ติดต่อสอบถาม กรุณาแอด Line @astroneemo

  • Slider 1
  • Slider 2
  • Slider 3
  • Slider 4
  • Slider 5
  • Slider 6
  • Slider 7
  • Slider 8

Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

 
Duang Astrologer Compress

ทุกวันนี้การดูดวงชาตาราศี แพร่หลายกันมากขึ้น มีหมอดู นักพยากรณ์ โหรเกิดขึ้นทุกหัวระแหง หมอดูบางคนจากคนธรรมดาๆก็มีดวงชาตาพลิกผันมาเป็นหมอดูโดยไม่เคยคิดเคยฝันไว้ก่อน หรือ บางคนมาเป็นหมอดูเพราะใจรัก หรือชอบศาสตร์อันเร้นลับนี้ บางคนกลายเป็นหมอดูมีชื่อเสียงโด่งดัง ดูให้กับคนดังมีชื่อเสียงในราคาที่สุดแสนจะแพง หรือบางคนก็เป็นหมอดูระดับชาวบ้าน ที่อาศัยดูตามตรอกซอกซอยในราคาอัตราค่าครูไม่กี่สิบกี่ร้อย

อันที่จริงแล้วตามหลักโหราศาสตร์คนที่จะมาเป็นหมอดูหรือมีอาชีพเกี่ยวกับการพยากรณ์นี้ จะต้องมี"ดวงหมอดู"ในดวงชาตากำเนิด  หากใครไม่มี"ดวงหมอดู"ที่ว่านี้ คนๆนั้นจะมาเป็นนักพยากรณ์ที่มีความแม่นยำไม่ได้เลย และถ้าหากมี"ดวงหมอดู"ที่ว่า มีโยคเกณฑ์เข้มแข็งในดวงชาตาก็จะกลายเป็นหมอดู นักพยากรณ์ หรือโหราจารย์ที่มีความสามารถและมีชื่อเสียงในระดับประเทศได้ไม่ยาก


 

 

วันนี้เราจะมาศึกษาโยคเกณฑ์ในดวงชาตาที่ทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งกลายมาเป็นหมอดู นักโหราศาสตร์ หรือ โหราจารย์ที่มีชื่อเสียง ยิ่งมีโยคเกณฑ์ในดวงชาตาเข้มแข็งมากเท่าใด นักโหราศาสตร์คนนั้นก็จะเข้าถึงศาสตร์อันลี้ลับนี้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถนำศาสตร์นั้นๆมาใช้ในการพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำจนน่าทึ่ง  ปกติแล้วในโหราศาสตร์ไทยดวงของหมอดู ส่วนมากก็จะมองไปที่ดาว เสาร์ ดาวราหู และดาวเกตุเป็นหลัก ซึ่งแสดงถึงของเก่าๆโบราณ และความลี้ลับ แต่กฏเกณฑ์นี้ก็เอาแน่ไม่ค่อยได้ เพราะดาวเหล่านี้กินความหมายกว้างมากเกินไป ทีนี้เราจะลองพิจารณาตามหลักภารตะดูซึ่งท่านจะพิจารณาดาวเคราะห์หลักๆเพียงแค่ดาวพฤหัสและดาวพุธ นอกจากนั้นก็จะนำเจ้าเรือนมาประกอบการพิจารณา ดังต่อไปนี้..

 โยคเกณฑ์ของดาวเคราะห์ในดวงชาตา"หมอดู-นักพยากรณ์"

(1)ในหลักของโหราศาสตร์ภารตะ ท่านกล่าวไว้ว่าดาวเคราะห์ทีมีความหมายถึงโหราศาสตร์มี 2 ดาวเคราะห์คือ ดาวพุธ และ ดาวพฤหัส ,ดาวพุธ เป็นดาวตัวแทนแห่งการศึกษา(วิทยะการก) ความรู้และสติปัญญา ความเฉียวฉลาด (ปัญญา) ดาวพฤหัสเป็นปัญญาญาณในขั้นสูง (ปรัชญา) และดาวทั้งสองดวงนี้ต้องมีกำลังเข้มแข็งในทางใดทางหนึ่ง ทั้งต้องพิจารณาจากตำแหน่งที่สถิตของดาวเคราะห์ทั้งสองนี้

และถ้าหากดวงของใครมีโยคที่เรียกว่า "คชเกษริโยค" คือ ดาวพฤหัสเป็นเกณฑ์กับจันทร์ในดวงชาตา และโยคนี้สัมพันธ์กับลัคนา หรือเรือนที่ 9 หรือเรือนที่ 8 หรือสัมพันธ์กับเจ้าเรือนดังกล่าวนี้ ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจในโหราศาสตร์  ส่วนจะสนใจมากหรือน้อยก็ต้องกำลังจากโยคเกณฑ์ดังที่กล่าวมาแล้ว หากกำลังมากก็สนใจมาก หากกำลังน้อยก็สนใจน้อย

