Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์รักษาเวลามาตรฐานประเทศไทย  กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ http://www.navy.mi.th/hydro/time/

ประวัติการรักษาเวลามาตรฐานประเทศไทย

ประวัติการรักษาเวลามาตรฐานประเทศไทย

การรักษาเวลามาตรฐานประเทศไทย และการแจ้งสัญญาณเทียบเวลาก่อน พ.ศ.๒๔๗๖

การตรวจสอบเวลาเพื่อรักษาเวลามาตรฐานประเทศไทย และการแจ้งสัญญาณเทียบเวลาให้

กับประชาชน พลเรือน เพื่อให้ใช้เวลาตรงกันทั่วประเทศนั้น ทางราชการได้มอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ดำเนินการ โดยกำหนดให้เป็นหน้าที่ของแผนกดาราศาสตร์ กองอุปกรณ์การเดินเรือ กรมอุทกศาสตร์ ซึ่งปรากฏอยู่ในระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการกำหนดหน้าที่ส่วนราชการในกองทัพเรือ พ.ศ.๒๕๐๑

การตรวจสอบเวลาและแจ้งสัญญาณเทียบเวลานั้นมีมาตั้งแต่โบราณกาล หลักฐานเท่าที่สามารถตรวจพบและยังมีปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ คือแท่งหินจัดเรียงเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ในนามของ Stonehenge อายุประมาณ ๔,๐๐๐ ปี ใช้สำหรับบอกเวลาและฤดูต่าง ๆ เข้าใจว่าสร้างไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในทางเกษตรกรรมหรือ พิธีกรรมทางศาสนา




สำหรับประเทศไทย คนในสมัยโบราณ ก็คงใช้หลักจากการสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติ

ในแต่ละวันเป็นเครื่องบอกเวลา เช่น ดวงอาทิตย์ ขึ้น- ตก ดวงจันทร์ ขึ้น- ตก ซึ่งทั้งนี้ก็สามารถบอกเวลาได้อย่างคร่าว ๆ ไม่ละเอียดมากนักเนื่องจากใช้การสังเกตจากธรรมชาติเป็นหลัก แต่คนในสมัยก่อนก็ไม่ได้ให้ความสนใจในความถูกต้องของเวลามากนัก ส่วนการแจ้งสัญญาณเวลาก็คงจะเป็นการใช้การตีเกราะ เคาะไม้ ตีกลอง บอกสัญญาณเวลาต่าง ๆ ให้ชาวบ้านทั่วไปได้ทราบ การดำเนินการในเรื่องการรักษาเวลาของไทย ได้เริ่มให้ความสนใจอย่างจริงจัง โดยใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาประกอบอย่างมีเหตุผล คงจะเริ่มเมื่อได้มีฝรั่งชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาติดต่อค้าขายเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศไทย เท่าที่ปรากฏตาม

ประวัติศาสตร์ วิเคราะห์ได้ว่าน่าจะเริ่มในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยกรุงศรีอยุธยา ราวปี พ.ศ.๒๑๙๙ - ๒๒๓๑ ทั้งนี้เนื่องจากในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์เป็นกษัตริย์ที่สนพระทัยในวิทยาการสมัยใหม่จากฝรั่งต่างชาติ เห็นได้จากใบรายการสั่งซื้อของใน พ.ศ.๒๑๙๙ มีการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท อีสท์อินดีส ของ ฮอลันดา ซึ่งเป็นตัวแทนจัดการติดต่อการค้าในกรุงศรีอยุธยา เท่าที่ปรากฏหลักฐานมี กล้องโทรทัศน์ โคมไฟ หมวกสักหลาด ชุดผ้าไหม โต๊ะเขียนหนังสือ หนังสือ แว่นตา อื่นๆ แต่ที่สำคัญที่ปรากฏอยู่ในรายการคือ นาฬิกาแบบใช้เครื่องจักรกล แสดงให้เห็นว่าได้เริ่มมีการนำนาฬิกาเข้ามาใช้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว แต่ที่ยังไม่แพร่หลายเนื่องจากความรู้ความสามารถในด้านภาษาต่างประเทศของคนไทยในสมัยนั้นยังจำกัดอยู่ในกลุ่มคนไม่มากนักวิทยาการด้านการรักษาเวลาจึงยังไม่อยู่ในความสนใจของประชาชนโดยทั่วไป