หมวด: คัมภีร์ปาริชาตชาดก
จำนวนผู้อ่าน: 1291

Lord Kubera

โศลกที่ ๑๑

           ท่านบังคับเกี่ยวกับส่วนต่างๆของดาวพระเคราะห์ไว้ดังนี้  อาทิตย์ อังคาร  ราหูและเสาร์ มีส่วนหลังสูงกว่าส่วนอื่นๆ และส่วนหลังจะเป็นส่วนที่ปรากฏให้เห็นก่อนเสมอ ศุกร์ จันทร์ และพุธ  มีส่วนศรีษะสูงกว่าส่วนอื่นๆ สำหรับพฤหัสบดีส่วนทั้งสองคือศรีษะและหลังเห็นพร้อมๆกัน

โศลกที่ ๑๒

            อาทิตย์และพุธมีรูปร่างเป็นนก จันทร์มีรูปร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลาน พฤหัสบดีและศุกร์มีรูปร่างเป็นมนุษย์ คือสัตว์ ๒ เท้า  เสาร์และอังคารมีรูปร่างเป็นสัตว์ ๔ เท้า ฯ

โศลกที่ ๑๓

             จันทร์และศุกร์เป็นพระเคราะห์ที่สถิตย์อยู่ในน้ำ  พฤหัสบดีและพุธเป็นพระเคราะห์ที่สถิตย์อยู่ในที่ชุมนุมชน และเป็นสถานที่สำหรับการศึกษาหาความรู้ อังคาร ราหู เสาร์ เกตุ และอาทิตย์เป็นพระเคราะห์ที่สถิตย์อยู่ในป่าและบนภูเขา ฯ

โศลกที่ ๑๔

             อังคารเป็นพระเคราะห์ที่แสดงว่าเป็นเด็กไร้เดียงสา     พุธแสดงว่าเป็นเด็กที่โตแล้ว  พฤหัสบดีแสดงว่าเป็นผู้ใหญ่อายุประมาณ ๓๐ ปี ศุกร์แสดงว่าเด็กกำลังรุ่นหนุ่มสาว อาทิตย์แสดงว่าคนผู้ใหญ่เต็มที่แล้วคืออายุ ๕๐ ปี จันทร์แสดงว่าคนแก่แล้วคืออายุ ๗๐ ปี เสาร์ ราหูและเกตุ  แสดงความชราภาพมากคืออายุตั้งแต่ ๘๐ ปีขึ้นไป ฯ

โศลกที่ ๑๕

             พฤหัสบดี ศุกร์ อังคารและพุธเป็นดาวประจำพระเวททั้ง ๔ ตามลำดับคือ ฤคเวท อชุรเวท สามนะเวท และอาถรรวะนะเวท  นอกจากนี้อังคารและอาทิตย์ยังมีความหมายเกี่ยวกับแร่ธาตุต่างๆ จันทร์และเสาร์หมายถึงรากไม้และหัวเผือกมันหัวว่านต่างๆ ศุกร์และพฤหัสบดีหมายถึงสัตว์น้ำและสัตว์บกทุกชนิด ส่วนพุธหมายถึงทั้งสัตว์และต้นไม้ ฯ

                                                                  