 


(2)และถ้าหากดวงชาตาของใครมี ดาวพุธและดาวพฤหัสร่วมหรือเป็นโยคต่อกัน และสัมพันธ์กับเรือนหรือเจ้าเรือนที่ 8 จะทำให้เจ้าชาตาสนใจใคร่รู้ในศาสตร์เร้นลับ

(3)และถ้าหากในดวงชาตา มีดาวเสาร์-จันทร์สัมพันธ์กันหรือสัมพันธ์กับลัคนา ,หรือดาวจันทร์สัมพันธ์กับดาวพุธและได้โยคจากเสาร์ ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจที่จะศึกษาโหราศาสตร์  และหากดาวเสาร์ ดาวพุธ และดาวจันทร์ สัมพันธ์ร่วมกันในทางใดทางหนึ่ง ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจที่จะศึกษาโหราศาสตร์

นอกจากนี้หากดาวพฤหัสมีโยคเกณฑ์สัมพันธ์กับดาวพุธและศุกร์ ในทางใดทางหนึ่ง ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจศึกษาโหราศาสตร์เช่นกัน

(4)และถ้าหากในดวงชาตา มีดาวเจ้าเรือนภพที่ 8 สัมพันธ์กับดาวจันทร์ในดวงชาตากำเนิด หรือ ได้รับโยคเกณฑ์จากดาวเสาร์ หรือดาวเจ้าเรือนภพที่ 8 สัมพันธ์กับเจ้าเรือนภพที่ 5 ก็จะทำให้เจ้าชาตาพัฒนาความรู้ความสามรถด้านโหราศาสตร์


 

 

(5)และถ้าหากดาวพุธในดวงชาตา สถิตในราศีของดาวพฤหัส หรือมีดาวพฤหัสสถิตในราศีของพุธ ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจใคร่รู้ในโหราศาสตร์เป็นอย่างมาก  นอกจากนี้หากเจ้าเรือนภพที่ 5 หรือ ภพที่ 9 สัมพันธ์กันในทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะสถิตร่วมกันหรือเป็นโยคเกณฑ์ต่อกันและโยคเกณฑ์นั้นก็ได้รับโยคจากดาวพุธหรือดาวพฤหัส จะทำให้เจ้าชาตาเป็นนักโหราศาสตร์ นักพยากรณ์ที่ประสบความสำเร็จ

(6)หากดาวพุธ ดาวพฤหัส เจ้าเรือนที่ 8 ,เจ้าเรือนที่ 9 หรือที่ 10 และเจ้าเรือนลัคน์(ลัคนาธิปติ) สถิตในภพที่ 10 ของ ดวงชาตา เจ้าชาตาจะเป็นนักโหราศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จและมีความสามารถอย่างสูง



 

(7)เจ้าเรือนที่ 2 (ภพกดุมภะ) ซึ่งเป็นภพแห่งการพูด (วาทยะการก) และสัมพันธ์กับดาวเจ้าเรือนที่ 5 และที่ 8 ,ดาวพุธ หรือ ดาวพฤหัส เจ้าชาตาจะเชียวชาญโหราศาสตร์ภาคพยากรณ์ และสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ

(8)หากเจ้าเรือนที่ 2 (ภพกดุมภะ),เจ้าเรือนที่ 10(กรรมะ) หรือ หากดาวพุธ หรือดาวดาวพฤหัส สัมพันธ์กับเจ้าเรือนที่ 5 ,และเจ้าเรือนที่ 8 ส่งโยคเกณฑ์หรือสัมพันธ์ถึงดาวเคราะห์หรือเจ้าเรือนที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็จะทำให้เจ้าชาตาประสบความสำเร็จในอาชีพนักพยากรณ์ และสร้างรายได้ให้ตนเองจากอาชีพการพยากรณ์

(9)หากเจ้าเรือนที่ 5และที่ 8 ร่วมลัคน์ (ร่วมกับเจ้าเรือนลัคน์หรือสถิตในราศีลัคน์) และส่งเกณฑ์สัมพันธ์กับเจ้าเรือนที่ 2 หรือ เจ้าเรือนที่ 11 เจ้าชาตาจะเป็นผู้เชียวชาญในวิชาโหราศาสตร์และประสบความสำเร็จในอาชีพนักพยากรณ์


 

