งกันและกันได้ดี
ธาตุน้ำกับธาตุไฟ
คนธาตุไฟจะสามารถกระตุ้นให้คนธาตุน้ำเกิดความกระตือรือร้นมีไฟและมีพลังชีวิตเพิ่มขึ้นได้ ความสัมพันธ์ของคนคู่นี้เป็นความถูกต้อง น้ำจะช่วยปรับเปลี่ยนให้ความร้อนจากไฟนั้นลดลง เป็นการถ่ายเทพลังงานของคนสองคนที่มาอยู่รวมกันให้เกิดพลังแห่งการสร้างสรรค์และความสำเร็จได้ดี แม้ว่าคนธาตุน้ำจะเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ผันผวนเข้าใจยาก แต่คนธาตุไฟจะทำให้เกิดการประคับประคองที่ดีขึ้นและช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ในที่สุด
ธาตุลมกับธาตุลม
ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเทศะ คนธาตุลมมักเป็นคนใช้สมอง สติปัญญาเป็นสิ่งเร้าในการทำงาน แต่จะต้องการมากในเรื่องความอิสระในการใช้ชีวิตและความใจกว้างของแต่ละฝ่าย คนธาตุลมทั้งคู่จะสนุกสนานมากกับการเดินทาง เขาหรือเธอจะรักในความตื่นเต้นแปลกใหม่และเรื่องราวสัพเพเหระ กระจุกกระจิก ยากที่อารมณ์แปรปรวนเปลี่ยนแปลงต่างฝ่ายก็ต่างเออออเห็นพ้องต้องกัน แม้คนรอบข้างไม่เข้าใจแต่ทั้งสองคนจะเข้าใจในกันและกันพอประมาณ
ธาตุลมกับธาตุไฟ
ชีวิตของคนคู่นี้จะมีแต่ความตื่นเต้น จะมีความกระตือรือร้นเป็นแรงกระตุ้นสิ่งที่ดีคือคนธาตุลมจะมีความเย็นในขณะที่ธาตุไฟมีแต่ความเร่าร้อน แต่ก็ต้องระวังหากวันไหนไฟโหมแล้วลมยิ่งกระพือแล้วล่ะก็การเผาไหม้จะยิ่งลุกลามใหญ่โตได้ อารมณ์แบบนี้เหมาะกับการร่วมทีมกันต่อสู้กับศัตรูคู่แข่ง ถ้ามาใช้ในการอยู่ร่วมกันจะไม่ดีนัก แต่อย่างไรเสียความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในคือความเข้ากันได้ และหากมีความรักเป็นตัวช่วยด้วยแล้วล่ะก็จะมีความสุขดี
ธาตุไฟกับธาตุไฟ
คนธาตุไฟสองคนเมื่ออยู่ร่วมกันจะทำให้เกิดพลังมหาศาล ความสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องแปลกประหลาดน่าตื่นเต้น โดยธรรมชาติแล้วคนธาตุไฟจะอบอุ่น และกระตือรือร้นในการครองคู่มาก ลักษณะเฉพาะบุคคลขอธาตุไฟคือ มักมีทั้งรัก โลภ โกรธ หลง จึงจำเป็นต้องพยายามอย่างยิ่ง ที่คนธาตุไฟกับธาตุไฟจะไม่เผาไหม้กันเอง เมื่อมีปัญหาและต้องการหาทางออก หากรู้จักเปิดเผยและทำตัวเป็นมิตรกับคู่ธาตุไฟของตัวเองแล้วล่ะก็ถือว่าสามารถเป็นคู่ที่จะมีการยอมรับนับถือกันได้
- รายละเอียด
- หมวด: ตำราพรหมชาติ ฉบับ ล.อริยะบุตร
- จำนวนผู้อ่าน: 29517
ตำรานาคสมพงษ์
หากจะดูว่า ชาย-หญิง คู่ใดจะอยู่เป็นผัวเมียกันผาสุกมั่งมีราบรื่นหรือไม่ ให้ดูตำราดวงนาคสมพงศ์นี้
นาคแต่ละตัว แบ่งเป็น ๓ ตอน คือ หัว กลาง และหาง แต่ละตอนมีวงกลมประจำอยู่ ๒ วง