โศลกที่ ๑๖-๑๗-๑๘

             ความเข้มแข็งหรือการให้คุณของดาวพระเคราะห์ต่างๆท่านจัดไว้ ๑๐ ประการดังนี้คือทีปตะคือดาวที่ได้ตำแหน่งอุจจ์หรือมูละตรีโกณยังผลให้เจ้าชะตาเด่น    มีชื่อเสียงโด่งดัง  มีอำนาจวาสนา  สวะสถะคือดาวที่ได้ตำแหน่งสวะเกษตร์ ยังผลให้เจ้าชะตามั่งคั่ง สมบูรณทรัพย์ มีหลักฐานดี ปรมุฑิตะคือดาวอยู่ในเรือนมิตร ยังผลให้เจ้าชะตามีเพื่อนฝูง มีบริวารมาก มีความผาสุขรื่นรมย์  ศามตะคือดาวอยู่ในเรือนของวักระต่างๆที่ครองด้วยศุภเคราะห์  ยังผลให้เจ้าชะตามีความสงบ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนใจ ศักตะคือดาวอยู่ห่างจากอาทิตย์มากมีแสงสุกใสสว่างมาก ยังผลให้เจ้าชะตามีความสง่างาม มีศักดิ์ศรี มีโชคดี ปรบีฑิอตะคือดาวอยู่ร่วมกับบาปเคราะห์ ซึ่งบาปเคราะห์มีกำลังเข้มแข็งหรือการที่ดาวถูกกระหนาบหน้าหลังด้วยบาปเคราะห์ ยังผลให้เจ้าชะตาถูกทรมานทางจิตใจถูกกลั่นแกล้งถูกใส่ความ ทีนะคือดาวอยู่ในเรือนหรือวักระต่างๆที่ครองด้วยดาวที่เป็นศัตรู ยังผลให้เจ้าชะตาเห็นผิดเป็นชอบ วิกะละคือดาวที่ไม่มีแสงเช่นอยู่ใกล้อาทิตย์จนเกินไปเป็นต้น ยังผลให้เจ้าชะตาเป็นคนอาภัพ ทำคุณบูชาโทษ ปิดทองหลังพระ    ภีตะคือดาวที่ได้ตำแหน่งนิจยังผลให้เจ้าชะตาเป็นคนขี้ขลาด ตื่นเต้นตกใจง่าย ไม่เชื่อตัวเอง เป็นผู้นำไม่ได้ ฯ

โศลกที่ ๑๙

             ในการเทียบสีต่างๆ  เกี่ยวกับพระเคราะห์ทั้งในการทายเกี่ยวกับชะตาเดิมหรือดาวจร ท่านวางหลักไว้ดังนี้ สีต่างๆของดาวนับแต่อาทิตย์ถึงเสาร์เรียงลำดับกันไปคือสีแดง สีขาว  สีชมพู สีเขียวใบไม้ สีเหลือง สีหลายสีหรือด่าง และสีดำ  ฯ

โศลกที่ ๒๐

              แร่ธาตุต่างๆที่มีความหมายเกี่ยวกับดาวพระเคราะห์ ตั้งแต่อาทิตย์ถึงเสาร์เรียงลำดับกันดังนี้คือทองแดง แก้วมณีต่างๆ ทองคำ ธาตุผสมด่างๆ ธาตุเงิน ไข่มุก และเหล็ก สำหรับความหมายเกี่ยวกับเทวดาหรือธาตุที่สำคัญต่างๆท่านจัดเรียงลำดับแต่อาทิตย์เป็นต้นไปคือไฟ น้ำ กุมาร วิษณุ อินทระ อินทรานี คือมเหสีของพระอินทร์และพระพรหม ฯ

 

โศลกที่ ๒๑

              การจัดนพเคราะห์เทียบกับนวรัตน์ ท่านกำหนดไว้ดังนี้ คือ มานิกยำ ได้แก่ มณีกัยหรือทับทิมเป็นรัตนของพระอาทิตย์  มุกดาผะลำคือไข่มุกที่ขาวบริสุทธิ์ปราศจากตำหนิเป็นรัตนของจันทร์  วิทรุมำหรือวิทรุมได้แก่พวกหินปะการัง      แก้วประวาล    เป็นรัตนของอังคาร   มาระกะตำ หรือมรกตเป็นรัตนของพุธ    ปุษปะราคะมะหรือปุษราคัม เป็นรัตนของพฤหัสบดี วัชรำหรือวัชระได้แก่เพชรเป็นรัตนของศุกร์  นิรลำหรือนิลเป็นรัตนของเสาร์  โคเมทะหรือโกเมนเป็นรัตนของราหู  ไวฑูรยะหรือไพฑูรย์ได้แก่เพชรตาแมวเป็นรัตนของเกตุ ฯ