(10)ตัวอย่างดวงชาตาดวงหนึ่ง เจ้าชาตาเป็นโหรที่มีชื่อเสียง ลัคนาราศีพิจิก มีดาวจันทร์กุมลัคนา ดาวพฤหัสเป็นดาวตัวแทนแห่งปัญญาความรู้ มีดาวพฤหัสสถิตในเรือนที่ 2ซึ่งเป็นราศีธนูและส่งเกณฑ์ไปที่เรือนที่ 8 และดาวเกตุสถิตในเรือนที่ 5 (ราศีมีน-ราศีของพฤหัส)และสัมพันธ์กับเจ้าเรือนที่ 8 ดาวอาทิตย์เจ้าเรือนที่ 10 สถิตในเรือนที่ 4 ส่งเกณฑ์ไปเรือนที่ 10 ซึ่งเป็นเรือนแห่งเกียรติยศและชื่อเสียง และเสาร์เจ้าเรือนที่ 4 สถิตในเรือนที่ 7 และได้รับโยคจากจันทร์ในลัคนา

(11)สำหรับผู้ที่มีลัคนาราศีพิจิก ถ้าหากดาวพุธสถิตในเรือนที่ 10 และดาวพฤหัสสถิตในเรือนที่ 5 ได้รับโยคจากเจ้าเรือนที่ 5 ,สำหรับผู้มีลัคนาราศีมังกรและกุมภ์ เจ้าเรือนที่ 8 และที่ 9 ร่วมลัคน์และสำหรับลัคนาราศีกรกฏมีเจ้าเรือนที่ 2 ร่วมลัคน์ และทั้งหมดได้รับโยคเกณฑ์จากดาวเกตุ ซึ่งเป็นดาวแห่งความลี้ลับ เจ้าชาตาจะมีความเชี่ยวชาญในโหราศาสตร์

(12)สำหรับลัคนาราศีกันย์ ถ้าหากมีดาวเจ้าเรือนที่ 5 ,ที่ 8 หรือเสาร์ หรือ อังคาร ร่วมลัคนา และดาวศุกร์ซึ่งเป็นเจ้าเรือนที่ 2 และเจ้าเรือนที่ 9 เป็นเกษตร และได้รับโยคเกณฑ์จากเจ้าเรือนที่ 8 ,และสำหรับลัคนาราศีมีน พฤหัสเจ้าลัคน์สถิตในเรือนเกณฑ์และดาวพุธหรือดาวเกตุสถิตในเรือนที่ 12 (ภพวินาศ) และได้รับโยคเกณฑ์จากเจ้าเรือนที่ 8 ซึ่งเป็นเรือนแห่งความลี้ลับ ทั้งหมดดังที่กล่าวมานี้หากมีในดวงชาตาของผู้ใด ผู้นั้นก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์

 

 

 

ดวงของคนที่จะมาเป็น"หมอดู"

ทุกวันนี้การดูดวงชาตาราศี แพร่หลายกันมากขึ้น มีหมอดู นักพยากรณ์ โหรเกิดขึ้นทุกหัวระแหง หมอดูบางคนจากคนธรรมดาๆก็มีดวงชาตาพลิกผันมาเป็นหมอดูโดยไม่เคยคิดเคยฝันไว้ก่อน หรือ บางคนมาเป็นหมอดูเพราะใจรัก หรือชอบศาสตร์อันเร้นลับนี้ บางคนกลายเป็นหมอดูมีชื่อเสียงโด่งดัง ดูให้กับคนดังมีชื่อเสียงในราคาที่สุดแสนจะแพง หรือบางคนก็เป็นหมอดูระดับชาวบ้าน ที่อาศัยดูตามตรอกซอกซอยในราคาอัตราค่าครูไม่กี่สิบกี่ร้อย

อันที่จริงแล้วตามหลักโหราศาสตร์คนที่จะมาเป็นหมอดูหรือมีอาชีพเกี่ยวกับการพยากรณ์นี้ จะต้องมี"ดวงหมอดู"ในดวงชาตากำเนิด  หากใครไม่มี"ดวงหมอดู"ที่ว่านี้ คนๆนั้นจะมาเป็นนักพยากรณ์ที่มีความแม่นยำไม่ได้เลย

และถ้าหากมี"ดวงหมอดู"ที่ว่า มีโยคเกณฑ์เข้มแข็งในดวงชาตาก็จะกลายเป็นหมอดู นักพยากรณ์ หรือโหราจารย์ที่มีความสามารถและมีชื่อเสียงในระดับประเทศได้ไม่ยาก

 