ฝ่ายชายให้นับเริ่มจาก หัวนาค (เลข ๑) ไปทาง หางนาค (เลข ๑๒) โดยนับปีชวดเป็นปีแรก นับไปเรื่อยๆ จนถึงปีเกิดของตัวเองจึงหยุดนับ
ผู้ชายให้นับเริ่มตั้งแต่หัวนาค (เลข ๑) ไปหางนาค (เลข ๑๒) นับไปจนถึงปีที่ตัวเองเกิด เช่น คนเกิดปีมะแม ก็ให้นับ ๑ ปีชวด ๒ ปีฉลู ๓ ปีขาล ๔ ปีเถาะ ๕ มะโรง ๖ มะเส็ง ๗ มะเมีย ๘ มะแม แล้วหยุด ก็ตกกลางตัวนาคตัวที่ ๒ พอดี
ฝ่ายหญิงให้นับจาก หางนาค (เลข ๑๒) ย้อนกลับไปทาง หัวนาค (เลข ๑) นับปีชวดเป็นปีแรกเช่นเดียวกัน นับย้อนกลับมาจนถึงปีเกิดของตัวเองจึงหยุด ผู้หญิงให้นับเริ่มจากหางนาค (เลข ๑๒) ไปหัวนาค (เลข ๑) นับไปจนถึงปีที่ตัวเองเกิด เช่น คนเกิดปีมะโรง ก็ให้นับ ๑๒ ปีชวด ๑๑ ปีฉลู ๑๐ ปีขาล ๙ ปีเถาะ ๘ มะโรง แล้วหยุด ก็ตกกลางตัวนาคตัวที่ ๒ พอดี
ส่วนคำทำนายจะถือเอาตามที่ ชาย-หญิง ตกส่วนไหนของนาคตัวใด
๑. ชายหญิงตกที่หัวนาคตัวเดียวกัน ทายว่า ดีนักแล ชายหญิงนั้นจะอยู่กินร่วมสุขร่วมทุกข์กันตราบเท่าอายุขัยวัยชรา มีความสุขกายสบายใจยิ่งนัก
๒. ชายหญิงที่ตกหัวนาคแต่เป็นนาคคนละตัว ทายว่า แม้จะแต่งงานกันด้วยความรักใคร่อย่างยิ่งมักจะหย่าร้างกัน หรือจะต้องเป็นหม้ายฝ้ายหนึ่งในไม่ช้าแล
๓. ชายหญิงที่ตกหางนาคตัวเดียวกัน ทายว่า จะอยู่กินกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ทำมาหาเลี้ยงชีพกันด้วยความรักใคร่ปรองดองกัน แม้จะสุขจะทุกข์ก็ไม่ทอดทิ้งกัน
๔. ชายหญิงตกที่ตกหางแต่เป็นนาคคนละตัว ทายว่า มักจะหย่าร้างกัน ไม่ดีเลย อยู่ด้วยกันมีแต่ความทะเลาะกัน
๕. ชายหญิงที่ตกกลางตัวนาคตัวเดียวกัน ทายว่า ดีจะมีทรัพย์สินเงินทองโภคสมบัติ อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
๖. ชายหญิงตกกลางตัวนาค แต่เป็นนาคคนละตัวกัน ทายว่า จะอยู่กินกันไม่ทันก้นหม้อข้าวดำ จะต้องจากกันไป
๗. ถ้าฝ่ายหนึ่งตกที่หัวนาคอีกฝ่ายหนึ่งตกที่หางนาค ซึ่งเป็นนาคตัวเดียวกัน ทายว่า เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ปานกลาง
๘. ชายหญิงที่ตกกลางนาคร่วมจุดเดียวกัน ทายว่า คู่นั้นจะรักใคร่สมานสามัคคีกันดีนัก แต่จะลำบากมากกว่าสุข
๙. ชายหญิงฝ่ายหนึ่งตกที่หัวนาค หรือตกที่กลางตัวหรือตกที่หางนาค หรือร่วมจุดเดียวกันแห่งใดแห่งหนึ่งดังกล่าว ทายว่า คู่นั้นจะตกทุกข์ได้ยาก ลำบาก เดือดร้อนใจ ไม่ดีเท่าใดนัก
อีกนัยหนึ่ง ถ้าชายหญิงไล่เลียงดูแล้วปรากฏว่าตกจุดใดก็ตาม แต่เมื่อโยงออกมา กลับมาร่วมจุดที่โภคทรัพย์คือ ตกเงิน ทายว่า ดี ตกทอง ทายว่าดีมาก ตกแกลบ ทายว่าจะยากจน ตกทราย ทายว่าจะเข็ญใจ