Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

 

ลองคิดพิจารณาดูสิ.............

แท้ที่จริงแล้ว ปุถุชนทั้งหลายที่กำลังวุ่นวายอยู่กับเรื่องราวของทางโลก หากได้มีสติรู้แจ้งในฉับพลัน .........เมื่อตื่นก็จะพบว่า  เมฆหมอกควันไฟได้สลายจางหายไป.........ฝุ่นละอองแห่งความเศร้าหมองก็จะมิบังเกิด

ความทุกข์

*อันความทุกข์ทั้งหลายนั้น ล้วนแล้วมาจากจิตที่คิดแบ่งแยก ...หากเราได้มีสติระลึกรู้เท่าทัน รู้จังหวะแห่งการแปรเปลี่ยนผัน ...ความทุกข์นั้นก็ย่อมลดน้อยถอยลงในทันใด.

*ก็ด้วยเหตุไฉนเล่า ชีวิตนี้จึงมีทุกข์ ... ก็เหตุเพราะเราได้ละเลยพุทธธรรม มิได้นำมาใช้ในการดำเนินชีวิต.

*หากมีความรู้สึกเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นเมื่อใด เมื่อนั้นย่อมรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างที่สุด.

*ความเจ็บปวดรวดร้าวที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตก็คือ การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน.

*ความทุกข์ระทมที่สุดในชีวิตคนเราก็คือ การทะเลาะเบาะแว้งกัน.

*ปาฎิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคนเราก็คือ การหมดทุกข์

ï เมื่อความทุกข์คืบคลานเข้ามาใกล้เมื่อใด เราจะทำให้มันสลายลงไปในในชั่วพริบตาได้หรือไม่

ï จิตอุปมาดังกรงนก ที่ขังนกอยู่เต็มกรง หากเราเพียงแต่เปิดมันออกเท่านั้น ความทุกข์ทั้งหลายก็โบยบินออกไปจนสิ้น

ï ความทุกข์สำหรับนักปฎิบัติแล้ว  ย่อมไม่มีเพิ่ม ย่อมไม่มีลด

ï จงใช้จิตใจที่สงบเยือกเย็นเผชิญหน้ากับความไม่สงบระงับของสรรพสิ่ง

ï การตัดขาดซึ่งทุกข์ คือการพ้นแล้วซึ่งการเกิดดับ

ï ความทุกข์หากเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยให้ผ่านพ้นไป ทุกข์ใดกข์ใดที่ยังไม่เกิดก็จะไม่ให

ï ความทุกข์คือบ่อเกิดของปัญญา วัฎสงสารก็คือรากฐานของพระนิพพาน

........................................................................................................................