วันนี้เราจะมาศึกษาโยคเกณฑ์ในดวงชาตาที่ทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งกลายมาเป็นหมอดู นักโหราศาสตร์ หรือ โหราจารย์ที่มีชื่อเสียง ยิ่งมีโยคเกณฑ์ในดวงชาตาเข้มแข็งมากเท่าใด นักโหราศาสตร์คนนั้นก็จะเข้าถึงศาสตร์อันลี้ลับนี้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถนำศาสตร์นั้นๆมาใช้ในการพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำจนน่าทึ่ง

 

โยคเกณฑ์ของดาวเคราะห์ในดวงชาตา"หมอดู-นักพยากรณ์"


(1)ในหลักของโหราศาสตร์ภารตะ ท่านกล่าวไว้ว่าดาวเคราะห์ทีมีความหมายถึงโหราศาสตร์มี 2 ดาวเคราะห์คือ ดาวพุธ และ ดาวพฤหัส ,ดาวพุธ เป็นดาวตัวแทนแห่งการศึกษา(วิทยะการก) ความรู้และสติปัญญา ความเฉียวฉลาด (ปัญญา) ดาวพฤหัสเป็นปัญญาญาณในขั้นสูง (ปรัชญา) และดาวทั้งสองดวงนี้ต้องมีกำลังเข้มแข็งในทางใดทางหนึ่ง ทั้งต้องพิจารณาจากตำแหน่งที่สถิตของดาวเคราะห์ทั้งสองนี้

และถ้าหากดวงของใครมีโยคที่เรียกว่า "คชเกษริโยค" คือ ดาวพฤหัสเป็นเกณฑ์กับจันทร์ในดวงชาตา และโยคนี้สัมพันธ์กับลัคนา หรือเรือนที่ 9 หรือเรือนที่ 8 หรือสัมพันธ์กับเจ้าเรือนดังกล่าวนี้ ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจในโหราศาสตร์  ส่วนจะสนใจมากหรือน้อยก็ต้องกำลังจากโยคเกณฑ์ดังที่กล่าวมาแล้ว หากกำลังมากก็สนใจมาก หากกำลังน้อยก็สนใจน้อย


(2)และถ้าหากดวงชาตาของใครมี ดาวพุธและดาวพฤหัสร่วมหรือเป็นโยคต่อกัน และสัมพันธ์กับเรือนหรือเจ้าเรือนที่ 8 จะทำให้เจ้าชาตาสนใจใคร่รู้ในศาสตร์เร้นลับ



(3)และถ้าหากในดวงชาตา มีดาวเสาร์-จันทร์สัมพันธ์กันหรือสัมพันธ์กับลัคนา ,หรือดาวจันทร์สัมพันธ์กับดาวพุธและได้โยคจากเสาร์ ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจที่จะศึกษาโหราศาสตร์  และหากดาวเสาร์ ดาวพุธ และดาวจันทร์ สัมพันธ์ร่วมกันในทางใดทางหนึ่ง ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจที่จะศึกษาโหราศาสตร์

นอกจากนี้หากดาวพฤหัสมีโยคเกณฑ์สัมพันธ์กับดาวพุธและศุกร์ ในทางใดทางหนึ่ง ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจศึกษาโหราศาสตร์เช่นกัน




(4)และถ้าหากในดวงชาตา มีดาวเจ้าเรือนภพที่ 8 สัมพันธ์กับดาวจันทร์ในดวงชาตากำเนิด หรือ ได้รับโยคเกณฑ์จากดาวเสาร์ หรือดาวเจ้าเรือนภพที่ 8 สัมพันธ์กับเจ้าเรือนภพที่ 5 ก็จะทำให้เจ้าชาตาพัฒนาความรู้ความสามรถด้านโหราศาสตร์


 

 

(5)และถ้าหากดาวพุธในดวงชาตา สถิตในราศีของดาวพฤหัส หรือมีดาวพฤหัสสถิตในราศีของพุธ ก็จะทำให้เจ้าชาตาสนใจใคร่รู้ในโหราศาสตร์เป็นอย่างมาก  นอกจากนี้หากเจ้าเรือนภพที่ 5 หรือ ภพที่ 9 สัมพันธ์กันในทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะสถิตร่วมกันหรือเป็นโยคเกณฑ์ต่อกันและโยคเกณฑ์นั้นก็ได้รับโยคจากดาวพุธหรือดาวพฤหัส จะทำให้เจ้าชาตาเป็นนักโหราศาสตร์ นักพยากรณ์ที่ประสบความสำเร็จ


(6)หากดาวพุธ ดาวพฤหัส เจ้าเรือนที่ 8 ,เจ้าเรือนที่ 9 หรือที่ 10 และเจ้าเรือนลัคน์(ลัคนาธิปติ) สถิตในภพที่ 10 ของ ดวงชาตา เจ้าชาตาจะเป็นนักโหราศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จและมีความสามารถอย่างสูง



 

(7)เจ้าเรือนที่ 2 (ภพกดุมภะ) ซึ่งเป็นภพแห่งการพูด (วาทยะการก) และสัมพันธ์กับดาวเจ้าเรือนที่ 5 และที่ 8 ,ดาวพุธ หรือ ดาวพฤหัส เจ้าชาตาจะเชียวชาญโหราศาสตร์ภาคพยากรณ์ และสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ
(8)หากเจ้าเรือนที่ 2 (ภพกดุมภะ),เจ้าเรือนที่ 10(กรรมะ) หรือ หากดาวพุธ หรือดาวดาวพฤหัส สัมพันธ์กับเจ้าเรือนที่ 5 ,และเจ้าเรือนที่ 8 ส่งโยคเกณฑ์หรือสัมพันธ์ถึงดาวเคราะห์หรือเจ้าเรือนที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็จะทำให้เจ้าชาตาประสบความสำเร็จในอาชีพนักพยากรณ์ และสร้างรายได้ให้ตนเองจากอาชีพการพยากรณ์



(9)หากเจ้าเรือนที่ 5และที่ 8 ร่วมลัคน์ (ร่วมกับเจ้าเรือนลัคน์หรือสถิตในราศีลัคน์) และส่งเกณฑ์สัมพันธ์กับเจ้าเรือนที่ 2 หรือ เจ้าเรือนที่ 11 เจ้าชาตาจะเป็นผู้เชียวชาญในวิชาโหราศาสตร์และประสบความสำเร็จในอาชีพนักพยากรณ์


(9)ตัวอย่างดวงชาตาดวงหนึ่ง เจ้าชาตาเป็นโหรที่มีชื่อเสียง ลัคนาราศีพิจิก มีดาวจันทร์กุมลัคนา ดาวพฤหัสเป็นดาวตัวแทนแห่งปัญญาความรู้ มีดาวพฤหัสสถิตในเรือนที่ 2ซึ่งเป็นราศีธนูและส่งเกณฑ์ไปที่เรือนที่ 8 และดาวเกตุสถิตในเรือนที่ 5 (ราศีมีน-ราศีของพฤหัส)และสัมพันธ์กับเจ้าเรือนที่ 8 ดาวอาทิตย์เจ้าเรือนที่ 10 สถิตในเรือนที่ 4 ส่งเกณฑ์ไปเรือนที่ 10 ซึ่งเป็นเรือนแห่งเกียรติยศและชื่อเสียง และเสาร์เจ้าเรือนที่ 4 สถิตในเรือนที่ 7 และได้รับโยคจากจันทร์ในลัคนา


(9)สำหรับผู้ที่มีลัคนาราศีพิจิก ถ้าหากดาวพุธสถิตในเรือนที่ 10 และดาวพฤหัสสถิตในเรือนที่ 5 ได้รับโยคจากเจ้าเรือนที่ 5 ,สำหรับผู้มีลัคนาราศีมังกรและกุมภ์ เจ้าเรือนที่ 8 และที่ 9 ร่วมลัคน์และสำหรับลัคนาราศีกรกฏมีเจ้าเรือนที่ 2 ร่วมลัคน์ และทั้งหมดได้รับโยคเกณฑ์จากดาวเกตุ ซึ่งเป็นดาวแห่งความลี้ลับ เจ้าชาตาจะมีความเชี่ยวชาญในโหราศาสตร์


(9)สำหรับลัคนาราศีกันย์ ถ้าหากมีดาวเจ้าเรือนที่ 5 ,ที่ 8 หรือเสาร์ หรือ อังคาร ร่วมลัคนา และดาวศุกร์ซึ่งเป็นเจ้าเรือนที่ 2 และเจ้าเรือนที่ 9 เป็นเกษตร และได้รับโยคเกณฑ์จากเจ้าเรือนที่ 8 ,และสำหรับลัคนาราศีมีน พฤหัสเจ้าลัคน์สถิตในเรือนเกณฑ์และดาวพุธหรือดาวเกตุสถิตในเรือนที่ 12 (ภพวินาศ) และได้รับโยคเกณฑ์จากเจ้าเรือนที่ 8 ซึ่งเป็นเรือนแห่งความลี้ลับ ทั้งหมดดังที่กล่าวมานี้หากมีในดวงชาตาของผู้ใด ผู้นั้นก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์